“หนูคิดถึงแม่กับป้ามากนะคะ ถ้าเล่มวิจัยหนูเสร็จเมื่อไหร่นะ หนูจะรีบกลับไปกอดไปหอมแม่กับป้าที่บ้านไออุ่นให้หายคิดถึงไปเลย คิดถึงเด็กๆ ที่นั่นด้วย” หญิงสาวพูดสียงอ้อนกับมารดาและป้าของเธอทันทีที่ผละออกจากอ้อมแขนสุดอบอุ่นของท่านทั้งสองหลังจากที่เธอและญะญ๋าเดินมาส่งท่านที่ลานจอดรถของหอพัก พลอยทำให้ท่านทั้งสองต่างยิ้มให้ความขี้อ้อนของเธออย่างเอ็นดู เวลาที่ไม่ได้อยู่บ้านไออุ่นหรืออยู่กันตามลำพังเธอมักจะเรียกแม่ครูเพ็ญว่าป้าเสมอ แต่เมื่ออยู่ในบ้านไออุ่นหรือมีคนอยู่เยอะเธอมักเรียกป้าของเธอว่าแม่ครูเพ็ญ เพราะเด็กที่นั่นจะได้ไม่รู้สึกน้อยใจ ที่เธอมีทั้งแม่และป้าคอยดูแลให้ความอบอุ่นถึงแม้จะขาดพ่อไปก็ตาม
“โตเป็นสาวแล้วยังอ้อนแม่กับป้าเหมือนเด็กๆ เลยนะเรา อายหนูญะญ๋าบ้างสิลูก” เพียงใจพูดกับบุตรสาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ญะญ๋าก็อ้อนคุณพ่อคุณแม่แบบนี้เหมือนกันค่ะคุณน้า”
“เห็นไหมคะแม่ หนูไม่ได้เป็นคนเดียวเสียหน่อย”
“จ้าๆ แม่คนขี้อ้อน แม่กับป้าต้องกลับแล้วนะลูก ดูแลตัวเองกันดีๆ นะ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เขาเป็นห่วงนอนไม่หลับทั้งคืนเลย”
“โธ่ แม่จ๋าา พอใจขอโทษนะคะที่ทำให้แม่เป็นห่วง ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ” เธอเอ่ยขอโทษพลางสวมกอดมารดาอีกครั้งอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะผละไปกอดป้าของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่อด้วยเช่นกัน
“จ้าลูก”
“รักแม่กับป้านะคะ” หญิงสาวพูดกับท่านทั้งสองหลังจากที่มารดาและป้าของเธอขึ้นไปนั่งบนรถเป็นที่เรียบร้อยพลางยกมือโบกลาท่านทั้งสองด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะหันกลับมาหมายจะเดินขึ้นไปบนห้อง แต่ทว่ากลับเจอเข้ากับสายตาคาดคั้นกดดันจ้องมาจากเพื่อนสาวคนสวยของเธอ
“อะ เอ่อ... คือ”
“ยังไง?”
“ขึ้นห้องเดี๋ยว ฉะ ฉันเล่าให้ฟังนะ” พิรตาเดินไปคล้องแขนญะญ๋าเพื่อพาเดินขึ้นไปบนห้อง ใบสวยหวานก็ซีดขาวอย่างรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
┅✹┅
บริษัทนำเข้ารถสปอร์ท ประเทศไทย
“ไอ้รอฟโทรมาบอกว่า มาดามถามหานายครับ บอกว่าให้นายมาทานข้าวที่บ้าน เห็นว่าจะคุยกับนายเรื่องข่าว” นิคเอ่ยรายงานเจ้านายหนุ่มหน้าดุที่กำลังนั่งตรวจเอกสารการนำเข้ารถสปอร์ทด้วยใบหน้าเรียบนิ่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ภายในบริษัทนำเข้ารถยนต์ ซึ่งแม้ที่นี่จะใหญ่โตหรูหราเพียงใด กลับไม่ได้สักครึ่งเสี้ยวของสาขาที่ต่างประเทศหรือแถบยุโรปเลยสักนิดและไม่จำเป็นเลยที่นายใหญ่ผู้กุมบังเหียนธุรกิจแทบทุกอย่างเอาไว้ในมืออย่างลีอันโดรต้องมาดูกิจการที่เมืองไทยด้วยตัวเอง
หากไม่ใช่เพราะ... ตกหลุมรักเด็กจนหัวปักหัวปรำ
ใช่แล้วล่ะ แม้เมืองไทยจะเป็นบ้านเกิดของมาดามดารินมารดาของลีอันโดร แต่ชายหนุ่มก็แทบไม่มาเหยียบที่นี่เลยด้วยซ้ำ หากไม่มีเรื่องด่วนถึงขั้นคอขาดบาดตายที่ระดับบิ๊กบอสอย่างเขา “ลีอันโดร ลอเรนเซียส” ต้องจัดการด้วยตัวเอง
เมื่อสามปีก่อนธุรกิจเดินเรือที่ไทยมีปัญหาทำให้เกิดความเสียหายนับพันล้านบาท ประจวบกับมาดามดารินต้องเดินทางกลับมามอบทุนและสิ่งของเครื่องใช้ที่มูลนิธิบ้านไออุ่นของท่านทุกปี ท่านจึงได้คะยั้นคะยอให้ลูกชายคนโตของท่านที่มาเมืองไทยด้วยกันในครั้งนั้นไปที่บ้านไออุ่นเป็นเพื่อนเธอ...ทำให้เจ้านายของเขาได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่เป็นเพียงลูกสาวแม่ครัวหรือหลานสาวของแม่ครูของบ้านไออุ่น
เหตุการณ์นั้นทำให้เขาต้องติดแหงกอยู่เมืองไทยมาตลอดสามปีแล้ว เขาต้องคอยตามดูตามเฝ้าหญิงสาวอันเป็นที่รักของเจ้านายและรายงานความเคลื่อนไหวให้เจ้านายผู้แสนเย็นชาและปากแข็งทราบทุกวัน วันละสามครั้งหรือมากกว่านั้น งานการอื่นๆ เขาแทบไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการเฝ้าดูแลหัวใจของราชสีห์อย่างลีอันโดร รักเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตาแต่กลับทำเฉยชาเย็นชากับเขา ทำเป็นดุเป็นด่า ทำเป็นแสดงออกว่าไม่สนใจทั้งที่ห่วง หึง หวงเธอกว่าใคร รักเขามากแต่กลับปากแข็ง
เขายังจำวันที่คุณพิรตาป่วยหนักเพราะต้องเดินตากฝนกลับบ้านได้ไม่มีวันลืม เพราะพอเจ้านายเขารู้เข้าก็สั่งกระทืบคนที่ปล่อยให้คุณพิรตาต้องเดินตากฝนจนต้องไปหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลตั้งหลายวัน เขาละอยากจะบอกให้คุณพิรตารู้นักว่านายใหญ่ของเขาหลงรักเธอมากแค่ไหน หมั่นไส้คนปากแข็งชะมัด!
“มึงจะยืนจ้องกู แล้วนินทากูในใจอีกนานไหม!” เสียงห้วนดุของเจ้านายหนุ่มดังขึ้นทำเอานิคหลุดออกจากภวังค์แทบทันที
“เอ่อ นายรู้ได้ไงครับ ว่าผมคิดอะไร โอ้ยย นาย” นิคกระโดดหลบปากกาแท่งหนาที่แพงหูฉี่ทันทีเมื่อมือหนาของเจ้านายขว้างมันมาใส่เขาแต่กลับไม่พ้นอยู่ดี
“กูถามว่าไอ้รอฟมันบอกแม่กูว่ายังไง มึงจะยืนนิ่งจ้องกูให้มันได้อะไรวะ!”
“เอ่อ ไอ้รอฟมันบอกว่า นายงานยุ่งมากครับ”
“หึ! แม่กูคงเชื่อ”
“แถมมันยังบอกอีกว่า มาดามพูดกับมันแปลกๆ บอกว่านายงานยุ่งจริง หรือไม่ได้อยู่ที่สเปนกันแน่ครับนาย”
นั่นไงล่ะ...มาดามดารินแอบให้คนสะกดรอยตามเขาอีกตามเคย คิดว่าเขารู้ไม่ทันแม่หรือไง คราวของยัยเด็กนั่นก็หนหนึ่งแล้วที่แม่เขาแอบให้คนไปตามดูแลเธอลับๆ แต่เขากลับคิดว่ามันตามทำร้ายเธอจนเขาต้องสั่งลูกน้องไปกระทืบมันจนมันยอมบอกความจริงว่าแม่เขาสั่งให้ตามมาดูแลเธอ ส่วนเหตุผลที่แม่ของเขาต้องทำแบบนี้ก็คงเป็นเพราะท่านระแคะระคายเรื่องที่เขาบินมาไทยบ่อยทั้งที่ปกติเขาแทบไม่มาที่นี่เลยด้วยซ้ำ แม้เขาจะกำชับให้ทุกอย่างเป็นความลับแต่ก็ไม่มีทางซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของแม่เขาได้ อีกทั้งท่านก็พยายามหว่านล้อมให้เขามีภรรยาเป็นตัวเป็นตนถึงได้ตามสืบตามดูว่าเขาทำอะไรที่ไหนรวมถึงหมายมาดให้ยัยเด็กซื่อบื้ออย่างพิรตามาเป็นสะใภ้!
“อื้ม โทรจองร้านอาหารให้กูแล้วไปรับพิรตามาหากูที่นี่”
“แต่นายขึ้นเครื่อง 2 ทุ่มนะครับ”
“รู้แล้ว!”
“ตอนนี้ก็จะห้าโมงเข้าไปแล้ว จะมีเวลาหรอครับนาย”
“ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องมาสงสัย กูสั่งอะไรก็ไปทำแค่นั้น”
“ครับนาย” นิครับคำสั่งพลางหมุนเท้าออกไปจากห้องเพื่อไปดำเนินการตามที่นายสั่งทันที
┅✹┅
ทางด้านพิรตาหลังจากที่ขึ้นมาถึงห้อง เธอก็ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อวานหลังจากที่แยกกันกับญะญ๋าเพื่อนสาวของเธอ รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มและเหตุผลที่เขาและเธอต้องนอนอยู่ด้วยกันเมื่อคืนให้ญะญ๋าฟัง
“พอใจ เธอจะขอโทษฉันทำไมฉันไม่ได้โกรธเธอสักหน่อย เธออย่าร้องไห้แบบนี้สิ” ญะญ๋ายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เพื่อนสาวของเธอเบาๆ ด้วยความสงสาร เธอไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนสาวคนสวยของเธอแอบรักลูกชายของผู้มีพระคุณของตัวเองมากขนาดนี้
“ฉันขอโทษที่ปิดบังเธอเรื่องความรู้สึกที่มีต่อคุณลีอันโดร ฉันกลัวว่าเธอจะรังเกียจที่ฉันคิดใฝ่สูงไปรักลูกชายของคุณท่าน ฮึก”
“ขอโทษทำไม มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ”
“ฉันน่ารังเกียจ ฉันต่ำต้อยขนาดนั้นเลยหรอญะญ๋า ทำไมเขาถึงต้องเกลียดฉัน ฮึก ทำไมเขาชอบดุชอบตะคอก ฮึก เขาใจร้าย” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ตัดพ้อกับฐานะตัวเอง และน้อยใจที่ชายหนุ่มเอาแต่ดุเอาแต่ตวาดเธอทุกครั้งที่อยู่ใกล้
“เธอไม่ได้น่ารังเกียจเลยพอใจ ดูสิทั้งสวยและน่ารักขนาดนี้ ใครเห็นก็ต่างรักต่างชอบกันทั้งนั้น เอ่อ คุณลีอันโดร อยู่สูงเกินไปสำหรับ เอ่อ พวกเรา แต่เธอไม่ได้ต่ำต้อยหรอกนะ คือ เธอลองเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาบางสิ บางทีเธออาจจะเลิกรักหรือลืมเขาก็ได้นะ”
พิรตาส่ายหน้าน้อยๆ ในอ้อมกอดของเพื่อนเธอ เธอรู้ตัวเองดีว่าไม่สามารถเลิกรักเขาได้ เพราะถ้าทำได้เธอคงทำได้ไปนานแล้ว และเธอคงไม่ต้องแอบรักเขาตั้งแต่แรก
ทำไมนะ... ทำไมเธอถึงเป็นคนที่เขารักไม่ได้
┅✹┅
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาร่างเล็กที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำหันขวับไปมองที่ประตูด้วยความสงสัยเพราะเธอพึ่งจะแยกกับเพื่อนไปไม่นาน แล้วใครกันที่มาเคาะห้องเธอตอนนี้
“ญะญ๋าลืมอะไรรึเปล่านะ” หญิงสาวพึมพำแปลกใจพลางเดินไปเปิดประตูห้องโดยลืมส่องตาแมว แต่ทว่าคนที่เธอเจอกลับไม่ใช่เพื่อนของตัวเองอย่างที่คิด
“อะ เอ่อ มีอะไรกับหนูรึเปล่าคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยทันทีที่เปิดประตูมาเจอกับลูกน้องของเขาคนเมื่อคืน
“นายให้ผมมารับคุณพอใจครับ”
“รับ? รับไปไหนคะ”
“ไม่ทราบครับ” ด้วยได้รับคำสั่งมาว่าห้ามพูดอะไรกับเธอเกินกว่าที่เจ้านายกำหนด นิคจึงไม่ให้คำตอบอะไรที่ชัดเจนกับหญิงสาวเลย
“งั้นพอใจ...” หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเข้าใกล้เขาให้ตัวเองหวั่นไหวและรู้สึกมากไปกว่านี้แล้ว แต่ก็ต้องชะงักกับประโยคคำสั่งแกมขู่ที่ออกมาจากปากของนิค
“นายบอกว่าถ้าคุณปฏิเสธ นายจะมาเอง และคุณจะเดือดร้อน”
“เอ่อ คือพอใจยังไม่ได้อาบน้ำเลยค่ะ ไม่ได้เตรียมตัวอะไร”
“งั้นผมลงไปรอข้างล่างนะครับ คุณพอใจเสร็จแล้วค่อยลงไปขึ้นรถข้างล่าง” พูดจบนิคก็หันหลังกลับออกไปทันที โดยไม่รอให้เธอเอ่ยอะไรสักอย่างออกไปเลยด้วยซ้ำ
“คนเผด็จการ” หญิงสาวบ่นให้กับความเผด็จการของทั้งเขาและลูกน้องของเขา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อจะได้ไปหาเขาตามบัญชา!
┅✹┅
พรึบ! ตุ้บ!
ทันทีที่รถมาจอดที่หน้าบริษัทใหญ่โตหรูหราตรงหน้าหญิงสาวก็หันขวับไปมองตามเสียงเปิดและปิดประตูที่ดังอยู่อีกฝั่งอย่างตกใจ ก่อนจะสบเข้ากับดวงตาคมกริบแสนดุดันของเขาที่ตวัดมองมา
“สะ สวัสดีค่ะ” พิรตายกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม กลีบปากสวยแยกยิ้มหวานให้เขาทันทีเมื่อเขาขึ้นมานั่งบนรถ และก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้ง
“....” เงียบคือคำตอบ
หญิงสาวยิ้มเจื่อนออกมาพลางก้มหน้ามองที่มือเรียวเล็กของตัวเองที่วางอยู่บนตักอย่างทำตัวไม่ถูก
ลีอันโดรขยับขาแกร่งออกห่างกันเล็กน้อย เมื่อความอึดอัดที่ใจกลางความเป็นชายของเขาเริ่มจะแข็งขึงขึ้นมาเพียงแค่ได้มองสบตาเธอ ทั้งที่เธอไม่ได้แต่งตัวสวยหรือเซ็กซี่อะไรเลยสักนิด ก็แค่เสื้อยืดสีขาวกับกระโปรงทรงสอบน่ารักสีชมพู แค่เธอแต่งตัวแค่นี้ก็ทำเอาเขาหยุดมองไม่ได้แถมยังแข็งชันจนอึดอัดและทรมาน
กายหนุ่มร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ พลางเหงื่อกาฬก็ไหลตามกรอบหน้าและลำตัวจนเสื้อตัวแพงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แล้วแบบนี้เขาจะทิ้งเธอกลับสเปนได้ยังไงกัน ทำไมเขาต้องเสพติดการอยู่กับคนตัวเล็กข้างกายหนักขนาดนี้ด้วยนะ
“ขับเร็วๆ ไม่ได้รึไงวะ” หญิงสาวสะดุ้งตกใจกับเสียงตะคอกลูกน้องของเขา ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดีและหงุดหงิดทุกครั้งที่เจอเธอทำไมเขาต้องให้คนไปรับเธอมาหาด้วย
“ครับนาย”
ไม่นานโรลส์รอยซ์คันหรูที่เธอกับเขานั่งมาก็หยุดจอดที่ร้านอาหารฟิวชั่นใจกลางเมือง ภายนอกตัวร้านประดับประดาไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาชนิด ดูแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นสบายใจจนอดยิ้มออกมาไม่ได้ ทว่าเมื่อเดินมาถึงข้างในร้านคนตัวเล็กก็ฉีกยิ้มกับความสวยงามตรงหน้าอีกครั้ง ข้างในแบ่งเป็นโซนเป็นห้องอย่างสวยงามเป็นระเบียบแสงไฟระยิบระยับตามต้นไม้และดอกไม้นั้นก็แสนโรแมนติกเหลือเกินในความคิดเธอ พนักงานชายเดินนำเขาและเธอขึ้นไปบนชั้นสองของร้านด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม แต่เมื่อมาถึงข้างบนกลับให้ความรู้สึกเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เธอชอบบรรยากาศแบบนี้จัง
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ” พนักงานชายผายมือเชื้อเชิญเขาและเธอให้นั่ง ก่อนที่จะเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธออย่างสุภาพ
“จะกินอะไรก็สั่งซะ มีเวลาไม่มาก”
“เอ่อ พอใจทานอะไรก็ได้ค่ะ คุณลีอันโดรสั่งเลยก็ได้ค่ะ”
“ฉันให้เธอสั่ง! แล้วเผื่อฉันด้วย” เขาตอบออกมาเสียงห้วนแล้วก้มหน้าลงไปที่มือถือเครื่องแพงในมืออย่างหงุดหงิด
“เอ่อ งั้นเอา...” หญิงสาวเลือกสั่งอาหารที่เธอไม่เคยทานพลางขอคำแนะนำจากพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์เสียงสั่นเกร็ง เธอนึกว่าพอมาถึงจะมีอาหารมารอเสิร์ฟแล้วเรานั่งทานอาหารด้วยกันมองหน้ากันอย่างโรแมนติกแบบที่เธอเคยเห็นในละครเสียอีก เห้อ หวังลมๆ แล้งๆ จังเลยเรา
ลีอันโดรลอบมองหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าก้มตาราวกับน้อยใจอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ความจริงเขาสั่งอาหารและเตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอแล้ว แต่เขาแค่แกล้งให้เธอสั่งไปงั้นเอง เวลาปากเล็กคว่ำงอนแบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวว่าทำ มันทำให้เขาชอบและอยากมองบ่อยๆ
ไม่นานพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟและจัดเรียงบนโต๊ะให้อย่างสวยงามน่ารับประทาน แต่ทำไมอาหารตรงหน้าไม่ใช่เมนูที่เธอสั่งเลยสักอย่าง ครั้นจะเอ่ยปากถามทุกคนก็ต่างทยอยเดินออกไปกันหมดแล้ว
พิรตานั่งลอบมองเขาที่ตักกินอาหารเงียบๆ ตาปริบๆ แต่ในเมื่อเขากินไปแล้วเธอก็ขอกินด้วยเลยดีกว่า ที่เธอยังไม่กินเพราะกลัวกินไปแล้วเขาเดินมาบอกว่าเสิร์ฟผิดน่ะ
“ของคุณผู้หญิงครับ”
“คะ?”
พิรตาหันไปเลิกคิ้วมองพนักงานชายคนหนึ่งที่ยื่นถุงกระดาษขนาดกลางมาให้เธออย่างงุนงง เธอรับมาถือและเตรียมจะเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัยใคร่รู้แต่ร่างของบริกรหนุ่มกลับรีบเดินออกไปทันทีราวกับไม่อยากจะเสวนากับเธอ
“คะ คือ” หญิงสาวหยิบสิ่งที่อยู่ข้างในถุงกระดาษขึ้นมาดูก็พบเข้ากับกล่องมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ ราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะมันต้องแพงหูฉี่มากแน่นอน แต่ทว่าใครกันล่ะที่เป็นคนเอามาให้เธอ หญิงสาวคิดพลางเงยหน้าไปมองเขาที่กำลังนั่งทานอาหารเงียบๆ ไม่พูดไม่จาไม่สนใจเลยสักนิดว่าเธอกำลังตื่นเต้นและตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแค่ไหน
พิรตาหยิบสมาร์ทโฟนในกล่องขึ้นมาดูอย่างสงสัย ก่อนจะต้องอมยิ้มออกมาอย่างขบขันกับภาพหน้าจอมือถือตรงหน้า... มันคือภาพของเขาที่นั่งทำหน้าเรียบนิ่งที่กำลังใช้สายตาดุๆ มองออกมาจากจอโทรศัพท์ในมือเธอ
“ขำอะไร!” เขาถามเสียงดุอย่างหงุดหงิด
“คุณลีอันโดร ซื้อมือถือให้พอใจหรอคะ”
“เห็นอยู่แล้วยังจะถาม! ไม่ได้ตั้งใจซื้อให้หรอกนะ แค่เห็นสภาพมือถือของเธอแล้วเคืองตา” ใช่สิ มือถือเธอมันเก่ามากแล้ว แถมเมื่อคืนตอนที่โดนฉุดกระชากก็ทำให้หน้าจอมือถือเธอแตกร้าวไปกว่าครึ่งด้วย
“ขอบคุณนะคะ สำหรับอาหารมื้อนี้แล้วก็มือถือเครื่องนี้ด้วย”
“ห้ามมีเบอร์ผู้ชายคนไหน นอกจากเบอร์ฉัน!”
“ขะ คะ?”
“เข้าใจที่พูดไหม!”
“เข้าใจค่ะๆ” พิรตารีบตอบออกมารัวเร็วด้วยกลัวว่าเขาจะดุอีก เมื่อไหร่คุณจะเลิกดุพอใจกันคะ
“อิ่มแล้วก็ลุกสิ”
ลีอันโดรก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ... ใกล้ถึงเวลาที่เขาต้องกลับแล้วสินะ ชายหนุ่มมองคนตัวเล็กที่ลุกจากเก้าอี้ด้วยท่าทีนิ่มนวล ร่างสูงเดินไปคว้ามือเรียวสวยมากุมไว้ในมือหนาของเขาหลวมๆ แล้วออกตัวเดินลงไปข้างล่างทันที
“เอ่อ...”
พิรตามองมือเล็กของตัวเองที่ถูกมือหนาของเขากอบกุมไว้ด้วยความตกใจแต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเขิน แม้วันนี้จะโดนเขาดุเขาต่อว่าแต่ทำไมเธอมีความสุขจัง ขอเธอเก็บช่วงเวลาเหล่านี้ไว้ในความทรงจำที่ดีมากๆ ของเธอแล้วกัน
“กลัวคุณพอใจหายหรอครับนาย จับแน่นเชียว” ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ลูกน้องแซว เขาคงจะสลัดมือเล็กที่กุมไว้ทิ้งไปแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับยิ่งกุมมือเธอแน่นขึ้นไม่ได้สนใจคำพูดของลูกน้องเลยสักนิด
“ไปได้แล้ว!”
นิคค่อนข้างแปลกใจที่ครั้งนี้เขาไม่โดนเจ้านายหนุ่มดุเหมือนทุกครั้งที่เขาแซว นิคเดินอ้อมไปเปิดประตูเพื่อให้หญิงสาวข้างกายเจ้านายเข้าไปนั่ง แต่ทว่าเจ้านายเขากลับยังกุมมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยให้เธอขึ้นไปนั่ง
“เอ่อ เข้าไปในรถเถอะค่ะ” เธอเอ่ยบอกเขาพลางค่อยๆ ดึงมือบางออกมาก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ
ลีอันโดรเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งเพื่อเข้าไปนั่งทันทีด้วยใบหน้าบูดบึ้ง นิคมองตามเจ้านายหนุ่มอย่างมึนงง อยากจะขำก็ไม่กล้า นี่เจ้านายเขางอนงั้นหรอ งอนที่คุณพอใจดึงมือออกเมื่อกี้นี่นะ โอ้ยย ฟ้าต้องถล่มแน่ชายผู้เคร่งขรึมและเย็นชาที่สุดในสามโลกกำลังงอนเพราะผู้หญิงไม่จับมือ ฮ่าๆ
หลายชั่วโมงผ่านไป..."อื้อ.. พะ พอแล้วค่ะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทันนะ" พิรตาพูดพร้อมกับดันบ่าแกร่งของสามีเอาไว้เมื่อเขานั้นทำราวกับจะเข้ามากอดมาจูบเธออีกครั้ง ในห้องน้ำก็สองยกบนเตียงก็หนึ่ง นี่เขายังจะทำกับเธอในห้องแต่งตัวอีกหรือไงกัน"ก็ใครอยากให้น่ารักขนาดนี้ล่ะ จุ๊บ!""อื้อ! รีบใส่เสื้อผ้าเลยนะคะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวให้สามีหนุ่ม ก่อนจะผละตัวออกมายืนให้ห่างกับคนจอมหื่น"คร้าบบม๊ามี๊..."ฟรึ่บ!"อร๊ายยย"ชายหนุ่มยื่นมือไปรับเสื้อที่เธอส่งให้ก่อนจะกระตุกที่ชายเสื้อจนร่างเล็กที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังเรือนร่างถึงกับเซถลาตามแรงดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขา"ก่อนใส่เสื้อ... ขอกินนมม๊ามี๊ก่อน"จ๊วบ!"อร๊ายย... คนเจ้าเล่ห์" แม้ปากจะต่อว่าเขาแต่มือเรียวกลับยกขึ้นมาบีบบ่าแกร่งของเขาแน่น เมื่อเขาก้มหน้าลงมาดูดที่ยอดทรวงหวานสีช้ำจากแรงดูดกินของเขา ปากหยักเพิ่มแรงดูดดึงจนเธอแทบทรงตัวไม่อยู่เพราะถูกความเสียวซ่านจากปลายลิ้นร้อนเล่นงานสุดท้ายก็แพ้เขาอีกตามเคยสินะ"อื้อ.. พอแล้วค่ะ พอ" หญิงสาวพูดกับร่างสูงที่ดูดเม้มหน้าอกเธออย่างเมามันอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงยอมผละกลีบปากออกมา แต่ทว่าก
"นะ หนูจะทำอะไร? พอใจ อ๊า!!" ร่างสูงร้องถามเสียงหลงเมื่อทันทีที่เธอขึ้นคร่อมทับเขาพิรตาไม่ตอบแต่กลับใช้มือเล็กคว้าท่อนเอ็นอุ่นที่แข็งขึงตั้งลำตรงจับสอดเข้ามาในร่องรักของตัวเองราวกับสาวร้อนรัก ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ส่งเสียงครางซี๊ดปากอย่างเสียวซ่าน มือหนาที่พึ่งหยิบเครื่องป้องกันมา กำแน่นอย่างทรมานเมื่อสะโพกมนขยับส่ายวนไปมาอย่างยั่วเย้าบนแท่งรักที่อยู่ในกายสาวของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็ต้องรีบยกไปจับที่เอวคอดเล็กเอาไว้แล้วบีบเคล้นเนื้อเนียนนุ่มเพื่อระบายความเสียวกลางกายสาวของเธอนั้นตอดความแข็งขึงเขาเป็นจังหวะจนเขานั้นปวดร้าวและทรมานไปทั้งลำ ยิ่งเธอส่ายวนสะโพกอย่างร่านร้อนชนิดที่ไม่ได้กลัวเอวหักเลยสักนิดก็ยิ่งทำเอาเขาเสียวทรมานจนต้องกัดกรามแกร่งเอาไว้แน่น"คุณใหญ่จะลงโทษที่พอใจขัดคำสั่งหรอคะ" ถามเสียงกระเส่าพร้อมกับกดสะโพกลงไปบนท่อนเอ็นของเขาหนักๆ แม้จะเสียวและทรมานไม่แพ้กับเขา แต่ยกนี้เธอต้องเป็นฝ่ายชนะเขาเท่านั้น"อ๊าาา... ซี๊ดด พะ พอก่อนที่รัก อ๊ะ!""พอได้ไงล่ะคะ... คุณใหญ่ยังไม่โดนฟาดเลยที่ทำตัวงี่เง่า!"เพลียะ!!!ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของเมียรักทันที หึ คงคิดว่าเขาจะโดนฟาดที่อื่นใช่ไห
"อ้ะ คุณใหญ่!!"หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บเมื่อถูกผู้เป็นสามีฟาดฝ่ามือลงมาที่สะโพกกลมมนอย่างไม่เบามือนัก ร่างบางที่กำลังถูกอุ้มพาดบ่าแกร่งดีดดิ้นไปมาพลางร้องขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็หาได้มีคนกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน เพราะแค่ถูกคนบ้าอำนาจที่อุ้มเธออยู่ตอนนี้ปรายตามองด้วยสายตาดุดันคาดโทษ ทุกคนก็ต่างก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัวก่อนจะเดินหลบเลี่ยงไปอีกทางทันที"ช่วยด้วยค่ะ ป้าพอลล่าช่วยพอใจด้วยย...คุณใหญ่ปล่อยพอใจลงเดี๋ยวนี้นะคะ!""กะ เกิดอะไรขึ้นกันคะนายใหญ่ ทำไมถึง…" ป้าพอลล่าหัวหน้าแม่บ้านที่พึ่งเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้กับเหตุการณ์ตรงหน้า"ไปบอกไอ้รอฟให้ไปส่งเนลล่าที่โรงเรียน แล้วบอกมันเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่าย!" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสูงวัย แต่กลับหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันน่ากลัวแทน"ตะ แต่ว่าา...นายญะ…""ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็หุบปากและรีบไปทำตามที่ฉันสั่งซะ!"ร่างสูงตะคอกเสียงดุใส่หญิงชราหัวหน้าแม่บ้านก่อนจะอุ้มร่างบางที่ยังคงดีดดิ้นบนบ่าเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ปล่อยให้คนที่ถูกตะคอกเส
ครืด ครืด ครืด~เสียงมือถือเครื่องบางที่ดังขึ้นอยู่โต๊ะเล็กข้างเตียงนั้น ทำเอาเปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปรือปรอยเปิดเปลือกตามองไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนนั้นอย่างแปลกใจที่ถูกรบกวนตั้งแต่เช้ามือเรียวเล็กเอื้อมไปหยิบมือถือที่ส่งเสียงดังเข้ามาถือเพื่อเตรียมจะกดรับ แต่ทว่าเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือนั้นก็ทำเอาคนที่สะลึมสะลือในตอนแรกต้องรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะแปดโมงเช้าแล้ว ซึ่งมันก็คือเวลาที่ลูกสาวตัวน้อยนั้นต้องได้ทานข้าวเพื่อเตรียมจะไปโรงเรียน แต่คนเป็นแม่อย่างเธอกลับนอนตื่นสาย ทั้งที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนดึกมากแถมไม่ได้ถูกสามีรังแกก่อนนอนด้วย"ตายละ... เนลล่าต้องงอนแน่เลย" พิรตาพึมพำพลางเตรียมจะลุกจากเตียงโดยไม่สนใจมือถือที่ส่งเสียงดังไม่หยุดของตัวเองเลยสักนิดเมื่อเห็นว่าตอนนี้สายเกินกว่าที่เธอจะให้ความสนใจได้ ใจเธอตอนนี้กังวลกลัวว่าจะลงไปทำอาหารให้ลูกน้อยและสามีทานไม่ทันเป็นที่สุด เนื่องจากลูกสาวตัวน้อยนั้นหากไม่ได้กินข้าวต้มกุ้งของโปรดฝีมือของมารดาในตอนเช้าหนูน้อยจะต้องเกิดอาการงอนจนไม่ยอมทานข้าวแน่คิดได้ดังนั้นร่างบางของเธอจึงรีบดีดตัว
"อะ เอ่อ…"พิรตาครางในลำคอพร้อมกับแอบเหลือบสายตามองสำรวจร่างกำยำของสามีที่เดินเปลือยท่อนบนโชว์เรือนร่างกำยำด้วยสายตาชื่นชมอย่างลืมตัว คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่หุ่นสมบูรณ์แบบและเพอร์เฟคมากไม่ว่าจะเป็นแผงอกที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามรวมไปถึงลอนกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันเป็นก้อนสวยงามชวนมอง แม้ว่าเขาจะอายุปาไป 36 ปีแล้วแต่เขากลับดูดีขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่ออายุมากขึ้นและยิ่งทำให้เธออดที่จะหวงแหนเขาไม่ได้หวงหรอ?พิรตานึกถึงคำพูดของบุตรสาวที่เอ่ยบอกเธอเมื่อตอนหัวค่ำ…คุณครูบอกว่าอยากเจอแด๊ดดี๊เพราะแด๊ดดี๊หล่องั้นหรอ? เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย!"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงอย่างอับอายที่เผลอตัวแอบมองเขานานสองนาน สายตากลมหวานเลื่อนไปมองหน้าหล่อเหลาของสามีเล็กน้อยก่อนจะขยับเดินเข้าไปหาเขา"ทำไมอาบน้ำก่อนพอใจคะ" ถามพลางยกเรียวแขนเล็กขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งเอาไว้แล้วมองเข้าไปในตาดุคมของเขาอย่างกระเง้ากระงอด"พี่เหนียวตัวน่ะ เลยอาบไปก่อน" เขาตอบพร้อมกับยกมือขึ้นแกะแขนเล็กออก ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวพิรตามองตามแผ่นหลังแน่นตึงของผู้เป็นสามีที่กำลังเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยสายตาตัดพ้อ เธออ่อย
"คุณผู้หญิงคะ นายใหญ่บอกว่าไม่หิวค่ะให้คุณผู้หญิงกับคุณหนูทานกันเลยค่ะ" เสียงรายงานของสาวใช้ทำเอาคนที่กำลังถูกบุตรสาวออดอ้อนให้ป้อนอาหารอยู่ถึงกับชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวทันที"มะ ไม่หิวหรอจ๊ะ""เอ่อ... ค่ะ""ม๊ามี๊ขาาา ป้อนได้เเล้วค่ะ" เสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้มารดาที่กำลังเหม่อกับคำตอบของสาวใช้รีบป้อนอาหารให้หนูน้อยดังขึ้น ทำเอาพิรตาตัดใจแล้วหันไปตักแกงจืดเต้าหูหมูสับเมนูโปรดของลูกรักป้อนให้ทันที หญิงสาวตักป้อนบุตรสาวเงียบๆ พลางส่งยิ้มหวานให้ลูกรักไปด้วย แต่ตัวเธอนั้นไม่ยอมแตะอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำเลยด้วยซ้ำ"วันนี้รอแด๊ดดี๊นานไหมคะคนเก่ง" หญิงสาวเอ่ยถามลูกน้อยที่กำลังวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ หลังจากที่อิ่มจากการทานมื้อค่ำไปแล้ว"วันนี้แด๊ดดี๊ไม่ได้ไปรับเนลล่าค่ะม๊ามี๊" คำตอบของลูกน้อยนั้นทำเอาคิ้วคนถามขมวดมุ่นอย่างแปลกใจทันที เกิดอะไรขึ้นกันปกติคุณใหญ่จะต้องไปรับลูกด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้งานจะยุ่งแค่ไหนเขาก็จะปลีกตัวมารับลูกก่อน แต่เหตุใดวันนี้เนลล่าถึงบอกว่าเขาไม่ได้ไปรับ"สงสัยแด๊ดดี๊กำลังยุ่งๆ อยู่กับงานถึงไปรับคนเก่งของม๊ามี๊ไม่ได้" พิรตาพยายามพูดแก้ต่างให้กับสามีเพราะไม่อยากให้บุตรสาว