ฮันน่านั่งดื่มกับเพื่อนอย่างต่อเนื่อง แต่ในสมองกลับคิดหาวิธีต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ได้เบอร์โทรของชายหนุ่มมา
สายตาคู่สวยจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ในห้องวีไอพีผ่านกระจกอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่ร่างหนาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกจากห้องวีไอพีพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน
“มึงจะไปไหน?” กวินถามขึ้นเมื่อเห็นฮันน่าตั้งท่าจะเดินออกจากโต๊ะ
“จะไปเข้าห้องน้ำ” ฮันน่าเลือกที่จะโกหก เพราะถ้าขืนพูดความจริงไปมีหวังโดนกวินห้ามไม่ให้ไปแน่
หญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินออกมายังลานจอดรถ เพื่อรอใครบางคนที่เธออยากจะคุยด้วย เพราะยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้!! (หมายถึงได้เบอร์นะ)
“ไม่น่าดื่มเยอะเลย” ฮันน่าพึมพำกับตัวเองเบาๆ เธอพยายามยืนให้ตรงและเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ถึงแม้จะเมาแค่ไหนก็ตาม
ทว่าครั้งนี้เธอรู้ประวัติเขามาคร่าวๆ แล้ว แบบนี้เธอต้องเปลี่ยนความคิดและคำพูดให้ดีกว่าเดิม เผื่อว่าอะไรจะง่ายขึ้น
สายตาเฉี่ยวคมมองสำรวจไปทั่วลานจอดรถ ก่อนจะเห็นรถยนต์คันหรูที่มีบอดี้การ์ดยืนรออยู่เกือบสิบคน
“ต้องใช่คันนั้นแน่ๆ” ฮันน่าไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าไปทันที
“จะไปไหนครับ” โรมันลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับขวางทางเอาไว้
“ฉันมีธุระจะคุยกับผู้ชายคนนั้น” ฮันน่าชี้ไปยังชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงมาที่รถ
“รอสักครู่นะครับ” โรมันตอบก่อนจะให้ลูกน้องอีกคนมายืนเฝ้าหญิงสาวเอาไว้ แล้วเดินไปถามเจ้านาย
เคย์สันไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น เขาไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับเธอ ฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะสนใจหรือให้ความสำคัญกับเธอ
“ทำหน้านิ่งๆ แถมยังหยิ่งแบบนี้ มั่นใจเหรอว่าเมียตาย ไม่ใช่หนีไปเพราะทนอยู่ด้วยไม่ไหว” ฮันน่าตะโกนเสียงดัง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนหยิ่งขนาดนี้มาก่อนเลย
ทว่าคำพูดของเธอทำให้เขาหยุดนิ่ง หัวใจแกร่งกระตุกวูบด้วยความเจ็บปวด เมื่อมีคนพูดถึงอดีตภรรยาแบบนี้
ทุกคนที่ยืนอยู่ต่างก็เงียบกันหมดยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวขึ้น แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายๆ แค่ขอเบอร์ทำไมต้องให้ยากขนาดนี้ด้วย
“รีบออกไปเถอะครับ” ชายหนุ่มที่ยืนขวางทางอยู่กระซิบบอกฮันน่าเสียงเบาด้วยความหวังดี ก่อนที่เหตุการณ์ทุกอย่างจะเลวร้ายและอันตรายไปกว่านี้
พรึบ!!
“โอ๊ย!”
มือหนากระชากแขนเรียวอย่างรุนแรง จนอีกฝ่ายเผลอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ลองพูดใหม่ซิ!” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างรอฟังคำตอบ
“….” ร่างเล็กเริ่มกลัวขึ้นมา และมีเพียงความเงียบที่เป็นคำตอบ
“ใครจ้างเธอมา!”
มือหนาออกแรงบีบที่แขนเล็กแรงขึ้น พร้อมกับเอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้ บางทีเธออาจจะรู้เรื่องอะไรมาหรืออาจจะมีใครให้เธอมาตามสืบเรื่องของเขาอยู่ก็ได้
“ไม่มีใครจ้างมาทั้งนั้นแหละ ก็บอกแล้วไงว่าอยากได้เบอร์โทร”
ยิ่งเห็นหน้าตาใสซื่อและท่าทางไร้เดียงสา มือหนาก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบที่แขนให้แรงขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาเล่นตลกด้วย
“เป็นมาเฟียแล้วชอบทำรุนแรงแบบนี้เหรอ ไม่น่าล่ะถึงไม่มีใครอยากอยู่ด้วย!” ความเจ็บที่แขนทำให้เธอต้องพูด เพื่อให้เขารู้สึกเจ็บเหมือนที่เธอกำลังเจ็บอยู่ตอนนี้
“ขึ้นไปรอบนรถเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ต่อให้” โรมันเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงคนตัวเล็ก เพราะกลัวว่าเจ้านายจะเผลอทำอะไรที่รุนแรงกว่านี้
“ไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน!!” น้ำเสียงและท่าทางดุดันเอ่ยถามอีกครั้ง
ถึงตอนแรกเขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ไม่ทัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรับรู้เรื่องนี้ได้ ด้วยอำนาจและอิทธิพลทำให้ข่าวนี้หายไปภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง มีเพียงคนสนิทและศัตรูคู่แข่งที่รู้เรื่องนี้
“ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละ” ถึงจะกลัวคนตรงหน้ามากแค่ไหน แต่ฮันน่าก็ทำตัวนิ่งเอาไว้ไม่ให้เขารู้
“ไม่ตลกและฉันก็ไม่ใช่คนที่ใครจะมาเล่นตลกด้วย”
เมื่อความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น ฮันน่าจึงพยายามใช้มืออีกข้างแกะมือหนาออก แต่ยิ่งเธอขัดขืนเขาก็ยิ่งบีบแขนแรงขึ้น
“ไม่ได้เล่นตลก ก็แค่อยากได้เบอร์” หญิงสาวตอบไปตามตรง
“ฉันไม่ใช่คนที่เธอควรยุ่ง กลับไปซะ!” มาเฟียหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะปล่อยแขนเล็กให้เป็นอิสระ
“ทำไม ชีวิตมาเฟียมันอันตรายมากเหรอ แล้วมันเหมือนในซีรี่ย์หรือเปล่าที่มีคนมาคอยตามฆ่า ตามทำร้ายอยู่ตลอด” ฮันน่าอยากจะรู้เหมือนกันว่าชีวิตมาเฟียเป็นยังไง ทำไมเธอถึงจะยุ่งด้วยไม่ได้
“ตอนนี้มีคนแอบตามอยู่ ต้องรีบออกไปแล้วครับ ถ้าไม่รีบไปตอนนี้อาจจะเกิดอันตรายได้” โรมันรายงานตามหน้าที่ โดยไม่มีท่าทางตกใจแต่อย่างใด เพราะมักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยๆ
“ล้อกันเล่นหรือเปล่า” ฮันน่าฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินที่ชายชุดดำรายงาน ยังไงเธอก็ไม่เชื่อและคงจะเป็นเรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน
“รีบไปกันเถอะครับ” โอนิกซ์ลูกน้องคนสนิทอีกคนเอ่ยบอกเจ้านาย
“ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ จนกว่าคุณจะให้เบอร์ฉัน!” มือบางกอดแขนมาเฟียหนุ่มเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาเดินจากไป
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“อร๊ายยยย!!”
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาา น้องก็ดื้อไม่ยอมกลับ ก็เลยต้องมาตกอยู่ในฉากเสี่ยงตาย อิอิ
เช้าวันต่อมาฮันน่ากับเคย์สันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็จัดการเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อยค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมดที่เคย์สันต้องจ่ายเกือบสองล้าน เพราะมีทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าเวที ค่านักร้อง ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งยังไม่รวมค่าชุดกับค่าแต่งหน้าที่เขาจะต้องกลับไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ อีกวันนี้ฮันน่าชวนเคย์สันออกไปเดินเล่นที่ริมทะเล เนื่องจากต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน จึงต้องออกมาเดินเที่ยวเล่นชมบรรยากาศกันสักหน่อย“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฮันน่าถามขึ้นเมื่อเคย์สันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่“เอ่อ… คือ งานที่กรุงเทพมีปัญหา ต้องรีบกลับไปเคลียร์” เคย์สันอ้ำอึ้งก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา ซึ่งเป็นงานสำคัญที่เขาไม่อาจจะเลี่ยงได้“หนูขอไปเก็บของก่อนได้มั้ยคะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ถึงในใจจะแอบผิดหวังอยู่บ้าง“ไม่อยู่เที่ยวต่อเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าฮันน่าชอบทะเลมากแค่ไหน ถ้าได้มาแล้วเขาก็อยากจะให้เธอได้พักผ่อนที่นี่ก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับพร้อมเฮียเลยดีกว่า” ฮันน่าตอบ“เดี๋ยวจะพามาเที่ยวใหม่
พิธีการต่างๆ ถูกดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงาน นั่นก็คือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ถึงแม้แขกบางส่วนจะทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังเหลือบางส่วนที่รออยู่จนถึงขั้นตอนนี้ทุกคนต่างก็ร่วมอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัว“ม๊าอยากเลี้ยงหลานแล้วนะ” ก่อนจะออกไปคุณแม่ของฮันน่าก็ไม่ลืมที่จะพูดย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง“ม๊าคะ” ใบหน้าสวยร้อนแผ่วรู้สึกเขินอายในสิ่งที่คุณแม่พูดออกมา“ไม่ต้องห่วงนะครับ” เคย์สันหันไปบอกแม่ยายพร้อมรอยยิ้ม เพราะเขาเองก็อยากจะมีลูกแล้วเหมือนกันหลังจากที่ทุกคนเดินออกไป เคย์สันก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างทันที“เหนื่อยมั้ย” มาเฟียหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง มือหนาจับปลายคางให้เชิ่ดขึ้น เพื่อที่เขาจะได้มองใบหน้าสวยได้ชัดเจน“นิดหน่อยค่ะ” ฮันน่าฉีกยิ้มกว้างถึงแม้จะเหนื่อยแต่ทุกอย่างก็คุ้มค่าสำหรับเธอ“แล้วเมื่อไหร่เราจะมีลูกด้วยกัน” เคย์สันถามขึ้น เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮันน่าจะท้องเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจทำมาตลอด“เฮียอยากมีลูกเหรอคะ” ฮันน่าถามย้ำด้วยความตก
วันต่อมาเวลา 16:00 น.แสงแดดอ่อนๆ กับสายลมเย็นสบาย เสียงคลื่นซัดสาดเป็นระยะ บรรยากาศเย็นสบายตามแบบฉบับของธรรมชาติหาดทราย สายลม แสงแดด ท้องฟ้าสีสวย กับทะเลสีคราม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนโต๊ะเก้าอี้จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงาม มีทั้งโซนอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับแขกทุกคนที่มาร่วมงานทางเดินเล็กๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เดินขึ้นเวที และตลอดทางก็มีดอกกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดจัดเรียงเอาไว้ทั่วงาน ซึ่งดูสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมากและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว แขกในงานก็เริ่มทยอยมากันจนใกล้จะครบแล้ว บรรดาเพื่อนๆ ต่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกแทนเจ้าของงานได้เป็นอย่างดีทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็เป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิทที่ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีในงานวันนี้“ข้างนอกคนเยอะมั้ย” ความตื่นเต้นทำเอาเจ้าสาวของงานเดินไปเดินมาไม่หยุด ใครเข้ามาก็ถามทุกครั้งว่าคนเยอะหรือเปล่าฮันน่าอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา ภายนอกอาจจะดูเรียบๆ แต่กลับมีลายปักดอกไม้แฝงอยู่ด้านในเพื่อเพิ่มเสน่ห์และลวดลายให้ดูน่าค้นหามากขึ้น“ไม่เยอะหรอก” ค
สามเดือนต่อมา@ภูเก็ตประเทศไทยฮันน่าตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะงานนี้จะต้องออกมาดีและสวยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาหาร ดอกไม้ และโรงแรม เรียกได้ว่าฮันน่าดูแลทุกขั้นตอนทว่าฮันน่าคนเดียวคงดูแลไม่ไหว เพราะมีเพื่อนๆ คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอยู่ตลอด อย่างเช่นตอนนี้…“งานนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ”นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ เมื่อทุกอย่างใกล้จะเสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่เพียงเก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อยดี“ขอบใจมากนะที่มาช่วย” ฮันน่าขอบคุณนาเดียที่มาช่วยเธอออกแบบและทำทุกอย่าง“เพื่อนจะแต่งงานทั้งทีก็ต้องมาช่วยสิ เดี๋ยวอีกหน่อยพวกนั้นก็คงมาถึง” นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้ม และอีกหน่อยคริสตัลกับไอรินก็คงจะมาถึงกันแล้ว“แล้วพี่หมอล่ะ” ฮันน่าถามถึงคุณหมอคีรินทันที“ทำงานอยู่ คงจะมาถึงตอนดึกๆ นู้นแหละ” นาเดียตอบไป เพราะช่วงนี้คนไข้เยอะพี่หมอก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้พัก“แล้วพวกนั้นถึงไหนกันแล้ว” ฮันน่าเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นนาเดียทำหน้าเศร้าขึ้นมา“อ้าว นั่นไงมาถึงพอดีเลย” นาเดียชี้ไปยังทางเดินที่มีสองสาวกำลังเดินมา“ใครเป็นคนออกแบบเนี่ย จัดงานได้
วันต่อมา“อื้อออ” ร่างเล็กรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ร่างกายร้าวระบมไปทั่วทุกส่วนจนแทบจะขยับไม่ได้ฮันน่ามองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเขานั้นจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตเธอร่างบางพยายามขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่น เพราะเธออยากจะให้เขาได้นอนพักต่ออีกสักนิดวันนี้ฮันน่าเลือกใส่ชุดเดรสแขนสั้นคลุมเข่าเนื้อผ้าเบาสบาย เพราะเธอจะต้องไปรับและพามินตราไปเที่ยวตลอดทั้งวัน“สายแล้วนะคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” ฮันน่าก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหูของมาเฟียหนุ่มเหมือนทุกครั้ง“ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันเลย” เคย์สันถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลุกเธอตลอด“พาหนูมินไปเที่ยวกันค่ะ” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงเด็กตัวเล็ก“เที่ยวที่ไหน” เคย์สันยังคงถามต่อ เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพามินตราไปเที่ยวที่ไหน“ทะเลค่ะ หนูเตรียมชุดเอาให้เฮียแล้วนะคะ”“ห้ามใส่บิกินี” น้ำเสียงดุดันเอ่ยห้ามก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ“รู้ได้ไง” ฮันน่าถึงกับนั่งทำหน้าเซ็ง เพราะเธอแอบเตรียมชุดว่ายน้ำใส่ในกระเป๋าเ
@โรงแรม“เป็นอะไรหรือเปล่า?”เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพัก เคย์สันก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าฮันน่าจะคิดมากเรื่องที่เขาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้มีนากับลูกสาว“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันคำตอบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ“คิดมากเรื่องมีนามั้ย”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่ฉันเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มีนากับลูกสาวไง”“หนูเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” ฮันน่าตอบไปตามความจริง เพราะเธอไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด“จริงเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ“จริงค่ะ แบบนี้สิคะถึงเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกในอนาคต” ฮันน่าบอกอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเธอก็ได้คนดีๆ อย่างเคย์สันมาร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน และเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขมากแน่ๆ“ฉันก็นึกว่าเธอจะน้อยใจซะอีก” เคย์สันตอบไปตามที่คิด“หนูไม่ใช่คนงี่เง่านะคะ แล้วอีกอย่างหนูก็เป็นคนดีด้วย” ฮันน่ายิ้มกว้างไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดมาก“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” มือหนารวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น“ก็รักไงคะหนูถึงเข้าใจ” ฮันน่ากอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน นับวันเธอยิ่งรักเขามากขึ้น“ไปอาบน้ำกันเถ