“ดื้อฉิบ!” อาทิตย์พูดพลางหัวเราะเบา ๆ เขาส่ายหน้าให้กับความใจแข็งของหญิงสาว ชายหนุ่มหมุนตัวจะเดินขึ้นลิฟต์อีกตัวไปยังเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดของเขา แต่กลับโดนพนักงานสาวเรียกไว้
“ดะ เดี๋ยวค่ะ! คุณอาทิตย์!”
“ครับ” เขาเลิกเลิกคิ้วถาม ใบหน้าหล่อเหลากับเสียงทุ้มอ้อนบวกรอยยิ้มละลายใจทำเอาพนักงานสาวแทบใบ้กิน เธอยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายด้วยกลัวก้อนเนื้อจะกระโจนออกมานอกอก ก่อนจะกลั้นใจพูด
“นั่นพัสดุของคุณพายนะคะ คุณอาทิตย์จะเอาไปไหนคะ” ไม่รู้ทำไมพูดกับเขาถึงได้เสียงอ้อนอ่อนหวานขนาดนี้ โอ๊ย... อิช้อยใจละลาย! ยิ่งมายิ้มหล่อๆ ส่งตาหวานพราวระยับให้ ทำคนมองเหมือนต้องมนตร์สะกดแล้วใครจะต้านไหวกันล่ะพ่อคุณ
“ไม่เป็นไรนะครับผมเต็มใจ เดี๋ยวจะช่วยเก็บไว้ให้น้องเอง”
ชายหนุ่มเดินผิวปากเข้าเพนต์เฮาส์ของตัวเองมาอย่างคนอารมณ์ดีทั้งที่เพิ่งโดนสาวเมินมา พัชชาเป็นผู้หญิงคนแรกเลยกระมังที่ด่าเขาแต่เขายังยิ้มได้ไม่โกรธเลยสักนิด ผู้หญิงอะไรน่าจับกดให้หายหยิ่งชะมัด! ทว่าทันทีที่เข้ามารอยยิ้มที่มักทำให้สาว ๆ ใจละลายได้เสมอกลับต้องหุบฉับเมื่อสบตาเข้ากับบุคคลไม่ได้รับเชิญที่นั่งหน้าสลอนอยู่บนโซฟากลางโถงกว้างของเพนต์เฮาส์
“ไอ้วิช ไอ้น้องเวร!” กรวิชญ์ [1]หรือ วิช ลูกชายลุงภัทรสมาชิกแก๊งท่านประธานเพื่อนสนิทของมารดาเขา และมันดันมาสนิทกับเขาอีกที
“หิวว่ะพี่ มีบะหมี่ให้กูแดกบ้างไหม” เสียงเซ็ง ๆ เอ่ยทักทาย แค่คำแรกที่มันทักกันก็ไม่พ้นเป็นภาระให้เขาต้องหาอาหารให้ ไหนจะการเข้ามาอย่างถือวิสาสะนี่อีก อาทิตย์กระแทกลมหายใจกับการโดนบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวครั้งที่เท่าไรแล้วก็จำไม่ได้เพราะนับไม่หมด ทั้งที่เหมือนจะชินหากก็ไม่อยากชินเสียที
“นี่มันเพนต์เฮาส์ของกูจริงดิ? ไอ้ฉิบหาย!” เพนต์เฮาส์ส่วนตัวราคาหลักร้อยล้าน หากความวุ่นวายไม่ต่างจากที่สาธารณะ! ทุกคนในแก๊งรู้รหัสห้องเขาทั้งนั้น ทั้งที่พวกมันต่างก็มีเพนต์เฮาส์คนละห้องอยู่ชั้นเดียวกันหมดก็ยังชอบมาขลุกที่ห้องเขากันจนแทบจะเป็นห้องส่วนกลางอยู่แล้ว ชายหนุ่มวางกล่องที่เขาถือวิสาสะขนติดมือกลับมาด้วยไว้บนโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ขนาดแปดที่นั่งกลางห้องโถงกว้าง ก่อนจะหายเข้าห้องน้ำไปล้างมือล้างไม้ให้สะอาด ไม่วายมีเสียงของกรวิชญ์ตะโกนถามไล่หลังเสียงดัง
“ไอ้พี่ทิต! กูหิว!”
“ไปบอกพ่อมึงโน่นไปไอ้ควาย! พูดเพราะ ๆ ไม่เป็นก็ไม่ต้องแดก!” อาทิตย์ตะโกนตอกกลับด้วยความหมั่นไส้ ไอ้เด็กเวรนี่เป็นภาระไม่พอยังเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะอีกต่างหาก เรียก‘ไอ้’ชัดแจ๋วขนาดนี้ ไม่ต้องใส่คำว่าพี่แล้วก็ได้
“พี่ทิดฮะ! น้องวิชของพี่คนนี้หิวบะหมี่มากเลยฮะ แต่มันหมดแล้วแน่ ๆ หาไม่เจอเลย” กรวิชญ์รีบเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกรุ่นพี่คนสนิทอย่างไว
“นอกจากอกไก่กับบรอกโคลี ในห้องคุณพี่ก็ไม่มีอะไรให้กระผมแดกอีกเลยฮะ” ใบหน้าหล่อกะพริบตาอ้อนแล้วพูดสอพลอด้วยประโยคยาวเหยียดอย่างที่น้อยครั้งจะทำ หากเพื่อของกินกรวิชญ์ทำได้ ให้อาทิตย์ผู้ที่ใจอ่อนกับน้องเสมอให้อภัย และมองข้ามความปากหมาที่เรียกมันว่า ‘ไอ้’ ไปเมื่อครู่
‘แหม... เรียกไอ้ตั้งแต่เด็กจนโต วันนี้เสือกกระแดะรับไม่ได้ ไอ้พี่เวร!’ กรวิชญ์บ่นต่อในใจ และได้ผลเมื่ออาทิตย์เดินออกจากห้องน้ำแล้วตะโกนกลับมา
"บะหมี่เกาหลีสูตรโลว์โซเดียมในกล่องบนเคาน์เตอร์ครัว กูเพิ่งสั่งมาให้ แดก ๆ ไปซะ!" เห็นกรวิชญ์ชอบกินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโซเดียมสูงบ่อย ๆ เลยกลัวจะไตวายตายเข้าสักวัน แล้วถ้าดันมาตายในห้องเขาด้วยจะลำบากเป็นภาระเพิ่มอีก ถึงได้อุตส่าห์เลือกสั่งสินค้าสำหรับคนรักสุขภาพมาให้มันกินแทนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบเดิม ๆ ความจริงห้องอาทิตย์มีอาหารสดและแช่แข็งให้เลือกสรรค์ไม่ว่าจะเป็นผักหรือเนื้อและโปรตีนเสริมอีกเพียบ หากแต่กรวิชญ์ไม่คิดแตะต้อง เพราะขี้เกียจทำอาหาร
ล้างมือเสร็จชายหนุ่มเจ้าของห้องก็เดินปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาอวดเรือนร่างกำยำ และมัดกล้ามหนั่นแน่นขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนส่วนตัวที่อยู่บนชั้นสองของเพนต์เฮาส์เพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง อาทิตย์ไม่เหมือนผู้ชายวัยเดียวกันที่ชอบใส่ชุดนักศึกษาทำกิจวัตรประจำวันหรือไปไหนมาไหน เขาชอบแต่งตัวตามกาลเทศะมากกว่า ทว่าทันทีที่เดินลงมาถึงชั้นล่าง ไม่ทันจะเข้าไปในครัวเพื่อจะชงโปรตีนกิน กลับต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ากรวิชญ์กำลังทำอะไรอยู่... มันกำลังแกะกล่องพัสดุของพัชชา!
"ไอ้ห่าวิช! มึงทำเหี้ยอะไร!" ร่างสูงรีบพุ่งตัวก้าวยาว ๆ กระโดดลงมาจากบันไดสามขั้นสุดท้าย แล้ววิ่งกระโดดข้ามโซฟาเหมือนตัวเองเป็นนักวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางทีมชาติไทย เพื่อมาคว้ากล่องพัสดุที่โดนกรวิชญ์ใช้มีดคัตเตอร์กรีดพลาสติกไปแล้วกำลังจะง้างมือเปิดกล่องอยู่รอมร่อเข้าอ้อมอกตัวเองทันที
"เชี่ยไรเนี่ย!" มือของกรวิชญ์ชะงักค้างกลางอากาศ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“กล่องนี้ไม่ใช่บะหมี่ของมึง!”
“เอ๊า... แล้วอะไร ก็เห็นบอกให้เปิดแดกได้เลยไม่ใช่เหรอวะ อย่างก!” กรวิชญ์หมายจะคว้ากล่องกลับมา อยากรู้ว่าอะไรอาทิตย์ถึงได้หวงนักหนา ปกติก็ไม่เห็นว่าจะเคยมีความลับกับเพื่อนสักคน
“กูบอกว่ากล่องบนเคาน์เตอร์ครัวไอ้ควาย อันนี้ไม่ใช่” อาทิตย์ยื้อแย่งกล่องกลับมาไม่อยากให้กรวิชญ์วุ่นวาย ถึงเขาจะถือวิสาสะเอาของของพัชชามาเก็บไว้ หากเพียงเพราะอยากใช้เป็นข้ออ้างเพื่อได้เจอกับหญิงสาวอีก ไม่ได้ต้องการละลาบละล้วงถึงของส่วนตัวของหญิงสาวแต่อย่างใด เขาหน้าด้านก็ใช่แต่ไม่ได้ไร้มารยาทขนาดนั้น
สองหนุ่มยื้อแย่งกันได้ไม่นาน ด้วยพละกำลังของผู้ชายตัวโตสองคนและมือหยาบกร้านทำให้กล่องที่โดนเปิดฝาออกอยู่แล้วเกิดฉีกขาด ของที่อยู่ด้านในพากันร่วงกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น
“เชี่ย! / ฉิบหาย!” เสียงทุ้มอุทานพร้อมกันด้วยความตกใจเมื่อเห็นของที่กระจายอยู่เต็มพื้นพวกนั้น
“ไม่ใช่บะหมี่จริงด้วยว่ะพี่... ” แต่เป็นบิคีนี! กรวิชญ์พูดต่อในใจ เขาหันมามองอาทิตย์แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยจนเจ้าของห้องถอนหายใจกลบเกลื่อนทั้งที่หน้าซับสีแดงลามไปถึงใบหู
“ไอ้วิช... ไม่ใช่ของกู!”
[1] My baby รักนี้(ต้อง)ข้ามรุ่น โดย แพรสีนิล
“สวัสดีครับน้องพาย” ปริญรับไหว้ สายตาอ่อนโยนของชายหนุ่มมองเพื่อนน้องไม่วางตาจนคนเป็นน้องเบ้หน้า พี่ชายเธอเห็นพัชชาครั้งแรกจากภาพที่เธออัปลงไอจีเมื่อหลายวันก่อน หลังจากนั้นก็ถามถึงแต่พัชชาทุกวัน แถมวันนี้ก็ยังเสนอตัวอยากมาหาน้องถึงที่ ปราณชนกเลยถือโอกาสให้เลี้ยงข้าวถือเป็นการทำหน้าที่กามเทพนัดเดตให้พี่ชายด้วยเพราะที่ผ่านมาพี่เธอไม่เคยสนใจใครเป็นพิเศษ“พี่ปริ๊น ปรางหิวแล้ว”“อยากกินอะไรกันครับ” เสียงทุ้มอบอุ่นทำปราณชนกเบ้หน้าอีกครั้ง“ถามน้อง? แต่ตามองใครก่อน” ปราณชนกแซวทำเอาพี่ชายเธอหน้าแดงในขณะที่พัชชายังไม่รู้เรื่องอะไร“ขึ้นรถเร็วสาวๆ แดดมันร้อน” ปริญทำหน้าที่เปิดประตูให้เพื่อนน้องสาว แต่เป็นปราณชนกที่กระโดดขึ้นเบาะหลังแทนพัชชาหลังจากที่กนธิชาขึ้นไปนั่งแล้ว จงใจเปิดทางให้พัชชาไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับใกล้พี่ชาย“อะไรของเธอ” พัชชาขมวดคิ้วถาม“เราอยากนอนหนุนตักกอหญ้า พายไปนั่งหน้าก่อนนะ” แล้วคนอยากเป็นกามเทพก็ทิ้งตัวลงนอนหนุนตักกนธิชา พัชชาพยักหน้ารับแล้วก็ขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างเสียไม่ได้ ปริญยิ้ม เขาแอบยกนิ้วโป้งให้น้องสาวก่อนจะทะยานรถออกไป หน้าตึกคณะมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งยืนมองเหตุก
“ทำไรอะ! สรุปว่าบิคีนีเมื่อวานเป็นของใครวะ” เป็นเสียงของกรวิชญ์ที่เพิ่งเดินมาหมายจะเข้าไปรวมตัวกินข้าวกับเดอะแก๊งเด็กเทพ คำพูดของคนมาใหม่ทำเอาหญิงสาวเบิกตากว้าง เธอมองกรวิชญ์ที่ยิ้มแซวแล้วหันมาสบตาคนที่ยังรวบแขนทั้งสองข้างของเธออยู่ตาขวาง‘ไอ้สัดวิช! พ่องตาย!’ ท่าทางที่อาทิตย์มองกรวิชญ์อย่างคาดโทษพร้อมทั้งทำปากขมุบขมิบด่าแบบไม่มีเสียงก็มากพอให้หญิงสาวรู้คำตอบแล้ว“พี่อาทิตย์!”นั่นไง! คราวนี้แหละได้ฉิบหายแล้วจริง ๆ ไอ้ทิตเอ๊ย!…ผัวะ!“โอ๊ย! ตบทำไมวะ ก็กูไม่รู้นี่หว่า” กรวิชญ์ลูบหัวตัวเองป้อย ๆ หลังจากที่โดนอาทิตย์ตบกะบาลเข้าให้“อู้วว...! เน้นๆเลยครับ เสียงโคตรแน่น” ธิติสูดปากเจ็บแทนหากแต่ใบหน้ากลับออกไปทางสะใจจนโดนกรวิชญ์ชี้หน้าอาฆาต“มึงไม่ต้องมาสะใจเลยไอ้พี่แบงค์!” กรวิชญ์เห็นอาทิตย์ตามติดพัชชามาหลายวันแล้ว หนำซ้ำวันนี้ยังจับมือถือแขนหญิงสาวจนแทบจะดึงมากอดไว้แนบอก ดูจากดาวอังคารก็รู้ว่ามันสนใจ ไม่รู้มันจีบติดหรือยังเขาก็แค่อยากแซวเล่น ๆ ไปอย่างนั้นเอง แต่ใครจะไปรู้ว่ากล่องพัสดุเป็นของพัชชา เมื่อวานถามแล้วไม่ยอมบอกเอง เขาผิดตรงไหน!“เสือกไม่เข้าเรื่องนะมึง เดี๋ยวปั๊ด อีกสักทีดีไหม”
“มึงไปทำอะไรไว้” จิรกรกระซิบถามอาทิตย์ที่นั่งติดกัน หากอีกฝ่ายกลับไหวไหล่ตอนนี้พัชชากำลังยืนเท้าแขนกับโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่นั่งยกยิ้มแล้วมองเธอกลับอย่างท้าทาย สองสายตาประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร“มาคุยกันหน่อยไหมคะ พี่อาทิตย์!” พัชชากัดฟันกรอดพยายามคุมสติไม่ให้เดือดดาลไปกว่านี้ เกรงจะเสียมารยาทกับรุ่นพี่คนอื่นๆอีกหลายชีวิตที่กำลังมองเธอกับอาทิตย์อย่างเคลือบแคลงใจ“ได้สิคะ ว่าแต่คุยกันที่ไหนดี ห้องพี่ไหม” อาทิตย์โน้มตัวไปข้างหน้าเข้าหาหญิงสาวที่เอาแต่จ้องเขาอย่างอยากกินเลือดกินเนื้อแล้วยกมือขึ้นเท้าปลายคาง ท่าทางไม่ยี่หระเลยด้วยซ้ำว่าตนเองเพิ่งทำผิดอะไรไปยิ่งเห็นชายหนุ่มทำตัวไม่ทุกไม่ร้อนเธอก็ยิ่งหมั่นไส้“ถ้าจะไปห้องพี่ เราคุยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ” พัชชาไม่คิดหลงกลคนหน้าหนา เธออุตส่าห์ให้โอกาสเขาไปคุยเงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ แต่เจ้าตัวยังมั่นหน้าลอยหน้าลอยตาแล้วยังมีหน้าชวนเธอขึ้นห้องอีก มันน่านัก เขานี่เป็นคนยังไงกันนะ กวนประสาทเป็นบ้าเลยโว้ย!“ของของพายอยู่ไหน” เธอโพล่งตรงประเด็น ส่วนเขาก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน“อยู่ที่ห้องพี่ค่ะ” อาทิตย์ตอบเสียงหวานทั้งที่ในใจกำลังกังวลอยู่ว่าหา
“อะไรนะคะ! ของของพาย พี่ยอมให้คนอื่นหยิบไปสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง รู้ใช่ไหมว่ามันผิดกฎหมาย” พัชชาเสียงเย็นแต่ใจเธอไม่ได้เย็นด้วยเลยสักนิดเมื่อรู้ว่ากล่องพัสดุของตัวเองโดนคนอื่นหยิบไป“ขะ ขอโทษจริงๆค่ะ พี่จะรีบตามพัสดุกลับมาให้นะคะ” พนักงานประจำคอนโดหน้าซีดปากสั่น รู้ดีว่าครั้งนี้ตนเองทำพลาด ปล่อยให้ความหล่อของชายหนุ่มสะกดจนใจอ่อน หากหญิงสาวตรงหน้าเอาเรื่องขึ้นมาเธอจบเห่แน่“พี่จะรีบทวงของจากคุณอาทิตย์ให้เดี๋ยวนี้เลยนะคะ ใจเย็นๆนะคะคุณพัชชา” ว่าแล้วสองมือก็ละล่ำละลักกดต่อสายขึ้นไปยังเพนต์เฮาส์ของชายหนุ่มทว่าไม่มีใครรับสาย“คุณอาทิตย์น่าจะไปเรียนแล้วค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวน้ำตาคลอเบ้าแทบร้องไห้ ยิ่งเห็นท่าทางเอาเรื่องของพัชชาจึงรีบเปลี่ยนเป็นค้นเบอร์ส่วนตัวของลูกบ้านในแฟ้มประวัติที่มักใช้ในยามจำเป็นเท่านั้นพัชชาอยู่ในชุดนักศึกษา เธอมองเวลาที่ข้อมือแล้วก็ถอนหายใจ“พายไปเรียนก่อน แต่กลับมาหวังว่าจะได้เรื่องนะคะ” ว่าจบหญิงสาวก็เดินออกไปทันที พนักงานคอนโดถึงกับยกมือกุมอกด้วยความโล่งใจ พัชชาได้ยินแค่เสียงพนักงานอีกคนเอ่ยต่อว่าตามหลังมา...“ไม่ต้องมาโล่งอกเลยหล่อน รีบติดต่อคุณอาทิตย์ให้
“ดื้อฉิบ!” อาทิตย์พูดพลางหัวเราะเบา ๆ เขาส่ายหน้าให้กับความใจแข็งของหญิงสาว ชายหนุ่มหมุนตัวจะเดินขึ้นลิฟต์อีกตัวไปยังเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดของเขา แต่กลับโดนพนักงานสาวเรียกไว้“ดะ เดี๋ยวค่ะ! คุณอาทิตย์!”“ครับ” เขาเลิกเลิกคิ้วถาม ใบหน้าหล่อเหลากับเสียงทุ้มอ้อนบวกรอยยิ้มละลายใจทำเอาพนักงานสาวแทบใบ้กิน เธอยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายด้วยกลัวก้อนเนื้อจะกระโจนออกมานอกอก ก่อนจะกลั้นใจพูด“นั่นพัสดุของคุณพายนะคะ คุณอาทิตย์จะเอาไปไหนคะ” ไม่รู้ทำไมพูดกับเขาถึงได้เสียงอ้อนอ่อนหวานขนาดนี้ โอ๊ย... อิช้อยใจละลาย! ยิ่งมายิ้มหล่อๆ ส่งตาหวานพราวระยับให้ ทำคนมองเหมือนต้องมนตร์สะกดแล้วใครจะต้านไหวกันล่ะพ่อคุณ“ไม่เป็นไรนะครับผมเต็มใจ เดี๋ยวจะช่วยเก็บไว้ให้น้องเอง”ชายหนุ่มเดินผิวปากเข้าเพนต์เฮาส์ของตัวเองมาอย่างคนอารมณ์ดีทั้งที่เพิ่งโดนสาวเมินมา พัชชาเป็นผู้หญิงคนแรกเลยกระมังที่ด่าเขาแต่เขายังยิ้มได้ไม่โกรธเลยสักนิด ผู้หญิงอะไรน่าจับกดให้หายหยิ่งชะมัด! ทว่าทันทีที่เข้ามารอยยิ้มที่มักทำให้สาว ๆ ใจละลายได้เสมอกลับต้องหุบฉับเมื่อสบตาเข้ากับบุคคลไม่ได้รับเชิญที่นั่งหน้าสลอนอยู่บนโซฟากลางโถงกว้างของเพนต์เฮาส์“ไ
ระหว่างขับรถตรงไปยังคอนโดมิเนียมพัชชาหัวเสียไม่น้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่ขี้หลีที่ชื่ออาทิตย์ ยิ่งนึกถึงกิริยาวาจาที่พยายามมาสนิทสนมด้วยทั้งที่เธอไม่ได้เปิดทางให้ก็ยิ่งไม่ชอบใจ ทำมาพูดคะพูดขา ทำมาเรียกเธอว่าหนูอย่างนั้นหนูอย่างนี้“หนูกับผีน่ะสิ อี๊... ขนลุก!” พัชชาถึงขั้นทำหน้ายี้ รู้ตัวเองดีว่าเป็นคนสวยจัดคนหนึ่ง แต่การวางตัวหยิ่ง หน้านิ่ง ๆ บอกบุญไม่รับของเธอก็ช่วยกันพวกผู้ชายขี้หลีที่เข้าหาต่างก็รีบเผ่นออกไปได้เสมอ หากไม่ใช่กับอาทิตย์ เขาหน้าด้านกว่าที่คิดไว้มาก ไม่เคยมีใครที่โดนเธอมองแรงพูดห้วนใส่พร้อมตัดไมตรีแล้วยังตื๊อต่อได้ขนาดนี้ เขาทำหน้าซื่อตาใสทั้งที่มุมปากยกยิ้มร้ายได้ยังไงกันนะใบหน้าที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์จนทำให้เธอหายใจติดขัดได้อย่างน่าประหลาดใจ... แต่ช่างมันเถอะ! พัชชาสะบัดหน้าเรียกสติตัวเองแล้วพรูลมหายใจออกมา ถึงจะเป็นรุ่นพี่ในคณะและเป็นเพื่อนของจิรกร แต่หวังว่าจะไม่ต้องเจอกันบ่อยหรอกนะ หญิงสาวได้แต่ภาวนาในใจเพียงไม่กี่นาทีรถคันหรูก็มาถึงคอนโดมิเนียมหรูและราคาแพงที่สุดใกล้มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ คนที่จะได้จับจองเป็นเจ้าของต้องรวยระดับพันล้านเป็นอย่างต