“ลมพายุลูกไหนพัดพี่แฟนมีตสุดหล่อมาได้ครับเนี่ย ถึงกับส่งข้อความมาชวนผมกับพี่พายุกินข้าว”
สองพี่น้องฝาแฝดมาถึงร้านอาหารตามเวลานัดหมาย โดยที่แฟนมีตเลือกร้านอาหารที่อยู่แถวๆ บ้านของขอบฟ้าซึ่งไม่ได้ไกลจากที่ทำงานสักเท่าไหร่ “ก็วันก่อนนายสองคนมาชวนแล้วพี่ไม่ว่างไงวันนี้ก็เลยจะไถ่โทษให้ อยากกินอะไรก็สั่งได้เลยนะตามสบาย” “ผมว่าพี่มีพิรุธนะ” น้ำหนาวหรี่ตามองแฟนมีตอย่างจับผิด “อะไร คนอยากเลี้ยงข้าวมันต้องมีอะไรน่าสงสัยด้วยหรือไง” “พี่ยิ่งพูดแบบนี้ผมยิ่งเห็นด้วยกับพี่พายุมันแล้วนะ บอกมาตามตรงเลยดีกว่าว่าพี่ต้องการอะไร ไม่งั้นผมสองคนกลับ” น้ำหนาวเตรียมดึงแขนพี่ชายให้ลุกออกจากโต๊ะ “เออๆ แค่มีเรื่องอยากคุยด้วย แต่ก็ตั้งใจจะเลี้ยงข้าวด้วยเหมือนกัน กินข้าวก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที” “ก็แค่นั้น” เพราะโดยนิสัยแฟนมีตก็ไม่ใช่คนที่จะเล่นละครโกหกตบตาใครได้อยู่แล้ว อีกอย่างการยอมรับความจริงสำหรับแฟนมีตก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถึงยังไงเขาก็เชื่อว่าเขาสามารถไว้ใจพายุกับน้ำหนาวได้ “วันนี้มีแต่คนแปลกๆ เต็มไปหมด” หลังจากสั่งอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย น้ำหนาวที่นั่งจ้องหน้าแฟนมีตอยู่นานก็พูดขึ้น “ใครเหรอที่ว่าแปลก” “พี่เพนเน่ไงครับ” “ทำไมเหรอ พี่เขาเป็นอะไร” “ก็วันนี้ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนลูกค้าเยอะออกมาช่วยงานก็ชงเครื่องดื่มผิดๆ ถูกๆ บางทีก็ดูเหม่อ ใจลอยเหมือนคิดอะไรอยู่ ทำตัวอย่างกับคนอกหัก” “ไหนเคยบอกว่าพี่เพนเน่เขาไม่มีแฟนไง” “ก็เพราะไม่มีไงครับ มันก็เลยยิ่งน่าสงสัยว่าพี่เขาเป็นอะไร” ว่าแล้วน้ำหนาวก็นั่งนึกย้อนไปเมื่อช่วงเช้าจนถึงเย็นของวันนี้ เขากับพายุสังเกตุเห็นว่าเพนเน่มีสีหน้าแปลกๆ ตั้งแต่ตอนมาเปิดร้าน ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธออาจจะป่วย แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นอะไร จนช่วงเย็นเพนเน่ก็มาฝากเขาสองคนปิดร้านบอกว่ามีธุระด่วนต้องไปทำ ทั้งๆ ที่โดยปกติถ้าไม่ใช่วันปิดร้านประจำเดือน เพนเน่จะไม่เคยทิ้งร้านไปไหน “ช่างพี่เพนเน่เขาเถอะ ผมว่าเรามาเรื่องของพี่ดีกว่า ที่นัดพวกผมกินข้าว พี่อยากจะรู้เรื่องอะไรกันแน่ครับ” พอน้ำหนาวละความสนใจจากเรื่องเจ้านาย เพราะกำลังมีคนต่อไปที่ทำตัวพิรุธไม่ต่างกันซึ่งคนๆ นั้นก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขากับพายุในตอนนี้ “คือพี่จำได้ว่านายสองคนเคยเล่าเรื่องที่คนเขาลือเกี่ยวกับพี่เพนเน่ว่าพี่เขาอายุเยอะแล้วแต่ที่ยังสาวและสวยอยู่เพราะไปทำอะไรบางอย่างมา” แฟนมีตลดเสียงของตัวเองลงพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ราวกับว่ากลัวใครจะผ่านมาได้ยินบทสนทนาของเขาเข้า “ทำไมจู่ๆ พี่ถึงมาสนใจเรื่องนี้ล่ะครับ” พายุถามกลับ “นั่นสิตอนนั้นพี่ยังด่าผมสองคนว่าเหลวไหลอยู่เลย” น้ำหนาวเสริม “ก็เล่าเรื่องที่พวกนายเคยได้ยินมาให้พี่ฟังก่อน แล้วพี่จะบอกว่าทำไมพี่ถึงอยากรู้ ตกลงไหม” พี่น้องฝาแฝดหันมองหน้ากันเล็กน้อย เหมือนต้องการสื่อสารกันทางสายตาก่อนที่จะหันมาพยักหน้าตกลง “มีคนบอกว่าพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่เป็นหมอชื่อดัง ที่แอบทำงานวิจัยศึกษาเกี่ยวกับตัวยาอายุวัฒนะมานานหลายปี โดยเอาลูกๆ ของตัวเองมาเป็นหนูทดลอง” พายุค่อยๆ เรียบเรียงเรื่องทั้งหมดช้าๆ มันเป็นข้อมูลที่เขาไปได้ยิน และได้ฟังจากคนรอบตัว ตั้งแต่ตอนที่เข้าทำงานในร้านนี้ใหม่ๆ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงมีคนพูดถึงเรื่องของเพนเน่กันอยู่เรื่อยๆ “จริงๆ พี่เพนเน่มีน้องชายสองคนแต่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าน้องชายเขาเลยนะ จนเมื่อหลายปีก่อนมีคนถ่ายรูปรูปหนึ่งมาแล้วในนั้นมันมีภาพของพี่เพนเน่อยู่ติดมาด้วย” “แล้วมันแปลกตรงไหน” แฟนมีตรีบถามกลับทันที “ก็เพราะว่ารูปนั้นมันถ่ายเมื่อ 20 ปีก่อนไงครับ แต่หน้าของพี่เพนเน่คือเหมือนเดิมกับตอนนี้ทุกอย่าง” “คนหน้าคล้ายกันหรือเปล่า” แฟนมีตลองหาข้ออ้างในความน่าจะเป็นที่มันสามารถเกิดขึ้นได้จริง “เหมือนกระทั่งไฝ กับรอยปานเป็นที่มือของพี่เขาเลยเหรอครับ” น้ำหนาวตั้งคำถามกลับไปบ้าง “นายสองคนพอจะมีรูปนั้นไหม” “มีครับผมเก็บเอาไว้ในมือถือ จริงๆ มันเคยมีลงอยู่ในอินเตอร์เน็ต แต่พอเรื่องเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นดูเหมือนกระทู้พวกนั้นก็ถูกสั่งลบทิ้งไปจนหมด” พายุเปิดหาภาพถ่ายอ้างอิงจากในมือถือของเขาก่อนที่จะส่งให้แฟนมีตดู ภาพถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งในสวนสาธารณะ ที่กำลังจ้องมองมามีหน้าตาเหมือนเพนเน่อย่างที่พายุกับน้ำหนาวยืนยันจริงๆ ที่สำคัญไฝเหนือแก้มด้านซ้ายของเธอ กับปานแดงที่ข้อมือขวา มันเด่นชัดจนแฟนมีตไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าคนในภาพไม่ใช่เพนเน่ แต่ถ้ารูปมันถูกถ่ายเมื่อ20ปีก่อน คนในภาพก็น่าจะอายุอยู่ที่ 20 กว่าๆ แล้วด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็หมายความว่าเพนเน่คนในปัจจุบัน ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี คนเราต่อให้ดูแลรักษาตัวเองดีแค่ไหน มันไม่มีทางเลยที่ทุกอย่างจะยังคงอยู่ในสัดส่วนเท่าเดิมขนาดนี้ “ก็อย่างที่เห็นครับ คนเขาก็เลยคิดว่าพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่คงคิดค้นยาสำเร็จโดยมีพี่เพนเน่เป็นหนูทดลอง พี่เขาถึงยังดูสาวและสวยมาก นั่นคงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พวกเราไม่เคยมีใครรู้เลยว่าพี่เพนเน่อายุเท่าไหร่” “แล้วถ้ามันมีของอะไรพวกนี้อยู่จริง ป่านนี้มันก็คงจะเป็นข่าวแล้วหรือเปล่า ยาที่มีประสิทธิภาพชะลอความแก่ให้ย้อนกลับไปเป็นสาวได้เป็นสิบสิบปี คนคงได้แตกตื่น ภาครัฐ ภาคเอกชนคงแห่กันไปซื้อมาทำขายแล้วมั๊ง” “ผมก็เคยคิดแบบพี่นั่นแหละ แต่ดูเหมือนเรื่องราวพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่เขาก็ไม่ธรรมดา” พอน้ำหนาวพูดถึงครอบครัวเพนเน่ ก็กลายเป็นว่าเขาเบาเสียงตัวเองลงอีก “มีอะไร?” “เพราะมีคนบอกว่าเขาใช้ลูกชายของตัวเองทำการทดลองอะไรบางอย่างเพิ่มเติมจากตัวอายุวัฒนะที่ใช้กับพี่เพนเน่ แล้วมันเกิดข้อผิดพลาดทำให้มีคนตาย โครงการทั้งหมดเลยถูกระงับไป” “แล้วพี่เพนเน่” “ก็ตามที่เห็นแหละพี่ จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเคยเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องของพี่เขาสักคน แม้แต่ชื่อกับนามสกุลเอาไปเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ตยังไม่เจอเลย” แฟนมีตคิดย้อนไปถึงตอนที่เขาหาข้อมูลของพาสต้า เหตุการณ์ช่างคล้ายกันไม่มีผิด “แล้วนายสองคนรู้จักผู้ชายที่ชื่อพาสต้าไหม เป็นนักร้องดัง” “ใช่คนที่ถูกยิงตายกลางงานคอนเสิร์ตเมื่อหลายสิบปีก่อนไหมครับ” พายุที่ดูเหมือนจะนึกออกเป็นคนแรกรีบถามกลับมาเพื่อความแน่ใจ “แล้วเคยได้ยินข่าวที่ว่ามีแฟนคลับคลอดลูกกลางงานวันนั้นของเขาไหม” “เคยนะครับ ผมกับน้ำหนาวนั่งคุยกันอยู่เลยว่าท้องแก่ใกล้คลอดขนาดนั้น ทำไมถึงเลือกไปคอนเสิร์ตแทนที่จะไปหาหมอ สงสารเด็กถ้าผมเป็นเด็กคนนั้น แล้วโตขึ้นต้องมาเล่าเรื่องที่ไปที่มาของการเกิดของตัวเองก็คงอายน่าดู” “อืม..เด็กคนนั้นคือพี่เอง” ‘เกร๊งง’ ช้อนกับส้อมในมือสองพี่น้องหลุดมือลงกระทบกับจานจนเสียงดัง “พี่พูดจริงเหรอครับ” “จริงสิพี่ถึงชื่อแฟนมีตนี่ไง” “แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกันกับที่พี่อยากรู้เรื่องของพี่เพนเน่เหรอครับ” “คือพี่กำลังคิดว่าถ้าพี่เพนเน่เป็นผลสำเร็จจากอายุวัฒนะที่มีอยู่จริง ก็แปลว่าเขาอาจจะรู้จักพาสต้านักร้องคนนั้น” “แล้วพี่อยากจะรู้เรื่องของนักร้องคนนั้นไปทำไมหรอครับ"” “พี่มีเรื่องสำคัญที่ต้องตามหาความจริงให้เจอ และเห็นทีว่าพี่อาจจะต้องขอให้เราสองคนช่วยส่งข่าวสำคัญบอกพี่หน่อย” พายุกับน้ำหนาวเริ่มรู้สึกระแวง เพราะสายตาของแฟนมีตดูเจ้าเล่ห์อย่างบอกไม่ถูก “พี่จะให้พวกผมสองคนทำอะไร” พายุเป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยปากถามแฟนมีตเป็นคนแรก “พี่อยากได้กำหนดวันที่พวกเราเคยบอกว่าพี่เขาจะปิดร้านเร็วเดือนละครั้ง” “พี่แฟนมีต พี่จะทำอะไร” “นายสองคนไม่อยากรู้เหรอว่าเรื่องที่ได้ยินมา จริงๆ แล้วมันสามารถเชื่อถือได้หรือเปล่า หรือแค่ใครบางคนพยายามปั้นเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง” แฟนมีตหันไปสบตาพายุกับน้ำหนาว เขาเองก็รู้ว่าเรื่องที่ทั้งสองคนได้ยินมามันก็คงสร้างความคลางแคลงใจให้กับพวกเขาไม่น้อย เพียงแค่ไม่รู้ว่าควรจะไปหาข้อมูลหรือตามความจริงของเรื่องนี้จากที่ไหนก็เท่านั้น “ว่าไง นายสองคนพอจะช่วยพี่เรื่องนี้ได้หรือเปล่า” “ไอช่วยมันก็พอช่วยได้อยู่นะครับ แต่ว่า..” พายุหันไปมองหน้าของน้องชายตัวเอง “ผมกับพี่พายุเองก็มีข้อแลกเปลี่ยนมาเสนอพี่เหมือนกัน” น้ำหนาวพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันในความคิดของพี่ชายคงจะเป็นความสามารถพิเศษของคนเกิดมาเป็นฝาแฝดกัน ที่สามารถสื่อสารและรู้ใจกันโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องพูดอะไรออกมา “ลองพูดมาสิ ถ้าพี่ทำให้ได้พี่ก็จะทำให้” “ผมสองคนจะคอยส่งข่าวให้พี่เรื่องของพี่เพนเน่ แต่พี่ต้องมาบอกพวกผมทุกเรื่องด้วยเหมือนกัน ว่าพี่ได้ข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับพี่เพนเน่” “ใช่ครับ พี่อยากได้ข้อมูลพี่เพนเน่ผมกับน้องก็ต้องการด้วยเหมือนกัน” “แล้วนายสองคนจะอยากรู้เรื่องพี่เพนเน่ไปทำไม หรือมีเรื่องอะไรที่พี่ยังไม่รู้หรือเปล่า” แฟนมีตมองหน้าสองพี่น้องด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเพียงเพราะอยากฟังเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติเพื่อความบันเทิงทั้งสองคนก็ดูไม่น่าจะใส่ใจถึงขนาดนี้ แต่นี่พายุและน้ำหนาวมีแววตาที่จริงจังและมุ่งมั่น ราวกับว่าถ้าความจริงเรื่องของเพนเน่เปิดเผยขึ้นมา พวกเขาก็อาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ “เพราะผมสองคนก็มีเหตุผลสำคัญที่ต้องการความจริงไม่ต่างไปจากพี่หรอกครับ เอาไว้ความจริงมันเปิดเผยออกมา พี่บอกเหตุผลของพี่ ผมเล่าเรื่องราวของพวกผม แล้วเราต่างคนต่างแยกย้ายไปจัดการเรื่องของตัวเองแบบนั้นแฟร์ดีไหมครับ” คำพูดของน้ำหนาวในครั้งนี้ยิ่งทำให้แฟนมีตแน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังสงสัย และเรื่องราวที่เป็นปริศนาอยู่ อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่เขาที่กำลังตามหาความจริง “ว่ายังไงครับพี่แฟนมีต ข้อตกลงนี้ผ่านไหมครับ” “ได้ไม่มีปัญหา พวกนายก็ไปเตรียมตัวจัดการตามที่พี่บอกได้เลย” แฟนมีตจับมือทำสัญญาใจกับน้ำหนาวและพายุ เป็นสัญญาณการเริ่มต้นปฏิบัติการตามหาความจริงจากเพนเน่ ที่แฟนมีตเชื่อว่ามันต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งจากความจริงของเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับพาสต้าอย่างแน่นอน : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน