共有

บทที่ 3

作者: Ballamira
last update 最終更新日: 2025-11-17 14:35:20

1

It’ s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย

จุดเริ่มต้น

คฤหาสน์ Black swan

แสงแดดช่วงยามสายสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนหรู ปลุกให้คนตัวเล็กที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนขนาดหกฟุตรู้สึกตัวขึ้นมา ขนมผิงขยับร่างกายเอนหลังพิงกับหัวเตียงแล้วกวาดสายตามองบริเวณรอบห้องนอน ที่นี่ไม่ใช่ห้องทำงานบนตึกสูงสีดำตระหง่าน แต่เป็นห้องของใครบางคน

เธอสำรวจมองร่างกายตนเองที่มีเพียงเชิ้ตขาวสวมอยู่เพียงชิ้นเดียว หรือเมื่อคืนไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง นี่เธอนอนกับเพื่อนตัวเองที่มีแฟนอยู่แล้วจริง ๆ เหรอ รอยดูดบนร่างกายและร่องรอยการร่วมรักบนเตียงบ่งบอกชัดเจน ขนมผิงมีสีหน้าเศร้า นึกละอายแก่ใจที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป ขาเรียวก้าวลงมาจากเตียง ดวงตามองหาข้าวของของตนเอง แต่ไม่ทันที่เท้าจะแตะลงบนพื้นเสียงของใครบางคนก็เอ่ยขึ้นจากทางประตูห้อง

“จะไปไหน”

“ริว” เธออุทานชื่อเขาออกมาเสียงเบาพร้อมกับชักเท้าขึ้นบนเตียงด้วยท่าทางตกใจ ริวเซย์เดินเข้ามาใกล้แล้วหย่อนตัวนั่งลงปลายเตียง สายตาไล่มองสภาพคนตรงหน้า

“จำได้ไหม ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”

“ผิงโดนแขกวางยา แล้วหลังจากนั้น…”

“เราเอากัน” พอได้ยินคำนั้นออกมาจากปากริวเซย์ใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมา ขนมผิงไม่กล้ามองหน้าเขา เธอหลบสายตา เข่าชันขึ้นแล้วใช้อ้อมแขนกอดตนเองขดอยู่บนเตียงต่อหน้าทายาทมาเฟียในคราบนักศึกษาคณะวิศวะ ขนมผิงไม่เคยรู้เบื้องหลังของริวเซย์มาก่อน พอมารู้แบบนี้ เธอเองก็ทำตัวไม่ถูก

“ผิงจำไม่ค่อยได้ แล้วเราจะทำยังไงดี”

“ข้อตกลงเมื่อคืนห้ามบอกใคร ยังจำได้รึเปล่า”

“ตรงนี้จำได้ ห้ามบอกใคร โดยเฉพาะไดอาน่า” เธอทวนเบา ๆ ด้วยความเจ็บถึงก้นบึ้งหัวใจ เจ็บที่ตนเองปล่อยครั้งแรกกับคนมีเจ้าของ แต่เธอจะคิดซะว่าทำเพื่อพ่อที่กำลังนอนรอความตาย ทำเพื่อแม่ที่เสียชีวิตไปอย่างอนาถ

“ผิงบอกว่าต้องการเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดของพ่อ ริวจะรักษาคำพูด” พูดจบร่างหนาในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงขายาวตัวแพงสีเดียวกันก็ลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วเดินไปยังลิ้นชัก ริวเซย์หยิบเช็คเงินสดออกมาก่อนจะเขียนจำนวนเงินและฉีกออกมายื่นให้เพื่อนสาวคนสนิทที่นั่งอยู่บนเตียงในท่าเดิม ท่าทางของขนมผิงดูอิดโรยและเหนื่อยล้า

“ขอบคุณริวนะ ที่ช่วยเมื่อคืน แล้วเรื่องเงินนี่ด้วย”

“ผิงเองก็แลกมันมาด้วยร่างกายไม่ใช่เหรอ ถือว่าริวช่วยในฐานะเพื่อน”

“ผิงขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ปากถามมือก็ขยํ้าผ้าห่มแน่นด้วยอาการประหม่า

“ว่ามาสิ”

“สัญลักษณ์ไม้กางเขน มันคืออะไร…”

“มันไม่ใช่เรื่องที่ผิงควรยุ่ง”

“…ริวไม่ใช่แค่นักศึกษาธรรมดาใช่ไหม”

“อืม ที่ไม่ได้บอกผิงกับยูเพราะกลัวตกใจกัน”

“อื้อ ผะ ผิง ขอตัวกลับก่อนนะ” ขนมผิงเอ่ยออกมาเสียงสั่นด้วยความตกใจ ใครจะไปนึกว่าเพื่อนสนิทของตนเองจะกลายมาเป็นทายาทมาเฟียในวัยแค่ 22 ปี

ริวเซย์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขามองตามร่างคนตัวเล็กที่เดินไม่ถนัดจนกระทั่งเธอเดินออกไปจากห้องของเขาพร้อมกับข้าวของของตนเอง ก่อนจะออกจากห้องไปขนมผิงก็ไม่ลืมสวมซับในตัวเมื่อคืนแบบลวก ๆ เมื่อคืนขนมผิงจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่เขาจำได้ทุกคำพูดและทุกการกระทำ บทสวาทเมื่อคืนมันไม่ได้หยุดแค่ที่ห้องทำงาน พอกลับมาที่คฤหาสน์ เขาและเธอก็ยังทำต่อจนหมดแรง

“เพื่อนคุณริวขึ้นแท็กซี่กลับไปแล้วครับ” ไม่นานมากนิกมือขวาของริวเซย์ก็เดินเข้ามารายงาน

“ไปสืบเรื่องอุบัติเหตุครั้งล่าสุดของพ่อเธอมา”

“ครับ” มือขวาอย่างนิกรับคำสั่งก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของริวเซย์

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน

เสียงรถกระบะคันเก่าเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านสองชั้นหลังใหญ่แต่ข้าวของภายในบ้านกลับไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ‘อนุพงศ์’ พาร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลเข้ามาในบ้านก่อนจะทรุดตัวหมดเรี่ยวแรงลงบนพื้น

“พ่อ !”

เด็กหญิงวัยสิบขวดพูดออกมาเสียงดังด้วยความตกใจพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาอนุพงศ์

“พ่อ พ่อคะ…แม่ ! พ่อบาดเจ็บอีกแล้วค่ะ มาดูพ่อหน่อย”

‘ขนมผิง’ เรียกให้ ‘ใบบัว’ แม่แท้ ๆ ของเธอให้เข้ามาดูอาการอนุพงศ์ที่นอนครวญครางเจ็บเจียนตาย ดวงตากลมโตมองสำรวจร่างกายอนุพงศ์ก็พบว่าเขาโดนยิง เด็กสาวสั่นระริกด้วยความสงสารพ่อ ไม่นานมากใบบัวก็รีบวิ่งออกมาจากห้องครัวด้วยความตกใจ

“คุณคะ…ผิงไปหยิบโทรศัพท์มาให้แม่”

“อย่า อย่าเรียกรถพยาบาล…”

นํ้าเสียงของคนใกล้จะหมดแรงเอ่ยออกมา ขนมผิงไม่ได้ฟังคำพูดอนุพงศ์ เธอรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ปุ่มกดเครื่องเก่ามายื่นให้ใบบัว

“แต่คุณโดนยิงต้องไปโรงพยาบาล ฉันขอร้องเถอะค่ะ รอบนี้มันหนักมากจริง ๆ” ใบบัวเอ่ยพูดเสียงสั่น

“เราตายแน่ถ้าผมไปโรงพยาบาล”

“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงพงศ์”

“ทำแผลให้ผม มันไม่ได้โดนจุดสำคัญ”

อนุพงศ์พยายามเค้นเสียงพูด ทั้งใบบัวและขนมผิงก็พากันพยุงร่างอนุพงศ์มานอนลงบนเตียงนอนก่อนจะหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลออกมา ขนมผิงนั่งกอดเข่ามองอนุพงศ์ที่กำลังใช้แอลกอฮอล์ราดลงแผลตนเองพร้อมกับเสียงครวญครางที่ร้องออกมาด้วยความทรมาน ข้างกายกันมีใบบัวที่นั่งร้องไห้และคอยช่วยสามีทำแผล ยังโชคดีที่กระสุนแค่เฉียดและไม่โดนจุดสำคัญจึงทำให้การทำแผลผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ร่างของอนุพงศ์เองก็ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงหลังทำแผลเสร็จ

“เมื่อไหร่คุณจะเลิกทำงานนี้สักที หรือต้องรอให้ตายไปก่อนถึงจะเลิก”

“ถ้าผมหยุด แล้วครอบครัวเราจะอยู่ยังไง ไหนจะหนี้อีกหลายล้าน คุณกับลูกรับผิดชอบไหวเหรอ”

“คุณไปทำงานอื่นก็ได้นี่ งานที่มันไม่อันตรายแบบนี้”

“ไม่มีงานอื่นที่ได้เงินดีขนาดนี้แล้ว…”

ขนมผิงนั่งฟังพ่อกับแม่คุยกันด้วยความอยากรู้ เธอรู้แค่ว่างานของอนุพงศ์อันตรายมาก แต่มันก็แลกมาด้วยเงินก้อนโต อนุพงศ์ไม่เคยบอกใบบัวหรือเธอเลยว่างานของเขาเกี่ยวกับอะไรและทำที่ไหน อนุพงศ์จะชอบหายไปทำงานทีละสองสามอาทิตย์หรือบางทีเป็นเดือน ไปแต่ละทีก็ติดต่อยาก ทิ้งให้เธอกับแม่ต้องอยู่ด้วยความหวังอย่างลำพัง หวังว่าทุกครั้งที่อนุพงศ์รอดกลับมาเขาจะไม่เป็นอะไรมาก และเหตุการณ์อย่างวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว

“คุณบอกฉันสักทีได้มั้ยว่าคุณไม่ได้ทำงานผิดกฎหมายพงศ์”

“ผมสัญญา หมดนี้แล้วผมจะหยุด”

มันเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว อนุพงศ์ไม่ยอมบอกถึงงานที่ตนเองทำอยู่ สาเหตุที่พ่อของเธอต้องทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้เพราะครอบครัวถูกคนไว้ใจหักหลัง ขโมยเงินและของสำคัญไปหมด แถมยังทำให้กิจการรับจำนำของครอบครัวขนมผิงต้องพังยับเยินไม่เป็นท่า ถึงแม้ตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้แต่ทรัพย์สินของครอบครัวเธอก็ถูกนำไปละลายลงบ่อนพนันหมดแล้ว แถมคนร้ายยังถูกประกันตัวออกมาและหนีออกนอกประเทศไป พอตกที่นั่งลำบาก ไม่มีเงินสำรองในการหมุนก็เกิดปัญหาจนต้องไปกู้ยืมธนาคาร ธุรกิจโรงรับจำนำปิดตัวลงเพราะปัญหาหลายอย่าง พอเริ่มธุรกิจใหม่ก็มีแต่พังกับพัง ขาดทุน และเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอนุพงศ์ต้องถอนตัวออกมาและก้าวเข้าสู่อาชีพนี้

5 ปีต่อมา

เกือบสิบปีแล้วที่อนุพงศ์พงศ์ทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ตั้งแต่ขนมผิงอายุ 5 ขวบ จนตอนนี้อายุของเธอครบ 15 ขนมผิงเรียนจบชั้นมัธยมต้น เธอถือใบประกาศนียบัตรกลับมาที่บ้านเพื่อจะอวดกับพ่อแม่ แต่พอกลับมาถึงก็เห็นตำรวจและเจ้าหน้าที่รายล้อมบริเวณบ้านเอาไว้หมด ชาวบ้านแถวนั้นมามุงดูขนมผิงยืนตัวแข็ง หัวใจเต้นแรง งุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านของเธอ

“หนู…”

เสียงของใครบางคนแทรกเข้ามาในโซนประสาท จนทำให้ขนมผิงดึงสติกลับมา ปรากฏว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“คะ ?”

“หนูคือขวัญจิราลูกสาวของใบบัวใช่ไหม”

“ค่ะ…มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ทะ ทำไม…”

“หนูฟังลุงให้ดีนะลูก แม่ของหนู ไม่อยู่แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นสมองของเธอก็อื้ออึงไปหมด หัวใจแตกสลายร่างกายแทบหมดเรี่ยวแรง นํ้าตามันไหลพรากออกมาจากดวงตาแบบไม่มีเหตุผล

“ไม่จริง…”

“…”

“แม่หนู ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

ขนมผิงราวกับคนเสียสติ เธอทิ้งใบประกาศนียบัตรแล้ววิ่งฝ่าเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในบ้านเพื่อจะดูศพของใบบัว

“ใบบัว…อย่าทิ้งผมไป ใบบัว !”

เธอยืนนิ่งเมื่อเห็นอนุพงศ์ร้องไห้โวยวายเหมือนคนเสียสติ เจ้าหน้าที่กำลังพยายามพาร่างเขาออกจากศพที่นอนจมกองเลือด ชิ้นส่วนของศพแทบแยกไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน ขนมผิงสติหลุด ภาพตรงหน้าพร่าเบลอ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้ง เธอกรีดร้องออกมา พยายามสะบัดร่างกายออกเจ้าหน้าที่แล้วเข้าไปกอดอนุพงศ์

“พ่อคะ…พ่อ หนูอยู่นี่ ฮึก…”

กลั้นไม่ไหวแล้ว นํ้าตามันไหลออกมาไม่หยุด สองพ่อลูกถูกเจ้าหน้าที่นำตัวออกไปจากเหตุการณ์น่าสลด

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นอนุพงศ์และขนมผิงก็จัดทำพิธีศพง่าย ๆ ให้กับใบบัว อนุพงศ์เชื่อว่าการตายของภรรยาไม่ปกติ แต่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ก็สรุปตรงกันว่าเป็นอุบัติเหตุ ทั้งที่สภาพศพมันไม่ควรสรุปการตายเป็นแบบนั้น อนุพงศ์เสียใจกับการจากไปของภรรยา เขาทำทุกวิถีทางเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับเธอแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายอนุพงศ์ก็กลายเป็นคนเสียสติจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ส่วนขนมผิงก็ยังติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิตของใบบัวมาตลอด และสักวันเธอจะต้องหาคำตอบให้ได้

เวลาล่วงเลยผ่านมาจนกระทั่งขนมผิงเรียนจบมัธยมปลาย โดยที่เธอเป็นคนหาเงินส่งตัวเองเรียนมาตลอดและยังคอยดูแลพ่อที่เสียสติอย่างอนุพงศ์ หลังจากการจากไปของใบบัว อนุพงศ์ก็ไม่ได้กลับไปทำงานอีกเลย ถึงแม้บางครั้งจะมีคนแปลก ๆ มาคอยจับตามองที่หน้าบ้านของเธอก็ตาม

“พ่อคะ…หนูสอบได้ทุนเรียนมหาลัยที่กรุงเทพ ฯ เราย้ายไปอยู่กรุงเทพ ฯ กันนะ” เสียงหวานเอ่ยกับชายเสียสติตรงหน้า

“ไม่ไป…ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่กับภรรยาที่นี่”

“เราต้องไปค่ะ แล้วจะพาแม่ไปด้วย ดีมั้ยคะ ?”

“ไปด้วย ไปด้วย…ใบบัวไปด้วย”

“ใช่ค่ะ แม่ไปด้วย”

กริ๊ง~

เสียงกดกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ขนมผิงหยุดคุยกับอนุพงศ์แล้วมองไปยังต้นเสียง

“รอหนูอยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวมาค่ะ”

เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มก็เดินไปที่หน้าบ้าน มีชายสวมสูทดำลงมาจากรถตู้ยืนอยู่หน้ารั้ว

“มีจดหมายมาส่งครับ”

พูดจบชายคนนั้นก็ยื่นจดหมายให้ ขนมผิงรับจากช่องระหว่างรั้วแล้วเอ่ยถามออกไป

“ของใครคะ…”

“ของคุณอนุพงศ์”

“ค่ะ” เธอพยักหน้าตอบน้อย ๆ แล้วชายในชุดสูทก็หายขึ้นไปบนรถตู้

ขนมผิงมองตามจนลับสายตาก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน เธอเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้แล้วพาพ่อขึ้นรถเพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพทันที

โรงพยาบาลจิตเวช

ชีวิตใหม่ของเธอและอนุพงศ์เริ่มต้นขึ้นด้วยเงินเก็บหนึ่งก้อน ถึงจะไม่มากนักแต่ก็พอตั้งหลักได้ ขนมผิงอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ส่วนพ่อของเธอได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ โดยมีพยาบาลจิตใจดีอย่างฉัตรสุดาเป็นคนดูแลและคอยติดต่อรายงานพฤติกรรมของอนุพงศ์กับขนมผิงเสมอ

“พ่อชอบที่นี่ไหมคะ ที่นี่มีเพื่อนเยอะเลยนะ ต่อจากนี้พ่อจะได้ไม่ต้องเหงาอีกต่อไป”

ขนมผิงชวนอนุพงศ์คุยในตอนที่เธอมาเยี่ยม แล้วในตอนนั้นเอง ฉัตรสุดาก็เดินเข้ามาหา

“น้องผิงคะ มีคนมาขอเยี่ยมคุณอนุพงศ์ค่ะ”

“พอทราบไหมคะว่าเขาเป็นใคร”

“เห็นบอกว่าเป็นคนรู้จักค่ะ”

“ให้เขาเข้ามาเลยค่ะ”

ขนมผิงตอบออกไปไม่นานมาก ก็มีชายสวมสูทดำแต่งตัวเหมือนคนส่งจดหมายแต่คนละคนเดินตรงมาหาเธอและอนุพงศ์

“พี่ฉัตรคะ ผิงฝากดูพ่อแป๊บนึงได้ไหมคะ”

“ได้ค่ะ” ฉัตรสุดาขานรับและพาอนุพงศ์ที่นั่งอยู่บนวิวแชร์เดินออกไปทางอื่น

“สวัสดีค่ะ คุณคือ ?”

“หัวหน้าในที่ทำงานของพ่อเธอ” ชายวัยกลางคนตอบ

“คุณมาพบพ่อของหนู เพราะอะไร…”

“พ่อเธอไม่ได้ทำงานนานมากแล้ว เจ้านายส่งฉันมาตามตัว”

“แต่พ่อของหนูสติไม่ดีนะคะ หนูขอยุติงานของพ่อได้ไหม เขาเป็นแบบนี้คงทำงานต่อไม่ได้แล้ว”

“ฉันเห็นสภาพแล้วก็คงกลับไปทำงานไม่ได้จริง ๆ ไว้ฉันจะรายงานกับเจ้านายให้ แล้วก็ขอแสดงความเสียใจเรื่องแม่ของเธอด้วยนะ”

ชายกลางคนตอบก่อนจะลุกขึ้นจากม้านั่งตัวยาวเพื่อเดินห่างจากขนมผิงไป แต่ขนมผิงกลับเรียกเขาเอาไว้ก่อน

“คุณคะ…”

“…” ชายคนนั้นหยุดยืนนิ่งแต่ไม่ได้หันกลับมามอง

“คุณบอกหนูได้ไหมว่าพ่อทำงานอะไร”

“เธอไม่ควรยุ่งเรื่องนี้” จากนั้นเขาก็เดินห่างออกไป

ทิ้งเพียงความสงสัยที่มันมากกว่าเดิมให้กับคนตัวเล็ก ก่อนที่เธอจะหยิบจดหมายฉบับนั้นออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วเปิดอ่านดู มันเป็นจดหมายเรียกตัวกลับไปทำงานและมีตราสัญลักษณ์ไม้กางเขน เหมือนเป็นองค์กรหรือสัญลักษณ์ของแก๊งมาเฟีย…

——————————————————

ตอนนี้มีทั้งตอนปัจจุบันและย้อนจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดในวัยเด็กของขนมผิงนะคะ จะเล่าจนมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบันก่อนขนมผิงเข้ามาทำงานที่ตึก Black เลย แนะนำอย่าอ่านข้ามเนื้อหาส่วนนี้นะคะ เดี๋ยวอ่านไม่เข้าใจกัน เพราะค่อนข้างเป็นจุดสำคัญเลย 🫶🏻💖✨
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 118

    ริวเซย์รับหงส์ดำมาไว้กับมือตนเอง เป็นการส่งต่อตำแหน่งอย่างสมบูรณ์แบบโดยมี VIP ทุกท่านเป็นพยาน “ผมริวเซย์ โรเลนโซ่ หัวหน้าองค์กรคนใหม่ ต่อจากนี้ผมจะทำให้องค์กรของเราเติบโตมากยิ่งขึ้น ทำผลงานออกมาให้มากยิ่งขึ้น หวังว่าทุกคนจะให้ความไว้หวังใจกับผมอย่างที่เคยมีให้กับคนก่อน ๆ และวันนี้ผมขอใช้โอกาสนี้บอ

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 117

    เกิดความเงียบไปชั่วขณะ ริวเซย์จับมือบางขึ้นมาก่อนที่อะไรบางอย่างจะถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้าย หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยออกมา “แต่งงานกับริวนะ” ขนมผิงได้ยินคำนั้นเธอก็เปิดเปลือกตาขึ้น เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ริวเซย์ขอเธอแต่งงาน ภาพตรงหน้าคือแฟนหนุ่มของตนเองที่นั่งคุกเข่าขอแต่งงาน นํ้าตาของหญิงสาวไหล

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 116

    “ขอบคุณนะคะ ผิงขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากจริง ๆ สำหรับการต้อนรับครั้งนี้” ขนมผิงเอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนที่เธอจะก้มกราบลงบนตักของเซโก๊ะ แล้วก้มกราบลงหน้าขาของราเชนทร์ต่อ ภาพแฟนสาวกับพ่อแม่ที่แสนจะอบอุ่นทำให้ริวเซย์ที่มองอยู่อดที่จะยิ้มไม่ได้ แล้วในตอนนั้นเองนิกก็เดินเข้ามาเห็นพอดี เขามาหยุดอยู่ข

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 115

    “อยากได้กำลังใจแบบไหนดี ?” “กำลังใจแบบฟิน ๆ” พูดจบก็ขยิบตาให้แฟนหนุ่ม ทำให้ริวเซย์ตะบะแตกผลักร่างสวยนอนใต้ร่างทันที เขาไม่รอช้าก้มหน้ากระซิบที่ข้างใบหูขาวเบา ๆ “ได้ฟินทั้งคืนแน่” พูดจบผ้าห่มก็ถูกจับขึ้นมาคลุมร่างคนทั้งสอง จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ผ้าห่มก็กินเวลาไปค่อนข้างนานพอสมควร… พอตกลงท

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 114

    “ถ้ามัวแต่เก็บเรื่องในอดีตมาคิด ชีวิตมันจะมีความสุขกับปัจจุบันได้ยังไง” ราเชนทร์เอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ความจริงเขาทราบมาตั้งแต่แรกแล้วว่าสองคนนี้ชอบกัน ที่เสนอเงื่อนไขกับขนมผิงไปในวันนั้นมันคือแผนที่ช่วยให้ลูกชายตนเองสมหวังกับความรัก ราเชนทร์มั่นใจว่ายังไงก็ตามที่สองคนนี้ได้ใกล้ชิดกัน ดูแลกันในยามยากลำบาก ค

  • It’s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย   บทที่ 113

    “ตอนฉันขอร้องเธอเองก็ไม่ยอมปล่อย จำได้ใช่ไหม” พูดจบขนมผิงก็ลงแรงที่ส้นเท้าแรงมากกว่าเดิมจนเลือดไหลจากแผลที่บาดลึก “ลองนึกดูสิว่าขนาดแกนอนใต้เท้าฉันแค่ชีวิตเดียว ยังทรมานขนาดนี้ แต่ตอนที่ฉันโดนมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องของฉัน” ขนมผิงพูดจบก็ยอมขยับเท้าออกจากหน้าท้องไดอาน่า เธอนิ่งมองไดอาน่าที่นอนร้องไห้ก

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status