เพี๊ยะ
พ่อตบหน้าฉัน ตั้งแต่ฉันเกิดมาพ่อยังไม่เคยตีฉันสักครั้งเลย นี่เขาเห็นนังสองแม่ลูกนั้นดีกว่าฉันงั้นหรอ
“เฌอ...พ่อ...ขอ..” ฉันหันหน้ากลับไปมองพ่อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“เฌอเกลียดพ่อ ได้ยินไหมว่าเฌอเกลียดพ่อ!!!” ฉันวิ่งออกมาจากบ้านเดินตรงไปยังรถคู่ใจ ฉันรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งแล้วก็บิดกุญแจสตาร์ทรถเหยียบคันเร่งออกจากบ้านนั้นที
ฉันขับออกมาเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายปลายทาง แล้วฉันก็มาจอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแถวบ้านมิโน่พอดี ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีต้นไม้เล็กใหญ่ประดับอย่างลงตัวเห็นแล้วรู้สึกสดชื่นดีจัง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหามิโน่ หวังว่าเขาจะรับสายนะ
“มีไร” เสียงมิโน่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ฉันอยู่ร้านเหล้าแถวบ้านนาย มาหาฉันหน่อยสิ” ฉันบอกมิโน่
“ทำไมฉันต้องไป” เขาถาม
“ก็..ฉันเป็นเพื่อนนายไง” ฉันบอกเขาไป ถึงแม้ในใจอยากจะเป็นมากกว่านั้นก็ตาม
มิโน่กดวางสายไป เขาจะมาไหมนะ? ฉันนั่งดื่มเหล้าสักพักก็มีผู้ชายผิวเข้ม หน้าคม เดินมาหาฉันที่โต๊ะ เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฉัน เขามา..ดีใจจัง ฉันรีบชงเหล้าแล้วก็ส่งให้เขา มิโน่รับแล้วก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
“ขอบคุณนะ” ฉันบอกมิโน่พร้อมกับชงเหล้าให้อีก
“เรื่อง” มิโน่เลิกคิ้วขึ้นทำหน้าสงสัย น่ารักจัง..
“ที่ยอมออกมาหาฉัน” ฉันยิ้มหวานส่งไปให้มิโน่ แล้วก็ต้องชะงักกับคำพูดของเขา
“ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ” พูดจบมิโน่ก็ยกแก้วเหล้าดื่มหมดแก้ว
“นั่นแหละ” ฉันหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ เหอะ! ฉันน้อยใจนะ ย้ำอยู่นั่นแหละ
“แล้วหน้าไปโดนอะไรมา” มิโน่ถามฉัน ฉันลูบแก้มตัวเองเบาๆ
“ทะเลาะกับพ่อนะ” ฉันบอกมิโน่ไปตามความเป็นจริง
“ถึงขนาดต้องลงไม้ลงมือเลยหรอ” มิโน่ถาม
“งั้นมั่ง” ฉันไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน
“ขอฉันนอนด้วยสิ” ฉันบอกมิโน่
“ทำไม” มิโน่เลิกคิ้วถาม ท่าทางกวนโอ๊ยจริงๆ
“ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน” ฉันตอบมิโน่
“งั้นไปนอนกับไลลา” มิโน่เสนอ
“ปานนี้บ้านไลลาเข้านอนกันหมดแล้วมั้ง” ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย
“เฮ้ออออ” มิโน่ถอนหายใจ
“ถ้านายลำบากใจก็ไม่เป็นไร ฉันนอนในรถก็ได้” ฉันบอกมิโน่
“เอากุญแจรถมา” จู่ๆ มิโน่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วถามเอากุญแจรถ พอฉันยื่นกุญแจให้เขาก็เดินออกจากร้านทันที ฉันวางเงินค่าอาหารไว้ที่โต๊ะแล้วก็รีบลุกขึ้นเดินตามมิโน่ไป
มิโน่ขับรถของฉันมาจอดที่หน้าบ้านเขา บ้านเงียบจัง มิโน่เปิดประตูรถลงไปยืนเต็มความสูง เขามองขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านข้างๆ ไลลา ไฟห้องของเธอยังเปิดอยู่ สายตาความห่วงหาอาทรนั้น ฉันอยากให้มิโน่มองฉันแบบนั้นบ้าง
“เธอไปนอนห้องฉัน เดี่ยวฉันจะนอนที่โซฟา” มิโม่บอกฉันหลังจากที่เดินเข้ามาให้บ้านแล้ว
“ทำไมล่ะ” ฉันถามมิโน่
“ไม่น่าถาม” มิโน่ตอบสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่ไว้ใจฉันหรอ” ฉันถามออกไปพร้อมกับแววตาขำขัน
มิโน่ทำสีหน้านิ่ง จนฉันต้องเลิกพูดเล่น
“แล้วห้องนายอยู่ไหนล่ะ จะให้ฉันขึ้นไปหาเองเดี๋ยวก็เข้าห้องพ่อแม่นายหรอก” ฉันตอบ
มิโน่เดินนำทางฉันไปยังชั้นสองของบ้าน เขาเปิดประตูห้องที่อยู่สุดทางเดินระเบียงในบ้าน ฉันเดินเข้าไปในห้อง ภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อน เฟอร์นิเจอร์ครบครันเข้ากับสีผนัง
ฉันหันกลับไปมองมิโน่ ซึ่งเขากำลังจะลงไปข้างล่าง
“เออ..มีชุดให้ฉันเปลี่ยนไหม” ฉันรีบท่วงไว้ก่อนที่เข้าจะลงไป มิโน่หันกลับมาแล้วถอนหายใจเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ออกมาให้ฉัน มิโน่ทำท่าจะเดินออกไปอีกฉันรีบวิ่งไปขว้างประตูไว้
“อะไร” มิโน่ทำสีหน้าหงุดหงิดเต็มทน
“นี่นายดูไม่ออกจริงๆ หรอ มิโน่” ฉันแสดงออกขนาดนี้แล้วนะ
“เธอจะพูดอะไร...” มิโน่ยืนมองหน้าฉันนิ่ง
“ฉันชอบนาย” ในที่สุดฉันก็ได้พูดออกมาสักที มิโน่ยืนจ้องหน้าฉันนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
“ฉันรู้ ว่านายไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน อีกไม่กี่วันก็จะรับปริญญาแล้วไม่รู้ว่าจะได้เจอนายอีกไหม ฉันขอล่ะช่วยอยู่กับฉันก่อน ให้ฉันได้มีความสุขเก็บไว้เป็นความที่จำ ได้ไหม” ฉันเอื้อมมือไปจับมือมิโน่ ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด ฉันส่งสายตาอ้อนวอนหวังให้มิโน่เห็นใจ
“ก็ได้ แต่..จะไม่มีการล้ำเส้นกันอีก” มิโน่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฉันได้แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ แค่นี้ก็ดีแล้ว
พอฉันอาบน้ำเสร็จมิโน่ก็หลับไปแล้ว ฉันเดินไปนั่งที่เตียงข้างๆ มิโน่ นั่งมองใบหน้าคมเข้มที่ฉันเฝ้าฝันว่าวันหนึ่งเขาจะหันมามองฉันบ้าง แล้วก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของมิโน่วางอยู่ที่หัวเตียง
ฉันแอบหยิบขึ้นมาเปิดดู เขาไม่ได้ตั้งรหัสล็อกหน้าจอด้วยเหะ.. ทันทีที่ปลดล็อกหน้าจอ ใจฉันก็ห่อเหี่ยวลงทันใด ในแกลอรี่ของมิโน่มีแต่รูปของไลลาเต็มไปหมดเขาถ่ายรูปทุกกิริยาท่าทางไม่ว่าไลลาจะทำอะไรหรือแม้แต่เธอนั่งหลับเขาถ่ายไว้หมดเลย ฉันได้แต่นั่งน้ำตาคลอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง... ห้องไลลายังเปิดไฟอยู่... ฉันแอบเปิดดูข้อความแชทของมิโน่ แล้วก็ส่งหาไลลา พอส่งเสร็จฉันก็รีบลบทิ้งทันที ขอโทษนะไลลา มิโน่เขาเป็นของฉัน...
แถมอีกนิด...หลังจากคลอดลูกฉันก็ฟิตหุ่นอย่างหนักจนตอนนี้ฉันก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมแล้วราเรซก็เป็นเด็กดีมากไม่งอแง้ให้ฉันต้องเหนื่อยเลย“แม่ค่ะ ฝากราเรซแป๊บนะ” ฉันหันไปบอกแม่ ตอนนี้แม่ฉันมาอยู่ช่วยเลี้ยงหลานชั่วคราว“จะไปไหนลูก” แม่หันมาถามฉัน“ไปธุระนิดหน่อยค่ะ”ตอบแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถคู่ใจตรงดิ่งไปยัง ST ผับ เพราะอะไรนะหรอ หึ!สายของฉันรายงานมาว่า สามีฉันและเพื่อนๆ ของเขารวมทั้งไอ้น้องชายตัวแสบด้วยกำลังถ่ายเอ็มวีเพลงโปรโมทค่ายของพวกเขาพวกนั้นพานางแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยี่สิบกว่าคนใส่บิกินี่มาถ่ายแต่นั้นก็ไม่เท่าไรหรอก พอได้เห็นรูปที่สายของฉันส่งมาก็ทำให้ฉันปิ๊ดแตกทันทีเมื่อสามีตัวดีของฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วมีสาวๆ นั่งขนาบข้างคนหนึ่งก็ลูบไล้อีกคนก็เต้นยั่วและที่สำคัญพี่เรย์จับก้นแล้วก็โอบยัยพวกนั้นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีฉันร่วมแฟรมด้วยก็ฉันนะนางแบบหุ่นเอ็กซ์ตัวแม่“สวัสดีค่ะ ทุกคน” เมื่อฉันปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวใช่ว่ามองเพราะฉันคือเมียของพี่เรย์หรอกนะ แต่ที่มองก็เพราะว่าฉันใส่บิกินี่สุดวาบหวิวแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึก“แบะ! เจ้า” เฮียซัมดี“แล่มมาก” เฮียเจ
บทส่งท้าย....วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต เป็นความฝันของลูกผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวกระโปรงยาวๆ เดินไปบนพื้นพรมที่โปรยไปด้วยดอกกุหลาบหลายสีงานแต่งของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวที่ทางโรงแรมเขาเตรียมไว้ให้“พร้อมรึยังลูก” พ่อเดินเข้ามาถามฉัน“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนเข้าไปกอดพ่อ“ลูกสาวพ่อสวยจังเลย” ความอบอุ่นจากพ่อทำให้ฉันคลายความกังวลลงได้ไม่มีอ้อมกอดไหนจะอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่แล้วล่ะตื่นเต้นจัง ฉันเดินค้วงแขนพ่อเข้ามาในงาน มีแขกมาร่วมงานกันมากมายเพื่อนของฉันก็มาด้วย มิโน่ เฌอรีน และหนูน้อยมิริน พวกเขาส่งยิ้มแสดงความยินดีมาให้กับฉันฉันมองไปเบื้องหน้าก็เจอกับผู้ชายหน้าคม ผิวขาวออร่าพุงเหมือนวันแรกที่เจอกันเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทำให้เขาดูน่ามองยิ่งนัก เขายืนส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้“พ่อฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ เรย์” พ่อฉันบอกเขา พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนมือหนาที่ยื่นมารอรับอยู่แล้ว“เรย์จะรักและดูแลไลลา ให้ดีที่สุด เรย์ให้สัญญาครับ” พี่เรย์ยืนยันคำมั่นกับพ่อของฉัน“แม่ฝากไลลาด้วยนะเรย์” ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยควา
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวยเป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไงจะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อยไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมาแล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทองแหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วยฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเอง
“เบาๆ สิ เดี๋ยวกระเทือนลูก” พี่เรย์แกล้งดุฉัน“แค่นี้เอง ไม่กระเทือนหรอกน่า” ฉันบอกพี่เรย์“งั้นมาต่อแขนต่อขาลูกหน่อยไหม” นั้นไงพอเห็นไม่ว่าอะไรเข้าหน่อยนี่ เอาใหญ่เลย“มาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า” ฉันเสนอ“เกมส์อะไร” พี่เรย์พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ“มาเป่ายิงชุบกัน ผู้ชนะมีสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าชิ้นไหนก็ได้ของผู้แพ้” ฉันอยากทรมานเขาเล่น“งั้นพี่ยอมแพ้ ไลลาถอดพี่ได้เลย” พี่เรย์พูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง“ไม่ค่ะ ต้องเป่ายิงชุบก่อน” ไม่ยอมง่ายๆ หรอก อยากหื่นดีนัก“มาค่ะ ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” ฉันชนะฉันจับชายเสื้อข้างล่างของพี่เรย์แล้วก็ดึงออกทางศีรษะ“ถอดกางเกงเลยไม่ได้หรอ” ดูทำพูดเข้า ใจร้อนจริงฉันส่ายหน้าให้แทนคำตอบ“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะ“ถอดกระโปรงเลย” พูดจบก็พุงตัวมาจับฉันถอดกระโปรง“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนเล้า..พี่เรย์ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ” เขาพยายามจะถอดกระโปรงให้ได้พอฉันยึดจับกระโปรงไว้พี่เรย์ก็จี้เอวฉัน“มาต่อเลย” เขายึดกระโปรงไปเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าฉันต้องเอาหมอนมาวางที่ตักไว้แทนมันวาบหวิวไปหน่อย“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะอีกแล้ว“ถอดกางเกงในเลยทีนี้” โอ๊ยย
“อ้าว พี่เรย์มาได้ไงคะ” เฌอรีนถามเขาตอนนี่พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาเสียใจไหววูบไปกับน้ำตาที่เริ่มคลอ“เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่ยอมบอกพี่” พี่เรย์พูด สายตาเจ็บปวด“ไม่ใช่นะ ไลลามะ...” ฉันพยายามอธิบาย“พี่เข้าใจแล้วล่ะ” พี่เรย์กำลังจะเดินข้ามถนนหนีฉันไป“ฉันท้องกับพี่แก ยัยเฌอบ้า” ฉันหันมาตะคอกเฌอรีนฉันรีบวิ่งตามข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัว“ไลลา ระวัง” ฉันหันหน้ากลับมามองเฌอรีน เธอกำลังวิ่งตามฉันมาปริ๊นนนน โครม...เฌอรีนผลักฉันให้พ้นทางแต่ฉันก็กอดเฌอรีนไว้ด้วยเธอพลิกตัวเองไปทางรถยนต์ทำให้เฌอรีนโดนชนเต็มๆ“เฌอรีน!!” ฉันร้องลั่นเมื่อเห็นเลือดจากหัวของเฌอรีน“ละ..ลูก ฉัน” มือของเธอกุมท้องตัวเองไว้“ไม่เป็นไรๆ ลูกยังโอเคร ไม่เป็นไรนะ” น้ำตาฉันไหลพราก สงสารเฌอรีน“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แกสมควรตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” ฉันหันไปตามเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น แพทตี้หรอยัยแพทตี้เป็นคนขับรถชนเฌอรีน“ไลลา!” พี่เรย์วิ่งตาตั้งมาจากไหนก็ไม่รู้“ช่วยพยุงเฌอรีนหน่อย” ฉันบอกให้พี่เรย์ พยุงเฌอรีนแทนฉันฉันลุกขึ้นเดินตรงไปที่ยัยแพทตี้ ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้า“ซะใจมากใช่ไหม มานี่” ฉันกระชากผมแพทตี้อย่างแรงตามด้วยฝ่าม
หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบที่ทะเล ฉันก็ขอพี่แมนนี่พักหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย พี่เรย์ก็ทำงานอยู่ที่ค่ายเพลงไม่ค่อยได้กลับมาคอนโด ไปหาดีไหมน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่าฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึก LayMusic ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปที่ห้องสุดทางเดิน ฉันเลือนประตูกระจกไปด้านข้าง โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงพอให้มองเห็นภายในห้อง ใบหน้าคมขาวเนียนกำลังนอนหลับอยู่บนโซไฟตัวใหญ่ เวลาหลับก็ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หรอก แต่ถ้าตื่นล่ะก็คนล่ะเรื่องเลย ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่โต๊ะข้างโซฟามาคลุมร่างหนา ดูใกล้ๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี้ย ฉันนั่งลงกับพื้นพรมมองหน้าพี่เรย์ ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“แอบลักหลับพี่หรอ ไลลา” พี่เรย์พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงว่าเป็นใคร” ยังไม่ลืมตาซะหน่อยพี่เรย์ลุกขึ้นนั่งแล้วก็ดึงฉันไปนั่งตรงกลาง แขนแกร่งก็โอบรอบเอวฉันไว้หลวมๆ“ก็เมียพี่นิ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เพิ๊ยะ ฉันตีแขนเขาไปหนี่งที พูดจาแสลงหู“ใครเมียพี่ค่ะ” ยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย“ทบทวนความจำสักหน่อยไหมล่ะ” เห็นไหมล่ะ พอตื่นมาก็หื่นใส่เลย“ทบทวนเรื่องไหนคะ เรื่องพี่เรย์กับมินนี่นะหรอ” ฉันเลยแขวะเข้าให้“ไม่