โรงแรม AA
บรรยากาศชั้นบนโรงแรมดีมากกว่าที่ฟางอ่านในรีวิวมาเสียอีก หรืออาจจะเป็นเพราะหนุ่มที่เธอมาด้วยในวันนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ว่าเพียงแค่เวย์เดินเข้ามาผู้หญิงในร้านก็ต่างหันมาสนใจเขาเป็นตาเดียว
ก็แน่ละรูปร่างสูงสมส่วนที่เกือบจะเรียกได้ว่าหุ่นนายแบบก็ไม่ผิด หน้าตาก็หล่อไม่ต่างกับดาราเพียงแต่เขาคงไม่ได้ทำอาชีพเดียวกับยาหยีแน่ ๆ
“ช่วงสองสามปีมานี้พี่บินค่อนข้างหนักน่ะ ส่วนใหญ่ต้องไปต่างประเทศดังนั้นก็เลยทำแต่งานก็เลยไม่ค่อยได้พบกับใคร”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง ยินดีด้วยนะคะที่ได้เป็นนักบินอย่างที่ฝันจริง ๆ"
“ฮ่า ๆ สาวน้อยครับ ผมเป็นกัปตันไม่ใช่แค่นักบิน”
“โอ้ว ถ้าอย่างนั้นขอดื่มยินดีให้กับกัปตันสุดหล่ออายุยังน้อยนะคะ”
“ต้องแบบนี้สิ”
ไวน์ในขวดเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อทั้งคู่ต่างก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง เขาเลิกกับยาหยีหลังจากเรียนจบและเข้าสายการบินต่างชาติซึ่งไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร เธอจึงเล่าให้เขาฟังว่าไม่อยากทำธุรกิจที่บ้านและรักงานเขียนจึงออกมาอยู่คนเดียวและเขียนนิยายเป็นอาชีพ
“แล้วเขียนได้เหรอทั้ง ๆ ที่มีแฟนแต่ก็แทบจะไม่เจอแบบนี้”
“ก็อาศัยอ่านเยอะ ๆ ค่ะ ใช่ว่าไม่มีประสบการณ์จะเขียนเรื่องแบบนี้ไม่ได้สักหน่อยพี่เวย์ถามอะไรเนี่ยลามกจริง”
“เริ่มเมาแล้วสิเนี่ย”
“ไม่เมาสักหน่อยไม่รู้จักฟางล้างวงเสียแล้ว”
“อะไรคือฟางล้างวง”
“ฟางคอแข็งที่สุดในกลุ่มไงล่ะคะ คนอื่น ๆ หมอบหมดฟางจะคอยล้างคอยเช็ดเพราะทุกคนเมา”
เวย์ยิ้มและส่ายหัว เขาลงความเห็นว่าเธอเมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้ว แต่เพราะท่าทางที่น่ารักนั่นทำให้เขามองเพลินก่อนจะหันไปบอกกับพนักงานโรงแรม
“นี่บัตรของผม เปิดห้องสวีทให้ที”
“ครับผม”
พนักงานรับบัตรวีไอพีสีดำของวิชญะและเดินออกไปจัดการให้เขาทันที เมื่อหันมามองฟางที่ยังนั่งมองออกไปข้างนอกเขาจึงได้เห็นหยดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยที่เธอคงอยากจะแอบร้องไห้เงียบ ๆ
“ฟาง…”
“ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรพี่ไม่ถือ ถ้าอยากจะร้องก็ร้องได้ตรงนี้ไม่มีใครได้ยินหรอกเพราะอยู่ข้างนอกระเบียง”
“ทำไมกันคะ การที่เราทุ่มเทความรู้สึกแต่ไม่ได้แสดงออกมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอคะ ตอนมาขอคบกันบอกว่าอยากจะเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็เอาเรื่องบนเตียงมาอ้างจนได้”
“ฟางเมาแล้วนะกลับกันก่อนดีไหม”
“บุฟเฟต์ที่นี่ไม่ได้จำกัดเวลาเสียหน่อย ถ้าพี่เวย์อยากกลับก็กลับไปก่อนได้เลยค่ะ ฟางยังอยากนั่งดื่มต่ออีกนิด”
“แต่ว่าไวน์จะหมดแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฟางจะสั่งมาเพิ่ม”
“ไม่ได้หรอกนี่มันดึกแล้ว อีกอย่างถ้าอยากดื่มมากกว่านี้ไปดื่มที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ดีกว่า”
“พี่เวย์ทำไมพี่เป็นคนดีแบบนี้ละคะ ทำไมตอนนั้น… ช่างเถอะพูดไปก็ย้อนกลับไปไม่ได้”
เวย์หันไปมองหน้าเธอนิ่ง ๆ เหมือนกับคิดบางอย่างอยู่ในใจ โรงแรมนี้เขามักจะมาพักเสมอช่วงที่ไม่อยากกลับคอนโดและรอเข้าทำงานซึ่งตอนนี้เขาได้วันพักมาสิบวัน
“ถ้าย้อนกลับไปได้ ฟางอยากจะทำอะไรเหรอ”
“จีบพี่ยังไงล่ะ! จีบก่อนที่พี่จะคบกับยาหยี ให้ตายเถอะทำไมตอนนั้นถึงไม่มีความกล้ามากขนาดนี้นะ ถ้าหน้าด้านได้ครึ่งหนึ่งของตอนนี้ก็คงดีพี่เวย์ว่าไหมคะ แค่ลากพี่เข้าโรงแรมแค่นี้ก็ได้พี่เป็นแฟนแล้ว”
“ฟาง นี่พูดอะไรน่ะคงไม่ใช่บทในนิยายที่เขียนใช่ไหม”
“ใช่สิคะ ใช่แน่นอนมันมาจากนิยายทั้งนั้นแหละ ทำจริงได้ที่ไหนกัน”
อาหารของที่นี่เขากินจนเบื่อแล้ว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเมาเขาจึงสั่งให้เปิดห้องเพื่อจะได้พาเธอไปพักเพื่อให้สร่างเมา เมื่อเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ และจะชวนเธอไปพักฟางก็หันมาเกือบจะชนหน้าเขาอยู่แล้ว
“โอ้โหพี่เวย์ คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าผ่านไปเกือบสี่ปีพี่ก็ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ไม่สิ หล่อขึ้นอีกมากเลย”
“ฟางเมาแล้ว กลับเถอะพี่สั่งคิดเงินแล้ว”
“คิดเงิน! ใช่แล้วคิดเงิน ๆ บัตรบุฟเฟต์อยู่....”
“ไม่ต้องใช้ เรียบร้อยแล้วไปกันเถอะค่อย ๆ ลุกนะ”
เขาค่อย ๆ พยุงตัวเธอลุกจากโต๊ะและเดินออกไป ก่อนจะออกพนักงานก็ยื่นการ์ดและกุญแจห้องให้เขา เวย์ค่อย ๆ พาฟางที่เดินเซไปมาไปที่ลิฟต์ที่จะขึ้นไปยังชั้นวีไอพี เมื่อเข้าไปได้ก็ค่อย ๆ พิงไปที่ผนังลิฟต์เขาถึงได้รู้ว่ารูปร่างของเธอไม่ธรรมดาจนทำให้คอเริ่มแห้งผาก อีกอย่างวันนี้เขาก็ดื่มมามากพอ ๆ กับเธอ
“ต้องรีบอาบน้ำแล้ว”
เมื่อเปิดห้องเข้าไปได้เขาก็ตัดสินใจอุ้มร่างของฟางไปที่เตียงเพื่อให้เธอนอนพัก เพราะสภาพของฟางที่เมาแล้วเดินไม่ตรงทำให้เขาเหนื่อยมากที่จะเดินพยุงเธอเข้ามา
“ฟู่ว… อาบน้ำสักหน่อยก็แล้วกัน หวังว่าจะสร่างเมานะ”
มือถือของเขาสั่น ข้อความแจ้งเตือนดังขึ้นมาจนเวย์ที่กำลังจะถอดเสื้อเชิ้ตออกหันมาหยิบดู
“เวย์ อีกสองวันมาดื่มกันหน่อย มึงกลับมาเมืองไทยแล้วใช่ไหมอย่าลืมมานะ สถานที่ XXX”
วิชญะวางมือถือเอาไว้อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อให้สดชื่นขึ้น อาชีพกัปตันนักบินอย่างเขาแทบจะไม่ค่อยได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิทสมัยเรียนเลย ครั้งนี้มีโอกาสเขาคิดว่าอาจจะไปสักหน่อยติดแค่ว่าเขาอาจจะไปเจอกับคนที่ไม่ค่อยอยากพบเจอเท่าไหร่
“สามปีแล้วสินะ”
เวย์ที่เริ่มสร่างเมาค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อออกมาข้างนอกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าฟางเริ่มถอดเสื้อผ้าออกเหลือแค่กระโปรงซับในของชุดเดรสที่เธอใส่อยู่เท่านั้น
“ฟาง! ทำอะไรน่ะ”
“ร้อน! ง่วงนอนเลยจะถอดชุดออก”
“เดี๋ยวก่อนสิ เดี๋ยว ๆ ร้อนก็ไปอาบน้ำ”
“อือ…ร้อน”
“เดี๋ยวพี่ไปเอาชุดคลุมให้”
เขารีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดคลุมให้เธอแต่เมื่อหันมาก็พบว่าเธออยู่ที่ด้านหลังแล้ว
“พี่เวย์”
“ฟาง คือว่า…”
ตอนนี้เธอกอดเขาจากด้านหลังและพูดบางอย่างออกมา คงจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเธอตอนนี้ และอาจจะด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรงในวันนี้ด้วย
“พี่เวย์ถ้าตอนนั้นฟางใจกล้าอีกนิดและตัดสินใจจีบพี่ก่อนยาหยี พี่จะหันมามองฟางไหมคะ”
เวย์ที่ใจเต้นแรงซึ่งไม่เคยเป็นมานานแล้วค่อย ๆ หันมามองหน้าฟางที่เหมือนว่าไม่เมาแต่ก็เมา เธอพูดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
“ฟาง นี่ฟางกำลังจะบอกว่าฟางเคยชอบพี่งั้นเหรอ แต่ว่าตอนนั้น….”
“ใช่สิ ชอบมานาน ชอบมาก่อนที่ยาหยีจะเข้าหาพี่ชอบมาก่อนใครและมองพี่มาตั้งหลายปี สุดท้ายเพราะความขี้ขลาดของฟางเองที่ไม่กล้า ก็เลยได้แค่มองพี่กับยาหยีคบกัน”
“ฟาง รู้ตัวหรือเปล่าว่ามาพูดเรื่องนี้เวลาแบบนี้มันจะไม่ปลอดภัยนะ”
“ไม่ปลอดภัยเหรอ หึหึ ขนาดแฟนที่ไว้ใจมาปีกว่ายังนอกใจไปนอนกับเลขาตัวเองได้เลย มีอะไรที่น่ากลัวอีก ไหน ๆ เขาก็บอกว่าฟางตายด้าน ฟางก็จะทำให้เขาเห็นว่าฟางก็ทำแบบเขาได้เหมือนกัน แล้วก็ทำกับคนที่ฟางชอบมาตลอดด้วยไม่ได้กินไปเรื่อยแบบเขา!”
เธอดึงเขาเข้ามาแล้วจูบทันที เวย์ตกใจเมื่อถูกเธอดึงไปจูบซึ่งแม้ว่าจะตกใจแต่ก็อดเผลอคล้อยตามไม่ได้ มือถือของเธอสั่นขึ้นมาเขาจึงหันไปมองและเห็นข้อความบนนั้นก่อนมันจะดับไป
“สุขสันต์วันเกินนะฟาง พี่ขอโทษแต่ว่าเมื่อตอนบ่ายพี่ใจร้อนไปหน่อยเรามาคุยกันดี ๆ อีกครั้งเถอะนะพี่เองก็ไม่ได้อยากเลิกกับฟาง เรามาคุยกันใหม่นะ”
วิชญะหันมาดึงมือถือของเธอขึ้นมาอ่านและกดปิดเครื่องไปทันที ก่อนจะวางไปที่เคาน์เตอร์ข้าง ๆ มือถือของเขาเอง
“ฟาง…. แน่ใจนะ”
“ไม่เคยแน่ใจมากกว่านี้อีกแล้ว”
วิชญะอุ้มเธอขึ้นมา ขาเรียวเกี่ยวรอบเอวของเขาเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะค่อย ๆ จูบเธอแรง ๆ ไปอีกทีและพาเดินมาวางราบไปที่เตียงนุ่ม ๆ ของห้องสวีทสุดหรู
“สุขสันต์วันเกิดนะครับฟาง…”
สี่ปีต่อมา “ขอบคุณนะคะ”“ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ “กัปตันเย็นชากับนางฟ้าสายโหด” เขียนแนวนี้อีกนะคะ”“ขอบคุณที่ชื่นชอบนะคะ จะเก็บไปพิจารณาเลยค่ะ”“เชิญเลยค่ะ คนต่อไปค่ะ”ด้านนอก“รามิลเห็นคุณแม่ไหมครับ พ่อคิดว่าตอนนี้คุณแม่เริ่มเหนื่อยแล้ว”“งั้นมิลจะเอาน้ำไปให้คุณแม่นะครับ”“ดีมากลูก พ่อจะนั่งรออยู่นี่นะ อ่ะนี่ครับ”“รามิล” เด็กน้อยวัยสี่ขวบรับน้ำจากคุณพ่อของเขาและเดินตรงไปที่โต๊ะแจกลายเซ็นนักเขียนของฟางในงานเปิดตัวหนังสือเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นภาคต่อจาก "Love Flight" ที่เธอเขียนเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อนซึ่งนับว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดเพราะนักอ่านต่างเฝ้ารอภาคต่อของเรื่องนี้มานานหลายปี สาเหตุเพราะนักเขียนคนโปรดของพวกเธอแต่งงานและต้องเลี้ยงลูก ทำให้เรื่องนี้ต้องรอเวลามากว่าสี่ปีถึงจะได้อ่านอีกครั้ง“คุณแม่ครับ มิลเอาน้ำมาให้ครับ”“กรี๊ด!!! นี่น้องรามิลใช่ไหมคะคุณซีซี”“ใช่ค่ะ ขอบคุณนะครับลูก มานั่งตรงนี้กับแม่มา”ฟางหันมารับน้ำและยกตัวเด็กน้อยวัยเกือบสี่ขวบขึ้นมานั่งที่ตัก บางส่วนเริ่มขอถ่ายรูปเด็กน้อยคู่กับแม่ หลายคนนึกเสียดายที่พ้นคิวของตัวเองมาแล้วก็เลยอดถ่ายกับหนูน้อยรามิลถึงกับนั่งบ่น เ
หลังจากงานแถลงข่าว / คอนโด “พี่เวย์วางแผนมานานสินะคะ”“พี่เปล่านะ”“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ของพี่เวย์จะมาได้ยังไงคะ ไหนจะพาคุณพ่อคุณแม่ของฟางที่จะไปเที่ยวภูเก็ตมาด้วยอีก”“นั่นพี่ก็แค่บอกว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของฟางในฐานะนักเขียน และเป็นวันที่ต้องจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ครอบครัวว่าพี่จะทำเรื่องแบบนี้แค่ครั้งเดียว พ่อแม่พี่จะยอมพลาดงั้นเหรอ”“พี่เวย์… แอบอ่านนิยายของฟางเหรอคะ”เวย์ยิ้มก่อนจะดึงตัวคู่หมั้นของเขามากอดเอาไว้“รู้ไหมว่าพี่คิดหาวิธีขอแต่งงานมานานแค่ไหน พี่ว่ามันยากกว่าการที่จะทำข้อสอบตอนสอบกัปตันเสียอีกให้ตายเถอะ ทั้ง ๆ ที่ฟางก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไร แต่พี่กลับรู้สึกกดดันมากกว่าทุกครั้ง คงเพราะพี่อยากจะให้มันออกมาพิเศษและประทับใจที่สุด ที่สำคัญต้องทำให้ฟางปฏิเสธพี่ไม่ได้ด้วย”“พี่เวย์บ้าหรือเปล่าคะ ปกติเราสองคนก็พูดกันตรง ๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้นเลย ฟางอายแทบตาย”“แต่ก็แอบยิ้มไม่ใช่เหรอ”“ไม่ใช่แค่ยิ้มค่ะ ดีใจและภูมิใจในตัวพี่เวย์มากเลยค่ะ วันนี้ทุกคนคงคิดว่าฟางเป็นนางเอกในนิยายที่ตัวเองเขียนแน่ ๆ เลย”“แต่นักอ่านดูจะอินมากเลยนะ”“จริงเหรอคะ”“งั้น…เราจ
หลังงานเปิดตัวหนังสือ “คุณอาร์ม แก้วจำได้ว่าคุณบอกกับคุณพิศาลว่าจะไปหน้างานที่ระยองไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้”“คุณแก้ว ไม่เอาน่าอย่าพึ่งมาทำหน้าที่เลขาจอมโหดอยู่แถวนี้ วันนี้มันเป็นวันสำคัญของเพื่อนสนิทผมเชียวนะ”“เหรอคะ แล้ว…”“ว่าแต่คุณเถอะ มาทำอะไรที่นี่กันล่ะ นี่นะเหรอที่บอกว่าขอลางานไปทำเรื่องสำคัญ”“ฉัน!…”“แก้ว” กวีณาเถียงไม่ออกเมื่อ “อาร์ม” พิศุจน์ยอกย้อนเธอกลับมา แก้วถลึงตาใส่เขาโดยมีอิงและนิดจับแขนเอาไว้คนละข้าง“ใจเย็น ๆ ก่อนนะแก้วมีอะไรกันเหรอ นี่แกรู้จักกับพี่อาร์มด้วยเหรอ”""รู้จักสิ ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ""ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกัน ตอนนี้เวย์และฟางเดินลงมาจากเวทีแล้วและแฟน ๆ หนังสือเริ่มจะต่อแถวเพื่อจะถ่ายรูปและขอลายเซ็นนักเขียนคนโปรดของพวกเธอ “น้องแก้ว น้องอิงน้องนิด ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ไอ้อาร์มมึงอย่าบอกนะว่าเลขาหน้าโหดที่มึงเคยพูดถึงคือ…”“อะไรนะ เลขาอะไรนะนี่คุณกล้าพูดว่าฉันเป็น...”“ก็มันจริงนี่ วัน ๆ เอาแต่จับผิดคนอื่นแต่ตัวเองก็หนีงานมาเที่ยว”“ฉันไม่ได้มาเที่ยว ไอ้นิดแกปล่อยฉันจะต่อยปากมัน”“แกใจเย็น ๆ ก่อนแก้ว ยังไงพี่อาร์มก็เป็นรุ่นพี่ของเรานะ”“รุ่นพี
ห้องนอน“ฟาง หลับแล้วเหรอ”“พี่เวย์… มีอะไรเหรอคะ”“หายปวดท้องหรือยัง”ฟางหันมามองหน้าคนที่นอนข้าง ๆ เธอเครียดกับงานเปิดตัวหนังสือที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ อีกอย่างช่วงนี้เวย์ก็เริ่มทำท่าทางแปลก ๆ แม้ว่าเธอจะอยากถามแต่เขาก็มักจะตอบแบบเลี่ยง ๆ เสมอ“หายแล้วค่ะ พี่เวย์เป็นอะไรคะ พรุ่งนี้จะต้องบินแล้วไม่รีบนอนล่ะคะ”“พี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ อยากกอดฟาง”“อืม…ตื่นเต้นอะไรคะ หลังจากเรื่องนั้นก็บินมาสองรอบแล้วนี่คะ ยังกลัวอยู่อีกเหรอ”“เปล่าพี่ไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากอยู่ห่างฟาง ช่วงนี้พี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ไม่อยากห่างจากฟางไปไหนเลย แค่วันนั้นไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ก็เอาแต่คิดถึงฟาง”“หึ พี่เวย์เคยชินน่ะสิคะ เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนี้จนไม่มีเวลาไปเจอคนอื่น ฟางผิดเองที่ทำตัวติดกับพี่เวย์มากเกินไป บางครั้งควรจะปล่อยให้พี่เวย์ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ บ้าง”“ไม่ใช่แบบนั้นพี่รู้สึกไม่อยากไปเองต่างหาก เมื่อวานก็รีบไปรีบกลับเพราะเป็นห่วงฟาง พี่กลายเป็นคนติดเมียไปแล้วจริง ๆ สินะแบบนี้”“อือ… นอนเถอะค่ะ”“ลูกแมวน้อยทำไมง่วงเร็วแบบนี้ล่ะ”“ขอโทษค่ะแต่ฟางมัวแต่ตรวจงานจนเพลีย…”สองวันมานี้ฟางทำแต่งาน ส่วนเวย์เอง
เวย์แค่มองตามฟางที่เดินเข้าห้องไปเงียบ ๆ อีกสองวันเขาจะบินอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ไปไกลมากและใช้เวลาไม่นานแต่เมื่อเห็นแฟนสาวเป็นแบบนี้เขาจึงไม่ค่อยสบายใจนักวันถัดมาอาร์ม รุจและราเชนทร์มาพบกับเวย์ที่ร้านอาหาร เพื่อน ๆ ต่างก็แปลกใจไม่น้อยที่เขานัดมาที่นี่ ปกติแล้วไม่เจอกันตามร้านเหล้าก็จะเป็นในผับ แต่พอมาเจอเวย์อีกครั้งกับสีหน้าที่ตึงเครียดพวกเขาจึงอดถามไม่ได้“ทำไมมึงนัดพวกกูมาแต่หัววันแบบนี้วะ ปกติต้องนัดหลังสี่ทุ่มไม่ใช่เหรอไอ้เวย์”“นั่นสิไอ้อาร์มพูดถูก ว่าแต่มึงหายดีแล้วเหรอตั้งแต่เรื่องอุบัติเหตุครั้งก่อนพวกกูก็ไม่มีโอกาสได้เจอมึงเลย”“หายดีแล้วล่ะ ที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแต่มันเป็นข่าวขึ้นมาก็เพราะ…”“กูรู้ เพราะน้องยาหยีนั่นใช่ไหม กูกับไอ้เชนตามข่าวอยู่เหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าโลกจะกลมขนาดนี้แล้วนี่น้องหวาน…ไม่ใช่ แฟนมึงไม่ว่าอะไรเหรอ”“ฟางมีเหตุผลมากพอที่จะไม่สนใจเรื่องแบบนี้ อีกอย่างนิสัยของอีกฝ่ายเป็นยังไงฟางรู้ดีที่สุดเลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่”“ไม่มีปัญหาแต่ทำไมสีหน้ามึงเป็นแบบนี้ล่ะ นี่มันดูหนักกว่าอาการบาดเจ็บของมึงเสียอีกนะ ตอนมึงเลิกกับยาหยียังดูไม่กลุ้มมากขนาดนี้เลยนี่
วันถัดมา / สำนักพิมพ์“ขอบคุณมากนะคะพี่วุ้นที่คอยช่วยเหลือมาตลอดเลย ในที่สุดก็จบโปรเจคเรื่องนี้เสียที”“พี่สิต้องขอบคุณน้องฟาง ดีใจมาก ๆ ที่ฟางยอมเขียนเรื่องนี้ให้จบ นักอ่านต่างก็ตั้งตารอเลยล่ะ อย่างน้อย ๆ ก็มีพลอตอื่นที่แหวกแนวออกมาบ้าง”“ขอบคุณค่ะ งั้นฟางขอตัวก่อนนะคะ”“กลับดี ๆ นะเอาไว้หนังสือเสร็จเมื่อไหร่แล้วพี่จะโทรหา”“ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่วุ้น”ฟางเดินออกมาเพื่อจะไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ ๆ แต่กลับบังเอิญพบกับคนที่เธอเกือบจะลืมหน้าไปแล้ว เธอกำลังเดินมาที่สถานีเช่นกันแต่เมื่อเห็นก็รีบเดินเข้ามาทักทาย“คุณฟาง”“พี่จอย!”“จอย” เลขาของภาคภูมินั่นเองที่เดินเข้ามาทักทายเธอ วันนี้เธอสวมชุดคลุมท้องสีอ่อนทำให้ฟางตกใจเล็กน้อย ฟางจึงเอ่ยปากชวนเธอเข้าไปที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าเพื่อจะคุยกัน ฟางเกือบจะลืมเรื่องราวของภาคภูมิและจอยไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะมีโอกาสได้พบเธออีกครั้ง“พี่จอยไม่ได้ทำงานกับ…เขาแล้วเหรอคะ”“พี่ย้ายมาเป็นเลขาให้คุณวิภาดาพี่สาวของคุณภูมิได้เกือบครึ่งปีแล้วค่ะ”“เกือบครึ่งปีเหรอคะ หรือว่า…”“หลังจากที่เขาเลิกกับคุณฟาง พอกลับไปที่บ้านแล้วคุณแม่ของคุณภูมิทราบก็ด