คำโปรย ...ถ้าพี่ชวนเจ้ากับเพื่อนไปนอนที่บ้าน ก็ไม่ปฏิเสธใช่มั้ย" "โห...พ่อ ชวนขนาดนี้ ถามอาจารย์ก่อนว่าได้มั้ย นี่ไม่ได้ใจง่ายนะ แต่ถ้าปฏิเสธก็น่าเกลียด...อาจารย์เจ้คะ! คืนนี้หนูพาเพื่อนไปนอนกับผู้ชายได้มั้ย.... แนะนำเรื่อง โรม รวัช หนุ่มหล่อ อารมณ์ดี ทายาทคนเล็กของบริษัทสิ่งทอยักษ์ใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับคนทั่วไปเสมอ แต่ ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มนั้น มีความกดดันมหาศาลซ่อนอยู่ ด้วยความที่เขาเป็นลูกคนเล็กจึงถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายและบรรดาเพื่อน ๆ เสมอ เลยกลายเป็นคนไม่ได้เรื่องที่สุดในครอบครัว แถมทำตัวไม่เอาอ่าว วัน ๆ อยู่แต่ร้านเหล้า เฝ้าผับบาร์ไร้อนาคตในสายตาของแม่ แต่...ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น เจ้าขา จันทร์เจ้าขา สาวน้อยภูธรจากอีสาน นักมวยหน้าหวานฝีมือดีที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพและพักอยู่ที่บ้านของผู้เป็นอาซึ่งก็คือ น้องสาวของพ่อบุญธรรมและเป็นแม่ของชายหนุ่ม เธอเป็นเด็กดื้อ และ ซน เพราะโตมาในค่ายมวยของพ่อ แต่สิ่งหนึ่งที่เธออยากมีนั่นก็คือพี่ชายดี ๆ ซักคน...
Lihat lebih banyak"โรม วันนี้อย่าเพิ่งออกไปข้างนอกนะ รอกินข้าวเย็นด้วยกันก่อน" เสียงคุณหญิงรวิดาเอ่ยสั่งลูกชายคนเล็กดังมาจากห้องนั่งเล่น ขณะที่คนถูกเรียกกำลังจะย่องออกจากบ้าน
"แม่ครับ ลืมหรือเปล่าผมต้องไปเปิดร้านนะครับ" ชายหนุ่มหันมาตอบคุณแม่เสียงอ้อน โรม หรือ รวัช เป็นลูกชายคนเล็กของคุณหญิงรวิดากับคุณศาตราประธานบริษัทสิ่งทอยักษ์ใหญ่ของไทย เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังกลางเมืองที่บังคับซื้อต่อมาจากพี่ชาย หนุ่มเจ้าสำราญไม่เอางานของที่บ้านถึงแม้พ่อกับแม่จะประเคนหุ้นให้ถึง 20%
"แม่สั่งแกก็ต้องอยู่ วันนี้ลุงอัฐจะมาส่งน้องสาวเรามาเรียนที่นี่ด้วย จะได้รู้จักกัน" คุณศาสตราว่าขึ้นขณะที่กำลังสนใจข่าวการเมืองอยู่ที่หน้าจอทีวี
"น้องสาวหรือครับ ลุงอัฐมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะครับพ่อ" ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามทันที เพราะลุงอัฐที่ว่าคือพี่ชายของแม่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่ทางภาคอีสาน ครองตัวเป็นโสดตั้งแต่เขาจำความได้และไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีลูกมีเมีย กลับบ้านที่กรุงเทพทุกปีก็ไม่เคยมีใครมาด้วย
"มีสิจ๊ะ น่ารักมากเชียวล่ะ แม่เห็นว่าโรมอยากจะมีน้องเหมือนมาร์คกับศิลาแม่เลยจะให้น้องมาอยู่ด้วย ต่อไปโรมจะได้มีน้องให้ดูแลกับเขาบ้าง จะได้มีความรับผิดชอบเป็นผู้ใหญ่เหมือนมาร์คกับศิลาเค้า" คุณหญิงรวิดาพูดกับลูกชายยิ้ม ๆ ท่านรู้ว่าโรมและกลุ่มเพื่อนดูแลเด็กสาวคนหนึ่งมาหลายปีเหมือนน้องสาวทั้งรักและเอ็นดูคอยช่วยเหลือเด็กคนนั้นอยู่ตลอดกับน้องสาวของเพื่อนที่ชื่อศิลาอีกคน จนตอนนี้เด็กสาวทั้ง 2 เข้าเรียน ม.ปลายกันแล้ว และท่านก็เคยเห็นเด็กทั้งคู่ตอนที่คุณหญิงวรรณารีแม่ของศิลาพามาออกงานสังคมเด็กสาวทั้งคู่สวยและน่ารักมากเหมือนที่โรมพูดถึง และเมื่อเทียบกับลูกสาวบุญธรรมของพี่ชายเธอก็สวยและน่ารักพอกัน เลยคิดว่าโรมต้องชอบแน่และยังแอบคิดไกลไปถึงอนาคตถ้าโรมจะลงเอยกับลูกสาวบุญธรรมของพี่ชายก็คงจะดี (เรือล่มในหนองว่างั้น)
"น่ารักหรือครับ?" ชายหนุ่มทวนคำพรางขมวดคิ้ว *น่ารักเหมือน 2 แสบนี่ปวดตับตายเลยนะนั่น คุณแม่ไอ้ศิตามใจเอาแต่ใจฉิบหาย..ชายหนุ่มคิดในใจ* พรางเดินไปนั่งที่โซฟาข้างคุณแม่อย่างสนใจ
"ใช่ลูก น่ารักมาก สวย หวานพอ ๆ กับน้องน้ำหวานของพี่มาร์คเค้าเลยล่ะ แต่จะผิวคล้ำกว่าหน่อย" คุณหญิงว่ายิ้ม ๆ
"คุณแม่คิดว่าไอ้ตัวเล็กมันหวานเหรอครับ คุณแม่ไอ้ศิตามใจจนเคย ผิดใจอะไรก็บูด ยิ่งน้องขวัญยิ่งไปกันใหญ่..." "อย่ามาพูด เทนบอกแม่ว่าที่น้องเป็นแบบนั้นเพราะเรานั้นแหละตามใจ แล้วดูซิมีน้องของตัวเองต้องดูแลจะเป็นยังไง" คุณหญิงว่าสวนลูกชายขึ้น ท่านรู้จากเพื่อนลูกชายที่เจอหน้าประจำ ว่าโรมตามใจน้องสาวทั้ง 2 ของเพื่อนมาก รักมาก โอ๋มาก ชนิดที่เทนกับมาร์คดุหรือว่าอะไรน้องไม่ได้เลย ประมาณว่าน้องเพื่อนแต่เพื่อนห้ามแตะ
"จะเป็นยังไงมันก็จะตามใจจนลูกเขาเสียคนอีกน่ะสิ" คุณศาสตราว่าขึ้นลอย ๆ
"โธ่ คุณพ่อครับ อะไรผิดผมก็ไม่ได้ตามใจ 2 แสบมันมากซะหน่อย แต่บางทีไอ้มาร์คกับไอ้เทนมันก็ดุน้องไปครับ น้องมันกลัวก็ต้องปรามพวกมันมั้ย" ชายหนุ่มพยายามให้เหตุผลของตัวเอง
"เอาล่ะ ยังไงเดี๋ยวลุงอัฐก็คงมาถึงเดี๋ยวแม่ไปดูกับข้าวเลยดีกว่า แล้วอย่าหนีไปไหนล่ะพ่อตัวดี เดี๋ยวพี่ ๆ กับจากัวร์จะมากินข้าวด้วย" คุณหญิงว่าพรางลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปในครัว พอดีกับเสียงรถวิ่งเข้ามาจอดในบ้านแล้วได้ยินเสียงน้องจากัวร์หลานชายคนเดียวของบ้านร้องทักมาก่อนตัวตั้งแต่ลงจากรถ
"คุณปู่ คุณย่า จามาแล้วครับ...." เสียงตะโกนใส ๆ ดังลั่นบ้านพร้อมกับเสียงวิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่น
"ยังไงครับสุดหล่อของปู่ร้องลั่นบ้านมาเชียว" คุณปู่อ้าแขนรับหลานชายสุดที่รัก
"อาเจ้ามาหรือยังครับคุณปู่ จาเตรียมขนมมากินกับอาเจ้าด้วยครับครั้งก่อนอาเจ้าแบ่งขนมจากิน จาเลยเอามาแบ่งอาเจ้ากินด้วย" หลานชายว่ายิ้ม ๆ พลางล้วงกระเป๋าดึงอมยิ้มอันใหญ่ออกมาโชว์
"โห... กินขนาดนี้ได้ฟันผุกันพอดี" คุณปู่ว่ายิ้ม ๆ
"ไม่หรอกครับ ครั้งก่อนอาเจ้าซื้อลิงตกปลาให้จาไม่เห็นจะฟันผุเลยครับ อาเจ้ามาก็ดีจาจะได้มีเพื่อนเล่น เล่นกับอาโรมไม่สนุก" เด็กน้อยว่าพลางเบะปากมองหน้าน้องชายพ่อ
"หนอย...แล้วอย่ามาเล่นกับอาอีกนะลิงจา" ว่าพลางดีดหน้าผากเด็กน้อยอย่างมันเขี้ยว แล้วหันไปยกมือไหว้พี่ชายที่เดินเข้ามาพอดี
"อือ... แล้วไอ้เจ้ายังมาไม่ถึงหรือครับพ่อ ลุงอัฐโทรมาบอกว่าติดงานบวชหลานผู้ว่า จะตามมาที่หลังให้ไอ้เจ้ามันมาก่อน" สรัญพยักหน้าให้น้องชาย แล้วหันไปคุยกับพ่อทำเอาน้องชายขมวดคิ้วเมื่อได้ยินพี่ชายเรียกชื่อคนที่จะมาใหม่อย่างสนิทสนม
"พี่รันรู้จักน้องเขาด้วยเหรอทำไมผมไม่เคยรู้เลยล่ะ?" โรมมองหน้าพี่ชายงง ๆ
"จะรู้ได้ไง แกอยู่บ้านที่ไหนน้องมาตั้ง 2-3 รอบแล้ว ล่าสุดอาทิตย์ที่แล้วพี่ก็เพิ่งพาเจ้าจาไปหากับคุณแม่ เจ้านี่ก็ชอบใจใหญ่ นี่พอรู้ว่าอาเจ้าจะมาก็รีบเร้าหรือจะมารอให้ได้" ตอบน้องชายแล้วจับหัวลูกชายโยกเบา ๆ ก่อนจะหันไปยกมือไหว้แม่ที่เดินเข้ามาพร้อมกับภรรยาของตน
"ขนาดนั้น?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม ซักพักได้ยินเสียงรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ซีซีสูงวิ่งเข้ามาในบ้าน
"แม่ว่าน้องมาถึงแล้วล่ะ เดี๋ยวแม่ออกไปรับน้องก่อนนะ ปะ! จี" คุณหญิงว่ายิ้ม ๆ พลางหันมาชวนลูกสะใภ้คนโตพากันเดินออกไปนอกบ้าน
"อาเจ้ามาแล้ว จาไปรับอาเจ้านะ" จากัวร์พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นแล้วโดดลงจากโซฟาวิ่งปรู๊ดนำหน้าออกจากห้องนั่งเล่นไปทันที สรัญจำต้องลุกเดินตามแม่ ภรรยาและลูกชายออกไปที่หน้าบ้าน
"คุณอา พี่รันพี่จีน่า สวัสดีค่ะ" เสียงหวานดังขึ้นที่หน้าบ้านหลังจากเสียงมอเตอร์ไซค์ดับเครื่องไม่นาน "หวัดดีตัวแสบ"
"หวัดดีลูก เป็นไงเดินทางปลอดภัยดีใช่มั้ย" คณหญิงรวิดาถามลูกสาวบุญธรรมพี่ชายยิ้ม ๆ
"ก็ดีค่ะ แต่ทำทางมาตลอดเลย เสียเวลามาก พ่ออัฐกับแม่บอกว่าจะตามมาอีก 2 วันค่ะ เสร็จงานบวชลูกผู้ว่าก่อน" เสียงพูดคุยกันดังเข้ามาในบ้านจนเกือบถึงห้องนั่งเล่น
"พ่อเราโทรมาบอกพี่รันแล้วล่ะลูก" คุณอาผู้แสนใจดีว่ายิ้ม ๆ ท่านถูกชะตาเด็กคนนี้มากตั้งแต่แรกเห็น
จันทร์เจ้าขา หรือ เจ้าขา คือชื่อที่น่ารักเหมาะกับตัวเธอมาก เธอเป็นสาวสวยร่างสมส่วน ผิวสีแทนเนียนละเอียด ผมยาวหยักศกลอนใหญ่สีดำธรรมชาติเป็นเงางาม ตาคมซึ้งมีแววหวาน ขนตายาวงอน จมูกโด่งสันสวยรับกับปากกระจับสีระเรื่องอย่างลงตัว เธอเป็นสาวสวยที่ครบเครื่องหน้ามากมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนได้รับฉายาว่าเป็นสาวน้อยร้อยมงของแดนอีสาน แต่เมื่อโตขึ้นเธอกลับไปสนใจกีฬามากกว่าเวทีประกวด เธอเป็นลูกของนายตำรวจชั้นประทวนลูกน้องคนสนิทของท่านอัฐที่ถูกผู้ร้ายลอบสังหารขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนเสียเขาได้ฝากฝังลูกและภรรยาขอให้ท่านอัฐช่วยดูแล ซึ่งท่านก็รับปากและได้ขอจดทะเบียนรับจันทร์เจ้าขาเป็นลูกสาวบุญธรรมต่อหน้าลูกน้องตั้งแต่นั้น ส่วนภรรยาของเขาท่านได้ดูแลในฐานะพี่ชายน้องสาว อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันมานานนับ 10 ปี ความใกล้ชิดและสนิมสนมกันทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันเงียบ ๆ เมื่อไม่นานมานี้โดยมีสักขีพยานเป็นน้องสาวและน้องเขยของท่านอัฐเองและจันทร์เจ้าขาลูกสาวของพวกเขา
"เจ้าบอกพ่ออัฐว่าจะขออยู่กับคุณอาแค่ช่วงปิดเทอมแค่นั้น เปิดเทอมเจ้าจะไปอยู่หอกับเพื่อน กะว่าจะอยู่หอข้างมหาลัยเลยมันง่ายดี เผื่อตื่นสายก็จะได้วิ่งเข้าห้องเรียนได้เลย" หญิงสาวว่าง่าย ๆ พร้อมกับถอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวนอกออกแล้วยื่นให้กับผู้มาส่งร่างใหญ่ทรงคล้ายนักกล้ามที่เดินถือกระเป๋าตามมาด้านหลัง
"ไม่ดีหรอกลูกอีกอย่างที่นี่ก็ไม่ไกลจากมหาลัยมาก แล้วอาก็อยู่นี่ที่แทบจะคนเดียว คุณอาใหญ่ก็ไปทำงาน พี่โรมเองก็แทบจะไม่กลับบ้านหรือกลับมาก็ค่อนแจ้งตื่นมาเจอหน้าอีกทีก็ช่วงเย็น" คุณอารวิดาว่ายิ้ม ๆ แล้วโอบไหล่หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้สามีและลูกชายคนเล็กนั่งรออยู่ก่อน ส่วนน้องจากัวร์นั้นเดินมาจับมือหญิงสาวอีกข้างไม่ยอมปล่อย
"คุณอาใหญ่สวัสดีค่ะ"
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
Komen