เคย์สันเดินออกมายังลานกว้างเพื่อหาที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายความรู้สึกทั้งหมดที่ติดอยู่ภายในใจ
“ถ้ารำคาญก็ให้เบอร์มาสิ ให้แล้วก็จบจะได้ออกไป” ฮันน่ายังคงยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้
“ฮันน่ามาทำอะไร” เฮียมาร์คเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินออกมาเห็นเพื่อนสนิทของกวิน ก่อนที่เขาจะดึงแขนเธอออกมาให้ห่างจากเคย์สัน
“มาขอเบอร์ผู้ชายค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง เพราะเธอเป็นคนตรงๆ แบบนี้อยู่แล้ว
“ใคร?” เฮียมาร์คถามขึ้นโดยที่ในใจยังแอบหวังว่าจะไม่ใช่เพื่อนสนิทของตัวเอง
“คนนั้นไงคะ” มือบางชี้ไปยังเป้าหมายทันที
“ไม่ได้ คนนี้ไม่ใช่คนที่ใครๆ จะยุ่งด้วย”
“งั้นเฮียมาร์คช่วยไปขอให้หน่อยดิ”
“ยืนรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวเฮียไปถามให้”
มาร์คอยากจะช่วยให้เพื่อนรักลืมเรื่องราวในอดีตและอยากจะให้ลองเปิดใจดูบ้าง อย่างน้อยฮันน่าก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่พอสมควร
“สนใจไหม” มาร์คหยุดยืนตรงหน้าเคย์สันก่อนจะถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม
“ไม่!!”
คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความอย่างชัดเจน เพราะคนอย่างเคย์สันพูดคำไหนคำนั้นไม่มีเปลี่ยนใจ
“ก็แค่ขอเบอร์ไม่ได้ขอแต่งงานไม่ต้องคิดนานขนาดนั้นก็ได้!” ฮันน่าทนยืนดูเฉยๆ ต่อไปไม่ไหวจึงเดินเข้ามาบอกด้วยความหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรหยิ่งชะมัด
มาร์คกับแดเนียลมองหน้ากันแล้วยกยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก แบบนี้ชีวิตของเคย์สันจะได้มีสีสันขึ้นมาบ้าง อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน
“เป็นเจ้าชายมาจากไหนถึงจะยุ่งไม่ได้ หรือว่าเป็นดาราดังเหรอ” หญิงสาวมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เกิดมายังไม่เคยขอเบอร์ผู้ชายคนไหนยากขนาดนี้มาก่อนเลย
เคย์สันถึงกับยืนนิ่งแล้วหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยู่ๆ ความทรงจำในอดีตก็วิ่งเข้ามาในโซนประสาท เมื่อนึกถึงคำพูดของอดีตภรรยาที่เคยบอกเอาไว้ว่าเขาดูเหมือนเจ้าชายไม่เหมือนมาเฟียเลยสักนิด
“ยิ่งกว่านั้นอีก” มาร์คเอ่ยบอกเผื่อจะทำให้หญิงสาวเปลี่ยนใจ
“เป็นโจรหรือว่าเป็นคนร้ายโรคจิตเหรอคะถึงไม่ควรเข้าใกล้” ฮันน่ายังคงดื้อไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวกูมานะ” มาร์คเห็นว่าเรื่องไปกันใหญ่ และฮันน่าก็ดูท่าจะเมามากแล้ว จึงจัดการลากเธอออกมาจากพื้นที่อันตรายทันที
“เฮียเตือนด้วยความหวังดีนะ แล้วนี่มากับใคร นั่งอยู่โต๊ะไหนเดี๋ยวเฮียเดินไปส่ง”
“มากับวินค่ะ ส่วนโต๊ะอยู่ด้านนู้นค่ะ” ฮันน่าชี้ไปยังโต๊ะเดิมที่เคยนั่ง ถึงจะเมาแต่ก็ยังจำได้
“แล้วไอ้วินมันไม่รู้เหรอถึงได้ปล่อยเราไปแบบนั้น” เฮียมาร์คถามต่อด้วยความสงสัย
“มันนั่นแหละที่เป็นคนท้าให้หนูไป” คนเมาไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว
เฮียมาร์ครีบดึงแขนฮันน่าให้เดินตามเข้าไปที่โต๊ะทันที
“เล่นไม่ดูอะไรเลย รู้ทั้งรู้ยังท้าให้เพื่อนไปอีก”
เมื่อมาถึงที่โต๊ะก็เจอกวินนั่งหัวเราะอยู่ เฮียมาร์คก็บ่นให้รุ่นน้องคนสนิท
“นิดๆ หน่อยๆ ครับ” กวินที่เห็นเฮียมาร์คทำหน้านิ่งมาส่งฮันน่าก็รีบแก้ตัวอย่างไม่รอช้า
“ดูแลเพื่อนด้วย อย่าปล่อยให้ไปอีก!” เฮียมาร์คกำชับเสียงแข็งก่อนจะเดินออกไป
ฮันน่าก็นั่งนิ่งพร้อมกับความสงสัย และอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมเฮียมาร์คถึงไม่อยากให้เธอไปยุ่งด้วย
..
หลังจากที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายอยู่ด้านนอกเสร็จ เคย์สันก็เดินกลับเข้ามาหาเพื่อนในห้องวีไอพีเช่นเคย บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ จนน่าอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
มือหนายกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นดื่ม พลางสายตาก็ไปสะดุดกับหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสดที่อยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิด
ผู้คนมากมายที่อยู่บนหน้าจอ แต่เคย์สันกลับเห็นหญิงสาวคนนี้ชัดที่สุด อาจจะเป็นเพราะใบหน้าสวยที่เป็นจุดโดดเด่น ทำให้เขาเผลอมองเธอผ่านกล้องวงจรปิดโดยไม่รู้ตัว
ทว่าความสวยของเธอก็เป็นจุดสนใจของใครหลายๆ คน และทำให้มีผู้ชายเข้าหาอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าสนใจทำไมไม่ให้เบอร์ไปตั้งแต่แรกวะ” มาร์คพูดแซวขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเพื่อนรักจ้องมองภาพตรงหน้าตาแทบไม่กระพริบ
“ขนาดแต่งงานแล้วยังเสน่ห์แรงมีเด็กมาชอบ” ตามมาด้วยเสียงของแดเนียล
“ทั้งสวย ทั้งรวย เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของที่นี่เลยนะ” มาร์คยังคงพูดต่อ เผื่อว่าเพื่อนจะสนใจขึ้นมา และเขาก็สามารถที่จะช่วยได้
“….” เคย์สันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดใจ และไม่อยากจะจริงจังกับใคร แต่ถ้าจะให้คุยเล่นๆ แก้เหงาแบบเมื่อก่อน เขาก็เลิกทำไปนานแล้ว และไม่อยากจะกลับไปทำตัวแบบเดิมอีก
ฮันน่านั่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเลยสักครั้ง ขอเบอร์ผู้ชายก็ได้ตลอดไม่เคยพลาด แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้เธอเสียความมั่นใจไปในพริบตา
“สรุปว่าได้เบอร์โทรมาไหม” กวินถามขึ้น ทั้งๆ ที่ในใจรู้คำตอบเป็นอย่างดี
“ใกล้จะได้แล้ว แต่โดนเฮียมาร์คเข้ามาขัดจังหวะก่อน” ฮันน่าโกหกคำโตออกไป
“ฮ่าๆๆ” เพื่อนๆ ที่ได้ยินคำตอบต่างก็หัวเราะออกมา เพราะต่างก็รู้ความจริงกันดี
“หัวเราะทำไม!” ฮันน่าถามขึ้น คนยิ่งอารมณ์ไม่ดียังจะมาหัวเราะอีก
“ยังไงมึงก็ไม่มีวันได้เบอร์มาหรอก” กวินบอกไปตามตรง เผื่อฮันน่าจะเปลี่ยนใจแล้วยอมแพ้
“ทำไมจะไม่ได้ เป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน”
“อย่าไปรู้เลย”
“บอกมา!” ฮันน่ากอดคอกวินเอาไว้แน่นด้วยความอยากรู้ โดยที่ไม่สนใจสายตาผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ
“ไม่บอก”
“ถ้ามึงไม่บอก กูจะโทรฟ้องคุณน้าเรื่องที่มึงไม่เข้าเรียน แล้วก็ชอบจ้างเพื่อนทำรายงานให้อีก”
ฮันน่าสนิทกับกวินมาก มากจนสามารถเข้าออกบ้านกวินได้ตลอด และแม่ของกวินก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนลูกอีกคน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็เชื่อหมดทุกอย่าง
“โอเคกูยอมแล้ว” กวินไม่อยากฟังคุณแม่บ่นและตัดเงินเดือนจึงต้องยอมบอก
“บอกมา!” ฮันน่ายอมปล่อยให้กวินเป็นอิสระ ก่อนจะนั่งรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“นั่นน่ะเพื่อนสนิทเฮียมาร์คเป็นมาเฟีย เขาแต่งงานไปเมื่อสามปีที่แล้วแต่เมียดันเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ก็ผ่านมาเป็นหลายปีแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนสักคน”
กวินเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตามที่ได้ยินมา ส่วนฮันน่าก็นั่งนิ่งตั้งใจฟัง
“ทางที่ดีมึงยอมแพ้ไปเลยดีกว่า” กวินเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้
“แล้วมึงได้เบอร์มาหรือยัง” ฮันน่าถามกลับทันที
“อย่าว่าแต่เบอร์โทรเลย มันยังไม่ได้เข้าไปใกล้ด้วยซ้ำก็ถูกจับโยนออกมาก่อนแล้ว” ดีเดย์ทั้งเล่าทั้งขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
“จะสู้ต่อหรือจะพอแค่นี้” ฮันน่าหันไปถามความคิดเห็นของกวิน
“กูไม่มีทางยอมแพ้อยู่แล้ว” กวินตอบด้วยความมั่นใจ
“งั้นก็มาสู้กันต่อ!”
ตามที่ฟังกวินเล่ามายิ่งทำให้ฮันน่ามีโอกาสและมีความหวังมากขึ้น ถึงจะมีเพียงอดีตภรรยาที่อยู่ในใจ แต่ในปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีแฟนหรือผู้หญิงคนไหน ยิ่งทำให้เธอมั่นใจยังไงเธอก็ต้องชนะอย่างแน่นอน
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาาา
เช้าวันต่อมาฮันน่ากับเคย์สันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็จัดการเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อยค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมดที่เคย์สันต้องจ่ายเกือบสองล้าน เพราะมีทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าเวที ค่านักร้อง ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งยังไม่รวมค่าชุดกับค่าแต่งหน้าที่เขาจะต้องกลับไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ อีกวันนี้ฮันน่าชวนเคย์สันออกไปเดินเล่นที่ริมทะเล เนื่องจากต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน จึงต้องออกมาเดินเที่ยวเล่นชมบรรยากาศกันสักหน่อย“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฮันน่าถามขึ้นเมื่อเคย์สันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่“เอ่อ… คือ งานที่กรุงเทพมีปัญหา ต้องรีบกลับไปเคลียร์” เคย์สันอ้ำอึ้งก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา ซึ่งเป็นงานสำคัญที่เขาไม่อาจจะเลี่ยงได้“หนูขอไปเก็บของก่อนได้มั้ยคะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ถึงในใจจะแอบผิดหวังอยู่บ้าง“ไม่อยู่เที่ยวต่อเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าฮันน่าชอบทะเลมากแค่ไหน ถ้าได้มาแล้วเขาก็อยากจะให้เธอได้พักผ่อนที่นี่ก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับพร้อมเฮียเลยดีกว่า” ฮันน่าตอบ“เดี๋ยวจะพามาเที่ยวใหม่
พิธีการต่างๆ ถูกดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงาน นั่นก็คือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ถึงแม้แขกบางส่วนจะทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังเหลือบางส่วนที่รออยู่จนถึงขั้นตอนนี้ทุกคนต่างก็ร่วมอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัว“ม๊าอยากเลี้ยงหลานแล้วนะ” ก่อนจะออกไปคุณแม่ของฮันน่าก็ไม่ลืมที่จะพูดย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง“ม๊าคะ” ใบหน้าสวยร้อนแผ่วรู้สึกเขินอายในสิ่งที่คุณแม่พูดออกมา“ไม่ต้องห่วงนะครับ” เคย์สันหันไปบอกแม่ยายพร้อมรอยยิ้ม เพราะเขาเองก็อยากจะมีลูกแล้วเหมือนกันหลังจากที่ทุกคนเดินออกไป เคย์สันก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างทันที“เหนื่อยมั้ย” มาเฟียหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง มือหนาจับปลายคางให้เชิ่ดขึ้น เพื่อที่เขาจะได้มองใบหน้าสวยได้ชัดเจน“นิดหน่อยค่ะ” ฮันน่าฉีกยิ้มกว้างถึงแม้จะเหนื่อยแต่ทุกอย่างก็คุ้มค่าสำหรับเธอ“แล้วเมื่อไหร่เราจะมีลูกด้วยกัน” เคย์สันถามขึ้น เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮันน่าจะท้องเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจทำมาตลอด“เฮียอยากมีลูกเหรอคะ” ฮันน่าถามย้ำด้วยความตก
วันต่อมาเวลา 16:00 น.แสงแดดอ่อนๆ กับสายลมเย็นสบาย เสียงคลื่นซัดสาดเป็นระยะ บรรยากาศเย็นสบายตามแบบฉบับของธรรมชาติหาดทราย สายลม แสงแดด ท้องฟ้าสีสวย กับทะเลสีคราม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนโต๊ะเก้าอี้จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงาม มีทั้งโซนอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับแขกทุกคนที่มาร่วมงานทางเดินเล็กๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เดินขึ้นเวที และตลอดทางก็มีดอกกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดจัดเรียงเอาไว้ทั่วงาน ซึ่งดูสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมากและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว แขกในงานก็เริ่มทยอยมากันจนใกล้จะครบแล้ว บรรดาเพื่อนๆ ต่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกแทนเจ้าของงานได้เป็นอย่างดีทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็เป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิทที่ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีในงานวันนี้“ข้างนอกคนเยอะมั้ย” ความตื่นเต้นทำเอาเจ้าสาวของงานเดินไปเดินมาไม่หยุด ใครเข้ามาก็ถามทุกครั้งว่าคนเยอะหรือเปล่าฮันน่าอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา ภายนอกอาจจะดูเรียบๆ แต่กลับมีลายปักดอกไม้แฝงอยู่ด้านในเพื่อเพิ่มเสน่ห์และลวดลายให้ดูน่าค้นหามากขึ้น“ไม่เยอะหรอก” ค
สามเดือนต่อมา@ภูเก็ตประเทศไทยฮันน่าตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะงานนี้จะต้องออกมาดีและสวยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาหาร ดอกไม้ และโรงแรม เรียกได้ว่าฮันน่าดูแลทุกขั้นตอนทว่าฮันน่าคนเดียวคงดูแลไม่ไหว เพราะมีเพื่อนๆ คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอยู่ตลอด อย่างเช่นตอนนี้…“งานนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ”นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ เมื่อทุกอย่างใกล้จะเสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่เพียงเก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อยดี“ขอบใจมากนะที่มาช่วย” ฮันน่าขอบคุณนาเดียที่มาช่วยเธอออกแบบและทำทุกอย่าง“เพื่อนจะแต่งงานทั้งทีก็ต้องมาช่วยสิ เดี๋ยวอีกหน่อยพวกนั้นก็คงมาถึง” นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้ม และอีกหน่อยคริสตัลกับไอรินก็คงจะมาถึงกันแล้ว“แล้วพี่หมอล่ะ” ฮันน่าถามถึงคุณหมอคีรินทันที“ทำงานอยู่ คงจะมาถึงตอนดึกๆ นู้นแหละ” นาเดียตอบไป เพราะช่วงนี้คนไข้เยอะพี่หมอก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้พัก“แล้วพวกนั้นถึงไหนกันแล้ว” ฮันน่าเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นนาเดียทำหน้าเศร้าขึ้นมา“อ้าว นั่นไงมาถึงพอดีเลย” นาเดียชี้ไปยังทางเดินที่มีสองสาวกำลังเดินมา“ใครเป็นคนออกแบบเนี่ย จัดงานได้
วันต่อมา“อื้อออ” ร่างเล็กรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ร่างกายร้าวระบมไปทั่วทุกส่วนจนแทบจะขยับไม่ได้ฮันน่ามองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเขานั้นจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตเธอร่างบางพยายามขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่น เพราะเธออยากจะให้เขาได้นอนพักต่ออีกสักนิดวันนี้ฮันน่าเลือกใส่ชุดเดรสแขนสั้นคลุมเข่าเนื้อผ้าเบาสบาย เพราะเธอจะต้องไปรับและพามินตราไปเที่ยวตลอดทั้งวัน“สายแล้วนะคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” ฮันน่าก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหูของมาเฟียหนุ่มเหมือนทุกครั้ง“ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันเลย” เคย์สันถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลุกเธอตลอด“พาหนูมินไปเที่ยวกันค่ะ” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงเด็กตัวเล็ก“เที่ยวที่ไหน” เคย์สันยังคงถามต่อ เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพามินตราไปเที่ยวที่ไหน“ทะเลค่ะ หนูเตรียมชุดเอาให้เฮียแล้วนะคะ”“ห้ามใส่บิกินี” น้ำเสียงดุดันเอ่ยห้ามก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ“รู้ได้ไง” ฮันน่าถึงกับนั่งทำหน้าเซ็ง เพราะเธอแอบเตรียมชุดว่ายน้ำใส่ในกระเป๋าเ
@โรงแรม“เป็นอะไรหรือเปล่า?”เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพัก เคย์สันก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าฮันน่าจะคิดมากเรื่องที่เขาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้มีนากับลูกสาว“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันคำตอบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ“คิดมากเรื่องมีนามั้ย”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่ฉันเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มีนากับลูกสาวไง”“หนูเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” ฮันน่าตอบไปตามความจริง เพราะเธอไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด“จริงเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ“จริงค่ะ แบบนี้สิคะถึงเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกในอนาคต” ฮันน่าบอกอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเธอก็ได้คนดีๆ อย่างเคย์สันมาร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน และเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขมากแน่ๆ“ฉันก็นึกว่าเธอจะน้อยใจซะอีก” เคย์สันตอบไปตามที่คิด“หนูไม่ใช่คนงี่เง่านะคะ แล้วอีกอย่างหนูก็เป็นคนดีด้วย” ฮันน่ายิ้มกว้างไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดมาก“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” มือหนารวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น“ก็รักไงคะหนูถึงเข้าใจ” ฮันน่ากอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน นับวันเธอยิ่งรักเขามากขึ้น“ไปอาบน้ำกันเถ