Share

....จำไม่ได้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-04 22:01:35

มุมมองของอลัน

@ HTND Hotel, Bangkok

12 ปีแล้วสินะ ที่ผมไม่ได้กลับมาบ้านเกิดตัวเอง หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในไทยคุณพ่อก็ส่งให้ผมไปเรียนต่อปริญญาโทสายตรงทางด้านการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทันที ไม่มีแม้แต่เวลาบอกลาเพื่อนฝูง คนรู้จัก หรือเด็กตัวน้อย ทุกอย่างเป็นเรื่องกะทันหันและไม่ได้มีสัญญาณบอกไว้ล่วงหน้า ทว่าก่อนที่จะไปจากที่นี่ผมได้ฝากซองจดหมายเล็ก ๆ ผ่านทางคุณพ่อช่วยมอบให้คุณอาหลินเพื่อส่งถึงเด็กตัวน้อย ใจความในจดหมายเขียนข้อความไม่ถึงหนึ่งย่อหน้ากระดาษ โดยผมเขียนอธิบายทำนองว่าจะไม่ได้เจอเธอหลังจากนี้ แต่ก็ทิ้งท้ายเพื่อไม่ให้เด็กน้อยรู้สึกตกใจ

‘พี่ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ’

จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอจะลืมผมไปแล้วหรือยัง แล้วจดหมายฉบับนั้นส่งถึงมือเธอหรือเปล่า ไม่ว่ายังไงผมก็พร้อมที่จะไปเจอเธอเร็ว ๆ นี้ในรอบ 12 ปี หลังจากเคลียร์ตารางงานสำคัญ 'การประชุมผู้ถือหุ้น' ในบ่ายวันนี้ และผมย้ำนักย้ำหนากับคุณพ่อให้ช่วยบอกคุณอาหลินว่าอย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับเธอเป็นอันขาด ผมมีของฝากน่ารัก ๆ ไปเซอร์ไพรส์เธอและหวังว่าเธอจะชอบมัน

ตื๊ด...ตื๊ด...

เบอร์ปริศนาโทรเข้ามาที่มือถือของผม จริง ๆ ผมไม่ชอบรับเบอร์แปลกสักเท่าไหร่ หมู่นี้มิจฉาชีพชุกชุมแสวงหาเงินบนความทุกข์ของคนอื่น แต่ดูท่าจะโทรมาไม่เลิก งั้นลองรับสายหน่อยก็แล้วกัน

“เหวย อลันใช่ไหมลูก” อันดับแรกเขาคือใคร...ถึงรู้ชื่อเล่นของผมและเรียกผมว่าลูกอีกต่างหาก

“ครับ จากไหนครับ”

“อาเอง อาหลินไง”

อ้าวคุณอานี่เอง จริงสิผมไม่เคยมีเบอร์เขาในเครื่องเลย สงสัยได้มาจากคุณพ่อแน่ ๆ

“สวัสดีครับคุณอา ผมขอโทษที่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของคุณอาครับ”

“ไม่เป็นไรเลย อาก็พึ่งได้เบอร์อลันมาจากคุณอคิณเหมือนกัน จะรบกวนอลันสักเรื่องได้ไหมลูก”

“ได้ครับคุณอา เรื่องอะไรเหรอครับ”

“จำน้องได้ไหม...ซูมี่น่ะ พอดีน้องได้ยินข่าวว่าอลันกลับมาจากสวิตฯ แกก็เลยมาหาอลันที่โรงแรมและโทรหาอาเมื่อกี้ว่าอยากได้เบอร์เลขาเพื่อหาทางติดต่อกับอลัน แต่อาดันไปเผลอพูดทำนองรู้ว่าอลันจะกลับมาก่อนตั้งนานแล้ว น้องก็เลยงอนวางสายไปเลย ฝากช่วยดูแลซูมี่ให้อาหน่อยนะ”

คำพูดของคุณอาหลินทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เธอยังไม่ลืมผม แถมมาหาผมด้วยตัวเองก่อนที่ผมจะไปเซอร์ไพรส์เธอเสียอีก ถ้านับอายุที่ห่างกับผม 12 ปี ตอนนี้เธอน่าจะอายุ 20 ปีแล้ว อยากจะเห็นหน้าเด็กน้อยเสียแล้วสิ

“ได้ครับคุณอา เดี๋ยวผมดูแลน้องให้เองครับ”

พูดจบผมก็วางสายคุณอาหลินไปแล้วรีบลงไปตามหาเธอที่ชั้นล่างของโรงแรม เดาว่าเธอไม่น่าจะไปไหนไกลจากแถวบริเวณล็อบบี้

ผมกวาดสายตามองไปยังด้านล่างจากชั้นสองของโรงแรม จนไปสะดุดตาพนักงานกลุ่มหนึ่งที่ยืนคุยล้อมวงกัน หนึ่งในนั้นคือคุณปุ้ยซึ่งผมนั้นรู้จักดีเพราะประชุมงานร่วมกันบ่อย ส่วนเด็ก ๆ ในทีมหลายคนก็พอเคยเห็นผ่านตามาบ้างจากประวัติสมัครงานที่ส่งมาให้ผมพิจารณาทุกครั้ง แม้ว่าผมจะอยู่ที่ต่างประเทศก็เถอะ แต่ว่า...มีผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลอ่อนไว้หน้าม้าคนหนึ่งในกลุ่มที่ผมไม่ค่อยคุ้นหน้า พยายามมองแต่ก็เห็นหน้าเธอไม่ชัดว่าคือใคร เดี๋ยวสิ...ผมกำลังตามหาน้องอยู่ ทำไมต้องไปสนใจกลุ่มพนักงานด้วย

พึ่งนึกออกว่าส่วนใหญ่คนนอกที่เข้ามาต้องติดต่อขอข้อมูลจากทางประชาสัมพันธ์ก่อนเป็นจุดแรก ผมจึงเดินไปถามพนักงานตรงนั้นว่ามีใครมาขอพบผมบ้างไหม และพนักงานหญิงคนหนึ่งบอกผมว่ามีผู้หญิงนักศึกษามหาวิทยาลัยมาขอพบ แต่พนักงานไม่ให้เข้าพบเพราะเธอไม่ได้ทำนัดไว้ คิดว่าต้องใช่ซูมี่แน่ ๆ ผมก็ไม่ได้ดุอะไรพนักงานไปเรื่องไม่ให้เธอทำนัด เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องคอยคัดบุคคลจากภายนอก ผมเลยได้แค่ถามไปเพิ่มว่าคนที่มาหาลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร เชื่อไหมว่าคำตอบที่พนักงานคนนั้นบอกทำให้ผมเกิดภาพย้อนไปตอนกำลังมองผู้หญิงผมสีน้ำตาลยืนคุยอยู่กับพนักงานคนอื่นเมื่อสักครู่ ถ้าคนนั้นคือซูมี่จริง ๆ แล้วทำไมเธอต้องไปยืนคุยตรงนั้นด้วย ฉะนั้นผมต้องรู้ให้ได้ว่าใช่เธอหรือไม่ 

“คุณปุ้ยทีมแผนกอาหารและเครื่องดื่มจะไปแสตนบายที่ห้องจัดเลี้ยงตอนกี่โมงครับ” ผมยกหูโทรหาผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มทันที

“สวัสดีค่ะคุณอลัน ทีมจะไปแสตนบายตอนบ่ายสองค่ะ คุณอลันมีอะไรให้ปุ้ยช่วยไหมคะ”

“สักบ่ายสองกว่า ๆ ผมจะลงไปดูความเรียบร้อยที่ห้องจัดเลี้ยงนะครับ”

“โอ้จะลำบากคุณอลันหรือเปล่าคะ พวกปุ้ยจัดการกันได้นะคะ”

“ไม่ลำบากครับ ถือว่าผมได้ไปทักทายพนักงานด้วย”

“รับทราบค่ะคุณอลัน”

เมื่อผมคุยกับคุณปุ้ยเสร็จ ก็โทรหาเลขาส่วนตัวต่อ

“คุณมีนครับ ช่วยเตรียมแฟ้มข้อมูลประวัติพนักงานทุกคนในแผนกอาหารและเครื่องดื่มให้หน่อยครับ แล้วเอามาให้ผมที่ห้องจัดเลี้ยงสัก บ่ายสองสิบนาที”

เอาล่ะทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้ว เหลือเพียงแต่เช็กให้แน่ใจว่าเธอคนนั้นใช่ซูมี่ไหม แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นเธอ

เวลา 14.10 น.

ถึงเวลาที่ผมต้องเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยงเพื่อตรวจความเรียบร้อยและเห็นหญิงสาวผมสีน้ำตาลยืนคุยกับนายศักดิ์อยู่ไกล ๆ พร้อมใส่ชุดยูนิฟอร์มเป็นพนักงานเสิร์ฟเสียด้วย เดี๋ยวก่อนแต่เธอยังเรียนไม่จบไม่ใช่เหรอ...อย่าบอกว่าปลอมตัวมานะ และกล้ามากที่ดูแลรับผิดชอบแขกโซน VIP

ขณะที่ผมพยายามมองเธออยู่ เลขามีนก็ถือแฟ้มข้อมูลมาพอดี ผมจึงเริ่มตรวจความเรียบร้อยตั้งแต่ตอนนั้นโดยเริ่มจากทีมแรกก่อน ทั้งเรื่องการจัดวางเครื่องดื่มและการแต่งกายเรียบร้อยดีถือว่าผ่านหมด เรามาดูกันทีมที่สองเครื่องดื่มถูกจัดเรียงไว้สวยงาม ส่วนพนักงานแต่งกายไร้ที่ติทุกคนที่ตรวจไปแล้ว 

จนกระทั่งผมมาหยุดยืนตรงหน้าคนสุดท้ายสาวน้อยผมสีน้ำตาล เมื่อสายตาผมประสานกับเธอผมพยายามทำตัวนิ่งไว้อยู่แม้ว่าเธอจะส่งยิ้มให้ผมก็ตาม ก่อนเริ่มจะมองใบหน้าโดยภาพรวมแล้วก้มลงมองป้ายชื่อที่ติดไว้ ‘น้ำผึ้ง’ ผมแทบเกือบหลุดยิ้มแต่พยายามกันเอาไว้สุดฤทธิ์ ตอนนี้รู้แล้วว่ายังไงก็ใช่เธอ เล่นตั้งชื่อตรงตัวขนาดนั้น ซูมี่ ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็คือน้ำผึ้งนั่นแหละ เด็กดื้อคงคิดว่าตบตาหลอกผมได้สินะ สงสัยต้องหาอะไรแกล้งเด็กคนนี้เสียแล้ว

ผมเรียกเลขามาขอดูรายชื่อพนักงานในแฟ้ม บทนี้เล่นใหญ่พอสมควร ทั้งทำสีหน้าตึงดึงเสียงใส่คุณปุ้ยผู้จัดการฯ ไปด้วย ทำนองว่ารับเด็กฝึกงานเข้ามาทำงานแทนพนักงานที่ดูแลรับผิดชอบโซน VIP ได้อย่างไร และเป็นไปตามคาดว่าเด็กดื้อต้องโต้ตอบกลับมาในทำนองไม่พอใจที่จะโดนย้ายไปอยู่ทีมแรก มันเหมือนเป็นการดูถูกฝีมือเธอ จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้คิดแบบนั้นหรอก ต้องบอกว่าแอบห่วงเสียด้วยซ้ำที่เธอต้องไปรับมือกับพวก VIP ซึ่งแขกบางคนแสนจะเรื่องเยอะ เอาใจยากสุด ๆ ในเมื่อเธอคิดว่าตัวเองทำได้ ก็ปล่อยให้ลองทำไป ผมจะคอยดู อยู่ห่าง ๆ ก็แล้วกัน

เวลา 15.00 น.

แขกเริ่มทยอยเข้ามานั่งที่โต๊ะแทบจะเต็มทุกที่นั่ง ผมเดินเข้าไปยิ้มทักทายและพูดคุยกับแขกหลายคน ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะโซน VIP ที่ใกล้กับซูมี่มากที่สุด

ผมลองเรียกเธอเพื่อมาวัดความรู้การรินเครื่องดื่มไวน์และแชมเปญเสียหน่อย เพราะผมไปรู้มาว่าซูมี่เรียนสาขาวิชาเดียวกันกับผมสมัยที่เรียนปริญญาตรีแถมมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก โจทย์ของผมคือต้องการดื่มไวน์แดง แต่ยื่นแก้วแชมเปญให้เธอไป ก็แอบรู้สึกประหลาดใจที่เธอไม่เลือกหยิบแก้วที่ผมยื่นให้เลย ต้องเดินไปถามเหตุผลเสียหน่อยว่าทำไมไม่รับแก้วที่ผมให้ ซูมี่ให้เหตุผลกลับมาแบบครบองค์ความรู้เรื่องการเลือกใช้แก้วสำหรับเครื่องดื่มที่ต่างชนิดกัน ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าเธอแสนเก่งและฉลาด...เก่งมาตั้งแต่ตอบคณิตคิดไวกับผมเมื่อตอนอายุ 8 ขวบแล้ว

ซูมี่บริการเครื่องดื่มให้ทางผมแล้วก็เดินไปบริการให้แขกโต๊ะอื่นต่อ ดูท่าน่าจะทำได้ดี ไม่น่าต้องห่วงอะไร จนกระทั่ง...

ซัน เพื่อนที่ผม (ไม่ค่อยอยาก) สนิทเดินเข้าไปหาเธอแล้วคุยอะไรบางอย่างที่ดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่ ทุกคนในแวดวงไฮโซรู้กันดีว่าซันเป็นคนนิสัยอย่างไร เขาเจ้าชู้คบผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า เอาง่าย ๆ ไว้ใจไม่ได้เลย

ผมตัดสินใจเดินไปหาซูมี่ แต่ก็ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ซันฉวยโอกาสสัมผัสปลายมือตอนที่ซูมี่ยื่นแก้วไวน์ให้ ผมแทบอยากจะด่าตัวเองที่ดูแลน้องได้ไม่ดีพอตามที่คุณอาหลินขอไว้ จะปล่อยให้มันเกินมากกว่านี้ไม่ได้แล้วจึงเดินเข้าไปทำท่าทักทายซันเพื่อให้เขาเดินออกมาจากตรงนั้น แต่เขาก็ยังกล้ามาขอเบอร์กับไลน์ของซูมี่กับผมอีก อยากจะบอกว่านี่ก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน แค่ถึงมีก็ไม่มีทางให้คนอย่างเขาเป็นอันขาด! ไม่สิ...ผู้ชาย ทุกคนก็ไม่ให้ทั้งนั้น จะว่าผมหวงน้องของผมก็ได้

เมื่อผมไล่ซันไปที่โต๊ะได้แล้วก็เหลือเพียงผมกับซูมี่ที่ยืนข้างกัน ใจอยากจะถามเธอเหลือเกินว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โอเคไหม แต่ทำไม่ได้ก็เธอยังปลอมตัวเป็นพนักงานคนที่ผมไม่รู้จักอยู่นี่ไง เพราะงั้นผมก็ต้องตีบทเล่นกลับบ้างทำให้เหมือนเป็นเจ้านายตำหนิลูกน้องโดยไม่เข้าข้างเธอเลยแม้แต่น้อย เลือกที่จะเข้าข้างแขก

‘คุณแค่เสิร์ฟเครื่องดื่มก็พอ ไม่ต้องทำหน้าที่เสิร์ฟขนมจีบให้แขกครับ’

นี่คือประโยคที่ผมพูดใส่เธอไป พนันเลยว่าเธอน่าจะไม่ยอมพูดกับผมไปหลายวันนับจากวันนี้

ช่วงเวลารับประทานอาหารจบลง และอีก 1 ชั่วโมงจะเข้าสู่การประชุมผู้ถือหุ้น ในเวลาที่ยังว่างนี้ผมว่าจะไปหาซูมี่เสียหน่อยเพราะน่าจะต้องทักทายและเฉลยตัวกันอย่างเป็นทางการได้แล้ว ผมเห็นเธอเดินออกมาจากห้องจัดเลี้ยงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ ผมจะรอเธอหน้าห้องน้ำเนี่ยแหละ แต่ก็ยืนออกมาห่างจากประตูพอสมควรกลัวคนจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นพวกถ้ำมอง

ไม่นานนักเธอก็เดินออกมาประจันหน้ากับผมพอดี แต่สีหน้าเธอไม่ยิ้มแย้มทักทายให้เลย แถมยังไม่เอ่ยคำพูดสวัสดีให้ผมได้ยินเสียงสักคำ นอกจากจะเดินตัดผ่านตัวผมไปเสียดื้อ ๆ จนผมต้องพูดบางอย่างให้เธอหยุดเดิน

“ได้ลองทำงานจริงสนุกไหม เด็กดื้อ”

เธอหยุดเดินและหันตัวกลับมาหาผม รู้ไหมว่าตอนนั้นผมเห็นภาพซ้อนสองภาพด้วยกัน ภาพแรกคือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุ 8 ขวบ และอีกภาพคือหญิงสาววัยรุ่น อายุ 20 ปี เมื่อทั้งสองภาพมาประกบรวมกันก็กลายเป็น ซูมี่ 100% ไม่ได้เจอกันตั้ง 12 ปี เด็กดื้อที่ช่างถามและช่างสังเกตคนนั้นโตเป็นสาวได้ขนาดนี้แล้วเหรอ สวยจนผมเกือบจำไม่ได้ แล้วแบบนี้พี่ชายอย่างผมจะดูแลน้องสาวคนนี้ให้ห่างจากพวกผู้ชายที่มาขายขนมจีบยังไงไหวนะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   จากนี้และตลอดไป (ตอนจบ)

    1 เดือนต่อมา @ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัย เวลา 06.00 น.“นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เชิญเข้าหอประชุมเลยครับ” ประธานสโมสรนักศึกษาประกาศเสียงผ่านโทรโข่งเพื่อกวาดต้อนนักศึกษาแต่ละคณะเข้าหอประชุมเพื่อเตรียมเข้าพิธีรับประกาศนียบัตรจบการศึกษาวันนี้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จำนวนมหาศาลจากต่างคณะมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยโดยไม่ได้นัดหมาย ยังไม่นับรวมญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่บัณฑิตป้ายแดงในอีกไม่กี่ชั่วโมง จำนวนผู้คนหลั่งไหลเข้ามาราวกับฝูงมด หากจะติดต่อหากันคงต้องบอกที่นัดหมายไว้ให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นคงพลัดหลงกันแน่ “ยัยมี่ทางนี้” ต้นข้าวชูมือขึ้นสูงเพื่อเรียกเพื่อนสาวที่กำลังเอามือถือแนบที่หูพลางกวาดสายตามองหาพวกเธอเมื่อซูมี่เห็นเป้าหมายจึงรีบเดินเบียดเสียดคนเข้าไปหาเพื่อนสาว “หวัดดีพวกแก ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้” “จริง มาเข้าใจรุ่นพี่ปีก่อนก็ตอนนี้แหละเนอะมีมี่” ต้นรักเอ่ย“พวกเราเข้าไปห้องพิธีข้างในกันเถอะ ตรงนี้คนมันแน่นฉันหายใจไม่ออกแล้ว” ต้นข้าวเอ่ยชวน สามสาวเดินตามกันเข้าไปในห้องประชุมด้วยความทุลักทุเลกับชุดครุยที่ลากยาวติดพื้น ไหนจะรองเรื่องรองเท้าคัทชูที่สวมใส่กัดอีก ท

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ใจฉันมีแต่เธอ

    1 เดือนต่อมา@ คณะบริหารธุรกิจ“เย้! โปรเจคผ่านสักทีเว้ย!” แฝดสาวผู้พี่กระโดดโลดเต้นดีใจ“ดีใจเกินเหตุข้าว อย่าลืมสิว่ามีสอบอีกชุดใหญ่ไฟกะพริบ”แฝดผู้น้องย้ำเตือนเธอว่ายังเหลือโค้งสุดท้ายแห่งชีวิต ถ้าสอบไม่ผ่านก็เตรียมแหกโค้งปลิดชีพเรียนไม่จบไปได้เลย“เออว่ะ อย่าพูดสิฉันเศร้า” ต้นข้าวเสียงหงอยก่อนนั่งลงที่เก้าอี้แต่จะมีอยู่หนึ่งคนที่อยู่เหนือความเครียดและความกังวลใด ๆเพราะโลกของเธอช่างสดใสราวกับเดินเล่นอยู่ในดินแดนแห่งเวทมนตร์“คงจะมียัยมี่คนเดียวที่เบิกบานใจ” ต้นข้าวถึงกับหยิบปากกาขว้างไปที่หัวเหม่งของคนที่ถูกกล่าวถึง“โอ๊ย!ยัยข้าวเจ็บ” หญิงสาวที่โดนขว้างปากกาใส่หัวหันมาเรียกชื่อเพื่อนสาวฝาแฝด“มีความสุขเหลือเกินแม่สาวหมวย พอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็เทเพื่อนเลยนะยะ” ต้นข้าวเอ่ยเชิงน้อยใจ“ฉันทิ้งพวกยูตรงไหน มา ๆ วันนี้มีแพลนไปไหนกัน ฉันไปด้วย”ซูมี่เอ่ยถามสองแฝดว่าวันนี้มีที่ไหนอยากไป เธอพร้อมจะไปด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ช่วงนี้อยู่กับพวกเธอน้อยกว่าเดิม“ชิ ถ้าฉันบอกว่าอยากไปดื่มเหล้า แกจะไปกับพวกฉันเหรอ” ต้นข้าวเอ่ยถามทั้งที่รู้ว่าซูมี่คงไม่ไปด้วยแน่“ไปสิ ดื่มเหล้านี่ของชอบเลย” หญิงสาว

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   หักห้ามใจ

    3 สัปดาห์ต่อมาความรักของชายหนุ่มกับหญิงสาวเริ่มสุกงอม หลายสัปดาห์ก่อนเขาและเธอได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นในสถานะความสัมพันธ์ที่เรียกว่าแฟนอลันตัดสินใจเปิดตัวซูมี่ต่อครอบครัวเขาและเธออย่างเป็นทางการโดยเชิญพวกท่านมาเป็นสักขีพยานช่วงทานอาหารมื้อค่ำที่โรงแรม HTND ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเขาและเธอต่างพากันตกใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทว่าพวกท่านก็ไม่ได้ขัดที่ทั้งคู่จะคบหาดูใจกันพร้อมทั้งเอ่ยปากร่วมแสดงความยินดีไปในตัว ถือว่าทั้งคู่โชคดีที่ครอบครัวเปิดไฟเขียวให้คบหาดูใจกันได้ตามสะดวก ทางครอบครัวซูมี่ยังเอ่ยฝากฝังลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนกับอลันไว้ด้วย ซึ่งเขารับปากสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีในวันนี้อลันขออนุญาตทางผู้ปกครองของซูมี่พาเธอไปเที่ยวหรือที่เรียกกันว่าชวนไปออกเดต หากเป็นคู่รักคู่อื่น ๆ คงจะพาไปดูหนัง กินข้าว ร้องคาราโอเกะ เดินเล่นในสวน แต่สำหรับพวกเขาซึ่งตัวติดกันอย่างกับหมากฝรั่ง สถานที่ที่เขาเดตกันก็มีเพียงที่เดียวที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวนั่นคือ คอนโดของชายหนุ่ม@ คอนโดของอลันเมื่อทั้งคู่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้ววางสัมภาระไว้ที่โต๊ะเรียบร้อย ไม่ทันไรผู้ชายคลั่งรักก็พุ่งตัวเข้าไปสวมกอดแฟนสาวจา

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ออดอ้อน

    @ คอนโดของอลันเวลา 08.30 น.กริ๊งงงง!เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ตั้งเอาไว้โดยซูมี่ดังขึ้น เธอเอื้อมมือสุดแขนไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียงเพื่อปิดมันก่อนจะดันตัวเองจากเตียงแล้วลุกนั่งตัวตรงในสภาพที่ยังไม่ลืมตาตื่น“อยากนอนต่อจัง…ไม่ได้สิ เราอยู่คอนโดพี่อลันนี่นา”ซูมี่สะดุ้งตัวฟื้นคืนสติว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน ทว่ายังอยู่ที่คอนโดผู้ชายที่เธอน่าจะเรียกได้เต็มปากแล้วว่า…แฟนหนุ่มหญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วพับผ้าห่มอย่างประณีตตามหลักสูตรวิชาการโรงแรมที่เรียนมา ก่อนจะเดินไปเปิดประตูทักทายยามเช้ากับชายหนุ่ม“อรุณสวัสดิ์ค่าพี่อลัน เอ…ยังไม่ตื่นเหรอ”ซูมี่กวาดตามองทั่วทิศเพื่อหาผู้ชายร่างสูง และพบว่าเป้าหมายยังคงนอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เธอค่อย ๆ ย่องฝีเท้าให้เบาประดุจดังขนนกมาหยุดอยู่ที่โซฟาก่อนจะย่อตัวลงเอามือชันเข่าพลางโน้มตัวจ้องมองใบหน้าของอลัน“คนอะไร ขนาดหลับยังหล่อเลย”เธอยื่นนิ้วเรียวเล็กเอื้อมไปปัดปอยผมข้างหน้าของอลันที่บังตาไว้เพื่อจะได้เห็นความหล่อของแฟนตัวเองชัด ๆหมับ!ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมเต็มอิ่ม จู่ ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกจับโดยผู้ชายที่นอนอยู่ แถมเขายังดึงร่างเธอใ

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ความลับระหว่างลูกผู้ชาย

    สามปีก่อน (สมัยซูมี่อยู่ปี 1 และซิงอีอยู่ ม.6) @ บ้านตระกูลหลินเวลา 19.00 น.“กลับมาแล้วค่ะ / ครับ” เสียงเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายและสาววัยมหาวิทยาลัยแจ้งคนในบ้านให้ทราบว่าพวกเขาเดินทางกลับถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อย“วันนี้เป็นไงกันบ้างเด็ก ๆ ” คุณเพียงขวัญเอ่ยถามลูกรักทั้งสอง “เหนื่อยครับคุณแม่ ผมขอตัวไปนอนเลยนะครับ” ซิงอีพูดจบก็รีบขึ้นบันไดเข้าห้องนอนตัวเองทันที“อ้าว ไม่กินข้าวกินปลาก่อนเหรอลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยไล่หลังแต่ลูกชายไม่ตอบกลับอะไรเลย “เดี๋ยวซูมี่ไปดูน้องเองค่ะคุณแม่” ซูมี่รีบเดินขึ้นบันไดตามน้องชายตัวเองไปเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพลางเคาะประตูขออนุญาตเปิดเข้าไป ภาพที่เธอเห็นคือซิงอีล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย “ซิงอี ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนค่อยมานอน เชื้อโรคมันจะสะสม” “ไม่ไหวแล้วซูมี่ วันนี้ผมเหนื่อยมากขอนอนพักแป๊บ เดี๋ยวมีนัดเล่นเกมตอนดึกกับเพื่อนต่อ” แปะ! พี่สาวตีไปที่หลังน้องชายเสียงดังแปะในขณะที่เขานอนคว่ำหน้าอยู่“โอ๊ย! พี่ทำไรเนี่ย” จนเขาต้องหันหน้ามาคุยกับเธอ “หมั่นไส้ ห่วงเล่นเกมอยู่ได้ หนังสืออ่านมั่งไหม ปีนี้แกต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ” “เออผมรู้แ

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ดึกแล้วอย่าพึ่งกลับ

    @ WithUs Café and Restaurantแอ๊ด...ประตูถูกเปิดอีกครั้งหลังจากสามสิบนาทีก่อนหน้าถูกปิดลง หญิงสาวที่นั่งรอใครบางคนหันไปในทิศทางที่ประตูเปิดออกแล้วเผยรอยยิ้มให้ผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามา“ดีใจจัง พี่อลันกลับมาแล้ว”ขณะเดียวกันผู้ชายคนนั้นก็เดินปรี่เข้ามาสวมกอดผู้หญิงตรงหน้า“พี่คิดถึงเราจัง”เมื่อหญิงสาวได้ยินเขาเอ่ยแบบนี้จึงดันตัวเขาออกทันที คนที่สวมกอดถึงกับทำหน้างง“ถามจริง นี่ใช่พี่อลันตัวจริงหรือเปล่าคะ” ซูมี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย“ซูมี่…เราพูดอย่างกับพี่มีฝาแฝดอีกคนไปได้” คำตอบของเขาจะสื่อว่าไม่มีใครจะตัวจริงไปกว่านี้อีกแล้ว“ปกติพี่อลันไม่เคยทำตัวแบบนี้นี่นา ซูมี่แตะทีหรือกอดทีตะโกนโหวกเหวกตกใจทุกทีเลย”“มันเมื่อก่อนไหม ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว”“ไม่เหมือนเดิมยังไงคะ”“ก็เราเป็นแฟนของพี่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”อลันกระชับกอดเอวบางแน่นขึ้น แถมยังพูดคำที่ซูมี่โคตรจะแพ้ใส่ไปในประโยคด้วย“ถ้าบอกยกเลิกตอนนี้ทันไหมคะ” ซูมี่ลองแกล้งพูดอำอลันเชิงขำขัน ทว่าเขาดันไม่รู้สึกขำด้วย“ลองดูสิ” อลันให้คำตอบสั้น ๆ พร้อมยักคิ้วให้“ได้ใช่ม้า”“เราก็ลองดูสิ แล้วเดี๋ยวก็รู้ว่าพี่จะทำยังไงต่อกับเรา”อลันไม่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status