LOGINหลอมรักครั้งที่ 1
And if in the moment you bite your lip
When I get you moaning you know it’ s realCan you feel the pressure between your hips?I’ ll make it feel like the first time [1]เสียงเพลงในร้านทำเล็บดังคลอเคลียในหูฉัน ริมฝีปากฮัมเพลงตามเบา ๆ เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในเพลงโปรด แม้จะความหมายไปในเชิงสิบแปดบวกแต่ก็ได้ลามกจนเกินไปนัก ตอนเปิดแล้วแช่น้ำในอ่างก็ได้ฟีลดี ระหว่างนั้นช่างก็ค่อย ๆ ตัดแต่งเล็บเท้าไปด้วย
“บินกี่โมงนะ” ฉันเอียงหน้าไปถามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างกัน
“สี่ทุ่มน่ะ” เพื่อนคนสวยตอบกลับมาพร้อมเอื้อมมือไปหยิบกาแฟเย็นในแก้วมาดื่มแล้วหลังพิงเก้าอี้นวมของทางร้านพรางถอนหายใจหนัก ๆ “แล้วนี่ไปไหนต่อ”
“เดี๋ยวไปทำผมต่อเพราะว่าต้องไปประชุมกับลูกค้าสำคัญน่ะ” ฉันเหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ฉันน่าจะไปสระผมต่อที่ร้าน แล้วก็ทำผมให้เป๊ะสักหน่อยเพื่อเป็นการให้เกียรติลูกค้าด้วย แล้วฉันก็เป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ยิ่งกว่าอะไร "พ่อบอกว่าอยากทำประกันให้กับคนนี้มาก"
“สู้ ๆ นะแม่สาวขายประกันของพี่” โบว์แซว ๆ ใส่ฉัน
คือครอบครัวฉันทำธุรกิจหลายอย่างนะ แต่ที่หลักที่สุดคงเป็นธุรกิจประกันภัยน่ะ แต่เป็นประกันภัยระดับ Luxury นะ เน้นทำประกันอสังหาริมย์ทรัพย์จำพวกบ้าน คอนโด โรงงาน บริษัท แม้แต่ห้างสรรพสินค้าก็ด้วย ธุรกิจระดับท็อปของประเทศใช้ประกันของบริษัทของฉันทั้งนั้น
นอกจากนี้แล้วยังมีบริษัทนำเข้ารถยุโรป ซูเปอร์คาร์อะไรพวกนี้ด้วย แต่ฉันไม่ค่อยยุ่งเพราะไม่ใช่ทางของฉัน และฉันคิดว่ามันอาจจะถูกส่งต่อไปให้น้องสาวของฉันก็ได้ แล้วธุรกิจยิบย่อยอีกหลายอย่าง แล้วก็มีธุรกิจเปิดให้เช่าสำนักงานด้วยอีกอย่างหนึ่ง
ประมาณว่าเปิดตึกขึ้นมาหนึ่งตึกแล้วแบ่งเช่าเป็นชั้น ๆ สำหรับบริษัทที่ไม่มีที่ให้เปิดตึกของตัวเองน่ะ ในตึกนั้นก็จะมีสำนักงานของบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กอยู่หลายบริษัทเลยด้วย
อันที่จริงฉันไม่ค่อยทำงานหรอก แต่เพราะช่วงนี้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระดับบริหารน่ะ พ่อก็เลยอยากให้ลองเข้ามาทำดู แล้วฉันก็เบื่อ ๆ ด้วยเลยมาทำงานได้ประมาณสี่เดือนแล้ว
"หลังจาก....วันนั้นได้เจอเอ็กซ์อีกหรือเปล่า" ตอนแรกเพื่อนคงอยากจะพูดว่าคืนนั้น แต่เพราะว่าไม่ได้อยู่กันสองคนโบว์ที่เป็นคนฉลาด และรู้จักพูดจึงเปลี่ยนคำ
แต่เมื่อชื่อของบุคคลที่พึ่งจะ Make love กันอยากดุเดือดออกมาจากปากเพื่อนฉันก็นึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นจนต้องกัดปากน้อย ๆ
“ไม่ล่ะ เขาเหมือนจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมั้ง” ท้ายประโยคฉันเสียงสูงมาก ฉันไม่ได้รู้เพราะเขาบอก แต่รู้เพราะว่าเห็นในไอจีของเขาที่ลงสตอรีว่าอยู่มาเก๊า
“แล้วกับเอ็กซ์ เป็นไง” เพื่อนหันมามองอย่างต้องการคำตอบ
“ก็เหมือนคนอื่น หมายถึงสถานะ” แต่ถ้าหมายถึงเรื่องอื่นก็อาจจะพิเศษกว่านิดหน่อย ฉันต่อประโยคด้านหลังในใจ “รู้จักเอ็กซ์แค่ไหนเหรอ”
“อาจจะน้อยกว่าพามั้ง” ยัยองค์หญิงยิ้มกริ่มใส่กัน ฉันหลิ่วตาใส่เพื่อน “แอมป์ [2] พาไปเจอพี่ ๆ น้อง ๆ เขาแค่ครั้งเดียวเมื่อสองปีกว่า ๆ ก่อนโน้น”
“ตอนที่ยังคบกัน?” ฉันแซวบ้าง
“เออน่า...” ฉันรู้ว่าเพื่อนน่ะไม่ได้โกรธหรอก เพราะครั้งที่สองของการเลิกกันแอมป์กับโบว์ไม่ได้จบกันแย่ ๆ เหมือนครั้งแรกแล้ว แต่โบว์แค่ไม่พูดถึงเพราะไม่อยากคิดถึงน้องมันต่างหาก “แต่เราเคยจอน้องคนเล็กของแอมป์สองครั้งนะ พอเจอตอนอยู่รวมกันสี่คนก็รู้เลยว่าสี่หนุ่มบ้านนั้นคาแรกเตอร์ต่างกันสุด ๆ”
เพื่อนสาวหลุบมองเล็บนิ้วมือตัวเองที่พึ่งทำมาก่อนหน้าประมาณชั่วโมงราวกับไม่อยากสบตาฉัน
“พี่โอห์มดูสุขุม ใจเย็นแล้วก็ดูเป็น Gentle man มากสุดแล้ว” อันนี้ฉันเห็นด้วยแม้ว่าฉันจะรู้จักหนุ่มบ้านนั้นสองคนคือแอมป์กับพี่โอห์ม แต่เอ็กซ์กับออนซ์ฉันไม่เคยเจอเลย หมายถึงก่อนหน้านี้น่ะ “เอ็กซ์กับแอมป์ดูคล้ายกันนะ แต่เอ็กซ์ดูเด็ดขาดกว่าแอมป์มาก แล้วก็ดูดุว่า ส่วนออนซ์ขี้เล่น แล้วก็พูดเก่งสุด”
“แล้วแอมป์ล่ะ” ฉันจี้ใจดำเธอ
“ไม่บอกหรอกย่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณพาลิน” เมื่อฉันเดินเข้ามาถึงล็อบบี้ด้านล่างบริษัทของลูกค้า ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายของฉันและทีมงาน คุณปูเลขามือเก๋าของพ่อที่ถูกส่งมาช่วยงานฉันต่อก็ทักทาย “สวยจังเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มเมื่อได้รับคำชม วันนี้ฉันน่ะทำทรงผมนำโชคสุด ๆ ของฉันมา แถมยังใส่สีมงคล ก่อนออกจากบ้านก็ก้าวเท้าซ้ายออกแล้วนะ ปกติก็ไม่มูเท่าไหร่หรอกแต่ว่าพ่อบอกว่าต้องขายให้ได้นี่
ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากได้ขนาดนั้นแม้ว่าบริษัทที่เราจะทำประกันให้เป็นบริษัทกาสิโนที่มาเก๊าน่ะ ปกติพ่อไม่ค่อยรับทำให้อะไรแบบนี้ด้วยเพราะมูลค่าความเสี่ยงค่อนข้างสูง และเคยมีกรณีเจ้าของกาสิโนฉัดฉากวางเพลิงเองเพื่อเรียกประกันด้วย
นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยที่พ่ออยากจะทำประกันให้อะไรแบบนี้ พ่อบอกว่าเขาติดต่อผ่านพ่อโดยตรงเลย วันนี้ฉันต้องมาเสนอเงื่อนไขและเสนอราคาด้วย
"เดี๋ยวเชิญนั่งรอในนี้สักครู่นะคะ พอดีมีมติเร่งด่วนเข้ามาเลยทำให้ท่านประธานยังประชุมไม่เสร็จ" คุณสิตา ที่เป็นเลขาของเจ้าของกาสิโนซึ่งเป็นคนที่คุยงานกับฉันโดยตรงมาบอก
ครั้งแรกเคยเห็นเธอผ่านวิดีโอคอลทาง G****e meet ว่าสวยแล้วแต่ว่าพอเจอตัวจริงแล้วสวยกว่าอีก อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลาย ๆ หรือสามสิบแล้วไม่แน่ใจ
ระหว่างนั่งรออยู่นั้นแม่บ้านก็นำกาแฟ นำน้ำเข้ามาให้เราในห้องประชุมขนาดเล็กแล้วก็มีทีมงานของเขามาช่วยเปิดโพรเจกเตอร์ให้เพื่อเซตติงสไลด์ที่จะเสนอในแผนของเรา ฉันหยิบไอแพดมาเพื่อเลื่อนดูข้อมูลอีกรอบ ไม่ได้มีอาการตื่นเต้นหรือประหม่าอะไรเพราะก็เคยทำมาแล้วสามสี่ครั้งน่ะ
ปลายนิ้วเลื่อนดูข้อมูลไปเรื่อย ๆ ร่วมสิบนาทีประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออก ฉันละสายตาจากจอไอแพดขึ้นเพื่อมองผู้มาใหม่ก็ทำเอาต้องชะงักเมื่อประธานบริษัทนี้คือผู้ชายที่บรรเพลงบทรักแสนเร่าร้อนกับฉันเมื่อหลายคืนก่อน และฉันก็พึ่งพูดถึงเขากับเพื่อไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง
ฉันไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเจอเอ็กซ์ที่นี่ ในฐานะนี้ด้วย
ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีเทายืนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลานั้นมองกันแต่สายตากับเรียบนิ่งในขณะที่ฉันก็เกือบจะทำหน้าไม่ถูกในตอนแรก แต่ไม่เกินอึดใจฉันก็ปรับสีหน้าที่เกือบจะตกใจให้กลับมาเป็นปกติก่อนจะแนะนำตัว เพราะฉันมาที่นี่เพื่อทำงานก็ต้องเป็นมืออาชีพนะ
“พาลินธิดาค่ะ” ฉันแนะนำตัวเองไปหลังจากที่คุณสิตาแนะนำว่าฉันมาจากบริษัทอะไรให้เขาแล้ว
“พีรกานต์ครับ” เขายื่นมือมาเพื่อเป็นการทักทายตามแบบตะวันตก ฉันเองก็ยื่นมือไปจับกับมือเขาเช่นเดียวกัน วูบหนึ่งเขาบีบมือฉันไม่แรงมาก และสายตาก็ยังมองกันอยู่
[1] เพลง Love me harder ของ Ariana grande
[2] แอมป์ จากเรื่อง B U R N E D – A M P
หลอมรักครั้งที่ 13/3เขาพาฉันไปกินไอติมบนห้องเสร็จแล้ว ซึ่งก็ขอเป็นอันว่าเราจะเข้าใจตรงกันได้นะว่ามันคือไอติมรสอะไร ขอบอกเลยว่าไอติมนั้นน่ะอร่อยสุด ๆ ไปเลยล่ะ หลังจากนั้นเขาออกมาข้างนอกกับฉัน แล้วก็มารถฉันด้วย เราไปทานข้าวกันที่ร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งมันคือร้านโปรดฉันเองแล้วคืนนั้นเอ็กซ์ก็มาค้างกับฉันที่คอนโดแล้วเราก็ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันต่ออีกนิดหน่อย ซึ่งฉันดูแล้วท่าทางเอ็กซ์ก็เจนจัดและร้ายไม่เบานะเขารู้วิธีที่จะคุยกับผู้หญิงยังไง รู้จักเดินเกมยังไง ใช้สายตายังไง ฉันว่าฉันกับเขาเป็นประเภท ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่แหละ แต่ฉันก็ไม่อะไรมากนะฉันก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนกับทุกคนซึ่งพอเช้าวันถัดมาเขาก็ออกไปจากห้องตั้งแต่เช้า พร้อมทิ้งข้อความเอาไว้“ญาณิน กินข้าวหรือเปล่าทำไมผอมอย่างนี้” ฉันจ้องน้องสาวระหว่างที่เธอกำลังเดินไปเดินมา“กินอยู่ แต่ช่วงนี้เบื่ออาหารนี่คะ” เธอบ่น ๆ แล้วยู่ปากเล็กน้อย“ตื่นมากินข้าวให้ตรงเวลาไหม ไม่ใช่ตื่นบ่ายโมงแล้วกินข้าวเย็นทีเดียวนะ” ฉันยังจ้อง ส่วนยัยเด็กดื้อญาณินน้องสาวของฉันหัวเราะกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง “ไปแต่งตัวเลย เดี๋ยวพี่จะพาออกไปกินข้าว เดี๋ยวจะโท
หลอมรักครั้งที่ 12/3ฉันเป็นคนถอยมือกลับมาก่อนอย่างแนบเนียน ก่อนจะกระชับสูทของตัวเองเพื่อไม่ให้มือไม้เก้อเขินเกินไป ฉันไม่ได้เขินอายเขาหากแต่ว่าแค่ไม่คิดว่าจะมาเจอเขาในสถานะนี้ไง“เชิญนั่งครับ” เขาบอกกับฉันและทีมงานซึ่งเขาเลือกที่จะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฉัน "ขอโทษที่ให้รอนะครับ พอดีว่าผมมีงานด่วนเข้ามา"“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันที่เปรียบเสมือนหัวหน้าทีมก็เป็นคนเอ่ยปาก“งั้น ก็เริ่มเลยครับ” เขาบอกมาก คุณปูเป็นคนเริ่มอธิบายก่อนว่าประกันในกรมธรรม์นี้มีเงื่อนไขยังไง เนื่องจากเราต้องรับเปลี่ยนเงื่อนไขและราคาหลายอย่างพอสมควร เพราะเขาไม่ได้เลือกซื้อประกันในแพ็คเกจที่มันมีอยู่แล้ว และปกติประกันของเราก็จะออกแบบเงื่อนไขตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลักหลายเดือนที่ผ่านมานี้ฉันก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเหมาะสมกับงานแบบนี้นัก แต่พอทำมาเรื่อย ๆ จนเกิดความชาชินก็เริ่มชอบขึ้นมา"เนื่องจากเงื่อนไขที่คุณสิตาส่งมาให้ทางเราดิฉันมองว่าระดับการคุ้มครองทรัพย์สินในกรณีที่เป็นประกันภัยทรัพย์สินอาจจะไม่ถูกใจคุณลูกค้า เราเลยคิดว่าถ้าเปลี่ยนมาอยู่ระดับประกันอัคคีภัย น่ะ...น่าจะเหมาะกว่าค่ะ" ท้ายประโยคฉันชะงักงันเพราะบุคค
หลอมรักครั้งที่ 1And if in the moment you bite your lipWhen I get you moaning you know it’ s realCan you feel the pressure between your hips?I’ ll make it feel like the first time [1]เสียงเพลงในร้านทำเล็บดังคลอเคลียในหูฉัน ริมฝีปากฮัมเพลงตามเบา ๆ เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในเพลงโปรด แม้จะความหมายไปในเชิงสิบแปดบวกแต่ก็ได้ลามกจนเกินไปนัก ตอนเปิดแล้วแช่น้ำในอ่างก็ได้ฟีลดี ระหว่างนั้นช่างก็ค่อย ๆ ตัดแต่งเล็บเท้าไปด้วย“บินกี่โมงนะ” ฉันเอียงหน้าไปถามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างกัน“สี่ทุ่มน่ะ” เพื่อนคนสวยตอบกลับมาพร้อมเอื้อมมือไปหยิบกาแฟเย็นในแก้วมาดื่มแล้วหลังพิงเก้าอี้นวมของทางร้านพรางถอนหายใจหนัก ๆ “แล้วนี่ไปไหนต่อ”“เดี๋ยวไปทำผมต่อเพราะว่าต้องไปประชุมกับลูกค้าสำคัญน่ะ” ฉันเหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ฉันน่าจะไปสระผมต่อที่ร้าน แล้วก็ทำผมให้เป๊ะสักหน่อยเพื่อเป็นการให้เกียรติลูกค้าด้วย แล้วฉันก็เป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ยิ่งกว่าอะไร "พ่อบอกว่าอยากทำประกันให้กับคนนี้มาก"“สู้ ๆ นะแม่สาวขายประกันของพี่” โบว์แซว ๆ ใส่ฉันคือครอบครัวฉันทำธุรกิจหลายอย่างนะ แต่ที่หลักที่สุดคงเป็นธุร
Prologue“โบว์ล่ะ” ฉันถามกับมินเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินกลับโต๊ะมาคนเดียวทั้งที่ตอนไปเข้าห้องน้ำนั้นไปกันสองคน มินพยักพเยิดหน้าไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางที่เธอเดินมา“คุยกับผู้ชายอยู่” มินตะโกนแข่งกับเสียงเพลงก่อนจะยกเหล้าในแก้วที่เหลือขึ้นดื่มฉันมองไปยังเพื่อนสาวคนสวยนามว่าองค์หญิงโบว์ ที่อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ซึ่งเห็นว่าเพื่อนกำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลา และมองปราดเดียวก็รู้สึกสั่นทรงริก ๆ เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายที่ Sex Appeal สูงมาก มองแล้วรู้สึกว่าอยากจะมีผู้ชายกลับห้องด้วย“คนสวยครับ” แต่จังหวะการมองก็ถูกขัดด้วยเสียงของผู้ชายที่หน้าตาหล่อแบบเทรนเกาหลีคนหนึ่ง เขาน่าจะเรียกฉันนะเพราะว่ามายืนฝั่งฉันนี่“คะ” ฉันว่าแล้วส่งยิ้มหวานหยดให้กับเขาผู้มาใหม่“คืนนี้ไปต่อที่ไหนไหม” มาแบบนี้รู้เลยนะว่าหวังอะไร“ยังไม่รู้เลยค่ะ” ฉันพูดแล้วก็ช้อนตามองเขาก่อนจะเท้าคางแล้วส่งยิ้มหวานให้เขา “ทำไมเหรอคะ”“ถ้ายังไม่รู้ว่าไปไหนจะชวนไปต่อด้วยกัน สนใจไหมครับ” เขาขยับหน้าเขามากระซิบใกล้ ๆ จนได้กลิ่นน้ำหอมแนวสปอร์ตและรู้สึกได้ถึงความสะอาดสะอ้าน “หรือถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ขอไลน์ไว้จะได้ไหม”“ได้สิคะ” พอคำตอบถ



![friend zone รักร้ายนายเพื่อนสนิท [ 3P ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



