"คืออาเห็นว่าเทนอยู่กรุงเทพมานาน อาเลยอยากถามว่าเทนเคยเจอลูกพีชลูกสาวอาบ้างหรือเปล่า อารู้มาว่าคุณตาคุณยายส่งน้องไปเรียนที่กรุงเทพหลายปีแล้วเหมือนกัน" นายพันทาถามถึงลูกสาวที่ไม่ได้เจอหน้าหลายปีตั้งแต่คุณตาของเธอมารับออกจากโรงพยาบาลเมื่อ 6 ปีก่อน
"อยู่นานก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ทั่วนี่ครับ" เสียงห้วนตอบพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก "ผมว่าอาอย่าเยื้อเลย มีอะไรจะว่าก็ว่ามาตามตรง ผมไม่ได้มีเวลามาฟังเกริ่นนำมากมายนักหรอก"
"คือเราจะกลับมาอยู่บ้านข้าง ๆ นี่อีกค่ะหลาน...เอ้อ พ่อเลี้ยง" เธอรีบเปลี่ยนคำทันทีที่เห็นสายตาแข็งกร้าวตวัดมองก่อนจะพูดต่อ "เราเลยอยากให้พ่อเลี้ยงช่วยตามหาน้องลูกพีชให้ค่ะ" หญิงคนดังกล่าวเป็นคนโพล่งขึ้น
"ไปตามหาเองเถอะ ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอก อีกอย่าง ผมก็จำหน้าลูกพีชไม่ได้แล้วด้วย" ชายหนุ่มเอ่ยตอบเสียงห้วนพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน *กูว่าละ เก็งหุ้นเก่งแบบนี้กูคงรวยกว่าไอ้ศิไปนานละ สัส ... ชายหนุ่มคิดในใจ*
"โอ๊ย! จะจำไม่ได้ได้ไงล่ะค่ะ ก็ยายลูกพีชอ้วน ๆ ขาว ๆ เตี้ย ๆ ใส่แว่นหนา ๆ กี่ปีกี่ปีก็คงไม่เปลี่ยนไปหรอกค่ะหลานขานอกซะจากว่าจะตายแล้วเกิดใหม่นั่นแหละ" หญิงคนดังกล่าวโพล่งขึ้นเสียงดังอย่างไร้มารยาท
"นั่นสินะ คน ๆ เดิมคงเปลี่ยนไม่ได้มากนักหรอก แล้วคุณล่ะ? ไม่คิดจะตายแล้วเกิดใหม่บ้างหรือ เผื่อมารยาทจะมี ปากจะได้สร้างสรรค์ขึ้นมาบ้าง" ชายหนุ่มว่าขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าอย่างไม่พอใจ
"นี่!" "แก่ 40 กว่าแล้ว สะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นหรือไงถึงได้พูดสอดพูดเสือกคนคุยกันแบบไม่ขอ ไม่รู้จักต่ำจักสูงหรือไงถึงได้มายืนค้ำหัวผมแบบนี้ ไม่มีตูดก็ออกไปยืนรอข้างนอก!" พ่อเลี้ยงอุเทนสอนคนเกิดก่อนเสียงนิ่ง ทำเอาหญิงคนนั้นก้มหน้าหลบตาทันที ทั่วทั้งเชียงใหม่รู้ดีว่า พ่อเลี้ยงอุเทน ถึงจะเป็นหนุ่ม อายุไม่ได้มากเหมือนพ่อเลี้ยงทั่วไป แต่เขาก็น่ากลัวและเด็ดขาดมาก จนถูกขนานนามว่าพ่อเลี้ยงสายโหดของเมืองเหนือเลยก็ว่าได้
"เงียบเถอะ! ผมจะคุยเอง ถ้าไม่นั่งก็ออกไปรอข้างนอก" นายพันทาเอ่ยกับภรรยาไม่เต็มเสียงนัก
"ไม่ค่ะ ฉันจะอยู่ด้วย" หญิงสาวว่าทำท่าจะนั่งลง
"ออกไปรอข้างนอก!" เสียงห้วนออกคำสั่ง พร้อมกับจ้องมองผู้หญิงคนนั้นแบบไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับกดปุ่มที่อยู่ข้างมือไม่นานประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหญิงคู่หนึ่งแต่งตัวด้วยชุดม่อฮ่อมพื้นเมืองของทางเหนือ
"ครับ พ่อเลี้ยง" คำปัน เอ่ยถามทันทีพรางปรายตามองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
"พาผู้หญิงคนนี้ออกไปรอผัวเธอที่ศาลาหน้าบ้าน!"
"ครับ พ่อเลี้ยง" คำปันก้มรับคำทันที "เชิญครับ" ผายมือเชิญแขกของผู้เป็นนายพร้อมกับมองอย่างกดดัน จนหญิงคนดังกล่าวกระทืบเท้าเดินออกไปแบบไม่พอใจนัก
"คราวนี้อาก็พูดตามที่อาคิดมาได้แล้วครับ" พ่อเลี้ยงอุเทน เอ่ยขึ้นพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ถอดแว่นตาออกวางลงบนโต๊ะ กอดอกมองหน้าผู้มาเยือนนิ่งจนคาดเดาความคิดไม่ได้
"ตอนนี้สิตาขายบ้านในเมืองแล้ว เราเลยจะมาอยู่ที่บ้านนี้อีก" นายพันทาเอ่ยออกมาพร้อมกับถอนหายใจ
"ขายแล้วก็เอาเงินนั่นไปตามหาลูกพีชเองสิครับ ทำไมถึงอยากให้ผมตามหาให้ล่ะ" เทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน
"อาไม่ได้มีความคิดนั้นหรอก แต่สิตา..."
"อยากได้ที่ดินไปขายแบ่งกัน" ชายหนุ่มต่อท้ายประโยคให้ ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก "ผมไม่สะดวกช่วยเมียอาทำเลวหรอกนะ ที่ตรงนั้นอาก็เป็นคนให้เตี่ยช่วยโอนให้ลูกพีชไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงอยากตามใจเมียใหม่ไม่คิดถึงความรู้สึกลูกแล้วล่ะ หรือว่าเป็นความต้องการของอาด้วย" ความตรงไปตรงมาของเทน ทำเอาผู้มาขอความช่วยเหลืออึกอัก
"จริง ๆ อาไม่มีความคิดที่จะขายหรอกเทน แต่สิตารังควานลูกพีชไม่เลิก อาเลยอยากตัดปัญหา" นายพันทาตอบไม่เต็มเสียงนัก
"ตัดปัญหาหรือให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าบ่อนล่ะอา ได้ข่าวว่าไปติดไว้ที่บ่อนนอกหลายแสนเลยนี่ ระวังนะอาเขาจะตามเก็บเอา แล้วอาไม่สงสารลูกพีชหรือไง ถ้าอาจะขายความทรงจำดี ๆ ของลูกไป"
"อา..." "เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมไม่ยุ่งละกัน มันเป็นเรื่องภายในของอา แต่ถ้าผมเป็นอา ผมจะให้ความสำคัญกับลูกสาวมากกว่าผู้หญิงล้างผลาญคนนั้น" ชายหนุ่มว่าขึ้นพรางมองหน้าแขกสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านความรู้สึกไม่ได้
"ถ้างั้นอาขอตัวก่อนนะ" พันทาว่าพรางลุกขึ้นยืน
"อา เรื่องในอดีตตอนผมไม่อยู่ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เท่าที่รู้ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายลูกพีชไว้เยอะมาก ถึงเราจะเคยเป็นเพื่อนบ้านกันก็เพราะแม่ผมรักลูกพีชกับอารุ้งหรอกนะ ฉะนั้นถ้าผมรู้ว่าลูกพีชเป็นอะไรผมจะไม่เกรงใจอาแน่" เทนลุกขึ้นยืนส่งแขกพร้อมกับเอ่ยเตือนเป็นนัย ๆ เมื่อก่อนพันทาเป็นคนดีขยันขันแข็ง เอาการเอางานจนได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ แต่...ตั้งแต่เสียภรรยาคนแรกไปและอยู่กับภรรยาคนปัจจุบันเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว ทรัพย์สินที่เคยมีกับภรรยาคนเดิมก็ทยอยขายจนเกลี้ยงและได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเมื่อหลายปีก่อน เพราะเจ้าหนี้มาตามที่บ้านนี้ไม่ขาด ห่างหายไปหลายปีตั้งแต่เขาเรียนปริญญาตรีจนเขาจบโทถึงได้เห็นหน้ามาขอความช่วยเหลือในวันนี้
"เทน ถ้าเจอลูกพีช อาฝากดูแลน้องด้วยนะ" นายพันทาหันมาบอกชายหนุ่มก่อนจะเปิดประตูออกไป
ชายหนุ่มถอนหายใจมอง 2 ชายหญิงที่เดินเหมือนทะเลาะกันออกไปจากบริเวณบ้าน พร้อมกับส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกง กดโทรออกหาพ่อกับแม่ที่กำลังพักอยู่ที่ต่างประเทศกับญาติ
'ว่าไงคะพ่อเลี้ยง' เสียงหวาน ๆ ของคุณแม่อุ่นรักของลูกชายดังมาตามสาย
"ขอพรได้กี่วัดแล้วครับ ลูกคนที่ 2 ของเจ้" เอ่ยแซวแม่ตัวเองอย่างอารมณ์ดี
'โอ๊ย! ไม่ขอแล้วย่ะ ขอไปก็ไม่ได้หลานสาว แม่ขอให้ลูกชายแม่มีเมียดีกว่าอย่างน้อยแม่ก็ได้ลูกสาวเพิ่ม' คุณแม่ว่ามาตามสายพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจกับความคิดตัวเอง
"แม่ครับ เมื่อครู่อาพันมาหาผม เมียเขาจะให้ตามหาลูกพีชให้" เสียงเครียดของลูกชายทำเอาคุณแม่ขมวดคิ้วพร้อมกับมองหน้าสามีที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ข้าง ๆ ทันที
'ลูกว่าอะไรนะเทน?' แม่เลี้ยงอุ่นรักเอ่ยถามเหมือนไม่มั่นใจ เพราะคนที่ลูกชายกล่าวถึง เธอไม่ได้เห็นหน้ามาปลายปีแล้ว
"อาพันครับแม่ มาหาผมบอกว่าอยากให้ผมช่วยหาลูกพีชให้ เมียเขาอยากขายบ้านข้างบ้านเราครับ" ชายหนุ่มย้ำอีกรอบ
'ไม่ได้นะเทน ห้ามนะลูก บ้านนั้นคุณตาลูกพีชสร้างเป็นเรือนหอให้อารุ้งนะ แล้วที่ดินก็เงินอารุ้งซื้อ อาพันไม่ได้มีส่วนอะไรเลย แล้วเมียใหม่พันทาเป็นหนี้อ้อมจังหวัดเลยนะ แม่ว่านางไม่ได้อยากขายแค่ที่หรอก น้องลูกพีชเป็นหลานคนเดียวตามีที่นาเป็นพันไร่ แม่ว่านางต้องการมากกว่านั้นแน่ ๆ สิตาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ลูกอย่าไปช่วยมันนะ' แม่เลี้ยงอุ่นรักว่าอย่างตกใจ เพราะกลัวว่าลูกจะช่วยเหลือ 2 สามีภรรยาตามหาเด็กสาวที่น่าสงสารคนนั้น เธอยังจำติดตา ภาพเมื่อ 6 ปีก่อน ที่เด็กสาวกุมแขนที่มีกระดูกทิ่มออกมานอกเนื้อวิ่งมาล้มที่หน้าบ้านเธอในสภาพหน้าตาบวมปูด ปากและหัวแตกต้องเย็บหลายแผล เพราะไม่ยอมบอกรหัสตู้เซฟของแม่ให้เมียใหม่ของพ่อ จนเธอและสามีต้องช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลแล้วติดต่อคุณตาคุณยายของเด็กสาวที่ต่างอำเภอให้มาช่วยเหลือ
"ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกครับแม่ แล้วตอนนี้ผมก็จำหน้าลูกพีชไม่ได้แล้วด้วย" ชายหนุ่มตอบแม่พร้อมกับถอนหายใจ
'แม่ก็ไม่ได้เจอน้องนานแล้วเหมือนกัน ป่านนี้คงโตเป็นสาวแล้วล่ะ ถ้าเทนเจอน้อง เทนต้องช่วยน้องนะ ลูกพีชเป็นเด็กดีมาก แม่ว่าเมียพันทาไม่หยุดแค่นี้แน่ ต้องพยายามหาวิธีขายที่ตรงนั้นแน่ ๆ' แม่เลี้ยงอุ่นรักว่าพร้อมกับฝากฝังลูกชายในตอนท้าย ด้วยความสงสารเด็กสาวคนนั้นจับใจ
"แม่ครับ...หน้ายังจำไม่ได้แล้วบ้านคุณตาคุณยายอยู่ไหนก็ไม่รู้ ผมจะดูแลได้ยังไงครับ" ชายหนุ่มหัวเราะความคิดของแม่
'ย่ะ เอาที่สบายใจค่ะพ่อเลี้ยง แค่นี้นะคะแม่จะไปบนให้ลูกชายได้เมีย ชื่อ ลูกพีช ค่ะ ชิ!' ว่าจบแม่เลี้ยงก็กดวางสายปล่อยให้คนโทรหาชายมองหน้าจอมือถือแล้วถอนหายใจเบา ๆ
"หน้ายังจำไม่ได้แล้วกูจะช่วยดูแลได้ยังไงวะ สั่งง่ายแต่ทำยากนะแม่กูเนี่ย" ....
26 ปีต่อมาแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาหนุ่มหล่อหน้าคม ใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่เดินเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์สุดหรูกลางเมือง แล้วต้องหยุดชะงักมองไปที่โซนลอบบี้ ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเปลี่ยนเป้าหมายทันทีที่เห็นหน้าคนรอ"แม่..." เสียงทุ้มเรียกคนเป็นแม่อย่างดีใจพร้อมก้าวขายาว ๆ เข้าไปสวมกอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างคิดถึง"หยุด...ครับลูก นี่เมียป๊าครับ" เสียงห้วนของหนุ่มใหญ่วัยเลยกลางคนที่นั่งมองอยู่ที่โซฟารับแขกของอะพาร์ตเมนต์ว่าขึ้นพร้อมกับมองหน้าลูกชายและภรรยาดุ ๆ "หวงเว่อร์ไปหรือเปล่าป๊า นี่ผม ทอย ลูกชายป๊าไง" ทอยหรือหมอทอย ศัลยแพทย์หนุ่มสุดหล่ออนาคตไกล วัย 25 ปี ผู้ได้รับทุนจากโรงพยาบาลดังในไทยมาศึกษาแพทย์เฉพาะทางที่นี่และเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลของโรงพยาบาลในเครือเดียวกัน พูดกับผู้เป็นพ่อพร้อมกับชี้หน้าตัวเองขำ ๆ "เข้าใจว่าลูก แต่แกจะ 26 แล้วนะ โตพอจะไม่หอมแก้มแม่แกแล้ว" ป๊าหรือพ่อเลี้ยงอุเทน ว่าให้ลูกชายที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กตลอดเวลา แล้วเชิดหน้าไปทางอื่น"โอ๋...เด อิจฉาแม่ว่างั้น ฟอด! ฟอด! ให้ป๊า 2 หอมเลย" ลูกชายตัวดีรีบปล่อยแม่แล้วรวบกอดผู้เป็นพ่อจากทางด้านหลัง หอมที่แก้มพ่อแรง ๆ ทั้ง 2 ข้าง ทำเอา
3 ปีต่อมาหลังจากเรียนจบ ลูกพีชกลับมาเป็นหมอใช้ทุนมหาลัยที่โรงพยาบาลในจังหวัดบ้านเกิด เทนดีใจมากที่ภรรยาจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าบริษัทส่งออกของเขายังอยู่ที่กรุงเทพและกำลังไปได้ดี แต่ก็มีลูกน้องที่ไว้ใจได้อย่างองอาจไปช่วยดูแลให้และมีโรมเป็นที่ปรึกษา โรงบ่มไวน์ของเทนเกือบแล้วเสร็จเหลือเพียงลงเครื่องจักรบางอย่างเกี่ยวกับการผลิต การขยายรีสอร์ตแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้นานนับปี และสิ่งหนึ่งที่ทำนอกเหนือจากโครงการที่วางไว้ช่วงแรกนั่นก็คือสวนดอกไม้เมืองหนาวที่เป็นความฝันของคุณทอรุ้งแม่ของลูกพีชแต่ทีแรก แต่ปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอินที่สวยงาม มีคู่บ่าวสาวหลายคู่มาขอเช่าเป็นสถานที่จัดงานแต่งกลางแจ้งที่แสนโรแมนติกหลายคู่ ด้านหลังที่เป็นเชิงเขาเทนปรับให้เป็นลานกางเต็นท์และลานกิจกรรมให้กลุ่มวัยรุ่นหรือหมู่คณะที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ได้เช่าทำกิจกรรมที่ใช้เสียงค่อนข้างดังและไม่รบกวนผู้มาพักรีสอร์ต ซึ่งถือว่าการบริหารงานของเทนประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนลูกพีชนั้นเป็นคุณหมอสุดสวยใจดีประจำแผนกเด็กของโรงพยาบาลประจำจังหวัด……….//……….@Ro me barเทนเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้องทำงานของเพ
โรงพยาบาลเอสองอาจเดินถือแฟ้มเอกสารยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามาหาลูกพีชที่วอร์ดก่อนจะยื่นให้แล้วก้มหลบสายตาจับผิดที่ภรรยาเจ้านายมองมา "อะไรคะพี่องอาจ" หญิงสาวเอ่ยถามแต่ไม่ได้รับเอกสารมาดู"พ่อเลี้ยงไปดูบริษัทที่อังกฤษ 2 สัปดาห์ครับ" องอาจว่ายิ้ม ๆ "พีชรู้แล้วค่ะ""มีงานต้องเซ็นด่วนครับ แม่...เอ้อ คุณลูกพีช" องอาจว่าพลางเปิดเอกสารหน้าหน้าแรกยื่นให้ *เฮ้อ...ผัวให้เรียกแม่เลี้ยง เมียให้เรียกลูกพีช กูล่ะปวดหัว* องอาจคิดในใจ"ปกติพี่โรมเซ็นแทนเฮียไม่ใช่หรือคะ งานด่วนพีชไม่เคยเซ็นนะคะ แล้วพีชก็อ่านไม่เข้าใจด้วย" ลูกพีชว่าพลางมองหน้าองอาจงง ๆ เพราะปกติเอกสารด่วนที่บริษัทขนส่งของเทน จะเป็นโรมช่วยดูแลให้ถ้าเทนไม่อยู่ เธอไม่เคยยุ่งหรือวุ่นวายงานส่วนนั้นของเขาเลยซักครั้ง"คุณโรมไปต่างจังหวัดครับคุณลูกพีช พ่อเลี้ยงเลยบอกให้ผมเอามาให้คุณลูกพีชเซ็นแทนครับ ไม่ต้องอ่านให้เข้าใจหรอกครับ พ่อเลี้ยงอ่านมาแล้ว แค่ต้องเซ็นแค่นั้นครับ เซ็นเถอะครับผมจะได้กลับออฟฟิศแล้ว" องอาจตอบพร้อมกับคะยั้นคะยอยิ้ม ๆ "แปลก ๆ อีกแล้วนะคะพี่องอาจ ครั้งนี้พ่อเลี้ยงพี่องอาจให้มาเซ็นกี่ล้านอีกล่ะ พีชว่าพีชจะไปถอนชื่อออกจากบัญชีแ
"มันเป็นเงินส่วนแบ่งขายที่ทั้งหมดในกรุงเทพของย่าน่ะลูก จริง ๆ บ้านเกิดพ่ออยู่กรุงเทพช่วงที่พ่อกับอาเรียนมหาลัย ย่าเราป่วยบ่อย ๆ ปู่เลยชวนท่านมาอยู่บนดอยเพราะอากาศดีกว่า ท่านเลยขายที่ในกรุงเทพแล้วก็ชานเมืองทั้งหมด แล้วแบ่งให้พ่อกับอาคนละครึ่งให้บริหารจัดการกันเอง แล้วท่านก็กลับไปอยู่บนดอยบ้านเกิดของคุณปู่เงียบ ๆ ตรงนั้น กับญาติพี่น้อง พ่อกับอาแบ่งกันดูแลท่าน ตอนนั้นพ่อไม่รู้จะใช้ทำอะไรก็เก็บเป็นเงินฝากประจำไว้ พอแต่งงานแม่หนูก็จัดการบัญชีนี้เองทีแรกจะเปลี่ยนเป็นชื่อแม่เขาแต่เขาไม่ยอม แล้วมันก็รวมกับเงินหลายส่วนที่หาได้ตอนนั้นด้วย แต่พ่อก็ไม่รู้ยอดจริง ๆ หรอก จนแม่หนูเสีย ก่อนจดทะเบียนกับสิตาพ่อเลยเอาไปโอนให้อาไว้ดูแลปู่กับย่าห้าล้านแล้วปิดเรื่องบัญชีเป็นความลับ เพราะตอนนั้นพ่อโดนบังคับจดทะเบียน พ่อกลัวว่าถ้าสิตารู้เงินพวกนี้จะเปล่าประโยชน์ ส่วนซองนั่นเป็นของขวัญครบรอบชิ้นสุดท้ายของพ่อที่ให้แม่ แต่แม่เรายังไม่ได้เปิดดู ลูกลองเปิดดูสิ" หลวงพ่อพันทาว่ากับลูกสาวพร้อมกับยิ้มให้แล้วชำเลืองมองลูกเขยยิ้ม ๆ ท่านรู้จากแม่เลี้ยงอุ่นรักและเจ้าสัววินัยว่าเทนอยากได้ที่ข้างไร่ของแม่เลี้ยงทำเป็นโรงบ่มไ
3 วันต่อมา งานหมั้นเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นของเทนกับลูกพีช ถูกจัดขึ้นที่บ้านหลังเดิมของลูกพีชที่อยู่ติดกับบ้านของเทน ลูกพีชอยู่ในชุดไทยล้านนาสีงาช้างปักทองแท้ทั้งชุดเกล้าผมมวยสูงปักปิ่นทองฝังเพชร สวมเครื่องประดับเพียงแค่สร้อยคอสีเงินเส้นเล็กที่เทนซื้อให้เท่านั้นซึ่งดูแล้วไม่ลงตัวยิ่งนัก"สวยมากเลยลูก เสียดายนะที่ชุดเครื่องหมั้นเครื่องแต่งของตระกูลเรามันหายไปพร้อมกับตู้เซฟนั่น ไม่งั้นหนูจะสวยมากกว่านี้" คุณยายกล่าวกับหลานสาวอย่างชื่นชมแต่เสียงเศร้าในตอนท้าย เมื่อนึกถึงเครื่องประดับตกทอดประจำตระกูล ที่คุณทอรุ้งแม่ของหญิงสาวเคยใส่ในวันหมั้นและวันแต่งงาน และท่านก็ให้เธอเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟเล็กที่เธอเอามาจากบ้าน ที่หายไปหลายปีแล้วตั้งแต่เธอเสีย"อย่าคิดให้เศร้าเลยค่ะยาย วันนี้วันดีไม่ใช่หรือคะ คิดซะว่าพีชไม่มีวาสนาก็ได้ค่ะ" หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ แล้วมองบรรดาเพื่อนสาวที่เดินยิ้มเข้ามาหาในห้อง"งามแต้งามว่า...จ่ะ แม่เลี้ยง ไม่น่าเชื่อเลยน้า...ว่าพรยายเวียนจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ นี่ขนาดเป่าครั้งเดียวนะ ถ้าเป่าครบ 3 ครั้งเฮียเทนทั้งรักทั้งหลงแน่นอน" อันดาว่าขึ้นพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้วิเวียนที่เดินตามเข้
สัปดาห์ต่อมาข่าวการจับกุมบ่อนการพนันรายใหญ่ในภาคเหนือเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ เพราะเจ้าของบ่อนที่แท้จริงเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ใจบุญที่ผู้คนนับถือกันทั่วทั้งภาคเหนือ สิตาโดนจับกุมได้ที่บ้านของพันทาในเวลาต่อมาขณะที่กำลังจะหลบหนี เธอโดนแจ้งข้อหาหลายคดี ทั้งปัจจุบันและคดีที่สร้างไว้ในอดีต พันทาถูกกันตัวเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย เพราะเขามีหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหลายอย่าง ศาลสั่งให้การสมรสของพันทาและสิตาเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น เพราะพันทาทำไปเพราะถูกข่มขู่บังคับไม่ได้สมัครใจ และที่เขาดีใจมากคือทรัพย์สินหลายอย่างในบ้านที่สิตาขายไปก่อนหน้านั้นและเขาแอบถ่ายใบเสร็จเก็บไว้ ภรรยาของนายบ่อนให้คนตามซื้อหามาคืนให้เกือบครบ พันทาเข้าไปกราบแทบเท้าขอบคุณอย่างซาบซึ้ง เพราะของบางอย่างเป็นสิ่งที่ภรรยาเขารักมากและมีคุณค่าทางจิตใจมาก เมื่อคดีจบพันทาได้เข้าไปกราบลาเจ้าสัววินัยกับแม่เลี้ยงอุ่นรักที่บ้าน ขออโหสิกรรมสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และลาสิกขาโดยตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาไม่มีกำหนดสึก เจ้าสัววินัยและแม่เลี้ยงต่างยินดีในสิ่งที่พันทาตัดสินใจ พันทาฝากลูกสาวไว้กับท่านทั้ง 2 ก่อนกราบลาอีกครั้งแล้วไป