"คือ...ฉันถนัดทั้งสองมือค่ะ"ตอบรัวเร็วเมื่อถูกคนตรงหน้าจ้องมอง
"เหรอ..."ภารันลากเสียงยาว ก่อนจะพยักหน้าทำทีเป็นเข้าใจ หญิงสาวใจชื้นก่อนจะต้องตกใจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเขาพูดประโยคถัดมา
"เธอชอบทานมะเขือเทศตั้งแต่ตอนไหน"
"เออ...ฉันๆ"หญิงสาวพูดไม่ออก เพราะไม่นึกว่าเขาจะสังเกตละเอียดขนาดนี้ เธอพลาดอีกข้อเมื่อนึกได้ว่าเพชรน้ำหนึ่งเกลียดมะเขือเทศ หญิงสาวตั้งสติก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน เมื่อต้องตอบคำถามเขา
"คุณจะทราบเรื่องของฉันทั้งหมดได้ยังไง เมื่อคุณก็ไม่เคยใส่ใจฉัน"ยิ้มอย่างเป็นต่อ เมื่อเห็นหน้าเขาเปลี่ยนสี
"อืม...ก็จริงของเธอ ของบางอย่างไม่ชอบแต่ก็อาจจะเปลี่ยนใจมาชอบได้ ก็คงไม่แปลกอะไร แต่ที่ทำให้ฉันแปลกใจก็คือ..."ภารันหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะมองใบหน้าที่ซีดเผือด
ของเธอ"คะ"ขานรับเพราะอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไร อดกลัวไม่ได้เพราะไม่รู้ว่า เขารู้อะไรมากกว่านี้หรือไม่
"ไม่มีอะไร ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ"ภารันเลือกที่จะไม่พูดอะไร ร่างสูงเก็บความสงสัยเอาไว้ รอหมอ กฤษณะมาตรวจอาการของเขา จะได้ให้เพื่อนช่วยสังเกตพฤติกรรมของเธออีกคน ถึงแม้จะได้ข้อมูลบางอย่างมาจากผู้หวังดี แต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะสมัยนี้ภาพตัดต่อทำได้ง่าย บางรูปทำได้เหมือนกว่ารูปถ่ายเสียอีก
"ข้าวต้มฝีมือคุณเพชรค่ะ"ป้าน้อมบอกอย่างนอบน้อม เมื่อยกชามข้าวต้มมาวางตรงหน้าชายหนุ่ม ภารันมองของที่อยู่ในชาม ก่อนจะเหลือบตามองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มไม่พูดอะไร ลงมือทานอาหารเช้าของตัวเอง
"สายๆอำพลจะเข้ามาเอาเอกสาร..."
เคร้ง!
ช้อนในมือร่วงลงพื้น เมื่อได้ยินชื่อของอำพล
"เป็นอะไร"ถามเมื่อเห็นอาการของเธอ ใบหน้าสวยซีดเผือด อย่าบอกนะว่าเธอกลัวเลขาของเขาจนฝังใจ
"เปล่าค่ะ"ตอบก่อนจะหันไปรับช้อนคันใหม่จากเด็กหมวย
"ขอบใจจ้ะ"ขอบใจเด็กรับใช้อย่างมีมารยา จนคนที่ได้ยินยังแปลกใจ เพชรน้ำหนึ่งไม่เคยขอบใจใคร ยิ่งเป็นคนที่ด้อยกว่า จะไม่มีทางได้รับคำพูดพวกนี้จากเธอ
"ตอนบ่ายหมอกฤษจะแวะมาดูอาการฉัน"ภารันพูดเหมือนเขาต้องการให้เธอรู้ตารางชีวิตของเขา
"ค่ะ"รับปากเขาพร้อมกับนึกถึงคนที่เขาเอ่ยชื่อหมอกฤษณะ เธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
"ข้าวต้มอร่อยนะ ไม่ยักรู้ว่าเธอก็มีฝีมือด้านอาหาร"เอ่ยชมเมื่อทานข้าวต้มหมดชาม
"ถ้างั้นฉันขอดูแลเรื่องอาหารได้ไหมคะ ไหนๆฉันก็ต้องดูแลคุณ"
"ตกลงกับป้าน้อมเอาเองก็แล้วกัน ฉันไม่รู้ว่าป้าน้อมหวงครัวหรือเปล่า"
"พูดอะไรอย่างนั้นคะคุณรัน ป้ายินดีมากๆเลยค่ะที่คุณเพชรจะมาดูแลอาหารของคุณรัน อีกหน่อยแต่งงานกัน คุณเพชรก็ต้องดูแลคุณรันอยู่แล้ว"แม่บ้านตอบอย่างใจดี แก้มสาวร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำว่าแต่งงาน เธอคงไม่ได้แต่งงานกับเขา เพราะดูแล้วเขาไม่ได้พิศวาสเธอสักนิด หรือถ้าต้องแต่งกันจริงๆ เจ้าของตัวจริงของเขาต่างหากที่จะต้องมาทำหน้าที่นี้ เธอก็แค่คู่หมั้นคั่นเวลา ที่มาเพื่อหลอกลวง เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หัวใจดวงน้อยก็รู้สึกหน่วง ทั้งๆที่แน่ใจว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่พอนึกถึงความจริงว่าเขาเป็นของเพชรน้ำหนึ่ง ก็อดใจหายไม่ได้ ข้าวต้มในชามหมดอร่อย เมื่ออยู่ๆก็กลืนไม่ลง
"อิ่มแล้วเหรอ"ภารันถามเมื่อเห็นเธอยกน้ำขึ้นดื่ม
"ค่ะ"ขานรับก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น
"มาประคองฉันหน่อย ฉันอยากไปเดินเล่น"
"ประคอง..."ทวนคำสั่งพร้อมกับมองหน้าเขา จะต้องประคองทำไม เขาไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
"มาเถอะฉันมีอะไรจะให้ดู"หญิงสาวจำใจเดินไปจับแขนแกร่ง แล้วช่วยพยุงให้เขาลุกจากเก้าอี้ เมื่อขัดเขาไม่ได้
"ระวังนะคะ จะเป็นจริงขึ้นมา"พูดกับเขาเมื่อพากันเดินออกไปยังสวนหลังบ้าน ภารันไม่เถียงอะไร แขนแกร่งเกาะเกี่ยวเอวบางเอาไว้ เมื่อพาเดินไปยังแปลงดอกกุหลาบที่เพิ่งปลูกใหม่
"สวยจังเลย"หญิงสาวอุทานอย่างคนละเมอ เมื่อเห็นความสวยงามของภาพตรงหน้า ไม่ใช่เธอไม่เคยเห็นกุหลาบ แต่กุหลาบเหล่านี้สวยเกินห้ามใจจริงๆ
"ชอบไหม"เสียงแหบห้าวกระซิบลงที่ใบหูเล็ก
"ชอบค่ะ"ตอบคำถามโดยไม่ได้คิดอะไร
"ชอบฉันหรือดอกไม้"คำถามนี้มาพร้อมจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างๆแก้ม
"คุณรัน ทำอะไรคะ!"ร้องโวยวายเมื่อได้สติ ก่อนจะขยับตัวหนี ผู้ชายคนนี้บ้าบอสิ้นดี อาศัยตอนที่เธอเผลอมาลวนลามเธอ
"ตอบมาก่อนว่าชอบอะไร"ชายหนุ่มยังถามกลับ แขนที่โอบเอวบางออกแรงรัดเธอแน่นขึ้น
"ชอบดอกไม้ค่ะ ปล่อยได้หรือยังคะ"
"แล้วไม่ชอบเจ้าของดอกไม้บ้างเหรอ"
"เมาค้างหรือไม่สบายคะ ถึงจำคำพูดตัวเองไม่ได้ คุณบอกว่าจะไม่แตะต้องฉัน อย่ากลืนน้ำลายตัวเองสิคะ"
"ใครบอก ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น ฉันพูดว่าถ้าเธอทำให้ฉันถูกใจ บางทีฉันอาจจะให้มากกว่าที่เธอเคยได้ แบบนี้ต่างหาก"
"แล้วที่ผ่านมา ฉันได้อะไรจากคุณคะ"ถามเพราะอยากรู้จริงๆ เพราะเขาย้ำคำพูดนี้กับเธอมาหลายครั้ง
"จำไม่ได้หรือแค่อยากถามกันแน่ นิ้วไง เธอได้นิ้วจากฉัน ฉันยัดมันลงไปในร่องของเธอ"พูดพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาตรงหน้าเธอ 3 นิ้ว
"..."
"ไอ้บ้า! ลามกที่สุด!"มือบางผลักลงที่อกเขา เมื่อได้ยินคำพูดที่มาพร้อมกับท่าทางประกอบ หญิงสาววิ่งหนีไปอีกทาง เมื่อดิ้นหลุดจากวงแขนของเขา หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ เมื่อนึกถึงคำถามของเขา ชอบเขาอย่างนั้นหรือเขาบ้าไปแล้ว
ภารันเดินกลับขึ้นมาชั้นบน ลุงทับที่นั่งดื่มอยู่หน้าบ้านเรียกเขาเอาไว้ พร้อมกับส่งแก้วเหล้าให้เขา ชายหนุ่มมองน้ำสีขาวในแก้ว ก่อนจะรับมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว"เบาสิคุณนั่นเหล้าไม่ใช่น้ำ"ลุงทับเอ่ยเตือน รู้สึกชอบใจกับความเป็นกันเองของหลานเขย"ร้อนท้องเลยครับลุง""เหล้าขาวก็งี้ ไม่เคยนะสิ เมื่อก่อนพ่อไอ้พลอยก็ไม่ดื่ม แต่พอดื่มเข้าไปแล้วติดทุกราย""ลุงสนิทกับคุณกะรัตมากไหมครับ"ถามอย่างต้องการลองเชิง เพราะนึกสงสัยว่าทำไมครอบครัวถึงไม่เอาพลอยพัดชาไปอยู่ด้วย"สนิทสิ ก็น้องเขยนี่""ผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ""ถามอะไรล่ะ ถ้ารู้จะตอบ"ลุงทับพูดก่อนจะส่งแก้วเหล้าให้ภารันอีกรอบ"ทำไมเขาถึงแยกลูกล่ะครับ ลูกแฝดทำไมเขาไม่ให้อยู่ด้วยกัน""ออ...เรื่องนี้นี่เองพูดแล้วยาว เอาเป็นว่าพ่อแม่มันทำถูกแล้วที่แยกไอ้พลอยกับไอ้เพชรออกจากกัน เพชรมันร้ายมันชอบตีน้อง มีอยู่ครั้งหนึ่งเพชรมันผลักน้องตกน้ำ ลุงงมไอ้พลอยขึ้นมากับมือ ดีนะที่ลุงมาทันไม่งั้นคงมีเรื่องเสียใจ เฮ้อ! คุณรู้แค่นี้ก็พอ ต่อไปคุณก็ดูแลไอ้พลอยมันหน่อย พลอยมันน่าสงสาร ไปๆเข้าไปหาเมียได้แล้ว ถ้าอยากดื่มต่อก็ไปขอเมียมาก่อน เดี๋ยวไอ้พลอยจะมาว่าลุงเอาได้ ดูแ
"มาทำไมคะ"ถามเมื่อเขาคลายวงแขนออก และเป็นคำถามที่ทำให้คนฟังอมยิ้ม "มาตามกลับบ้าน"ตอบพร้อมกับก้มลงมาคลอเคลียแถวๆใบหูเล็ก"บ้านใครคะ"ถามอย่างแสนงอน ทั้งๆที่ใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมานอกอก แค่นี้หรือพลอยพัดชา เธอมีวิธีจัดการกับผู้ชายใจร้ายแค่นี้เองหรือ พอเขามาง้อมาทำดีด้วย ทำไมถึงใจอ่อนง่ายดายแบบนี้ หญิงสาวถามตัวเอง เมื่อกำแพงที่สร้างขึ้นมาขวางเขา พังลงอย่างไม่เป็นท่า"กลับบ้านของเรานะครับ พี่คิดถึงพลอยคิดถึงลูก""ลูก! ลูกอะไรกัน""มาปฏิเสธตอนนี้ไม่ทันแล้วครับ พี่รู้แล้วว่าพลอยท้อง และเจ้าตัวเล็กในท้องนี่ก็เป็นลูกของพี่"พูดพร้อมกับลูบมือไปบนหน้าท้องแบนราบเบาๆ"ก็ถ้าลองบอกว่าไม่ใช่ดูสิ ฉันจะสับหน้าคุณ""พลอย! พูดแบบนี้ยอมรับแล้วใช่ไหม พลอยจะกลับบ้านกับพี่ใช่ไหม"ถามด้วยความตื่นเต้น"ฉันยอมรับว่าท้องกับคุณ แต่ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะยอมรับคุณ และก็ไม่ได้บอกด้วยว่าจะกลับกับคุณ""ไม่ต้องบอกพี่ก็รู้ รู้ว่าพลอยต้องกลับกับพี่ พลอยครับอย่าทรมานพี่อีกเลย สองเดือนมานี้พี่ทรมานมากรู้ไหม พี่คิดถึงพลอยทุกวัน""เหรอคะ แล้วคุณจะมาคิดถึงฉันทำไม""ก็เพราะพลอยคือสาเหตุที่ทำให้พี่ทรมานไงครับ""อย่ามาทำเป็นพูด
คุณรันเพชรขอโทษนะคะที่เคยทำเรื่องไม่ดีไว้กับคุณ เพชรไม่มีหน้ามาพบคุณ ไม่กล้าแม้แต่จะโทรหา จึงเขียนจดหมายฝากมา คุณไปตามที่อยู่ที่เพชรเขียนมาในนี้นะคะ แล้วคุณจะเจอหัวใจตัวเองสุดท้ายนี้เพชรอยากจะบอกคุณว่า เพชรดีใจนะคะ ที่เห็นคนที่เพชรรักทั้งสองคนมีความสุข ดูแลยายพลอยกับหลานของเพชรให้ดี ถ้าคุณทำให้น้องของเพชรเสียใจ เพชรจะฆ่าคุณ เพชรน้ำหนึ่งมือที่ถือกระดาษสั่นจนยากจะควบคุม หัวใจเต้นรัวเร็วจนแทบกระดอนออกมานอกอก ตาคู่คมจ้องซ้ำๆอยู่ที่คำว่าหลาน หมายความว่ายังไง หลานของเพชรน้ำหนึ่ง พลอยพัดชาท้องอย่างนั้นหรือ ความตื่นเต้นดีใจตีตื้นขึ้นมาจนจุกอก เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน พลอยพัดชาท้องเขากำลังจะมีลูก คือสิ่งที่ภารันดีใจที่สุด "ประวิทย์เข้ามาหาผมหน่อย"เรียกเลขาเข้ามาสั่งงาน ก่อนจะไปตามหาหัวใจตัวเอง สองเดือนที่ผ่านมาเขาเหมือนคนตายทั้งเป็น เขาคิดถึงพลอยพัดชาทุกวัน เขารู้ใจของตัวเองว่าเขารักเธอ รักผู้หญิงที่เข้ามาสวมรอยเป็นคู่หมั้น ที่มาขโมยหัวใจเขาไป "พ่อกำลังจะไปหาหนูนะลูก บอกกับแม่ว่าให้อภัยพ่อเถอะ พ่อคิดถึงแม่ของหนูที่สุด พ่อรักแม่ของหนูนะลูก"พูดกับลูกน้อย ขอให้ลูกช
[สองเดือนต่อมา]ภารันโมโหหนักที่จนป่านนี้ยังตามหาพลอยพัดชาไม่เจอ ชายหนุ่มพาคุณไพรินตามไปที่บ้านสวน แต่ไม่เจอกับเธอ ตากับยายบอกเพียงแต่ว่าหญิงสาวไปทำงานที่อื่น ท่านทั้งสองเรียกคุณไพรินไปคุยส่วนตัว เขาเห็นคุณไพรินร้องไห้ และนั่งเงียบมาตลอดทางที่เขาขับรถพานางกลับกรุงเทพ นี่ก็สองเดือนแล้วไม่รู้ว่าเธอหนีไปอยู่ที่ไหน ตายายสองคนนั้นก็ใจแข็ง เขาย้อนกลับไปขอโทษและอ้อนวอนขอที่อยู่ของหญิงสาว แต่ท่านทั้งสองก็ไม่ยอมบอก แถมยังไล่เขากลับอีกด้วย ถามจากคุณไพรินก็ไม่ได้อะไรคืบหน้า "คุณรันดูข่าวยังครับ"ประวิทย์เลขาคนใหม่ที่ภารันให้มาทำหน้าที่แทนอำพลถาม เมื่อนำแฟ้มงานมาส่งให้เจ้านาย"ข่าวอะไร"ถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะหงุดหงิดกับเรื่องส่วนตัว"ยิงกันครับ นายแบบหนุ่มถูกยิงเพราะหึงหวง""แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน""ก็คนร้ายที่บุกไปยิงนายแบบ คือคุณอำพล นายแบบที่ถูกยิงเป็นคู่ขากับคุณเพชรน้ำหนึ่ง"คำว่าเพชรน้ำหนึ่งทำให้ตาคู่คมเงยหน้าขึ้นมามองเลขา "ตายไหม""ไม่ครับแต่ก็หนักเอาการ คุณเพชรน้ำหนึ่งก็โดนด้วยสองนัด ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล""ส่งคนไปเฝ้าโรงพยาบาลที่เพชรน้ำหนึ่งรักษาตัว ถ้าเห็นคนที่หน้าเหมือนเธอมาเยี่ยมให
"ตามยายพลอยทันไหมคะคุณรัน"ทันทีที่ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในรั้วบ้าน คุณไพรินก็ถามด้วยความห่วงใย"เพชรน้ำหนึ่งอยู่ไหน!"ภารันไม่ตอบคำถาม แต่ถามหาใครอีกคน"คุณรันคะ เรื่องนี้อาอธิบายได้"คุณไพรินรับหน้าแทนลูกสาว เพราะไม่อยากให้เพชรน้ำหนึ่งทะเลาะกับคู่หมั้น"ผมถามว่าเพชรน้ำหนึ่งอยู่ที่ไหน!"เสียงแหบห้าวตวาดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อไม่ได้ดังใจ"ยายเพชรอยู่ในบ้านค่ะ เชิญคุณรันข้างในบ้านดีกว่าค่ะ""เรียกเธอมาคุยกับผมข้างล่าง ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนไปมากกว่านี้ จะถอนหมั้นให้ผมดีๆ หรือว่าอยากจะเป็นข่าวดัง!"คุณไพรินหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของคู่หมั้นลูกสาว นางรู้ว่าภารันไม่ได้ขู่"เพราะนางพลอยใช่ไหมคุณถึงได้อยากถอนหมั้นกับเพชร"เสียงที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้มุมปากหยักเหยียดยิ้ม"เพราะตัวเธอเองต่างหาก เพชรน้ำหนึ่ง!""เลิกกับฉันก็อย่าหวังเลยว่าคุณจะหานางพลอยเจอ""เพชรแกทำอะไรน้อง!""เพชรไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะแม่ แต่นางพลอยมันรู้ว่ามันควรทำตัวยังไง แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพชรไม่ได้เลวขนาดนั้น""ถ้าพลอยพัดชาเป็นอะไรไป อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"ภารันตวาดเมื่อเพชรน้ำหนึ่งพูดจบ"คุณรัน! คุณปกป้องมัน! คุณรักมันใช่ไห
ฝ่ามือที่ฟาดลงมาบนใบหน้า ไม่ได้มีผลกับความรู้สึกของเพชรน้ำหนึ่งเลยสักนิด เมื่อภาพที่เธอเห็นทำให้หัวใจเจ็บจนชา ภารันวิ่งตามพลอยพัดชาออกไปอย่างเร็ว แล้วขาเขาที่เขาบอกว่าพิการมันหมายความว่ายังไง"แม่! แม่ดูคุณรันสิคะ ขาเขาไม่ได้พิการเลยสักนิด!"หญิงสาวร้องบอกมารดา และได้ผลมือที่แม่ยกขึ้นเพื่อจะทำร้ายเธอลดลงข้างตัว เมื่อมองตามว่าที่ลูกเขยออกไป"เขาโกหกเพชร! ขาเขาไม่ได้บาดเจ็บ ไม่ได้พิการอะไรทั้งนั้น เขาโกหกเพชรค่ะแม่!"เพชรน้ำหนึ่งโวยวาย"หยุดได้แล้วยายเพชร! จะขาดีหรือขาพิการ เราก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว แกทำตัวแกเองทั้งนั้น""เพชรทำอะไร เขาโกหกเพชร แล้วเขาวิ่งตามยายพลอยไปทำไม แม่ต้องจัดการให้เพชรนะ เพชรเป็นคู่หมั้นของเขา""หยุดโวยวายได้แล้ว! คิดหาวิธีรับมือกับเขายังไงดีกว่า เรื่องนี้ฉันจะไม่ยุ่งกับแกอีกแล้ว แค่นี้ฉันก็ทำร้ายยายพลอยมากพอแล้ว"พูดจบก็เดินออกนอกบ้านไปอีกคน ทิ้งให้เพชรน้ำหนึ่งยืนโวยวายอยู่คนเดียว ภารันไม่ได้พิการเขาปกติดีทุกอย่างพลอยพัดชาวิ่งออกมายังถนนหน้าบ้าน มือบางโบกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านไปมา โชคดีที่เธอเอากระเป๋าสตางค์กับมือถือลงมาจากรถเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเงินติดตัวสักบาท