วันนี้ฟ้าครึ้มฝนมีทีท่าว่าจะตก ฉันกำลังจะปิดร้าน พลางบอกน้องมิกน้องเดียร์กลับบ้านได้เลย น้องๆไม่มีรถยนต์ กลัวน้องจะตากฝนกลับบ้านจนไม่สบาย
“ผมช่วยก่อนก็ได้ครับ พี่พริม” น้องมิกพูดอย่างเกรงใจ
“กลับเลย เดียร์ต้องรีบไปดูแลคุณยาย ป้าแก้วเตรียมอาหารเย็นให้ อย่าลืมเอากลับไปด้วยนะ”ฉันชี้ไปที่กล่องข้าวที่ป้าแก้วจัดสรรเป็นสองที่ สำหรับน้องมิกน้องเดียร์ ส่วนป้าแก้วขึ้นไปปิดหน้าต่างที่ชั้นบน ด้านนอกลมพัดแรง พายุกำลังจะมา พอน้องๆ กลับไปแล้ว ฝนก็ตกหนักทันที ฉันกำลังจะเดินไปล๊อกประตูกระจก เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในชุดนักเรียนนั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ข้างๆ ประตูหน้าร้าน
“หนู เข้ามาข้างในสิ” หนูน้อยเงยหน้าขึ้นมา เนื้อตัวเปียกปอน ฉันประคองตัวน้องและช่วยถือกระเป๋า พามานั่งในร้าน ป้าแก้วกำลังเดินลงมาจากชั้นบน
“คุณหนู เด็กที่ไหนคะ”
“พริมเห็นน้องตากฝนยืนอยู่หน้าร้านค่ะ รบกวนป้าเอาผ้าเช็ดตัว เสื้อยืดและกางเกงสามส่วนของพริมให้น้องด้วยนะคะ” ผู้หญิงไซส์มินิอย่างฉัน เสื้อผ้าก็มีแต่ตัวสั้นๆ เด็กประถมก็ใส่ได้ อาจจะหลวมหน่อย ฉันไม่ใช่สาวร่างน้อยผอมเพรียวปลิวลมตามสมัยนิยม ค่อนข้างมีเนื้อหนังแต่ไม่ถึงกับอ้วนเผละจนน่าเกลียด เพราะฉันควบคุมอาหารเมื่อรู้สึกว่าเสื้อผ้าเริ่มใส่ไม่ได้
“หนูชื่ออะไรคะ”
“หนูชื่อน้องมิ้นท์ค่ะ” หนูน้อยตอบชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีท่าทีเขินอาย
“แล้วคุณพ่อคุณแม่ไปไหนคะ”
“คุณแม่เป็นพยาบาลค่ะ คุณแม่บอกให้น้องมิ้นท์รอที่หน้าโรงพยาบาลพอดีฝนตกน้องมิ้นท์เลยวิ่งมาหลบฝนค่ะ” เด็กหญิงพูดตาใสๆ ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับใครสักคนแต่ก็นึกไม่ออก ฉันอดเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้ ป้าแก้วพาหนูน้อยไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ด้านนอกสายฝนเริ่มซา ฉันเห็นว่าตอนนี้เย็นมากแล้วน้องมิ้นท์คงจะหิว จึงทำ
สปาเกตตี้ซอสหมูสับให้ เด็กหญิงเคี้ยวตุ้ยๆ คำโต เสียงเคาะประตูกระจก พยาบาลจิ๋วที่วิ่งฝ่าฝนจนตัวเปียกยืนอยู่หน้าประตู ป้าแก้วเดินไปเปิดประตู
“นังจิ๋ว กว่าจะมาหาป้าได้นะแก”
“ป้า ช่วงนี้ฉันเข้าเวร เมคมันนี่ แทบไม่ได้พัก” พยาบาลจิ๋วดูอิดโรยเหมือนคนอดนอนสะสม ทำให้ฉันนึกถึงหมอซันแล้วอดยิ้มไม่ได้ รายนั้นก็แทบจะเป็นผีดิบเข้าทุกวัน อาชีพหมอและพยาบาลเป็นอาชีพที่ต้องมีความอดทนและเสียสละ สละเวลาส่วนตัวเพื่อคนส่วนรวม
“แม่จิ๋ว” น้องมิ้นวิ่งมากอดพี่จิ๋ว นึกอยู่ว่าน้องมิ้นท์หน้าเหมือนใคร พอทั้งสองยืนคู่กัน นะ..นี่มัน พี่จิ๋วตอนเด็กและพี่จิ๋วตอนโตชัดๆ
“ยายหนูยืนตัวเปียกอยู่หน้าร้าน คุณหนูให้น้าอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้ กลัวยายหนูจะเป็นหวัดเป็นไข้”
“ขอบคุณนะคะ น้องพริม” พี่จิ๋วยิ้มให้ฉัน
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่จิ๋วทานขนมก่อนนะ ฝนหยุดค่อยกลับเนาะ” ฉันกุลีกุจอ คีบขนมในตู้กระจกส่งให้พี่จิ๋ว
“แล้วสามีแกไปไหน ทำไมไม่มารับลูก” ป้าแก้วถาม พี่จิ๋วหน้าเศร้าพลางถอนหายใจ
“เลิกกันตั้งแต่น้องมิ้นท์ยังเด็กๆ ฉันฝากแม่เลี้ยง จนน้องมิ้นท์เรียนประถมเลยเอามาอยู่ด้วยกัน จริงๆ แม่ฉันก็มาอยู่ด้วยนะ วันนี้แม่กลับบ้าน ฉันเลยให้น้องมิ้นท์มารอที่โรงพยาบาล”
“ยายหนูเป็นเด็กผู้หญิง สมัยนี้มันอันตราย เผื่อโดนคนเอาไปทำมิดีมิร้าย เอาอย่างนี้ถ้าวันไหนแกไม่ว่าง ฉันจะไปรับมาดูแลให้” ป้าแก้วคงสงสารพี่จิ๋วที่มีปัญหาชีวิตคู่ ที่สำคัญพี่จิ๋วเป็นญาติเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ของท่าน ป้าแก้วคงอยากช่วยเต็มกำลังที่ท่านมี
“ขอบคุณน้ามากนะ”
“คุณแม่ พี่สาวคนสวยทำสปาเกตตี้อร่อยกว่าแม่จิ๋วทำอีก”หนูน้อยยังกินไม่หยุด ซอสสีแดงเลอะปากเล็กๆ ฉันใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปากให้น้องมิ้นท์
“แม่บอกแล้วว่าแม่ไม่ได้ทำ แม่ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อมาอุ่น”
“นี่ให้ลูกกินแต่อาหารแช่แข็งเหรอ สงสารนังหนูมัน” ป้าแก้วลูบหัวน้องมิ้นท์อย่างเอ็นดู
“เฉพาะวันที่แม่ฉันไม่มาเท่านั้นแหละ ทำไงได้ ฉันต้องทำงานหาเงินคนเดียว” พี่จิ๋วถอนหายใจยาวๆ
“น้องมิ้นท์ วันไหนที่คุณยายไม่อยู่ มาหาพี่พริมดีไหม พี่พริมจะสอนทำขนม”
“น้องมิ้นท์ อยากมาทำขนมกับพี่คนสวยค่ะ น้องมิ้นท์มาพรุ่งนี้เลยนะคะ” เด็กน้อยทำตาใส ดีใจราวกับได้ของเล่นอันใหม่
“จะไม่กวนน้องพริมเหรอคะ พี่เกรงใจ” พี่จิ๋วลำบากใจ
“ไม่เลยค่ะ พริมยินดี น้องมิ้นท์น่ารักน่าเอ็นดูช่างพูดช่างคุย พริมถูกชะตากับน้องค่ะ” ฉันคงแลดูมีคุณสมบัติมิสยูนิเวิร์สมาก พริมรักเด็ก รักน้ำรักปลา ที่สำคัญรักหมอ คิดเองก็เขินเอง พี่จิ๋วยิ้มกว้าง แล้วถอนหายใจ
“พี่รู้สึกผิดกับน้องพริมจังเลย วันนั้นที่พี่ใส่ชาร์ทคนไข้ผิด น้องพริมเลยเกือบโดนคุณหมอตรวจภายใน พี่ขอโทษนะคะ” พี่จิ๋วรู้ไหม? ฉันเกือบจะเสียความบริสุทธิ์ ฮือ…
“ว่าไงนะ นังจิ๋ว คุณหมอเกือบตรวจภายในคุณหนู” ป้าแก้วทำตาโต ตีแขนพี่จิ๋วอารามตกใจ พี่จิ๋วยกมือท่วมหัวไหว้ป้าแก้ว
“ป้า ฉันขอโทษจริงๆ แล้วฉันยังพูดไม่ดีน้องพริมด้วย วันๆ ฉันเจอแต่ผู้หญิงมาเต๊าะหมอ โดยเฉพาะหมอซัน ที่ทั้งหล่อ สุภาพ ใจดี ใครๆ ก็ชอบ ฉันสงสารหมอซัน ไม่ได้นอนแถมยังโดนคนไข้ ญาติคนไข้ มาขายขนมจีบประจำ เวลานอนยังไม่มี จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน”
“พี่จิ๋วคะ พริมไม่โกรธนะคะ คนเราผิดพลาดกันได้ ต่อไปพี่จิ๋วก็ช่วยพริมจีบหมอด้วยนะคะ” ฉันจับมือพี่จิ๋วทำสัญญา เป็นพันธมิตรกัน
“คุณหนู มันไม่งามนะคะ ไปจีบผู้ชายก่อน ถ้าคุณท่านรู้ ป้าโดนไล่ออกแน่ๆเลยค่ะ” ป้าแก้วส่ายหน้าไม่เห็นด้วย คงเป็นห่วงอนาคตถ้าต้องโดนไล่ออกในวัยนี้
“ถ้าป้ากับพ่อจะหวงพริมขนาดนั้น พริมจะขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณแล้วนะคะ” ผู้หญิงอายุ 25 ปี ไม่เคยมีแฟน จริง ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่หรอก แต่ฉันไม่ชอบเนี่ยสิ ความสัมพันธ์ถ้ามันไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่ป่ะวะ ต้องฝืนคบไปทำไม
ก็เพราะคิดแบบนี้ฉันก็เลยโสดสนิทแบบนี้ไง ดูพ่อกับป้าแก้วก็ไม่เดือดร้อนที่ฉันไม่มีแฟน แต่กลับดีใจที่ฉันยังโสด เพราะถึงยังไงฉันก็ยังดูเป็นเด็กในสายตาพวกท่านเสมอ คราวนี้ขอฉันทำตามคำเรียกร้องของหัวใจ อยากเป็นแฟนหมอซัน
“ถ้าน้องพริมชอบหมอซัน จริงๆ พี่ขอพูดตามความจริงนะคะ ผู้หญิงเราถ้ามีแฟนจะต้องการผู้ชายที่ดูแลเอาใจใส่มีเวลาให้ใช่ไหมคะ แต่หมอไม่มีเวลาแบบนั้น วันเกิด วาเลนไลน์ ปีใหม่ หรือเทศกาลไหนๆ หมอมีเวรอยู่โรงพยาบาล สามีพี่ก็แอบมีกิ๊กตอนพี่เข้าเวรเนี่ยแหละ คิดแล้วมันน่านัก” พี่จิ๋วตบเข่าดังฉาด จนฉันกับป้าแก้วตกใจ
“พี่จิ๋วคะ พริมแค่อยากดูแลหมอซัน พริมชอบหมอซันจริงๆนะคะ ส่วนเรื่องหมอไม่มีเวลา ไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร พริมก็ดูแลตัวเองได้ พริมอยู่กับพ่ออยู่กับป้าแก้ว พริมโอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้นะคะ” ฉันพูดอย่างมั่นใจ ไม่เห็นต้องมาดูแลอะไรกันมากมาย ฉันยืนด้วยขาตัวเองตั้งยี่สิบห้าปี ไม่ได้ต้องการคนประคองซะหน่อย
“ตอนนี้ผู้หญิงที่ใกล้ชิดหมอซันที่สุดคือหมอแพร ตอนแรกพี่เข้าใจว่าหมอสองคนนี้เป็นแฟนกัน แต่ดูหมอซันก็ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเห็นว่าหมอแพรเป็นคนพิเศษ พี่ได้ยินพยาบาลเจนที่เป็นเพื่อนหมอแพรบอกว่า หมอแพรเคยสารภาพรักกับหมอซัน หมอซันปฏิเสธเขายังไม่อยากมีแฟนเพราะไม่มีเวลาให้ใคร กลัวดูแลแฟนได้ไม่ดี แต่ถ้าหมอซันคิดจะมีแฟนจริงๆจะพิจารณาหมอแพรเป็นคนแรก” ฟังดูมันก็หน่วงๆ เหมือนกัน ถ้าหมอซันจะมีแฟน
คนแรกที่มีสิทธิ์คือยายแพรงั้นเหรอ? งั้นฉันก็ต้องต่อคิวจากยายแพร ไม่สิ ต่อคิวที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็อยู่หลังยายแพรอยู่ดี นี่ฉันจะไม่มีวันชนะยายแพรเลยเหรอ
“คุณหนู ทำไมทำหน้าบูดเป็นตูดลิง นังจิ๋วแกต้องช่วยคุณหนูให้เป็นแฟนคุณหมอซันให้ได้”
“อ่าวน้าแก้ว..ตะกี้ยังพูดว่าจีบผู้ชายก่อนไม่งามไม่ใช่เหรอ?”
“แกไม่เห็นเหรอว่าคุณหนูชอบคุณหมอซะขนาดนั้น ฉันรับปากคุณท่านกับคุณผู้หญิงไว้ว่าจะดูแลคุณหนู คุณหนูอยากได้อะไรแม้กระทั่งดาวเดือนฉันก็จะหาให้ได้ คุณหนูอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นนะคะ ป้าไม่สบายใจ” ฉันเอาหัวถูไหล่ป้าแก้วอย่างออดอ้อน
“รักป้าแก้วนะคะ”
“พี่จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ค่ะ ต้องทำใจไว้หน่อยนะคะ จีบหมอไม่เหมือนอาชีพอื่นนะคะ ถ้าหมอไม่ว่างหมอจะไม่ตอบข้อความ ไม่โทร บางทีก็หายไปเป็นวันสองวัน เพราะเข้าเวรติดกัน พอออกเวรก็ต้องการพักผ่อน เราต้องมีจังหวะดีๆ ในการเข้าหา ห้ามน้อยใจเด็ดขาด น้องพริมรับได้นะคะ” พี่จิ๋วถามย้ำอีกครั้ง
“โอเคค่ะ” สู้เว้ย ยายพริม ใครจะมาก่อนมาหลังไม่รู้ ถ้าไม่ลงแข่งจะรู้ได้ไงว่าจะแพ้หรือชนะ ถ้าจะแพ้ก็เป็นหมอซันปฏิเสธไม่ใช่คนอื่น ฝนเริ่มหยุดแล้ว พี่จิ๋วกับน้องมิ้นท์กลับไปได้สักพัก ป้าแก้วก็ขอตัวกลับบ้านเพื่อไปเตรียมอาหารเย็นให้คุณพ่อที่บ้านใหญ่ ฉันกำลังจะเดินไปล๊อกประตูหน้าร้าน ชายหนุ่มร่างสูงสองคน สวมเสื้อกาวน์แขนสั้น เดินตรงมาที่ร้าน หมอซันกับหมออีกคน ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้า ผิวขาว หน้าตาดี เกาหลีสุดๆ พอยืนคู่กันสาววายคงชวนจิ้นอยู่ไม่น้อย ฉันยิ้มรับพลางเปิดประตู
“คุณหมอ จริงๆ พริมปิดร้านแล้วนะคะ แต่สำหรับคุณหมอ หัวใจพริมเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะคะ” ฉันหยอดมุกแรก
หมอซันยิ้มตาหยีพลางเกาหัวอย่างอายๆ เขินใช่มั้ยล่ะ? ฉันเข้าข้างตัวเอง
“นี่หมออ้ายเพื่อนสนิทหมอครับ หมออ้ายนี่พริม เจ้าของร้านขนมเครื่องดื่มแสนอร่อย” หมออ้ายยิ้มหวาน คิ้วเข้มตัดกับผิวขาวจัด ดวงตาสีอ่อนชวนฝัน ฉันไม่กล้ามองนาน ใจเริ่มบาง มองนานเกินไปอาจย้ายข้างมาชอบหมออ้ายก็เป็นได้
“ยินดีที่รู้จักค่ะ เพื่อนสนิทหมอซันก็เหมือนเพื่อนสนิทพริมค่ะ” ฉันติ๊ต่าง หมออ้ายหัวเราะเบาๆ
“ไม่เห็นหมอซันบอกเลยว่าเจ้าของครัวซองต์แสนอร่อยจะน่ารักขนาดนี้”
“ครัวซองต์อร่อย เจ้าของครัวซองต์แซ่บกว่านะคะ เผื่อหมออยากจะชิม” หมอซันยิ้มตาใส ใช้มือเสยผมม้าด้านหน้าขึ้น ช๊อตนี้มันกระแทกใจ คนอะไรหล่อน่ากินไปทั้งตัว
“วันนี้พริมพอจะทำอาหารง่ายๆ ให้พวกหมอทานได้ไหม วันนี้หมอไม่มีเวร ว่าจะทานข้าวแล้วนอนยาว” หมอเอามือลูบท้องด้วยความหิว โอ้ย น่ารักอีกแล้วดวงตาสีเข้มมองมาเหมือนจะอ้อนนิดๆ ใจบางแล้วเนี่ย
“ได้ค่ะ หมอรอสักหน่อยนะ เดี๋ยวหมอทานขนมรอดีไหม แล้วเนี่ยอาหารมื้อสุดท้ายทานกันตอนไหนคะ ทำไมดูหิวโหยซะขนาดนั้น”
“จำไม่ได้เลยครับ” หมออ้ายส่ายหน้า
“หมอต้องทานอะไรบ้างนะคะ เผื่อผ่าตัดไปอยู่ดีๆเป็นลมจะทำยังไง ไลน์ก็มีเดี๋ยวพริมเอาไปส่งนะคะ”
“ขอรบกวนบ้างเป็นบางเวลาละกันครับ หมอเกรงใจพริม” หมอซันพูดยิ้ม ๆ
“เกรงใจอะไรกันคะ เดี๋ยวหมอก็ต้องมาเป็นแฟนพริมอยู่แล้ว พูดแล้วเขินพริมไปทำอาหารดีกว่า” พูดเองเขินเอง ฉันคงบ้าไปแล้ว..ฉันวางชีสเค้กบลูเบอร์รี่สองที่สำหรับหมอหนุ่มทั้งสอง แล้วเดินเข้ามาในครัว ทำเมนูที่คิดว่าง่ายๆ สปาเกตตี้คาโบนาร่ากับซีซ่าร์สลัด รายการอาหารนี้มีในเมนูของร้านอยู่แล้วจึงมีวัตถุดิบพร้อมปรุง ฉันใช้เวลาไม่นานจึงยกอาหารออกไปเสิร์ฟลูกค้าคนพิเศษ
“มาแล้วค่ะ เมนูง่ายๆ สปาเกตตี้คาโบนาร่ากับซีซ่าร์สลัด น้ำสลัดพริมทำสูตรไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพดีต่อใจไม่อ้วนค่ะ” ฉันพรีเซ้นท์อาหาร หมอจะได้รู้ว่าฉันใส่ใจหมอซันแค่ไหน หมอไม่มีเวลาออกกำลังกายเพราะฉะนั้นควรจะเป็นอาหารแคลลอรี่ต่ำ ทานง่ายและดีต่อสุขภาพ
“นี่เมนูง่ายแล้วเหรอครับ หมอหมายถึงกะเพราะไก่ไข่ดาว ข้าวผัดอะไรอย่างนี้ ลำบากพริมจริงๆ” ฉันทำหน้าเหวอ นี่หมอต้องการเมนูง่ายๆแบบนั้นเองเหรอ ฉันจบจากสถาบันทำอาหารชั้นนำจากฝรั่งเศส เมนูง่ายๆ ฉันก็นึกว่าเป็นพวกสปาเกตตี้ สลัดอะไรประมาณนี้ซะอีก โอ้ย ยายพริม ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม
“ทานให้อร่อยนะคะ ย้ำอีกครั้ง ทั้งร้านแม่ค้าแซ่บที่สุด” พรีเซ้นท์อาหารไม่ลืมพรีเซ้นท์ตัวเอง..นี่แหละฉัน
31. น้องพั้นซ์ สาวน้อยมหัศจรรย์ฉันตื่นมาด้วยอาการปวดหน่วงท้องน้อย ท้องแข็งเกร็งเหมือนลูกในท้องกำลังโก่งตัว ช่วงนี้ตอนกลางคืนแทบไม่ได้นอนเพราะปวดฉี่บ่อยมากแทบจะทุกสองชั่วโมง เมื่อคืนเลยเผลอนอนยาวและกลั้นปัสสาวะพอลุกไปเข้าห้องน้ำก็เหมือนฉี่ไม่สุดแสบไปหมด พอใช้ทิชชู่ซับเลือดสีแดงจาง ๆ ติดมากับกระดาษชำระ ฉันตกใจจนมือสั่นคนท้องไม่สมควรมีเลือดออกไม่ว่ากรณีใดๆ ตอนนี้อายุครรภ์เพิ่งจะเจ็ดเดือนครึ่งหรือแค่ยี่สิบเก้าสัปดาห์ ฉันใช้มือลูบท้องลูกยังดิ้นปกติ ฉันโทรหาซันทันทีแต่เขาไม่รับน่าจะกำลังราวน์วอร์ดอยู่ ฉันจึงโทรหาแพรเป็นสายที่สอง แพรรับสายทันที[ ว่าไงพริม ] “แพร ฉันไปฉี่ในห้องน้ำแล้วมีเลือดออก” เสียงของฉันสั่นมาก กลัว..กลัวลูกจะเป็นอะไรไป อีกตั้งสิบเอ็ดสัปดาห์หรือเกือบสามเดือนถึงจะครบกำหนดคลอด ถ้าคลอดตอนนี้น้ำหนักจากผลอัลตร้าซาวน์ครั้งก่อนของลูกในท้องแค่พันกรัมนิดๆ ฉันแทบไม่อยากคิดถึงสภาพเด็กที่คลอดกำหนด มีภาวะเสี่ยงมากมายรออยู่ หัวใจพิการแต่กำเนิด อาจจะถึงขั้นตาบอด หูหนวก เพราะอวัยวะภายในยังไม่สมบูรณ์ ตัวฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นและโชคดีที่รอดมาได้ ขออย่าให้ลูกเป็นอะไรเลย..[ แกอย่าเพิ่งลุกน
30. เก่งมาจากไหน..ก็แพ้ (ท้อง) หัวใจอย่างเธอSun talksผมมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนมาสองวันแล้ว ช่วงเช้าที่กำลังจะราวน์วอร์ด พยาบาลเจนถือชาร์ตคนไข้เดินตามมา อยู่ ๆ ผมก็เกิดอาการคลื่นไส้“พยาบาลเจนหมอขอตัวสักครู่” ผมวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด อ้วกทุกอย่างที่กินมาตอนเช้าจนหมด พอเดินออกมาจากห้องน้ำห้องพักแพทย์ แพรเดินมาถามอย่างเป็นห่วง“ซัน ไหวไหมหน้าซีดๆนะ”“พออ้วกก็โอเคแล้วล่ะ” ผมฝืนยิ้มอาการมึนหัวยังมีอยู่ จำเป็นต้องไปปฏิบัติหน้าที่ราวน์วอร์ดในตอนเช้าจนเสร็จสิ้น ตอนพักเที่ยงผมกับแพรปรึกษาหารือเรื่องอาการคนไข้ หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ“ซัน ไปตรวจร่างกายบ้างนะ แพรว่าอาการของซันอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของโรคบางอย่างก็ได้นะ”“ซันก็ว่างั้นล่ะ แต่แปลกนะเวลาที่อยู่บ้านกับพริม ไม่มีอาการอะไรเลยนะ ส่วนใหญ่จะมาเป็นที่โรงพยาบาล” ตอนอยู่ที่บ้านไม่มีอาการเวียนหัว อาเจียนเลย พอมาทำงานเท่านั้นแหละอาการทุกอย่างมาเต็ม“ก็แปลกเนอะ ลองตรวจเลือด ตรวจร่างกายแบบละเอียด นี่เป็นห่วงกลัวไม่ได้เลี้ยงหลาน” พูดถึงลูกช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนการผลิต ผมกับพริมแต่งงานกันได้ห้าเดือนแล้ว เดือนแรกที่ผมคิดว่
29. คำยินดี....Prae talksหกปีที่แล้ว...ฉันไม่ชอบการที่จะต้องอยู่กับคนเยอะๆ ต้องห้อยป้ายแขวนคอชื่อตัวเองตัวเท่าบ้าน โดนรุ่นพี่แกล้งให้ทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากทำและไม่เคยทำ มันช่างน่าเบื่อจริงๆ สิ่งเดียวที่ฉันชอบคือการอยู่กับพริม คุยเรื่องไร้สาระ กินอาหารที่พริมทำ ดูหนังตลกๆแล้วหัวเราะกันเสียงดัง ที่พูดมาทั้งหมดคงไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว พริมไปเรียนที่ฝรั่งเศสและไม่รู้จะกลับมาไทยเมื่อไหร่ ที่สำคัญเรายังจากกันด้วยไม่ดีเท่าไหร่“น้องแพร เอาแป้งทาน้องซัน ทาลิปสติกให้ด้วยดูน้องซันยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่” พี่ก้อยรุ่นพี่ปีสามบอก..ฉันเดินไปหาผู้ชายที่ชื่อซัน ใบหน้าขาวเนียนแบบผู้หญิงยังอาย โครงหน้าได้รูป คิ้วเข้ม ดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสัน เด็กปีหนึ่งคือเด็กมอหกหัวเกรียนที่เพิ่งจะเป็นหนุ่มน้อยแต่กับซันเขาเป็นหนุ่มที่สมบูรณ์แบบทั้งความสามารถแค่เข้าคณะแพทย์ได้ก็ถือว่าเป็นหัวกะทิแล้วแถมยังหน้าตาดีอีกด้วย“ทาเต็มที่เลยนะแพร ไม่ต้องเกรงใจ ไม่งั้นรุ่นพี่ไม่ให้ผ่านแน่” ซันยังเป็นคนสุภาพให้เกียรติผู้หญิงอีกด้วย ฉันค่อยๆทาลิปสติกสีแดงให้ซัน ดวงตาสีเข้มจ้องฉันตาไม่กระพริบเป็นฉันเองที่อายจนต้องหลบสายตา..จากนั้นเราไ
28. แต่งกับงาน...“พริม ถ้าสักวันหนึ่งซันทำอะไรที่ผิดต่อพริม พริมรู้ไว้นะคนที่ซันรักที่สุดก็คือพริมคนเดียว” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของหมอซัน..จากนั้นเขาก็หายไปติดต่อไม่ได้สองวันเต็มๆ ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเขาจะขาดการติดต่อแต่ฉันก็รู้ว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล แวะเอาข้าวเอาขนมไปให้เขาก็อยู่ตามวอร์ดต่างๆ ห้องพักแพทย์หรือห้องฉุกเฉิน แต่ครั้งนี้เขาหายไปแบบไร้ร่องรอย..แพรยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งส่งให้ฉัน ข่าวการล้มละลายของผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดัง นายแพทย์รังสรรค์ ตันติเวชไพศาล นามสกุลนี้มัน..เหมือนนามสกุลหมอซัน“ทำใจดีๆนะพริม บ้านซันเกิดปัญหาแล้วเค้าต้อง..เอ่อ..แต่งงานกับลูกสาวเจ้าของบริษัทเพื่อกอบกู้กิจการ ฉันรู้ว่ามันน้ำเน่าแต่เค้าก็ต้องทำ” แพรหยิบเอาซองสีชมพูในกระเป๋าส่งให้ฉัน หน้าซองปรากฏชื่อฉันชัดเจน ขอเชิญเป็นเกียรติในงานมงคลสมรส นายแพทย์รังสิมันต์ ตันติเวชไพศาล และ นางสาวมิรันตี โอภาสถาวรสกุล ตอนนั้นสมองของฉันมันชาไปหมด น้ำตาไหลจนตาพร่าแทบมองไม่เห็นข้อความอื่นๆบนการ์ดสีชมพูหวานใบนั้น..คำนิยามของคำว่า “อกหัก” มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ฉันเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำขาดอากาศหายใจ ไม่มีแรงจะทำอะไรอยากจะ
27. ความจริงในใจ..“อีพริม นี่ตกลงหล่อนไปหาพ่อแม่สามีหรือไปฮันนีมูนวะ” สไมล์ถามขึ้น แพรเพิ่งจะไปรับฉันกับหมอซันที่สนามบินในตอนเช้า หมอซันไปราวน์วอร์ดที่โรงพยาบาลทันทีที่มาถึง ส่วนฉันวันนี้ให้น้องๆปิดร้านเพราะฉันก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน“ทำไมว่างั้นอ่าแก” ตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงสุดๆ เพราะต้องตื่นแต่เช้ามาขึ้นเครื่องตั้งแต่ตีสี่“ก็ชุดสปริงซัมเมอร์คอลเลคชั่นแกอ่ะดิ” นางเบ้ปาก มองเสื้อแขนกุดที่พันทับด้วยผ้าพันคอจนหนาปิดต้นคอใช่แล้ว! ฉันปกปิดร่องรอยที่คอเองแหละ“แล้วไงวะ ก็จะแซวทำไมนักหนาเนี่ย” แซวบ่อยก็เขินเหมือนกันนะยะ“แกคนเดียวไม่พอ แต่หมอซันมาในเสื้อคอเต่าด้วยอ่ะดิ ร้ายเหมือนกันนะหล่อน” คืนที่ฉันเมาจนจำอะไรไม่ค่อยได้ ตื่นขึ้นมาเจอรอยคิสมาสท์ที่คอก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่เพราะอีตาหมอหื่นก็ทำรอยไว้ประจำอยู่แล้ว แต่คอของหมอซันก็มีเหมือนกันเนี่ยสิ! ตอนฉันเมานี่ก็น่ากลัวเหมือนกัน..คงกลายร่างเป็นแม่เสือสาวแน่ๆ“เออ คนเราก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างตามสัญชาตญาณ”“สงสารหมอซัน วันนี้อากาศร้อนที่สุดในรอบสิบปี ต้องใส่เสื้อคอเต่าจนดึก ฮือ..วงวารว่ะ” สไมล์เบะปากทำทีเหมือนนางงามได้ตำแหน่งแล้วเหมือนจะยิ้มและร้อ
26. Huahin in love (2)Sun talks“คุณช่อเอื้องครับ จริงๆแฟนผมบอกว่าเธอไม่อยากให้ผมมาที่นี่ แต่ผมบอกเธอว่าผมต้องมาเพราะผมเป็นหมอ คนไข้รอการรักษาจากผมอยู่” ผมโมโหมากที่ถูกผู้หญิงสองคนนี้หลอกและยังทะเลาะกับแฟนเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอบอก“คุณหมอคิดถูกแล้วค่ะที่มาเราก็ได้สนุกกันวินวินทั้งสองฝ่ายนะคะ แฟนคุณหมอจืดชืดขนาดนั้น” ผมโกรธที่เธอว่าพริมแบบนั้นใครว่าพริมจืดชืด เวลาเธอเมานี่ฮอตจะตาย..“ตอนนี้ผมเสียใจมากที่ต้องทะเลาะกับเธอเพราะผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายอย่างพวกคุณสองคน” ผมลุกขึ้นนึกเสียดายเวลาที่มาที่นี่แทนที่จะอยู่กับพริม...“คุณหมอจะต้องเสียใจที่พูดกับเอื้องแบบนี้”“ครับ ผมเสียใจมาก” ช่อเอื้องยกยิ้มอย่างผู้ชนะที่ผมพูดว่าเสียใจ“เสียใจที่เอาเวลาที่มีค่ามาอยู่ที่นี่” ช่อเอื้องร้องกรี๊ดเสียงดังผมไม่สนใจ คนที่ผมสนใจคงกำลังโกรธผมอยู่ ผมเดินออกมาเจอก้านหลิวเพื่อนของช่อเอื้องที่หน้าห้อง“คุณหมอเสร็จเร็วจัง ถ้าพอจะมีเวลาหลิวขอดูแลต่อได้ไหมคะ” ก้านหลิวยิ้มหวานใช้มือแตะแขนผมเบาๆ ผมเบี่ยงตัวหลบ“ไปดูแลเพื่อนคุณเถอะครับ อย่ามายุ่งกับผมเลย ในสายตาของผมไม่เคยมองใครนอกจากแฟนของผม” ผมพูดเสร็จก็รีบเดิ