LOGINหลอมรักครั้งที่ 2
2/3
“ปกติมีเซ็กซ์แล้วจูบไหม” ผมกระซิบถามแล้วหอมแก้มพาลินหนึ่งที
“ไม่อะ เราไม่ชอบจูบกับใครที่ไม่ใช่แฟน” น้ำเสียงติดหอบตอบกลับมา
ครู่ใหญ่เราออกจากอ่างและใส่ชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้ ผมของผมเปียกกว่าเธอ อาจจะเพราะเธอหนีบผมเอาไว้ เธอเลยเป่าผมให้ด้วย พาลินนั่งตักผม หันหน้าเข้าหาแล้วก็เป่าให้ ผมประคองกอดเอวเธอหลวม ๆ แล้วมองหน้าเธอระหว่างนั้น
“มองอะไรนักล่ะ” เธอถามตอนลดความแรงของไดรท์เป่าผมลงมาเป็นแบบเบาที่สุดและเป็นลมเย็น
“มองคนสวย” ผมตอบ พาลินยิ้ม เธอไม่ค่อยขวยเขินอาจจะคงชาชินกับคำหวานที่ผู้ชายส่งมาให้ พาลินสวยมาก แม้เพื่อนเธอที่ผมเคยเห็นอยู่รวมกันจะสวยทุกคน แต่พาลินมีเสน่ห์แบบที่ต่างออกไป ผมมองพาลินคนแรก น่าจะเช่นเดียวกับที่น้องชายของผมมองเพื่อนพาลินคนแรกเหมือนกัน
“ชมกี่คนแล้วนะวันนี้” เธอถามแล้วปิดไดร์ทลงก่อนจะหยิบหวีมาหวีให้ “เราคนที่เท่าไหร่”
“คนแรกครับ” พาลินยักใหญ่ก่อนจะตั้งท่าลุกจากตักผม แต่ผมรั้งเธอเอาไว้ก่อน
“อย่าแกล้ง” เธอหลิ่วตา
“โบว์มีแฟนใหม่หรือยัง” ผมเอ่ยถามเพื่อนของเธอ ที่เคยคบกับแอมป์ น้องชายคนถัดจากผม และโบว์คือเพื่อนของพาลินที่เป็นคนให้ไลน์พาลินกับผมในวันนั้นด้วย
“ไม่หรอก รายนั้นรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน” น้ำเสียงโทนสบาย ๆ ส่งมาพร้อมทั้งวางสองมือกับบ่าผม “จะตีสามแล้วปล่อยไหม จะได้ไปนอน เราง่วง”
“ก็ไปด้วยกัน”
“ว้าย” ผมกอดเอวพาลินแน่นมากแล้วก็ทุกเธอท่าอย่างนั้น คนตัวเล็กที่กลัวตกก็กอดคอผมแน่นเลย
พาลินตอนที่กำลังมีSex น่ะ ร้อนแรงและเซ็กซี่มาก แต่พาลินตอนปกติเหมือนแมวหยิ่ง ๆ ผสมกับแมวขี้อ้อนนะ เธอเป็นผู้หญิงที่รู้จะใช้สีหน้าแววตาแบบไหนกับช่วงเวลาไหน ตอนทำงานก็ดูเป็นมืออาชีพมา แต่พอเป็นเวลาอื่นก็ต่างออกไป
น่าค้นหามากจริง ๆ
“ทำไมพาชอบนอนเปิดแอร์เย็น ๆ จัง” ผมถามตอนที่พาลินเอื้อมมือหยิบรีโมทแอร์มาปรับให้อุณหภูมิลดลง “นอนแอร์เย็น ๆ อย่างนี้เดี๋ยวป่วยง่ายนะ”
“ติดเป็นนิสัยน่ะ แต่เราก็ห่มผ้าอยู่ดี ติดกอดหมอนข้างด้วย”
“แล้ววันนี้จะกอดหมอนข้างหรือจะกอดเรา”
“กอดเอ็กซ์อุ่นเหมือนกอดหมอนข้างไหม” เธอเลิกคิ้ว
“ต้องลองดูก่อน” ตอนนั้นเธอก็ปิดไฟแล้วสอดตัวเข้ามาในผ้าห่ม ก่อนจะหนุนลงบนแขนผม ไม่นานนักเราก็หลับไปพร้อมกัน
เช้าวันถัดมาผมตื่นขึ้นและไม่พบข้าวของห้องแล้ว พาลินทิ้งโน้ตเอาไว้ว่าต้องออกไปคุยกับลูกค้า แล้วก็มีอาหารเช้าไว้ให้ด้วย ไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้กับทุกคนไหม หรืออาจจะทำกับผมแค่คนเดียวเพียงเพราะว่าผมเป็นพี่ชายของแฟนเก่าเพื่อนเธอก็ได้
ผมกับพาลินไม่ได้คุยกันบ่อยแบบคนคุย แต่มีรีพลายสตอรีกันบ้างอะไรบ้างตามประสาคนร็จัก พาลินดูมีหนุ่มรายล้อมเยอะ สังเกตเวลาพาลินลงรูปน่ะมีผู้ชายมาคอมเม้นตืเยอะเหมือนกัน
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนะ พาลินเป็นคนสวยผสมเซ็กซี่ มีเสน่ห์มากด้วย ไม่แปลกเลยถ้าผู้ชายหลายคนจะชอบเธอ อีกอย่างเธอก็ดูบริหารเสน่ห์เก่งด้วย
ผมชอบมากนะ ผู้หญิงมีเสน่ห์น่ะ
“บอสคะ เที่ยงนี้จะทานอะไรคะ” คุณสิตา เลขาเข้ามาถามผมในช่วงเวลาใกล้เที่ยง “หรือว่าบอสจะออกไปทานข้างนอก”
“แล้ววันนี้มีอะไรทาน” ผมถามไป เพราะปกติแล้วถ้าผมไม่ได้อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษก็จะกินอาหารเดียวกับกับโรงอาหารพนักงาน หรือไม่ถ้าจะออกไปทานข้างนอกผมก็จะแจ้งไปไว้ก่อน
“อันที่จริงมีคนฝากอาหารมาไว้ให้บอสด้วยค่ะ” ผมเลิกคิ้ว
“คนที่ล็อบบี้พึ่งเอาขึ้นมาให้ บอกว่าคคุณพาลินฝากเอาไว้แต่สิตายังไม่แน่ใจว่าคืออะไรเลยมาถามก่อนว่าบอสจะทานอย่างอื่นหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร เอาที่คุณพาลินฝากไว้เข้ามาได้เลย” หลังจากคุณสิตารับคำก็ออกไปด้านนอก พาลินไม่เห็นจะบอกผมว่าฝากอะไรมาไว้ แต่นั่นก็ทำให้ผมกดโทรหาเธอในเวลาถัดมา
[สวัสดีค่ะ] เสียงหวานกรอกเสียงมาตอนที่ผมกดโทรออกราว ๆ ครึ่งนาที [ว่าไงเอ่ย]
“ไม่เห็นบอกเราเลยว่าฝากอะไรไว้ให้” ผมว่าแล้วก็เอนหลังพิงเก้าอี้พลางยกขวาไม่ไขว้ห้างด้วย
[ก็ตอนฝากไว้ยังไม่เที่ยงนี่ กลัวทำงานอยู่]
“แล้วคนสวยฝากอะไรไว้ให้เอ็กซ์ครับ”
[ไปกินข้าวกับโบว์มา แล้วที่ร้านมีเมนูทะเลผัดพริกเกลือด้วย เอ็กซ์เคยบอกว่าชอบก็เลยซื้อไปให้เป็นข้าวเที่ยง] ทางนั้นตอบกลับมายาว ๆ แต่ว่าผมก็จำได้อยู่ว่าเคยเล่าให้พาลินฟังตอนไปทานข้าวด้วยกันว่าผมชอบทานเมนูนี้ แล้วก็สั่งมาด้วย [เราสั่งหมูทอดน้ำปลาด้วยนะ เราทานแล้วอร่อยดีน่ะ]
“ใจดีจังนะ” ผมบอกไป “แบบนี้ต้องมีรางวัลแล้ว”
[ไม่เป็นไร เห็นแล้วนึกถึงก็เลยซื้อไปฝากเฉย ๆ ค่ะ]
“คราวหลังก็บอกก่อนสิ ถ้ากินข้าวไปแล้วคงเสียใจแย่ที่ไม่ได้กินข้าวที่พาซื้อมาให้” ผมได้ยินเสียงเธอหัวเราะชอบใจแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา “วันนี้ว่างไหม”
[วันนี้ไม่ว่างหรอก ไปงานวันเกิดเพื่อนน่ะ น่าจะกลับดึก ๆ เลย]
“เสียดาย ว่าจะชวนไปหาอะไรดื่มสักหน่อย” ผมว่าแล้วเหลือบตามองประตูที่ถูกเปิดออกพร้อมกับแม่บ้านที่นำถามอาหารมา
[วันหลังนะ วันนี้ไม่ได้จริง ๆ] เมื่อคนสวยบอกแบบนั้นผมก็ตามใจเธอ [มีอะไรอีกไหมคะ]
“ไม่มีแล้วครับ”
[โอเค งั้นทานให้อร่อย แล้วก็ตั้งใจทำงานนะคะ]
“ครับ กู๊ดเดย์นะ” หลังจากนั้นพาลินก็วางสายไป ผมทานข้าวที่พาลินฝากเอาไว้ให้ซึ่งมันก็อร่อยดี พาลินใจดีแบบนี้เป็นปกติ หรือใจดีกับแค่บางคนกันล่ะ
“คิดถึงพี่เอ็กซ์จัง” เมื่อเข้ามาในรถ น้องน้ำก็ยืดตัวมาหอมแก้มผมหนึ่งที “คิดถึงน้ำเหรอถึงมา”
“ค่ะ พี่คิดถึงหนู่นั่นล่ะ” คนเด็กกว่ายิ้มจนแก้มปริหลังจากที่ได้ฟัง
เพราะความคิดถึงที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริง ๆ ถึงพูดง่าย ผมน่ะให้สาว ๆ ที่ผมคุย ๆ อยู่ได้ทุกอย่างล่ะ อยากให้บอกคิดถึงผมก็บอกได้ อยากให้บอกรักผมก็บอกได้เหมือนกัน
แต่จะให้สาบานว่าที่พูดออกมานั้นมาจากใจริง ๆ ก็คงตายเปล่า พวกเธอก็รู้ว่าผมไม่ได้จริงจังแต่แรก ดังนั้นให้พูดพอจะให้ชื้นหัวใจก็คงไหวเหมือนกัน
“วันนี้พี่เอ็กซ์จะค้างกับน้ำไหม”
“คงไม่ได้ค่ะ พี่แค่มากินข้าวกับหนูให้หายคิดถึง”
“แต่น้ำอยากให้พี่เอ็กซ์ค้างด้วยนะ” น้องทำหน้าทำตาออดอ้อนใส่
“แก้ตัวที่พี่ไม่ได้ค้างด้วย เอาชาแนลไปนอนหนุนสักใบดีไหมคะ” ผมเสนอไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
“เย้ พี่เอ็กซ์น่ารักที่สุดเลย” ก็แฟร์ ๆ ดีไม่อะไรมาก ผมเป็นคนทำธุรกิจมักจะทำอะไรที่มันให้และรับมาเท่า ๆ กัน ผมก็เคยนอนกับน้องน้ำอยู่สองสามครั้งแต่ก็ยังไม่เคยให้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่
แต่ปกติสาว ๆ ที่ผมควงอยู่ครึ่งต่อครึ่งก็เป็นคนที่มีฐานะโอเค รสนิยมดี และไปด้วยกันได้ ผมไม่ได้ให้เงินน้อง ๆ ใช้เป็นรายเดือนแบบพวกเสี่ยเลี้ยงอะไรแบบนั้น แต่เป็นประเภทก้ำกึ่งคนคุยน่ะ
น้องอยากคุยกับผม ผมก็ตอบ ผมอยากเจอกับน้อง ผมก็นัด ถ้าเขาไม่ว่างผมก็แค่ไปนัดคนใหม่ น้องเขาก็เหมือนกัน ถ้าอยากเจอผมก็นัดมา ถ้าผมว่างผมก็มา ถ้าไม่อยากเจอก็แค่ปฏิเสธ ใครงอแงมาก ๆ ก็ตัดออกจากชีวิตเพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนมากขนาดนั้น
ถ้างอแง เล่นตัวพอเป็นพิธีก็โอเค แต่จะมาแสดงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเลย อันนั้นไม่ไหว
หลังจากไปกินข้าวและพาน้องน้ำไปช็อปปิ้ง ผมก็แวะไปหาผิงผิง คนนี้ก็เหมือนทุกคน แต่อายุเท่ากันน่ะ อยู่ที่คอนโดเขาถึงดึกก็กลับห้องตัวเอง
ปกติแล้วผมไม่ค่อยนอนค้างกับใครหรอก แต่ให้เกียรติด้วยการให้เจ้าของห้องหลับก่อนแล้วค่อยออกมา แล้วก็ไม่ค่อยพาใครมานอนห้องด้วย
ผมมีกฎอยู่ไม่กี่อย่างคือ ห้ามล้ำเส้นที่ผมขีดไว้ ห้ามทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเกินไป อยากอวดผมลงไอจี ลงโซเชียลได้ไม่ว่ากันนะ แต่ผมจะให้ผมทำเหมือนกันแบบนั้นผมไม่ และแม้ว่าผมจะHaving sex กับสาว ๆ มากหน้าหลายตาแต่ผมป้องกันตลอด แล้วก็ไม่จูบด้วย ผมไม่จูบกับใครพร่ำเพื่อ
ผมกับพาลินก็เหมือน ๆ กัน
ชี้แจงนิดหน่อยนะคะ
****ปล. พระเอกกับนางเอกนิสัยเหมือนกันนะคะและทั้งคู่ก็โสดด้วย ดังนั้นการมีOne nigth stand หรือ Friend with benefit มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และทั้งคู่ไม่ไ้ดนอกกายหรือนอกใจใคร
พาลินไม่มีแฟน ไม่ต้องการมีความรักที่จริงจัง เอ็กซ์ก็เหมือนกัน
ไรท์เขียนนิยายเรื่องนี้มาเพื่ออยากจะสร้างทางเลือก และไม่อยากให้ยึดติดค่านิยมว่านางเอกจะต้องเวอร์จิ้น มีอะไรกับผู้ชายคนเดียวไปตลอดชีวิต
ดังนั้นไม่ควรมีใครถูกด้อยค่าเพียงเพราะว่าไม่ได้เวอร์จิ้น หรือว่ามีอะไรกับคนที่ไม่ใช่แฟน ผู้หญิงกับผู้ชายมีคุณค่าเท่ากัน มีสิทธิ์ที่จะทำได้ตามความพึงพอใจตราบใดที่ยังโสดและไร้พันธะผูกพันทั้งสองฝ่ายค่ะ
เซ็กซ์ก็แค่องค์ประกอบหนึ่งของการใช้ชีวิต และความต้องการทางเพศมีกันทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่จะมีเซ็กซ์หรือไม่มีเราสามรถเลือกได้
ไรท์อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต มีสิทธิ์จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแบบไม่เดือนดร้อนใครและรู้จักป้องกันตัวเอง ดังนั้นแม้ว่าตัวละครในนิยายจะไม่ได้เป็นแบบในอุดมคติหรือแบบเดิมที่เคยมา แต่ให้คิดว่าตัวละครก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่ควรมีใครถูกด้อยค่าเพียงเพราะแค่ว่าไม่ได้เวอร์จิ้น หรือนอนกับผู้ชายเพียงคนเดียวตลอดชีวิตค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ คนทีเข้าใจกันนะคะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านด้วยค่ะ
ชีวิตคู่น่ะใครบอกว่าแต่งงานแล้วจะจบ มันคือการเริ่มต้นต่างหาก และแม้จะแต่งงานกันมาหลายปีเราก็ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ต้องเรียนรู้ ปรับปรุงกันไปผมรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียคือการที่พยายามทำตัวเพอร์เฟคเพื่อให้ภรรยาและลูกรู้สึกมั่นคง จนลืมไปว่ามนุษย์คนหนึ่งไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคขนาดนั้น มนุษย์คนหนึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีช่วงเวลาที่เป็นคนแย่ ๆ หรือผิดพลาดกันได้ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยอยากยอมรับมันผมก็แค่อยากจะให้ภรรยากับลูกมองว่าผมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีน่ะอย่างที่พาลินบอก ผมมักจะบอกเธอเสมอว่ามีปัญหาอะไรให้บอกผมได้ทุกเรื่อง แต่กลับกลายเป็นผมเองที่ไม่ยอมเล่าปัญหาของตัวเองเพราะไม่อยากให้เธอกังวล ทั้งที่เราเป็นสามีภรรยากัน และมีอะไรควรจะคุยกันตรง ๆ แต่ผมก็ดันโกหกเพราะอยากให้เมียสบายใจซึ่งผลลัพธ์ของมันแม้ตอนแรกเมียจะสบายใจและเลิกระแคะระคาย แต่สุดท้ายกลับได้ปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมา ถ้าเกิดว่าวันนั้นผมไม่มั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยมว่าจัดการปัญหาได้ผมก็คงไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ บทเรียนครั้งนี้มันใหญ่มากเลยล่ะที่รักยังไม่หายโกรธอีกเหรอ ผมถามเมียรักหลังจากที่เมียมารับออกจากโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่ยอมคุยด้วยเท่าไหร่
“ว่าไงคะ ฉันจะถามอีกครั้งว่าได้นอนกับสามีฉันไหม” ฉันจ้องไปยังสองคนนั้น“เอ่อ...” ศิวัฒน์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ส่วนฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะมากเมื่อรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมื่อคืนสามีไม่ได้นอนกับคนอื่น แต่เด็กในท้องจะใช้ลูกของเขาอีกหรือเปล่าอันนั้นไม่แน่“คุณทำแบบนั้นทำไมคะคุณศิวัฒน์ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเอ็กซ์ไว้ใจคุณมาก ทำงานด้วยกันมานาน” ฉันมองไปยังฝ่ายชายก่อน เพราะภาพนั้นก็เห็นเต็มตาว่าเขาช่วยเธอถ่ายรูป “คุณวางยานอนหลับสามีฉันเหรอคะ สามีฉันเกือบจะตายคุณรู้ไหม”“ถ้าไม่สารภาพมาฉันแจ้งตำรวจจับแน่” พ่อเอ็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมและทรงพลัง“ก็นังนี่มันแบล็กเมล์ผมก่อนครับคุณพาลิน คุณท่าน” เมื่อถูกกดดันเขาก็สารภาพออกมา “มันขู่ว่าจะเอาคลิปที่ผมนอนกับมันไปให้เมียผมดู ไปบอกเมียผม”“อ้าว แกเองไม่ใช่เหรอที่เสนอว่าจะช่วยฉันจับคุณเอ็กซ์น่ะ” พอมิตรแตกคอกันก็กลายเป็นศัตรูกันได้ง่ายดายนัก “แกเองก็ไปข่มขู่เขา เอาเงินจากเขามาเหมือนกัน”“ว่าไงนะ!” ฉันตะเบ็งเสียงจนรู้สึกเหมือนว่าเส้นเลือดในกายมันเต้นตุบ ๆ“วันที่เลี้ยงลูกค้าจากฝรั่งเศสที่ฉันส่งอีเมลไปหาคุณพาลินไอ้นี่เป็นคนสั่งฉันค่ะ มันออกความคิดมอมเหล้า
พิเศษใส่ใจ 3วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 2ตอนนั้นคำพูดของเธอทำให้ฉันถึงกับหูดับไปครู่ใหญ่“พา เอ็กซ์ไม่ตื่น ชีพจรเต้นอ่อนมากเลยด้วย” คำพูดของโบว์ทำให้ฉันพึ่งได้สติขึ้นมา โบว์อาจจะรู้เพราะเธอเคยเรียนหมอมาก็ได้ แต่ฉันน่ะก็ไม่รู้จะตกใจกับอะไรก่อนดี“คุณพาคะ คุณพาลิน” คุณมัทนา ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย เดินมาจับแขนฉันไว้เธอคงเห็นว่าสีหน้าฉันไม่สู้ดี ก่อนจะหันไปสั่งคนอื่น “วัฒน์เรียกรถพยาบาลเร็ว”ฉันเหมือนคนสติหลุด แบลงค์ไปหมดทุกอย่าง แต่ดูเหมือนฉันจะคิดถูกมากที่พาโบว์มาด้วยเพราะเธอดูจะมีสติกว่าฉันมาก เธอจึงเป็นคนจัดการทุกอย่างแทนฉันได้ดี ในขณะที่ฉันคล้ายกับคนวิญญาณหลุดออกจากร่างเลยล่ะ“หนูพา หนูพาลูก” ผ่านไปราวสี่ห้าชั่วโมงแม่ของเอ็กซ์มาถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าเอ็กซ์ได้รับยานอนหลับมากจนเกินไป แต่หมอช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน แต่เขายังไม่ฟื้นเลย“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอหนูพาลิน” พ่อเอ็กซ์ถามฉัน แต่โบว์รู้ว่าฉันไม่อยากพูดถึงได้เป็นคนพูดให้ พ่อกับแม่เอ็กซ์พาลูกชายฉันมาด้วย เข้าใจว่าคงไม่ได้พาลูกไปโรงเรียนเพราะฉันโทรบอกตั้งแต่เช้า พอเห็นลูกฉันก็กอดลูกแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย“แม่ไม่อยากเชื่อว่าตาเอ็กซ์มันจะท
แม้ว่าวันนี้จะเป็นหนึ่งวันที่เราสองคนดูจะมีอิสระขึ้นมาเพราะไม่มีสามีกับลูกให้คอยห่วง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เหงาแปลก ๆ อยู่ดีล่ะ ฉันก็แอบห่วงลูกบ้างว่าคืนนี้ลูกจะนอนหลับสนิทไหม จะงอแงหรือเปล่านี่ล่ะนะที่บอกว่ามีลูกเหมือนมีห่วงมาผูกคอ พอมีลูกแล้วฉันก็จะนึกถึงลูกก่อนตัวเองเสมอเลย แต่มันเป็นห่วงที่สุขใจจริง ๆ นะ เพราะฉันรักลูกมากเลยล่ะNatacha1234555@gmail.com: เผื่อคิดถึงสามีเลยส่งรูปมาฝากค่ะแนบรูปภาพแนบรูปภาพเที่ยงคืนของวันที่เอ็กซ์ไปวันแรกฉันได้รับอีเมลอีกแล้ว ฉันยังไม่นอนเพราะว่าดูซีรีส์อยู่ แต่พอเปิดดูแล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อกเมื่อภาพที่เห็นข้างในคือรูปผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้กับสามีของฉัน ผู้หญิงในรูปปิดหน้าตัวเองไว้ แต่เห็นหน้าสามีฉันชัดเจนมากมือไม้ฉันสั่นเทาไปหมด ความโกรธเคืองผสมกับความไม่พอใจแล่นเข้ามาจนมีเหงื่อผุดออกมาตามตัว ตอนนั้นฉันโทรไปหาโบว์ ร้องไห้ระบายทุกอย่างออกไป และเพื่อนก็ตกใจมากเหมือนกันที่เห็นภาพที่ส่งไปให้ แต่ฉันมั่นใจแล้วนะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเพราะแม้จะเบลอหน้า แต่ว่าฉันจำสีผมได้ชัดเจนมาก“พา อย่าขับเร็วสิ” โบว์บอกฉันระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกัน หลังจ
“กลับมาแล้วเหรอคะ” วันนี้ฉันกลับมาบ้านและเห็นสามีกลับถึงก่อนแถมยังทักทายฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แถมเขาก็ยังเป็นคนไปรับลูกกลับมาด้วย“แม่ค้าบวันนี้พ่อไปรับพี่ด้วยนะ พาพี่ไปกินไอติมด้วย” ฉันยิ้มให้ลูก“ทำการบ้านหรือยังคะ” ฉันเบนความสนใจไปหาลูกชายแทนที่จะตอบรับคำถามแรกของสามี“ยังเลยครับ” ลูกชายตอบมา“พี่เอิร์ธขึ้นไปทำการบ้านไปลูกไป เสร็จแล้วจะได้ลงมาทานข้าวนะ” ลูกชายรับคำก่อนจะวิ่งไปหาพี่เลี้ยง ส่วนฉันวันนี้รู้สึกตึงกับสามีมาก ๆ ไม่อยากจะเข้าไปหาเขาเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“เหนื่อยไหม วันนี้ประชุมประจำไตรมาสไม่ใช่เหรอ” เขาถามแล้วขยับเข้ามาหาตอนฉันนั่งลงบนโซฟา ฉันส่ายหัวให้เป็นคำตอบว่าไม่เหนื่อยโดยที่ยังไม่ยอมพูดกับเขา เมื่อเช้าน่ะอาการของสามีชวนให้ฉันขุ่นเคืองใจไม่ใช่น้อยเลยล่ะ “พาขา โกรธอะไรเอ็กซ์เหรอ”“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วได้ล่ะ” ฉันถามประโยคนี้แทนที่จะโฟกัสประโยคอื่น“ก็กลับดึกหลายวันแล้วไง วันนี้ไม่มีงานอะไรค้างเลยกลับเร็วไงคะ” เขาขยับเข้ามาหาก่อนจะกอดฉันจากทางด้านข้างแล้วหอมแก้มหนึ่งที “เมื่อเช้าเอ็กซ์ขอโทษนะคะที่พูดไม่ดีกับพา เอ็กซ์แค่เครียด ๆ เรื่องงานที่มีปัญหาอยู่ เอ็กซ์ควบคุมไม่ไ
พิเศษใส่ใจ 2วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 1Palin Palinthida Talk“แม่ค้าบ ทำไมพ่อกลับบ้านช้าอีกแล้ว” ระหว่างที่ฉันกำลังเอานมอุ่นออกจากไมโครเวฟให้ลูกชายวัยห้าขวบเขาก็มองตาปริบ ๆ พ่อไม่ได้อ่านนิทานให้พี่ฟังหลายวันแล้วนะ“ช่วงนี้พ่อเขาทำงานหนักค่ะลูก เลยต้องเลิกงานดึก” ฉันอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ช่วงนี้สามีทำงานหนักเพราะว่าบริษัทที่ผลิตน้ำชาบริษัทใหม่ของเรากำลังจะเริ่มตีตลาดฝั่งยุโรปเอ็กซ์เลยต้องทำงานหนักเป็นพิเศษหลังจากก่อตั้งบริษัทมาเกือบห้าปีมียอดขายทะลุเป้าทุกปี“พี่คิดถึงพ่อ” ลูกชายบ่นส่วนฉันก็วางนมลง“อดทนนะครับ เพราะว่าพ่อทำงานหนักเพื่อพี่เอิร์ธไง” ฉันลูบหัวลูก “ดื่มนมให้หมดนะคะเดี๋ยววันนี้แม่ให้พี่เอิร์ธดูการ์ตูนสามสิบนาทีแล้วก็อ่านนิทานให้พี่เอิร์ธฟังสองเรื่องเลย โอเคไหมคะ”“โอเค” ลูกชายทำท่าโอเคให้ แต่ว่านะเอ็กซ์กลับบ้านดึกติด ๆ กันเกือบสองสัปดาห์แล้ว พี่เอิร์ธเป็นเด็กติดพ่อน่ะเลยงอแงอยากให้พ่อส่งเข้านอนเหมือนทุก ๆ วันปกติแล้วฉันกับเอ็กซ์จะแบ่งหน้าที่กันในการดูแลลูก เป็นอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่พี่เอิร์ธเป็นทารกฉันจะอยู่กับเขาตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่พอเอ็กซ์เลิกงานเขาก็จะมาดู







