"เฮ้ย! ได้ไงวะ นี่เราเจอก่อนนะ" แมงปอว่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ
"ราคาเป็นหมื่น สภาพบ้านนอกแบบนี้คงมีปัญญาจ่ายหรอก นู่น...งานเซลล์อยู่หน้าร้านนู่น อย่ามาสะเออะในร้าน" สาวสวยว่าพลางเบะปากมองเจ้าขาและเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าเหยียด ๆ
"ก็ราคาแค่หมื่นมั้ยวะ บ้านนอกแล้วไง ปากแบบนี้อยากกราบตีนบ้านนอกมั้ยล่ะ" แมงปอว่าอย่างเหลืออดถึงพวกเธอจะเด็กบ้านนอกแต่เรื่องเงินแมงปอไม่เคยขัดสนเพราะเธอก็เป็นลูกสาวคนเล็กของกำนันดัง มีที่มรดกให้เช่าเป็นพันไร่ ถึงไม่ทำงานก็มีกินแถมเธอยังเป็นนักมวยค่าตัวแพงพอ ๆ กับเจ้าขาอีกด้วย
"เฮ้ยมึง ใจเย็น..." เจ้าขาพูดกับเพื่อนรักเสียงหวานแล้วมองหน้าพนักงานและลูกค้าสาวสวยตัวแสบนิ่ง ๆ
"ชุดนั้นเมื่อกี้มันอยู่ในมือเราแล้วเรากำลังจะลอง มีอีกชุดไซส์ s มั้ย" เจ้าขาชี้ไปที่ชุดที่หญิงสาวหยิบไปวางบนเคาน์เตอร์
"มีค่ะ สักครู่ค่ะลูกค้า" พนักงานของร้านว่าขึ้นยิ้ม ๆ เตรียมจะเดินเลี่ยงไปหยิบอีกชุดมาให้
"ชั้นไม่ใส่ชุดซ้ำกับอีบ้านนอกนี่นะ ถ้าแกเอามาให้มันลองฉันจะไม่ซื้อร้านแกอีก" หญิงสาวว่าขึ้นเสียงดังจนพนักงานชะงัก เพราะสาวคนนี้เคยมากับลูกชายคนเล็กของร้านและมาซื้อร้านนี้ประจำ (แต่ใช้ส่วนลดนะ)
"เอ่อ... คือ" พนักงานอึกอัก
"มีอะไรกัน" เสียงทุ้มห้วนดังเข้ามาในร้านทำให้พนักงานหันไปมองอย่างตกใจ ไม่คาดฝันว่าลูกชายคนเล็กของเจ้าของจะเข้ามาร้านตอนนี้
วันนี้โรมกับเทนเข้ามาที่ร้านก่อนจะออกต่างจังหวัด เพราะพี่สาวของเทนฝากให้มารับชุดคอลเลคชันใหม่ที่สั่งไว้ เธอเป็นลูกค้าแบรนด์นี้มานานตั้งแต่อยู่ที่ไทยและร้านนี้ก็เป็นของเพื่อนน้องชายเธอเลยใช้วิธีสั่งแล้วให้น้องชายมารับแทนทุกครั้ง
"คะ...คุณโรม" หญิงสาวที่อยู่ในร้านหันมาเจอชายหนุ่มถึงกับตาเป็นประกายทันทีแล้วเรียกชื่อเสียงหวานอย่างสนิทสนม แต่ต่างกับอีกคนที่ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มกอดอกพยายามระงับอารมณ์เพื่อจะฟังบทสนทนาดูความสนิทสนมของคนทั้งคู่
"แอลี่คิดถึงคุณโรมจังเลยค่ะ ไม่เจอหน้ากันนานเลยนะคะ" สาวสวยว่าเสียงหวานแล้วตวัดหางตามองพนักงานในร้านและเจ้าขาเหยียด ๆ
"ผมก็ต้องทำงานสิครับ แล้วนี่คุณแอลี่มาดูคอลเลคชันใหม่หรืองานเซลล์ล่ะ" ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ ปรายมองคนที่ยืนหันหลังให้อย่างใช้ความคิด
"ตกลงว่าจะขายให้เรามั้ยคะจะให้ลองได้มั้ย" เจ้าขาถามพนักงานอย่างสุภาพแล้วมองหน้าพนักงานเป็นคำถาม (เจ้าขาการแสดงเริ่ม...)
"อย่าให้อีบ้านนอกนี่ลองนะ ไม่งั้นฉันไม่ซื้อ" แอลี่พูดขึ้นเสียงดัง
"ไม่ซื้อก็ออกจากร้านไปสิคะ" เจ้าขาว่าพลางตวัดกลับมามองหน้า โรมถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่าร่างบางที่คุ้นตาจะเป็นน้องสาวลูกคุณลุง และตอนนี้กำลังมีเรื่องกับคู่นอนคนที่เท่าไหร่ของเขาก็จำไม่ได้ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูแม่เขารับรองเลยว่าเรื่องจะใหญ่มากเพราะดูท่าแล้วแม่จะโอ๋หลานสาวมากกว่าลูกชายอย่างเขาแน่ (มะโนเริดค่ะคุณพี่ เอาจริง ๆ พี่คิดไปเองโหม้ดดด... ใด ๆ คือเกรงใจแหละกลัวน้องโกรธ แล้วตัวเองจะไม่มีน้องเหมือนเพื่อน อุตส่าห์คุยกับเทนไว้เยอะว่ามีน้องแล้วต้องดูแลให้ดีเหมือนที่มาร์คดูแลน้ำหวานอย่างดี ให้ใช้แต่ของดี ๆ สอนการบ้านกันข้ามทวีป ตัวเองมีน้องตัวเองก็ต้องทำแบบเพื่อนได้ว่างั้นล่ะ)
"เอาไงคะ ยืนทื่ออยู่ทำไมคะ จะซื้อก็จ่ายไม่ซื้อก็ออกไปสิ อ๋อ... หรือจะรอผู้ชายจ่ายให้คะ แต่ดูแล้วผู้ชายคงไม่จ่าย เอ๊ะ! หรือจะจ่ายคะ" เจ้าขาว่าพลางเดินยกยิ้มเข้ามาใกล้ ๆ อย่างยียวนแล้วมองหน้าโรมนิ่ง ๆ เชิงคำสั่ง ว่า ห้ามจ่าย!
"นี่แก! แกรู้มั้ยว่านี่ใครอีบ้านนอก นี่คุณโรมลูกชายคนเล็กของเจ้าของแบรนด์นี้ย่ะ เขาไม่ต้องจ่ายฉันสามารถชี้ได้ทั้งร้านว่าฉันจะเอาชุดไหน" แอลี่เชิดคอบอกในขณะที่คุณโรมของเธอแอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วมองคนตัวเล็กว่าเธอจะทำยังไง
"เหรอ? ... งั้นลองชี้ดูสิคะว่าจะได้ไปกี่ชุด" เด็กแสบคว้าเครื่องคิดเลขขึ้นมาเตรียมกดราคา "ชุดนั้นที่วางบนเคาน์เตอร์ หมื่นสาม อะไรอีกน้า... (ว่าแล้วหันไปทางพนักงานส่งยิ้มทะเล้นและยักคิ้วให้) พี่ ๆ คะเดี๋ยววันนี้เราจะขายเสื้อผ้าของที่บ้านคุณโรม ให้คุณโรมกัน เรามาดูกันว่าคุณโรมจะกล้าจ่ายให้คุณป้าหน้าปลอมบ้านในเมืองนี่เท่าไหร่ ..." คนตัวเล็กว่าพลางเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วกดตัวเลขที่หน้าจอเครื่องคิดเลขโชว์ให้คนตัวโตดู
"เจ้าเว้ย เขาเป็นลูกเจ้าของร้านนะ" แมงปอกระซิบเตือนสติเพื่อนเบา ๆ
"แล้วไง นี่แหละสนุก อยากรู้ว่ะว่าจะเปย์อิหน้าปลอมนี่กี่ล้าน " หันไปตอบเพื่อนแล้วกัดริมฝีปากล่างเลิกคิ้วมองหน้าคนตัวโตอย่างท้าทาย ในขณะที่เทนเดินเข้ามาในร้านมองเพื่อนรักนิ่ง ๆ แล้วมองสาวตัวเล็กที่กำลังยียวนอยู่ในร้าน และจากอาการของเพื่อนเดาได้ไม่ยากว่านี่คงจะเป็นน้องสาวที่โรมกำลังเห่อนักหนา น่ารักมากมายคนนั้นแน่ ๆ "หึ"
"เอาสิคะป้า อยากได้ชุดไหนชี้เลย เราพร้อมขายมาก เอาดี๊... จะเสียเวลาทำไม ถ้าไม่ซื้อก็เรียก รปภ. ให้มาเอามันออกไป แล้วอย่าให้เห็นอีก ไม่งั้น ..." หญิงสาวเดินไปตบบ่าโรมเบา ๆ "ป้ายแดงก็เท่ากับกระป๋องโค้กนะคะ"
"แอลี่ ผมว่าคุณออกไปจากร้านของผมดีกว่านะ" โรมว่าขึ้นพลางถอนหายใจ พอประเมินได้แล้วว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแสบไม่น้อย และไม่น่าต่อกรด้วยเอาซะเลย
"แต่แอลี่ยังไม่ได้ชุดเลยนะคะคุณโรม" หญิงสาวออดอ้อน
"อยากได้ก็เลือกก็จ่ายเงินสิวะ พวกกูจะได้ซื้อ ยืนหนีบกีอยู่นั่นแหละ คันมากนักก็โน่น (ว่าพรางชี้มือไปที่เสากลมกลางห้าง) เสาอยู่โน่น" แมงปอว่าขึ้นเสียงดัง ทำให้เจ้าขาเดินเข้าไปหาเพื่อน
"ที่รัก...อย่าอารมณ์เสียสิ" ว่าพร้อมกับกอดคอเพื่อนกระซิบข้างหูเบา ๆ "คนนี้พี่ชายกู กูจะแกล้งอิป้านั่นให้กรี๊ด"
"น่ารำคาญมั้ยวะ แล้วนี่ขอลองชุดก็ไม่ได้ กลัวไม่ได้ขายอยู่นั่นแหละ กูมีเงินจะซื้อนะ ไม่ได้รอให้ผู้ชายมาเปย์ให้" แมงปอว่าเสียงดังจนทำให้โรมขมวดคิ้วแล้วหันมองหน้าเจ้าขาอย่างเป็นคำถาม
"ที่รักของเจ้ากำลังอารมณ์เสีย อิป้านี่แย่งชุดที่เรากำลังจะลอง พนักงานที่นี่ไม่ให้เราลอง เพราะอิป้านี่มันสั่ง" เจ้าขาว่าขึ้นเสียงนิ่งทำเอาพนักงานหลบหน้าชายหนุ่มที่ตวัดหางตามองทันที
"ผู้จัดการเอาคอลเลคชันใหม่ไซซ์นี้ทั้งหมดออกมา" โรมว่าขึ้นอย่างไม่พอใจ ทำให้ผู้จัดการและพนักงานลนลานขึ้นมาทันที ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โซฟายาวข้างเทนที่นั่งกอดอกรออยู่ก่อน เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหน้าบานพร้อมกับตวัดตามองเจ้าขาเหยียด ๆ แล้วรีบเดินไปนั่งลงที่พนักเท้าแขนข้าง ๆ ชายหนุ่มอย่างออดอ้อน
"พ่อแม่บ้านในเมืองเขาไม่สอนกันเหรอ ว่าพนักเท้าแขนเขาเอาไว้วางแขนไม่ได้มีไว้นั่ง" เจ้าขาว่าขึ้นพร้อมกับตวัดตามองหน้าโรมอย่างไม่พอใจ เพราะคิดว่าชายหนุ่มกล้าที่จะสั่งคอลเลคชันใหม่ยกเซ็ตให้สาวสวยต่อหน้าตัวเองอย่างไม่เกรงกลัวคำขู่ของเธอ มือบางลูบหัวเพื่อนเบา ๆ แล้วมองหน้าก่อนถอนหายใจเบา ๆ
"ไม่เป็นไร เราไปร้านอื่นอีกได้ เดี๋ยวเจ้าขายของให้คุณโรมจ่ายเงินให้ชะนีเน่านี่เรียบร้อยก่อนเราค่อยไปนะ" เจ้าขาว่ากับเพื่อนพรางขยิบตาเบา ๆ
"มึงรีบมั้ยเทน" โรมถามเพื่อนเสียงเบา ในขณะที่พนักงานเริ่มทยอยเอาชุดใส่ราวเข็นออกมา
"ไม่ว่ะกูมีเวลามองอะไรน่ารัก ๆ แบบนี้ทั้งวันนั่นแหละ" เทนว่าขำ ๆ กับคำว่าน่ารักของเพื่อน
"เค งั้นจ่ายเงินก่อนค่อยไปละกัน" ชายหนุ่มว่าขึ้นเสียงนิ่ง ซึ่งคนที่ได้ยินกลับยิ้มร่าหน้าบานขึ้นมาทันที
"สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะคุณโรม…
ยิ้มหน้าบานแต่เขาไม่ได้ซื้อให้นางค่ะสาว ^_^
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก