“เราควรจะเริ่มจากตรงไหนดี”
“พ่อกับแม่ของผม” “เขาคือใคร ชื่ออะไร และเขาอยู่ที่ไหน” “พ่อผมชื่อภานุ ส่วนคุณแม่ชื่อเรนิสา ทั้งสองคนเป็นหมอภาควิชาพิเศษ ผมมีพี่สาวหนึ่งคนและน้องชายหนึ่งคน เรื่องอื่นๆ นับตั้งแต่วันที่ผมถูกยิงบนเวที ผมก็ไม่ได้เจอพวกเขาอีกเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” พาสต้าพยายามนึกถึงเรื่องราวของตัวเองเท่าที่พอจะจำได้ มันเหมือนมีบางอย่างที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ที่ทำให้เขาคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก “เรื่องมันผ่านมา25ปีแล้วไม่รู้ป่านนี้พ่อกับแม่ของผมท่านจะเป็นยังไงบ้าง” “นั่นซิ ผ่านมานานขนาดนั้น แต่ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวผมลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดู ต่อให้มันจะนานแค่ไหนถ้าเป็นถึงพ่อกับแม่ของนักร้องชื่อดังผมเชื่อว่าเราน่าจะเจอได้ไม่ยาก” แฟนมีตพิมพ์ชื่อของพาสต้าลงไปในช่องค้นหาของเว็บไซต์ชื่อดัง ข่าวส่วนใหญ่ที่ปรากฎอยู่ล้วนแต่เป็นภาพการเสียชีวิตของเขา รวมถึงผลงานบางส่วนที่ผ่านมา น่าแปลกที่ไม่ว่าแฟนมีตจะพยายามค้นหาเรื่องครอบครัวของพาสต้าเท่าไหร่ ข้อมูลที่ควรจะได้พบกลับไม่ได้เป็นประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมาเลยสักนิด พ่อ แม่ พี่และน้อง ไม่แม้แต่จะมีภาพถ่ายให้เขาได้เห็น หรือแม้แต่ข้อมูลอื่นๆ ก็ไม่ปรากฎเช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่โดยทั่วไป การที่พาสต้าเป็นนักร้อง นักแสดงที่มีขื่อเสียงขนาดนี้ การที่จะมีเรื่องราวของครอบครัวเขาไปแปะอยู่ตามสื่อต่างๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยด้วยซ้ำ “ไม่มีเลยเหรอ นอกจากชื่ออย่างอื่นที่เกี่ยวกับคุณ มันจะหาไม่เจออะไรเลยจริงๆ เหรอเนี่ย” แฟนมีตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย “หรือเพราะมันนานมากแล้ว” “ต่อให้เรื่องผ่านมาเป็นร้อยปี อินเตอร์เน็ตมันก็เก็บข้อมูลไว้ทั้งนั้นแหละนอกเสียจากว่า” “อะไรเหรอครับ” “มีใครบางคนจงใจลบเรื่องพวกนั้นทิ้งไปเพราะมีบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้” แฟนมีตจ้องมองอยู่ที่หน้าจอที่มีข้อความตัวสีดำขนาดใหญ่ขึ้นว่า ‘ไม่พบข้อมูล’ สิ่งนี้ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าเรื่องราวของพาสต้า มันดูซับซ้อนมากกว่าการที่วิญญาณของคนๆ หนึ่งหลุดออกมาจากร่างอย่างแน่นอน “แฟนมีตคุณสนิทกับเจ้าของร้านกาแฟคนนั้นใช่ไหม” จู่ๆ พาสต้าก็ถามขึ้นหลังจากที่ทั้งสองคนวางมือและล้มเลิกการค้นหาข้อมูลของครอบครัวพาสต้าที่ดูจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรนอกจากทางตัน “หมายถึงพี่เพนเน่เหรอ” “ใช่ คนนั้นแหละ” “ก็นิดนึงแต่ไม่ได้มากขนาดนั้นนะ” “ผมรู้สึกคุ้นหน้าเขาแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอเขาที่ไหน” พาสต้านั่งลงที่เก้าอี้แล้วพยายามนั่งทบทวนจนคิ้วสองข้างขมวดกันเป็นปม “คุณจะคุ้นหน้าพี่เขาได้ยังไง เพราะถ้าย้อนไป25ปีก่อนพี่เพนเน่ก็น่าจะอายุไม่กี่ขวบเองนะ” “ไม่รู้สิ ตอนผมเห็นเขาผมมั่นใจว่าผมต้องรู้จักเขาแน่ๆ” “แปลว่าที่ไปป้วนเปี้ยนใกล้พี่เขาเพราะเหตุนี้เหรอ” พาสต้าพยักหน้าตอบช้าๆ แฟนมีตคิดย้อนไปตอนที่เขาเห็นพาสต้าในห้องทำงานเพนเน่และเขาคิดว่าตัวเองตาฝาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น “เอาแบบนี้ไหม เดี๋ยวผมลองไปถามพี่เขาดูเผื่อว่าเราจะได้อะไรเพิ่มเติม” “ก็ได้นะ เพราะตอนนี้ผมบอกตามตรงว่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเริ่มต้นอะไรจากตรงไหนได้บ้าง” พาสต้าถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เลือนหายไป วันรุ่งขึ้น แฟนมีตไปทำงานแต่เช้าเพราะตั้งใจว่าจะแวะเข้าไปหาเพนเน่ที่ร้าน ส่วนพาสต้าตั้งแต่คุยกันไปเมื่อวานจนตอนนี้แฟนมีตก็ยังไม่ได้เจอเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าแอบไปเที่ยวเล่นที่ไหน หรือกำลังทำอะไรอยู่ “อ้าวแฟนมีตมาแต่เช้าเลยนะ มีงานสำคัญเหรอ” “เปล่ารับ ผมตั้งใจจะมาหาพี่เพนเน่นั่นแหละ” “มาหาพี่? มีเรื่องอะไรหรือเปล่าสีหน้าดูไม่ค่อยดี” เพนเน่จ้องใบหน้าของแฟนมีตด้วยความสงสัย โดยปกติแล้ว ถ้านอกจากมาหากาแฟกินในช่วงเช้าของทุกวัน แฟนมีตก็แทบจะไม่ได้มาที่ร้านเลย หรือถ้าวันไหนเธอมีเรื่องงานให้แฟนมีตช่วยเหลือเขาถึงจะแวะเวียนมาบ้างตามโอกาส ทว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้รู้จักกัน ที่แฟนมีตเป็นฝ่ายมารอเพื่อพบเธอ เมื่อคิดว่าบางทีน้องชายนิสัยดีคนนี้อาจจะต้องการความช่วยเหลือ เพนเน่ จึงไม่ลังเลที่จะชักชวนแฟนมีตให้เข้าไปคุยกันที่ห้องทำงาน “ว่ามาเลยมีเรื่องอะไร” “ผมมีเรื่องอยากมาถามอะไรพี่เพนเน่สักหน่อยครับ คงไม่ได้มารบกวนอะไรพี่มาก ใช่ไหมคะรับ” “ไม่หรอกถามมาได้เลย เราเองก็มาช่วยงานพี่บ่อยๆ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยพี่ก็ยินดี” แฟนมีตมองออกไปรอบๆ ห้องเพื่อหวังว่าพาสต้าอาจจะตามเขามาด้วยแต่ก็ยังไร้วี่แวว ในขณะที่เพนเน่นั่งมองเขาอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอว่าเขามีเรื่องอะไรมาพูดคุย “คือพี่เพนเน่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อพาสต้าไหมครับ” รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเพนเน่ทันที เหลือเพียงแววตาที่สั่นเครือ และใบหน้าที่ซีดเซียวคล้ายกำลังตกอยู่ในสภาวะตกใจในบางอย่างโดยเฉียบพลัน “แฟนมีตถามทำไมเหรอ” “คือ จำที่พี่เคยถามผมได้ไหมครับว่าชื่อของผมมันมาจากอะไร” “จำได้ หรือว่าแม่แฟนมีตเป็นแฟนคลับพาสต้าหรอ” แฟนมีตชะงักเล็กน้อยตอนที่ได้ยินประโยคคำถามต่อมาจากปากของเพนเน่ “ชื่อของผมมาจากเรื่องราวในวันที่คลอดครับ ผมคลอดกลางงานแฟนมีตคอนเสิร์ต แต่ผมยังไม่ได้บอกพี่เพนเน่เลยนะครับ ว่าพาสต้าเขาเป็นนักร้อง พี่เพนเน่รู้ได้ยังไงครับ” พอได้เห็นสีหน้าที่ดูลุกลี้ลุกลนของเพนเน่ตอนนี้ แฟนมีตก็ยิ่งรู้สึกว่าบางทีพาสต้ากับเพนเน่อาจจะรู้จักกันมาก่อนจริงๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น บางทีข้อมูลที่เขากับพาสต้ากำลังตามหาอยู่เพนเน่อาจจะสามารถตอบเขาได้ “คือ..เมื่อก่อนพี่เคยเห็นแม่พี่เขาชอบนักร้องคนนี้พี่ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นคนๆ เดียวกันหรือเปล่า ใช่ไหม หรือเราหมายถึงพาสต้าไหน?” “อ่อ..เหรอครับ ผมหมายถึงพาสต้าที่เป็นนักร้องนั่นแหละครับ” “แล้วแฟนมีตรู้จักพาสต้าได้ยังไงเหรอ” เพนเน่ถามกลับ ในตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะสบตาแฟนมีตด้วยซ้ำ “ผมก็ไม่ได้รู้จักอะไรเขาหรอกครับ แค่เพราะว่าผมดันไปคลอดกลางงานคอนเสิร์ตของเขา แล้วเขาก็ดันเสียชีวิตลงในวันที่ผมเกิดพอดี” “แล้วมันเกี่ยวกับพี่ตรงไหนเหรอ แฟนมีตถึงมาดักรอพี่แต่เช้าแบบนี้” “พอดีผมได้ยินน้ำหนาวพูดว่าพี่รู้จักนักร้องเยอะก็เลยลองมาถามดูครับ ผมไปนั่งหาประวัติเขามาแล้วไม่เจอข้อมูลอะไรเลย ก็เลยสงสัยว่าเขาดังขนาดนั้นทำไมไม่มีเรื่องของเขาให้ผมอ่านบ้าง ก็เลยนึกว่าพี่เพนเน่อาจจะรู้จัก” แม้แต่ตัวของแฟนมีตเองก็กระอักกระอ่วนที่จะอธิบายเรื่องพาสต้าให้เพนเน่ฟัง เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะเริ่มต้นพูดมันยังไง ถ้าบอกว่าเขาเห็นวิญญาณคนที่มีข่าวว่าเสียชีวิตไปแล้ว 25 ปีมาขอความช่วยเหลือว่าตัวเองยังไม่ตายแต่หาร่างไม่เจอ โดยทางนั้นบอกมาว่าคุ้นหน้าเพนเน่เขาก็เลยมาถามดู ถ้าพูดแบบนั้นออกไปจริง นอกจากเพนเน่จะไม่ตอบคำถามเขาแล้ว เพนเน่อาจจะพาเขาส่งโรงพยาบาลหรือประกาศห้ามเขาเข้ามาในร้านนี้อีกตลอดชีวิตก็เป็นได้ “แล้วแฟนมีตจะหาข้อมูลของพาสต้าเขาไปทำไมเหรอ” “ผมก็แค่อยากรู้ครับ ว่านักร้องคนไหนที่ทำให้แม่ผมยอมอุ้มท้องที่แก่ใกล้คลอดไปงานคอนเสิร์ตจนผมไปคลอดอยู่ที่นั่นได้” “พี่เองก็ไม่รู้อะไรหรอกจ้ะ ข่าวนั่นมันก็หลายปีแล้วพี่จำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” “นั่นสินะครับผมก็ลืมคิดไป ตอนนั้นพี่เพนเน่ประมาณกี่ขวบนะครับตอนที่พาสต้าเสียชีวิต” เพนเน่นิ่งเงียบไปอีกครั้ง “ขอโทษครับ ผมก็ลืมไปว่าพี่เพนเน่ไม่ค่อยชอบให้ใครถามเรื่องอายุ” “ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ จริงๆ พี่ก็ไม่ได้หวงอายุตัวเองขนาดนั้น” “ผมว่าผมไม่กวนพี่เพนเน่แล้วดีกว่าขอบคุณมากนะครับที่อุตส่าห์เสียเวลามาฟังผมถามคำถามไร้สาระ” แฟนมีตส่งยิ้มให้กับเจ้าของร้านกาแฟคนสวยก่อนที่จะกลับออกมาแล้วเข้าบริษัทเพื่อไปทำงานของตัวเองต่อ ความรู้สึกบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจกำลังบอกกับเขาว่าบางทีเรื่องเล่าที่มันดูไร้สาระ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องจริงได้ ถ้าหากคนเรายอมเปิดใจในมุมมองที่ต่างกัน เมื่อคิดได้แบบนั้นแฟนมีตจึงตัดสินใจส่งข้อความเพื่อนัดกินข้าวกับพายุและน้ำหนาวทันที “พาสต้าคุณอยู่แถวนี้หรือเปล่า” “ผมมาแล้วแฟนมีต” “โถ่ตกใจหมด หายไปไหนมาทั้งวัน” ช่วงพักกลางวันแฟนมีตเดินหลบบนดาดฟ้าของบริษัทซึ่งถูกจัดเป็นสวนเอาไว้ให้พนักงานมาเดินเล่น ก่อนจะร้องเรียกชื่อหาวิญญาณของอดีตนักร้องดัง ไม่นานเขาก็โผล่มาในระยะประชิดตัว จนแฟนมีตเผลอถอยหลังหนีด้วยความตกใจ “ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาครับ ว่าแต่คุณเถอะได้เรื่องอะไรบ้างไหม ที่ไปคุยกับคุณเพนเน่มา” “ได้คำถามกับความสงสัยมาเพิ่มมากกว่า” “ทำไมเหรอครับ” แฟนมีตแกล้งทำเป็นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบที่หู ทำทีคล้ายกับว่ากำลังติดสายธุระสำคัญอยู่ เพื่อให้คนผ่านไปผ่านมาไม่คิดสงสัย ว่าเขาเป็นอะไรถึงมานั่งคุยอยู่คนเดียว “ก็พอผมพูดชื่อคุณพี่เขาก็ทำหน้าเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง แถมพูดจาแปลกๆ ปากบอกไม่รู้จักคุณ แต่ก็พูดตะกุกตะกัก ทั้งๆ ที่ปกติพี่เพนเน่ไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เขาทำเหมือนกับว่าเขารู้จักคุณแต่ไม่อยากพูดถึงหรือมีอะไรบางอย่างทำให้เขาพูดออกมาไม่ได้” แฟนมีตวิเคราะห์จากสิ่งที่เขาเห็น “อันที่จริงผมเองก็เคยฟังเรื่องราวแปลกๆ บางอย่างเกี่ยวกับตัวพี่เพนเน่มาเหมือนกันนะ” “เรื่องอะไรเหรอครับ” “ก็แนวๆ ยาอายุวัฒนะอะไรทำนองนั้น ก่อนหน้านี้ผมบอกตามตรงผมมองว่ามันโคตรไร้สาระ” แฟนมีตหันมองพาสต้าที่นั่งอยู่ข้างๆ แววตาของพาสต้าตอนนี้คล้ายกับเพนเน่เมื่อเช้าไม่มีผิด แววตาของความหวาดกลัว “แล้วตอนนี้คุณยังคิดแบบนั้นอยู่หรือเปล่า” “ก็ถ้าผมสามารถมานั่งคุยกับวิญญาณอย่างคุณได้ เรื่องยาอะไรพวกนั้นมันก็คงจะมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้นคุณจะทำยังไงต่อไปเหรอ” “เย็นนี้ผมนัดกินข้าวกับสองแฝดพนักงานที่ร้านพี่เพนเน่ ผมว่าผมคงจะต้องลองไปนั่งฟังเรื่องราวพวกนี้แบบเปิดใจจริงจังกับเรื่องนี้ดูสักครั้ง” : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน