บทที่ 8 โปรเจคน้ำหอมใหม่
เจบีดีกรุ๊ปมีตึกสำนักงานใหญ่อยู่ในใจกลางเมืองหลวง มันสูงระฟ้าหลายสิบชั้นเพราะภายในนั้นรวมทุกอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ควรจะมี อีกทั้งพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านหลังก็เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตและห้องแล็ปทดลอง
วันนี้บอร์ดบริหารมีการประชุมครั้งใหญ่ในเรื่องของโปรเจคน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ทำมาจากดอกเจอราเนียมหรือดอกปากนกกระเรียน เพราะทางสวนภักดีได้เมล็ดชั้นดีมาจึงลองเพาะพันธุ์แล้วส่งให้กับเจบีดีกรุ๊ปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้
แน่นอนว่าผู้บริหารอย่างจอมบดินทร์เป็นคนควบคุมทุกกระบวนการเองตั้งแต่นำดอกไม้มาเข้าห้องแล็ปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มันถูกปรับเปลี่ยนแก้ไขอยู่หลายสิบครั้งเพราะเจ้าจอมต้องการให้น้ำหอมทุกกลิ่นของเจบีดีกรุ๊ปออกมาดีอย่างไม่มีที่ติ
จนกระทั่งวันนี้ที่นัดประชุมใหญ่เพื่อหาข้อสรุปว่าตัวน้ำหอมในโปรเจคใหม่นี้พร้อมสำหรับการวางขายแล้วหรือไม่
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมนั่งอ่านแฟ้มรายงานการประชุมเมื่อคราวก่อนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ปากกาในมือถูกตวัดจดลงบนกระดาษเป็นข้อ ๆ เขาต้องการทบทวนว่าครั้งก่อนได้ข้อสรุปในเรื่องไหนไปแล้วบ้างและเรื่องไหนที่ยังตกลงกันไม่ได้
เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาก็ผุดลุกขึ้นพร้อมคว้าเสื้อสูทติดมือมาด้วย ขายาวของอัลฟ่าก้าวเข้าหาภรรยาที่นั่งอยู่บนโซฟา ในตักมีเด็กชายตัวน้อยนั่งมองภาพหลากสีจากหนังสือไม่วางตา ริมฝีปากยกยิ้มจนพาให้ดวงตากลายเป็นสระอิ
ร่างสูงของจอมบดินทร์ย่อตัวลง เขาชันเข่าข้างหนึ่งไว้แล้วก้มลงหอมแก้มลูกชายไปฟอดหนึ่งก่อนจะเอ่ย “คุณพ่อไปทำงานก่อนนะครับ น้องพีชเป็นเด็กดีอย่าดื้อกับคุณแม่นะลูก”
ฝ่ามือหนาลูบศีรษะของลูกน้อยผ่านฮูดที่คลุมอยู่อย่างอ่อนโยนแล้วช้อนตามองภรรยาโอเมก้าด้วยรอยยิ้มบาง “พี่ไปทำงานนะ”
ภีมพัฒน์พยักหน้ารับคำสามีแล้วหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายยืดตัวมาจูบหน้าผากเขาก่อนจะผละออก สัมผัสและรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนจากเจ้าจอม
“ขอให้การประชุมผ่านไปด้วยดีนะครับ”
“เธออวยพรพี่แบบนี้มันต้องดีแน่”
ภายในห้องทำงานของประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปอย่าง จอมบดินทร์ กีรติเมธานนท์ มีโอเมก้ากลิ่นดอกคาโมมายด์และลูกน้อยวัยห้าเดือนเศษกำลังเล่นซ่อนแอบกันอยู่
เจ้าก้อนน้อยอยู่ในชุดจั๊มสูทสีน้ำตาลเข้มตัวเดิม มือน้อย ๆ วางบนพื้นโซฟาคลานเข่าเข้าไปหาคนเป็นแม่ที่แอบอยู่ด้านหลังพร้อมยกยิ้มกว้างเมื่อได้เล่นสนุก
ภีมพัฒน์ย่อตัวลงแล้วอ้าแขนออกรอรับลูกชาย แต่ไม่ทันไรเจ้าตัวน้อยก็ฟุบหน้าลงกับโซฟาเนื้อนุ่ม นิ้วป้อมถูกส่งเข้าปากพลางช้อนมองคุณแม่โอเมก้าตากลม
"เล่นเหนื่อยแล้วก็หิวเลยหรือน้องพีช" คุณแม่โอเมก้ายกยิ้มหวานอย่างนึกเอ็นดูลูกชายก่อนจะเข้าไปอุ้มเจ้าก้อนเข้าอกแล้วนั่งลงบนโซฟา
กระเป๋าที่เขาหอบมามีนมปั๊มอยู่สองถึงสามถุง เจ้าจอมนำมันไปแช่ตู้เย็นภายในห้องทำงานไว้เมื่อเช้า เขาเอามาเผื่อไว้กลัวว่าลูกจะหิวตอนคุณพ่อมีแขก ถึงตอนนั้นจะให้เขาเปิดเสื้อโชว์ก็อย่างไร ๆ อยู่
แต่ตอนนี้ในห้องมีแค่เขาและลูก อีกทั้งเมื่อห้านาทีก่อน คุณสาวิกาเลขาหน้าห้องบอกกับเขาว่าการประชุมคงยืดเยื้อต่อไปอีกสักระยะเพราะยังไม่ได้ข้อสรุป
โอเมก้าน้อยจึงรบกวนให้คุณเลขาช่วยเตรียมมื้อเที่ยงให้สามีอัลฟ่า ส่วนตนนั้นจะพาลูกน้อยกินนมนอนก่อนแล้วค่อยสั่งของตัวเองมาทานทีหลัง
ภีมพัฒน์อุ้มน้องพีชเข้าอก เจ้าตัวน้อยก็รู้หน้าที่รีบมุดหน้าเข้าหาเต้าของคนเป็นแม่ โอเมก้าแม่ลูกอ่อนโยกตัวเบา ๆ เพื่อกล่อมเด็กน้อยในอ้อมแขนเพราะถึงเวลานอนกลางวันแล้ว
ไม่ถึงสิบนาทีลูกน้อยก็หลับปุ๋ยในขณะที่ริมฝีปากยังไม่ผละออกจากจุกนมของคนเป็นแม่ โอเมก้าน้อยตั้งท่าจะพาน้องพีชไปนอนในห้องด้านหลังดี ๆ แต่ยังไม่ทันจะลุกยืนประตูห้องทำงานก็เปิดออก ปรากฏเป็นร่างสูงใหญ่ของสามีอัลฟ่า
จอมบดินทร์ก้าวเข้าห้องทำงานมาด้วยความเคยชิน กว่าจะนึกได้ก็ตอนที่เห็นสายตาคาดโทษจากภรรยา เจ้าโอเมก้าน้อยรีบหันข้างซ่อนช่วงอกเปลือยเปล่าแล้วรั้งชายเสื้อลงปิดจุกนม
“ค...คุณจอม ทำไมไม่เคาะประตูก่อนล่ะครับ” ภีมพัฒน์สะบัดเสียงต่อว่าสามีไม่เต็มเสียงนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวว่าลูกจะตื่น อีกส่วนเพราะเขายังเกรงใจอีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า
“ขอโทษที พี่ชินน่ะ” อัลฟ่าเกาท้ายทอยแก้เก้อก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาภรรยา ฝังจมูกบนพวงแก้มใสฟอดหนึ่งเพื่อไถ่โทษความผิดเมื่อสองนาทีก่อน
“หลับแล้วหรือ” คนเป็นพ่อเอ่ยถามในขณะที่ดวงตาคู่คมก็จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกชายที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของภีมพัฒน์
“เพิ่งหลับไปเมื่อกี้เองครับ”
“พี่พาลูกไปนอนเอง”
ไม่ว่าเปล่า อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมอ้าแขนรอรับลูกน้อย ประคองอย่างทะนุถนอมแล้วเดินเข้าห้องนอนส่วนตัวที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน เขาวางเจ้าตัวน้อยลงบนที่นอนนุ่ม จัดการห่มผ้าและวางหมอนกั้นรอบทิศทางเอาไว้เผื่อวันนี้ลูกชายนอนดิ้นจะได้ไม่ตกมาเจ็บตัว
“ประชุมเสร็จแล้วหรือครับ” ภีมพัฒน์เอ่ยถามสามีจากด้านหลัง เมื่อครู่เขาเดินตามมาติด ๆ
“ยังเลย แต่ใกล้ได้ข้อสรุปแล้วล่ะ” ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปตอบคำถามของภรรยาแล้วหันหลังกลับมาหาโอเมก้าน้อย ริมฝีปากยกยิ้มบางก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา
“พี่เริ่มหิวแล้วสิ”
“ภีมบอกคุณสาวิกาเตรียมมื้อเที่ยงให้คุณจอมแล้วครับ อีกซักพักคงมาพอดี” ภีมพัฒน์เอ่ยตามที่ตนได้บอกไปกับคุณเลขาหน้าห้อง อีกฝ่ายน่าจะเห็นแล้วว่าจอมบดินทร์กลับมาจากประชุมแล้ว อีกไม่นานอาหารมื้อเที่ยงของท่านประธานก็คงมาเสิร์ฟ
“พี่อยากกินนม”
เจ้าดอกคาโมมายล์เอียงคอมองอย่างสงสัย “เอาเป็นข้าวดีกว่าไหม มีประชุมต่อไม่ใช่หรือครับ”
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้มพลางส่ายศีรษะน้อย ๆ นึกเอ็นดูภรรยาที่ตามเล่ห์เหลี่ยมของเขาไม่ทัน แต่นั้นก็ดีแล้ว...น่ารักสมเป็นภีมพัฒน์แม่ของลูกเขาจริง ๆ
“นมเธอ” เจ้าจอมเอ่ยบอกโอเมก้าน้อยอย่างไม่อายปากมิหนำซ้ำยังยกยิ้มคล้ายว่าเป็นคำพูดปกติทั่วไป ต่างจากภีมพัฒน์ที่ชะงักนิ่งไปเกือบนาที
“พนักงานลงไปพักเที่ยงกันหมดแล้ว เธอครางเสียงหวานให้พี่ฟังได้” จอมบดินทร์เอ่ยเกลี่ยกล่อมภรรยาพลางสาวเท้าเขาใกล้ ไล่ต้อนโอเมก้าน้อยให้จนมุม
ภีมพัฒน์ถอยหลังไปชนชั้นวางของ หันซ้ายแลขวาก็ไม่มีทางให้หลีกหนีเพราะถูกท่อนแขนหนากางกั้นกักขังเขาเอาไว้
อัลฟ่าสามีไม่ทิ้งเวลาให้เสียเปล่า ริมฝีปากจรดจุมพิตลงบนความนุ่มหยุ่นของภรรยา ดูดดึงจนมันยืดติดปากก็ยกยิ้มชอบใจ ก่อนจะยกร่างของคนตัวเล็กกว่าให้นั่งบนชั้นวางของแล้วแทรกตัวเข้าไปยืนตรงกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้าง
คุณแม่ลูกอ่อนวางมือดันไปด้านหลังเพื่อพยุงตัว เสื้อยืดตัวบางถูกเลิกขึ้นสูงจนเห็นตุ่มไตสีหวาน ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวกายจนเขาสั่นอยู่พักหนึ่ง แต่เพียงอึดใจความอุ่นร้อนจากโพรงปากของสามีก็ประกบลงมาครอบไปทั้งตุ่มไต
“จะทานแล้วนะครับ”
“อ๊ะ...ค...คุณจอม” โอเมก้าน้อยกัดปากกลั้นเสียงคราง เขาไม่อยากเสียงดังจนทำให้ลูกชายตื่นมากลางคันอีก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจอมจะไม่ให้ความร่วมมือกันเสียเลย ยิ่งเห็นคนรักพยายามกลั้นเสียงยิ่งรัวปลายลิ้นจนโอเมก้าน้อยดิ้นพล่าน ฝ่ามือบางปัดป่ายไปทั่วทั้งบนชั้นและลำตัวของสามี
“หวาน” อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมผละออกมาจ้องดวงตาคู่สวยของภรรยาแต่ปลายลิ้นยังทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มันละเลงเม็ดทับทิมสีหวานจนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ
“คุณจอม...เบาหน่อยครับ” ภีมพัฒน์เอ่ยบอกสามีตะกุกตะกัก ฝ่ามือก็ทั้งดันแผ่นอกหนาทั้งรั้งคอเสื้อของจอมบดินทร์จนอัลฟ่าไม่รู่ว่าควรจะหยุดหรือไปต่อดี ได้แต่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ให้ท่าทีไม่คงที่ของภรรยา
“อย่าพูดอะไรที่มันตรงข้ามกับความต้องการสิหนู”
ฝ่ามือบางจิกกำเสื้อเชิ้ตของสามี ปัดป่ายไปทั่วเพราะไม่รู้ว่าควรวางไว้ตรงไหนดี อีกทั้งยังถูกเจ้าจอมรังแกไม่ยอมปล่อย เขาก็ทำได้เพียงดิ้นพล่านเหมือนกุ้งโดนพริกแบบนี้
แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันเป็นสัมผัสที่เขาชอบ
“นมเธอเต็มปากพี่เลยคนดี”
“อ๊ะ...อ๊า” โอเมก้าน้อยกัดปากกลั้นเสียงสุดกำลัง แต่จอมบดินทร์ก็คล้ายกับว่าจะแกล้งกันอยู่ร่ำไป ทั้งรัวลิ้นใส่ทั้งดูดดึงจนเขาเสียวกระสันไปหมด แต่จะให้เปิดเปลือยตอนนี้เลยคงไม่เหมาะเพราะเป็นห้องทำงานของสามี
ภีมพัฒน์ไม่ได้ใจกล้าขนาดนั้น...แต่ไม่ใช่กับประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ป
เจ้าจอมผละออกจากแผ่นอกของภรรยา สายตาคมยังจ้องมองเหยื่อตัวน้อยด้านหน้าในขณะที่เลื่อนมือลงไปปลดตะขอกางเกงของตนลง ทำโอเมก้าหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเห็นแก่นกายที่โป่งนูนขึ้นมาเป็นลำชัดเจน “ค...คุณจอม”
ฝ่ามือหนาเตรียมรั้งกางเกงลงเพื่อเริ่มขั้นตอนต่อไปแต่กลับต้องรีบคว้าตัวภรรยาที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย เสื้อผ้าหลุดรุ่ยมากอดไว้จนจมอกแล้วหันหลังหนีทันที
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้งโดยที่มันไม่มีเสียงสัญญาณเตือน คนไม่มีมารยาทแบบนี้มีเพียงคนเดียวในบริษัทและดันกลายเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารเสียด้วย
อเล็กซ์ชะงักค้างอยู่ด้านหน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของอัลฟ่าเพื่อนสนิท อีกทั้งกลิ่นฟีโรโมนทั้งสองกลิ่นก็ฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้อง ท่าทีกอดรัดคนในอ้อมแขนจนจมอกแล้วใช้ร่างหนา ๆ บังไว้จนมิดนั้นพอจะให้คำตอบแก่เขาได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น
ภีมพัฒน์รีบมุดหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้าง เขาตกใจจนเผลอจิกไหล่ของสามีแน่นจนอีกฝ่ายร้องซี๊ดออกมาเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้ถูกต่อว่าอะไร มิหนำซ้ำยังตระกองกอดเขาไว้แน่นปานลูกนก
เมื่อครู่เขาแทบเปลือยอยู่แล้ว เจ้าจอมเองก็เช่นกัน หากช้ากว่านี้อีกเพียงนาทีเดียวคงกลายเป็นภาพที่ไม่น่าดูอย่างแน่นอน
ภีมจะโกรธคุณจอมอีก
โอเมก้าน้อยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ยิ่งคุณอเล็กซ์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นเพื่อนอัลฟ่าเพียงคนเดียวของสามีเขายิ่งไม่รู้ว่าต้องใส่หน้ากากหนาแค่ไหนให้พูดคุยกับอีกฝ่ายได้ปกติ
ภีมพัฒน์อยากจะร้องไห้
อัลฟ่าลูกครี่งกระแอมในลำคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ไอ้ประธาน เขาจะประชุมกันแล้ว”
“อเล็กซ์ XXXX”
#โอเมก้าของเจ้าพ่อน้ำหอม
อีพ่อมันโดนงอนอีกแน่
TW : chomchan_writer
บทที่ 20 พี่รัท เธอฮีท...เราควรทำอย่างไรดี"อ๊า! อ๊ะ อ๊ะ...ป๊า อ๊ะ!" เสียงกระเส่าของโอเมก้าแทบดังลั่นภูเขาลูกหนึ่ง สาเหตุก็มีเพียงอย่างเดียวคือถูกจอมบดินทร์รังแกจนตัวลอยตาลอย แม้จะอยากเม้มปากกลั้นเสียงก็ไม่สามารถทำได้ตามใจหวังท่อนลำใหญ่กระแทกกระทั้นปรนเปรอช่องทางเปียกชื้นจนมันบวมเป่งแต่อัลฟ่ากลับยังไม่พอใจ หยัดสะโพกตอกใส่ภรรยาจนหัวสั่นหัวคลอน ริมฝีปากอ้าออกหอบเอาอากาศทุกวินาที บางจังหวะก็ส่งเสียงร้องคล้ายกับจะขาดใจ"อ๊าา เสียวxxxชิบ อีกนิดค่ะคนสวย" อัลฟ่าสามีเอ่ยลอดไรฟัน ท่อนแขนอุ้มกระเตงภรรยาไว้ในอ้อมแขนแล้วกระแทกสะโพกส่งตัวตนเข้าไปด้านในตัวภีมพัฒน์หนักหน่วงจอมบดินทร์ตั้งใจว่าจะพาภรรยาไปพลอดรักเร่าร้อนที่ด้านหลังรถ แต่เพราะเจ้าดอกไม้เอ่ยห้ามไว้ กลัวว่าน้องพีชที่หลับอยู่จะรับรู้ถึงแรงสะเทือนและกลิ่นฟีโรโมนเข้มข้นของพวกเขาเขาไม่มีทางเลือกยอมตามใจภรรยาไม่เข้าไปด้านในรถแต่อารมณ์ที่พุ่งสูงก็ไม่สามารถกล่อมให้เบาลงได้ นอกเสียจากจะได้ปลดปล่อยกับคนรัก"อ๊ะ! ฮ...อ๊า ป...อ๊ะ" เรียวแขนทั้งสองข้างตวัดโอบรอบคอสามีไว้แน่น นิ้วทั้งสิบก็จิกลงเนื้อหนังของเจ้าของอ้อมกอดจนห้อเลือด แม้จะกลัวอีกฝ่ายเจ
บทที่ 19 คืนนี้...เขาลูกนี้เป็นของเรา“ค...คุณจอม” เสียงหวานกระเส่าของโอเมก้าน้อยเรียกให้ผู้เป็นสามีละจากลำคอขาวขึ้นมามองสบกันเจ้าจอมยกยิ้มมุมปาก มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองตนก่อนจะเอ่ยเสียงกระซิบ “เรียกใหม่ค่ะ หนูต้องผัวว่าอะไร”“ป๊า...อื้อ” ยังไม่ทันเอ่ยได้จนจบประโยค อิสระก็ถูกพรากไปด้วยรสจูบดุดันจากสามี มันทำให้แขนขาเขาอ่อนเปลี้ยหาที่จับยึดไม่ได้เลยทีเดียว“เชื่อฟังดีมากหนูภีม”เจ้าดอกไม้นอนแผ่หลาอยู่บนกระโปรงรถหลังถูกสามีรั้งตัวมากอดแนบชิดแล้วพรมจูบไล่ไปทั้งตัวโอเมก้าน้อยอยู่ในอ้อมกอดของจอมบดินทร์ในท่าลิงอุ้มแตง เขาจึงคิดว่าสามีจะพาไปด้านหลังตัวรถแต่กลับไม่ใช่เป็นกระโปรงด้านหน้ารถแทนเธอยั่วพี่เองภีมพัฒน์...ไม่น่าเลย“ป...ป๊า มันโล่งไป” เสียงหวานเอ่ยบอกเจ้าจอมอย่างประหม่า ดวงตาคู่สวยหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวัง“ภีมกลัวมีคนมาเห็น”แม้คำพูดและท่าทางจะแสดงออกว่าตื่นกลัว แต่ก้อนเนื้อในอกกลับตรงกันข้ามตื่นเต้น...ใช้เป็นคำนิยามได้ดีทีเดียวประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปยกยิ้มอย่างเอ็นดูภรรยา แต่สายตาของผู้ล่าและฝ่ามือหนาที่ขย้ำเอวคอดอยู่กลับเตรียมพร้อมตะครุบเหยื่อในทันที “
บทที่ 18 เธอยั่วพี่เองเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังออกจากปั๊มน้ำมันก็มาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนของพวกเขาในสัปดาห์นี้ มันเป็นพื้นพี่ราบบนภูเขาลูกหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ จอมบดินทร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลไว้แล้ว เมื่อมาถึงก็สามารถขับรถเข้ามาจอดได้เลยอัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองที่ไม่บางมากนัก เสื้อยืดสีครีมและกางเกงคาร์โก้สีเดียวกันถูกเขาหยิบมาใส่เมื่อเช้าก่อนออกเดินทาง แม้ไม่ได้ทำอะไรหนักหน่วงจนเหงื่อโทรมกายแต่ในตอนนี้เขาอยากอาบน้ำเป็นอย่างแรก เผื่อว่าสายน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้อารมณ์ร้อนรุ่มภายในใจเขาทุเลาลงไปบ้างแค่นิดเดียวก็ยังดีเจ้าจอมยืนเอนกายพิงกระโปรงรถอยู่ด้านนอก ท่อนแขนทั้งสองข้างประสานกันไว้กลางอก ลมหายใจสูดเข้าออกลึกเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในเมื่อชั่วโมงก่อนเขาเกือบพาลูกเมียพบเจอกับอุบัติเหตุเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฝ่าเท้าเหยียบเบรคมิดจนโอเมก้าข้างกายหัวขมำ โชคดีที่เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นภีมพัฒน์ถูกสามีเอ่ยห้ามไม่ให้ตามออกไปด้านนอกแม้จะถึงที่หมายแล้ว อีกฝ่ายอ้างว่าเพราะลูกชายยังไม่ตื่นจึงให้เขาอยู่เป็นเพื่อนน้องพีชก่อน ส่วนตัวเองจะออกไปส
บทที่ 17 คุณจอม...เป็นอะไร"คุณจอมครับ..." โอเมก้าน้อยเอ่ยเรียกสามีเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยฉายแววความกังวลอยู่มาก ท่าทีที่แสดงออกก็เช่นกัน ฝ่ามือบางกำเข้าหากันด้วยความประหม่า ในหัวคงคิดหลายเรื่องราวจนพันกันยุ่งเหยิง คิ้วทั้งสองข้างจึงชนเข้าหากันอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้ม ภีมพัฒน์ในตอนนี้เหมือนลูกกระต่ายขี้กลัวแม้เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายกลัวคืออะไร แต่ไม่ได้กลัวเขาแน่นอนวันนี้เขายังไม่ได้แกล้งเจ้าดอกไม้เลยสักนิดเดียว หน้าที่สามีและพ่อก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย"หื้ม ว่าไงคะ" จอมบดินทร์มองภรรยาด้วยความรัก ระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสาร ท่อนแขนหนายกขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ ศีรษะจึงเอียงลงแนบกับฝ่ามือ นัยน์ตาคมก็จับจ้องภีมพัฒน์ไม่ละสายตาโอเมก้าน้อยหลุบตาลงต่ำ สองเท้าสาวเข้าใกล้สามีจนกระทั่งมายืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองพวกเขายังอยู่ในห้องทำงานของประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ป จอมบดินทร์นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานในขณะที่มีภรรยาตัวน้อยยืนกุมมืออยู่ตรงหน้า ส่วนลูกชายถูกอเล็กซ์ขโมยไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนป่านนี้ก็ยังไม่พาหลานมาคืน ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันถึงไหนแล้วเ
บทที่ 16 เมียผมไม่เคยน้อยหน้าใคร"เงียบปากเดี๋ยวนี้คุณดรีม""กล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือ"ประธานแห่งเจดีบีกรุ๊ปได้ยินคล้ายคนมีปากเสียงกันหลังจากรีบวิ่งตามอเล็กซ์เพื่อนตัวดี อาจจะหนึ่งหรือสองคนหรือมากกว่านั้น มีหลายประโยคที่เขาฟังไม่ถนัดแต่ที่แน่ชัดคือทุกคนกำลังโจมตีคน ๆ เดียวกันเพื่อนอัลฟ่ากระหืดกระหอบขึ้นไปเรียกเขาถึงในห้องทำงาน อีกทั้งยังรีบเร่งเสียจนนึกรำคาญ แต่พอได้ยินว่าเรืองที่เกิดขึ้นมีชื่อของภีมพัฒน์เข้าไปเกี่ยวข้องก็รีบจ้ำอ้าวจนแทบกลายเป็นวิ่งในทันทีประตูห้องสตูดิโอที่ชั้นล่างสุดของตึกเปิดอยู่ มีพนักงานใส่เสื้อสีดำระบุคำว่า staff ยืนจับกลุ่มกันสองถึงสามคน เมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนที่จำได้ว่าเจ้าของมันเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ก็รีบพากันหลีกให้พ้นทาง"คุณสูงส่งมาจากไหนถึงได้หยาบคายกับคุณภีมแบบนั้น""แล้วคุณภีมอะไรนั่นมันสูงกว่าฉันตรงไหน ทำไมจะพูดถึงไม่ได้"ประโยคแรกเป็นเสียงผู้หญิงคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท ฟังจากน้ำเสียงคงจะโมโหอยู่มากแต่ยังไว้หน้าไม่หยาบคายใส่คู่สนทนาแต่ประโยคถัดมาเขาไม่คุ้นหูเลยสักนิด"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ให้เกียรติคุณภีมด้วย""เป็นถึงเมียประธ
บทที่ 15 ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้"ภีม...วันนี้หนูเป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยคนดี" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยหลังจากเร่งเดินตามอีกฝ่ายภีมพัฒน์เดินดิ่งจากสตูดิโอชั้นล่างขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นผู้บริหารซึ่งเป็นชั้นทำงานประจำของเขา เจ้าจอมเกือบตามภรรยาทันตั้งแต่เมื่อครู่แล้วแต่คนอายุน้อยก็ไวเหลือเกิน รีบปิดประตูลิฟต์จนเขาต้องชักเท้าชักมือออกเกือบไม่ทันกว่าลิฟต์จะว่างก็ตอนที่เขาวิ่งขึ้นไปห้าจากยี่สิบชั้น รู้ว่ามันคงเหนื่อยเพราะตนก็ใกล้เข้าเลขสี่เต็มที ไม่ได้หนุ่มแน่นวิ่งได้หลายชั่วโมงติดกันเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะหอบแฮกขนาดนี้"ภีมเปล่าครับ""เธอเป็น"คุณแม่ลูกอ่อนยังคงเบี่ยงหน้าไม่ยอมสบสายตากับสามี มิหนำซ้ำยังกระถดกายถอยหลังตอนที่จอมบดินทร์ขยับเข้าใกล้ ทำอัลฟ่าใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม หัวคิ้วพันกันมุ่นเพราะคิดไม่ตกว่าเมื่อเช้านี้เขาทำอะไรพลาดไป"คนดี...พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า เธอบอกพี่สิ เธอเงียบแบบนี้พี่เดาใจเธอไม่ถูก" เจ้าจอมยังคงพูดหว่านล้อมภรรยาแต่ก็ไม่ได้ผลเช่นเคย"เธอไม่ถูกใจที่พี่ทำตรงไหนหรือเปล่า""ไม่มีครับ""น้องพีช ช่วยคุณพ่อหน่อยสิครับ"เมื่อคุยกับภรรยาไม่ได้ผลก็เปลี่ย