"หวานหวาน คุณป้าโทรมาบอกว่าอาทิตย์นี้ให้ไปนอนบ้านน่ะ คุณป้าอยากนอนด้วยก่อนไปฝึกงาน" ของขวัญพูดขึ้นขณะที่กำลังช่วยเพื่อนจัดของลงกล่องเพื่อย้ายไปฝากไว้ที่บ้านลุงกรณ์ น้ำหวานได้ให้ลุงกรณ์พาไปบอกเลิกสัญญาเช่าที่เมื่อเดือนก่อนและขอฝากของบางส่วนไว้ที่บ้านของลุงกรณ์และบางอย่างเธอก็แจกให้กับคนบ้านใกล้เรือนเคียงจนเกือบหมดโดยเฉพาะเสื้อผ้าของเธอที่เก็บเอาไว้เพียงแค่ได้ใส่และมีบางส่วนเอาไว้ใส่ทำงานที่ต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งสิ่งของที่เธอฝากลุงกรณ์ไว้ส่วนใหญ่เป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจและของที่ตาของเธอซื้อให้ตั้งแต่เด็ก ๆ แม้จะเป็นเพียงตุ๊กตาผ้าตัวเล็ก ๆ เธอก็ซักเก็บไว้เป็นอย่างดี"หวานขอนอนที่นี่เถอะ อีกไม่กี่วันหวานก็ต้องไปแล้วนะ หวานอยากจำที่นี่ไว้" น้ำหวานบอกเพื่อนหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงตัวเองจะอยู่ที่นี่อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น"เอาน่าหวานไปเพื่ออนาคตนะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ของขวัญพูดให้กำลังใจเพื่อนยิ้ม ๆ"อือ ... เออ ใช่ ประชุมพี่มาร์คมานี่ หวานยังไม่ได้ไปทำความสะอาดคอนโดเดือนนี้เลยนี่หว่า มัวแต่นั่นนี่ลืมสนิทไปเลยว่ะ" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเพิ่งนึกได้"โอ๋ย... ก็บอกอยู่ว่าพี่มาร์คอาจจะไปนอนที่บ
"ทีเมื่อก่อนไม่เห็นอึดอัดเลยนี่หรือว่าต้องถอดเสื้อนอนจะได้หลับสบาย มา...พี่ถอดให้" คนเจ้าเล่ห์ว่าพลางทำท่าจะลุกขึ้นถอดเสื้อให้จริง ๆ ทำเอาหญิงสาวถึงกับกอดเอวหนาไว้หลับตาแน่น"ไม่เอาไม่ถอด" เสียงหวาน ๆ ดังขึ้นพร้อมกับเม้มปากแน่น ทำเอาคนโดนกอดกลั้นขำอย่างเอ็นดูแล้วรั้งหัวหญิงสาวเข้ามาซุกไหล่กว้างของตัวเอง"เฮ้อ... งั้นรับปากมาก่อนว่าคืนนี้เราจะนอนด้วยกัน" "ไม่นอน" เสียงเล็ก ๆ สวนขึ้นทันที"งั้นพี่โทรบอกไอ้โรมว่าวันนั้นหวานทำอะไรพี่" ว่าแล้วทำท่าล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงจะกดโทรออกหาเพื่อน ทำเอาคนตัวเล็กตาโตรีบแย่งมือถือเป็นพัลวันจนไม่ห่วงหน้าอกหน้าใจที่ถูกปลดตะขอชั้นในแล้วยืดตัวขึ้นแย่งมือถือสุดแขนจนเต้าสวยแทบจะชิดหน้าชายหนุ่มอย่างลืมตัว"พี่มาร์คอย่าแกล้งหวานเอามือถือมานะ หวานไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะหวานไม่รู้เรื่องหวานเมา" คนตัวเล็กโวยวายพร้อมกับพยายามคว้ามือถือที่ชายหนุ่มยกขึ้นเหนือหัว"ยอมรับใช่มั้ยว่าเมา" ว่าพลางมองหน้าเด็กดื้อดุ ๆ เขาเคยบอกเธอหลายครั้งแล้วว่าอย่าดื่มกับลูกค้า แต่น้ำหวานไม่เคยฟังแล้วพอโดนดุทีไร โรมจะเป็นคนเข้ามาโอ๋น้องคอยให้ท้ายทั้งน้ำหวานและของขวัญตลอดทำให้พวกเธอไม
Namwhan Partฮัลโล...ลอนดอน ตอนนี้เรามาอยู่ที่ลอนดอนได้หลายวันแล้วค่ะ ตอนแรกที่มาถึง พี่มาร์คพามาที่อพาร์ตเมนต์ของบริษัท แทบจะไม่อยากเข้าไปเหยียบเลยจ้า หรูมากแม่ แล้วห้องกว้างมากมีห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่นแยกโซนเหมือนคอนโดพี่มาร์คเลยค่ะแต่แคบกว่านิดนึง เพราะที่นี่มีห้องนอนเดียวแล้วคุณปู่ก็ให้พ็อกเก็ตมันนี่มาคนละห้าแสนค่ะ (ฟังไม่ผิดนะคะ ห้าแสนบาทไทยเลยค่ะ)สั่งให้เราหาชุดทำงานใส่ หวานว่ามันมากเกินไปนะทีแรก แต่พอซื้อเสื้อผ้าที่ยัยน้องขวัญพาเข้าร้านเท่านั้นแหละ คุณพระ! ตัวเป็นหมื่น ซื้อไปน้ำตาตกในไปเสียดายตังค์ กระเป๋ารองเท้าที่น้องขวัญซื้อให้แทบจะขึ้นหิ้งได้เลยนะ ใบใหญ่กว่าซองมาม่านิดนึงเป็นแสนเลยแม่ แพงโพดแพงโพ นี่ยังไม่รวมกับข้าวที่นี่ แทบอยากจะกินวันละ 2 มื้อเลยอ่า แล้ววันก่อนพี่มาร์คพาไปเลี้ยงข้าวเย็น โอ้..จานเป็นพันน่ะแม่ ไม่กล้าสั่งเลยจ้า ณ จุดนี้สั่งข้าวไข่ดาวให้อิหวานก็กินแล้วค่ะ แพงเกิ๊น...แล้ววันนี้เราก็นอนเติมพลังกันสุดฤทธิ์ตั้งแต่บ่ายเพื่อไปฝึกงานวันแรกพรุ่งนี้ค่ะ แต่หวานต้องมาตื่นเพราะความที่คุณท่านผู้ช่วยท่านประธานสาขาดอกเตอร์มนัสพงษ์คิดอยากจะกินซุป
"ห้องทำงานของน้องนำ.... อืม..." จอห์นสันพยายามนึกชื่อไทยของหญิงสาว"ฮันนี่ค่ะ คุณจอห์นสันเรียกเธอว่าฮันนี่ก็ได้" ของขวัญเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ ทำให้น้ำหวานหันไปมองหน้าเพื่อนงง ๆ"เอาน่า ชื่อไทยออกเสียงลำบาก ขนาดชื่อน้องขวัญ คิดถึงเสมอ ยังเป็นคิตตี้เลย ฮันนี่นี่แหละน่ารักความหมายเดียวกัน" ของขวัญว่าเบา ๆ ให้ได้ยินกัน 2 คน ทำให้หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ"หวานก็คิดว่าชื่อเล่นน้องขวัญมี้ตั้งให้ซะอีก""ไม่ใช่ ๆชื่อจริงนี่แหละ แต่ครูอ่านไม่ออก ครูเลยเรียกแต่คิตตี้ ก็เลยได้ชื่อคิตตี้น่ะ" ของขวัญว่าพลางหัวเราะที่มาชื่อฝรั่งของตัวเอง"เอ่อ..." จอห์นสันอึกอักมองหน้าหญิงสาว"ค่ะ คุณจอห์นสัน?" ของขวัญว่ายิ้ม ๆ"ผมจะส่งฮันนี่ก่อนนะครับ แล้วค่อยไปส่งคิตตี้ที่ห้องทำงานของโปรเฟสเซอร์" จอห์นสันบอกยิ้ม ๆ พอดีกับประตูลิฟต์เปิดแล้วก้าวเข้าไปก่อนที่2 สาวก้าวตามไปติด ๆ แล้วเขาก็ปิดประตูลิฟต์ทันที "ห้องทำงานของฮันนี่จะอยู่ที่แผนกการตลาดระหว่างประเทศนะครับ ชั้น 6 ที่นั่นจะมีพนักงานหลายเชื้อชาติและมีคนไทยด้วยครับส่วนห้องทำงานของโปร
P mark น้องขวัญโดนทำร้ายที่ห้องพี่มาร์คค่ะ(อ่านแล้ว)ร่างบางเดินกลับเข้ามานั่งในห้องพร้อมกับถอนหายในเสียงดังจนรุ่นพี่คนไทยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เงยหน้าขึ้นมอง"น้องน้ำหวานโอเคมั้ยจ๊ะลูก" สิริถามเด็กสาวในสายตาเธอยิ้ม ๆ"เพื่อนหวานโดนผู้หญิงคนนั้นทำร้ายค่ะ แล้วบอสอยู่ตรงนั้นด้วย งือ...สงสัยต้องได้กลับไทยแน่ ๆ เลย" คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อยก้มลงฟุบหน้ากับแขนตัวเอง ทำเอาคนถามและคนอยากรู้มองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วมองหญิงสาวที่นั่งฟุบอยู่ด้วยความสงสัยก๊อก ! ก๊อก ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาทั้งห้องหันหน้ามองทางเข้า น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจระทึก"หวาน พี่มารับกลับห้อง กลับเลยจะได้พาคิตตี้ไปหาหมอ" เสียงมาร์คดังขึ้นหน้าประตูออกคำสั่งเสียงดังด้วยภาษาไทยที่บอกว่าอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก"เอ่อ... กลับได้หรือคะ" น้ำหวานถามอย่างไม่มั่นใจ"ได้ พี่อนุญาต เก็บของเลย" มาร์คสั่งเสียงห้วนจนน้ำหวานลนลานเก็บเอกสารบนโต๊ะแล้วคว้ากระเป๋าตัวเองขึ้นสะพายบ่าบอกลารุ่นพี่ในแผนกแล้วเดินออกมาหาชายหนุ่มที่ตอนนี้คิตตี้ยืนจับข้อมือของตัวเอ
"พี่มาร์คกลับไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวหวานจะเก็บของแล้ว" น้ำหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายตัวเองไว้ที่โต๊ะกลางก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของแต่โดนมือใหญ่รวบกอดจากทางด้านหลังแล้วรั้งร่างบางเข้าไปแนบอก"จะไปไหน?""ก็กลับไทยไงคะ น้องขวัญไม่อยู่หวานจะอยู่ยังไง แล้วประธานศิลาคงไม่ให้หวานอยู่ต่อแน่ถ้าน้องขวัญไม่อยู่" เสียงเศร้าปนสะอื้นเบา ๆ ดังออกมาอย่างน่าสงสาร"ฟังพี่นะ (ว่าพลางจับคนตัวเล็กหันมาสบตา) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวานต้องได้ฝึกงานอยู่ที่นี่จนจบ เรื่องที่เกิดขึ้นหวานกับน้องขวัญไม่ผิดพี่จะไม่ยอมให้การตัดสินใจของมันทำลายอนาคตของหวานได้ พี่สัญญานะ" ชายหนุ่มว่าเสียงทุ้มพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก"แล้วพี่มาร์คจะค้านประธานศิลาได้หรือคะ ถ้าเขาไม่ให้หวานฝึกต่อ...""หวานเป็นเด็กทุนของคุณปู่นี่ไม่ใช่เด็กทุนของไอ้ศิมันซักหน่อย แล้วถ้าฝึกจบมันไม่ให้ทำงานต่อ พี่ฝากหวานเข้าทำงานในมหาลัยได้" ชายหนุ่มปลอบใจเสียงทุ้ม"แล้วหวานต้องทำไงต่อคะ หวาน..." "หวานก็ไปทำกับข้าวมากินกันไง นี่บ่ายแล้วนะ
"เอ่อ ..." "หืม? มีอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เด็กที่กำลังนั่งอ้าปากหวออยู่ข้างหน้า"ไม่มีอะไรค่ะ หวานง่วง..." ว่าพลางปิดปากหาวหวอดขึ้นมาทันที"ง่วงก็ไปนอนก่อนไป" ชายหนุ่มสั่งในขณะที่ตายังอ่านเอกสารในมือ"แล้วพี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ หวานจะได้ปิดไฟ""พี่นอนนี่" คนตัวโตพูดเสียงนิ่งทำเอาเจ้าของห้องอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ "ฮะ!""ก็บอกว่าไปนอนก่อนเลยหรือจะให้พี่พาไปนอน งั้น ปะ" ว่าแล้วปิดแฟ้มในมือทำท่าจะลุกขึ้น"เดี๊ยว... พี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ" คนตัวเล็กเบรกยาวถามประโยคเดิมอีกรอบ"ก็บอกว่า พี่นอนนี่" มาร์คตอบเสียงนิ่งเหมือนปกติแต่แอบกลั้นขำเด็กงงอย่างสุดฤทธิ์"ไม่ได้หวานไม่ให้พี่มาร์คนอน" หญิงสาวว่าขึ้นเตรียมจะลุกหนีเข้าห้อง แต่ไม่ไวเท่าคนตัวโตที่คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักตัวเองแบบง่าย ๆ"จะไปไหน" "ไปนอนค่ะ หวานง่วง" น้ำหวานตอบหน้าบึ้ง *ห้องตัวเองก็มีมั้ยวะ จะมานอนเพื่อ*"งั้นไปนอนกันพี่ก็ง่วง" พูดจบลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินเข้าห้องหญิงสาวทันที"พี่มาร์ค ปล่อยหวานก่อน" น้ำหวานโวยวายทุบอกแกร่งไม
"โอ๊ย!! เคยเจอที่ไหนล่ะคะ บอสกับโปรเฟสเซอร์ไม่เคยควงใครค่ะ เคยแต่ควงกันเองไปไหนมาไหนกัน 2 คน เวลาประชุมที ถ้าโปรเฟสเซอร์ว่ายังไงบอสก็เออออ หรือบอสว่าอะไรโปรเฟสเซอร์ก็เออออกะหนุงกะหนิงยิ่งกว่าอะไรซะอีก แล้วผู้หญิงหนึ่งเดียวที่ใกล้บอสก็คุณโรซี่นั่นแหละจนคนในออฟฟิศคิดว่านางเป็นแฟนบอสเลยไม่มีใครกล้าฉะกับนาง คิดจะไล่ใครออกก็ไล่ บางคนนางไล่ออกโปรเฟสเซอร์ก็ให้คนไปตามกลับมาทำงานก็มีนางนี่วี้ด ๆๆ เป็นหมาโดนน้ำมันเลยจ้า" โอปอล์ได้เพื่อนคุยก็ร่ายยาวอย่างคันปากคันคอทันที"แล้วบอสไม่ว่าอะไรเธอเลยหรือคะ เธอทำแบบนั้น" หญิงสาวเท้าคางถามอย่างสงสัย"จะว่าอะไรล่ะเห็นมีคนเคยพูดว่านางเคยช่วยบอสตอนที่บอสมาจากไทยใหม่ ๆ เลยถือเป็นบุญคุณกันล่ะมั้ง ทีแรกนางก็ทำฝ่ายการตลาดนี่แหละแต่นางไม่เอาใคร บอสเลยสั่งให้ย้ายเก็บเข้ากรุไปเป็นเลขาเหมือนต่อขาให้นางน่ะ ยืดคอสูงไปใหญ่ คิดจะชี้ใช้ใครก็ชี้จะไม่กล้าก็แค่กับโปรเฟสเซอร์เท่านั้นแหละ""แล้ว พิ...เอ้อ โปรเฟสเซอร์เค้าใจดีมั้ยคะ""มาก... ค่ะหนู คุณมาร์คคือนักสันถวไมตรีผู้สยบทุกอย่างบนโลกเคเอสของเราจ่ะ ใจดี ใจเย็น อ่อนน้อม น่
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม
"ไม่เห็นว่าอะไรนี่ ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คงเป็นปกติของอเมริกันชนน่ะ เพื่อน ๆ ของน้องขวัญเขาก็มีเซ็กส์กันตั้งแต่ไฮสคูลเยอะแยะไป แต่กับศิลา น้องขวัญก็คงแค่คู่นอนตอนกลางคืนตอนกลางวันเราก็เป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติ""จ่ะ เจ้านายลูกน้อง เรียกไปนอนกลางวันซะทุกวันขนาดนั้น แหนะ ๆๆ อย่าบอกนะว่าบอสหิวกลางวันด้วยน่ะ" หญิงสาวชี้หน้าถามเพื่อนอย่างล้อเลียน *พี่มาร์คก็คงคิดกับเราแบบนี้สินะ มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ผัว*"บ้า ~ ช่วงนั้นป่วยจริง นอนกลางวันจริงจ่ะ แต่ต่อไปก็ไม่ได้นอนแล้วไงก็มาฝึกงานกับหวาน เอ้อ... เห็นศิลาพูดว่าคุณปู่สั่งให้หวานขึ้นมาฝึกงานกับพี่มาร์คนี่ พี่มาร์คบอกหรือยัง?" ของขวัญตอบเพื่อนพร้อมกับถามอย่างนึกขึ้นได้"ก็เกริ่นเมื่อคืนนิดนึงนะแต่นิดเดียวจริง ๆ แต่ยังไม่รู้อะไรคงต้องรอผู้ใหญ่สั่งอีกทีล่ะมั้ง แต่หวานอยู่แผนกนี้ก็สนุกนะ พี่ ๆ น่ารักดี" น้ำหวานว่ายิ้ม ๆ *จะให้ไปทำไมวะแค่นี้ก็หายใจไม่ได้แล้วมั้ย*"เมื่อวานพี่โอปอล์กระซิบบอกว่าระวังเอริน่าแผนกต้อนรับ นางปลื้มพี่มาร์คมาก 2 วันนี้พี่มาร์คกับท่านประธานไม่อยู่ ระวังโดนหยุมหัว" ของขวัญยื่นหน้าพูดกับเ
4 ทุ่มของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม 2 คนเดินออกจากลิฟต์ของ อพาร์ตเมนต์ ศิลาต้องขมวดคิ้วแล้วดึงแขนเพื่อนอย่างนึกได้"เดี๋ยวมาร์ค มึงบอกว่าวันนี้น้องขวัญกับน้ำหวานจะกลับมานี่" พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองห้องตรงข้ามของมาร์ค"เออ~ ว่ะ แล้วจะมาตอนไหนไม่เห็นโทรบอกให้ไปรับวะ กูลืมน้อง ๆ ไปแล้วนะเนี่ย" ว่าจบมาร์คก็ล้วงมือถือมากดโทรหาน้ำหวานทันที ซึ่งเสียงมือถือก็ดังแว่ว ๆ ออกมาจากห้องของหญิงสาว"มาถึงแล้วไง" ศิลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปแตะคีย์การ์ดห้องตรงข้ามกับห้องของตัวเองเดินตรงเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาที่หน้าห้องของน้ำหวานอีกครั้งก่อนจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางเดินออกมาที่ห้องตัวเองผ่านหน้าเพื่อนชาย ซึ่งมาร์คก็ได้แต่ยืนยิ้มส่ายหน้าขำ ๆ"เฮ้อ...มึงก็มึนเกินศิลา ยังดีที่น้องขวัญไม่โกรธกูนี่สิ ขนาดมายังไม่บอกกูเลยเฮ้อ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเปิดประตูเข้าไปที่ห้องตัวเองอย่างหงอย ๆ "เอาเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุย" .............//..........4 ทุ่มของอีกวันวันนี้ทั้งวันมาร์คต้องออกไปพบลูกค้ากับศิลาที่ต่างเมืองชายหนุ่
ครืด.... ครืด....เสียงมือถือดังขึ้นทำให้คนกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันมาคว้ามือถือกดรับสายทันทีแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"สวัสดีค่ะ"(ตัวเล็ก)"คะ"(เป็นอะไรหรือเปล่า)"เปล่าค่ะ"(ศุกร์นี้ไปอเมริกากันนะ) เสียงปลายสายเอ่ยชวนพลางถอนหายใจเบา ๆ"ไปทำไมคะ"(น้องขวัญเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ) คำบอกเล่าทำให้น้ำหวานถึงกับลุกขึ้นนั่งชันเข่าทันที"น้องขวัญเป็นหนักหรือคะ" เสียงเครือปนสะอื้นดังลอดไปตามสาย(พี่ก็ไม่รู้หรอก วันศุกร์เลิกงานเราไปกันนะพี่จองตั๋วไว้แล้ว)"แต่หวาน..."(ไปเถอะพี่จองตั๋วไปแล้ว) มาร์คเอ่ยสวนขึ้นทันที"ค่ะ"(กินข้าวรึยัง ออกไปกินข้าวกับพี่มั้ย) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องชวนคุย"เรียบร้อยแล้วค่ะ หวานจะนอนแล้ว แค่นี้นะคะ" ตื๊ด! ....mark talkตั้งแต่วันนั้นน้องก็พยายามหลบหน้าผมตลอดเลย คงงอนไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ผมก็งานยุ่ง แต่จะว่ายุ่งแค่ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ครับ เพราะงานผมก็แบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ศิลามันไม่อยู่น้องขวัญที่กลับบ้า