공유

ต่อปากต่อคำ

last update 최신 업데이트: 2025-03-27 00:02:55

และไม่ใช่ใครที่ไหน...

นอกซะจากนายตองเก้า เจ้าของฉายามารบรรพกาลที่ฉันเป็นคนตั้งให้

ร่างสูงโปร่งยืนพิงข้างประตูรถเก๋งคันหรูของตัวเอง...รถเก๋งที่ราคาของมันสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน ไม่สามารถจับต้องมันได้

นัยน์ตาเจ้าของร่างใหญ่ ที่กำลังมองตรงมาที่ฉันนั้นฉายแววประหลาด มันคล้ายกับปีศาจร้าย ที่ดูน่าเกรงขามในยามราตรี ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้า และแสดงอาการไม่พอใจออกมา โดยไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ในจังหวะเดียวกันกับที่ฉัน ได้หันไปบอกกับหลินซีว่า

“ฉันไปก่อนนะ แล้วจะรีบกลับ ”

“เออ...ไปเถอะโชคดีว่ะเพื่อน ”

หลินซีตบไหล่ พร้อมกับพยักหน้าให้เชิงเป็นกำลังใจ เมื่อได้เห็นสีหน้ากับท่าทางเซ็งๆ ของฉัน ที่แสดงออกมาโดยไม่คิดจะปิดบังอาการ

ฉันหันมองทางด้านข้างของรถผ่านกระจกบานใส  เพราะคนที่นั่งอยู่ข้างกันด้านใน ได้เงียบเสียงของตัวเองลงไป ตั้งแต่ตอนที่เราได้ออกมาจากบ้านของหลินซี  

ถึงแม้ตองเก้าจะหน้าตาดีมากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้ฉัน อยากจะหันไปมองหน้าเขาสักเท่าไหร่ 

เราปล่อยให้ระยะเวลาผ่านไป แต่แค่เพียงไม่กี่นาที ตองเก้าก็ได้ทำลายความเงียบนี้ลง

“ยัยบื้อ! นี่เธอเห็นข้างทาง น่ามองกว่าหน้าของฉันอย่างงั้นเหรอ? ”

‘เออดิ’...ฉันอยากจะตอบเขาออกไปแบบนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่ทำมันกลับตรงข้ามกัน

ฉันหันองศาไปมองหน้าของตองเก้า และจ้องเอาๆ ให้สมกับที่เขาอยากจะให้ฉันมอง 

ตองเก้าเป็นคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาเอามากๆ เสียแต่ว่าปากของเขา เหมือนกับมีหมาเน่า เข้าไปตายอยู่ในนั้นรวมกันได้สักสิบตัว

“เธอจะมองหน้าฉันทำไมขนาดนั้นฮะ!? ”

เจ้าของรถคงจะหมดความอดทนอดกลั้น ถึงได้หันมาตวาดใส่ฉันด้วยน้ำเสียงห้วนตึง มันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมคายนั่น และฉันก็รู้สึกสะใจ ที่สามารถกวนประสาทเขากลับไปได้

“เอ๊า! พอมองนายก็ว่า  เวลาไม่มองนายก็ไม่พอใจ นายจะเอายังไงกับฉันอีก ”

ฉันว่าพร้อมกับมองหน้าเขาเพื่อรอเอาคำตอบ

“ เอายังไงงั้นเหรอ?...แน่ใจนะว่าเธออยากจะฟัง”

สีหน้าบวกกับท่าทาง ที่กำลังแสดงออกมาของคนด้านข้าง ทำให้สัมผัสได้ถึงความไม่น่าไว้วางใจ

“อื้อ...ว่ามา”

แต่ฉันก็ยังทำใจกล้าไปท้าทายกับอำนาจมืด ที่แฝงอยู่ในร่างของมนุษย์ที่เป็นบุรุษรูปงาม ซึ่งมีนามว่าตองเก้าเอาซะอย่างงั้น

“ฉันให้โอกาสเธอเปลี่ยนใจ” เขาว่า โดยไม่ละสายตา ไปจากถนนด้านหน้า

“รีบพูดมาเลยดีกว่า” ฉันย้ำเขากลับไป ด้วยความมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

“แน่ใจนะ?”

ตองเก้าก็ยังไม่วายใช้คำถามเดิม จนทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจ จึงหันไปตวาดใส่

“เอ๊ะนายนี่!”

เท่านั้นแหละ...ตองเก้าถึงบอกออกมาได้

“เธอแม่ง!...ชอบทำให้ฉันแข็งค้าง"

พอได้ฟังอย่างนั้น ฉันก็สตั๊นไปเลยสิคะ...

แต่ทว่า...ยังพอจะเรียกสติของตัวเองกลับมาได้...

และอีกฝ่ายก็เหลือบตามามองปฎิกิริยาของฉันแว๊บหนึ่ง ซึ่งพอเห็นว่าฉันยังนั่งนิ่งและไม่ชิงแทรกอะไร เขาจึงได้พูดประโยคต่อไป

"ฉันอยากได้เธอตอนนี้..เพราะชุดเซ็กซี่ที่เธอตั้งใจใส่มาอ่อยฉัน มันดันกระตุ้นความต้องการอย่างแรง และที่ฉันอธิบายให้เธอฟังอยู่นี่ หวังว่าคนที่กำลังเรียนหมอ ก็น่าจะพอเข้าใจ เธอรู้ใช่มั้ยว่า เวลาที่ผู้ชายมันมีอารมณ์อยากจะซั่ม แล้วต้องทำยังไง? ”

ตองเก้าปล่อยหมัดเข้ามาใส่ จนฉันแทบจะหงายหลัง เหมือนเขากำลังลองเชิงฉันอยู่...ก็ไม่รู้สินะ

ประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามของเขา ทำเอาฉันอยากจะกระโจนออกไปนอกรถทันที หลังจากที่ได้ฟัง ความมั่นใจที่เคยมี เห็นทีน่าจะติดลบ  

“นายมันเป็นคนที่ไม่มียางอาย หากฉันทำให้นายรู้สึกอย่างนั้นได้จริง นายก็คงจะแข็งค้างกับผู้หญิงทุกคน เช่นตอนที่นายอยู่กับผู้หญิงในร้านเหล้า นายก็ต้องคอยออกไปชักว่าวทิ้ง เพราะได้เห็นพวกผู้หญิงเหล่านั้น ตลอดเวลาเลยอย่างงั้นสิ”

ว่าเขาแล้วฉันก็สะบัดหน้าหันไปอีกทาง พลางยกมือขึ้นมาลูบใบหน้า ที่เริ่มจะร้อนระอุขึ้นมา ในตอนที่ฉันทำใจกล้าว่าเขากลับไปบ้าง อย่างที่ไม่คิดจะยอมให้กันได้ง่ายๆ และในเวลานี้ความอายอะไรนั่น ฉันคงต้องโยนมันทิ้งไป หากต้องปะทะคารมกับผู้ชายอย่างเขา

และเมื่อตองเก้าได้ฟังอย่างนั้น เขาจึงหักพวงมาลัยรถ ลงมาจอดตรงไหล่ทาง พลางหันขวับมามองฉันเชิงคาดโทษ ด้วยสายตาโกรธจัด ฉันเริ่มสะบัดร้อนสะบัดหนาว ใจเต้นราวกับกลองเพลในจังหวะที่แปลกไป

“ครั้งแรกในรถ แบบสดเลยนี่เธอยังไม่เคย...ใช่มั้ย? ” 

ตองเก้าเอ่ยถาม ในจังหวะที่โน้มหน้าเข้ามาใกล้ แล้วใช้แขนทั้งสองข้างล็อคตัวฉันไว้ ส่วนฉันก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบเขากลับไป ขณะเดียวกันก็นั่งตัวลีบไหล่ห่อ และทำท่าหงอใส่เขาทันที เพราะหนีไปทางไหนไม่ได้แล้วนั่นเอง

หากฉันยังทำปากเก่ง ก็เกรงว่าอาจจะเข้าทางของอีกฝ่ายไปโดยปริยาย

“ฉันล้อนายเล่น แล้วนายก็แกล้งหยอกฉันเล่น เช่นเดียวกันใช่มั้ยละตองเก้า?”

ฉันก้มหน้าขณะเอ่ยถามเอากับเจ้าตัวเขาเสียงเบา เพราะใบหน้าของเราทั้งคู่อยู่ใกล้กัน จนฉันได้ยินเสียงลมหายใจ ที่คล้ายกำลังติดขัดของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

“ฉันไม่เคยเล่น...กับใคร...”

"งั้น..ฉันขอโทษนายก็ได้"

"...ฉันไม่รับ...ไม่เอาอะไรทั้งนั้น...นอกจากเธอ...อันนา"

“ไม่นะ! ยะ...อย่า...อื้อออ...”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status