แชร์

บทที่ 8 หน้าด้าน

ผู้เขียน: AngelBell
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-15 01:28:47

บทที่ 8

หน้าด้าน

สติอันน้อยนิดยังพอประคับประคองให้อยู่รอดจวบจนถึงที่หมายอันพิศวง รถยนต์คันหรูจอดที่หน้าตัวบ้านหลังใหญ่ก่อนที่ร่างกายของฉันจะถูกตวัดโอบอุ้มด้วยวงแขนแกร่งของคุณไตร ซึ่งฉันเองก็จับใจความได้ว่าเขากำลังพาฉันเข้ามาด้านในตัวบ้านหลังนั้น และวางฉันลงบนเตียงนุ่มภายในห้องห้องหนึ่ง

“รออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”

เสียงเข้มเอ่ยบอกใกล้ ๆ ทำให้ฉันหันใบหน้าไปมองก็พบว่าคุณไตรได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ กัน ก่อนที่เขาจะบรรจงใช้สำลีปาดเช็ดบาดแผลที่ตอนนี้มีเลือดไหลหลั่ง

“ที่นี่ที่ไหนคะ”

“บ้านฉัน”

“ฉันไม่รู้เรื่องกับคนที่ต้องการยิงคุณในวันนี้นะคะ ฉันมาทำงานจริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นฉันก็ไม่ได้สร้างสถานการณ์ให้ตัวเองเจ็บตัวด้วย” ฉันข่มความเจ็บปวดเอาไว้และพยายามเอ่ยอธิบายความจริงออกไป แม้ว่าน้ำเสียงจะเบาบางจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ก็ตาม

“นอนเฉย ๆ ไปเถอะ ทำแผลเสร็จค่อยว่ากัน”

“เดี๋ยวสิ อ๊ะ!” ร่างกายที่หยัดขึ้นจากเตียงเป็นต้องชะงักก่อนที่ฉันจะทิ้งตัวนอนลงดังเดิม เนื่องด้วยความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณบาดแผลถูกยิง

“นอนลงไป จะลุกขึ้นมาทำไมวะ!”

“ก็ฉัน...”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงดังแทรกขึ้นก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามา พลันทำให้บทสนทนาที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นจำต้องหยุดลงในทันที

ผู้หญิงใบหน้าสะสวยอยู่ในชุดลำลองแขนยาวขายาวเดินเข้ามา เธอคนนั้นมองฉันด้วยหางตา คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ขณะที่ริมฝีปากบาง ๆ นั่นจะเป็นการหยัดคว่ำคล้ายความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปพูดคุยกับคุณไตรด้วยรอยยิ้มฉีกกว้างที่ดูแล้วแตกต่างจากการปฏิบัติต่อฉันอย่างลิบลับ

“คุณบาดเจ็บตรงไหนไหมคะคุณไตร รินรู้ข่าวจากคุณรุตว่ามีคนลอบยิงคุณ”

“ผมไม่เป็นไร แต่หมอช่วยทำแผลให้เธอคนนี้หน่อย เธอโดนยิงแทนผม แต่โชคดีที่โดนแค่เฉียด ๆ”

ฉันทอดสายตามองไปยังคนสองคนที่กำลังพูดคุยสนทนา จวบจนสายตาสองคู่หันมองมาที่ฉันซึ่งนอนอยู่บนเตียงเป็นจุดเดียว

ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นแบบไหน แต่พอเห็นดวงตาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอก็พอเดาออกได้ว่ามันคงเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่ไม่ใช่คำว่าเพื่อนหรือพี่น้องเป็นแน่

“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะคุณไตร”

“หมอรีบรักษาเถอะ ผมจะออกไปรอข้างนอก” คุณไตรไม่ได้ตอบแต่เลือกที่จะทิ้งคำสั่งการเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง โดยมีฉันและคุณหมอคนนี้อยู่เผชิญหน้ากันเพียงสองคน

ความเงียบและอึดอัดตีพุ่งเข้ามา ส่งผลให้ความเจ็บปวดที่พึงมีหายลับไปอย่างที่ไม่สามารถหาคำตอบได้

ฉันเม้มปากแน่นขณะที่สายตาก็จดจ้องมองไปยังคุณหมอคนนั้นด้วยความหวาดหวั่น รับรู้ถึงกระแสความไม่พอใจและไม่เป็นมิตรที่ส่งมา แต่ในเมื่อกำลังร่างกายไม่เหลือแรงพอที่จะลุกออกจากห้องนี้ได้ ฉันจึงทำได้เพียงนอนอยู่บนเตียงเฉย ๆ และรอคอยการรักษาจวบจนทุกอย่างจะเสร็จสิ้น

เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วสำหรับการทำแผลจากการถูกยิง โชคดีมากที่ภายในห้องนี้มีนาฬิกาให้ดูเวลาที่เพียรผ่าน แต่มันก็มีความโชคร้ายที่ฉันดันเป็นคนไข้ที่คุณหมอเกลียดแสนเกลียด จนกลายเป็นว่าบรรยากาศภายในห้องนี้มีเพียงความอึดอัดที่ปกคลุมมาตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมง

“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากที่ปิดปากเงียบมานาน ครั้นเห็นคุณหมอสาวลุกขึ้นและหันไปจัดเก็บอุปกรณ์จึงพอเข้าใจได้ว่าการทำแผลบาดเจ็บคงได้เสร็จสิ้นอย่างที่เฝ้ารอแล้ว

แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับเป็นความเงียบที่สะท้อนกลับมา…

คุณหมอคนสวยงุ่นง่วนกับกระเป๋าสัมภาระที่สะพายติดตัว แถมยังหันหลังให้กันราวกับว่าการเห็นหน้าฉันเหมือนกับเห็นสิ่งน่ากลัวที่เกลียดขยาดอะไรทำนองนั้น

มันไม่ใช่การคิดไปเองแต่มันคือความจริงที่ฉันสัมผัสได้ต่างหาก!

คุณหมอคนนี้เธอไม่ชอบฉัน หรืออาจจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้ เพราะตลอดการทำแผลคุณหมอคนนี้ทำกิริยาไม่พอใจใส่ฉันตลอด ไหนจะท่าทาง ไหนจะสายตาดุดัน และไหนจะน้ำหนักมือที่กดย้ำ ๆ ที่เจ็บน้ำตาไหล แต่ฉันก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ เพราะรู้ดีว่าการโวยวายออกไปก็ไม่มีทางเกิดผลดีกับตัวเอง

“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” คำขอบคุณกล่าวออกไปตามมาด้วยเสียงผ่อนลมหายใจยาวเหยียดที่ปล่อยออกมาหนัก ๆ

ถึงจะได้รับความเกลียดชังกลับมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณหมอคนนี้ช่วยให้อาการบาดเจ็บจากแผลถูกยิงนั้นบรรเทาลงได้จริง ๆ

“อ้อ แล้วแผลแบบนี้ห้ามโดนน้ำใช่ไหมคะ ฉันต้องล้างแผลตลอดใช่ไหม สามารถไปที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้ ๆ ได้เลยใช่ไหมคะ”

ขณะที่สายตากำลังสำรวจร่องรอยความเจ็บปวดที่ถูกพันด้วยผ้าสะอาดเรียบร้อย ความสงสัยที่พุ่งตีขึ้นมาจึงทำให้ฉันเอ่ยปากถามออกไป

แต่ทว่า...

“อีหน้าด้าน! ทำแผลเสร็จแล้วจะไปไหนก็ไป จะอยู่ให้ผู้ชายเขาตามไปส่งหรือไง!”

สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นคือคำด่ากราดต่ำช้าจากปากของแพทย์สาวที่ฉันมองว่าเธอทั้งสวยและโดดเด่น จังหวะนั้นเกิดความตกใจและชะงักงันไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าเธอคนนี้จะแสดงความรังเกียจกันออกมาได้มากขนาดนี้

“การที่ผู้หญิงติดสอยห้อยตามผู้ชายมาถึงบ้านเธอไม่คิดบ้างเหรอว่ามันไม่สมควร ฉันทำแผลให้แล้วก็รีบไสหัวออกไปซะ!”

“ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ฉันยืนยันได้ว่าฉันกับคุณไตรเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน ฉันถูกยิงแล้วเขาก็พาฉันมาทำแผลเท่านั้น” น้ำเสียงที่เปล่งออกไปสั่นเทาเจือปนไปด้วยแรงสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นกลางลำคอ

พอถูกด่าตอกหน้าก็รู้สึกเจ็บจุกไปไม่น้อย ทั้ง ๆ ที่ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับการถูกพาตัวมาในที่แห่งนี้ด้วยซ้ำ

พอถูกไล่แบบนี้ถ้าอยู่ต่ออีกสักนาที ก็คงหน้าด้านหน้าทนเกินไป

ฉันตัดสินใจรวบรวมเรี่ยวแรงและหยัดตัวขึ้นจากเตียงกว้าง พยายามประคองร่างกายตัวเองเพื่อเดินออกจากห้อง ครั้นเมื่อเปิดประตูก็พบกับร่างสูงของคุณไตรที่กำลังยืนประจันหน้าอยู่ ส่งผลให้ขาสองข้างชะงักกึกไปพัลวัน ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับคุณหมอสาวที่เดินตามออกมาพอดี

“รินทำแผลเสร็จแล้วค่ะ แล้วคุณไตรล่ะคะมีบาดแผลหรือเปล่า เดี๋ยวรินขอดูหน่อยนะ”

“ไม่ต้อง หมอทำเสร็จก็กลับไปได้ ขอบคุณมาก” คุณไตรตอบเสียงเข้ม หากแต่สายตาดุดันของเขากลับกดมองมาที่ฉันด้วยความเรียบนิ่งราวกับต้องการคาดคั้นอะไรบางอย่าง

“ให้รินกลับเลยเหรอคะ แต่ริน…”

“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ ส่วนเธอตามมานี่”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าส่วนท้ายของประโยคนั้นหมายถึงใคร คนตัวสูงหมุนตัวเดินนำไปยังทางเดิน ซึ่งเบื้องหน้าเป็นประตูสีดำขลับที่ฉันเองก็คาดเดาไม่ได้เหมือนกันว่ามันคือห้องอะไร

ฉันลอบมองท่าทีคุณหมอเล็กน้อย เธอมีอาการฟึดฟัดไม่พอใจที่แสดงอย่างออกนอกหน้า แถมจังหวะที่ฉันเดินตามคุณไตรไปก็ยังได้ยินเสียงก่นด่าหยาบคายที่ดังเล็ดลอดให้ได้ยิน

สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือการถอนหายใจหนัก ๆ แทนการตอบโต้การกระทำต่ำหยาบ แม้ว่าการถูกด่าจากคุณหมอคนสวยจะทำให้ฉันไม่พอใจมากแค่ไหน แต่เหตุการณ์ที่จะต้องเผชิญในลำดับถัดไปนั้น ฉันคิดว่ามันคงสามารถลบล้างได้โดยปริยาย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษใส่ไข่

    ตอนพิเศษใส่ไข่[ มารุต & เส้นด้าย ]งานเลี้ยงสังสรรค์ฉลองปีใหม่ถูกจัดขึ้นที่ร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำ โดยผู้สนับสนุนหลักก็คือไตรพัฒน์ผู้บริหารสูงสุดเนื่องจากต้องการให้เหล่าพนักงานภายใต้การปกครองได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมามารุตและเส้นด้ายก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้เหมือนกัน มารุตเองก็ทำงานให้ไตรพัฒน์ไม่ต่างจากเลขาคนหนึ่ง นอกจากเขาจะเก่งกาจเรื่องการต่อสู้แล้ว เรื่องเอกสารและงานบริหารเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเลย ส่วนเส้นด้ายเองแม้ว่าจะเพิ่งเข้าทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่ความสามารถของเธอก็สร้างผลงานและรายได้เข้าบริษัทมหาศาล เธอเก่งในเรื่องภาษา แถมยังมีแนวคิดใหม่ ๆ มานำเสนออยู่ตลอด ไอเดียการตลาดและการบริหารย่อมเกิดจากการตัดสินใจของเธอทั้งนั้นการทำงานอย่างดีเยี่ยมส่งผลให้บริษัทไทรอัมพ์ที่ไตรพัฒน์ถือครองนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ในวงการธุรกิจต่างก็จับตามองและให้ความสนใจ อีกทั้งผู้ร่วมลงทุนใหม่ ๆ ก็ต่อแถวรอคอยด้วยกันทั้งนั้นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวันนี้ไม่สามารถตอบแทนสิ่งที่ทุกคนลงมือลงแรงช่วยกันได้เลย หากแต่มันเป็นความตั้งใจเล็กน้อยของไตรพัฒน

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษส่งท้าย ที่แรก

    ตอนพิเศษส่งท้ายที่แรกช่วงเข้าฤดูหนาวไตรพัฒน์ก็พาสายป่านและเด็กชายเตชน์มาเที่ยวที่ฮ่องกงเพื่อพักผ่อน หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่โหมทำงานเนื่องจากต้องการหาวันหยุดยาวให้ครอบครัวถึงแม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ซ้ำยังมีเงินมหาศาลที่ใช้ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด หากแต่คนที่เคยลำบากมาก่อนอย่างเขาย่อมเกลียดขยาดความรู้สึกนั้น นั่งจึงทำให้ไตรพัฒน์เลือกที่จะทำงานอยู่ตลอด เหตุผลก็เพื่อความสุขสบายของครอบครัวอันเป็นที่รักไตรพัฒน์เลือกมาที่ฮ่องกงอีกครั้งเพราะเป็นที่ที่ตัวเองคุ้นชิน เขามีภาพความทรงจำมากมายกับที่แห่งนี้ อีกทั้งตัวภรรยาอย่างสายป่านเองก็เห็นพ้องต้องกันว่าเธออยากมาที่นี่อีกครั้งเพราะตั้งใจจะมาไหว้เทพเจ้าแชกงเช่นเมื่อตั้งท้องเจ้าเตชน์ตอนนี้เด็กชายเตชน์เองก็อายุครบสองปีแล้ว อยู่ในช่วงกำลังซนกำลังมึน พูดจาฉอเลาะร่าเริง บ้างก็เผลอทำตัวเกินวัยจนคนเป็นพ่อและแม่แอบกุมขมับ“เอ...มันน่าจะอยู่แถวนี้สิ” ไตรพัฒน์เอ่ยในลำคอพลางกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่ตั้งใจจะพาลูกเมียมากินโดยเฉพาะหลังจากออกจากโรงแรมที่พัก สถานที่แรกที่เขาอยากพาเมียและลูกมาก็คือร้านอาหารร้านเด็ดของฮ่องกง จากการเซิร์ซดูแผนที

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 7 น้องเตชน์จะเอาของเล่น

    ตอนพิเศษ 7น้องเตชน์จะเอาของเล่นหนึ่งปีผ่านไปเด็กชายเตชน์อายุได้หนึ่งขวบห้าเดือนก็เริ่มวิ่งไล่จับกับคนในบ้านแล้ว โดยผู้ถูกไล่ก็คงไม่พ้นเหล่าลูกชายหน้าโหดของไตรพัฒน์ที่มีหน้าที่เสริมก็คือการเป็นเพื่อนเล่นของนายน้อยไปโดยปริยายเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งตัวบ้าน เช่นเดียวกับเสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งสลับขวักไขว่เพื่อหาพื้นที่หนีจากการจับกุมจากเจ้าตัวน้อย“นายน้อยทางนั้นค่ะ วิ่งเร็ว ไปจับโจรให้ได้” เสียงของแม่บ้านวัยกลางคนออกปากเชียร์พลางหัวเราะยกใหญ่ที่ได้เห็นภาพนายน้อยตัวจิ๋วของบ้านที่กำลังวิ่งไล่จับชายชุดดำหน้าโหด“จับ ๆ หยุดนะ พ้มจะจับ” เด็กชายเตชน์สับเท้าและพูดเสียงขึงขัง ตั้งหน้าวิ่งหมายไปจับโจรผู้ร้ายที่สวมบทบาท แม้คำพูดจะเจือจางไม่ชัดอยู่บ้างแต่พอจับใจความได้ว่าเจ้านายตัวน้อยนั้นกำลังพูดคำว่าอะไร“เอ้า นายน้อยจะจับพวกเอ็งแล้วนะโว้ย วิ่งหนีเร็ว” เป็นเสียงแม่บ้านอาวุโสที่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งแรงขำขันมันเป็นกิจกรรมเพียงอย่างเดียวที่เห็นมาตลอดหลายเดือน หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้เบื่อหน่ายเลยสักนิด หนำซ้ำยังเรียกเสียงหัวเราะและสร้างความสุขให้บ้านหลังใหญ่ได้มากขึ้นเป็นกอง“น้องเตชน์ทางนี้ครั

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 6 คุณพ่อมือโปร

    ตอนพิเศษ 6คุณพ่อมือโปรเวลาเพียรผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวและเปลี่ยนแปลง รวมถึงหนึ่งชีวิตอย่างลูกตัวน้อยของไตรพัฒน์และสายป่านก็ได้ถือกำเนิดขึ้น กลายเป็นสีสันและความรักที่เติมเต็มบ้านหลังใหญ่ให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นก่อนที่สายป่านจะคลอดเหล่าลูกน้องและแม่บ้านต่างก็ลงพนันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันยกใหญ่ถึงเพศเจ้าตัวน้อยที่ยังไม่ลืมตาดูโลก แบ่งสัดส่วนแล้วเพศชายสี่สิบเปอร์เซ็นต์และเพศหญิงหกสิบเปอร์เซ็นต์ การคาดการณ์เกิดขึ้นกับความต้องการทางจิตใจล้วน ๆ ไม่ได้อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ฝ่ายที่ลงพนันลูกชายให้เหตุผลว่าหากมีนายน้อยตัวจ้อยเป็นทายาทคนแรกก็คงมีผู้สืบตระกูล และแน่นอนว่าบ้านที่เต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ย่อมมีวิธีเล่นมากมายกับเด็กชายมากกว่าผู้หญิงในส่วนฝ่ายที่ลงเพศหญิงก็ให้เหตุผลตามมาว่าหากทายาทคนแรกเป็นผู้หญิงก็คงทำให้บ้านหลังใหญ่อ่อนหวานและสดใสขึ้น ได้ยินเสียงพูดคะพูดขา ได้รับยิ้มหวาน ๆ ที่น่าจะมาจากทางคนเป็นแม่เกินร้อย หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็คงได้เห็นภาพมาเฟียหนุ่มผู้โหดเหี้ยมอ่อนระทวยให้กับลูกสาวเป็นครั้งแรกแน่นอนว่าหลังจากที่ไตรพัฒน์และสายป่านรับรู้ว่าคนใ

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 5 เจอลูก

    ตอนพิเศษ 5เจอลูก“อะ...อื้อ! ฮื่อ...คุณไตร เดี๋ยว...อื้อ!” คำพูดขาดห้วงก่อนที่มันจะหายลับกลืนกลับลงสู่ลำคอ เมื่อริมฝีปากร้ายฉกฉวยลงมาอย่างเอาแต่ใจหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องแล้วจัดการล็อกประตูลงกลอนเสร็จสรรพไตรพัฒน์และสายป่านใช้เวลาในการเดินเล่นข้างนอกและทานอาหารร้านดังไม่กี่ชั่วโมงก็พากันกลับมาที่โรงแรม ครั้นเมื่อขาก้าวเข้ามาในห้องและประตูปิดสนิท คนที่รอคอยเวลานี้ก็รีบดันร่างกายเล็กของคนรักให้ชิดติดกับกำแพงเพื่อทวงคำสัญญาในทันทีอาจจะเรียกคำสัญญาไม่ได้เพราะสายป่านไม่ได้ตกลงกับเขา...“อ๊ะ...คุณไตรใจเย็นก่อน อะ...” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระก็ทำให้สายป่านพยายามเอ่ยห้ามคนเอาแต่ใจที่ตอนนี้แทบแปลงร่างเปลี่ยนเป็นคนละคนต้นคอขาวถูกลากไล้ด้วยลิ้นจากนั้นก็รู้สึกถึงแรงดูดดึงเบา ๆ ที่เธอมั่นใจว่าผิวกายของเธอจะต้องเกิดรอยแดงเด่นชัดแน่นอนรอยเก่ายังไม่ทันหายเลย...ไตรพัฒน์คลอเคลียกับต้นคอขาวก่อนจะเคลื่อนต่ำลงมายังเนินอก เขาเปิดเสื้อไหมพรมแขนยาวของสายป่านขึ้น เผยให้เห็นอกอวบขาวเนียนใต้บราเซียจนอดที่จะก้มเข้ามาขบงับและครอบครองด้วยปากไม่ได้“อื้อ...อะ...คุณไตรอย่าดูดแรง” สายป่านพยายามยกมือปิดปากตัวเองเ

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 4 ขอพรต่อเทพเจ้า

    ตอนพิเศษ 4ขอพรต่อเทพเจ้าณ เมืองฮ่องกงหลังจากผ่านพ้นงานวิวาห์ไปได้สองเดือน ไตรพัฒน์ก็พาสายป่านมาฮันนีมูนโดยเลือกสถานที่ใกล้ ๆ ใช้เวลาในการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงอย่างเมืองฮ่องกง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง เขาอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา อีกทั้งก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย ท้ายที่สุดจึงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่แรกสำหรับการฮันนีมูนของคู่รักเมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่จองล่วงหน้า ไตรพัฒน์ก็จัดการเก็บข้าวของและรวมถึงจัดการสั่งอาหารที่ฟร้อนท์มาทานเพราะข้างนอกฝนกำลังตกหนัก จึงไม่สามารถออกไปเดินเล่นหรือแวะร้านอาหารได้ ในส่วนคุณแม่มือใหม่เองก็นอนพักเอาแรงในระหว่างที่สามีกำลังดูแลความเรียบร้อยแม้จะเป็นทริปที่เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง และตัวเธอแทบจะไม่ได้ย่ำเดินเพราะไตรพัฒน์เรียกใช้บริการรถเข็นจากสนามบินตลอดทั้งทาง หากแต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนกำลังได้เหมือนกัน“ป่าน...อาหารมาแล้ว จะกินเลยหรือเปล่าหืม” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยแนบชิดอย่างอ่อนโยนพานทำให้คนที่เพิ่งหลับใหลรู้สึกตัว ก่อนจะได้รับจูบหวาน ๆ ที่ประทับอยู่บนเรือนผม ทำเอาเธอแทบไม่อยากจะลืมตาหรือขยับเขยื้อนเลยสักนิด“คนดี...ตื่นแล้วแต่ทำไมไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status