7
อยากดูแล
ณ ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ และอาหารบนโต๊ะที่มากมาย แต่ลิลิธกลับมีอาการเหม่อลอยและเธอกินอะไรไม่ลงเลยนอกจากนั่งจิบน้ำเปล่าไปพลาง ๆ
ตอนนี้ในใจของเธอมันห่วงหาแต่เรื่องอาการป่วยของลูกชาย ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเธอแทบไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลย และนี่ก็เป็นคืนที่สองแล้วที่เธอต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีเจ้าตัวเล็กข้างกาย
หัวอกคนเป็นแม่ ยิ่งรู้ว่าลูกเจ็บเธอย่อมรู้สึกเจ็บเสียยิ่งกว่า
“ทานเยอะ ๆ หน่อยสิลิลิธ...เราไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวันเลยไม่ใช่เหรอ” แดนนี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแววตาที่ห่วงใย
“ฉันกินไม่ค่อยลงน่ะค่ะ”
“ไม่รู้ว่าถ้าลูกตื่นขึ้นมาไม่เจอใครเลย จะร้องไห้รึเปล่า?” คนตัวเล็กเอ่ยตอบกลับไปตามตรง พลางยกมือปาดน้ำตาแบบลวก ๆ แม้ว่าเธอพยายามจะเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งมากแค่ไหน แต่สุดท้ายพอเป็นเรื่องของลูก ใจมันแกว่ง ๆ มากจนคุมสติแทบไม่ได้เลย
“ฉันกลัว” สายตาของลิลิธยังคงจ้องมองที่โทรศัพท์ไม่ห่าง มือของเธอสั่นเทาจนแทบยกช้อนตักอะไรไม่ได้เลย
“พี่รู้ว่าเรากำลังคิดมากเรื่องลูก แต่สุขภาพของเราเนี่ยก็สำคัญเหมือนกันนะลิลิธ”
“ตอนนี้ลูซิเฟอร์ถึงมือหมอแล้ว พี่คิดว่ายังไงลูกก็ปลอดภัยแน่นอน” แดนนี่รีบเอื้อมมือมากุมมือของเธอเอาไว้แน่น
“แต่เรานี่สิ...ถ้าล้มป่วยไปอีกคนคราวนี้ใครจะดูแลลูซิเฟอร์ในตอนที่เขาพักฟื้นล่ะ” ร่างสูงพยายามพูดเตือนสติลิลิธ ให้เข้มแข็งมากที่สุด
“ถึงจะไม่หิว แต่ก็ควรจะกินอะไรรองท้องเยอะ ๆ หน่อยนะ” เขายังคงตักอาหารใส่จานของเธอและมองเธอด้วยความเป็นห่วง
“เข้าใจแล้วค่ะ” ลิลิธพยักหน้ารับก่อนจะพยายามฝืนกินข้าวไปเพื่อร่างกายยังคงมีแรงต่อสู้กับทุก ๆ เรื่องที่เธอกำลังประสบพบเจออยู่ในตอนนี้
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านอย่างเงียบ ๆ แดนนี่ดูเหมือนจะมีบางอย่างค้างคาในใจเช่นกัน
ขณะพวกเขาขึ้นรถหรูของเขาเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังโรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง บรรยากาศในรถดูอึดอัด แดนนี่เหลือบมองลิลิธที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหนักแน่นแต่ยังคงความอ่อนโยน
“เราเคยบอกพี่ไว้ว่าจะไม่มีวันบอกเรื่องลูกกับดราก้อนเด็ดขาด” แดนนี่เว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธอ “แล้วทำไมวันนี้...เราถึงเปลี่ยนใจ?”
“เพราะว่า...เรื่องนี้ มีแค่ดราก้อนคนเดียวจริง ๆ ที่ช่วยได้ค่ะ” ลิลิธหันมามองเขา สายตาเต็มไปด้วยความกดดันและความกังวล เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“หมอบอกว่า ถ้าหาไขกระดูกที่เข้ากับลูซิเฟอร์ไม่ได้ อาการของลูกก็จะทรุดลงเรื่อย ๆ” เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ขณะที่คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“และไขกระดูกของฉันก็เข้ากับลูกไม่ได้ ฉันจึงต้องไปขอจาก...ดราก้อนแทน” ลิลิธอธิบายทุกอย่างไปตามความจริง มันไม่ใช่ว่าเธออยากบอกเขา หรืออยากเรียกร้องอะไรจากดราก้อน แต่ทว่าในตอนนี้ศักดิ์ศรีที่มีมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้ามันช่วยชีวิตลูกชายของเธอไม่ได้
“พี่เข้าใจนะ...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ในแววตายังมีความกังวลปะปนอยู่
“แต่พี่แค่ไม่อยากให้ไอ้ดราก้อนมันเข้ามาวนเวียนใกล้ ๆ เรากับลูกอีกก็เท่านั้น” แดนนี่ฟังอย่างเงียบงัน ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความไม่สบายใจอย่างชัดเจน
“ยิ่งวันนี้ พี่ได้ฟังสิ่งที่มันพูดกับเรา พี่ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเลยจริง ๆ” แดนนี่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คำพูดของเขาทำให้บรรยากาศในรถเงียบงันลงอีกครั้ง ลิลิธได้แค่นั่งก้มหน้าลงเม้มปากแน่น และมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ในดวงตา เธอรู้ดีว่าแดนนี่พูดจากความหวังดี แต่ในใจเธอเองกลับรู้สึกว่าคำตอบของเรื่องนี้ไม่มีทางจบลงง่าย ๆ เช่นกัน
“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดค่ะ คงไม่มีอะไรที่แย่กว่านี้แล้วมั้ง?” คนตัวเล็กถอนหายใจเหมือนปลอบใจตัวเองไปพลาง ๆ
หมับ! มือหนาของแดนนี่เอื้อมมือจับมือของเธออีกครั้ง พร้อมกับบีบไว้แน่น
“ลิลิธ...พี่เป็นห่วงเรากับลูกมากนะ”
“ทุกครั้งที่ลิลิธมีปัญหาอะไรก็ตาม พี่แค่อยากให้ลิลิธนึกถึงพี่เป็นคนแรก” แดนนี่บีบมือของเธอและจ้องเข้าไปในแววตาของเธอเพื่อแสดงถึงความจริงใจที่เขามี
ลิลิธนิ่งเงียบก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย สบตาเขาด้วยสายตาที่นิ่งสงบ แต่แฝงความมั่นคงเอาไว้
“อย่างเรื่องค่ารักษาพยาบาลลูซิเฟอร์น่ะ ลิลิธโทรมาบอกพี่ก็ได้นะ แค่สามสี่ล้านพี่ออกให้ได้สบายมากเลย”
“เราไม่เห็นจำเป็นต้องไปพึ่งพาคนอย่างไอ้ดราก้อนเลย” ร่างสูงพยายามเสนอตัวเข้ามาดูแลทุกอย่างในชีวิตของเธอ แต่สำหรับลิลิธเธอยังไม่ได้มองเขาไปไกลถึงขนาดนั้น
“ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่หวังดีและเป็นห่วงลิธกับลูกมาเสมอเลย”
“แต่...เราสองคนเพิ่งจะรู้จักได้ไม่ถึงปีเลยนะ” น้ำเสียงของเธอราบเรียบ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกที่แสดงถึงความเกรงใจ
“จะให้ลิลิธขอยืมเงินเป็นสามสี่ล้านจากพี่.....ลิธคงทำเรื่องที่น่าละอายอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ ค่ะ” เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มบาง ๆ อย่างตั้งใจให้เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอ
“อีกอย่าง...แค่ทุกวันนี้พี่แดนนี่ลดราคาค่าเช่าร้านให้เกือบครึ่งหนึ่ง”
“แถมยังพาเราไปเลี้ยงข้าวเกือบทุกมื้ออีก...แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้วจริง ๆ ค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ ขณะพูด แววตาแฝงความซาบซึ้ง แต่ก็ยังคงระมัดระวังในความสัมพันธ์ของพวกเขา
“แต่ลิลิธก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่า...พี่คิดยังไงกับเรา?” แดนนี่ถอนหายใจเบา ๆ มองเธอด้วยความอ่อนโยน
“พี่ชอบลิลิธนะครับ...และพี่ก็อยากจะดูแลทั้งลิลิธ และลูกด้วย” แววตาของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อยขณะพูด น้ำเสียงหนักแน่นและเต็มไปด้วยความตั้งใจ
🐉______🧝🏻♀️
สามารถเพิ่มเติมความฟิน ความอิน และอ่านรีวิวเรื่องนี้ได้ที่พื้นที่ในเน็ต รวมถึงฟังเพลงได้ที่ TIKTOK
#อยู่ในตะเกียงแก้ว
#lilithsdragonพันธะสวาทมังกร
#พันธะสวาทมังกร
#เพลงลิลิธถึงดราก้อน
#ลิลิธดราก้อน