LOGINคนอย่างฉันถ้าได้ชอบก็คือรุกใส่ไม่มีถอย บางทีเขาก็ดูมีใจแต่ทำไมถึงปฏิเสธความรักของฉันตั้งสองครั้งกันล่ะแล้วถ้ามีครั้งที่สามฉันควรพอหรือยัง #หลงใหลไซซี (ไม่มีนอกกายนอกใจ)
View More⚠️Trigger Warning⚠️
นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายและอาจกระทบกระเทือนจิตใจมีฉากการทำร้ายร่างกายใช้ความรุนแรงและมีการบรรยายฉากอีโรติก 🔞ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
INTRO
คุณเคยชอบใครมาก ๆ ไหม แบบว่าเจอแล้วปิ๊งเลยและไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ฉันเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกและไร้สาระมาก กระทั่งฉันได้เจอกับเขา
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเสาในผับ…
เรื่องมันเริ่มจากวันนั้น ฉันพึ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อมาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา โดยปกติจะใช้ชีวิตที่ฮ่องกง ช่วงปิดเทอมถึงมาไทยเพราะบรรดาญาติคนอื่นปักหลักที่ไทยหมด รวมถึงพี่ชายแท้ ๆ อย่างเฮียนักรบด้วย ส่วนฉันอยู่กับป๊าและหม่ามี้ที่ดูแลบริษัทสาขาฮ่องกง บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่โดยมีคุณปู่เตโชคือผู้อาวุโสที่สุด
รองลงมาคือลูกชายของท่านสามคนหรือลุงใหญ่ พ่อเฮียติณณ์เฮียต้าร์ ลุงรองป๊าซินเซียเฮียซันเฮียโซ่ และลูกชายคนสุดท้องคือป๊าฉันเอง เป็นยังไงบ้านเราใหญ่มากไหม
กลับเข้าเรื่องต่อเถอะ นั่นแหละแม้ว่าฉันจะดูแรงแต่ไม่เคยมีแฟนเลยเพราะไม่มีใครถูกใจ แต่เจอเขาคนนั้นแล้วมันกระแทกใจมาก แม้แต่ซินเซียที่เป็นเพื่อนสนิทและญาติยังเข้าใจว่าเพราะเมาแต่ไม่ใช่เลย เป็นเพราะเขาหล่อมากต่างหาก
แม่ขาหนูรักเขา
“ทำหน้าอะไรของแก”
เสียงหวานใสแต่ไร้อารมณ์เอ่ยขึ้นมา ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อเทอมที่แล้ว ก่อนจะเลื่อนสายตาไปสบกับนัยน์ตาหวานซึ้งของเพื่อนสนิท และอีกฐานะคือลูกพี่ลูกน้องอย่างซินเซีย
“คิดถึงพี่ไนต์”
และคำตอบของฉันก็ทำให้เพื่อนกลอกตามองบนพร้อมสีหน้าเอือมระอา แน่สิตัวเองได้แฟนเป็นหนุ่มฮอตอันดับสาม ผู้ชายที่มาแรงและฮอตที่สุดในมหา’ลัย จะไปเข้าใจหัวอกคนโสดที่อยู่ในโหมดแอบรักได้ยังไง ชิ!
“พี่ไนต์คงจามแล้วตอนนี้ เพราะแกเวิ่นเว้อหาพี่เขาตลอดทั้งวัน” ซินเซียเอานิ้วจิ้มจมูกฉันก่อนจะหันไปเก็บไอแพดลงในกระเป๋า
“แกไม่เคยคิดถึงพี่เสือทั้งวันบ้างเหรอ?”
“แกอาการหนักมาก ลองไปเช็กสมองดูไหม...”
“เช็กทำไมอะ”
“อ้าว! เผื่อเป็นโรคคลั่งรักไงเสี่ยวซี...ฮ่า ๆ”
“บอกว่าอย่าเรียกแบบนี้ไงหมวยน้อย”
“ก็แกทำตาเยิ้มทุกครั้งที่พูดถึงพี่เขา”
“ก็ชอบไง...ชอบเขามาก ๆ”
“จีบพี่ไนต์มาตั้งแต่เทอมก่อน ยังไม่ท้ออีกเหรอถามจริง พี่เขานิ่งมากเลยนะ ดูไม่หือไม่อือ”
ซินเซียเท้าคางมองมาที่ฉัน ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาฉันใจสั่นแต่ยังปั้นหน้ายิ้ม ชีวิตนี้ไม่เคยจีบใครนี่แม้ว่าจะสวยเลิศเชิดขนาดนี้ แต่เอาเข้าจริงเจอพี่เขาก็ยังประหม่าทุกครั้ง
ออกตัวแรงไปอย่างนั้นแหละ!
“ฉันนี่ไงจะละลายใจเขาเอง พี่ไนต์ต้องเป็นของฉันเท่านั้น คนอื่นห้ามยุ่ง!” อันนี้ไม่ได้พูดเล่น ชะนีหน้าไหนก็ห้ามยุ่งเด็ดขาด
“ชอบเขามากขนาดนั้น?”
“โอ๊ยแกจะถามอะไรนักหนา ชอบก็คือชอบไง ทำขนาดนี้ยังจะถามอีก”
“ไม่อะ” เพื่อนสายคนสวยส่ายหัว จนผมสีบลอนด์ยาวลอนสลวยปลิวไปมา
“...”
“นี่ต้องไม่ใช่ไซซีของฉันแน่ ๆ”
“กรี๊ด ทำอะไร!!”
ฉันยกมือขึ้นปัดป้องมือของเพื่อนที่ยื่นมาบีบแก้มซ้ายขวาเป็นพัลวันอย่างไม่เข้าใจ ช่วงนี้จิตใจยิ่งห่อเหี่ยวเพราะไม่ได้เจอหน้าพี่ไนต์ แต่เพื่อนก็เอาแต่ถามอะไรที่ไม่เข้าใจ อารมณ์เลยจะสวิงนิดหนึ่งแหละ
“บีบแก้มหรือจะให้ตบเตือนสติดี”
“แก...จะตบฉันทำไม?”
“ก็แกเอาแต่ทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองนี่ วิ่งตามเขาต้อย ๆ เขาเคยสนใจไหม ถามจริง แล้วพยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองมันเหนื่อยไหม...แต่ฉันเหนื่อยแทน”
“ก็ฉัน...” เออยอมรับก็ได้ว่าอยากทำให้เขาประทับใจ แม้จะชอบกีดกันผู้หญิงคนอื่นแต่ต่อหน้าพี่ไนต์ฉันพยายามทำตัวเรียบร้อยน่ารักอยู่
“ยอมรับมาว่าที่ทำมันฝืนตัวเอง”
“เออ! ยอมรับก็ได้ แล้วจะให้ทำยังไง อยากให้พี่เขาชอบ” ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย
“ก็เป็นตัวของตัวเองไปเลยสิ!” ฉันเบิกตากว้างเมื่อซินเซียพูดจบ จะให้เผยนิสัยตัวเองต่อหน้าคนที่ชอบเหรอ แค่คิดก็สยองแล้วนะ
“ไม่เอา”
“แล้วแกรู้ได้ไงว่าทำตัวเรียบร้อยอ่อนหวานเขาจะชอบ เผยนิสัยไปเลย ถ้าเขาจะชอบก็ต้องชอบที่เราเป็นตัวเอง เห็นแกวิ่งตามเขาเหมือนลูกเป็ดแล้วรับไม่ได้”
“พูดดีนะยะ”
“แล้วจะทำไม่ทำ”
“เอ่อ...” เร่งจังขอคิดก่อนสิ
“ถ้าที่ทำอยู่ตอนนี้เขายังเฉย แกต้องฉีดยาแรงแล้วนะ เอาแบบตัวตนของตัวเองสู้ไปจะได้รู้ว่าเขาชอบไม่ชอบ”
ซินเซียกอดอกยกยิ้ม ทำให้ไซซีกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิด ก่อนจะทบทวน ที่ผ่านมาก็พยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองมานาน จนตอนนี้เทอมสองแล้วเขายังไม่ใจอ่อน
“นั่นสินะ ในเมื่ออ่อนหวานไม่ชอบก็ต้องเจอของแรงแล้วแหละ”
ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มร้ายเมื่อนึกถึงคนที่ชอบนิ่งเฉยอยู่เป็นประจำ คอยดูเถอะถ้าเจอเวอร์ชันยัยตัวร้ายเขาจะทำหน้ายังไง ซีจะรุกจริงจังแล้วนะ พี่เตรียมรับมือเลย!
“ทำหน้าแบบนี้ค่อยสมเป็นแกหน่อย!”
“ขอบใจที่เตือน ฉันมัวแต่ไปทำตัวน่ารักใส่เขามาทั้งเทอม แย่จังแบบนี้เสียคะแนนหมดแล้วมั้ง”
“เอาน่าคนเราเปลี่ยนได้ตลอดแหละ แต่แกต้องห้ามใจอ่อนนะต้องเป็นตัวของตัวเองท่องไว้”
“รู้แล้ว...จะเป็นตัวของตัวเอง จะตะครุบพี่ไนต์ให้ไปไหนไม่รอดเลย” เธอพูดจริงนะถ้าได้ชอบแล้วเธอไม่มีถอย แต่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีกันเล็กน้อย
ช็อปวิศวกรรมโยธา
“ฮัดชิ่ว!”
“จามขนาดนี้มึงไปแดกยาเถอะ”
ร่างสูงจามเสียงดังขึ้นอีกครั้งจนนักรบต้องวางเอกสารการเรียนลง ก่อนจะบอกเพื่อนให้ไปกินยาแต่โดนต้าร์ขัดขึ้นมาก่อน
“กูว่าต้องมีคนนินทามันอยู่แน่ ๆ จามสองสามครั้งติดเขาอาจจะด่าพ่อมันอยู่ก็ได้” ต้าร์หัวเราะก่อนจะไหวไหล่เดินออกจากช็อปไปเพราะมีนัดกับพินอิน แฟนสาวรุ่นน้อง ทำให้ทั้งห้องเหลือแค่ไนต์ที่นั่งจามจมูกแดง นักรบที่กำลังลุกเดินออกจากห้อง และเพทาย
“ไนต์ กูกลับพร้อมมึงนะ”
“อืม”
ร่างสูงที่จามจนเสร็จครางรับในลำคอก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินออกจากช็อปพร้อมเพื่อน ในกลุ่มพวกเขาปกติจะมีกันเจ็ดคนแต่อีกสองคนเรียนเครื่องกล ส่วนโยธาก็มีเขา เพทาย ต้าร์คนที่ปากหมา นักรบ และโซ่
วันนี้เขาจามบ่อยผิดปกติสงสัยจะไม่สบาย เมื่ออาทิตย์ก่อนมีธุระต้องบินไปอเมริกา วันนี้ลงเครื่องเขาก็มาเรียนทันที แต่ร่างกายก็ปกติดีไม่ได้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนคนมีไข้เลย
เราเดินออกมาจนถึงหน้าช็อปโยธา วันนี้กว่าจะเลิกอาจารย์ปล่อยช้าจนเหลือแค่พวกเขาที่ต้องทำแล็บส่ง กว่าจะเสร็จก็ปาไปห้าโมงครึ่งพอดี
“อ้าวนั่น...น้องไซซีนี่หว่า” เขาชะงักก่อนจะปรายตามองตามเสียงของเพทาย
ร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูป ใบหน้าสวยสะกดใจกำลังเดินผ่านมาทางนี้ เธอเป็นน้องสาวของนักรบ เขาทำเพียงมองเธอนิ่ง ๆ เหมือนอย่างเคย
แต่เธอกลับหันมามองเพียงเล็กน้อย ฉีกยิ้มให้เขาและเพทาย ก่อนจะเดินเลยผ่านไปจนเขาเผลอขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ที่จริงโดยปกติก็ควรจะเป็นแบบนี้ ฐานะเราคือเพื่อนพี่ชายกับน้องสาวเพื่อน
ก็ควรเป็นแบบนั้น!
แต่หลายเดือนที่ผ่านมาเธอแสดงออกชัดเจนว่าคิดยังไงกับเขา ตามติด เอาใจ และกีดกันผู้หญิงคนอื่นออกจากเขา นั่นคือสิ่งที่เป็นตลอดหลายเดือน แต่วันนี้เธอออกจะแปลกไปสักหน่อย
“วันนี้น้องไซซีไม่มาอ้อนมึงเหรอวะ”
เพทายทำหน้าสงสัยก่อนจะใช้ศอกสะกิดแขนเขาไม่หยุด เมื่อเห็นไซซีเดินไปเลยแบบไม่หันหลังกลับ ซึ่งมันแปลกจากปกติที่เป็น
“ก็ดีแล้ว”
ไนต์ตอบเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะสำหรับเขาไซซีออกจะเป็นตัววุ่นวายในชีวิตเขาอยู่บ้าง ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร แต่เขาก็ถนอมน้ำใจเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นในฐานะน้องสาวของเพื่อน
“มึงนี่มันเย็นชากว่าไอ้โซ่อีกนะ”
“จิตใจด้านชา หยาบกระด้างสัด!”
เพทายเท้าเอวบ่นเขาไม่หยุด จนกระทั่งเราเดินมาถึงลานจอดรถและเห็นแผ่นหลังเล็กบางแสนคุ้นตาของไซซี กำลังเดินไปกับรุ่นน้องปีหนึ่ง ได้ยินว่าเป็นเดือนมหา’ลัยปีนี้
“ดาวมหา’ลัยเลยนะเว้ย!!”
“แล้วไง?”
“มึงไม่สนใจจริงดิ...เดี๋ยวหมาคาบไปแดกนะ”
“สวยแล้วไงไม่ใช่สเป็กกู” ไนต์คิดอยู่สักพักก่อนจะตอบออกมาเพื่อคลายความสงสัยให้เพื่อน
“แล้วสเป็กมึงเป็นแบบไหน ตั้งแต่รู้จักกันมากูไม่เห็นว่ามึงจะสนใจใครเป็นพิเศษ ดีหน่อยก็น้องไซซี กูก็นึกว่ามีใจ”
“น้องเพื่อน” ใช่ น้องเพื่อนก็เหมือนน้องเรา
“ระวังได้เป็นพี่น้องท้องชนกัน” เพทายหรี่ตายกยิ้ม
“ไม่มีทาง!” อันนี้เขาตอบปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มีทางแน่นอน เขาไม่ได้ชอบเธอและเธอไม่ใช่สเป็กเขาด้วย
“กูจะคอยดู...แต่ระวังกลืนน้ำลายตัวเองนะ”
“หึ...มึงคอยดูเลย!” ไนต์ยกยิ้มก่อนจะสตาร์ตรถและขับออกจากมหา’ลัย มุ่งหน้าสู่คอนโดที่พวกเขาอาศัยอยู่ โดยที่ระหว่างทางออกจากคณะ นัยน์ตาคมมองผ่านกระจกส่องหลังที่สะท้อนภาพคนสองคนที่กำลังเดินเคียงข้างกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ด้วยสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์และความรู้สึก
เจ้าสมุทร Talk ผมเกิดและเติบโตในตระกูลมาเฟีย ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องแข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ มีอำนาจ และห้ามอ่อนแอตอนเด็กคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านที่ร้อนราวกับไฟ มีเพียงผู้หญิงใจดีคนหนึ่งคอยมาดูแลและเล่นกับผม พ่อให้เรียกเธอว่า ‘แม่เล็ก’ ซึ่งผมในวัยเด็กก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม่เล็กเป็นผู้หญิงจิตใจดี ท่านดูแลผมจนกระทั่งอายุเจ็ดขวบ แม่อีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาและยื้อแย่งผมไปดูแลแม่คนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากแม่อีกคนโดยสิ้นเชิง เพราะท่านทั้งบังคับ เข้มงวด ดุด่าและกดดัน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยไปขอร้องพ่อว่าต้องการอยู่กับแม่เล็ก แต่คำตอบของท่านทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน“แม่เล็กกับน้องชายจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เล็กต้องไปจากผม แล้วน้องชายคือใครทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากเพราะหลังจากกลับมาถึงห้อง แม่ก็ยืนกอดอกรออยู่ด้วยสีหน้าดุดัน ไม่รู้อะไรทำให้ผมเอ่ยปากถามแม่ออกไป“แม่เคยรักหมุดบ้างไหม”ไม่รอให้แม่ตอบอะไรผมก็รู้คำตอบของท่านจากแววตาร้ายกาจนั้นแล้ว แม่มักใช้มองผมอยู่ตลอดเวลา มองเหมือนกับว่า ‘ไม่ใช่ลูก’ ทำเหมือนกับผมเ
เสียงถอนหายใจของซินเซียทำให้ฉันหันไปมองเพื่อน และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหม่อลอย“พวกนั้นก็พึ่งแต่งงานไปนี่เอง มีแต่เราที่แต่งงานจนมีลูกก่อนพวกเพื่อน”ฉันนึกไปถึงกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างเรย์ และฝาแฝดอิลแอล หลังเรียนจบแต่ละคนก็ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านวิศวกรแล้วค่อยกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนครองตัวเป็นโสดกันนานมากแต่สาว ๆ ไม่เคยจะขาดมือ จนเมื่อต้นปีนี้เรย์และอิลก็ทยอยแต่งงาน ส่วนแอลได้ยินว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง“นี่ถ้าไอ้สายไม่เลว บางทีความสัมพันธ์ของเพื่อนอาจจะอยู่ยาวนานกว่านี้ก็ได้นะ”เพื่อนอีกคนที่ได้รู้จักเมื่อตอนเข้ามหา’ลัยก็คือสายฟ้า แน่นอนว่าที่กล้าเอ่ยชื่อออกมาเพราะซินเซียไม่ได้อะไรกับหมอนั่นแล้ว ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดถึง ซินเซียก็ไม่รู้สึกอะไร“อืม” สาวสวยผมบลอนด์ครางรับในลำคอก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แม้จะเจอกันบ่อยกว่าคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาได้คุยกันแบบนี้เพราะลูก ๆ ก็ซนกันมาก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายแก่ จีซัสและเซริมก็วิ่งเข้ามาในห้อง“หม่ามี้ จีมาแล้ว”จีซัสวิ่งเข้ามาในห้องตามด้วยเซริมที่ถือหมวกกันน็อกขนาดเล็กไว้ในอ
ร่างสูงกางแขนออกเล็กน้อยเป็นเชิงให้ภรรยาสาวสวยเข้ามาช่วยแต่งตัว เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนอกแกร่ง และเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนน่าหวาดเสียว“พี่จะให้ซีช่วยจริง ๆ เหรอคะ”“...” ไนต์กัดฟันแน่นเมื่อร่างบางเริ่มออกลายซุกซน“ถ้าช่วยจะนานนะ”“ไม่ช่วยมีตายก่อนพอดี เอาหน่อยถือว่ากินข้าวเช้า”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบาง ก่อนจะตวัดแขนโอบรัดร่างเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน และเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่ลืมล็อกประตู“ล็อกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนขัดจังหวะ”เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาก็จัดการอุ้มเธอลงอ่างพร้อมปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดออก จนเผยเรือนร่างบอบบางขาวผ่องอยู่ตรงหน้า“จ้องนานไปแล้ว จะทำไหมคะ?”ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะขยับสะโพกนั่งคร่อมบนตักแกร่งภายในอ่าง แขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอแกร่งไว้ก่อนจะกดให้เขาโน้มหน้าลงมา“ไม่ทำตอนนี้ พี่ได้ขาดใจตายแน่”จบคำนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากัน ต่างฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ เล้าโลมคลอเคลียกันไม่ห่าง จนพายุสวาทโหมกระหน่ำ แก่นกายแข็งร้อนตอกตรึงใส่ร่องสวาทไม่ยั้ง สร้างความรัญจวนใจให้เธอเป็นอย่างมาก แรงกระแทกทำให้น้ำในอ่างสาดกระเซ็นออกมาตามพื้นเ
5 ปีผ่านไป ฉันนั่งมองภาพงานแต่งงานของตัวเองและพี่ไนต์ที่ผ่านมาแล้วห้าปี ตอนนี้เรามีเรือนหออยู่ระหว่างคอนโดเก่าของเขาและคฤหาสน์ชวัลกร แน่นอนว่าที่คฤหาสน์คุณปู่ก็สร้างบ้านให้อีกหลังเพราะคิดถึงหลาน เวลากลับมาจะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากงานแต่งงานเราทั้งคู่ก็ไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเกือบเดือนเลยล่ะ ทุกที่ที่อยากไปเขาไม่เคยอิดออดและยินยอมพาไป นอกจากกิจกรรมที่โลดโผนเพราะฉันยังท้องอยู่หมับ“ทำอะไรอยู่เหรอ”แรงกอดรัดจากข้างหลังมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู ทำให้ฉันเผลอย่นคอหนีคนร้ายกาจ เขาชอบมาคลอเคลียฉันเหมือนกับแมวจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก่อนนี่ตั้งท่ารังเกียจกันเหลือเกิน“ซีกำลังดูรูปภาพในงานแต่งของเราค่ะ นี่! ดูสิมีแก๊งของพี่ครบทุกคนเลย หล่อ ๆ ทั้งนั้น”ฉันชี้ไปที่รูปถ่ายครบทั้งแก๊ง ทุกคนหล่อเหมือนออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบเลยละ ตำแหน่งหนุ่มฮอตคงไม่มีใครมาโค่นลงได้ง่าย ๆ“ไหน ไม่เห็นจะหล่อเลย” เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หล่อสิ โดยเฉพาะคนนี้ หล่อที่สุดในใจของซี”พูดแล้วก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคม เมื่อเอ่ยชมเขาแล้วเลยอยากดูปฏิกิริยา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันเผลอหัวเราะคิกคัก พี่ไนต์ห
กาแฟสวดภาวนาเสียงเบา เธออยากแต่งงานจะแย่แต่ไม่มีทีท่าว่านักรบจะขอเธอแต่งงานเลย จนเธอเรียนจะจบอยู่แล้ว!“ได้แน่นอนค่ะ แล้วพี่ควีนจะลุ้นด้วยไหม”“แต่งไปแล้วไง” ควีนฉีกยิ้มให้ซินเซียจนอีกฝ่ายตาพร่าเมื่อเจอรอยยิ้มหวานหยด“แต่งอีกก็ได้นี่ คิกคิก”“รองานพวกเธอดีกว่า”ควีนพยักพเยิดไปทางกาแฟ พินอิน และซินเซียแทน แต่สาวสวยผมบลอนด์ยกมือปฏิเสธพัลวันเพราะอาจยังไม่พร้อมเท่าไร ก่อนจะฉุกคิดถึงใครบางคน“คิดถึงเจ้เมษามาก” ซินเซียเอ่ยขึ้นมา“นั่นสิ ถ้าไม่ติดสอบเจ้แกมาแล้ว”อิงปิงเอ่ยตอบซินเซียก่อนจะหลบมุมไปยืนข้างมิกิ เพราะเธอไม่มีแฟนเลยไม่รู้จะรอรับช่อดอกไม้ไปทำไม แต่อยู่ ๆ อิงปิงพลันขนลุกซู่เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่“จะโยนแล้วนะคะ”เสียงหวานใสของไซซีเอ่ยขึ้นมาทำให้อิงปิงสะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงนับถอยหลังโยนช่อดอกไม้ เพราะสะบัดหัวแรงไปเลยเซไปชนกาแฟที่ยืนอยู่ด้านข้าง และอีกฝ่ายก็ไปชนมิกิอีกทอดเหมือนโดมิโนล้ม3…2…1…“0.0”ใบหน้าสวยน่ารักเบิกตากว้างเมื่อช่อดอกไม้แสนสวยตกลงมาใส่อกเธออย่างแรง ด้วยความตกใจเลยคว้าไว้ รู้ตัวอีกทีทั้งซินเซีย พี่กาแฟ เจ๊อิงปิง พี่พินอ
เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงคลาสสิกดังคลอไปทั่วทั้งงาน ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ถูกจัดตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ฉากหลังคือทะเลสาบภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ในพื้นที่ร้อยไร่ แขกในงานแบ่งแยกที่นั่งจนเต็ม แม้คนร่วมงานไม่มากเพราะอยากจัดส่วนตัวแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเสียงเพลงต้อนรับขบวนเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี นำโดยเด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารักสองคน หนึ่งถือพระคัมภีร์และหนึ่งโปรยดอกไม้ ตามมาด้วยบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งชุดเดรสสีชมพูอ่อนเรียบง่ายชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ใบหน้าเรียบนิ่งทำให้หลายคนเดาไม่ออกว่าเขาอยากแต่งจริงไหม จนกระทั่งนัยน์ตาคมกริบมองเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานเดินควงแขนบิดาเข้ามา มุมปากของเจ้าบ่าวยกขึ้นและประกายตายินดีอย่างปิดไม่มิดเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบลูกไม้ฟูฟ่อง สวยหวานจนยากจะบรรยาย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน ผมสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นด้วยผ้าลูกไม้เข้าชุดคาดที่ผมอีกทีเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสบตากับเขา ผู้ชายที่ปักใจตั้งแต่ครั้งแรก นัยน์ตากลมโตร้อนผ่าวเมื่อผู้เป็นบิดาวางมือบางลงบนมือของเจ้าบ่าว และมองเธอด้วยสายตามีความสุขจนยากจะบรรยาย“ป๊ามาส่
Comments