6. จีบวันละนิด..
“พี่พริม ใครอ่ะ? มากับพี่ดิน หล่อมากเลย” น้องเดียร์พูดเสียงเบาๆ แทบจะกระซิบ คงกลัวว่าถ้าพี่มิกได้ยินคงจะงอนนางอีก สไมล์ในสายตาคนทั่วไปคือผู้ชาย นางเปลี่ยนชื่อจากสมหมายเป็นนฤบดินทร์ ชื่อเล่น ดิน คือชื่อในวงการผู้ชายของนาง ส่วนชื่อสไมล์เราเรียกกันเฉพาะเวลาที่เราอยู่สองคนเท่านั้น ฉันเพิ่งจะอบขนมเสร็จ สวมผ้ากันเปื้อนสีขาว ข้างในสวมชุดเดรสลายดอกไม้หวานแหวว สไมล์นั่งที่โต๊ะประจำที่ฉันชอบเม้ามอยกับนาง มีชายหนุ่มสวมเสื้อเชิร์ตสีฟ้ากางเกงสแลคสีดำดูสุภาพนั่งตรงข้ามกับนาง
“ไม่รู้สิ เพื่อนมั้งจ้ะ” ฉันเดา และเดินไปหาเพื่อนรัก
“อาจารย์คิน นี่พริมเพื่อนผมครับ เป็นเจ้าของร้าน C'est très bon”
“อาจารย์ดินมีเพื่อนน่ารักขนาดนี้เลยเหรอครับไม่เห็นบอกเลย เชิญนั่งด้วยกันก่อนไหมครับ” อาจารย์คินยืนขึ้นเต็มความสูง เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ฉันมองหน้าเขาอย่างพิจารณา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีทีเดียว คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูมีเสน่ห์ ชีวิตฉันช่วงนี้เจอแต่ชายหนุ่มหน้าดี ต้องเป็นผลบุญที่ฉันทำมาตลอดชีวิตแน่ๆ ทำไมดูเจริญหูเจริญตาดีจัง ไม่สิยายพริม จะมาใจอ่อนกับหนุ่มหล่อๆ ได้ไง เป้าหมายของฉันคือหมอซันเท่านั้น
“ขอบคุณที่ชมนะคะ” ฉันยิ้มเอาผมทัดหู ทำท่าทีเอียงอาย แหมคนชมก็ต้องเขินเป็นธรรมดา สไมล์เบ้ปาก พูดคำๆนึงโดยไม่ออกเสียง ถ้าฉันอ่านปากนางไม่ผิด นางน่าจะพูดว่า “แรด” อ่าว อีบ้า ตบกันเลยมะ
“คนน่ารักอย่างคุณพริมมีแฟนรึยังครับ” อาจารย์คินไม่พูดอะไรอ้อมค้อม ตรงประเด็นสุดๆ จะจีบสินะ เฮ้อ คนน่ารักหนักใจนะเนี่ย
“พริมแอบชอบหมอครับ” สไมล์บอก ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่ได้อยากให้ความหวังใคร
“แสดงว่ายังไม่มีแฟนสินะครับ แอบชอบก็ใช่ว่าหมอจะชอบซะหน่อย” จึ๊ก!! เหมือนหอกแหลมๆ พุ่งมาแทงหัวใจของฉัน ที่เขาบอกคือความจริงๆล้วนๆ ใช่แล้ว..หมอซันไม่ได้ชอบฉัน
“เอ่อ มันก็จริงแต่พริมชอบหมอก็คือชอบหมอ ยังไม่อยากจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นน่ะค่ะ” ฉันพูดตรงๆ ไม่อยากสานสัมพันธ์โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าชอบเขาตอบไม่ได้ทางไหนก็เจ็บปวดทั้งนั้น สู้อย่าเริ่มดีกว่า
“ผมก็ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะจีบนะครับ แค่เป็นเพื่อน” อาจารย์คินยิ้มตาใสเหมือนจะตีมึนทู้ซี้จีบแต่แฝงตัวมาในฐานะเพื่อน ฉันมองภาพเขาสลับตำแหน่งกับฉัน ที่จีบหมอซันฉันก็ตีมึนจีบเขา ขนาดคนหน้ามึนมาจีบแล้วยังรำคาญ แล้วหมอซันจะรู้สึกรำคาญฉันไหมนะ?
“คุณสมบัติของหมอ ต้องสุภาพกับคนไข้ เวลาที่เราป่วยร่างกายและจิตใจเราจะอ่อนแอเป็นพิเศษ เราก็เลยเข้าใจผิดไปเองว่าเราชอบหมอเพราะหมอพูดเพราะและใจดีกับคนไข้ พริมเป็นแบบนั้นไหมล่ะครับ” อาจารย์คินพูดอย่างมีหลักการทำให้ฉันคิดตาม ทำไมฉันถึงชอบหมอ เพราะวันนั้นฉันป่วยแล้วเจอเสียงหวานๆ ยิ้มหวานๆ ของหมอซันรึเปล่า โอ้ย! สับสนแล้วนะ
“เงียบไปแสดงว่าผมเดาถูกใช่ไหม” อาจารย์คินเลิกคิ้วอย่างเป็นต่อ มั่นใจว่าความคิดตัวเองถูกต้อง
“ไม่ถูกครับ ยัยพริมชอบหมอเพราะว่าหมอเห็นป่า...”ยังไม่ทันที่สไมล์จะพูดจบ ฉันก็ปิดปากนางซะก่อน
“สมหมายยยยย”
“สมหมายนี่ใครเหรอดิน” อาจารย์คินถามตาใสๆมีแววตาใคร่รู้
“สงสัยชื่อจริงหมอมั้งครับ” สไมล์กัดฟันพูดและส่งสายตาคาดโทษมาที่ฉัน กลัวตายล่ะ ก็นางเริ่มก่อน ไปพูดต่อหน้าคนอื่นได้ไงว่าฉันชอบหมอเพราะหมอเห็นน้องสาวฉันแล้ว
“ตะกี้บอกว่าเห็นป่า ป่าอะไรครับ”
“พริมขอตัวไปจัดขนมก่อนนะคะ แล้วค่อยคุยกันค่ะ” ฉันแยกตัวออกไปทันทีอยู่นานไปอาจารย์คินต้องซักไซ้ไล่เลียงเรื่องป่าอเมซอนแน่ๆ อาจารย์คินทานขนมเสร็จก็ขอตัวกลับ เพราะมีสอน ส่วนสไมล์ก็นั่งเม้ากะฉันต่อ
“เพื่อนแกเนี่ยยังไง มาทำทีขอเป็นเพื่อน”
“อาจารย์คินเค้าป๊อบปูล่าร์มากนะเว้ย เป็นลูกชายอธิการบดี โรงแรม เดอะลุค ก็ของครอบครัวเค้าแหละ” โรงแรม เดอะ ลุค? คือโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุด ในจังหวัดเล็กๆ อย่างสกลนคร
“แล้วไง ฉันอยากมีแฟนเป็นหมอ ไม่ใช่อาจารย์มหาวิทยาลัยซะหน่อย” ฉันเบ้ปาก
“สวยเลือกได้นะยะหล่อน ถ้าหมอไม่ใจอ่อนก็เซมาหาอาจารย์ได้เด้อ”
“อีบ้า ! ไม่มีทาง ฉันรักเดียวใจเดียว”
“สติค่ะหนู เค้าไม่ได้รักแก”
“ย้ำอยู่ได้ ไม่รักวันนี้ก็มีวันหน้าย่ะ” ฉันไหวไหล่ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น ฮึ่บ!!!
“เรื่องของแก คิดถึงซี่รี่ส์เกาหลีเรื่องใหม่เลยว่ะ”
“เรื่องอะไร ใช่เรื่องหนุ่มหน้าใสกับยัยตัวร้ายป่ะ แกว่าฉันสวยขนาดนั้นเลยเหรอวะ เพื่อนรัก” ฉันตีแขนเพื่อนด้วยความเขิน
“เรื่องคุณหมอหน้าใสกับยัยม้าแคระ”
“อ่าว..อีบ้า กำลังจะฟิน ม้าแคระที่ไหน เค้าเรียกผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก” ดูนางพูดประชดประชันเพื่อน ฮึ่ย!! มันน่านัก
“มั่นหน้ามั่นโหนก”
“อ่ะ แน่นอนนนน”
หมออ้ายเดินเข้ามาในร้านเป็นเวลาเที่ยงเศษๆแล้ว
“ชะนี นั่นหมอใหม่เหรอ หล่อมากสเป็กฉันเลย” นางพูดเสียงเบา กลัวหมออ้ายจะได้ยิน หมออ้ายส่งยิ้มหวานละลายใจมาให้
“สวัสดีค่ะ หมออ้าย รับอะไรดีคะ”
“ผมออกมาซื้อเครื่องดื่มครับ ขอมอคค่าเย็นหวานน้อยสองแก้ว ผมพักแป๊บนึง เดี๋ยวจะไปวอร์ด OPD ต่อ” ฉันเดินไปบอกน้องมิกทำเครื่องดื่มและย้อนกลับมานั่งกับสไมล์และหมออ้าย
“หมออ้ายคะ นี่ดินเพื่อนพริมค่ะ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ดิน นี่หมออ้ายเพื่อนหมอซัน” ฉันแนะนำนางให้รู้จักกับหมออ้าย เอาให้สมใจนางซะเลย
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” สไมล์ทำเนียนยื่นมือออกไป หมออ้ายยิ้มแล้วยกมือไหว้ สไมล์ทำหน้าเหวอ หน้าแตกหมออ้ายไม่รับเย็บ
“ยินดีที่รู้จักครับ”
“หมออ้ายเป็นเพื่อนหมอซันนานรึยังครับเนี่ย”
“จริงๆ หมอเรียนวิศวะมาก่อนครับ เรียนไปรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ตัดสินใจออกมาสอบหมอ เลยอายุมากกว่าหมอซันปีนึง เราเรียนด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีหก จับฉลากใช้ทุนก็ยังได้จังหวัดเดียวกันอีก บางทีหมอก็สงสัยว่าหมอซันเป็นเพื่อนหรือเจ้ากรรมนายเวร ไปไหนก็หนีไม่พ้น ฮ่าฮ่า” หมออ้ายหัวเราะอวดเขี้ยวและลักยิ้มเล็กๆบริเวณมุมปากแลดูมีเสน่ห์ ฉันแอบมองสไมล์ที่ลอบมองหมออ้ายด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม ฉันแก้แค้นโดยพูดคำๆนึงไม่ออกเสียงเช่นกัน “ร่าน” เหมือนนางอ่านริมฝีปากฉันออก แอบชูนิ้วกลาง อีนี่ แรงจัง
“แล้วหมอซันทำอะไรอยู่คะ”
“ติดเคสผ่าตัด ยังไม่ได้พักเลยครับ เย็นนี้อยู่เวรห้องฉุกเฉินด้วย เวรดึกสองวันติดกันเลย เดินไปแทบจะหลับตาคุยกัน ผมเลยมาซื้อกาแฟให้เนี่ยแหละ” ฉันนึกถึงใบหน้าขาวจัดที่สลึมสลือเหมือนคนอดนอนอยู่ตลอดเวลาแล้วแอบยิ้ม เย็นนี้ต้องแวะไปหาที่ห้องฉุกเฉินซะแล้ว….
31. น้องพั้นซ์ สาวน้อยมหัศจรรย์ฉันตื่นมาด้วยอาการปวดหน่วงท้องน้อย ท้องแข็งเกร็งเหมือนลูกในท้องกำลังโก่งตัว ช่วงนี้ตอนกลางคืนแทบไม่ได้นอนเพราะปวดฉี่บ่อยมากแทบจะทุกสองชั่วโมง เมื่อคืนเลยเผลอนอนยาวและกลั้นปัสสาวะพอลุกไปเข้าห้องน้ำก็เหมือนฉี่ไม่สุดแสบไปหมด พอใช้ทิชชู่ซับเลือดสีแดงจาง ๆ ติดมากับกระดาษชำระ ฉันตกใจจนมือสั่นคนท้องไม่สมควรมีเลือดออกไม่ว่ากรณีใดๆ ตอนนี้อายุครรภ์เพิ่งจะเจ็ดเดือนครึ่งหรือแค่ยี่สิบเก้าสัปดาห์ ฉันใช้มือลูบท้องลูกยังดิ้นปกติ ฉันโทรหาซันทันทีแต่เขาไม่รับน่าจะกำลังราวน์วอร์ดอยู่ ฉันจึงโทรหาแพรเป็นสายที่สอง แพรรับสายทันที[ ว่าไงพริม ] “แพร ฉันไปฉี่ในห้องน้ำแล้วมีเลือดออก” เสียงของฉันสั่นมาก กลัว..กลัวลูกจะเป็นอะไรไป อีกตั้งสิบเอ็ดสัปดาห์หรือเกือบสามเดือนถึงจะครบกำหนดคลอด ถ้าคลอดตอนนี้น้ำหนักจากผลอัลตร้าซาวน์ครั้งก่อนของลูกในท้องแค่พันกรัมนิดๆ ฉันแทบไม่อยากคิดถึงสภาพเด็กที่คลอดกำหนด มีภาวะเสี่ยงมากมายรออยู่ หัวใจพิการแต่กำเนิด อาจจะถึงขั้นตาบอด หูหนวก เพราะอวัยวะภายในยังไม่สมบูรณ์ ตัวฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นและโชคดีที่รอดมาได้ ขออย่าให้ลูกเป็นอะไรเลย..[ แกอย่าเพิ่งลุกน
30. เก่งมาจากไหน..ก็แพ้ (ท้อง) หัวใจอย่างเธอSun talksผมมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนมาสองวันแล้ว ช่วงเช้าที่กำลังจะราวน์วอร์ด พยาบาลเจนถือชาร์ตคนไข้เดินตามมา อยู่ ๆ ผมก็เกิดอาการคลื่นไส้“พยาบาลเจนหมอขอตัวสักครู่” ผมวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด อ้วกทุกอย่างที่กินมาตอนเช้าจนหมด พอเดินออกมาจากห้องน้ำห้องพักแพทย์ แพรเดินมาถามอย่างเป็นห่วง“ซัน ไหวไหมหน้าซีดๆนะ”“พออ้วกก็โอเคแล้วล่ะ” ผมฝืนยิ้มอาการมึนหัวยังมีอยู่ จำเป็นต้องไปปฏิบัติหน้าที่ราวน์วอร์ดในตอนเช้าจนเสร็จสิ้น ตอนพักเที่ยงผมกับแพรปรึกษาหารือเรื่องอาการคนไข้ หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ“ซัน ไปตรวจร่างกายบ้างนะ แพรว่าอาการของซันอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของโรคบางอย่างก็ได้นะ”“ซันก็ว่างั้นล่ะ แต่แปลกนะเวลาที่อยู่บ้านกับพริม ไม่มีอาการอะไรเลยนะ ส่วนใหญ่จะมาเป็นที่โรงพยาบาล” ตอนอยู่ที่บ้านไม่มีอาการเวียนหัว อาเจียนเลย พอมาทำงานเท่านั้นแหละอาการทุกอย่างมาเต็ม“ก็แปลกเนอะ ลองตรวจเลือด ตรวจร่างกายแบบละเอียด นี่เป็นห่วงกลัวไม่ได้เลี้ยงหลาน” พูดถึงลูกช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนการผลิต ผมกับพริมแต่งงานกันได้ห้าเดือนแล้ว เดือนแรกที่ผมคิดว่
29. คำยินดี....Prae talksหกปีที่แล้ว...ฉันไม่ชอบการที่จะต้องอยู่กับคนเยอะๆ ต้องห้อยป้ายแขวนคอชื่อตัวเองตัวเท่าบ้าน โดนรุ่นพี่แกล้งให้ทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากทำและไม่เคยทำ มันช่างน่าเบื่อจริงๆ สิ่งเดียวที่ฉันชอบคือการอยู่กับพริม คุยเรื่องไร้สาระ กินอาหารที่พริมทำ ดูหนังตลกๆแล้วหัวเราะกันเสียงดัง ที่พูดมาทั้งหมดคงไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว พริมไปเรียนที่ฝรั่งเศสและไม่รู้จะกลับมาไทยเมื่อไหร่ ที่สำคัญเรายังจากกันด้วยไม่ดีเท่าไหร่“น้องแพร เอาแป้งทาน้องซัน ทาลิปสติกให้ด้วยดูน้องซันยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่” พี่ก้อยรุ่นพี่ปีสามบอก..ฉันเดินไปหาผู้ชายที่ชื่อซัน ใบหน้าขาวเนียนแบบผู้หญิงยังอาย โครงหน้าได้รูป คิ้วเข้ม ดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสัน เด็กปีหนึ่งคือเด็กมอหกหัวเกรียนที่เพิ่งจะเป็นหนุ่มน้อยแต่กับซันเขาเป็นหนุ่มที่สมบูรณ์แบบทั้งความสามารถแค่เข้าคณะแพทย์ได้ก็ถือว่าเป็นหัวกะทิแล้วแถมยังหน้าตาดีอีกด้วย“ทาเต็มที่เลยนะแพร ไม่ต้องเกรงใจ ไม่งั้นรุ่นพี่ไม่ให้ผ่านแน่” ซันยังเป็นคนสุภาพให้เกียรติผู้หญิงอีกด้วย ฉันค่อยๆทาลิปสติกสีแดงให้ซัน ดวงตาสีเข้มจ้องฉันตาไม่กระพริบเป็นฉันเองที่อายจนต้องหลบสายตา..จากนั้นเราไ
28. แต่งกับงาน...“พริม ถ้าสักวันหนึ่งซันทำอะไรที่ผิดต่อพริม พริมรู้ไว้นะคนที่ซันรักที่สุดก็คือพริมคนเดียว” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของหมอซัน..จากนั้นเขาก็หายไปติดต่อไม่ได้สองวันเต็มๆ ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเขาจะขาดการติดต่อแต่ฉันก็รู้ว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล แวะเอาข้าวเอาขนมไปให้เขาก็อยู่ตามวอร์ดต่างๆ ห้องพักแพทย์หรือห้องฉุกเฉิน แต่ครั้งนี้เขาหายไปแบบไร้ร่องรอย..แพรยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งส่งให้ฉัน ข่าวการล้มละลายของผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดัง นายแพทย์รังสรรค์ ตันติเวชไพศาล นามสกุลนี้มัน..เหมือนนามสกุลหมอซัน“ทำใจดีๆนะพริม บ้านซันเกิดปัญหาแล้วเค้าต้อง..เอ่อ..แต่งงานกับลูกสาวเจ้าของบริษัทเพื่อกอบกู้กิจการ ฉันรู้ว่ามันน้ำเน่าแต่เค้าก็ต้องทำ” แพรหยิบเอาซองสีชมพูในกระเป๋าส่งให้ฉัน หน้าซองปรากฏชื่อฉันชัดเจน ขอเชิญเป็นเกียรติในงานมงคลสมรส นายแพทย์รังสิมันต์ ตันติเวชไพศาล และ นางสาวมิรันตี โอภาสถาวรสกุล ตอนนั้นสมองของฉันมันชาไปหมด น้ำตาไหลจนตาพร่าแทบมองไม่เห็นข้อความอื่นๆบนการ์ดสีชมพูหวานใบนั้น..คำนิยามของคำว่า “อกหัก” มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ฉันเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำขาดอากาศหายใจ ไม่มีแรงจะทำอะไรอยากจะ
27. ความจริงในใจ..“อีพริม นี่ตกลงหล่อนไปหาพ่อแม่สามีหรือไปฮันนีมูนวะ” สไมล์ถามขึ้น แพรเพิ่งจะไปรับฉันกับหมอซันที่สนามบินในตอนเช้า หมอซันไปราวน์วอร์ดที่โรงพยาบาลทันทีที่มาถึง ส่วนฉันวันนี้ให้น้องๆปิดร้านเพราะฉันก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน“ทำไมว่างั้นอ่าแก” ตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงสุดๆ เพราะต้องตื่นแต่เช้ามาขึ้นเครื่องตั้งแต่ตีสี่“ก็ชุดสปริงซัมเมอร์คอลเลคชั่นแกอ่ะดิ” นางเบ้ปาก มองเสื้อแขนกุดที่พันทับด้วยผ้าพันคอจนหนาปิดต้นคอใช่แล้ว! ฉันปกปิดร่องรอยที่คอเองแหละ“แล้วไงวะ ก็จะแซวทำไมนักหนาเนี่ย” แซวบ่อยก็เขินเหมือนกันนะยะ“แกคนเดียวไม่พอ แต่หมอซันมาในเสื้อคอเต่าด้วยอ่ะดิ ร้ายเหมือนกันนะหล่อน” คืนที่ฉันเมาจนจำอะไรไม่ค่อยได้ ตื่นขึ้นมาเจอรอยคิสมาสท์ที่คอก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่เพราะอีตาหมอหื่นก็ทำรอยไว้ประจำอยู่แล้ว แต่คอของหมอซันก็มีเหมือนกันเนี่ยสิ! ตอนฉันเมานี่ก็น่ากลัวเหมือนกัน..คงกลายร่างเป็นแม่เสือสาวแน่ๆ“เออ คนเราก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างตามสัญชาตญาณ”“สงสารหมอซัน วันนี้อากาศร้อนที่สุดในรอบสิบปี ต้องใส่เสื้อคอเต่าจนดึก ฮือ..วงวารว่ะ” สไมล์เบะปากทำทีเหมือนนางงามได้ตำแหน่งแล้วเหมือนจะยิ้มและร้อ
26. Huahin in love (2)Sun talks“คุณช่อเอื้องครับ จริงๆแฟนผมบอกว่าเธอไม่อยากให้ผมมาที่นี่ แต่ผมบอกเธอว่าผมต้องมาเพราะผมเป็นหมอ คนไข้รอการรักษาจากผมอยู่” ผมโมโหมากที่ถูกผู้หญิงสองคนนี้หลอกและยังทะเลาะกับแฟนเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอบอก“คุณหมอคิดถูกแล้วค่ะที่มาเราก็ได้สนุกกันวินวินทั้งสองฝ่ายนะคะ แฟนคุณหมอจืดชืดขนาดนั้น” ผมโกรธที่เธอว่าพริมแบบนั้นใครว่าพริมจืดชืด เวลาเธอเมานี่ฮอตจะตาย..“ตอนนี้ผมเสียใจมากที่ต้องทะเลาะกับเธอเพราะผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายอย่างพวกคุณสองคน” ผมลุกขึ้นนึกเสียดายเวลาที่มาที่นี่แทนที่จะอยู่กับพริม...“คุณหมอจะต้องเสียใจที่พูดกับเอื้องแบบนี้”“ครับ ผมเสียใจมาก” ช่อเอื้องยกยิ้มอย่างผู้ชนะที่ผมพูดว่าเสียใจ“เสียใจที่เอาเวลาที่มีค่ามาอยู่ที่นี่” ช่อเอื้องร้องกรี๊ดเสียงดังผมไม่สนใจ คนที่ผมสนใจคงกำลังโกรธผมอยู่ ผมเดินออกมาเจอก้านหลิวเพื่อนของช่อเอื้องที่หน้าห้อง“คุณหมอเสร็จเร็วจัง ถ้าพอจะมีเวลาหลิวขอดูแลต่อได้ไหมคะ” ก้านหลิวยิ้มหวานใช้มือแตะแขนผมเบาๆ ผมเบี่ยงตัวหลบ“ไปดูแลเพื่อนคุณเถอะครับ อย่ามายุ่งกับผมเลย ในสายตาของผมไม่เคยมองใครนอกจากแฟนของผม” ผมพูดเสร็จก็รีบเดิ