“เพลินไม่นอนห้องนี้นะคะ” คนที่ถูกวางลงบนเตียงกว้างหมายจะรีบดีดตัวลุก แต่ก็ถูกคนตัวโตคร่อมขึงตัวของเธอเอาไว้
“ก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้นอนกับลูก แต่ให้เสร็จธุระที่ผมจะทำกับคุณก่อนได้ไหม” น่านฟ้าทางทับคนตัวเล็กไม่เต็มแรง เขาก้มก่ายกระซิบเสียงนุ่มละมุน ทั้งพ่นไออุ่นจากลมหายใจลงลำคอระหงส์ จนเพลินฝันเริ่มขนลุกขนชันนอนตัวเกร็ง เพราะพอจะรู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไรจากตัวของเธอ
เขาเงยหน้าจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มห่างเพียงไม่ถึงคืบ ดวงตาคมไล่ลองช้าๆ บนใบหน้าที่แสนคุ้นเคย ก่อนจะใช้นิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มนวลเบามือ “คิดว่าผมจะปล่อยให้คุณอยู่ที่บ้านนี้ฟรีๆ โดยไม่คิดค่าอะไรจากตัวคุณเลยหรือไง จะยอมผมไหม”
เพลินฝันเริ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงขณะที่คนตัวโตกำลังรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ พร้อมกับเริ่มสอดส่ายมือหนาเข้าไปที่ใต้เสื้อยืดตัวบางจนเพลินฝันต้องจับมือของเขาเอาไว้
เธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาคิดถึงปนโหยหาครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดปากพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจ
“ที่เพลินยอมเพราะ..พะ..”
ไม่ทันที่สาวเจ้าจะได้พูดความในใจที่ยังไม่เคยได้พูดให้เขาฟังจบ ริมฝีปากบางก็ถูกกอบกุมบดจูบกลืนเสียงไปเรียบร้อยแล้ว น่านฟ้าไม่ได้คิดจะฟังอะไร เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่หญิงสาวจะพูดก็คงไม่พ้นเรื่องลูกอีกแน่นอน
น่านฟ้าหลับตาบดจูบคนตัวเล็กครั้งแล้วครั้งเล่า ไล่เลื้อยพรมริมฝีปากอุ่นจากปากนุ่มลงมาลำคอระหงส์ ดอมดมกลิ่นกายหอมที่เคยคุ้นเคย
คนถูกเล้าโลมเริ่มตวัดแขนเรียวกอดรั้งคนตัวโตเอาไว้แน่นเมื่อความวาบหวามเริ่มแล่นพุ่งพล่านเข้ามาในกาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเธอโหยหาอ้อมกอดของเขามานานแสนนาน วันนี้เธอได้ครอบครองมันได้อีกครั้ง และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมเสียอ้อมกอดนี้ไปง่ายๆ เด็ดขาด
สองหนุ่มสาวบนเตียงนุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันครู่ใหญ่ด้วยกำลังมีไฟสวาทโหมอยู่ในกายพุ่งพล่านโหมกระหน่ำขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของทั้งสองตอนนี้ล่อนจ้อนเนื้อแนบเนื้ออยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ใบหน้าของทั้งคู่แดงซ่านขณะบดจูบแลกลิ้นกันระรัว
เสียงลมหายใจของน่านฟ้าเริ่มถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็ตวัดรั้งขาเรียวให้แยกออกจากกันก่อนจะส่งตัวตนผงาดแข็งเต็มที่ลุกล้ำเข้าไปในช่องทางรักที่กำลังเปียกชื้น
“อื้อ อ๊าย” เพลินฝันร้องลั่นแอ่นสะท้านตวัดรั้งกอดคอคนตัวโตแน่น เธอกลั้นหายใจไปชั่วขณะเมื่อความรู้สึกเจ็บจุกวิ่งผ่านเข้ามาในลำตัว
“อืม” น่านฟ้าขบเม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกเสียวสะท้านเพราะตัวตนถูกตอดรัดจนขนลุกซู่ เขากดแช่ช่วงล่างไว้ยังไม่ขยับพร้อมกับเริ่มบดจูบริมฝีปากบางส่งลิ้นร้ายตวัดเกี่ยวลิ้นเรียวเรียกอารมณ์วาบหวามของคนตัวเล็ก หลังจากนั้นจึงเริ่มโถมตัวลงสะโพกมนด้วยจังหวะนุ่มนวลไปพร้อมกับก้มดูดดึงอกอิ่มชูชันอย่างคนกระหาย
“อื้อ..คุณน่าน อืม” เพลินฝันส่ายหัวไปมาหลับตาพริ้มขบแม้มริมฝีปากแน่น เธอแอ่นสะท้านทุกครั้งที่คนตัวโตถาโถมกระแทกลงบนตัวของเธอ มือเรียวปัดป่ายจิกหมอนนุ่มระบายความเสียวซ่านจากการกระทำของชายหนุ่มจนปลอกหมอนแทบขาด ริมฝีปากบางเผยคราเสียงหวานเสมือนเย้ายวนให้คนตัวโตได้มีอารมณ์สวาททวีคูณขึ้น
“อ่าส...อืม” น่านฟ้ารวบกอดแผ่นหลังบางแน่น กัดฟันสบถความเสียวซ่านในลำคออยู่ข้างหูคนตัวเล็กก่อนจะเลื้อยพรมจูบเธออีกครา สะโพกของเขาเริ่มเคลื่อนไหวความรุนแรงขึ้นเพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ร่างกายของเพลินฝันยังคงทำให้เขาคลั่งได้ง่ายดายไม่เปลี่ยน และแล้วคืนนี้น่านฟ้าก็ง่วนอยู่กับการหาความสุขจากคนตัวเล็กแทบค่อนคืน
น่านฟ้าเดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องแต่งตัวในตอนเช้า เมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวกลมลุกขึ้นมานั่งขยี้หูขยี้ตาข้างคนเป็นแม่ที่ยังนอนหลับไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเข้าก็รีบปรี่เข้ามาอุ้มลูกเอาไว้ ด้วยกลัวว่าเจ้าก้อนกลมจะเข้าไปกวนเพลินฝันที่เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“มองแบบนี้ยังไม่คุ้นกันใช่ไหมครับ” น่านฟ้าแสยะยิ้มอ่อนมองลูกสาวแก้มย้วยที่กำลังมองจ้องเขาด้วยแววตาสงสัยด้วยความเอ็นดู นับเวลาคร่าวๆ ดูแล้วถ้าเดาไม่ผิดลูกของเขาก็น่าจะเก้าเดือนกว่า แต่ตัวโตเนื้อแน่นไม่ต่างจากเด็กขวบกว่าๆ ที่เคยได้เห็นเลย หากตอนนี้พ่อกับแม่ของเขารู้ว่ามีหลานน่ารักน่าชังคงอยากจะมาแย่งกันฟัดเป็นแน่ แต่ยังก่อน เขายังไม่อยากอธิบายอะไรกับครอบครัวตอนนี้
“อืม” เด็กหญิงยกมือป้อมสำรวจใบหน้าคนเป็นพ่อครู่หนึ่งก่อนจะไล่มือมาที่แผงอกและจับจ้องด้วยท่าทีสงสัย จนคนเป็นพ่ออย่างน่านฟ้าก็สงสัยเช่นกันว่าลูกของเขากำลังคิดอะไรอยู่
คิ้วหนาเริ่มขมวดย่นเมื่อเจ้าก้อนกลมก้มลงไปซบพวงแก้มกับอก ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นดวงตาคมที่มองลูกสาวตนด้วยสายตาอ่อนโยนก็เริ่มเบิกโพลงขึ้น
“อะ...โอ้ย โอ้ย...” เขาร้องเสียงหลงน้ำตาแทบไหลเพราะลูกสาวตนกำลังใช้ฟันสี่ซี่ที่เหงือกบนและล่างขบกัดหัวนมของเขาอยู่
เสียงร้องของน่านฟ้าทำเพลินฝันสะดุ้งตื่นขึ้น แล้วเธอก็ต้องรีบลุกไปอุ้มลูกของเธอที่กำลังหัวสั่นกับการเน้นเขี้ยวเน้นฟันออกให้ห่างจากตัวของน่านฟ้า
“โอ้ย เป็นรอยฟันเลย เจ็บมากไหมคะ” เพลินฝันมองไปยังรอยกัดที่หัวนมน่านฟ้าหน้าเสีย
คนที่กำลังเจ็บยืนตัวเกร็งหน้าดำหน้าแดงกัดฟันแน่น ไม่คิดว่าเจ้าตัวกลมจะมีพิษมีภัยต่อคนเป็นพ่ออย่างเขาได้ขนาดนี้
“ไม่ทำแบบนี้นะคะยัยหนู ป่ะป๊าเจ็บนะลูก” เพลินฝันเอ่ยเสียงเข้ม พร้อมส่ายหน้าน้อยๆ ให้ลูกได้รับรู้ว่าการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องที่ถูก
“ปะ ป่ะ” เด็กหญิงเริ่มพูดศัพท์ใหม่ที่คนเป็นแม่ได้เอ่ยขึ้นมา
น่านฟ้าเริ่มหูผึ่งความเจ็บเลือนหายไปจนหมด เมื่อได้ยินลูกเรียกตัวเองได้
“ยัยหนู พูดใหม่สิลูก ป่ะป๊า” เขารีบแย่งอุ้มเด็กหญิงจากเพลินฝัน ก่อนจะสอนลูกเสียงเล็กเสียงน้อย และเดินอุ้มออกไปนอกห้อง ทิ้งให้เพลินฝันยืนมองตามหลังด้วยแววตาแปลกใจอยู่คนเดียว เพราะไม่เคยเห็นคนสุขุมอย่างน่านฟ้ามีพฤติกรรมอ่อนโยนกับเด็กตัวเล็กๆ มาก่อน นี่ก็เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาสร้างความประทับใจให้กับเธอ
“คุณบอกว่ามีอะไรก็ต้องพูดตรงๆ ใช่ไหม”“ค่ะ”“ผมอยากมีลูกเยอะๆ บ้านเราจะได้ครึกครื้น คุณนึกไปถึงตอนที่ลูกๆ เราช่วยกันบริอหารกิจการของเราสิ ทุกคนจะมีพี่น้องให้ปรึกษาหารือกัน อีกอย่างวันรวมญาติ บ้านเราก็จะมีทั้งลูกเขยลูกสะใภ้แล้วก็หลานๆ มาคอยวิ่งเล่นให้มองเพลินตาด้วย”“โห...พูดมาขนาดนี้” เพลินฝันยังไม่เคยคิดไปถึงขั้นที่น่านฟ้าคิดเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอเริ่มเอ็นดูสามีของเธอเสียแล้ว“ใจอ่อนแล้วใช่ไหมล่ะ”“ก็ได้ค่ะ”พอเพลินฝันตกลงยอมที่จะมีลูกได้น่านฟ้าก็เริ่มปฏิบัติการทำลูกในทันที การพาภรรยาตัวเล็กมาอยู่ในบรรยากาศหนาวๆ เย็นๆ แล้วให้ความอบอุ่นแบบเนื้อแนบเนื้อกันสองต่อสองเป็นอะไรที่สามารถเรียกลูกให้มาได้ไวเสียเหลือเกินเพราะหลังกลับจากเที่ยวด้วยกันไม่นาน เพลินฝันก็ได้ตั้งท้องขึ้นมา แถมท้องครั้งเดียวยังได้ลูกแฝดเสียด้วย คราวนี้ก็สมใจคนเป็นพ่อที่อยากจะได้ลูกอีกสักสองคน“ของพี่นะ พรีมจะมาแย่งไม่ได้” พลอยชมพูนั่งหน้ามุ่ยเมื่อน้องชายวัยสี่ขวบกว่าแย่งตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลออกไปจากมือ“แต่พรีมอยากเล่น”น่านฟ้าวางลูกแฝดคนเล็กลงเปลก่อนจะรีบเดินเข้ามาหาลูกๆ ทั้งสองที่กำลังเริ่มจะทะเลาะกัน“แบ่งกันเล่นนะครับลู
น่านฟ้าเดินเข้ามาใกล้ภรรยาและโอบกอดเธอเอาไว้ ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ “แต่งงานกับผมนะครับ”“แต่งค่ะ” เพลินฝันน้ำตาคลอตอบโดยไม่ต้องคิด ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับเขาจนมีลูกคนที่สองแล้วแต่ก็ยังรู้สึกประทับใจกับการที่ชายหนุ่มมาขอเธอแต่งงาน เพราะนั่นเท่ากับว่าเขาจำเรื่องที่เธอเคยพูดเมื่อครั้งที่เริ่มตั้งท้องลูกคนที่สองได้ ว่าเธอฝันอยากจะถูกขอแต่งงานที่ริมทะเล“หม่าม๊ายอมแต่งงานกับป่ะป๊าแล้วยัยหนูต้องทำไงครับ”“ห้าย...แหยน มาม่ะ” เด็กหญิงส่งแหวนเพชรเม็ดโตที่กำอยู่ในมือแบตรงหน้าคนเป็นแม่“ขอบคุณนะคะ” ฟอด เพลินฝันยิ้มทั้งน้ำตายื่นมือรับแหวนมาจากลูกสาวก่อนจะกดจมูกหอมไปที่แก้มย้วยๆ ของยัยหนูพลอยชมพูฟอดใหญ่“ผมใส่ให้นะครับ”“ค่ะ”คนเป็นภรรยายื่นมือซ้ายให้น่านฟ้าก็ดึงแหวนวงเก่าออกจากนิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะสวมแหวนวงใหม่ที่เพชรเม็ดใหญ่กว่าเดิมไปแทนที่ หลังจากนั้นสามพ่อแม่ลูกก็ยืนกอดกันกลมพักใหญ่ จนสองสามีภรรยาอย่างโมนาและอินทัชอดน้ำตาคลอกับภาพที่ประทับใจนี้ไปไม่ได้คืนวันของความสุขได้ผ่านไปร่วมปี จนตอนนี้ยัยหนูพลอยชมพูได้สองขวบกว่าส่วนลูกชายคนเล็กของเพลินฝันอายุได้7เดือน ส่วนมากเด็กๆ ก็จะอยู่บ้านปู่กับย่าเป
“กว่าจะพูดคำว่ารักออกมาได้ เล่นซะทุกคนเหนื่อยกันหมดเลยนะคะ” เพลินฝันยืนยิ้มร่า เอ่ยหยอกชายหนุ่มที่กำลังมีสีหน้าตกใจอย่างขบขัน“อื้อ...” น่านฟ้าพุ่งตัวเข้าไปรวบเอวบางและจูบปิดปากคนตัวเล็ก เขาขยับริมฝีปากไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเพลินฝันเริ่มตัวอ่อนปวกเปียกคนที่ยืนให้กำลังใจทั้งคู่อยู่ที่ริมชายหาดต่างก็ก้มหน้าไม่มองภาพนั้นและรีบเดินหนีไปจากตรงนี้ ปล่อยให้คนทั้งสองได้แสดงความคิดถึงกันให้เต็มที่ในยามที่บรรยากาศกำลังโรแมนติกได้ของรักของหวงคืนมาได้น่านฟ้าก้เอาแต่นอนกกคนตัวเล็กไม่ให้ห่างอกอยู่ในห้องสวีทของโรงแรมหรูริมทะเล“จะนอนกอดเพลินอีกนานแค่ไหนคะ เพลินอยากไปหายัยหนู” เพลินฝันอยากจะกอดหอมลูกน้อยของเธอบ้างหลังจากไม่เจอกันหลายวัน แต่พ่อของลูกก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปเสียที“คุณแม่พายัยหนูไปพักที่โรงแรมอื่นแล้ว ให้เราอยู่สวีททำลูกคนใหม่กันที่นี่” เขายกมือถือโชว์ข้อความที่แม่ของตนส่งมาให้เมื่อครู่“ไม่เห็นคุณแม่บอกเพลินก่อนเลยคะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มห่อเหี่ยว“ขอเพลินไปหาลูกก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาให้นอนกอดเต็มที่เลยค่ะ”“บอกก่อนว่าทำไมต้องแกล้งกันถึงขนาดนี้ ผมใจจะขาดรู้บ้างหรือเปล่า”“ก็ให้ขาดไปเ
“ผมยังไม่ได้บอกรักคุณสักคำเลยเพลิน ทำไมไม่อยู่รอคำว่ารักจากผมก่อนครับ” เป็นอีกวันที่น่านฟ้าเอาแต่นอนกอดขวดน้ำเมาทิ้งตัวอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ไม่สนใจการงาน แม้กระทั่งข้าวปลาก็ไม่คิดอยากจะลุกขึ้นมาแตะ จนหน้าตาโทรมดำคล้ำตัวมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล“ท่าทางคุณน่านจะไม่อยากรับรู้อะไรเลยนะคะ คงจะรักคุณเพลินมากๆ” โมนาที่ยืนมองสภาพของน่านฟ้าอยู่ห่างๆ กับอินทัชเธออดที่จะหดหู่ใจกับภาพที่เห็นไม่ได้“ครับ” อินทัชมีสีหน้าหดหู่ไม่ต่างจากโมนา เห็นทีเอกสารที่แบกเอามาให้น่านฟ้าดูวันนี้คงจะต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปก่อนวันเวลาพ้นผ่านนานร่วมครึ่งเดือนที่น่านฟ้าไม่เป็นอันกินอันนอนทุกวินาทีของหัวใจที่เต้นมีแต่เสียงร้องเรียกหาหญิงสาวที่เคยเอ่ยบอกว่ารักเขาไม่เว้นวัน หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะบอกรักเธอตอบโดยที่ไม่คิดถึงเรื่องใดในอดีตทั้งนั้น“กลับมาให้ผมบอกรักคุณได้ไหมเพลิน” เสียงทุ้มสั่นเครือเอ่ยกับคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าจอมือถือ เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน ที่เสียใจไปกว่านั้นคือตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยจะได้พูดคุยดีๆ กับเธอเท่าไหร่นัก“ปะ...ป้ะ”น่านฟ้าวางมือถือที่กำลังที่หน้าจอกำลังโชว์หลารูปภรรยาตัวเล็ก ก่อนจะลุกจากโซฟ
หลังจากที่คุยกันไม่เข้าใจจนโมนาเลือกที่จะจู่โจมจูบอินทัช ทั้งคู่ก็ได้เผยความรู้สึกของตัวเองออกมาและแล้วก็มาสานสัมพันธ์กันที่คอนโดของชายหนุ่ม หน้าที่ส่งแขกเหรื่อกลับบ้านตอนนี้ก็เป็นของเจ้าของบ้านอย่างเมทินี“ห้ามดูถูกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับโมอีก เข้าใจไหมคะ” โมนานอนซบแผงอกอุ่นของอินทัช ตอนนี้เธอและชายหนุ่มเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยกันทั้งคู่“ถ้าพูดอีกล่ะครับ” เขาเอ่ยเสียงแกมหยอกพร้อมกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นโมนาขบริมฝีปากล่างของอินทัชเบาๆ “ก็จะถูกกัดปากแบบนี้”“ทำไมเลือกให้ผมเป็นคนแรกของคุณโมล่ะครับ”“ถึงโมจะรู้จักกับคุณไม่นาน โมก็รู้ว่าคุณคือคนที่จะดูแลโมได้ไปตลอดชีวิต”“ผมรับปากครับ ว่าจะดูแลคุณโมให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกผูชายอย่างผมจะทำได้” เอ่ยจบก็พลิกตัวคร่อมคนตัวเล็กและเริ่มต้นกระชับสัมพันธ์ด้วยบทสวาทอันแสนนุ่มนวลกับเธออีกครั้ง“กายเค้าไม่เหลือใครเป็นญาติผู้ใหญ่ เหลือแค่ตัวคนเดียวทางปิ่นกับคุณพลเลยต้องมาเป็นผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าบ่าวมาสู่ขอหนูโมค่ะ ทางพี่นิดเกริ่นเรื่องค่าน้ำนมมาได้เลยนะคะ” ปิ่นมณีเกริ่นเป็นพิธีเมื่อต้องเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอโมนาให้กับอินทัชที่บ้านของเมทินี“ถึงพ
“นี่...นึกไงไปเอาพนักงานบริษัทเป็นแฟน ดูเค้าสิ ท่าจะบริการคนอื่นจนเคยชิน ทำตัวเป็นเด็กเสริฟแทบจะตลอดทั้งงานแล้วมั้ง” เอเลน่าสาวไฮโซลูกครึ่งเข้ามาพูดกับโมนาด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ไม่คิดเกรงใจเจ้าของวันเกิด เพราะหมั่นไส้ตั้งแต่โมนาเลือกที่จะคบแค่พนักงานบริษัทและปฏิเสธที่จะเดทกับพี่ชายของเธอ“เค้าจะทำงานอะไรก็เป็นคนเหมือนกับเรานั่นแหละ คบกับคุณกายสบายใจกว่าคบพวกนักธุรกิจลูกไฮโซเยอะเลย”“ฉันคิดแบบแกไม่ได้หรอก ถ้าเป็นฉันก็จะคบแต่คนระดับเดียวกันเท่านั้น” หญิงสาวคิดว่าโมนาจะคล้อยตามบ้าง แต่เปล่าเลยเธอกลับปกป้องแฟนหนุ่มสุดชีวิต เอเลน่าจึงรีบเดินออกไปเพราะสามารถเข้าถึงความรู้สึกของโมนาได้จริงๆ“เพื่อนเหรอคะ” เพลินฝันกระซิบถามโมนาหลังจากสาวสวยหน้าลูกครึ่งเดินออกไปจากตรงนี้แล้ว“ในวงสังคมน่ะค่ะ จะไม่เชิญก็ไม่ได้เป็นลูกสาวเพื่อนคุณแม่”“คุณกาย” เพลินฝันหน้าชาวาบเพราะสายตาพลันไปเห็นว่าอินทัชยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลและสายตายังคงจับจ้องมายังเธอและโมนาไม่วาง เดาได้เลยว่าเมื่อครู่เขาคงได้ยนคำพูดของสาวสวยหน้าลูกครึ่งคนเมื่อครู่แน่อินทัชได้ยินทุกประโยคที่เอเลน่าพูดกับโมนา อินทัชรีบฉีกยิ้มแสดงท่าทางร่าเริ่ง