“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”
“อืม...” “หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม” “ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน” แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกาย เมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า “เห้ยยย” “เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก” “เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย” “ครับ...ก็น่ารักดี” “ว่าไงนะ” “เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ” หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไป แฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า : ร้านกาแฟ Penne's Cafe “ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?” “ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ” “อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้งใจทำงานนะ” “ขอบคุณครับพี่” เพนเน่ เจ้าของร้านกาแฟที่แฟนมีตเคยมาสมัครทำงาน Part time ช่วงระหว่างที่รอเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้ยินพนักงานคุยกันว่าจริงๆ แล้วพี่เพนเน่อายุเยอะแล้ว แต่หน้าเด็กพอๆ กับสาวมหาวิทยาลัยเพราะมียาดี ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธออายุเท่าไร พอถามก็ได้คำตอบเชิงเล่นมาตลอด แต่เท่าที่สังเกตุดูแฟนมีตเองคิดว่าข่าวที่บอกเพนเน่อายุเกินสี่สิบคือมั่วแน่นอนอย่างมากเธอก็คงเป็นลูกของเศรษฐีแถวนี้ เลยมีทุนมาทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยอะไรทำนองนั้นมากกว่า “เพนเน่...” เสียงอุทานของพาสต้าดังมาจากด้านหลังของแฟนมีต “มีอะไรเหรอ” “อ๋อเปล่าๆ คุณไปทำงานเถอะครับ ผมขอเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เผื่อจะนึกหาวิธีออกว่าเราสองคนควรจะเริ่มทำอะไรกันต่อไป” “อืม..” แฟนมีตทำเพียงตอบรับในลำคอเบาๆ เพราะตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในที่สาธารณะ จะให้มาพูดคุยกันเหมือนตอนอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ คนเขาคงได้หาว่าแฟนมีตเป็นคนป่วยแน่ๆ ตลอดทั้งวันแฟนมีตทำงานแทบไม่ได้พัก ยิ่งช่วงปลายปีแบบนี้ งานเก่า งานใหม่ โปรเจคใหญ่ปีหน้า พากันหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ขนาดพักเที่ยงที่ตั้งใจจะมาจิบกาแฟแสนอร่อยในร้านของเพนเน่ แฟนมีตยังต้องหอบงานเข้ามาทำด้วย “พี่แฟนมีต~” “ว่าไงพายุ” “ผมน้ำหนาวเว้ย เมื่อไรจะแยกออกสักที หน้าผมหล่อกว่าไอ้ยุตั้งเยอะ” “คราวหน้าก็แขวนชื่อสิจะได้เรียกถูก” แฟนมีตถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความขี้โวยวายของแฝดน้องอย่างน้ำหนาว พายุ กับ น้ำหนาว เป็นพี่น้องฝาแฝดที่เหมือนชนิดที่ว่าถ้ายืนหันหน้าเข้าหากันก็ไม่ต่างจากส่องกระจก แฟนมีตพยายามแยกสองคนนี้แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที และเขาก็จะถูกทั้งสองคนบ่นทุกครั้งที่เรียกชื่อผิดสุดท้ายอาจจะกลายเป็นว่าเขาต้องทำป้ายแขวนชื่อเอาไว้จริงๆ “ว่าแต่มีอะไร” “ก็วันนี้พี่เพนเน่บอกว่าจะปิดร้านเร็ว ก็เลยว่าจะมาชวนไปหาอะไรกินหลังเลิกงานครับ” “วันนี้เหรอ” “ช่ายย เดือนละครั้งเลยนะพี่แฟนมีตที่พี่เพนเน่ปิดร้านเร็วให้พวกผมได้พักหายใจหายคอ” น้ำเสียงน้ำหนาวดูตื่นเต้นกับการปิดร้านเร็วของเพนเน่พอสมควร แฟนมีตจำได้ว่าตอนมาทำงาน Part Time ที่นี่ถึงแม้งานจะค่อนข้างหนัก แต่การที่เพนเน่ปิดร้านเร็วก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรขนาดนั้น “แล้วทำไมต้องตื่นเต้น” “อ๋อ ตอนนั้นมาทำงานไม่นานก็เลยไม่รู้เรื่องใช่ม่ะ” “เรื่องอะไร?” แฟนมีตทำตาใสใส่น้ำหนาวเพราะตอนนั้นเขาทำงานอยู่ไม่ถึงหกเดือนด้วยซ้ำจะให้เขาไปรู้อะไรมากมาย ลำพังชื่อเมนูกาแฟยังจำได้ไม่หมดด้วยซ้ำ “ก็ที่นี่ เดือนนึงมันจะมีหนึ่งวันที่พี่เพนเน่จะปิดร้านเร็ว เขามีข่าวลือกันว่าเป็นวันที่พี่เพนเน่แกต้องไปนอนแคปซูลรับยา” “ยาอะไร?” “ก็ยาอายุวัฒนะที่ทำให้แกสวยไม่สร่างแบบนี้ไง” “เลอะเทอะ..นี่เพิ่งไปดูกัปตันอเมริกามาใช่ไหม” “เอ้า ก็เขาเล่ากันมาแบบนี้” “เพ้อไปใหญ่ ไม่คุยด้วยละไปทำงานต่อดีกว่า กลับบ้านดีๆ ล่ะ” แฟนมีตเลิกให้ความสนใจประโยคบอกเล่าจากน้ำหนาวแล้วหันไปเก็บข้าวของอันพะรุงพะรังกลับขึ้นที่ทำงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานช่วงบ่าย หางตาแอบเหลือบไปเห็นพาสต้าอยู่ในห้องทำงานของเพนเน่แต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะพอสังเกตุดูดีๆ ก็พบว่ามีเพียงเจ้าของห้องที่อยู่ตามลำพัง “พี่แฟนมีตอย่าเพิ่งไป พี่เพนเน่เรียก” เสียงเด็กหนุ่มตะโกนออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ “อ่อๆ โอเค ขอบใจนะ” แฟนมีตหันไปขอบคุณพายุที่รีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานเพนเน่ก่อนจะวางของลงที่เดิมแล้วไปหาเพนเน่ในห้องทำงาน “มาพอดีเลยแฟนมีต รู้แล้วใช่ไหมว่าวันนี้พี่จะปิดร้านเร็ว” “ครับ” “แต่พอดีพวกเอกสารพี่ยังไม่เรียบร้อยแล้วก็มันต้องส่งพรุ่งนี้ด้วย ได้ข่าวว่าเราจบบริหารเกียรตินิยม ช่วยพี่ดูเอกสารหน่อยสิเดี๋ยวพี่ให้ค่าตอบแทน คนอื่นก็เอาแต่หนีเวลาพี่เรียกทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเหมือนแฟนมีตสักคน” แฟนมีตเหลือบมองกองเอกสารด้านข้างโต๊ะทำงานของเพนเน่แล้วอดแปลกใจไม่ได้ว่าลำพังแค่ร้านคาเฟ่ เบเกอร์รี่ ทำไมเอกสารมันถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ “พี่กวนแฟนมีตหรือเปล่า” “เปล่าครับ...แต่เดี๋ยวตอนบ่ายผมมีงานต้องรีบเคลียร์ให้จบ เอาเป็นว่าช่วงเลิกงานผมแวะมาดูให้ได้ไหมครับ พี่เพนเน่ทิ้งกุญแจไว้ก็ได้ถ้าสะดวก” “ได้สิ เอาตามที่แฟนมีตสะดวกเลย” เพนเน่ส่งยิ้มหวานมาให้ “สงสัยใช่ไหมว่าทำไมเอกสารเยอะขนาดนี้ คือพี่มีธุรกิจอย่างอื่นด้วยเอกสารก็เลยเยอะหน่อย” “อะอ๋อ..ครับ” “ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ฝากจัดเข้าแฟ้มด้วย ธุระดันมาตรงกับสิ้นเดือนวุ่นวายไปหมด” “ไม่เป็นไรครับ ช่วงนี้กลับบ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไร มานั่งจัดเอกสารแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน” “น่ารักที่สุด งั้นเอาไว้มารับรางวัลเป็นโปรดื่มกาแฟฟรีตลอดปีนะ” แฟนมีตได้แต่พยักหน้าและทำตามที่เพนเน่บอกแล้วเตรียมตัวกลับไปทำงาน ตกเย็นหลังจากเสร็จงานชายหนุ่มก็ได้หยิบกุญแจที่วางแอบไว้ที่ใต้กระถางต้นไม้ตรงป้ายร้านกาแฟมาไขเปิดประตูเข้าไปทันที ถ้าเป็นคนอื่นคงอยากจะรีบกลับบ้านไปพัก แต่เขาเป็นประเภทไม่ค่อยชอบอยู่เฉย และช่วงที่เขามาทำงานที่นี่เพนเน่ก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี อะไรที่พอจะช่วยเธอได้แฟนมีตก็ยินดีช่วยเต็มที่รวมถึงเรื่องนี้ด้วยที่เขาคิดไว้ว่าจะปฎิเสธเงินตอบแทนและรับเป็นกินกาแฟฟรีก็เกินพอ คงจะประหยัดค่ากาแฟไปได้หลายบาท เอกสารหลายฉบับถูกจัดเรียงตามวันที่กองแยกกันไว้จนเกือบเรียบร้อย ตั้งแต่เขารู้จักเพนเน่มาเขาไม่เคยเห็นพี่น้องหรือครอบครัวของเพนเน่เลย แม้แต่แฟนก็ไม่เคยระแคะระคายว่าเธอมี ทั้งๆ ที่เป็นคนสวยครบเครื่องขนาดนี้ จริงๆ มันก็น่าแปลกอยู่ “ไม่กลับบ้านหรือไง” “พาสต้า! ผมต้องบอกคุณกี่ครั้งว่าอย่าโผล่มาแบบนี้” “ผมไม่ได้โผล่มาสักหน่อย ผมยืนอยู่ตั้งนานแล้ว คุณนั่นแหละใจลอยไปไหน คิดถึงเจ้าของร้านคนสวยอยู่หรือไง” พาสต้าเหล่ตามองแฟนมีตอย่างรู้ทัน แต่คำว่า ‘คิดถึง’ ในความหมายของพาสต้ากับเขาคงต่างความหมายกันแน่ๆ : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน