พาขวัญรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเช้าตรู่ เธอจึงรีบ เก็บฟูกที่นอนแล้วกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา แล้วรีบกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อจะไปดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขายัง มีไข้หรือไม่ จะได้บอกกับป้าพิมพ์ของเธอได้ถูก แต่เมื่อเข้ามาถึงที่ห้องของเขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อคนป่วยที่นอนอยู่บนเต
“คุณจะใส่สีไหนคะ” “เธอเลือกมาแล้วกัน” เธอจึงเลือกหยุดชุดสูทสีเทาเข้มมาส่งให้เขาแต่เขากลับไม่ยอมรับ แถมยังยืนเอามือกอดอกมองเธออยู่แบบนั้น ต้องใส่ให้จริงๆสินะ แค่เจ็บเท้า เป็นไข้ ไม่ได้เป็นง่อยเสียหน่อย ทำไมถึงต้องแกล้งเธอแบบนี้ด้วย เธอหยิบเอากาง
พาขวัญนั่งก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารเช้าของตัวเองโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับลูกชายคนโตของเจ้าของบ้านเลย เธอรู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบเธอนัก แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเกลียดเธอถึงขนาดพยายามหาทางกลั่นแกล้งให้เธออยู่บ้านนี้ไม่ได้ขนาดนี้ “พั้นช์ เป็นอะไรลูก ไม่พูดไม่จา เหนื่อยหรอจ๊ะ เมื่อคืนได้นอนหรื
“ขอบคุณมากนะคะ พี่ชิต พี่พุฒ” “ครับ คุณพั้นช์” คนหล่อขมวดคิ้วจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน ทีเขาเรียกคุณ คำพูดคำจาก็แสนจะห่างเหิน ทั้งๆ ที่เขาเป็นลูกของแม่ ถ้าให้ นับถือกันตามศักดิ์เขาก็ไม่ต่างอะไรกับพี่ชายของเธอ แล้วทีกับบอดี้การ์ดของเขา เรียกพี่อย่างสนิทสนม แถมเวลาพูดจากับเจ้าสอ
ทันทีที่รถยนต์คันหรูสีดำมันปลาบแล่นเข้าใกล้ตึกคณะ พิรัชย์ก็เห็นหนุ่มสาวคู่เมื่อเช้านั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินอย่างสนิทสนม กรามแกร่งขบกันจนแน่นอย่างไม่พอใจ “บีบแตรสิชิต มัวแต่อ่อยผู้ชาย จนไม่สนใจอะไรเลย” เสียงแตรรถดังขึ้น ทำให้หนุ่มสาวที่กำลังนั่งดูคลิปตลกในมือถือเครื่องเ
“พีทอิ่มแล้วหรอคะ ทำไมวันนี้ทานน้อยจัง” เธอเอ่ยถามขึ้น เมื่ออยู่ๆ เขาก็รวบช้อนแล้วดื่มน้ำ จนหมดแก้ว “ครับ ผมเพิ่งหายป่วย ยังทานอะไรไม่ค่อยลง อยากพักมากกว่า” “พีทป่วยหรอคะ เป็นอะไร ตอนไหนคะ ทำไมชัญญ่า ไม่รู้” นั่นสิ ทำไมเธอไม่รู้ ทั้งๆที่ปกติ
เสียงออดหน้าประตูคอนโดมิเนียมสุดหรูของมานเมตต์ดังขึ้น ไม่นานบานประตูก็เปิดออกโดยผู้หญิงสาวสวยแต่งกายวาบหวิว ชัญญาภัคยืนตะลึงมองผู้หญิงคนนั้นอยู่นาน คิดว่าเธอคงเป็นคนรักของมานเมตต์ ไหนว่าโสด ไม่มีแฟนไง ทำไมถึงมีผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ห้อง ผู้ชายก็เหมือนกันหมด ขี้โกหกและเห็นแก่ตัว แต่เธอจะคิ
“ไม่รู้ครับแม่ ตื่นมาก็ไม่เจอแล้ว สงสัยกลับไปแล้วมั้งครับ” เขาตอบออกไปอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน เขาจำได้ว่าเมื่อคืน ความที่ร่างกายตัวเองไม่เต็มร้อย เขาทำให้เธอผิดหวังในตัวเขา ป่านนี้ก็คงจะงอนเขาไปแล้ว ไว้ว่างๆค่อยโทรไปง้อก็แล้วกัน “ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า ปกติเราตัวติดกันจะตาย
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..”
“พี่พีท” ภรรยาสาวที่ได้ฟังคำสารภาพบาปของเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เธอเคยได้ยินเขาสารภาพกับแม่ของเขาเหมือนกันว่าเขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง หรือเขาจะจริงจังอะไรกับคำพูดนั้น แต่ที่ไหนได้ มันคือเรื่องจริงหรือนี่ “ตอนนั้นพี่สับสนและรู้สึกผิดมา
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขา
“โอวว เมียจ๋า โคตรเซ็กซี่ อื้มมม พี่จะไม่ไหวเอานะเมียจ๋า อ่าห์ ที่รักกกก” ความอดทนของเขาหมดลงแล้ว จึงเกร็งสะโพกกระแทกกระทั้นตัวตนใหญ่โตในร่องรักของเธอแรงๆ ถี่ๆ จนสาวน้อยของเขาสมใจ นอนหลับตาพริ้มครางกระเส่า “ลืมตามองพี่ ที่รัก” เธอลืมตามาสบตาคมกริบที่เต็มไปด้
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสน
“นายนิมมานต์ หยุด ยกมือขึ้น นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เราล้อมไว้หมดแล้ว ทิ้งปืนซะ ช้าๆ ทิ้งปืนลงพื้น” ชายวัยกลางคนที่ถึงแม้จะสั่งฆ่าคนมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ลงพื้นที่จริงๆ ด้วยตัวเองเลยสักครั้ง จึงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมยกมือขึ้นตามที่ตำรวจบอก แต่เมื่อมองไปทางด้านข้างที่เป็นทางออก
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัว
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผ