Share

ต่อรอง

last update Last Updated: 2025-03-25 18:42:14

{Tongkao part}

ผมอุ้มอันนาลงมาจากรถ แล้วค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก ตอนแรกกะว่าจะพาเธอไปที่ซุ้มของผมนั่นแหละ แต่เพราะที่นั่นมันมีลูกน้องของผมอยู่กันมาก หากต้องการจะทำอะไร มันคงไม่สะดวกนัก

ที่นั่นเป็นซุ้มรวมพลของคนรักการสื่อสาร ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นส่วนใหญ่ จะเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับอุปกรณ์กู้ภัย อาทิเช่น ไฟไซเรน กล่องเสียงเพื่อส่งสัญญาณ อีกทั้งวิทยุสื่อสารมากมายหลายชนิด รวมไปถึงอุปกรณ์ที่สามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้ กระทั่งไม้ที่มีเอาไว้สำหรับใช้จับงู ที่เลื้อยเข้ามาเพ่นพ่านในบ้านคน นั่นก็ยังไม่พ้นกู้ภัยอย่างเรา

ผมชื่อตองเก้า กำลังเรียนมหาลัยอยู่ชั้นปีที่สาม ในคณะวิศกรรมไฟฟ้า ปีเดียวกับอุลตร้าที่เป็นพี่ชายของอันนานั่นแหละ เพียงแต่อยู่คนละมหาลัย ส่วนเธอผมสืบจนรู้ได้ว่า เธอเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันกับผม เพียงแต่อยู่กันคนละคณะเท่านั้น  

อันนาเพิ่งจะเข้ามาเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาลัยที่นี่เป็นปีแรก และมันคงไม่แปลกนักหากว่าผมจะสนใจเธอ

ยังไงนะเหรอ?

เพราะเธอเป็นน้องสาวของไอ้อุลไง...

ผมต้องการพาเธอไปทำมิดีมิร้าย อย่างที่เธอคิดเอาไว้ แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะผมดันคิดแผนการ ที่แยบยลกว่านั้นขึ้นมาได้

ไอ้อุลมันจะต้องเจ็บปวดหัวใจ เหมือนอย่างที่มันเคยทำกับผมไว้ จนไม่เหลือความเป็นเพื่อนให้กันอีกต่อไป

อันนาน่าจะไม่รู้เรื่องราว ระหว่างผมกับพี่ชายของเธอนั่นแหละ แต่นั่นมันคงไม่ใช่ประเด็น เพราะผมเห็นว่าอันนาเป็นแค่เหยื่อ พอเอาเธอเบื่อแล้วก็ค่อยทิ้ง และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำ  เพื่อสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น

เจ้าของใบหน้าน่ารัก เสียแต่ว่าปากดีไปหน่อย หากเธอเป็นผู้ชาย คงจะโดนผมต่อยปากแตก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน

ผมยาวของอันนาดำขลับรับกับใบหน้าขาวผ่อง ขนตาของเธองอนยาวเป็นแพหนา อยู่บนดวงตากลมโตคู่สวย จมูกโด่งเล็กนั่นด้วยที่เชิดรั้น บ่งบอกเลยว่าอันนาเป็นคนที่ไม่ยอมใคร  และสิ่งสุดท้ายก็คือริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธอ ที่ทำให้ผมเผลอมองจนแทบลืมหายใจไปชั่วขณะ

ยิ่งตอนเห็นเธอใช้สายตา พร้อมกับขยับริมฝีปาก ขึ้นมาเถียงกับผมเสียงแปร๋น ผมโคตรอยากให้เธอใช้ปาก กับอย่างอื่นของผมแทนมากกว่า

ผมทอดสายตามองคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ  พลางใช้ความคิดพร้อมกับพิจารณาเจ้าของร่าง แล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างในร่างกายคล้ายกำลัง....

ตื่นตัว!

แม่ง!...เต็มที่เสียด้วยสิ...

มึงต้องอดทนให้ได้นะไอ้เก้าน้อย...แล้วค่อยไปว่าวเอาออกทีหลัง

 สมองสั่งการให้ผมสลัดความคิดในหัวทิ้งไป และให้กลับมาอยู่ปัจจุบัน...

ไอ้อุลมันเคยทำให้ผมเจ็บมากแค่ไหน มันจะต้องเจ็บมากกว่านั้น ผมต้องไม่เผลอใจหรือหวั่นไหว ไปกับน้องสาวของมัน แม้ว่าเธอจะน่ารักมากแค่ไหนก็ตาม

อันนาเริ่มขยับตัว แล้วค่อยๆ เปิดเปลือกตา ขึ้นมาสำรวจสิ่งที่อยู่รอบกายไปทั่วๆ  และสุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ตัวผม

เธอเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งพลางลูบคลำตัวเอง จากนั้นจึงยกขาทั้งสองข้าง ขึ้นมาชันเข่าแล้วกอดเอาไว้  นัยน์ตาเธอตื่นตกใจ ราวกับเห็นผมเป็นไอ้บ้าหื่นกาม

“ นายยังไม่ได้ทำอะไรฉันใช่ไหม? นายต้องการอะไร? อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ”

เธอพูดกับผมเสียงเครือสั่น รวมไปถึงร่างกายของเธอนั่นก็ด้วย

อันนาถอยร่นไปจนสุดโซฟา เมื่อเห็นว่าผมขยับร่างเข้าไปใกล้ และมันไม่ใช่เรื่องยาก หากผมจะคว้าตัวเธอมาทำอะไรๆ แต่ผมกลับเลือกที่จะไม่ทำ

ถ้าอีกคนไม่ยินยอมพร้อมใจ หรือให้ความร่วมมือกัน แล้วมันจะไปสนุกตรงไหนละ

ในเมื่อผมก็พอมีวิธีที่จะทำให้อีกฝ่าย ยินยอมพร้อมใจตามกันไปได้ แต่มันคงไม่ใช่เวลานี้ไง เพราะดูแล้วอันนาน่าจะยังไม่เคยกับเรื่องแบบนั้น  และมันเป็นหน้าที่ของผม ที่จะทำให้เธอรู้สึกคุ้นชินกับมันไปทีละอย่าง ก่อนจะจับเธอเชือดทีหลัง

“ ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไร...เธอก็เป็นลมไปก่อนแล้วมั้ย...จืดชืดฉิบหาย ใครมันจะไปมีอารมณ์กับผู้หญิงอย่างเธอได้วะ”

อันนามุ่ยหน้าเมื่อได้ยินผมต่อว่าเธอเชิงดูแคลน เจ้าตัวเม้มปากแน่น จนเห็นลักยิ้มขึ้นบนแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ที่สามารถรอดพ้นอันตราย จากเงื้อมมือของคนอย่างผมได้

รอยยิ้มของเธอช่วยทำให้โลกทั้งใบ สว่างสดใสขึ้นมาทันทีอย่างที่เห็น เพราะนัยน์ตาของเธอเป็นประกาย เหมือนมีดาวระยิบระยับประดับอยู่ในนั้น

  “ แต่...”

ผมละไว้ ในขณะที่มองสบตากับเธอนิ่งๆ เพื่อต้องการให้เธอได้รู้ว่าผมกำลังจริงจัง

อันนาเลิกคิ้วขึ้นสูงเชิงรอฟังให้ผมพูดต่อ แต่พอเห็นว่าผมยังเฉยอยู่ ด้วยความอยากรู้เธอจึงได้เอ่ยถาม อย่างที่ต้องการจะเอาคำตอบให้ได้เลยทันที

“ แต่อะไรละ? ”

“ ต้องให้ฉัน...จูบเธอ... ”

!!!

เธอเบิกตากว้างพร้อมกับส่ายหน้า...แต่ทว่านั่นผมยังพูดไม่ทันจบ

“ให้ฉัน...จูบเธอ จนกว่าฉันจะพอใจ...”

ผมบอกแล้วรอฟังคำตอบรับ แต่เธอกลับเงียบเสียงของตัวเองลงไป คล้ายกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก จนผมชักทนไม่ไหว และเธอก็คงจะเห็นอาการของผมว่ากำลังหงุดหงิดใจ เธอถึงได้รีบบอกออกมาทันควัน

"ก็นายพูดออกมาเองว่าฉันจืดชืดฉิบหาย แล้วยังจะมาจูบฉัน ให้เสียอารมณ์นายไปทำไม?"

เออ...แล้วก็มาย้อนถามกูกลับ ทำเอาตั้งรับซะแทบไม่ทัน และไปไม่เป็นกันเลยทีนี้...

แต่หัววิศวะอย่างผม ก็ตีเนียนด้วยการตอบโต้อีกฝ่าย กลับไปอย่างหน้าด้านๆ แบบที่ไม่คิดจะยอมให้กันได้ง่ายๆ

“ งั้นก็ไม่ให้กลับ...และอาจจะทำมากกว่าที่กำลังทำอยู่ ”

ผมรีบขู่ทับ ถึงเธอจะพยักหน้ารับ แต่ก็ต่อรองกลับมาเสียงอ่อย

“ แค่หอมแก้มฉันเฉยๆ ได้ไหม? ”

เธอพูดพร้อมกับก้มหน้า และไม่ยอมสบสายตากับผมตรงๆ สงสัยคงจะอายนั่นแหละ

“ฉันหอมไปตั้งหลายทีละ ตอนที่เธอหลับ สงสัยต้องเพิ่มจากจูบเป็นจับ พร้อมกับลูบคลำจนหนำใจให้อีกอย่างมั้ย?”

“มะ...ไม่เอา!งั้นจูบอย่างเดียวก็ได้!”

 สุดท้ายอันนาก็ต้องยอมเสียแขนขา เพื่อรักษาอวัยวะสำคัญ ถูกของเธอแล้วหละที่จะคิดได้แบบนั้น....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status