LOGINกลุ่มหนุ่มๆกำลังสนทนาอยู่ก็มีสาวสวยเดินเข้ามาหาเพื่อทักทายใครบางคน “พี่คิมหันต์ ว่างไปทานข้าวกับแพรวไหมคะ” สาวสวยเข้ามาและเอ่ยปากถามอย่างตรงประเด็นเพราะนานแล้วที่ชายหนุ่มไปติดต่อเธอไป “พี่ไม่ชอบทานของซ้ำ แพรวไม่ชวนแล้วนะครับ” คำพูดน้ำเสียงเรียบๆปนรอยยิ้มของหนุ่มหล่อแต่กลับเชือดเฉียนใจคนถามยิ่งนัก ความนิ่งและความเฉยชาทำให้สาวสวยผละถอยออกไป เพื่อนในกลุ่มจึงทักขึ้น “ มึงแม่งโคตรใจร้ายเลยว่ะไอ้คิม ” “ก็ตกลงกันน้ำแตกแล้วแยกย้าย กูไม่สาน ถ้าถูกใจกูจะเสิร์ฟเองแต่ยังไม่เคยมีว่ะ ” คิมหันต์พูดน้ำเสียงจริงจัง “มึงนี่นะ อยากให้กูรู้ว่าถูเทมาละ” “มึงดูหน้ากู ไม่มีทาง ” “ เออ ไอ้เสือ ” ราเชนร์หมดคำจะพูดกับเสือผู้หญิงนามว่าคิมหันต์
View Moreแนะนำตัวละคร
คิมหันต์ หงษ์ธิรา อายุ 22 ปี
นักศึกษาคณะนิเทศน์ปี 4 หนุ่มหล่อ รวย สูง 185 ซม. รูปร่างดีสมส่วน ดูแลตัวเองดีมาตลอด ดูแข็งแกร่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่จริงจังกับสาวคนไหน ส่วนใหญ่มีสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะแต่เมื่อเจอคนที่ชอบและรักจริงกลับกลายเป็นคนที่มีความลึกซึ้ง อ่อนไหวและจริงจังกับความรัก รักแรงเจ็บแล้วเอาเรื่อง
พริมา คงคาวัฒน์ อายุ 20 ปี
นักศึกษามนุษยศาสตร์ปี 2 สาวเนิร์ดผมยาว ตากลมโต ผิวขาว ชอบเก็บตัว ดูเฉิ่มด้วยการแต่งกายเสื้อผ้าตัวใหญ่โคร่ง สวมแว่นหนา ไม่แต่งหน้า แต่มีความสวยตามธรรมชาติของตัวเอง สูง 160 ซม. ตัวเล็กแต่ทรวงทรงองค์อวดเกินตัว ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง
ตอนที่ 1 เจ้าของนามปากกาไอดอล
ดวงตากลมโตภายใต้แว่นหนามองตรงไปยังหน้าจอของคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ หลังจากการพิมม์งานจบลง แต่พริมา คงคาวัฒน์ หรือที่หลายคนรู้จักในนามของพริม เด็กแว่นที่เป็นคนเงียบๆ เธอไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และจะเอาเวลาทั้งหมดหลังจากการเรียน มาทุ่มเทกับการเขียนนิยายที่เธอชื่นชอบ
อย่างเช่นวันนี้ก็เหมือนกัน พริมานั่งเขียนนิยายมานานหลายชั่วโมงแล้ว แต่เธอยังคงต้องมานั่งตรวจงานเขียนของเธอ เพื่อเตรียมนำลงให้กับนักอ่านที่ติดตามเธอได้อ่าน
พริมาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง คณะวรรณกรรม แต่เธอก็ยังเป็นนักเขียนนิยายอิโรติกที่มีชื่อเสียงค่อนข้างมาก เพราะนิยายที่เธอเขียน จะติดท๊อปฟอร์มและแบนเนอร์ของเว็บไซต์ที่เธอลงงานตลอด ซึ่งเงินที่เธอได้มาจากการเขียนงานเธอจะนำมันมาจ่ายค่าคอนโดที่เธอเช่า และค่าใช้จ่ายส่วนตัวในทุกเรื่องของเธอ
“อะไรกันเนี่ย ลงไปได้ไม่นานเองนะ” พริมาเอ่ยอุทานออกมาอย่างตกใจไม่น้อย เพราะเธอเพิ่งลงงานไปได้เพียงไม่กี่นาที แต่กลับมีคนเข้ามาอ่านอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้ยอดขึ้นมาเกือบจะพันคนอ่านต่อตอนแล้ว
“แบบนี้จะทำยังไงดี” พริมาเอ่ยออกมาก่อนจะเดินมาที่เตียงนอนโดยมือของเธอได้ถือไอแพดติดมือมาด้วย
พริมาทิ้งตัวลงนอนไปกับเตียงพร้อมความคิดไม่ตก เพราะตอนนี้งานที่เธอเตรียมเอาไว้ลงมันมีเหลือเพียงไม่กี่ตอนแล้ว และปัญหาของพริมาในตอนนี้คือเธอไม่รู้ว่าจะเขียนงานที่เหลือต่อยังไงดี
เพราะปัญหาใหญ่ของพริมาอีกอย่างคือเธอเป็นนักเขียนนิยายอิโรติคที่ยังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย ทำให้เธอไร้ประสบการณ์เรื่องนี้ จริงอยู่สำหรับคนอื่นอาจทำให้เกิดปัญหาเท่าไหร่แต่เธอด้วยความที่ริลองเขียนนิยายเรื่องที่เน้นฉาก 18+ เรียกได้ว่าเรื่องล่าสุดนี้เยอะที่สุด และเขียนไปลงรายตอนไปทั้งที่ปกติจะเน้นการเขียนจนจบก่อนทุกเรื่องและเรื่องนี้จึงทำให้เธอปัญหาเรื่องความคิดตันจะทิ้งไว้กลางทางก็กลัวเสียเครดิตนามปากกาตัวเองจึงอยากลองเขียนเรื่องนี้ให้จบและจะไม่เอาแล้วงานเขียนไปลงตอนไป....เธอเข็ด
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ยังไม่ทันที่พริมาจะคิดเรื่องงานเขียนของเธอถึงไหน โทรศัพท์ที่เธอทิ้งเอาไว้บนที่นอนพร้อมตั้งสั่นเอาไว้ได้สั่นขึ้นมาเพราะมีการโทรเข้า
“ค่ะ” เสียงของร่างบางดังออกมาทันทีเมื่อกดรับสายโทรศัพท์แล้ว
“ใช่เจ้าของห้อง 2453 ไหมครับ พอดีมีพัสดุมาส่งครับ” ปลายสายเอ่ยแจ้งออกมา ทำให้พริมาแปลกใจไม่น้อยเพราะเธอไม่ได้สั่งอะไรมา แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะอาจจะเป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบผลงานของเธอได้ส่งของมาให้
“ฝากไว้ที่เคาร์เตอร์คอนโดเลยค่ะ” พริมาพูดจบก็ตัดสายทันที
พริมมาไม่ได้คิดจะลงไปรับของที่ส่งมาอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอเลือกที่จะนอนเล่นบนเตียงต่อจนเผลอหลับไป
อีกด้านของคอนโด
ร่างสูงตื่นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เพราะเขานอนไปได้เพียงไม่นานหลังกลับมาจากเรียนเมื่อช่วงเช้า มือหนาพยายามขวานหาโทรศัพท์ที่แผดเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ครับ” เสียงทุ้มดังออกมาทันทีเมื่อกดรับสายโทรศัพท์แล้ว คิมหันต์ หงษ์ธิรา หรือที่ทุกคนรู้จักในนามของคิมหันต์เดือนนิเทศน์ศาสตร์ เขาเป็นคนรูปหล่อบ้านรวย แต่ก็ค่อนข้างเย็นชาเก็บตัวเล็กน้อย ว่านเสน่ห์ให้สาวๆ แต่ไม่ได้จริงจังมากนัก
“เจ้าของห้อง 2454 หรือเปล่าครับ” ปลายสายถามออกมาเพราะเขาต้องนำพัสดุที่เจ้าของห้องสั่งมาส่ง
“ครับ ส่งของใช่ไหมครับ” คิมหันต์ถามพร้อมลุกนั่งบนเตียง ทำให้ผ้าห่มพื้นหนาสีเทาเข้ม ได้หลุดจากตัวเผลยให้เห็นการเนื้อมัดที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม
“ใช่ครับ ….”
“ฝากที่เคาส์เตอร์คอนโด เดี๋ยวผมลงไปเอาเองครับ” คิมหันต์เอ่ยก่อนตัดสายพนักงานขนส่ง
ชายหนุ่มพยายามสลัดศีรษะของตัวเองเล็กน้อยเพื่อเรียกสติของตัวเอง ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อยืดสีขาวมาใส่ และออกจากห้องเพื่อไปเอาพัสดุที่สั่ง
“ขอโทษนะครับ ผมมารับพัสดุ” คิมหันต์เดินเข้าไปแจ้งพนักงานของคอนโดทันที เพราะถ้าไม่มีการฝากไว้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปค้นพัสดุให้ห้อง
“ห้องอะไรคะ” พนักงานยิ้มใหคิมหันต์เล็กน้อยก่อนเอ่ยออกมา
“2454 ครับ”
“ค่ะเชิญเข้าไปได้เลยค่ะ”
เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วคิมหันต์ก็ได้เดินเข้าไปที่ห้องเก็บพัสดุทันที การค้นหาพัสดุของคิมหันต์ได้ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น เพราะทุกอย่างถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
ปั๊ก
“บ้าจริง…” คิมหันต์ทำกล่องพัสดุของเพื่อนร่วมคอนโดตกลงมาจากชั้นเพราะเขาไม่เห็นว่ามันวางอยู่บนกล่องของเขา
“ขุนศึกซู่ซ่า พูดจริงดิ แต่เดี๋ยวนะ ห้องข้างกันเหรอ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง เกิดคำถามเมื่อเห็นเลขห้องของเจ้าของพัสดุ
ชื่อที่ดูสะดุดตาไม่ทำให้คิมหันต์ใส่ใจได้เท่ากับชื่อนั้นเป็นนามปากกาของนักเขียนที่คิมหันต์ค่อนข้างชื่นชอบ จนคลั่งเลยก็ว่าได้
“ขอโทษนะครับ หลบทางหน่อยได้ไหมครับ” เสียงของเพื่อนร่วมคอนโดเอ่ยออกมาทำให้คิมหันต์ต้องวางกล่องพัสดุของอีกคนลง ก่อนหลบทางให้อีกฝ่าย
คิมหันต์เพียงแต่เก็บเรื่องที่สงสัยเอาไว้ จนเขาได้เดินผ่านหน้าห้องที่กล่องพัสดุระบุไว้ มันเป็นห้องข้างๆ ของคิมหันต์ ชายหนุ่มมองเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป
“จะเป็นไปได้เหรอวะ คุณขุนศึกซู่ซ่า เป็นผู้ชายนะ อย่าบอกว่าเป็นน้องสาวแว่นคนนั้น” ความคิดในหัวของคิมหันต์เริ่มตีกันอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยเห็นว่าห้องนั้นจะมีผู้ชายเดินเข้าออก และในห้องนั้นมีแต่สาวแว่นที่ไม่น่าเขียนนิยายแซ่บๆอย่างนั้นได้
ความสงสัยของคิมหันต์ทำให้ชายหนุ่มลงไปยังชั้นล่างของคอนโดอีกครั้งเพื่อรอดูบางสิ่ง แต่ดูเหมือนการรอคอยของคิมหันต์มันจะยาวนานกว่าที่คิมหันต์คิดเอาไว้
จนกระทั่งร่างระหงของหญิงสาวที่อยู่ภายใต้แว่นที่หนา พร้อมชุดลำลองแสนสบายเดินออกมาจากลิฟต์และเดินเข้าไปหยิบพัสดุ
คิมหันต์พยายามตัวเหมือนปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนร่างของหญิงสาวเดินออกมาและเซ็นต์ชื่อรับพัสดุ ก่อนเดินกลับไปที่ลิฟต์
“ขอโทษนะครับ ผมลืมว่าลงชื่อไปหรือยังครับ” คิมหันต์ได้เดินเข้าไปหาพนักงานของคอนโดพร้อมเอ่ยออกมา
“อ๋อค่ะ…ลองเช็คดูนะคะ” พนักงานได้ยกแฟ้มมาให้คิมหันต์ดู แต่เขาไม่ได้จะดูชื่อของเขาเพราะคิมหันต์สนใจชื่อสุดท้ายของเอกสาร
“เซ็นแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ” คิมหันต์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนเดินกลับขึ้นห้องไปอีกครั้ง
“เป็นไปไม่ได้ยัยแว่นนั้นจะเป็นพี่ขุนศึกซู่ซ่า” ความคิดแสนคัดคานของคิมหันต์ได้ดังออกมาทันทีเมื่อเขาเดินเข้ามาภายในห้องคอนโดของเขา
คิมหันต์ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเป็นคนเขียนนิยายที่เขาอ่านและให้โดเนทตลอดหรือแม้แต่หนังสือตีพิมพ์เขาสั่งซื้อมาตลอด
เขาถือว่าเจ้าของนามปากกานี้เป็นไอดอลของตัวเองและจิตนาการไว้ว่านักเขียนคนนี้ต้องเป็นผู้ชายกำยำที่ผ่านโลกของเรื่องบนเตียงมามากมายจนนับไม่ถ้วน แต่นี้อะไรสิ่งที่คิดเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเลย ทั้งยังการตอบเม้นต์ที่บ่งชี้ว่าเป็นเพศชายแน่นอน
แต่คิมหันต์จะไม่ยอมให้เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความสงสัยเท่านั้น เขาจะตามหาความจริงของเรื่องทั้งหมด แม้ตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่าจะตามหาความจริงยังไงก็ตาม
ทางด้านของพริมา เธอหลับไปนานหลายชั่วโมงพอลงไปเพื่อจะรับพัสดุก็พบว่ามันค่ำแล้ว พริมาจึงรีบลงไปเอาพัสดุก่อนจะลืมกลับขึ้นมา
เมื่อพริมากลับมาที่ห้อง เธอเลือกเปิดกล่องพัสดุเป็นอย่างแรก และเมื่อเห็นว่าภายในเป็นของสำหรับผู้ชาย พริมาก็ได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับของแบบนี้ ด้วยที่นักอ่านที่ชื่นชอบเธอจะส่งของผ่านสำนักพิมพ์ และทางสำนักพิมพ์จะส่งต่อมาให้ ทำให้พริมารับมันจนเริ่มชินแล้ว เพราะของที่แฟนคลับเธอส่งมาให้จะเป็นของที่เกี่ยวกับผู้ชายทั้งหมด
อาจจะเพราะแฟนคลับของพริมาไม่รู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของนามปากกา ขุนศึกซู่ซ่า ที่เธอเขียนอยู่นั้นเป็นผู้หญิง เพราะบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคอมเม้นต์ หรือการพูดคุย พริมาก็ได้เลือกใช้คำแทนตัวเองอย่างผู้ชายเพื่อเลี่ยงให้ทุกคนได้รู้ถึงตัวตนของเธอ
พริมายกของที่ได้มาไปเก็บก่อน เดินเข้าไปอาบน้ำเพราะเธอต้องมาเขียนงานต่อ
หลังจากการพูดคุยของคิมหันต์และพริมาได้จบลง หญิงสาวก็สบายใจไม่น้อยเพียงแต่เธอก็ยังคงมีอาการงอนๆ อีกฝ่ายอยู่เหมือนเดิม“บ้าจริง....” คิมหันต์เอ่ยย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยได้โทรเข้ามาหาเขาอีกครั้ง“หมายความว่าไงคะ พี่คิมหันต์มีเบอร์พีวีด้าด้วยเหรอคะ” พริมามองใบหน้าของคิมหันต์อย่างไม่พอใจ พร้อมต้องการคำอธิบายจากชายหนุ่ม“น่าจะมีค้างไว้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่ถ้าพริมไม่โอเครพี่ไม่รับก็ได้นะคะ” คิมหันต์ยังคงเอ่ยเพื่อให้พริมาสบายใจ และเขาต้องการจะทำอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาก็ไม่อยากจะรับสายของอีกฝ่าย“เอามานี่ค่ะ พริมรับเอง” พริมาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์จากมือของคิมหันต์ ก่อนนำมากดรับสายเอง“คิมหันต์ อยู่ไหน ถึงบ้านยังคะ คิดถึงจังค่ะ ” วีด้าเอ่ยถามอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว“นี่พริมค่ะ ไม่ใช่พี่คิมหันต์ พอดีพี่คิมหันต์ไม่วางรับ สาย พี่วีด้ามีอะไรหรือเปล่าคะ” พริมาเอ่ยพร้อมสายตาของเขายังคงมองที่คิมหันต์อย่างไม่ละสายตา“อ๋อ พี่แค่ถามเพราะเป็นห่วงคิมหันต์นะ”“ไม่ต้องเป็นห่วงพี่คิมหันต์หรอกค่ะ แฟนพริม พริมดูแลเป็นอย่างดีค่ะ” พริมาเอ่ยออกมาอย่า
ผ่านมาเกือบ 4 ปีหลังจากที่คิมหันต์และพริมาได้ตกลงคบหาดูใจกันโดยที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองได้รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำให้ทั้งสองได้คบหากันอย่างเปิดเผย จวบจนตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบจะ 4 ปีแล้วซึ่งพริมาเรียนจบออกมา ตอนแรกก็ไม่ได้หางานประจำทำเพราะความตั้งใจเดิมจะเป็นนักเขียนอิสระพอมีรายได้ แต่กลายเป็นว่าเวลาของเธอว่างเกินไป ดังนั้นคิมหันต์จึงอยากให้เธอมาช่วงทำงานเป็นเลขาของคิมหันต์และตอนนี้ชายหนุ่มกลายป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่มารับตำแหน่งแทนผู้เป็นพ่อ โดยที่คิมหันต์ยังคงรับหน้าที่เป็นเจ้าของแอคเขาขุนเขาซู่ซ่าให้กับพริมาเช่นเดิม“ตามคุณพริมาหาผมหน่อย” คิมหันต์เอ่ยบอกผู้ช่วยของเขาหลังจากออกมาจากห้องประชุมแล้วไม่พบเลขาอยู่ที่โต๊ะในห้องทำงานซึ่งอยู่ในห้องเดียวกันกับเขาจากนั้นชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะทำงานของเขาด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเพราะงานที่มากมายจนคิมหันต์แทบจะไม่เหลือเวลาให้ได้พัก“พี่คิมหันต์ให้คนไปตามพริมามีอะไรหรือเปล่าคะ” พริมาเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของคิมหันต์พร้อมเอ่ยถามอย่างสงสัย“มาหาพี่หน่อยเร็ว” แม้ว่าพริมาจะสงสัยในการกระทำของชายหนุ่ม แต่เธอก็เลือกจะเดินเข้าไปหาอย่างไม่คิดจะถามอะไร
ช่วงเย็นของวันคิมหันต์มารับพริมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อจะพาเธอกลับไปที่บ้านของตัวเองอย่างตามที่เขาได้บอกหญิงสาวเอาไว้ตอนเช้า“พี่คิมหันต์คะ พี่ไม่คิดจะให้พริมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยหรือไงคะ” พริมาเอ่ยถามหลังจากนั่งรถมาได้สักพัก และคิมหันต์ไม่ได้พาเธอกกลับไปที่คอนโดอย่างที่เคยเป็น แต่กลับขับรถมุ่งหน้ามาที่บ้านของเธอ“ไม่จำเป็นครับ”คิมหันต์ใช้เวลาเพียงไม่นานกับการขับรถกลับมาที่บ้านของเขา และเมื่อมาถึงบ้านพริมาก็เริ่มประหม่ามากกว่าเดิม เพราะบ้านของคิมหันต์ใหญ่โต กว้างขวางและจนทำให้พริมาเริ่มทำตัวไม่ถูก“เป็นอะไรครับ ลงจากรถได้แล้ว” คิมหันต์ที่ลงมาจากรถและยังเห็นว่าพริมายังนั่งอยู่บนรถอยู่ก็ได้เปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ก่อนเอ่ยถามอย่างสงสัย“พี่คิมหันต์พาพริมกลับตอนนี้เลยได้ไหมคะ” พริมาเอ่ยด้วยเสียงที่ติดความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเธอยังมองไปยังผู้เป็นแม่ของคิมหันต์อย่างไม่วางตา“อะไรกันยังไม่ทันจะลงมาคุยกับพ่อแม่พี่เลยนะ จะกลับแล้วเหรอ” แม่ของคิมหันต์เดินเข้ามาหาเจ้าของร่างบางพร้อมเอ่ยถามออกมา“เอ่อคือว่า” พริมาไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาของหญิงวัย 40 กว่าๆ เลยแม้แต่น้อย“ลงมาได้แล้วพ
คิมหันต์ให้เพื่อนๆ ของเขาช่วยจัดการเรื่องต่างๆ จนทำให้ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นเจ้าของแอคเคาน์นักเขียนขุนเขาซู่ซ่าอย่างจำใจไปแล้ว“พี่คิมหันต์คะ วันนี้พริมมีเรียนนะคะ” พริมามองใบหน้าของคนที่พยายามซุกไซ้ลำคอของเธอในขณะที่เธอกำลังเช็กเรื่องกระแสของตัวเองอยู่“ครับพี่รู้แล้ว ว่าแต่ให้พี่ไปส่งไหมครับ” คิมหันต์เอ่ยถามอย่างสงสัยพร้อมมองใบหน้าของพริมาอย่างต้องการคำตอบ“ถ้าพี่คิมหันต์ว่างก็ไปส่งพริมได้นะคะ” พริมาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ทำให้อีกฝ่ายอดจะขโมยหอมแก้มเธอไม่ได้“พริมไปเตรียมตัวก่อนนะ จะได้ไม่เอาเรียนสาย” คิมหันต์เอ่ยขึ้นหลังจากโทรศัพท์ของเขาดังเพราะเพื่อนสนิทอย่างราเชนทร์“ได้ค่ะ”“ว่าไง” คิมหันต์รอพริมาเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนเขาจึงได้กดรับโทรศัพท์ของเพื่อนตัวเอง“เรื่องที่มึงให้กูตามนะเว้ย เรื่องแรก กระเป๋าของน้องพริมตกตรงที่มึงเข้าไปหาน้อง แล้วไอ้มาร์คเอามาให้ใบเฟิร์น แต่ก่อนหน้ามันหยิบโทรศัพท์น้องพริมออกไป” ราเชนทร์เล่าให้คิมหันต์ได้ฟังในสิ่งที่เขาเพิ่งไปเจอมา“แล้วเรื่องแอคเคาร์เป็นมันใช่ไหม ที่ปล่อยออกไป” คิมหันต์เอ่ยถามในขณะที่กำลังกำโทรศัพท์แน่น อย่างต้องการระบายความโมโหภายในใจตอนนี้“ใช





