หน้าหลัก / วัยรุ่น / Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย / 03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (2/2)

แชร์

03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (2/2)

ผู้เขียน: ฮวายอน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-06 00:04:47

Part’s Fi

ฟึบ!

ตำรากฎหมายเล่มหนาถูกปิดเสียงดัง ผมถอนหายใจแรงอย่างคนที่สมองเริ่มตื้อ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นไปสบกับ สายลม ไอ้หนุ่มสถาปัตย์สายติสต์ตัวพ่อที่นั่งเท้าคางมองอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนฝั่งตรงข้าม

มันจ้องผมมาเกือบครึ่งชั่วโมง… ด้วยสีหน้าราวกับกำลังจับพิรุธผู้ต้องหา

“มีอะไรก็พูดมาดิ จ้องอยู่ได้ กูท้องแล้วมั้งเนี่ย”

ความจริงผมไม่ได้อารมณ์ดีถึงขั้นจะเล่นมุกออกหรอกนะ แต่ที่พูดก็เพราะรำคาญ…

ให้มันถามซะ… จะได้จบๆ อยากไล่ให้มันไปพ้นๆ และแน่นอนว่าคนที่ไร้ความเกรงใจอย่างมันไม่อ้อมค้อม ยิงตรงเข้าเป้าแบบเต็มๆ

“มึงกับไอ้หมอกยังไม่เคลียร์กันเหรอ”

คำถามมันไม่ได้หนักหนาอะไร แต่กลับเหมือนมีใครสักคนโยนหินลงไปในบ่อน้ำลึกที่พยายามสงบ… และมันกระเพื่อมขึ้นมาอีกครั้ง

“เอาจริงๆ นะ” ผมกระตุกยิ้มฝืนๆ “ในกลุ่มเนี่ย มีแค่ไอ้พายุตัวเดียวกูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว มึงปล่อยให้ความขี้เสือกเป็นหน้าที่ของมันคนเดียวไม่ได้เหรอ”

“เอ้า! ไอ้สัส… แล้วให้กูพูดทำเพื่อ?”

ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเจาะจงตรงประเด็นขนาดนี้

ผมส่ายหน้าน้อยๆ พลางพ่นลมยาวเหยียด ราวกับจะยกอะไรทั้งหลายแหล่ที่อัดอั้นอยู่ข้างในออกมาให้หมด แต่มันก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน…

ช่วงนี้ชีวิตแม่งเหมือนโดนเจ้ากรรมนายเวรตามเอาคืนยังไงก็ไม่รู้ ไม่ว่าเรื่องอะไร มันก็พังยับเยิน

ถึงแม้บรรยากาศสวนข้างตึกจะดูร่มรื่น มีลมพัดโชย เสียงนกร้องเป็นจังหวะ ทว่ามันไม่ได้ช่วยให้ใจผมสงบลงเลยแม้แต่นิดเดียว สายตาผมไถลไปยังแคนทีนใต้ตึกบริหาร ที่ที่กลุ่มดิซานเตอร์เคยรวมตัวกันแทบทุกมื้อ

แต่ตอนนี้… ไม่รู้สิ! อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

พอมาย้อนคิดๆ ดูแล้ว ... กูทำไปเพื่ออะไรวะ?

ถ้าตอนนั้นเลือกเงียบ แล้วเดินหนีออกมาจากคลับ เรื่องมันคงไม่บานปลายแบบนี้

‘มึงไปถึงขั้นไหนกันแล้ว’

ไม่รู้ว่าจะต้องการคำตอบไปเพื่อ…? ทั้ง ๆ ที่การกระทำของมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

‘ต้องให้กูพูดด้วยเหรอ’

ตอนนั้นเหมือนผมโดนน้ำเย็นจัดสาดเข้าหน้าเต็มแรง ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของร่างกาย กว่าจะรู้ตัว คอเสื้อไอ้หมอกก็มากองอยู่ในกำมือผมแล้ว

แต่มันปัดออกอย่างง่ายดาย และจ้องกลับด้วยสายตาเย็นเยียบ

‘มึงทำแบบนี้ได้ยังไง…’ เสียงผมสั่นจนไม่รู้ว่ามันคือความโกรธหรือความเจ็บปวด ‘ไอ้จ้าวเป็นเพื่อนมึงนะ!’

‘อย่ามาเสือกเรื่องของกู’

ผมจำแววตาที่พยายามแสดงความเหนือกว่าได้ขึ้นใจ เพราะลึก ๆ มันเองก็ไม่ต่างจากคนกำลังดิ้นรนเช่นกัน ผมรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวเจืออยู่ในน้ำเสียงกระโชกโฮกฮากนั่นด้วย

‘ถ้าผู้หญิงที่มึงคั่วอยู่ ไม่ใช่เพื่อนกู กูก็จะไม่ยุ่งหรอก’

คนฟังหลุดหัวเราะในคอ ก่อนจะถามทวนด้วยเสียงกดต่ำ

‘เพื่อน?’ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาคล้ายจะอ่านบางอย่างที่ผมเก็บซ่อนเอาไว้ ‘แน่ใจเหรอ ว่ามึงคิดกับมันแค่เพื่อน’

‘...’ ผมตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบฉับพลัน อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนซะงั้น

‘ที่ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เพราะหวงเหรอ’

หวง? เหอะ! ผมไม่ได้มีสิทธิ์นั้นด้วยซ้ำ ถึงจะงง ๆ ไม่รู้ว่าพลาดให้มันจับความรู้สึกได้ตั้งแต่ตอนไหนนะ

แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ ผมก็ไม่รู้จะแถต่อไปทางไหน ผมสูดหายใจลึก รวบรวมทั้งสติและความกล้า ก่อนจะตัดสินใจปล่อยทุกอย่างออกไป

‘ใช่ กูชอบมัน แต่กูไม่เคยคิดจะทำอะไรเหี้ย ๆ แบบมึง’

‘ถุย! มึงอย่ามาทำเป็นคนดี ไม่ใช่มึงไม่คิดจะทำ แต่เพราะไอ้จ้าวมันไม่ให้โอกาสมึงต่างหาก’

ทุกคำพูดที่ไอ้หมอกฝากไว้ ยิ่งตอกย้ำให้ผมสวมบทเป็นตัวร้ายในละครหลังข่าว

…ที่ไม่มีวันชนะ

มือผมเผลอกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อ๊ะ! แม่งเอ๊ย… ลืมเลยว่าตัวเองเจ็บอยู่

ผมสูดหายใจเข้าลึก พยายามรีเซตความคิดในหัวแล้วผละจากตรงนั้นทันที

ถามว่าโกรธไหม แล้วผมจะไปโกรธไอ้หมอกเรื่องอะไร? มันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผมแค่รู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบช้า ๆ ทุกครั้งที่เห็นมันกับจันทร์เจ้าอยู่ด้วยกัน

เลวร้ายกว่านั้นคือ ผมไม่รู้จะจัดการความรู้สึกแบบนี้ยังไง เพราะงั้นการถอยกลับมาตั้งหลัก รอจนกว่าจะพร้อม แล้วค่อยก้าวเดินต่อไปข้างหน้าคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

แน่นอนว่าไม่ใช่ตอนนี้…

…และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

“เฮีย! เฮียไฟ… ไฟ เฮียไฟ”

เสียงแหวกแหวดจากมุมห้องดังขึ้นซ้ำๆ จนผมต้องกดขมับตัวเองแน่น ไล่ความรำคาญที่ค่อยๆ ทวีขึ้นในอก ก่อนทิ้งหลังลงพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง ตวัดสายตาไปยังกรงนกที่ตั้งอยู่ริมระเบียง

คุณจุก เจ้านกแก้วสีเหลืองสดใสพันธุ์ริงเนคที่มีแหวนสีแดงรอบคอ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่บางทีก็มิอยากโปรด เพราะนับวันยิ่งพูดมาก พูดเก่ง แล้วแต่ละคำก็…

“ไอ้จ้าวล่ะ”

หึ! เสียงของมันดังชัดจนผมหรี่ตา มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มขื่นๆ นิ้วโป้งไถวนเบา ๆ ตรงกลางฝ่ามือที่ยังพันผ้าก๊อซไว้

“อยากตายเหรอ”

“อยากตายเหรอ จะฟ้องไอ้จ้าว ฟ้องไอ้จ้าว…” มันยังคงโยกหัวไปมาบนคอนไม้ พลางพูดเสียงแหลมราวกับจงใจทิ่มแทง

เฮ้อ… หมดคำจะด่า

ไม่แปลกหรอก ที่มันเรียกหาแต่จันทร์เจ้า เพราะเธอเป็นคนเลือกมันมากับมือ ชื่อก็ตั้งให้ แถมยังเคยแวะเวียนมาเล่นด้วยเกือบทุกวัน

หมายถึงเมื่อสามปีก่อนนะ… ก่อนที่ไอ้หมอกจะกลับมา

แต่ตอนนี้เหมือนมันจะตกกระป๋องแล้ว ไม่สิ! ต้องใช้คำว่าเรามากกว่า

ผมหลุบตามองปลายเท้าตัวเองที่ยื่นเลยขอบโต๊ะกลางห้อง บรรยากาศในคอนโดมันเงียบเหงาเหมือนปกตินั่นแหละ ทว่าช่วงนี้มันเงียบไปถึงข้างใน… มีเพียงเสียงขยับปีกกระพือเบาๆ ของเจ้านกแก้วตัวแสบ พร้อมกับฮัมเพลงไปตามประสา

“รักเค้าไหม รักเค้าไหม”

“เหอะ! อารมณ์ดีเหลือเกิน” ไม่ได้สนใจเลยว่าทาสอย่างผมจะเป็นจะตายยังไง

ทั้งที่คิดว่าผ่านมันมาได้แล้ว แต่พอเห็นภาพพวกมันยืนเคียงกันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกเดิมก็ไหลย้อนกลับมา

เหมือนคนที่เดินมาไกล แต่สุดท้ายก็หลงทาง…

กลับไปยืนอยู่ที่เดิม ที่ที่หัวใจยังเจ็บไม่ต่างจากวันแรก

อ๊อด…อ๊อด

เสียงกริ่งหน้าคอนโดดังขึ้นตรงเวลาเหมือนทุกวัน ราวกับมันถูกตั้งระบบไว้ให้ปลุกผมตอนเจ็ดโมงเช้าโดยเฉพาะ

เกือบสามสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น เด็กดื้อเจ้าของแววตาวาวๆ ก็อาสาทำหน้าที่เป็นคนคอยหอบหิ้วอาหารมาให้แทบจะทุกมื้อ ทั้งที่ผมบอกไปแล้วนะ ว่าไม่เป็นไร

…แต่เธอยังทำหูทวนลม

ความจริงผมไม่ได้รังเกียจหรือจะว่าอะไรน้องหรอกนะ แค่ไม่อยากให้ลำบากเกินความจำเป็น เพราะผมยังช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่หนักหนาขนาดนั้น แค่อาจช้ากว่าปกติ บางทีก็… มีหงุดหงิดนิดหน่อย ตามสไตล์คนป่วยทั่วไปนั่นแหละ

และในตอนที่ผมกำลังขยับตัว เจ้านกแก้วแสนรู้ก็กู่ร้องลั่นด้วยเสียงแหลมสูง

“ไอ้จ้าวมา ไอ้จ้าวมา…”

“ใช่ที่ไหนล่ะ พูดไปเรื่อย” ผมถอนหายใจแผ่วๆ ขณะลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวขาผ่านพื้นที่เงียบๆ ของทางเดินไปเปิดประตูให้ไรเดอร์ตัวน้อย…

“ข้าวมาแล้วค่า~” เธอส่งเสียงใสก่อนจะชูของขึ้นประกอบ พร้อมสายตาเป็นประกายที่… ผมแอบคิดว่า มันดูสว่างกว่าแสงแดดตอนเช้านิดหน่อย “วันนี้… รันขอเข้าไปเตรียมข้าวให้นะ”

“ไม่...”

“ไม่เป็นไรค่ะ รันเต็มใจ” และไม่ทันที่ผมจะขยับปากห้าม เธอก็สอดตัวผ่านประตูเข้ามา ราวกับคอนโดผมเป็นห้องของเธอเอง

เท้าเล็กๆ เดินตรงไปที่ครัวอย่างคุ้นทาง ขณะที่ผมยังยืนอ้าปากค้างอยู่ที่เดิม

นี่ผมควรตกใจกับอะไรดี ระหว่างความกล้าหน้ามึนของเธอ หรือความจริงที่ว่า… ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญเท่าที่ควรจะเป็น

เฮ้อ… เหมือนผมจะประเมินความดื้อของ ริรัณย์ ต่ำเกินไป ไม่น่าเปิดประตูให้เธอเลยจริงๆ

หมดกัน! ความสงบสุขที่เคยสั่งสมมา

ในใจก็ลังเลอยู่พักหนึ่งว่าจะยังไงต่อ แต่สุดท้ายก็เลือกปล่อยเลยตามเลย จะจับเธอโยนออกไปก็จะออกแนวรุนแรงเกินเหตุ

ผมถอนหายใจอีกเฮือก ดันประตูปิดและเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้อย่างคนหมดแรงจะขัดขืน

ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีคนคอยช่วยเหลือมันดีกว่า อีกอย่างมันก็สมเหตุสมผลแล้วที่เป็นน้อง

ตัวต้นเหตุก็ต้องรับชอบ… ผมใช้งานเธอมากไปซะที่ไหน

ข้าวต้มอุ่นๆ ถูกยกมาวางบนโต๊ะในไม่กี่นาทีต่อมา…

“เดี๋ยวไปเอาน้ำให้นะคะ”

“...” มือที่ยื่นออกไปหวังจะห้าม ก็ต้องดึงกลับมาไว้ที่เดิม เพราะเธอเล่นหมุนตัวหายเข้าไปในครัวโดยไม่เว้นช่องให้ผมได้พูดสักนิด

…ถามหน่อยเถอะ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบ้าน

แค่ ดื้อ ธรรมดาคงใช้กับเด็กแบบริรัณย์ไม่ได้ สงสัยต้องยกตำแหน่ง โคตรดื้อ ให้เลยแหละ

และในเวลาไม่นาน แก้วน้ำเย็นก็ตามมา พร้อมคำพูดที่ทำให้ผมชะงักนิดหน่อย

“นี่ค่ะ เฮียกินเยอะๆ นะคะ จะได้หายไวๆ”

เสียงใสๆ นั่นเป็นอะไรที่บางเบาและมันก็…

ดีมั้ง? ไม่รู้สิ บอกไม่ถูกเหมือนกัน

“ขอบคุณค่ะ” ตอบเรียบๆ ไปตามมารยาทแล้วก็ก้มหน้าลงกับโจ๊กในชาม

“วันนี้เฮียเลิกกี่โมงคะ เดี๋ยวรันรอรับกลับนะ เฮียจะได้ไม่ต้องเดิน”

หลายวันที่ผ่านมาผมปฏิเสธความหวังดีและการยื่นมือมาคอยช่วยเหลือจากเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็ยังถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าจะได้คำตอบเหมือนเดิม

“ไม่เป็นไร ช่วงนี้เฮียเลิกช้า”

หากแต่นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง มันคือความจริงที่เด็กนิติฯ ปีสี่อย่างพวกผม กำลังอยู่ในช่วงหัวหมุนเลย เคลียร์กิจกรรมรัวๆ รายงานก็กองเท่าภูเขา ไหนจะสอบไฟนอลอีก…

หลังผมพูดแบบนั้นออกไป คนฟังก็เงียบเลย ผมเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเล็กน้อย เห็นเธอเม้มปากเบาๆ นัยน์ตาก็หม่นแสงลงนิดๆ ทำหน้าอย่างกับตอนรอซื้อของโปรดแล้วมันหมดก่อนถึงคิวยังไงยังไง

แต่ก่อนที่บรรยากาศจะซึมมากไปกว่านี้…

“ไอ้จ้าว ไอ้จ้าว…”

เจ้านกตัวแสบก็แหกปากร้องแทรกขึ้นมา

เธอหันไปตามเสียงโดยอัตโนมัติ ดวงตาที่เหงาหง่อยเมื่อครู่ปรับเปลี่ยนเป็นประกายแวววับโดยพลัน

“หือ...เฮียไฟเลี้ยงนกด้วยเหรอคะ หนูขอไปเล่นได้ไหม”

…กูว่าแล้ว

ผมเตรียมจะพูดห้าม แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก เธอก็หันกลับมาส่งสายตาวิ้งๆ ประกอบท่าทางแบบลูกแมวใส่

รู้ใช่ไหมว่า ต่อให้ผมพูดว่า “ไม่”

ริรัณย์ก็จะอันตรธานตัวเองไปอยู่หน้ากรงอยู่ดี ผมเลยได้แต่พ่นลมเบาๆ

“...ได้ค่ะ แต่อย่าซนนะ ห้ามเปิดกรง”

“โอเคค่า…”

เธอรับปากผมอย่างดิบดี ก่อนจะกระโดดหย่องแหย่งไปหาคุณจุก และจัดการเปิดกรงทันที

เหอะ! ความหมายของคำว่า โอเคค่า คืออะไร เพิ่งพูดไปเมื่อกี้

จะมีวันที่เด็กนี่เลิกดื้อ แล้วทำตามคำบอกของผมไหม?

แผ่นหลังผมเอนพิงพนักเก้าอี้ พิงความวุ่นวายที่อีกนิดจะถึงขั้นปวดประสาท และพิง… ความรู้สึกบางอย่างที่แผ่กระจายอย่างหาสาเหตุไม่ได้

ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะรำคาญหรือยิ้มดี?

แต่ปรากฏว่ามันเผลอยิ้มไปแล้ว… ผมขยับแว่นเล็กน้อย แสร้งกระแอมเบาๆ แล้วหันไปทางอื่นแทน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (2/2)

    Part’s Fiฟึบ!ตำรากฎหมายเล่มหนาถูกปิดเสียงดัง ผมถอนหายใจแรงอย่างคนที่สมองเริ่มตื้อ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นไปสบกับ สายลม ไอ้หนุ่มสถาปัตย์สายติสต์ตัวพ่อที่นั่งเท้าคางมองอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนฝั่งตรงข้ามมันจ้องผมมาเกือบครึ่งชั่วโมง… ด้วยสีหน้าราวกับกำลังจับพิรุธผู้ต้องหา“มีอะไรก็พูดมาดิ จ้องอยู่ได้ กูท้องแล้วมั้งเนี่ย”ความจริงผมไม่ได้อารมณ์ดีถึงขั้นจะเล่นมุกออกหรอกนะ แต่ที่พูดก็เพราะรำคาญ…ให้มันถามซะ… จะได้จบๆ อยากไล่ให้มันไปพ้นๆ และแน่นอนว่าคนที่ไร้ความเกรงใจอย่างมันไม่อ้อมค้อม ยิงตรงเข้าเป้าแบบเต็มๆ“มึงกับไอ้หมอกยังไม่เคลียร์กันเหรอ”คำถามมันไม่ได้หนักหนาอะไร แต่กลับเหมือนมีใครสักคนโยนหินลงไปในบ่อน้ำลึกที่พยายามสงบ… และมันกระเพื่อมขึ้นมาอีกครั้ง“เอาจริงๆ นะ” ผมกระตุกยิ้มฝืนๆ “ในกลุ่มเนี่ย มีแค่ไอ้พายุตัวเดียวกูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว มึงปล่อยให้ความขี้เสือกเป็นหน้าที่ของมันคนเดียวไม่ได้เหรอ”“เอ้า! ไอ้สัส… แล้วให้กูพูดทำเพื่อ?”ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเจาะจงตรงประเด็นขนาดนี้ผมส่ายหน้าน้อยๆ พลางพ่นลมยาวเหยียด ราวกับจะยกอะไรทั้งหลายแหล่ที่อัดอั้นอยู่ข้างในออกมาให้หมด แต่มันก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน…

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (1/2)

    กริ๊ง…กริ๊ง!เสียงนาฬิกาปลุกแผดลั่นราวกับไซเรนเตือนภัยในสนามรบ ทำฉันสะดุ้งเฮือกจนเผลอปัดไอโฟนที่แหกปากน่ารำคาญข้างหูแทบร่วงพื้น ก่อนจะนิ่งอยู่สักพักเพื่อรวบรวมสติ แล้วถึงพลิกตัวโก่งก้นขึ้นนั่งเปลือกตาค่อยๆ เปิดรับแสงอ่อนที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาวันใหม่…ที่น่าจะสดใสถ้าไม่นับตาแพนด้าและวิญญาณที่ยังล่องลอยอยู่กลางมิติความฝันอะนะฉันถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ขณะลากร่างโงนเงนลงไปยืนข้างเตียงปกติหากมีเรียนเช้าก็จะตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่ง แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันต้องลุกก่อนตั้งหนึ่งชั่วโมง นี่มันไม่ต่างจากการเฉือนหัวใจคนรักการนอนเลยว่าไหม?แต่ทำไงได้ ‘พันธสัญญาปีศาจ’ ที่ให้ไว้กับเฮียพายุยังค้างคาอยู่ ฉันต้องไปซื้ออาหารเช้าให้ เฮียไฟ ผู้ซึ่งไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่ ทว่าดันรับเคราะห์หนักสุดและแน่นอน… ไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่า ‘ไร้ความรับผิดชอบ’ ถึงทุกวันจะไม่เคยได้คำชื่นชมกลับมาเลยก็ตามไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเช้าเกินไป หรือเขาแค่ไม่อยากเปิดประตูให้นั่นแหละ… จะอะไรก็ช่าง ฉันแค่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการเอาของบำรุงทุกอย่างไปแขวนไว้หน้าประตู พร้อมกับแปะโน้ตที่มีข้อความว่า‘อาหารเช้ามาส่งแล

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   02 : Lex Causae [กฎของเหตุที่ส่งผล] (2/2)

    “...ชำระแบบไหนดีคะ”เสียงสุภาพจากคุณพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ดังขึ้น ช่วยดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เปลือกตาฉันกะพริบปริบๆ ก่อนจะรีบควานหามือถือที่หน้าจอแตกร้าวจากอุบัติเหตุนั่นออกมาสแกนจ่าย“โอนค่ะ”ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเฮียพายุเดินมาหยุดยืนข้างๆ พอดี“เท่าไหร่อะ?”“ไม่เป็นไรค่ะ รันจ่ายแล้ว”เขาพยักหน้าเบาๆ แต่สายตา… กลับเหลือกขึ้นมองเพดานอย่างใช้ความคิดเงียบๆ ผ่านไปไม่ถึงนาที ริมฝีปากหยักก็ขยับถามอีกครั้ง“รันอยู่คอนโดบีแอลใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”เพราะพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปดูบริษัทขนส่งของครอบครัวที่เบลเยียมบ่อยครั้ง ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่แทบไม่ได้กลับไทยเลย ซ้ำยังมีแพลนให้ฉันไปเรียนต่อที่นู่นด้วยนะ ดีที่ได้ญาติผู้ใหญ่หลายคนช่วยออกตัวแทน ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงกลายเป็นเด็กนอกไปแล้วก่อนหน้านี้ฉันอยู่กับปู่ย่า บางวันก็สลับไปนอนบ้านยาย แต่พอจบม.ปลาย ฉันก็เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัว เลยเลือกคอนโดใกล้มหา’ลัยไว้เป็นทางออก…แม้สุดท้ายจะต้องขอร้องให้เม็ดทราย เพื่อนซี้สุดที่รัก มาอยู่เป็นรูมเมตเพื่อคลายความห่วงของผู้ใหญ่ก็ตามส่วนอีกทีมที่ค่อยซัปพอร์ต ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างราวกับฉันเป็นเจ้าหญิงน้อ

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   02 : Lex Causae [กฎของเหตุที่ส่งผล] (1/2)

    Part’s Rirunฟู่ว์…ทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินปิดลง ฉันก็ปล่อยลมหายใจยาวอย่างคนที่อั้นมานาน รู้สึกได้เลยว่าอวัยวะที่อยู่ใต้ฝ่ามือมันเต้นแรงผิดปกติยิ่งหลับตา ภาพจำก็ยิ่งชัดขึ้น ริมฝีปากของเขา... ไออุ่นที่แนบชิดเพียงชั่วอึดใจ กลับทิ้งร่องรอยไว้มากกว่าที่คิดถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น… ไม่ใช่เฮียไฟ เราจะรู้สึกแบบนี้ไหมนะฉันสะบัดหน้าแรงๆ พยายามเขย่าความคิดบ้าๆ ออกไป ไม่สิ! ไม่ควรคิดแบบนี้… มันเป็นแค่อุบัติเหตุ และมันต้องเป็นแค่นั้น!หลังมือถูกยกขึ้นมาถูปากซ้ำไปซ้ำมา ด้วยหวังว่าทุกอย่างอาจจางลง แต่มันดันกลายเป็นยิ่งหลอมรวมสิ่งเหล่านั้นเข้ามาในความรู้สึกของฉันทีละนิดสามชั่วโมงก่อน…เสียงดนตรีและแสงไฟสลัวช่วยขับบรรยากาศในร้านนั่งชิลยามค่ำคืนให้ครึกครื้น แม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกสนุกเท่าที่ควรก็ตามเม็ดทราย เพื่อนสาวคนสนิทในชุดสีเข้มสุดเซ็กซี่กำลังโยกสะโพกพลิ้วไหวอย่างเอ็นจอย ไม่แคร์สายตาใคร ส่วนอีกคนที่นั่งตรงข้ามคือ นิกซ์ หนุ่มหล่อดีกรีทายาทห้างทองตระกูลดังประจำจังหวัด ซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการชงเครื่องดื่มราวกับผสมสีในถาดหลุมเราสามคนโตมาด้วยกันตั้งแต่ประถม แม้ว่าไลฟ์สไตล์จะแตกต่างสุดขั้ว แต่ก็ม

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   01 : Lex Talionis [กฎแห่งโชคชะตาที่เล่นตลก] (2/2)

    ติ๊ด … ติ๊ด~เสียงแรกที่เจาะเข้าโสตประสาทหลังฟื้นตัวก็ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่แล้วเปลือกตาผมกะพริบถี่ๆ เพื่อดึงตัวเองออกจากห้วงว่าง แต่แสงไฟสว่างจ้าบนเพดานกลับสาดเข้ามาแทน และมันยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองลอยเคว้งอยู่กลางทะเลของแสงสีขาว ที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและแอมโมเนียจนแสบจมูก เสียงกระซิบเบาๆ ของพยาบาล ตอกย้ำว่าผมไม่ได้ฝันไป และกำลังติดอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเวทนาแบบสุดๆอึก!แค่ขยับตัวนิดเดียว ความปวดแปลบก็แล่นจากหัวไล่ลงมาถึงบ่า จนผมต้องนิ่วหน้า ก่อนจะเห็นว่าข้อมือซ้ายถูกพันด้วยผ้ายืดหนาแน่นทุกอย่างมันเตือนว่ามีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นก่อนหน้า…แต่ตอนนี้ สมองกับร่างกายยังเชื่อมกันไม่สมบูรณ์ การปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเลยค่อนข้างยากสิ่งสุดท้ายที่จำได้คือเงาร่างของใครบางคนล้มลงมาทับ เสียงลมหายใจแรงๆ และ...มือผมเลื่อนแตะปากโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกปวดหนึบยังคงอยู่ มันไม่ใช่แค่สัมผัส แต่เป็นการกระแทกเต็มแรง“...แม่ง”เจ็บใจไม่พอ ยังมาเจ็บตัวอีกพระเจ้าไม่คิดจะเข้าข้างกูบ้างเลยรึไง?บัดซบสัส! เจอแบบนี้เมาแค่ไหน ก็สร่างเหอะ…“ไงครับ พ่อหนุ่มนิติฯ คนเก่ง”เสียงน่ารำคาญที่ดังม

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   01 : Lex Talionis [กฎแห่งโชคชะตาที่เล่นตลก] (1/2)

    เห็นเพื่อนรักกัน มันก็น่ายินดี…ดีก็เหี้ยละ!แค่ ‘ยิ้มปลอมๆ’ ผมยังฝืนทำไม่ได้เลยปึก!แก้วในมือถูกกระแทกลงโต๊ะเต็มแรง เสียงดังจนคนรอบข้างหันขวับเป็นตาเดียว …แต่ใครสนสายตาผมยังตรึงอยู่กับขวดเหล้าเรียงรายหลังเคาน์เตอร์บาร์ แสงไฟส้มอมแดงกระทบกระจก สะท้อนวูบวาบไม่ต่างเปลวเพลิงในใจที่กำลังเผาไหม้ทุกความรู้สึกให้กลายเป็นเถ้าถ่านตอนแรกก็คิดว่าไอ้น้ำบัดซบที่กลืนลงไป คงช่วยเบลอสมองให้ด้านชา หรืออย่างน้อยก็ลดทอนสติสัมปชัญญะให้พอหลุดออกจากความจริงได้บ้างแต่ไม่ใช่…ยิ่งดื่ม แม่งยิ่งชัด!เหมือนมีใครเอาฟิล์มเก่ามาฉายซ้ำ วนลูปไม่จบไม่สิ้นไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ หรือต่อให้ผมหนีไปไกลแค่ไหน ภาพคนสองคนกอดกันกลางคลับในเช้าวันนั้น มันก็ยังตามหลอกหลอนราวกับฝันร้ายเสียงเบสหนักๆ ที่อัดกระหึ่มในหัว ควรจะกลบทุกความคิด ทว่ากลับทำตรงกันข้าม ทุกโน้ต ทุกจังหวะ ดันย้ำเตือนหลายสิ่งที่ผมไม่อยากจำ จนเจ็บไปทั้งอกถ้าหลายปีก่อนไอ้หมอกไม่ต้องย้ายไปนอร์เวย์…บางทีผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มอย่างจันทร์เจ้า คงไม่ซบหน้าร้องไห้บนไหล่ผมเหมือนโลกทั้งใบพังทลาย‘ไฟ… หมอกมันไปแล้ว’และผมก็คงไม่ต้องมารับรู้ว่าใคร… ที่อยู่ในใจเธอมา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status