10
 HOT FRIEND เพื่อนกันมันส์(ดีย์)เกิน
 เริ่มอันตราย
 ตกเย็นในวันเดียวกัน
 “เจ๊จะกลับมาแล้ว ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วไปรอที่ห้องโถง” เจควอนเดินออกมาจากห้องนํ้าแล้วบอกกับยูกิที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงนอน
 “…” ยูกิไม่ตอบอะไรกลับไปแต่เธอกลับหันหน้าหนีแล้วลุกออกจากเตียงด้วยสภาพร่างกายเปลือยเปล่าพร้อมกับคว้าผ้าห่มมาพันร่างกายตนเองไว้ เธอเดินตรงมาที่ห้องนํ้าด้วยท่าทีทุลักทุเลพอสมควร
 “คุยด้วยทำไมไม่ตอบ” ก่อนที่ร่างเธอจะเดินผ่านร่างเจควอนเขาก็ถามออกมาพร้อมกับกระชากแขนเรียว
 “นายโยนมือถือฉันลงสระแล้วทำไมฉันต้องอยากคุยกับนายด้วย”
 “จะซื้อให้ใหม่ เอาแพงเท่าไหร่ว่ามา”
 “ไม่อยากได้เครื่องใหม่”
 “ทำไม หรือเครื่องเก่ามีหนุ่ม ๆ ติดต่อเยอะเลยไม่อยากเปลี่ยน”
 “พูดอีกก็ถูกอีก ชิ!”
 “อยากโดนอีกรึไง ?”
 “นายก็อย่าทำเกินไปสิ”
 “เธอเป็นคนมาหาฉันเอง แล้วเธอก็เป็นคนทำให้ฉันต้องโยนมันลงสระ”
 “นายจะให้ฉันผิดให้ได้เลยใช่ไหม ฮะ!” ยูกิสะบัดมือออกแล้วถามกลับไปด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
 “หัดยอมรับความผิดตัวเองซะบ้าง”
 “ก็ฉันไม่ได้ผิดนี่”
 “ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย”
 “ไม่! จนกว่านายจะยอมรับว่านายนั่นแหละผิด“ คนเอาแต่ใจยืนยันคำตอบ
 “มีสิทธิ์อะไรมาต่อรอง ไม่งั้นก็เก็บข้าวของออกจากบ้านฉันไป”
 “นาย!”
 “หนึ่ง”
 “นี่…!”
 “สอง”
 “ไปแล้วก็ได้” ในเมื่อเถียงกลับไม่ได้ยูกิจึงเดินหายเข้าไปในห้องนํ้าทั้งผ้าห่มอย่างงั้นพร้อมกับปิดประตูลงเสียงดัง พออยู่คนเดียวในห้องนํ้าก็แทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมา ไม่ชอบเลยที่ตนเองไม่เคยเถียงชนะเจควอนสักที ไม่เคยเถียงชนะมาตั้งแต่เด็กแล้ว
 ด้านเจควอนก็จัดการกับร่างกายตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนแล้วลงมาที่ชั้นล่างก็เจอเข้ากับไคล์ลี่ย์ที่นั่งรออยู่ห้องโถงพอดี
 “นอนพึ่งตื่นเหรอ”
 “ครับ”
 “บทภาพยนตร์เรื่องใหม่เป็นยังไงบ้าง ลองอ่านแล้วเป็นไง ตกลงจะรับเล่นเรื่องนี้ไหม”
 “เรื่องนี้ขอผ่านก่อนก็แล้วกันครับ ใกล้เปิดเรียนแล้ว มีกำหนดฉายปีหน้าผมกลัวแบ่งเวลาไม่ทัน ช่วงนี้รับแค่งานถ่ายแบบกับโฆษณาบางตัวก็พอ” ดาราหนุ่มตอบแล้วเอนหลังกับโซฟาด้วยท่าทีสบาย ๆ บทภาพยนตร์ที่เจควอนได้อ่านก่อนหน้านั้นเป็นเพียงบางส่วนที่ทางโปรดิวเซอร์ส่งมาให้พิจารณา พอมาคิดทบทวนแล้วเขาเลยปฏิเสธออกไปก่อน
 “ตามนั้นก็แล้วกัน ช่วงนี้กิจกรรมของมหาลัยก็แน่นด้วย เดี๋ยวสุขภาพของนายจะไม่ดีเอา”
 “ฝากเจ๊ด้วยก็แล้วกัน ช่วงนี้ต้องกรองงานให้ดีเป็นพิเศษ”
 “แล้วนี่ยูได้มาหานายป่ะ เห็นโทรมาหาเจ๊บอกว่าจะมาหา”
 “มาแล้ว อาบนํ้าอยู่ข้างบน”
 “นี่ พี่ถามจริง ๆ เถอะ”
 “ถามอะไร”
 “นายกับยูไม่มีอะไรเกินเลยกันจริง ๆ ใช่ไหม”
 “ไม่หรอก เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ผมคิดอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ อีกอย่างเจ๊ก็รู้ว่าสเปกผมไม่ใช่ผู้หญิงแรง ๆ แบบมัน เราแค่สนิทกันมากก็เท่านั้นเอง” เจควอนตอบร่ายยาวออกมา
 “คนนอกจะไม่คิดแบบนั้นอ่ะดิ”
 “กับยูคงไม่มีใครคิดหรอกครับ ไปไหนก็ต้องเจอกันอยู่ตลอด ถ้าผมจะเอามันทำเมียจริง ๆ ผมเอาตั้งนานแล้ว”
 “ได้ยินแบบนั้นเจ๊ก็สบายใจ เจ๊ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกแกสองคนมันพัง”
 “ไม่ต้องห่วงครับ…” เจควอนตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ เพราะตอนนี้เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเกินเลยกับยูกิเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือนวันแรกไม่มีผิด
 ครืด~ ครืด~
 ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเจควอนก็มีสายเรียกเข้า เขาหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นพ่อของยูกิ
 “คุณลุงโทรมา”
 “รับก่อนสิ” ไคล์ลี่ย์ตอบ เจควอนจึงกดรับโทรศัพท์แล้วกรอกเสียงผ่านปลายสายลงไป
 “ครับ คุณลุง”
 (ลุงติดต่อหายูไม่ได้ เจควอนติดต่อยูได้บ้างมั้ย หรือรู้รึเปล่าว่ายูอยู่ไหน ลุงมีเรื่องอยากคุยกับยูมันหน่อย) เสียงของ ‘ธนา’ กรอกผ่านปลายสายด้วยท่าทีรีบร้อน
 “ยูอยู่บ้านผมครับ โทรศัพท์ยูพัง เดี๋ยวผมบอกมันให้”
 (ลุงฝากด้วย…) ในจังหวะที่เจควอนกำลังคุยโทรศัพท์กับธนาอยู่ยูกิที่อาบนํ้าพึ่งเสร็จก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพอดี
 “ลุงโทรมา มารับสายหน่อย” ยูกิพยักหน้าตอบเล็กน้อยแล้วเดินมารับโทรศัพท์จากเจควอนพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา
 “พ่อมีอะไรอยากคุยกับยูคะ”
 (มีเรื่องสำคัญ มาหาฉันที่บริษัท)
 “ไปตอนนี้เลยเหรอคะ”
 (ตอนนี้)
 “ค่ะ ยูจะรีบออกไป” ยูกิตอบด้วยนํ้าเสียงราบเรียบแล้วปลายสายก็กดตัดไป เธอจึงยื่นโทรศัพท์คืนเจควอน
 “พ่อบอกให้ไปหาที่บริษัท นายอย่าลืมจัดการเรื่องมือถือให้ฉันด้วย”
 “จะจัดการให้” เจควอนตอบด้วยท่าทางปกติ
 “มีเรื่องอะไรรึเปล่ายู”
 “ไม่น่ามีอะไรมั้งคะ หรือมียูก็ไม่รู้เหมือนกัน”
 “แล้วงานเลี้ยงปิดกล้องละครจะมาอยู่ใช่ไหมคืนนี้”
 “ถ้าไม่ติดอะไรก็คงได้ไปค่ะ ยูขอตัวก่อนนะคะเจ๊” ยูกิตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายของตนเองที่วางอยู่บนโซฟาก่อนหน้านั้นแล้วเดินออกมาจากห้องโถงของบ้านหรู ส่วนชุดที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้ก็เป็นชุดของเจควอนที่เขาให้ยืมก่อน เป็นฮู้ดแขนยาวสีขาวคลุมลงมาถึงเข่า
 20 นาทีต่อมา…
 ยูกิขับรถมาถึงที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อว่า บริษัท Thanathai จำกัด ของพ่อตนเองในระยะเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง พอขับมาถึงเธอก็เปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาด้านใน
 สายตากวาดมองสภาพของบริษัทที่เคยรุ่งเรืองแต่ตอนนี้มันกลับเงียบเฉา พนักงานแทบนับคนได้ ร่างสวยหยุดยืนตรงหน้าห้องทำงานของธนาก่อนจะยกมือขึ้นเคาะแล้วถือวิสาสะเปิดเข้ามาด้านใน
 “พ่อเรียกยูมามีอะไรรึเปล่าคะ” ยูกิเริ่มบทสนทนาแล้วหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของคนเป็นพ่อ
 “แกรู้สถานะการของบริษัทเราใช่ไหมตอนนี้” ชายวัยกลางคนหันมาถาม
 “รู้ตั้งนานแล้วค่ะ แล้วตอนนี้พนักงานในบริษัทของเราก็เหลือน้อยลงมากขึ้นทุกวัน มันน่าแปลกใจนะคะที่พ่อเองก็ได้เงินจากการยืมครอบครัวของน้าไป๋มาแล้วแต่ทำไมสถานะการณ์บริษัทของเรามันไม่ได้ดีขึ้นเลย” ยูกิถามออกไปด้วยความสงสัย
 “เงินทั้งหมดไม่ได้อยู่กับฉัน แม่แกเป็นคนดูแล”
 “แล้วตอนนี้เงินมหาศาลพวกนั้นมันหายไปไหนหมดคะ ทำไมตอนนี้ไม่เห็นเลยสักบาท”
 “ดารารัตน์เอาไปใช้หนี้หมดแล้ว”
 “หนี้ พ่อหมายถึงหนี้อะไร” สิ่งที่ธนากำลังพูดตรงหน้าทำให้ยูกิยิ่งงงมากกว่าเดิม
 “ก็หนี้ที่แม่แกไปเล่นลงกับคาสิโนก่อนที่บริษัทของเราจะมาอยู่จุดนี้ไง”
 “แม่เหรอคะ ? แม่ยูมีคนเดียวเท่านั่นค่ะ ส่วนเมียใหม่ของพ่อไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่าแม่กับยูด้วยซํ้า”
 “แกหุปปากไปเลยนะ ดารารัตน์ทำทั้งหมดก็เพื่อครอบครัวของเรา แต่มันแค่พลาดเท่านั้นเอง!” ธนาชี้หน้าด่าลูกสาวเพียงคนเดียว
 “ช่วยหรือสร้างปัญหามากกว่าเดิมกันแน่ เมื่อไหร่พ่อจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นสักที”
 “แกเอาเวลาที่มาต่อปากต่อคำกับพ่อไปทำตัวให้มันมีประโยช์นกว่านี้จะดีกว่า ไปจับผู้ชายรวย ๆ สักคนหรือไปแต่งงานกับใครก็ได้ ไม่ใช่ไปถ่ายแบบโป๊ไปวัน ๆ”
 “อ๋อ…ที่เรียกยูมาก็เพราะว่าอยากให้ยูไปจับผู้ชายรวย ๆ เพื่อมาช่วยพ่อสินะคะ ฝันไปเถอะ! ถ้าพ่ออยากได้เงินมากก็ไปแต่งเองสิ”
 เพี๊ยะ!
 “ทำตามที่พ่อบอก ก่อนที่ฉันจะตัดหางปล่อยวัดแก” มือใหญ่ฟาดลงบนใบหน้าของลูกสาวเข้าเต็มแรงจนเลือดที่มุมปากของเธอมันไหลออกมา ยูกิยกมือกุมแก้มตนเองเบา ๆ พร้อมกับนํ้าตาที่ไหลออกมา
 “อยากจะทำอะไรก็เชิญเลยค่ะ เพราะต่อไปนี้ยูก็จะไม่สนใจพ่อกับเมียน้อยของพ่อแล้วเหมือนกัน” ยูกิตอบออกมาด้วยความโกรธก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานของคนเป็นพ่อ ที่เรียกมาเจอก็เพราะว่าอยากให้เธอจับผู้ชายเพื่อหวังเงิน ทั้งที่เมียตัวเองเป็นคนทำเรื่องเฮงซวยหมดนี้แท้ ๆ ยูกินึกโกรธมาก เธออยากจะบินกลับไปญี่ปุ่นไปหาแม่ผู้ให้กำเนิดอยู่ทุกวัน ไม่อยากทนอยู่แบบนี้
 ยูกิออกมาจากบริษัทของพ่อตนเองแล้วขับรถมาที่ริมแม่นํ้าเพียงลำพัง เธอลงจากรถมาพร้อมกับขวดโซจูที่ตนเองแวะซื้อก่อนหน้านั้น ร่างสวยนั่งลงบนพื้นหญ้าพร้อมกับชันเข่าขึ้นกระดกโซจู ในสมองก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองทะเลาะกับพ่อมา
 ตัดหางปล่อยวัดแบบนั้นเหรอ ?
 อยากจะทำอะไรกับเธอก็เชิญ
 พ่อยูกิเป็นคนไทยและแม่ของเธอเป็นคนญี่ปุ่น แต่สาเหตุที่ต้องเลิกกันเพราะความเจ้าชู้ของพ่อ แม่เลยหนีกลับไปญี่ปุ่นไปใช้ชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดาที่นู่น ส่วนเธออยากไปอยู่กับแม่ตั้งแต่แรกแล้วแต่ด้วยความที่ฐานะของพ่อดีกว่าเลยเกิดการฟ้องกัน ฝั่งที่มีทนายและมีเงินจึงชนะและได้ตัวยูกิมาอยู่ด้วยตั้งแต่ 7 ขวบ นับตั้งแต่นั้นมาก็เปลี่ยนเมียใหม่ไม่ซํ้าหน้าจนเธอโต
 …
 งานเลี้ยงปิดกล้องละคร
 หลังจากที่ซดโซจูอยู่คนเดียวและร้องไห้ปลดปล่อยมานานพอสมควรยูกิก็กลับมาที่บ้านของเจควอน เธอเดินเข้ามาภายในห้องนอนของตนเองก็เห็นชุดสำหรับออกงานและโทรศัพท์เครื่องใหม่วางอยู่บนเตียงนอน กลับมาถึงก็ต้องออกไปพบปะงานวงการบันเทิงอีกแล้ว เธอคิดก่อนจะจัดการอาบนํ้าแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างเสร็จก็ตรงมาที่งานทันที
 “นั่นไง…ยูมาแล้ว” ทันทีที่เท้าเรียวบนรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาในโซนงานหน้าเวทีไคล์ลี่ย์ก็สะกิดเจควอนวอนให้มองไป แต่ทว่าเจ้าตัวกลับโดนแมวมองเดินเข้ามาทาบทามอยู่หลายคน แถมยังมีนักแสดงหนุ่มน้อยใหญ่จ้องตาเป็นมัน
 “ปล่อยมันอยู่ตรงนั่นแหละ” เจควอนตอบไม่ใส่ใจแล้วจิบไวน์ต่อ แล้วไม่นานยูกิก็เดินมาหยุดอยู่ข้างกายไคล์ลี่ย์
 “งานเริ่มนานรึยังคะ” เธอถามแล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มบนชั้นตรงหน้ามาจิบ
 “สักพักได้ เป็นไงไปหาคุณลุงมา”
 “มีปากเสียงกันนิดหน่อยค่ะ”
 “เรื่องอะไรล่ะ”
 “เงินที่น้าไป๋ให้มา พ่อไม่ได้เอาไปแก้ไขสถานะการณ์วิกฤตของบริษัทแต่กลับเอาไปให้เมียไปใช้หนี้พนัน แถมยังบังคับยูให้จับผู้ชายรวย ๆ”
 “ทุกวันนี้ลุงธนาเป็นหนักขนาดนั้นเลยเหรอ”
 “โดนเป่าหัวจนสมองเบาหมดแล้วมั้งคะ” ว่าแล้วก็ยกแก้วเครื่องดื่มกรอกเข้าปากอีกรอบ แล้วหยิบแก้วสอง แก้วสามขึ้นมาดื่มอีก
 “พอแล้วยู” ไคล์ลี่ย์ห้ามปราม “แล้วแกจะเอายังไงต่อ จะทำตามที่ลุงต้องการไหม”
 “ยูไม่มีทางเอาตัวเองไปแลกกับเงินหรอกค่ะ”
 “เอางี้ไหมให้พี่พาแกเข้าวงการบันเทิงเต็มตัว…”
 “ยูมันไม่เหมาะกับอะไรแบบนั่นหรอกเจ๊ ให้มันรับถ่ายแบบ คิดคอนเทนต์อะไรของมันไปก็พอ” เจควอนวอนสวนขึ้นมา ทำให้ยูกิมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
 “ถ้าลูกชายเจ้าของบริษัทพูดขนาดนั้นก็ตามนั่นแหละค่ะ ยูขอตัวไปเข้าห้องนํ้าก่อนนะคะ” ยูกิตอบก่อนจะวางแก้วเปล่าลงบนชั้นวางหรูเหมือนเดิม เธอเดินผ่านผู้คนที่กำลังปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานมาหยุดที่ห้องนํ้าหญิงพร้อมกับจัดการทำธุระส่วนตัวตนเองให้เรียบร้อย
 แต่พอเดินออกมาความรู้สึกมึนเมาที่ดื่มมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้วก็ทำให้ยูกิไม่อยากอยู่ดื่มต่อ พอเป็นแบบนั่นเธอเลยเดินเลี่ยงมายังด้านหลังของโรงแรมเพื่อจะหนีกลับก่อน แต่ไม่ทันจะก้าวเดินข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้
 “พึ่งมาจะชิ่งกลับแล้วเหรอ”
 “เจค…นายตามฉันมาทำไม”
 “ตามมาดู ดื่มมาก่อนหน้านั้นแล้วใช่ไหม”
 “ใช่” ยูกิตอบแล้วสะบัดแขนออกพร้อมกับมองสำรวจหานักข่าวว่ามีแอบซุ่มอยู่รึเปล่า
 “ถ้าดื่มอย่าขับรถมันอันตราย กลับพร้อมกัน”
 “ฉันขับไหว”
 “ยู…”
 “นายไม่ต้องทำมาเป็นห่วงได้ไหม ถ้าฉันคิดอะไรกับนายขึ้นมาจริง ๆ”
 “ฉันแค่ห่วงเพื่อน ไม่ได้เลยรึไง”
 “แต่ฉัน นายไม่เข้าใจ…” ก่อนที่ตัวเองจะเผลอสารภาพออกไปยูกิก็เม้มปากไว้ก่อน เธอยกมือเสยผมตนเองลวก ๆ แล้วถอนหายใจออกมาอย่างอัดอั้น
 “คิดอะไรอยู่ก็หยุดไว้แค่นั่น”
 “ฉันอยากบอกนายมานานแล้ว ฉัน…”