วันนี้เป็นวันรับปริญญาของบัณฑิตจบใหม่ เหล่าผู้ปกครองและญาติของบัณฑิตใหม่ต่างก็มารอถ่ายรูปและแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีครอบครัวฉันด้วย
“พี่ไลลามาถ่ายรูปกัน” เสียงไดมอนด์น้องชายสุดที่รักของฉัน เรียกให้มาถ่ายรูปกับครอบครัว วันนี้แม่ฉันก็มาด้วยนะ ทุกคนพร้อมใจกันมาแสดงความยินดีกับฉัน
“ไลลา” เสียงมิโน่เรียกฉัน ฉันจึงหันไปยิ้มให้ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันมีความสุขเพราะฉะนั้น ฉันไม่อยากคิดอะไรให้รกสมอง
“นี่ๆ ไลลา มิโน่มาถ่ายรูปกัน” เสียงเฌอรีนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส
“ไดมอนด์ ถ่ายให้หน่อยสิ” เฌอรีนบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ไปให้ไดมอนด์
เราสามคนมายื่นอยู่ที่หน้าซุ้มดอกไม้ซุ้มหนึ่ง มิโน่ยืนอยู่ตรงกลางฉันอยู่ทางซ้ายเฌอรีนยืนอยู่ทางขว้า
“เอาล่ะนะ หนึ่ง สอง สา..” จู่ๆ เสียงนับเลขของไดมอนด์ก็ขาดหายไป ฉันหันไปตามสายตาของไดมอนด์ก็ถึงกับยืนอึ่งไปชั่วขณะ เมื่อเฌอรีนเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อหอมแก้มมิโน่ ฉันรีบเบือนหน้าหนีทันที
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฉันรีบเดินหนีไปจากตรงนั้นทันที ฉันเดินมาเรื่อยๆ จนถึงต้นไม้ใหญ่ด้านหลังหอประชุม ฉันยืนแอบที่หลังต้นไม้ใหญ่แล้วร้องไห้ออกมาในที่สุด เมื่อไรจะเลิกร้องสักทีนะไลลา ฉันถามตัวเองอยู่ในใจ... ฉันไม่ควรรู้สึกอะไรกับมิโน่อีกแล้ว นั้นคือสิ่งที่ฉันต้องทำในตอนนี้ แต่ใจมันกลับไม่ยอมทำตามความคิดเลย...
“ไลลา” มิโน่หาฉันเจอได้ไงไม่รู้ เขากำลังเดินมาหาฉัน
“มีไรหรอ มิโน่” ฉันรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาอย่างลวก แล้วหันกลับไปส่งยิ้มให้มิโน่
“โน่ไม่รู้ว่าทำไมเฌอรีนถึงเล่นอะไรแบบนี้” มิโน่พูด เหอะ! แค่เล่นหรอ
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนิ นั้นแฟนนาย” ฉันตอบไปพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น
“ใครแฟนใคร โน่ไม่เข้าใจ” พี่ทำสีหน้างุนงง
“ก็นายกับเฌอรีนไง” ฉันตอบออกไปน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
มิโน่เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน
“ไม่ใช่สักหน่อย ไลลาต่างหากคือแฟนโน่” มิโน่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น
“เลิกหลอกฉันสักทีเถอะ มิโน่” ฉันบัดมือมิโน่ออก มิโน่ทำสีหน้าตกใจที่ฉันบัดมือเขาออก
“โน่ไม่เคยหลอกไลลา จ้องตาโน่สิ แล้วก็ช่วยบอกด้วยว่าเห็นอะไร” มิโน่จับหน้าฉันให้จ้องตากลับเขา เขาไม่หลบสายตาฉันเลย เขาจ้องตาฉันอย่างแน่วแน่ กลับเป็นฉันเองที่เบือนหน้าหนีเขาแทน
“ฉัน..” ฉันยังพูดไม่ทันจบ มิโน่ก็ล็อกใบหน้าฉันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มิโน่ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาใช้ริมฝีปากหนาบดจูบฉันอย่างผ่าเบา ฉันหลับตาลงพร้อมรับรสจูบจากเขา มิโน่ค่อยๆ สอดลิ้นร้อนชื้นแทรกกรีบปากฉันออกจากกัน ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าลิ้นฉันเล่นในโพรงปากเมื่อเขาล่วงล้ำเข้ามาได้สำเร็จ ทำให้สติฉันถึงกับพร่าเลือน เผลอเคลิ้มไปกับรสจูบของมิโน่ เขาค่อยๆ ถอดริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง แต่ก็ยังจับหน้าฉันไว้อยู่ มิโน่ก้มหน้าลงมาให้หน้าฝากของเราชนกันเขาจ้องตาไม่กะพริบ
“ผู้หญิงที่โน่รักคือไลลาเพียงคนเดียว” มิโน่ตอบฉันอย่างแน่วแน่
พรึบ!!! เพี๊ยะ!!!
จู่ๆ ฉันก็ถูกกระชากตัวออกอย่างแรงตามมาด้วยฝ่ามือฟาดลงที่แก้มซ้ายอย่างจัง
“แกทำแบบนี้ได้ไง ไลลา!” น้ำเสียงไม่พอใจมาจากปากสวยๆ ของเฌอรีน
“ทำอะไรของเธอนะ เฌอรีน!!” มิโน่ดันตัวฉันให้ไปอยู่หลัง สีหน้าของมิโน่ดูน่ากลัวมากเลยในตอนนี้
แต่เฌอรีนกลับไม่สน เธอหันมาเอาเรื่องฉันแทน
“เขาเป็นของฉัน” เฌอรีนเริ่มตะโกนเสียงดังทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมามองที่พวกเรา
“เฌอรีน!!!” มิโน่ตะคอกใส่เฌอรีน เมื่อเธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา ฉันผลักมิโน่เบาๆ ให้พ้นทาง เพื่อยืนประจันหน้ากับเฌอรีน
“หรอ แล้วแกรู้อะไรไหม มิโน่เขาเป็นแฟนฉัน!!!” ฉันตะคอกออกไปอย่างเหลืออด ในเมื่อมิโน่เขาเลือกฉัน ฉันก็ควรที่จะปกป้องสิทธิ์ของตัวเองถูกไหม เฌอรีนจ้องตาฉันเขม็งฉันก็จ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“หรอ...ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นกับตาตัวเอง ว่าฉันกับ...” เฌอรีนพูดไม่ทันจบมิโน่ก็พูดแซกขึ้น
“เธอจะพูดอะไร เฌอรีน” มิโน่พูดเสียงลอดไรฟันเพื่อข่มอารมณ์บันดาลโทสะแต่เฌอรีนก็ไม่ยอมหยุด
“ฉันเป็น..เมีย..มิโน่” เฌอรีนเชิดหน้าพูดแสดงความเหนือกว่า มิโน่ยืนขบกรามแน่น
“แกว่าอะไรนะ ยัยเฌอ” เสียงผู้ชายสูงวัยดังขึ้นที่ด้านหลังพวกเรา ไม่รู้ว่าพวกผู้ใหญ่มาตั้งแต่เมื่อไร ทั้งพ่อแม่ฉัน น้าภา ไดมอนด์ แล้วก็พ่อแม่ของมิโน่และพ่อของเฌอรีนกับภรรยาคนใหม่ของเขา
“จริงรึเปล่า มิโน่” เสียงพ่อของมิโน่พูดขึ้น มิโน่ไม่ตอบคำถามของพ่อตัวเอง เขายืนจ้องหน้าฉันนิ่ง ในตาแสดงออกถึงความเสียใจและเจ็บปวดฉันก็เหมือนกัน ความรู้สึกไม่ต่างจากเขาเลย...
“กลับบ้านเถอะพี่ไลลา” เสียงของไดมอนด์เรียกสติให้ฉันกลับคืนมา ฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ไดมอนด์เข้ามาโอบไหล่ฉันให้เดินออกไปจากตรงนั้น
“ผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ” เสียงพ่อฉันบอกกับพ่อแม่มิโน่และพ่อของเฌอรีน
พ่อมิโน่หันมาพยักหน้าให้พ่อฉันอย่างเข้าใจ
“ผมว่าเราไปคุยกันต่อที่บ้านผมแล้วกันนะครับ” พ่อของเฌอรีนบอกพ่อแม่มิโน่
“ได้ครับ”
นั้นคือประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยิน ใจหล่นวูบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ฉันไม่สามารถรักษาความรักของเราไว้ได้อีกต่อไป
แถมอีกนิด...หลังจากคลอดลูกฉันก็ฟิตหุ่นอย่างหนักจนตอนนี้ฉันก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมแล้วราเรซก็เป็นเด็กดีมากไม่งอแง้ให้ฉันต้องเหนื่อยเลย“แม่ค่ะ ฝากราเรซแป๊บนะ” ฉันหันไปบอกแม่ ตอนนี้แม่ฉันมาอยู่ช่วยเลี้ยงหลานชั่วคราว“จะไปไหนลูก” แม่หันมาถามฉัน“ไปธุระนิดหน่อยค่ะ”ตอบแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถคู่ใจตรงดิ่งไปยัง ST ผับ เพราะอะไรนะหรอ หึ!สายของฉันรายงานมาว่า สามีฉันและเพื่อนๆ ของเขารวมทั้งไอ้น้องชายตัวแสบด้วยกำลังถ่ายเอ็มวีเพลงโปรโมทค่ายของพวกเขาพวกนั้นพานางแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยี่สิบกว่าคนใส่บิกินี่มาถ่ายแต่นั้นก็ไม่เท่าไรหรอก พอได้เห็นรูปที่สายของฉันส่งมาก็ทำให้ฉันปิ๊ดแตกทันทีเมื่อสามีตัวดีของฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วมีสาวๆ นั่งขนาบข้างคนหนึ่งก็ลูบไล้อีกคนก็เต้นยั่วและที่สำคัญพี่เรย์จับก้นแล้วก็โอบยัยพวกนั้นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีฉันร่วมแฟรมด้วยก็ฉันนะนางแบบหุ่นเอ็กซ์ตัวแม่“สวัสดีค่ะ ทุกคน” เมื่อฉันปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวใช่ว่ามองเพราะฉันคือเมียของพี่เรย์หรอกนะ แต่ที่มองก็เพราะว่าฉันใส่บิกินี่สุดวาบหวิวแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึก“แบะ! เจ้า” เฮียซัมดี“แล่มมาก” เฮียเจ
บทส่งท้าย....วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต เป็นความฝันของลูกผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวกระโปรงยาวๆ เดินไปบนพื้นพรมที่โปรยไปด้วยดอกกุหลาบหลายสีงานแต่งของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวที่ทางโรงแรมเขาเตรียมไว้ให้“พร้อมรึยังลูก” พ่อเดินเข้ามาถามฉัน“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนเข้าไปกอดพ่อ“ลูกสาวพ่อสวยจังเลย” ความอบอุ่นจากพ่อทำให้ฉันคลายความกังวลลงได้ไม่มีอ้อมกอดไหนจะอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่แล้วล่ะตื่นเต้นจัง ฉันเดินค้วงแขนพ่อเข้ามาในงาน มีแขกมาร่วมงานกันมากมายเพื่อนของฉันก็มาด้วย มิโน่ เฌอรีน และหนูน้อยมิริน พวกเขาส่งยิ้มแสดงความยินดีมาให้กับฉันฉันมองไปเบื้องหน้าก็เจอกับผู้ชายหน้าคม ผิวขาวออร่าพุงเหมือนวันแรกที่เจอกันเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทำให้เขาดูน่ามองยิ่งนัก เขายืนส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้“พ่อฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ เรย์” พ่อฉันบอกเขา พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนมือหนาที่ยื่นมารอรับอยู่แล้ว“เรย์จะรักและดูแลไลลา ให้ดีที่สุด เรย์ให้สัญญาครับ” พี่เรย์ยืนยันคำมั่นกับพ่อของฉัน“แม่ฝากไลลาด้วยนะเรย์” ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยควา
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวยเป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไงจะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อยไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมาแล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทองแหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วยฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเอง
“เบาๆ สิ เดี๋ยวกระเทือนลูก” พี่เรย์แกล้งดุฉัน“แค่นี้เอง ไม่กระเทือนหรอกน่า” ฉันบอกพี่เรย์“งั้นมาต่อแขนต่อขาลูกหน่อยไหม” นั้นไงพอเห็นไม่ว่าอะไรเข้าหน่อยนี่ เอาใหญ่เลย“มาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า” ฉันเสนอ“เกมส์อะไร” พี่เรย์พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ“มาเป่ายิงชุบกัน ผู้ชนะมีสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าชิ้นไหนก็ได้ของผู้แพ้” ฉันอยากทรมานเขาเล่น“งั้นพี่ยอมแพ้ ไลลาถอดพี่ได้เลย” พี่เรย์พูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง“ไม่ค่ะ ต้องเป่ายิงชุบก่อน” ไม่ยอมง่ายๆ หรอก อยากหื่นดีนัก“มาค่ะ ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” ฉันชนะฉันจับชายเสื้อข้างล่างของพี่เรย์แล้วก็ดึงออกทางศีรษะ“ถอดกางเกงเลยไม่ได้หรอ” ดูทำพูดเข้า ใจร้อนจริงฉันส่ายหน้าให้แทนคำตอบ“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะ“ถอดกระโปรงเลย” พูดจบก็พุงตัวมาจับฉันถอดกระโปรง“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนเล้า..พี่เรย์ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ” เขาพยายามจะถอดกระโปรงให้ได้พอฉันยึดจับกระโปรงไว้พี่เรย์ก็จี้เอวฉัน“มาต่อเลย” เขายึดกระโปรงไปเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าฉันต้องเอาหมอนมาวางที่ตักไว้แทนมันวาบหวิวไปหน่อย“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะอีกแล้ว“ถอดกางเกงในเลยทีนี้” โอ๊ยย
“อ้าว พี่เรย์มาได้ไงคะ” เฌอรีนถามเขาตอนนี่พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาเสียใจไหววูบไปกับน้ำตาที่เริ่มคลอ“เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่ยอมบอกพี่” พี่เรย์พูด สายตาเจ็บปวด“ไม่ใช่นะ ไลลามะ...” ฉันพยายามอธิบาย“พี่เข้าใจแล้วล่ะ” พี่เรย์กำลังจะเดินข้ามถนนหนีฉันไป“ฉันท้องกับพี่แก ยัยเฌอบ้า” ฉันหันมาตะคอกเฌอรีนฉันรีบวิ่งตามข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัว“ไลลา ระวัง” ฉันหันหน้ากลับมามองเฌอรีน เธอกำลังวิ่งตามฉันมาปริ๊นนนน โครม...เฌอรีนผลักฉันให้พ้นทางแต่ฉันก็กอดเฌอรีนไว้ด้วยเธอพลิกตัวเองไปทางรถยนต์ทำให้เฌอรีนโดนชนเต็มๆ“เฌอรีน!!” ฉันร้องลั่นเมื่อเห็นเลือดจากหัวของเฌอรีน“ละ..ลูก ฉัน” มือของเธอกุมท้องตัวเองไว้“ไม่เป็นไรๆ ลูกยังโอเคร ไม่เป็นไรนะ” น้ำตาฉันไหลพราก สงสารเฌอรีน“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แกสมควรตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” ฉันหันไปตามเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น แพทตี้หรอยัยแพทตี้เป็นคนขับรถชนเฌอรีน“ไลลา!” พี่เรย์วิ่งตาตั้งมาจากไหนก็ไม่รู้“ช่วยพยุงเฌอรีนหน่อย” ฉันบอกให้พี่เรย์ พยุงเฌอรีนแทนฉันฉันลุกขึ้นเดินตรงไปที่ยัยแพทตี้ ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้า“ซะใจมากใช่ไหม มานี่” ฉันกระชากผมแพทตี้อย่างแรงตามด้วยฝ่าม
หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบที่ทะเล ฉันก็ขอพี่แมนนี่พักหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย พี่เรย์ก็ทำงานอยู่ที่ค่ายเพลงไม่ค่อยได้กลับมาคอนโด ไปหาดีไหมน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่าฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึก LayMusic ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปที่ห้องสุดทางเดิน ฉันเลือนประตูกระจกไปด้านข้าง โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงพอให้มองเห็นภายในห้อง ใบหน้าคมขาวเนียนกำลังนอนหลับอยู่บนโซไฟตัวใหญ่ เวลาหลับก็ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หรอก แต่ถ้าตื่นล่ะก็คนล่ะเรื่องเลย ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่โต๊ะข้างโซฟามาคลุมร่างหนา ดูใกล้ๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี้ย ฉันนั่งลงกับพื้นพรมมองหน้าพี่เรย์ ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“แอบลักหลับพี่หรอ ไลลา” พี่เรย์พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงว่าเป็นใคร” ยังไม่ลืมตาซะหน่อยพี่เรย์ลุกขึ้นนั่งแล้วก็ดึงฉันไปนั่งตรงกลาง แขนแกร่งก็โอบรอบเอวฉันไว้หลวมๆ“ก็เมียพี่นิ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เพิ๊ยะ ฉันตีแขนเขาไปหนี่งที พูดจาแสลงหู“ใครเมียพี่ค่ะ” ยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย“ทบทวนความจำสักหน่อยไหมล่ะ” เห็นไหมล่ะ พอตื่นมาก็หื่นใส่เลย“ทบทวนเรื่องไหนคะ เรื่องพี่เรย์กับมินนี่นะหรอ” ฉันเลยแขวะเข้าให้“ไม่