Share

PLAYBOY : 1

Author: C
last update Huling Na-update: 2024-11-22 12:14:49

​Pream Part

.

“อึก!”

“คุณพรีม! ไหวไหมคะ นั่งก่อนค่ะ”

“ไหวค่ะแม่เพียร” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเอ่ยตอบอีกฝ่าย “สงสัยจะนอนน้อยไป”

“ก็คุณพรีมเล่นไปเยี่ยมคุณนงนาถเธอทุกวัน ไหนจะต้องไปทำงานอีก พักผ่อนน้อยถึงได้แบบนี้น่ะสิคะ” แม่เพียรบ่น ฉันได้แต่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายบาง ๆ เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี

เพียรหรือแม่เพียรที่ฉันเรียก เป็นแม่นมที่เลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เด็กจนฉันติดเรียกว่าแม่ไปแล้ว ส่วนคุณนงนาถที่แม่เพียรเอ่ยถึงก็หมายถึงคุณย่าของพี่มาเฟีย ที่ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหลังจากผ่าตัดเส้นเลือดในสมองที่แตกเมื่อเดือนก่อน อีกสองอาทิตย์ท่านก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว แม้ว่าช่วงนี้ท่านจะมีนับดาว แฟนของพี่มาเฟียคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเยี่ยมท่านทุกวัน คุณย่าเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ท่านดีกับฉันมาก แม้ตอนนี้ตระกูลของเราคงไม่ได้เกี่ยวดองกันแล้วแต่ฉันก็ยังเคารพนับถือท่านเหมือนเดิม

และพี่มาเฟียที่ฉันพูดถึงก็คือคู่หมั้นของฉันเอง

ส่วนฉัน พริมาตา หรือพรีม อายุยี่สิบเอ็ดปี แต่ตอนนี้เรียนจบแล้วจากออสเตรเลีย ที่ฉันเรียนจบไวเพราะฉันเข้าเรียนไวกว่าเกณฑ์ พอเรียนจบก็ถูกแนะนำให้ทำงานต่อที่นั่นทันทีเพราะต่อยอดทางสายงานได้มากกว่า แต่ฉันตัดสินใจกลับมาทำงานที่ไทยเพราะเรื่องหมั้นหมายที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นแค่อดีต ฉันไม่เสียดายที่ตัวเองตัดสินใจกลับมา เพราะจะได้เคลียร์บ่วงที่ผูดรัดไว้ออกเสียที จากนี้ไปฉันจะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องมีคำว่าคู่หมั้นค้ำคอเหมือนเจ็ดปีที่ผ่านมา

“เป็นอะไรแม่พรีม ทำไมนั่งแบบนั้น”

“เปล่าค่ะคุณแม่” ฉันรีบนั่งหลังตรงทันทีที่ได้ยินเสียงของคุณแม่ คุณพิมพ์นภา หรือคุณพิมพ์ที่คนในแวดวงคุณหญิงคุณนายรู้จักกันดีคือแม่ของฉันเอง ท่านอายุใกล้ห้าสิบปีเต็มทน แต่ยังคงสวยสง่าด้วยบุคลิกและการแต่งกายที่ดี ตระกูลของฉันเคยเป็นข้าหลวงในวังมาก่อน แม่ฉันเองก็เติบโตมาในวัง และทุกวันนี้ยังเข้าไปช่วยงานในนั้นเสมอ

และแน่นอนว่าคนที่เคยเติบโตมาในรั้วในวังจะไม่ชอบที่สุดเวลาเห็นคนในบ้านทำอะไรที่ไม่เรียบร้อย ท่านสั่งสอนเรื่องบุคลิกภาพ การพูดการจาตั้งแต่ลูกแท้ ๆ แบบฉันยันคนงานคนรับใช้ เพื่อคงเอกลักษณ์ความเป็นผู้ดีในบ้านหลังนี้ไว้ทุกระเบียบนิ้ว

“แล้วมีอะไร ถึงให้คนขึ้นไปแม่ให้ลงมาแบบนี้” ท่านถาม ก่อนจะนั่งลงโซฟาด้วยท่าทีสง่างามเช่นเคย

“แล้วคุณพ่อล่ะคะ”

“กำลังตามลงมา”

“อย่างนั้นรอคุณพ่อก่อนดีกว่าค่ะ”

“ตามใจ”

เราสองคนแม่ลูกนั่งเงียบกันอยู่แบบนั้นเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกันดี อันที่จริงแล้วฉันไม่ได้สนิทกับแม่มากนัก เพราะช่วงที่ฉันกำลังจำความได้ท่านต้องเข้าไปช่วยงานในวัง นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฉันมีแม่นมซึ่งก็คือแม่เพียร และสนิทกับแม่เพียรมากกว่าแม่แท้ ๆ ของตัวเอง

“อยู่พร้อมหน้าเชียวสองแม่ลูก”

“คุณพ่อ”

“ให้คนตามพ่อลงมา มีอะไรหรือเปล่าเรา” พ่อเอ่ยถามพร้อมลูบผมฉันเบา ๆ พ่อฉันเป็นคนใจดี แม้งานจะยุ่งจนแทบไม่มีเวลาพักแต่ก็หาเวลาว่างให้ฉันได้เสมอ

“หนูมีเรื่องต้องแจ้งให้คุณพ่อและคุณแม่ทราบค่ะ”

“ว่ามาสิ”

“เรื่องหมั้น หนูกับพี่เฟียตกลงกันแล้วค่ะว่าจะยุติทุกอย่างลง”

“ว่ายังไงนะ!”

ฉันมองแม่ตัวเองด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นท่านขึ้นเสียงแบบนี้มาก่อน แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าท่านคงโกรธ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าท่านจะเสียงดังใส่แบบนี้

“นั่งลงก่อนพิมพ์ ฟังเหตุผลลูก” เวลานี้คนที่ใจเย็นที่สุดกลายเป็นพ่อของฉันเอง ท่านบอกให้แม่นั่งลงด้วยเสียงที่สุขม ก่อนจะหันมาหาฉันด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน “พ่ออยากรู้เหตุผลนะ”

“เราไม่ได้รักกันค่ะ”

“เหตุผลเด็ก ๆ ความรักมันไม่ได้ทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืนหรอกนะพริมาตา” แม่เรียกชื่อจริงฉัน นั่นแปลว่าท่านกำลังไม่พอใจ

“แต่คนเราจะคบหาหรือแต่งงานกันได้ก็ต้องมีความรักก่อนไม่ใช่หรือคะ”

“เราถูกวางตัวให้เป็นคู่หมั้นกับมาเฟียมาตั้งเจ็ดปี ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เขาเลยเหรอลูก”

“หนูเคยคิดว่ารู้สึกค่ะคุณพ่อ แต่พอรู้ว่าพี่เฟียมีคนรักที่คบหากันอยู่แล้ว หนูกลับไม่รู้สึกเสียใจเลย ก็เลยมั่นใจว่าคงไม่ได้รักค่ะ” ฉันตอบพ่อตามความจริง เพราะตอนที่คุณย่าพี่มาเฟียโทรทางไกลมาเล่าให้ฟังเรื่องผู้หญิงที่ชื่อนับดาว ฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เขามีคนอื่น แต่ฉันแค่รู้สึกเสียหน้า และอยากเอาชนะเท่านั้น แล้วพอได้คุยกับพี่มาเฟีย ท่าทีหวงแหนแฟนตัวเองจนออกหน้าก็ยิ่งทำให้ฉันอยากเอาชนะเข้าไปอีก ก็เลยพูดจากไม่ดีรวมถึงขู่ให้อีกฝ่ายไปเลิกกับแฟนไป ซึ่งแน่นอนว่าพี่เฟียไม่มีทางทำตาม เพราะเขารักแฟนของเขาออกขนาดนั้น รัก...จนแม้แต่คุณย่ายังต้องยอมแพ้ ส่วนฉันเองก็ยอมแพ้ไปตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับผู้ชายอย่างพี่มาเฟียอีกต่อไปแล้ว

ตอนนี้ฉันมันก็แค่ผู้หญิงที่มีรอยตำหนิคนหนึ่ง ไม่คู่ควรกับผู้ชายดี ๆ คนไหนทั้งนั้น

“คนรัก? นี่มาเฟียมีคนรักเหรอ?”

“ค่ะคุณแม่ หนูได้ไปเจอเธอมาแล้ว เธอเป็นคนดีและเข้ากับคุณย่าของพี่มาเฟียได้ทีเดียวค่ะ” ฉันบอกท่านด้วยรอยยิ้ม เพราะไปเยี่ยมคุณย่าทุกวันจึงได้เจอนับดาวหลายครั้ง ฉันอาศัยจังหวะที่พี่มาเฟียไม่อยู่แลกเบอร์โทรและช่องทางติดต่อกับเธอไว้ ได้พูดคุยกันเรื่อย ๆ ก็ถูกคอจนตัดสินในคบหากันเป็นเพื่อนกัน นับดาวไม่อยากให้เรียกพี่ เธอให้เหตุผลว่าอายุห่างกันแค่เพียงปีเดียวไม่ถือสาอะไรและอยากมีเพื่อนมากกว่าน้องสาว ฉันก็เลยได้เพื่อนเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง

นับดาวเป็นเพื่อนคนที่สองที่ไม่ได้ถูกแม่คัดกรองให้ คนแรกคือแซนดี้ที่อยู่ออสเตรเลีย ฉันมีเพื่อนบ้างแต่ก็ต้องผ่านแม่ก่อนว่าเพื่อนคนนี้มีคุณสมบัติอะไรบ้าง พื้นฐานครอบครัวและการเลี้ยงดูเป็นแบบไหน เพราะท่านกลัวว่าถ้าได้เพื่อนไม่ดีจะทำให้ฉันเสียคน แต่ฉันรู้ดีว่าท่านแค่กลัวว่าฉันจะทำให้ชื่อเสียงตระกูลเสียหายมากกว่าห่วงฉันจริง ๆ

ซึ่งมันทำให้ฉันอึดอัด เพื่อนพวกนั้นวัน ๆ คุยกับแต่เรื่องงานบ้านงานเรือน หรือเรื่องเครื่องประดับ เรื่องข้าวของราคาแพงซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันเป็น ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยแม้ว่าแม่อยากจะให้เป็นแค่ไหน แต่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกแม่บงการชีวิตอยู่เบื้องหลังก็แค่นั้น

“ทั้ง ๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วยังไปคบกับคนอื่น คุณป้านงนาถก็เห็นดีงามด้วย เห็นตระกูลฉันเป็นตัวอะไร”

“คุณแม่คะ ความรักมันบังคับกันไม่ได้หรอกนะคะ”

“งั้นหรือ” แม่ว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “อย่างนั้นก็ตามใจแม่พรีมแล้วกัน ยังดีที่ไม่ได้จัดงานหมั้นใหญ่โตจนคนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองให้ต้องเสียหน้า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงไม่มีทางยอม”

ฉันมองร่างสูงโปร่งของแม่ที่เดินออกจากห้องไป สุดท้ายท่านก็ห่วงแค่ชื่อเสียงตระกูลตัวเองตามเคย...

“พรีม อย่าโกรธแม่เขาเลย หนูก็รู้ว่าแม่เขาเป็นคนยังไง”

“ค่ะ..หนูรู้” ฉันตอบก่อนจะเอนศีรษะลงไปซบบนไหล่แกร่งที่แข็งแรงสำหรับฉันเสมอ “พ่อรักแม่มากเลยใช่ไหมคะ”

“รักสิ”

“รักจนถึงขั้นยอมให้หนูใช้แค่นามสกุลแม่เลยใช่ไหม”

“พรีม...”

พ่อฉันเป็นนักธุรกิจที่กำลังมาแรงในช่วงที่คบกับแม่ พ่อเล่าให้ฟังว่าเจอแม่ที่งานการกุศลและตกหลุมรักท่านทันที เทียวจีบอยู่เป็นปีแม่ถึงยอมคบหาด้วย และคบกันเกือบสามปีถึงตกลงแต่งงานกัน

เมื่อมีลูก ทางครอบครัวแม่ก็ไม่ยอมให้ฉันใช้นามสกุลพ่อ เพราะถึงแม้ว่าพ่อจะกลายเป็นนักธุรกิจชื่อดังและมั่นคงมากแค่ไหน แต่ก็สู้นามสกุลเก่าแก่ของทางแม่ไม่ได้ และด้วยความรักจึงทำให้พ่อยอมได้ทุกอย่าง ลูกสาวเพียงคนเดียวแบบฉันจึงได้ใช้แค่นามสกุลแม่อย่างไม่มีทางเลือก ฉันต้องแบกรับหน้าตาของวงศ์ตระกูลไว้ แค่เกิดมาก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าห้ามทำอะไรก็ตามที่ทำให้นามสกุลที่ใช้อยู่เสียหาย และเพราะเรื่องของนามสกุลนี้ทำให้คุณปู่คุณย่าไม่ชอบใจในตัวฉันเท่าหลานคนอื่น ๆ ไปด้วย เพราะพวกท่านรู้สึกเหมือนโดนหักหน้า มีลูกชาย แต่พอลูกชายมีลูกกลับต้องให้ลูกไปใช้นามสกุลของฝั่งลูกสะใภ้

“หนูเหนื่อยจังค่ะ”

“พ่อขอโทษ”

ฉันหลับตาลง คำขอโทษของพ่อทำให้ฉันเจ็บปวดมากกว่าเดิม เพราะรู้ตัวดีว่ากำลังทำให้พ่อตัวเองรู้สึกผิดทั้ง ๆ ที่ท่านไม่ได้ผิดอะไร

เรื่องนี้ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นฉันเองที่เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์นี้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   ตอนพิเศษ : วันของเรา

    Chris Part . ข้อดีของความรักที่ไม่ได้เริ่มจากร้อย คือเวลาผ่านไปมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด . เช้าวันเสาร์ วันนี้พอใจและพีทไปนอนที่บ้านพ่อและแม่ของพรีม ส่วนน้องพอร์ชก็ไปนอนที่บ้านของป๊ากับหม่าม้า เท่ากับว่าวันนี้เราสองคนจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันแบบที่ไม่มีลูกอยู่ด้วย ผมรักลูกมากนะ แต่เพราะผมกับพรีมแต่งงานกันตอนที่พรีมท้องแล้ว เพราะฉะนั้นมันน้อยมากจริง ๆ ที่เราจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมเลยจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ไว้ให้มากที่สุด ผมมองคนขี้เซาที่ยังหลับอยู่ เมื่อคืนพรีมนั่งคิดงานจนดึกดื่น ผมรอจนหลับไปเลยไม่รู้ว่าพรีมเข้านอนตอนไหน แต่ดูจากขอบตาที่คล้ำลงเล็กน้อยก็ทำให้รู้ว่าคงดึกพอสมควร ช่วงนี้พรีมกำลังจะเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ พรีมเลยทำงานหนักกว่าปกติ ไหนจะต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็กทั้งสามคนอีก เราสองคนไม่ได้มีเวลาพูดคุยหรือสวีทกันเลย สองเดือนแล้วมั้ง เมคเลิฟครั้งล่าสุดของเรา ผมก้มลงไปหอมแก้มนิ่มเบา ๆ โดยที่ไม่รบกวนคนที่นอนหลับสบายอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงและเดินออกมาที่สวนหน้าบ้าน ออสก้าพอเห็นผมปุ๊ปมันก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาทันที “โฮ่ง!” “

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   ตอนพิเศษ : ไปโรงเรียนวันแรก

    เวลาเดินเร็วจนใจหาย เผลอแปปเดียวพอใจและพีทก็ต้องเข้าโรงเรียนแล้ว คริสปรึกษากับพรีมค่อนข้างจริงจังสำหรับเรื่องนี้ ทั้งอายุที่ควรให้ลูกเข้าอนุบาลหนึ่ง หรือโรงเรียนที่จะให้ลูกเรียน แต่ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าช่วงสามถึงห้าขวบจะหาครูมาสอนเด็ก ๆ ที่บ้านเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียนจริง และให้ลูกเริ่มเข้าอนุบาลหนึ่งตอนห้าขวบ คริสเครียดหนักกว่าใครเพื่อน เพราะเขาเคยอ่านเจอมาว่าถ้าส่งลูกเข้าเรียนเร็วไปก็ไม่ดี เด็ก ๆ จะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ครูก็ไม่ใช่พ่อแม่ที่จะรักและดูแลเด็กได้ดีเท่ากับพ่อแม่แท้ ๆ เขาปรึกษากับพรีม พ่อแม่ของพรีม พ่อแม่ของตัวเอง รวมถึงเพื่อน ๆ ในกลุ่มอยู่หลายเดือน และสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าห้าขวบคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ส่วนโรงเรียนเนตั้นเป็นคนแนะนำมา ซึ่งพอได้เข้าไปเดินดูและพูดคุยกับครูหลาย ๆ ครั้งก็ทำให้เขารู้สึกพอใจมากกับโรงเรียนนี้ เมื่อได้โรงเรียนที่ถูกใจแล้วเขาก็สมัครให้ลูกเสร็จสรรพ เพียงไม่นานก็ถึงวันแรกที่ลูก ๆ ต้องไปเรียน เช้าแรกของการพาลูกไปโรงเรียนวุ่นวายเสมอ เขาได้รู้ซึ้งถึงการเป็นพ่อจริง ๆ เมื่อตอนที่ลูกงอแงไม่ยอมตื่นนี่แหละ “พอใจขา ตื่นได้แล้วลูก” “...” เงียบ ไ

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   PLAYBOY : Epilogue

    Chris Part . สองปีต่อมา . ผมได้แต่คิดว่าบางทีเวลามันก็เดินไวเกินไป เหมือนผมกระพริบตาแค่ครั้งเดียว เวลาก็ล่วงเลยมาสองปีแล้วหลังจากที่ได้ยินคำว่ารักจากพรีม ตอนนี้เราทั้งครอบครัวย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยถาวรได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว เลยกำหนดที่ควรกลับไปสี่เดือนกว่า เพราะอาชีพของพรีมกำลังเติบโต ผมเลยไม่คิดจะเร่งรัดเธอและเฝ้ารออย่างอดทน พรีมขอเวลาเพิ่มอีกสี่เดือน ผมได้แต่ยิ้มและพยักหน้ารับว่ารอได้ ก็ผมรอเธอมาสองปีแล้ว ทำไมจะรอต่ออีกสี่เดือนไม่ได้ และเมื่อครบสี่เดือนปุ๊ป เราก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยทันที และเนื่องจากความไม่ลงตัวของสองบ้าน ที่อยากให้ผมและพรีมรวมถึงลูก ๆ ไปอยู่ด้วย ผมเลยตัดสินใจสร้างบ้านของตัวเองขึ้นมา และสัญญากับพวกท่านว่าจะพาหลานกลับไปนอนบ้านทุกอาทิตย์สลับกันไป พวกท่านฮึดฮัดนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ยอมตามใจผมและพรีมแต่โดยดี ผมจัดการเรื่องบ้านตั้งแต่ลูกอายุหนึ่งขวบ พรีมให้ผมเป็นคนตัดสนใจเกือบทั้งหมด เพราะผมมีความรู้เรื่องนี้ ส่วนพรีมจะช่วยตัดสินใจแค่บางอย่างเท่านั้น บ้านหลังนี้จึงเป็นบ้านที่ค่อนข้างมีกลิ่นอายของผมอยู่มาก แต่ดูเหมือนว่าพรีมเองก็พอใจกับมันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะพื้

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   PLAYBOY : 47

    Pream Part . “ตื่นเต้นไหมพิมมี่” เสียงของนิโคลัสทำให้ฉันละความสนใจจากงานตรงหน้าและหันกลับไปมอง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา “ถ้าบอกว่าไม่เลยค่ะ ฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียว แบบนี้บอสจะเชื่อฉันไหมคะ?” “ไม่มีทาง แฟชั่นโชว์แรกของผมตื่นเต้นจนแทบจะเป็นลม คุณจะมาแข็งแกร่งกว่าผมไม่ได้นะ” นิโคลัสตอบกลับขำ ๆ และคำพูดของเขาก็ทำให้ฉันหัวเราะออกมาจนได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่นิโคลัสก็มักจะผ่อนคลายความเครียดและความกังวลให้คนอื่นได้เสมอ เขาเก่งเรื่องนี้จริง ๆ “ตื่นเต้นค่ะ แต่ตอนนี้หายตื่นเต้นนิดหนึ่งแล้วเพราะได้คุยกับบอสนี่แหละ” นิโคลัสขำออกมาเสียงดัง ฉันไม่ได้พูดเกินจริงหรืออยากจะยอเขา แต่เพราะพอได้คุยกับนิโคลัสฉันก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริง ๆ เรายืนคุยกันได้ไม่นานนิโคลัสก็ถูกตามตัว เขาหันมาชูกำปั้นให้ฉันเป็นเชิงว่าให้สู้ ๆ ก่อนจะเดินตามทีมงานไป ฉันหันกลับมาดูชุดที่เตรียมไว้ให้นางแบบใส่อีกครั้ง มองผลงานของตัวเองด้วยความชื่นใจ กว่าเก้าเดือนที่ฉันลงแรงไปกับมัน วันนี้ผลงานของฉันกำลังจะเปิดเผยให้คนอื่นได้เห็นแล้ว แม้คอลเลคชั่นนี้จะเปิดตัวภายใต้แบรนด์ของนิโคลัส แต่นิโคลัสก็ให้เครดิตฉันร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาใช

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   PLAYBOY : 46

    Pream Part . หนึ่งเดือนต่อมา . “น้องพีท หนูจะเอาอะไรคะลูก หืม... มองน้าไม่หยุดเลยนะคะ” ฉันหัวเราะออกมาเมื่อนับดาวเอาแต่ชวนน้องพีทคุยไม่หยุด น้องพีทกลับมาอยู่ที่บ้านได้สามวันแล้ว พอรู้เรื่องทุกคนก็รีบบินมาเยี่ยมหลานทันที ร่างกายของน้องพีทเติบโตขึ้นเร็วมาก จนคิดไม่ถึงว่าเด็กแก้มกลมคนนี้จะเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาก่อน ตอนนี้น้องพีทกลายเป็นเด็กสดใสและคุยเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ อาจจะเพราะว่าเขาอยู่โรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน เวลาเจอคนเยอะ ๆ เลยตื่นเต้นและคอยแต่จะร้องเรียกหาไม่หยุด ในขณะที่พอใจกลับติดแค่พ่อและแม่มากขึ้น ไม่ค่อยเล่นกับคนอื่น ๆ เหมือนตอนแรก ๆ แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ใช่... ในที่สุดพอใจกับคริสก็เข้าขากันได้ แม้จะชอบแหย่กันมากกว่ารักกันก็ตาม... แต่ทุกวันนี้คริสสามารถช่วยฉันกล่อมพอใจนอน ช่วยอาบน้ำ และเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พอใจได้โดยที่พอใจไม่โยเยแล้ว เขาแบ่งเบาฉันได้เยอะมากเลยทีเดียว ช่วงสองอาทิตย์ก่อนที่น้องพีทจะออกจากโรงพยาบาล หมอมิเชลให้ฉันลองเอาน้องพีทเข้าเต้า เพราะฉันแจ้งกับหมอไปว่าต้องการให้น้องพีทดื่มนมจากเต้าเป็น วันแรก ๆ น้องพีททำไม่เป็นเลย ฝึกกันอยู่หลายวันจนสุดท้า

  • PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด   PLAYBOY : 45

    Chris Part . “ฉันรักเธอ” “เรื่อง...จริงเหรอ” “เรื่องจริง” ผมยืนยันหนักแน่น “ฉันไม่ได้พูดเพื่อให้เธอหายโกรธ ฉันถามตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และคำตอบที่ได้ก็อย่างที่ฉันบอกไป ว่าฉันรักเธอ” พรีมเงียบไป เธอมองหน้าผมนิ่ง ๆ ผมเองก็มองเธอกลับไม่คิดจะหลบตา ผมรู้ดีว่าทั้งประวัติที่ผ่านมาของผม และเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อคืนอาจจะทำให้พรีมไม่มั่นใจ แต่ผมไม่เคยโกหกความรู้สึกตัวเอง ผมไม่คิดจะพูดคำว่ารักออกไปเพียงเพื่อให้พรีมหายโกรธ แต่ผมพูด เพราะผมรู้ตัวแล้วว่าผมรักเธอจริง ๆ “เธอยังไม่เชื่อว่าฉันรักเธอก็ไม่เป็นไร แต่อย่าพูดเหมือนไม่หวงฉันแบบนี้ได้ไหม ฉันเสียใจนะรู้ไหม” พอเห็นว่าพรีมเริ่มอ่อนลงผมก็ใช้ลูกอ้อนทันที ผมใช้วิธีนี้อ้อนหม่าม้าเวลาทำให้หม่าม้าโกรธอยู่บ่อย ๆ ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าการพูดด้วยเสียงอ่อน ๆ ทำหน้าตาให้น่าสงสารแบบนี้ ใช้ได้ผลกับหม่าม้าทุกครั้ง รวมถึงพรีมด้วย เพราะตอนนี้พรีมกำลังยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่ตาแดง จมูกแดงจากการร้องไห้ก่อนหน้า แต่เพียงแค่ครู่เดียวเธอก็กลับไปทำหน้านิ่งอีกครั้ง “แล้วนายจะอธิบายเรื่องผู้หญิงคนนั้นยังไง ฉันเห็นรูปที่นายจูบกับเธอด้วย” “อย่าใช้คำว่าฉันจ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status