Chapter : 4
เมื่อธเนศใส่แท่งเนื้อนั้นเข้าไปในตัวเธอสุดแรงกระทั่งสั่นคลอนมดลูกของเธอ ต้าเหนิงก็ถึงกับกระอักด้วยเสียงแหบพร่า “อึ๊ก! พี่คะหนูจุก...” เธอรัดร่างเขาแน่นราวกับเป็นงูเหลือมตัวยักษ์ที่พยายามจะขยี้เขาให้กระดูกแตกหัก แต่ถึงจะใช้แรงทั้งหมดออกไปเธอก็ไม่สามารถกยุดยั้งความระทมทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ “แล้วชอบไหม?” ธเนศถามพลางหอบหายใจแรงข้างใบหูต้าเหนิง ทำให้เธอที่สั่นเทิ่มอยู่แล้วยิ่งระส่ำระสายมากขึ้นไปอีก “ชอบค่ะ...อื้อ~น้ำพี่มันไหลเข้ามาในตัวหนูเยอะมากเลย...” ต้าเหนิงกล่าวพลางรับสัมผัสกับของเหลวอุ่น ๆ ที่ถูกอัดฉีดเข้ามาในร่างกาย ทำให้เธอร้อนรนไปทั้งตัวจนสะโพก สะเอว และแผ่นหลังหงิกงอจากอาการเสียดเสียวอย่างถึงที่สุดซึ่งกำลังลุกลามจากภายในสู่ภายนอก เสียงหวานยังคงครวญครางไม่เลิก พร้อมเพรียงกันนั้นที่บริเวณด้านในท้องน้อย แท่งเนื้อของธเนศก็กำลังถูกบดขยี้โดยต้าเหนิง เธอทำมันโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ราวกับจะให้มันแหลกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างไรก็ตาม ยิ่งเธอขมิบช่องว่างให้รัดกุมธเนศมากเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งเสียวขึ้นมากเท่านั้น “ตอดดีอะไรขนาดนี้ ถ้าหนูบอกว่าหนูซิงพี่ก็เชื่อนะ” ธเนศกอดร่างบางของต้าเหนิงอย่างแนบชิด สัมผัสความอบอุ่นของเธอกับกลิ่นตัวเธอที่ระเหยออกมาจากหยาดเหงื่อที่ซึมซาบไปตามผิวหนังขาวนวล และลูบไล้แผ่นหลังเล็ก ๆ ของเธออย่างเบามือ คล้ายพยายามปลอบประโลมให้ต้าเหนิงสงบลง นักศึกษาในอ้อมกอดยกมุมปากขึ้น “ถึงขนาดนี้แล้วพี่คงจะไม่เชื่อแล้้วล่ะค่ะว่าคนอย่างหนูจะซิงอยู่ หึหึ ” รอยยิ้มนั้นเผยให้เห็นความอ่อนล้าและความต้องการที่ไม่จางหาย “ที่สำคัญหนูยังไม่หายเงี่ยนเลยค่ะ” ดวงตาของต้าเหนิงมีประกายที่น่าหลงไหลวูบวาบน่ามอง ธเนศฉีกยิ้มลุ่มลึกก่อนที่จะถอดถอนแท่งเนื้อของเขาออกมาจากร่องรักของเธอ ต้าเหนิงสัมผัสได้ถึงช่องว่างที่กลวงลึกของตัวเองที่กำลังรับลมเย็น ๆ อยู่ใต้กระโปรงพลีทสีดำ “อึ๊ก~! อย่าอยู่ดี ๆ ก็ถอดสิคะ หนูยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย” ต้าเหนิงว่างั้นด้วยสีหน้าเย้ายวน ของเหลวอุ่นจากภายในร่างกายที่ร้อนผ่าวค่อย ๆ หลั่งไหลออกมา เธอสัมผัสได้ว่ามันมายังสุดขอบแล้ว และไม่นานเสียงหยดน้ำก็ดังขึ้น ของเหลวสีขาวขุ่นหยดเยิ้มลงสู่พื้นจนเกิดเป็นแอ่งเล็ก ๆ ที่เจ่อนอง พร้อมกันนั้นกลิ่นคาวใคร่ก็โชยขึ้นมาตีจมูกทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่เร่าร้อนจบลงแล้ว ธเนศวางอีกฝ่ายลงบนโต๊ะอย่างนุ่มนวลขณะที่ค่อย ๆ จัดการตัวเองอย่างช้า ๆ สร้างความรู้สึกเงียบเหงาให้แก่บรรยากาศรอบข้างจนต้าเหนิงอดไม่ได้ที่จะทำลายความเงียบของอีกฝ่าย “จะไม่ต่อจริง ๆ เหรอคะ?” เธอกล่าวพลางพยายามทำจิตใจให้สงบเมื่อเหม่อมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่กลายเป็นจืดชืด “พอดีว่าพี่มีธุระ...” ธเนศจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่อนโยน ตอนนี้ต้าเหนิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความแพรวพราวกลายเป็นหูตก เธอดูน่าเอ็นดูราวกับเด็กน้อยที่ไม่อยากให้พ่อไปทำงานแต่ก็ไม่ได้ดื้อซนหรือห้ามปรามคุณพ่อแต่อย่างไร ”อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ ต้าเหนิง” เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยและติดกระดุมครบทุกเม็ด ธเนศก็เข้ามาลูบไล้เธอ มือข้างหนึ่งลูบใบหน้า มือข้างหนึ่งซุกไซ้เข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาและลูบไล้หน้าอก “ถ้าจะไปแล้วก็อย่ามาทำให้เงี่ยนกว่าเดิมสิคะ?” เธอช้อนตามองเขาดูออดอ้อน ต้าเหนิงยังคงอิดออดอยู่เล็กน้อย ใบหน้านั้นแดงซ่านเมื่อมือหนาสัมผัสกับเรือนร่างนี้ไม่หยุด ณ ตรงส่วนที่อ่อนไหว ไม่พอเพียงแค่การลูบ ธเนศยังขยำและละเล่นกับยอดอกสีชมพูสดสวยของเธอด้วย นั่นยิ่งทำให้ต้าเหนิงมีอารมณ์มากยิ่งขึ้นไปใหญ่ “ก็มันอดใจไม่ไหวนี่คะ นมหนูน่ากินมาก อีกอย่าง...” ธเนศเว้นช่วงการพูดขณะที่โน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ ลูบไล้แก้มเธออย่างทะนุถนอม ใช้หัวแม่มือกดริมฝีปากของเธอเบา ๆ ภายใต้การจับตามองของดวงตาคู่งามตรงหน้า เขากล่าวพลางฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ “หนูหงุดหงิดแล้วเหรอคะ?” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นคิ้วของต้าเหนิงพลันกระตุก แม้จะคิดว่าตัวเองเก็บสีหน้าเก่งแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นการสังเกตของธเนศได้ เธอเอ่ยขึ้นมาพลางขมวดคิ้วมุ่น “ก็พี่อะ...” แต่ก่อนจะได้พูดอะไรออกไปมากกว่านั้น เธอก็กลืนคำพูดลงคอตัวเองไป และเสียงเดาะลิ้นก็ดังขึ้นเบา ๆ “ชิ...” ต้าเหนิงหลบหน้าธเนศเล็กน้อยพลางค่อย ๆ นำมือขึ้นมากอดอก ท่าทีดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน จากคนที่ดูสดใสและร่าเริงกลายเป็นคนที่ดุร้ายและเย็นชา “ขนาดตอนโกรธก็ยังน่ารักนะเนี่ย...” เขาว่างั้นก่อนที่จะเลื่อนมือออกมาจากตัวเธอและจับมือเธอเบา ๆ และโน้มหน้าลงดอมดม “ถึงกลิ่นตัวจะหอมแต่กลิ่นควันก็ยังมีอยู่นะคนสวย” เขายุแหย่เธอพลางจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มที่ติดอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา “หนูดูดบุหรี่ไม่ได้งั้นเหรอคะ?” ต้าเหนิงกล่าวพลางมองเขาด้วยสายตาจิกกัดนั่นทำให้ธเนศดูจะพึงพอใจในแบบที่ต่างออกไป คล้ายกับกำลังสนุกกับการกลั่นแกล้งเธอ “แค่แปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมถึงพยายามกลบกลิ่น เพราะเอาจริง พี่น่ะชอบผู้หญิงแบบหนูนะ” ธเนศลูบหัวต้าเหนิงก่อนที่จะลากมือลงมาหยิกแก้มนุ่ม ๆ ที่น่าหมั่นใส้ของเธอ แม้ว่าอีกฝ่ายจะให้จับและปล่อยให้ทำอะไรตามใจชอบแต่สายตาของต้าเหนิงนั้นยังคงมองค้อนเขาอยู่ในตอนนี้ “ชอบผู้หญิงที่กำลำจะเป็นมะเร็งปอดงั้นเหรอคะ?” เธอกอดอกแน่นขึ้นยิ้มยียวน และเริ่มไขว้ขาดูราวกับเป็นนักเลงที่กำลังข่มขวัญอาจารย์ อย่างไรก็ตาม อาจารย์คนนี้กลับดูจะพึงพอใจในสิ่งที่เธอทำ ธเนศตอบกลับคำถามของต้าเหนิงในทันที “พี่น่ะชอบต้าเหนิงต่างหากล่ะ ชอบคนที่แหกกฎบ้าง แหกขาบ้าง มันดูเป็นธรรมชาติดี” เขาโน้มหน้าลงมาใกล้เธออีกครั้งขณะที่เธอพยายามที่จะหลบหน้าเขา “พี่นี่แม่งโรคจิตว่ะ” ต้าเหนิงสบถอย่างรำคาญ แต่แก้มของเธอก็แดงระเรื่อมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะเกิดอาการใจสั่นขึ้นมาเมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายดันหอมแก้มเธอ “ไม่ใสไป ไม่ขุ่นไป อาจจะคาวบ้างก็ไม่แย่ ว่างั้นไหม?” ธเนศมองต้าเหนิงที่ทำหน้าอึ้ง ๆ ก่อนที่จะหรี่ตายิ้ม จากนั้นก็ประกบจูบกับเธอทำให้เคลิบเคลิ้มกับรสลิ้นที่ร้อนเร่า การดื่มด่ำดำเนินไประยะเวลาหนึ่งจนหลงลืมทุกอย่างรอบตัวไปชั่วขณะ ต้าเหนิงที่กอดคออีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจกล่าวพลางพยายามปกปิดความเขินอายขณะที่รสชาติของธเนศยังคงติดอยู่ที่ปรายลิ้นเมื่อพวกเขาถอนจูบออกมา “พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ทั้งคู่มองตากันและกันพลางโอบกอดกันขณะที่พูดคุยกัน “ก็แค่จะบอกว่าหนูคือสเปคพี่ไงล่ะ?” “ผู้ชายแบบนี้เขาว่าเจ้าชู้รู้ตัวป่าว?” “หนูเองก็ไม่ต่างกันนี่ นักศึกษาที่ไหนจะมาแอบแซ่บกับอาจารย์ในห้องเรียนมหาลัยได้ เว้นแต่จะเป็นเด็กร่านแถมยังเลือกที่จะร่านกับอาจารย์หน้าใหม่ซะด้วย” รอยยิ้มของธเนศกลายเป็นแสบสัน เขาเองก็ดูจะมีริมฝีปากที่ซุกซนพอ ๆ กับเธอ “ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่หนูแล้วสิที่ปากดี” ต้าเหนิงสวนเขาขณะที่ค่อย ๆ จัดการใส่กระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเอง To be continued...Last Chapterเรื่องราวเริ่มต้นด้วยข่าวดีที่มาเยือนต้าเหนิงและธเนศ ในวันที่ผลการตรวจครรภ์ออกมาเป็นบวก พร้อมกับการเปิดเผยว่าทารกในท้องเป็นลูกแฝดชายหญิง ความยินดีปรีดาท่วมท้นใจจนทำให้พวกเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ทั้งคู่ต่างตั้งชื่อให้กับลูกน้อยของพวกเขา คนหนึ่งเป็นชายตั้งชื่อว่า เฟิงเหมียน และอีกคนหนึ่งเป็นหญิงชื่อว่า ลลิล ความสุขนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในห้วงแห่งความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุดเมื่อเวลาผ่านไป ต้าเหนิงได้คลอดลูกแฝดที่น่ารัก ทั้งสองต่างมีเสน่ห์และคุณสมบัติที่โดดเด่น เฟิงเหมียนมีใบหน้าหล่อเหลาที่มาจากธเนศ ส่วนลลิลนั้นมีความน่ารักสดใสที่มาจากแม่ของเธอ ขณะเดียวกันปาร์มที่เคยเฝ้าลูบท้องต้าเหนิงมาตลอดก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่ธรรมดา ราวกับว่าเธอได้เป็นแม่ของเด็ก ๆ ด้วยตัวเองเวลาผ่านไปอีกปี ต้าเหนิงได้คลอดลูกคนที่สามเป็นเด็กชายชื่อ อิน ชื่อนี้ได้มาจากความรักที่พ่อแม่ของต้าเหนิงมีให้กับหลานชาย และอีกสองปีต่อมา ต้าเหนิงก็ได้คลอดลูกสาวคนที่สี่ชื่อ เปา ซึ่งต้าหมิงพี่สาวของเธอได้ตั้งชื่อให้อีก 16 ปีต่อมา เฟิงเหมียนและลลิลเติบโตเป็นวัยรุ่นอายุ 19 ปี เฟิงเหมียนมีทักษะทางดนตรีมา
Chapter : 44คนแรกที่ตระหนักถึงการตั้งครรภ์ของเธอคือธเนศ เขาไม่แสดงออกด้วยความตื่นตระหนกหรือความกังวล แต่เขากลับยิ้มรับอย่างอบอุ่น ราวกับว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เขารอคอยอยู่แล้ว ความอบอุ่นและความสุขที่แฝงอยู่ในสายตาของเขาทำให้ต้าเหนิงรู้สึกมั่นใจในอนาคตของพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็แจ้งข่าวนี้ให้กับปาร์ม เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งตื่นเต้นและดีใจอย่างมากไม่นานหลังจากที่ต้าเหนิงตั้งครรภ์ เธอก็ได้พบกับต้าหมิง พี่สาวที่ห่างหายกันไปหลายปี ต้าหมิงมาเยี่ยมเยียนเธอที่คอนโดซึ่งเธอยังคงอาศัยอยู่กับปาร์มเหมือนเดิม มันเป็นการพบกันที่เต็มไปด้วยความสุข ต้าหมิงดีใจที่ได้เห็นชีวิตใหม่ของต้าเหนิง ซึ่งเติบโตและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่แตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงการพบกันอีกครั้งระหว่างธเนศและต้าหมิงเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งแต่มอปลาย บรรยากาศในช่วงแรกเต็มไปด้วยความตึงเครียด ความทรงจำในอดีตที่ไม่เคยถูกสะสางยังคงแฝงอยู่ในสายตาของทั้งคู่ การสนทนาเริ่มต้นด้วยความระมัดระวัง ราวกับทั้งสองกำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่บางเบา แต่ด้วยการที่ต้าเหนิงคั่นกลางระหว่างเขาและพี่สาว ความสัมพันธ์ที่เค
Chapter : 43คืนหนึ่ง ต้าเหนิงขับรถหรูของธเนศไปกับปาร์มเพื่อนสนิท ขณะที่พวกเธอกำลังเพลิดเพลินกับการขับขี่ เสียงหัวเราะและความสนุกกลับถูกตัดขาดเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด ช่วงเวลาแห่งความหวาดเสียวทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่โชคดีที่ทั้งสองคนรอดมาได้ ปาร์มร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ขณะที่ธเนศได้ยินข่าวก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน แต่เมื่อเขามาถึงและเห็นต้าเหนิงไม่เป็นอะไรมาก ก็ได้แค่ส่ายหน้าไปมา ทิ้งรถราคาแพงนั้นไปโดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย นั่นทำให้ปาร์มรู้สึกขอบคุณธเนศเป็นอย่างมากและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เพื่อนสนิทของต้าเหนิงและว่าที่แฟนของต้าเหนิงสนิทกันในช่วงเวลาแห่งความสุขและความรู้สึกที่ร้อนแรงนั้น ต้าเหนิงก็ใช้เงินของธเนศไปกับของแบรนด์เนมต่าง ๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเขา ธเนศยังคงเปิดโอกาสให้ต้าเหนิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน ทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ และเหรียญคลิปโต ต้าเหนิงดูดซับข้อมูลเหล่านั้นอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนในตลาดที่เป็นที่นิยมขณะเดียวกัน ต้าเหนิงได้ค้นพบความสนุกใหม่ ๆ ด้วยการใช้เงินของธเนศไปซื้อของเล่นผู้ใหญ่ (Se
Chapter : 42เมื่อจูบอันเร่าร้อนสิ้นสุดลง ต้าเหนิงถอนริมฝีปากออกช้า ๆ น้ำลายใส ๆ ไหลเยิ้มเชื่อมต่อระหว่างริมฝีปากของทั้งสอง ราวกับสายใยแห่งความปรารถนาที่ผูกพันไว้ พวกเขาจ้องตากัน สายตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาและความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ มือเรียวเล็กของต้าเหนิงคล้องรอบคอธเนศอย่างแนบแน่น ขณะที่ธเนศประคองร่างบางของเธอไว้แนบชิด ความรู้สึกที่ซึมซาบจากรสจูบยังคงหลงเหลืออยู่ที่ปลายลิ้น รสชาติหวานหอมของไวน์ผสมกับความร้อนแรงของอารมณ์ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงลมหายใจหนัก ๆ ที่เปล่งออกมาเป็นเสียงเดียวกันธเนศเป็นฝ่ายพูดก่อน เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “หนูเนี่ยไม่เบาเลยจริง ๆ สมแล้วที่เป็นคนที่พี่เลือก” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นเต็มไปด้วยความชื่นชมและปรารถนา ไม่รอช้า มือใหญ่ของเขาก็จับร่างต้าเหนิงลงอย่างดุดัน จากนั้นเขากระชากเดรสสีดำที่เธอสวมใส่จนขาดกระจุยโดยไม่สนใจความละเอียดอ่อนของเนื้อผ้า ต้าเหนิงหลุดหัวเราะเบา ๆ ขณะมองไปยังธเนศที่มีสีหน้าหื่นกระหาย “ชุดนี้มันแพงนะคะ หึหึ” เธอเอ่ยขึ้นอย่างเย้าแหย่ สายตาของเธอเต็มไปด้วยแววท้าทายธเนศไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เขามองเธอด้วยสายตาคมกริบและ
Chapter : 41ปาร์มในชุดบันนี่เกิร์ลยั่วเย้านั่งคลอเคลียอยู่บนโซฟาข้างอายิซ สุลต่านผู้ทรงอำนาจ ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของอำนาจและความมั่งคั่ง ทั้งคู่ตกอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนอายิซเอนตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลายขณะที่ปาร์มค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ ปลายนิ้วเรียวบางของเธอไล้ไปตามหน้าอกแข็งแรงของเขาอย่างเย้ายวน เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเธอเจือด้วยความร้อนแรงและเจตนาที่ชัดเจน“พี่อายิซคะ วันนี้อยากได้ท่าไหนเป็นพิเศษไหมคะ?” ปาร์มเอ่ยถามเสียงหวาน พลางแกล้งบิดตัวเล็กน้อย เผยให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้อายิซมองตามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอายิซหันไปมองเธอ แววตาเขาเต็มไปด้วยความพอใจ “เราจะทำกันทุกท่าในคืนนี้”ปาร์มหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับลูบไล้หน้าอกอายิซต่ออย่างไม่เร่งรีบ ความเนียนนุ่มของผิวมือเธอสัมผัสกับผิวของเขา ราวกับการเต้นรำแห่งการยั่วยวนที่ไม่มีวันสิ้นสุด “ถ้าแบบนั้น หนูคงจะขาลากแน่เลยนะคะพี่”อายิซยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ถ้าน้องปาร์มของพี่ทนไหว มันคงจะเป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ ไปเลย”ปาร์มยิ้มตอบ รอยยิ้มของเธอมีความชำนาญในศิลปะแห่งการยั่วยวน เธอเอื้อมมื
Chapter : 40ขณะที่ต้าเหนิงกำลังนั่งพูดคุยกับปาร์มใต้แสงไฟอ่อน ๆ ของร้านสะดวกซื้อที่พวกเขานั่งอยู่ เสียงบทสนทนาของทั้งคู่ที่เดิมทีเป็นแค่เสียงสนทนาธรรมดา เริ่มเข้าสู่ประเด็นที่เข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต้าเหนิงสูบบุหรี่แล้วพ่นควันเบา ๆ ออกมา ละสายตาไปทางอื่น ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “เมื่อกี้ที่ห้องน้ำ...มีคนเห็นกูกับพี่ธเนศด้วย”ปาร์มที่กำลังถือแก้วเบียร์อยู่หันมามองเพื่อนสนิทของเธอด้วยความสนใจ “แล้วแบบนี้มันจะไม่เป็นไรเหรอวะ?”ต้าเหนิงถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนจะพูดต่อ “พี่ธเนศเขาจ่ายเงินปิดปากไปแล้วห้าพัน ทั้ง ๆ ที่พวกนั้นขอแค่สองสามพันเอง”ปาร์มฟังแล้วถึงกับเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตื่นเต้น “เดี๋ยวนะ... อาจารย์ธเนศรวยขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” แววตาของปาร์มเริ่มฉายประกายอยากรู้ เธอพอจะจำได้ว่าธเนศเคยมากับคนที่มีฐานะอย่างสุลต่าน แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาจะมีเงินถึงขั้นใช้จ่ายแบบนี้ต้าเหนิงหัวเราะแผ่ว ๆ “ชีวิตเขาซับซ้อนกว่านั้นอีก แต่เอาแบบง่าย ๆ นะ... เขารวยพอที่จะใช้เงินวันละแสนได้แบบสบาย ๆ ”ปาร์มตาโตแทบสำลักเบียร์ “เหี้ย... อาจารย์แม่งโคตรรวย!” น้ำเสียงของเธอออกมาดังจนคนที่กำลังเดิน