Share

Chapter - 10 จับคนโกหก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-20 20:14:22

4 วันต่อมา

หลังจากได้รับข้อความของวรัญชิตาใน Line เมื่อไม่กี่วันก่อน การัณย์ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร แม้ว่าใจจะอยากชวนเธอไปนั่นมานี่อีก แต่เขาก็เคารพชีวิตส่วนตัวของเธอ เพราะยัยน้องเป็นสาวชอบเที่ยว, ชอบ Party จึงไม่แปลกที่จะจัดทริปไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่บ่อย ๆ

ในช่วงนี้เขาเลยใช้เวลาไปกับการทำงานเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีแอบไปส่องสตอรี่ในไอจีของเธออยู่เป็นครั้งคราว ซึ่งก็น่าแปลกใจที่คนติดโซเชียลมีเดียแทบจะไม่อัปเดตอะไร อย่างมากก็มีแค่รูปอาหารนิดหน่อย สงสัยคนสวยจะกำลังท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินอยู่ เขาจึงพยายามไม่ทักไปรบกวน

และตอนนี้ตัวเขาเองก็กำลังนั่งชิลกับเพื่อนสนิทอย่างแม็กซ์และเจมส์ ที่ร้าน A ซึ่งจะเรียกว่าเป็นร้านลับก็น่าจะได้ เพราะไม่ค่อยมีใครรู้จักแถมลูกค้าค่อนข้างบางตาบวกกับเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่บรรยากาศและรสชาติของอาหารใช้ได้เลยทีเดียว

จะว่าไปก็ไม่ได้จิบแอลกอฮอล์มาสักพักตั้งแต่เริ่มมีข่าวกับคนน้องแล้ว วันนี้การัณย์เลยกะจะดื่มนิด ๆ หน่อย ๆ ให้พอคลายเครียด แต่ระหว่างที่กำลังดื่มด่ำกับรสชาตินุ่มลึกของน้ำเมาราคาแพงอยู่นั้น สายตาคมกริบก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงสองคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเหลือเกิน

“น้องริษากับน้องณิณีงั้นเหรอ…” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ก่อนตัดสินใจขยับไปนั่งอีกมุมของโต๊ะเพื่อเลี่ยงสายตาของสองสาว

ชายหนุ่มนั่งสังเกตความเคลื่อนไหวของณิณีและริษาอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าเธอมากันแค่สองคนจริง ๆ ไม่มีคนน้องของเขาตามมาด้วย

เมื่อเห็นอย่างนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความแปลก เพราะปกติสามสาวจะตัวติดกันตลอดมาตั้งแต่สมัยเด็ก แต่วันนี้กลับไม่มีวรัญชิตาอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่เธอบอกเขาว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน แต่ณิณีและริษากลับมานั่งชิลกันแค่สองคนโดยไร้เงาเพื่อนสนิทอีกคน

ซึ่งอย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย เขาควรลองเช็คดูก่อนเพื่อความแน่ใจก่อนจะผลีผลามทำอะไร

-Line-

‘กลับมาหรือยังครับ’ 

มือใหญ่กระชับโทรศัพท์แน่น นัยน์ตาคมจ้องมองหน้าจอเพื่อรอคอยคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ

[ยังค่ะ แต่กำลังเก็บของเตรียมกลับพรุ่งนี้ค่ะ] 

‘น้องริษากับน้องณิณีล่ะ อยู่ด้วยกันไหมครับ?’

[อยู่ด้วยกันนี่แหละค่ะ] 

ทันทีที่ได้เห็นคำตอบความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นมาราวกับลาวา ไฟแห่งโทสะลุกโหมทั่วทั้งตัวจนเกือบเก็บสีหน้าไม่อยู่

เขาไม่คิดเลยว่าคนน้องจะกล้าโกหกเขาทั้ง ๆ ที่ถ้าไม่อยากเจอก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้ ยังไงเสียเขากับเธอก็มีสถานะทางสังคมว่า ‘เป็นแฟน’ กันอยู่ การทำแบบนี้มันไม่ต่างจากหักหลังเขาเลย… แถมตอนนี้ทำอะไรที่ไหนกับใครอยู่ก็ไม่รู้

หรือไม่ก็คงกลับไปคุยกับไอ้วิลอะไรนั่นแล้วคงกะจะจบเรื่องของเขากับเธอไปง่าย ๆ แบบนั้นสินะ

“หึ” 

ยิ่งคิดคลื่นโทสะก็ยิ่งจู่โจมซัดสาดเข้ามาในหัวใจจนเส้นเลือดตรงขมับแทบจะปูดขึ้นมา และเพื่อน ๆ เขาคงสังเกตเห็นจึงหยั่งเชิงแกล้งถาม

“มีอะไรหรือเปล่าวะ” 

“เปล่า ไม่มีอะไร” 

“เมื่อกี้กูเห็นน้องริษากับน้องณิณีแว๊บ ๆ แฟนมึงไม่มาด้วยเหรอ” 

“หึ ไม่มาหรอก แล้วกูก็ไม่ใช่แฟนน้องเขาด้วย” 

“โอ้…สงสัยจะมีเรื่องจริง ๆ ” สองหนุ่มยักคิ้วให้กันอย่างรู้งาน แม้จะแกล้งเอ่ยคำว่าแฟน แต่พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนสนิทของตนเองแค่ประกาศคบหากับวรัญชิตาเพื่อให้เกียรติฝ่ายหญิงเนื่องจากภาพหลุด แต่การแสดงออกของการัณย์นั้นดูแปลกไปจากความรักที่ผ่านมาพอสมควร

ด้วยความที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขารู้ชายหนุ่มไม่ได้ให้ความสนใจกับสาวคนไหนขนาดนั้น

แต่การไปเดินจับมือออกเดต, ไปคอมเมนต์แสดงตัวใน I*******m กับไฮโซสาวสุดฮอตนั้นดูทะแม่ง ๆ สงสัยงานนี้ต้องลองขยี้ดู

“แต่น้องเขาสวยมากเลยนะ ไม่คิดจะจีบบ้างหรือไง” เจมส์ลองหยั่งเชิง

“ไม่” 

“แต่กูเห็นมึงเดินจับมือน้องหวานแหววเลยนะ ไม่จีบจริงดิ” 

“ไม่อะ กูแค่เล่นสนุกไปอย่างนั้น” 

หลังจากได้ยินคำตอบของเพื่อนสนิทที่แสดงท่าทีเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ แม็กซ์ก็ยิ้มมุมปากออกมา เขากับเจมส์มองหน้ากันราวจะสื่อว่า ‘กูว่าไอ้นี่มันปากไม่ตรงกับใจ’ เพราะมองมาจากดาวอังคารก็รู้ว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันสนใจน้องคนนี้ขนาดไหน เพื่อนของเขามันเอาใจสาวเก่งก็จริงนะ แต่เขาไม่เคยเห็นครั้งไหนที่มันให้เกียรติใครขนาดนี้

แม้การัณย์จะนั่งดื่มด้วยใบหน้าเรียบนิ่งผิดจากปกติที่เขามักจะเฮฮา แต่บรรดาเพื่อน ๆ ก็เลือกที่จะไม่เย้าแหย่อะไรต่อเพราะเกรงว่าบรรยากาศจะมาคุกว่านี้

“กูกลับละ” เจ้าของใบหน้าบูดบึ้งยกแก้ว Vodka ขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด และลุกออกไปจากโต๊ะทันทีโดยไม่สนว่าเพื่อนคนไหนจะท้วงติงให้กลับมานั่งดื่มด้วยกันต่อ

ร่างสูงเดินอ้อมออกไปทางหลังร้านเพราะไม่อยากให้สองสาวที่นั่งอยู่ที่บาร์ตรงด้านหน้าสังเกตเห็น ไหน ๆ ก็จะจับโป๊ะคนโกหกแล้วก็ต้องทำให้มันเนียน ๆ โดยก่อนออกจากร้านเขากวาดสายตาดูรอบ ๆ อีกครั้งให้แน่ใจว่าไม่มียัยน้องของเขาที่นี่จริง ๆ และใช่…คำตอบยังคงเหมือนเดิม เธอไม่ได้อยู่ที่นี่จริง ๆ แต่อยู่ที่ไหนกับใครก็ไม่รู้

“หึ” เขาแค่นเสียงหัวเราะออกมา ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มอย่างเย็นชา สายตาที่เคยเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นเต็มไปด้วยความโกรธาเพิ่มขึ้น

ตอนนี้เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่ากำลังถูกโกหก เอาจริง ๆ เธอจะอยู่ไหนทำอะไรกับใครก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเธอ เพราะเขาก็ต้องยอมรับว่าในความเป็นจริงแล้วเขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน มีเพียงสถานะทางสังคมจอมปลอมที่ฉาบอยู่เฉย ๆ

และสมมติว่าถ้าวันนั้นเขากับเธอนอนด้วยกันจริง ๆ เขาก็ยังคงไม่มีสิทธิ์อะไรอยู่ดี เพราะมันก็แค่ Sex ครั้งเดียว ไม่อาจผูกมัดอะไรใครได้

แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้โกรธจนอยากจะจับเธอมาขย้ำให้แหลกคามือ คงเป็นเพราะว่าเขาเกลียดคนโกหกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพอเป็น ‘คนที่เขาสนใจ’ มาปิดบังกันแบบนี้มันยิ่งทำให้ไฟในอกของเขาลุกโชนขึ้นมา

อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ารู้ว่า ‘บทลงโทษ’ ของคนโกหกสำหรับเขาเป็นยังไง เธอยังจะกล้าโกหกอยู่ไหม ตอนนี้เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เค้นคำสารภาพจากคนโกหกเสียแล้วสิ…งานนี้ท่าจะสนุกใช่เล่น ตั้งตารอได้เลย!

2 วันต่อมา

ในที่สุดวันแห่งงานเลี้ยงสุดอลังการก็มาถึงซึ่งแน่นอนวรัญชิตาและทีมงานต่างเตรียมความพร้อมกันเรียบร้อย แม้จะมีเวลาเพียงกระชั้นชิดแต่ช่างแต่งหน้า,ช่างทำผม และสไตล์ลิสต์ ต่างก็ทำงานกันด้วยความเป็นมืออาชีพ

ตอนนี้เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยของหญิงสาวถูกเกล้าไปข้างหลังเพื่อโชว์ลำคอขาวยาวระหง ใบหน้าสวยหวานถูกวาดสรรค์ด้วยเครื่องสำอางชั้นนำจากช่างแต่งหน้าเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ

ด้วยความที่วันนี้เป็นงานเลี้ยงหน้ากากที่มีความแฟนตาซี การแต่งหน้าจึงต้องมีความโดดเด่นแม้อยู่ภายใต้หน้ากาก โดยเริ่มจากอายแชโดว์สีชมพูอมส้มทับด้วยกลิตเตอร์ระยิบระยับประดับกับเส้นอายไลเนอร์คมกริบสีดำและปัดมาสคาร่าเพิ่มความเรียงเส้นให้ขนตางอนงาม

พวงแก้มนวลเนียนได้รับการแต่งเติมความสดใสด้วยบลัชออนสีพีช และไฮไลต์ตรงจมูกนิด ๆ ให้ลุคการแต่งหน้าวันนี้ดูเซ็กซี่และน่าค้นหา เข้ากันดีกับหน้ากากขนนกสีขาวประดับมุกที่ถูกสวมเข้าพอดีกับกรอบนัยน์ตาสุกสกาว เผยให้เห็นริมฝีปากที่ถูกทาด้วยลิปกลอสสีแดงฉ่ำวาวราวกับสตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาล

เรือนร่างเย้ายวนสวมด้วยชุดราตรีเกาะอกสีน้ำเงินเข้มที่ออกแบบมาเพื่อเธอ ตรงส่วนหน้าอกถูกตัดเย็บคล้าย ๆ ดอกกุหลาบอย่างมีชั้นเชิงกับเนื้อผ้าพลิ้วไหวที่ไล่สีตั้งแต่เข้มไปอ่อนดูมีชีวิตชีวา ด้านล่างของชุดถูกผ่าให้เห็นเรียวขาเรียวสวยข้างซ้ายอย่างโดดเด่น ความยาวที่กรอมพื้นพอดีเมื่อใส่ส้นสูงสี่นิ้วทำให้ไม่ว่าจะเดินหรือขยับตัวก็ง่ายไปหมด

ต้องยกนิ้วให้ดีไซน์เนอร์และทีมงานจริง ๆ ที่เนรมิตความงามออกมาได้ตรงใจเธอในระยะเวลาอันสั้น และการเลือกเฉดสีน้ำเงินยังตัดกับผิวขาวนวลของเธออย่างลงตัวอีกด้วย

“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ” วรัญชิตาเอ่ยขอบคุณให้กับทีมงานที่ต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างภูมิใจกับผลงานตนเองในวันนี้

เธอเดินมาดูกระจกเต็มตัวอีกรอบหนึ่งเพื่อเช็กความเรียบร้อย ก่อนเดินออกมาจากบริเวณห้องโถงในตัวคฤหาสน์ที่ถูกเซตเป็นสถานที่แต่งหน้า,ทำผม,แต่งตัว เนื่องจากมีหลายฝ่ายทำงานพร้อมกัน

คนตัวเล็กก้าวขึ้นมาบนรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสน์ และเข้าไปนั่งด้วยหัวใจตึกตักเพราะว่าวันนี้จะเป็นการเจอกับการัณย์ในรอบเกือบอาทิตย์ เอาจริงเธอก็แปลกใจนิด ๆ ที่เขาเองก็ไม่ได้ติดต่อเธอมาเท่าไหร่นัก

แต่ก็อาจจะเป็นผลดีต่อการดีท็อกช์หัวใจเธอเหมือนกัน แม้ว่าความตั้งใจแรกคือการห่างจากเขาเพื่ออยู่กับตัวเอง แต่สองมือก็มักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแจ้งเตือนทุกทีว่าวันนี้เขาทักมาหรือยัง พอพบกับความว่างเปล่าหัวใจก็ดันรู้สึกโหวง ๆ ราวกับคนผิดหวังอย่างไรอย่างนั้น

จะเรียกว่าล้มเหลวเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดเวลาเกือบอาทิตย์ที่ผ่านมามันแทบไม่เกิดผลประโยชน์อะไร หัวใจของเธอยังคงนึกถึงแต่เขาแม้ยามหลับก็ยังฝันถึง ต่อให้ดูซีรีส์ไปกี่ร้อยเรื่องแต่หน้าหล่อ ๆ ก็ลอยเข้ามาตลอด แถมยังแอบรู้สึกไม่ดีที่ต้องโกหกเขาอีกด้วย

“เฮ้อ…” 

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พลางนั่งคิดเรื่องต่าง ๆ วนไประหว่างที่รถกำลังเคลื่อนที่ไปยังสถานที่จัดงาน ซึ่งก็คือโรงแรม SK หนึ่งในธุรกิจของบ้านแสนวัฒนะกุลนั่นเอง

และเพียงไม่นานรถตู้คันหรูก็เดินทางมาถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย ในทันทีที่เธอลงจากรถก็พบกับทีมงานในชุดสูทสีดำกับหน้ากากครึ่งหน้าบ่งบอกถึงธีมงานที่มายืนรอต้อนรับแขกแต่ละท่านอยู่แล้ว

“เชิญครับคุณวรัญชิตา” บริกรหนุ่มยื่นแขนมาให้เธอจับเพื่อทรงตัว เธอยิ้มให้เขาอย่างสุภาพและเดินเข้างานไปพร้อมกับความตื่นเต้น

ภายในห้องโถงถูกจัดอย่างขึ้นหรูหราตระการตาด้วยโทนสีทองตัดกับพรมสีแดง แขกในงานแต่ละท่านล้วนแต่แต่งกายมาอย่างจัดเต็มเพื่อประชันความดูดีแม้อยู่ภายใต้หน้ากากแฟนซีหลากสี โดยมีเหล่านักดนตรีคอยบรรเลงเพลงคลาสสิกเพื่อเพิ่มความอลังการให้กับงานในวันนี้

วรัญชิตากวาดสายตาไปมองรอบ ๆ จนสะดุดเข้ากับชายหนุ่มสูงโปร่งในชุดสูทที่ถูกตัดเย็บมาอย่างพอดีตัวสีดำโดยมีการปลดกระดุมไม่กี่เม็ดเพื่อเผยให้เห็นช่วงลำคอยาวลงมาถึงอกแกร่งเล็กน้อย และยังประดับด้วยขนนกสีขาวที่หน้าอกข้างขวาเสริมลุคให้ดูหรูหราและน่าค้นหา

แม้ว่าจะสวมหน้ากากครึ่งหน้าแต่ก็ไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาได้แม้เพียงนิด ผมสีดำถูกเซทขึ้นไปเพื่อให้รับกับหน้ากากและโชว์ต่างหูสี่รูสีเงินที่ใส่อยู่ ทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายปีศาจสุดแบดบอยที่ทำให้สาว ๆ ใจเต้น

โดยเฉพาะกับวรัญชิตา…เพราะแค่เพียงเสี้ยววินาทีที่เขามองสบตา หัวใจเธอก็เต้นระรัวขึ้นหลายจังหวะ ถึงแม้ไฟในงานจะไม่สว่างนักออกแนวสลัวด้วยซ้ำ แต่นัยน์ตาคมกริบสีฟ้าเข้มของเขายังคงโดดเด่นชัดเจน

เขาและเธอสบตากันเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะเขาต้องหันไปคุยกับแขกคนอื่นต่อเนื่องด้วยวันนี้ครอบครัวของเขาเป็นผู้จัดงาน แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เธอกระวนกระวายจนแสดงอาการออกมา

หญิงสาวรู้สึกประหม่าทำตัวไม่ถูก เธอจึงหยิบแก้วแชมเปญจากพนักงานบริการขึ้นมาจิบไปอึกใหญ่ ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งของงานเพื่อหลบเลี่ยงใครบางคนจนมาถึงบริเวณหน้ารูปปั้นหินอ่อนแกะสลักขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่โถงงานเลี้ยง

เธอยืนจดจ้องความประณีตพร้อมทั้งจิบแชมเปญในแก้วไปด้วยเงียบ ๆ จนกระทั่งมีเสียงทุ้มอบอุ่นแสนคุ้นหูดังทักทายมาจากทางด้านข้าง

“อ้าวน้องไวน์ ทำไมมายืนอยู่นี่คนเดียวครับ” หญิงสาวหันไปมองตามเสียง และไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือเก้ากวินทร์นั่นเอง วันนี้เขาอยู่ในชุดโทนขาวตรงกันข้ามกับน้องชาย แต่ความหล่อเหลานั้นกินกันไม่ลงเลยทีเดียว

“สวัสดีค่ะพี่เก้า…จำไวน์ได้ไงคะเนี่ย” 

“เห็นครึ่งหน้าก็จำได้แล้วครับ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่เนอะ” 

“แหะ ๆ งานสวยมากค่ะพี่เก้า”

“ขอบคุณครับ แต่ก็ไม่ใช่ฝีมือพี่คนเดียวหรอก เพราะเจ้ากายก็ช่วยหลายอย่างเหมือนกัน” 

“...” ทันทีที่ได้ยินชื่อของใครอีกคนหัวใจของเธอก็กระตุกขึ้นมา แต่เธอพยายามไม่สนใจและส่งยิ้มให้เก้าน้อย ๆ เมื่อเห็นเขายกมือเป็นสัญญาณให้บริกรหนุ่มเดินนำแชมเปญมาเสิร์ฟเพิ่ม เพราะเธอเพิ่งสังเกตว่าเธอดื่มแชมเปญในแก้วจนหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ขอบคุณค่ะ” เธอรับแก้วคริสตัลมาจากเก้ากวินทร์ด้วยท่าทีสุภาพ หนุ่มสาวชนแก้วกันเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ จิบรสชาตินุ่มลึกของแชมเปญราคาแพง โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาพิฆาตพุ่งทะลุมาเสียดแทงจากอีกมุมหนึ่งของห้อง

อันที่จริงการัณย์ปลีกตัวจากวงสนทนาเดินตามเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เลือกที่จะเฝ้าสังเกตอยู่ห่าง ๆ เพราะอยากดูท่าทีว่าเธอจะทำอย่างไร ตอนแรกก็เห็นยืนจ้องรูปปั้นด้วยท่าทีเหงาหงอยจนเขาเกือบจะใจอ่อนเดินเข้าไปคุยด้วยดี ๆ แต่เก้ากวินทร์ก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะได้พอดิบพอดิบพอดี แล้วยังชวนคนน้องของเขาดื่มอีกด้วย

ไฟแห่งโทสะเก่ายังไม่ทันดับ วรัญชิตาก็เติมเชื้อเพลิงใหม่ให้เขาโกรธยิ่งขึ้นด้วยการขัดคำสั่งที่ว่าห้ามดื่มตอนที่ไม่ได้อยู่กับเขา แถมดื่มกับใครไม่ดื่มแต่มาดื่มกับพี่ชายที่ไม่ถูกกันอีกด้วย

และในตอนนั้นเองภาพของเก้ากวินทร์ที่โน้มตัวเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของวรัญชิตาจนทำให้เธอถึงกับยิ้มออกมา ทำให้ความรู้สึก ‘หวง’ ก็เข้าเล่นงานเขาอย่างจัง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมาในหัวใจจนทนไม่ไหวอีกต่อไป

เขาตัดสินใจเดินเข้าไปกลางวงสนทนาระหว่างวรัญชิตาและเก้ากวินทร์ด้วยรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาอย่างไม่เป็นมิตร ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังคนตัวเล็กราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และเธอคงตกใจไม่น้อยเมื่อเขาเข้ามาประชิดตัว

คนตัวสูงคว้าแก้วแชมเปญที่อยู่ในมือน้อยมาดื่มต่อจนหมดในรวดเดียว และยัดเข้าใส่มือของเก้ากวินทร์ที่ยืนงงกับท่าทีอารมณ์เสียของน้องชาย ก่อนจะพาคนตัวเล็กเดินออกมากลางฟลอร์เต้นรำ

มือใหญ่โอบกระชับเอวบางเข้ามาใกล้และนำสองแขนเรียวยกขึ้นไปคล้องกับลำคอแกร่งไว้ ตอนนี้เขาและเธออยู่ใกล้กันมากจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของกันและกันอย่างชัดเจน

ในทุกครั้งที่วรัญชิตาพยายามเบือนหน้าหนีไปทางอื่น การัณย์ก็มักจะโอบเอวเธอเข้ามาใกล้ขึ้นอีก คนเขินอายจึงทำได้แค่มองต่ำเพื่อหลบสายตาที่มีผลต่อหัวใจ

ทั้งสองเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง โดยที่เขาไม่พูดอะไรกับเธอเลยสักคำจนกลายเป็นความเงียบงันที่น่าอึดอัด ห่างกันไปตั้งหลายวันแท้ ๆ แต่เขาเอาแต่จ้องตาเธอนิ่ง ๆ โดยที่เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“ไปเที่ยวมาสนุกไหมครับ” ในที่สุดคนตัวสูงก็เปิดปากเอ่ยถาม แต่คำถามนี้กลับทำให้เธอขนลุกซู่ด้วยความกังวล

“สนุกดีค่ะ” วรัญชิตายังคงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจะสั่นไหวราวกับกลัวว่าจะเผลอพูดความลับออกไป

“งั้นเหรอ แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนเราจะกลับมาก่อนนะ เพราะพี่เห็นเขาอยู่ที่ร้าน A เมื่อวันก่อนแหนะ…วันเดียวกับที่เราบอกพี่ว่าอยู่กับเพื่อนนั่นแหละ

“!!!” วรัญชิตาชะงักกึก ใบหน้าของเธอซีดเผือกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาจับโกหกเธอได้

“ไม่มีอะไรจะบอกพี่จริง ๆ เหรอครับ” เขาเน้นย้ำเพื่อให้เธอรับสารภาพ

“ไม่มีค่ะ พี่กายคงจำวันผิดแล้วแหละค่ะ” เธอยังคงแถต่อไปด้วยหัวใจที่เต้นแรง แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นสายตาที่เข้าใจผิดนั้น แต่เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะพูดความจริงออกไป

“โกหกพี่แค่นี้มันยังไม่พออีกเหรอถึงต้องแถไปเรื่อย” คำตอบของเธอมันทำให้ระเบิดที่เขาสะสมมาเหมือนถูกแกะสลัก เขารู้สึกทั้งผิดหวังและโมโหจนเผลอบีบเอวคอดแรงขึ้นเรื่อย ๆ และวรัญชิตาคงเริ่มรู้สึกเจ็บเธอจึงแสดงออกทางสีหน้า เขาจึงพยายามผ่อนแรงลง

“เปล่านะคะ…ใจเย็นก่อนได้ไหม” เธอพยายามใช้น้ำเย็นเข้าสู้ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเผลอไปลูบไล้ช่วงไหล่กว้างจนทำให้เขาแทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่…สัมผัสแค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้เขาสวิตช์ขาดได้ง่าย ๆ แล้ว

“จะให้พี่เย็นยังไง 4-5 วันที่ผ่านมาพี่ยังถูกหลอกไม่พอเหรอ” 

“แฟนตัวเองไปอยู่กับที่ไหนกับใครก็ไม่รู้ตั้งเกือบอาทิตย์ จะให้พี่อยู่เฉย ๆ เหรอ” 

“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วค่ะ ไวน์ไม่ได้อยู่กับใครทั้งนั้น! เลิกพูดคำนี้สักทีได้ไหมคะ เราไม่ใช่แฟนกันนะ!” หญิงสาวรู้สึกโกรธจนสั่นที่เขาปรักปรำกันแบบนี้

“คงจะใช่อย่างที่เราว่า แต่ไหน ๆ เราก็ไปไกลจนเกือบเลยคำว่าแฟนไปแล้ว ก็ช่วยทำให้พี่สบายใจหน่อยไม่ได้เหรอ ทั้งโกหก ทั้งดื่ม ทั้งอยู่กับไอ้เก้า ทำทุกอย่างที่พี่บอกแล้วว่าไม่ชอบ…แต่ก็ยังดื้อจะทำ” 

“เอาแต่ใจเกินไปไหมคะ ถ้าไวน์โกหกแล้วมันจะทำไม ก็เพราะไวน์ไม่อยากเห็นหน้าพี่ไงถึงต้องโกหก แล้วการที่ไวน์จะดื่มหรือจะคุยกับใครมันก็เป็นสิทธิ์ของไวน์ ก็คุยกับพี่เก้าแล้วมันสบายใจ ไม่เหมือนคุยกับคนบ้าอำนาจแบบพี่!” วรัญชิตาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งแม้แววตาจะสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกผิดที่พูดแรงใส่เขาขนาดนี้ แถมแทบจะทุกคำมันมีแต่การโกหกเพราะเธอเองก็ตั้งใจประชดประชันใส่เขาเหมือนกัน จะพูดดี ๆ ให้กันก็คงไม่ทันเสียแล้ว เพราะตอนนี้ฟางเส้นสุดท้ายของการัณย์ได้ขาดสะบั้นไปเรียบร้อย และตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

แค่คำว่าไม่อยากเจอหน้าเขาก็เจ็บมากพอแล้ว เพราะเขาเองรอคอยแต่จะได้เจอเธออีกครั้ง แต่เธอกลับไม่ได้คิดเหมือนกัน แต่นั่นยังไม่รู้สึกแย่เท่าการที่เธอบอกว่าอยู่กับเก้ากวินทร์แล้วสบายใจกว่าอยู่กับเขา ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามดูแลเธอให้ดีอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เธอกลับด้อยค่าเขาได้ง่าย ๆ แบบนี้

“ปากดีให้มันตลอดแล้วกันนะ พี่ก็อยากจะรู้เหมือนว่าตอนโดนพี่ฉีกชุดนี้ออกเป็นชิ้นๆ จะเป็นยังไง!” ว่าจบเขาก็กระชากข้อมือน้อยออกมาจากบริเวณหน้าเวที และเดินฝ่าฝูงคนด้วยความรวดเร็วจนกลายเป็นว่าวรัญชิตาแทบจะวิ่งตามเนื่องจากความต่างของช่วงขา

เขากึ่งเดินกึ่งลากเธอมาที่ลิฟต์และกดไปที่ชั้น 12 ก่อนจะกดล็อกไม่ให้ลิฟต์เปิดระหว่างชั้น เพราะเขาไม่ต้องการให้มีการ ‘ขัดจังหวะ’ ในการลงโทษเกิดขึ้น!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 25 พิธีแต่งงานและข่าวดีของมหาเศรษฐี [END]

    “แต่งค่ะ” หลังจากคำตอบแสนหวานจากคนที่เขารักที่สุดออกมา การัณย์ก็ไม่รอช้ารีบสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอทันที เขาลุกขึ้นมากอดหญิงสาวบนเตียงด้วยความรักใคร่เป็นที่สุด“พี่สัญญาว่าจะดูแลน้องไวน์กับลูกของเราให้ดีที่สุด เชื่อใจพี่นะครับ” “ค่ะ” วรัญชิตาเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาที่เอ่อคลอไปเต็มเบ้าตา มันเป็นหยาดธาราที่มาจากความปลื้มปิติใจ ถึงแม้ว่าการถูกขอแต่งงานมันออกจะล่อแหลมไปนิด เพราะเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ท่ามกลางหิมะที่ตกอยู่ด้านนอก แต่ก็สมกับเป็นคู่เธอจริง ๆเพราะจุดเริ่มต้นก็มาจากการเกือบจะ One Night Stand กัน แต่วันนี้ดันกลายมาเป็นสามีภรรยากันเสียอย่างนั้น!“พี่ขออะไรได้ไหม…” “ได้สิคะ” เธอหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของคนรัก อ้อมกอดที่อบอุ่นกว่าสิ่งใด อ้อมกอดที่จะคอยปกป้องเธอได้อย่างปลอดภัย“ขอจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่สมฐานะหน่อยนะครับ ไม่อยากให้น้องไวน์น้อยหน้าใคร จะจัดที่ประเทศไหน กี่วัน แขกกี่พันคนก็ได้ แต่ขอแบบยิ่งใหญ่ จะใช้เงินกี่ร้อยล้านก็พร้อมทุ่ม” “ฮ่า ๆ ได้สิคะ เอาจริง ๆ ไวน์ก็แอบอยากจัดเล็ก ๆ เฉพาะคนในครอบครัวนะ แต่ในเมื่อ ‘สามี’ ขอมาแบบนี้ก็จัดให้ค่ะ” การัณย์หัวใจพองโตเมื่อได้ยินคุณภร

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 24 คิดถึงเมีย อยากกอดเมีย (NC 20+)

    “อยากกอดเมีย…” “แต่พี่เพิ่งตื่นขึ้นมาเองนะคะ เมื่อกี้ยังจะตายอยู่เลย…” หญิงสาวพยายามเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย หัวใจของเธอเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมา เพราะเธอไม่ได้อยู่ในระยะใกล้ชิดกับเขามาสองอาทิตย์แล้ว“ก็คิดถึง อยากกอด อยากจูบ รู้ไหมว่าสองอาทิตย์ที่เราห่างกันพี่ทรมานแค่ไหน ใจจะขาดอยู่แล้ว” “ไม่ได้เหรอ…” เขาถามเสียงออดอ้อน พลางใช้จมูกโด่งเป็นสันจรดลงที่แก้มนวลทั้งสองข้างไปมาด้วยความคิดถึง“เปล่าค่ะ แค่…” “คิดถึงเมีย…อยากกอดเมีย” หญิงสาวได้แต่นอนใจเต้นแรงกับสรรพนามใหม่ที่เขาใช้ คำก็เมียสองคำก็เมีย เธอเขินจนแทบจะละลายติดกับโซฟาอยู่แล้ว! ฟื้นขึ้นมาก็หื่นเลย ไม่ไหวจะเคลียร์กับคุณชายเขาจริง ๆ“ไม่ให้ปฏิเสธหรอกนะ” ว่าจบริมฝีปากร้อนก็ทาบทับลงมาบนกลีบปากอวบอิ่มของเธอด้วยความโหยหา…เขากดริมฝีปากลงมาอย่างล้ำลึก บดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้ามาลิ้มชิมความหวานละมุนที่คิดถึงมาเนิ่นนานริมฝีปากของทั้งคู่สอดประสานแลกเปลี่ยนรสจูบให้แก่กันและกันอย่างเป็นจังหวะ ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดโรมรันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะต่างคนก็ต่างคิดถึง…ต่างคนก็ต่างโหยหาจูบครั้งนี้เป็นเหมือนการระบายความอัดอั้นตันใจในเวลาที่ห

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 23 ง้อเมีย

    บ้านพักตากอากาศของวรัญชิตาเป็นเวลาสองอาทิตย์แล้วที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนแรกก็ยังมีความไม่ชินกับอากาศที่หนาวเหน็บเพราะหิมะตกทุกวันบ้างแต่เธอก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว แถมยังหากิจกรรมใหม่ ๆ มาทำไม่ให้ตัวเองเหงาอยู่เสมอ เช่นเรียนทำอาหารจากป้ามาร์ลีน ขับรถไปเดินเล่นที่ตลาดแถวบ้าน และการไม่เสพข่าวอะไรก็ทำให้สภาพจิตใจเธอดีขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้จะยังร้องไห้บ้างเพราะแผลมันยังสดมาก แต่เธอก็พยายามจะไม่คิดถึงคน ๆ นั้นจะว่าไปแล้ว…การได้มาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็ไม่แย่อย่างที่คิด เพราะปกติในชีวิตจะมีแต่คนห้อมล้อมมาตลอดตั้งแต่เด็ก แต่การได้อยู่กับตัวเองในบรรยากาศธรรมชาติปราศจากรถติดและความวุ่นวายนั้นเป็นเหมือนยาที่คอยบรรเทาให้จิตใจเธอสงบขึ้นในแต่ละวันเธอใช้เวลาไปกับการตกแต่งบ้าน ทำอาหาร นอนอ่านหนังสือท่ามกลางวิวหิมะตกสวย ๆ แม้ว่าในแต่ละคืนเธอจะยังสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บปวดยังเกาะกินอยู่ในใจ แต่เธอก็ให้กำลังใจตัวเองในกระจกทุกวันว่ามันจะผ่านไป และเธอต้องดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุดเสียงกริ่งดังขึ้นจากประตูหน้าบ้าน…วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอนัดกับป้ามาร์ลีนว่าจะออกไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินรับลมหนาว แต่ดูเหมือนว่

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 22 คนอย่างเธอมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ

    หลังจากได้รับข้อมูลที่อยู่ของวรัญชิตาจากวรเวชเขาก็รีบติดต่อเลขาให้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้เรียบร้อย แม้ว่าเขาไม่อาจจะรอช้าได้เพียงวินาทีที่จะต้องไปขอโทษดวงใจของเขาให้ได้ แต่ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนไป…คือจัดการกับสิ่งเลวทรามที่เอมี่ทำไว้สำนักงานใหญ่ SK-Airwaysการัณย์กลับมาที่สำนักงานใหญ่เพื่อเตรียมตัวคุยกับทีมทนายฝีมือฉกาจประจำตระกูล ทีมไอที และทีมภาพลักษณ์ของบริษัท เขาเดินตรงเข้ามาที่ห้องทำงานเพื่อนั่งรอคนเหล่านั้นและสูบบุหรี่เงียบ ๆ แต่เสียงโวยวายที่หน้าห้องทำให้เขาต้องเปิดประตูไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น“เข้าไปไม่ได้นะคะ!” “ปล่อยฉันนะ!” ชายหนุ่มเปิดประตูมาเจอภาพการยื้อยุดระหว่างเลขาส้มและเจ้าของชุดเดรสสีแดง โดยที่ตอนนี้คุณส้มดูจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากพละกำลังของเอมี่ การัณย์เลยเดินเข้าไปห้ามสถานการณ์ด้วยใบหน้านิ่ง ๆ“อยากเข้าก็เข้ามา ไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกับคุณส้ม” หลังจากได้ยินคำนั้น เอมี่ก็สะบัดมือออกจากเลขาส้มและมองจิกเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม“เป็นแค่เลขาอย่าสะเออะมาสอดเรื่องเจ้านาย!” เธอเอ่ยสั้น ๆ ก่อนเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูใส่หน้าเลขาดัง ๆปัง!“ไง เซอร์ไ

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 21 ข่าวสกปรก และน้ำตาของการัณย์

    ปัง ปัง ปัง!เสียงเคาะประตูดังลั่นห้อง ปลุกการัณย์ให้ตื่นจากการหลับใหล เขาเปิดเปลือกตาอย่างยากลำบากจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ซัดไปหลายแก้วเมื่อคืนแล้วขังตัวเองอยู่ในห้องนอนแสนหม่นหมองใครกันที่เข้ามาในเพนต์เฮาส์ของเขาได้…คนที่มีคีย์การ์ดของที่นี่ก็มีแต่วรัญชิตากับเอมี่นี่นา ไม่สิ ยังมีอีกคนคือเก้ากวินทร์พี่ชายเขาแต่เขาภาวนาให้คนที่มาเคาะประตูเป็นวรัญชิตาได้ไหม…เขาคิดถึงเธอจนใจจะขาดแล้วปัง ปัง ปัง!การัณย์รีบขยี้ตาและลุกจากเตียงไปเปิดประตูห้องนอนด้วยความรีบร้อน แต่คนที่มาเคาะประตูโครมครามดันเป็นเก้ากวินทร์เสียอย่างนั้น ร้อยวันพันปีพี่ชายตัวดีของเขาไม่เคยมาที่นี่ วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น…“มึงอ่านข่าวเดี๋ยวนี้เลย” เขารับมาจากพี่ชายด้วยหัวใจที่กระตุกวูบอย่างรุนแรง…ขออย่าให้เป็นข่าวที่ทำร้ายจิตใจของคนที่เขารักเลย แค่นี้เธอก็เจ็บมากพออยู่แล้ว‘ข่าวลือแซ่บซู๊ดปากส่งท้ายปีมาแล้วพวกเธอ…วงในว่ากันว่าไฮโซ ว. เป็นมือที่สามในความสัมพันธ์สุดร้อนฉ่า แถมตอนนี้เธอยังท้องป่องโดยที่ฝ่ายชายไม่รับเป็นผิดชอบอีกด้วย’ ‘นัวชั้นสูงที่แท้จริง! ชาวเน็ตตาดีส่องสตอรี่ IG ของไฮโซสาวอีกคนที่เป็นเจ้าของฉายานางฟ้าแมวจรจัด

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   Chapter - 20 แรงแค้น

    ในที่สุดการเดินทางหลายชั่วโมงก็ผ่านพ้นไป ตอนนี้วรัญชิตาได้เดินทางถึงบ้านพักที่ครอบครัวซื้อไว้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เรียบร้อยแล้ว“คุณไวน์…” คริสและมาร์ลีนรีบเดินมากอดต้อนรับอย่างอบอุ่น“คิดถึงจังเลยค่ะ” ด้วยทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเลิศจากการเรียนโรงเรียนนานาชาติมาทั้งชีวิต เธอจึงสามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เริ่มสนิทกับคริสและมาร์ลีนตั้งแต่เจอกันแรก ๆ“ปีนี้หนาวหน่อยนะคะคุณไวน์ แต่ป้าเตรียมเตาผิงไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” “ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ” เธอเห็นด้วยว่าปีนี้หนาวจริง ๆ ปกติที่เคยมาเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วอากาศไม่หนาวขนาดนี้ หรือเป็นเพราะช่วงนี้มันปลายเดือนพฤศจิกาแล้วด้วยอุณหภูมิจึงลดลงต้อนรับฤดูหนาววรัญชิตาถอดเสื้อคลุมออกและนั่งลงบนโซฟาหนังตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ความอบอุ่นจากเตาผิงที่ถูกจุดไว้ทำให้ใส่แค่เสื้อไหมพรมตัวเดียวก็เอาอยู่โดยไม่ต้องเปิดเครื่องทำความร้อนเพียงไม่นานมาร์ลีนก็นำแก้วโกโก้อุ่น ๆ มาเสิร์ฟ เธอยกดื่มและนั่งคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้กับมาร์ลีนและคริสไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลินลืมความเศร้าไปชั่วขณะคุณแม่ของเธอคิดถูกจริง ๆ ที่ส่งเธอมาพักใจอยู่ที่นี่ เพราะกา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status