LOGINใบหน้าคมเข้มมีเกราะคือความเย็นชาเคลือบไว้ยิ้มหยัน “อยากได้คนช่วยผ่อนคลายกำหนัดกับเงินทอง เดี๋ยวฉันสงเคราะห์เรียกคนมาให้แล้ว” ยกมือจับแขนกลมกลึงที่ยกขึ้นพาดบ่ากว้างออกห่าง
“คืนนี้ฉันไม่อยากได้...เหม็นเบื่อคราบคาวๆ ที่เกาะติดบนตัวสาวๆ อย่างพวกเธอ ชอบมาหลอกย้อมแมวขายตัวเอง ทั้งที่ผ่านมาเยอะจนน่าสงสัย จำหน้าคนที่มีอะไรด้วยได้หมดทุกคนหรือเปล่า”
“อุ๊ย! อะไรกันคะคุณคีธ ใครทำให้อารมณ์เสียคะนี่” แม้จะหน้าเสียกับคำพูดชายหนุ่มที่เธอฟังยังไงเหมือนถูกด่านิ่มๆ ใส่หน้า แต่พิมพ์มาดาก็ยังฉีกยิ้มหวานๆ ได้
“คุณมาที่นี่เพราะต้องการผ่อนคลายไม่ใช่หรือคะ พิมพ์กำลังช่วยคุณอยู่นี่ไงคะ” พิมพ์มาดายังไม่คิดยอมแพ้ นิ้วยาวเรียวลูบไล้ไต่บนผิวเนื้อจนถึงเส้นผมหนานุ่ม ที่อยากจับต้องตั้งแต่แรกได้เห็นหน้าและสบสายตากับ...คีธ อีวาโปล่า
ไม่เคยคิดว่าจะตกหลุมรักจนเป็นได้ถึงเพียงนี้...แต่ก็เป็นไปแล้ว!
เมื่อเกิดความรัก...ความอิจฉาก็ตามติดมา ทุกครั้งที่เห็นเขามีผู้หญิงคนอื่นเคียงข้าง เธอเจ็บร้าวไปทั้งใจ อยากเดินเข้าไปกระชากผู้หญิงหน้าด้านเหล่านั้นให้ถอยห่างออกมา แต่ก็รู้ดีสิทธิ์ของตัวเองยังมาไม่ถึง ต้องเฝ้ารออย่างกล้ำกลืน
เมื่อโอกาสมาถึง...ไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้ โดยไม่ต่อสู้!
“ในที่สุดเธอก็เข้ามาใน Club บ้าๆ นี่จนได้” ชมบุหลันเอ่ยกับตัวเองเสียงเบาหวิว ใบหน้ากลมป้อมเปี่ยมล้นด้วยความมุ่งมั่นเงยขึ้นมองแผ่นป้ายบอก พร้อมมือกำหมัดกระทุ้งเข้าหาตัวเองเล็กน้อย “โย่ว” เสียงเล็กดังในลำคอกับความสำเร็จกับการพาตัวเองเข้ามาในคลับ บ้าๆ ที่ชื่อสุดแสนจะน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นที่สุด...
Club Love เสิร์ฟ
Sex!คลับที่ไม่ใช่แค่บ้าบอ แต่เฮงซวยสุดๆ เพราะผู้หญิงที่จะเข้ามาได้ ต้องขาวสวยหมวยเอกซ์และเซ็กซี่อย่างนางแบบหนังอย่างว่า ที่ผู้ชายติดเรื่องใต้สะดือชอบกันนัก ในขณะที่เธอ...
ชมบุหลันสะบัดศีรษะอย่างปวดร้าว ตอนก้าวลงจากรถก็มั่นใจเต็มร้อย เธอต้องพบต้นตอของเรื่องที่อยากรู้
ทว่าเมื่อเดินเข้าคลับกลับถูกมนุษย์ยักษ์สองตัวที่ยืนเฝ้าอยู่กวาดสายตาไล่มองตั้งแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นไปที่ใบหน้ากลมป้อม ก่อนเปล่งวาจาเสียดแทงหัวใจสาวน้อยอย่างเธอจนอยากกระเด้งกระดอนตัวขึ้นสูง แล้วฟาดฝ่ามือตบหัวโล้นๆ เต็มแรง
“ที่นี่ต้อนรับเฉพาะสาวหุ่นดี...”
“ฉันหุ่นไม่ดีตรงไหนยะ!” ชมบุหลันตวาดแว้ดเข้าใส่ แบะหน้าหงิกงอ นัยน์ตาขุ่นเขียวใส่คนพูด
ทำไมยะหุ่นแม่ให้มาของเธอมันไปหนักหัวแม่เท้าข้างที่มีตาปลาเกาะติดอยู่หรือไง ถึงได้มีแต่คนยุ่งกับรูปร่างของเธอนักหนา ไอ้ความสูงร้อยหกสิบ กายไม่บอบบางอ้อนแอ้นอรชรด้วยเจ้าเนื้อที่เกาะอยู่รอบเอว แม้เถียงสุดใจขาดดิ้น เธอไม่ได้อ้วนสักหน่อย แค่...อวบเกือบระยะสุดท้ายเท่านั้นเอง แต่มักถูกเปรียบเทียบกับอีกหนึ่งสาว รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร เอวรับกับทรวงอกกลมกลึงและขาเรียวยาวขาวราวกับลำเทียน
“รู้สภาพของตัวเองดีอยู่แล้ว ไม่น่าให้ต้องตอกย้ำเลยยายเด็กใจแตก ชอบหนีพ่อแม่มาเที่ยวหาผู้ชายจนตัวสั่น”
“ไอ้...ไอ้ปากปีจอ!” เจอคำพูดหมาไม่รับประทาน ชมบุหลันถึงกับเดือดดาลจนเลือดขึ้นหน้า อยากต่อยหน้ายักษ์สองตัวให้คว่ำ แต่เมื่อเทียบหุ่นกันแล้ว...หนูกับราชสีห์ชัดๆ
“กลับไปได้แล้ว หน้าตาอย่างเธอ ยังไงซะคุณคีธเขาไม่สนใจหรอกนะ ไม่ต้องมาอ่อยยั่วให้ยาก”
สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอว ใบหน้าผ่องพรรณหงิกง้ำ นัยน์ตากลมใสวาวจ้าขึ้นมาทันควัน
“ถึงฉันไม่สวยแล้วไง”
ไม่สวยแต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักหน่อย ยังไงก็พอไปวัดไปวาได้ไม่อายพระเณรแล้วกัน“ไปหนักส่วนไหนของคุณพี่สองคนมิทราบ โตแต่ตัวความคิดในหัวเท่าขี้ปลายเล็บแบบนี้นะซิ ถึงได้มาเป็นยามเฝ้าปากถ้ำ ยืนเป็นหมาน้ำลายยืดมองผู้หญิงสวยๆ คนแล้วคนเล่าเดินผ่านหน้าไป”
กัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน“กลับไปเลยยายปากเสีย หน้าตามู่ทู่เหมือนหมาจู คิดมาไต่เต้าเป็นคุณหญิง ไม่มองสารรูปเงาหัวตัวเองเลย”
ได้ยินแล้วปวดตับไตไส้พุง แล้วเธอเป็นคนประเภทยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อีกทั้งต่อมความสงสัยกำเริบ อยากรู้นักไอ้คลับบ้านี่ซุกซ่อนอะไรไว้กันแน่ ถึงได้ทำเป็นลับลมคมในเสียเหลือเกิน
พอรู้มาบ้างว่าคนที่เข้าไปข้างในได้อย่างหนึ่ง คือต้องมีคนแนะนำพาเข้าไป อีกส่วนก็เป็นพวกเงินถุงเงินถัง คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ชอบละลายเงินไปกับเรื่องไร้สาระ
ฮึ! นี่ไงเธอเข้ามาได้แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกต่างจากสถานเริงรมย์ที่ผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาเพื่อเร่ขายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงสักนิด
เห็นเหล่าแมลงเม่าน้อยใหญ่ที่บินหลงเข้ามาในดงแสงสี กว่าจะรู้ตัวว่าต้องสูญเสียเวลาไปกับสิ่งไร้ค่า ก็เมื่อวันเวลาล่วงเลยจนเรียกคืนกลับไม่ได้ ชมบุหลันก็แบะหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายระคนสงสาร
เออ...แล้วนี่เธอมาปลงอะไรกับเรื่องของคนอื่นกันละนี่ อีกอย่างถึงเข้ามาได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย เกิดอีตาสองยักษ์เฝ้าประตูเกิดความสงสัย เดินเข้ามาหาดู เจอเธอเข้าละก็...เธอคงต้องแปลงร่างเป็นหมูขนุน กลิ้งหลุนๆ คลุกไปบนพื้นถนน เพราะถูกจับโยนออกไป!
ชมบุหลันรีบปรับสายตาให้เข้ากับแสงไฟที่สาดส่องมาชวนเวียนศีรษะ เสียงทุ้มดังกระหึ่มราวกับกระชากหัวใจให้หลุดออกจากอกสลับแหลมเล็กที่เสียดแทงเข้ามาในช่องหูจนต้องหรี่ตา ด้วยเกิดอาการปวดศีรษะเหลือจะกล่าวได้
“เสียงดังอย่างกับระเบิดลง สนุกตรงไหนทำไมถึงชอบมากันนักก็ไม่รู้” คนไม่ชอบเที่ยวตามสถานที่เริงรมย์บ่นพึมพำ
สำหรับเธอ...การได้ท่องเที่ยวไปกับเหล่าตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว อย่างหนังสือนิยายรักหวานแหวว นางเอกเป็นนางซินก้นครัว มีชีวิตตกทุกข์ได้ยาก ได้เจอกับพระเอกหนุ่มรูปหล่อฐานันดรสูงศักดิ์ พบรักและร่วมฝ่าฟันก่อนครองรักอย่างมีความสุข
บ้างก็ฉีกแนวไปเป็นพระเอกโหด ดิบ เถื่อน กระชากนางเอกที่แม้เพลี่ยงพล้ำก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็พ่ายแพ้ถูกจับทุ่มลงนอนแล้วปู้ยี่ปู้ยำ คลุกดินเปื้อนฝุ่น บ้างก็บนเตียงใหญ่ยักษ์ ให้อรรถรสสนุกไปอีกแบบเป็นไหนๆ
สองมือนุ่มยกขึ้นตบศีรษะตัวเองเบาๆ เรียกสติที่ไพล่คิดไปถึงนิยายชุดใหญ่ที่เพิ่งได้รับเป็นของสำหรับขอบคุณจากปาวรินทร์…
“ใครรังแกให้เจ็บช้ำน้ำใจบอกมาเลยนะเอมมี่ พวกเราทุกคนพร้อมกระทืบมันให้จมดิน” คีธที่ละจากชมบุหลันเดินมาสมทบเป็นคนสุดท้ายเอ่ยขึ้น“มีค่ะ...มากๆ ด้วย คนที่แกล้งขอให้เอมมี่ไปซื้อของกลางแดดร้อนๆ คนนั้นไง” เอมมิเลียฟ้องคนที่ทำให้เธอดีใจจนน้ำตาไหล“อย่างอนคุณดินเลยเอมมี่ เราทุกคนเพียงแค่อยากทำให้ประหลาดใจเท่านั้นเอง” โรมผู้เป็นพี่ใหญ่กว่าเอ่ยขึ้น พลางยกมือกดซับน้ำตาบนพวงแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน“นั่นสิ เราอยากมาดูว่าคุณดินเขาเลี้ยงดูเอมมี่ดีแค่ไหน รังแกให้เจ็บกายและเจ็บช้ำน้ำใจหรือเปล่า” ไลอ้อนรับคำก่อนยอมปล่อยถอยจากเอมมิเลียไปทรุดกายลงนั่งโอบกอดปาวรินทร์ซึ่งมองมาใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เชื่อเถอะเอมมี่ ทางนี้คุณคีธก็บ่นไม่เว้นแต่ละวัน” ชมบุหลันละจากการสนทนาถามไถ่ทุกข์สุขพี่สาวที่เคยร่วมอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันมาก่อนอย่างปาว รินทร์เอ่ยขึ้นบ้าง“บ่นว่าคิดถึงแต่ไม่เห็นมีใครโทรมาหาเอมมี่บ้างเลย” พ้อเสียงใสและส่งยิ้มให้กับอมรินทร์ที่เดินมายื่นนิ้วเกี่ยวก้อยพาเดินไปนั่งบนมุมหนึ่งของสวนดอกไม้บานสะพรั่งกายแกร่งทรุดลงก่อนและให้เธอนั่งบนตักกว้าง แขนหนึ่งโอบรัดรอบกายเพรียว อีกมือยกขึ้นมาทาบบนผิวหน้านวลนุ่ม มองเอ
“นอนไม่หลับเพราะไม่ได้กอดเอมมี่นะสิ” “ทีเมื่อก่อนตอนไม่เจอกันยังอยู่มาได้ ตอนนี้มาทำปากหวาน” ถึงเอ่ยอย่างนั้นเอมมิเลียก็ยินยอมให้อมรินทร์ช้อนกายเพรียวไปนอนบนเตียง สองแขนเรียวยาวยกขึ้นพาดบนบ่ากว้าง กลีบปากอิ่มนุ่มคลี่ยิ้มหวาน นัยน์ตากลมใสเปล่งประกายเชิญชวน“เอมมี่เป็นยาเสพติดที่ต้องเสพทุกคราวที่มีโอกาส”“ขอให้เป็นอย่างที่ปากพูดแล้วกัน ไม่งั้นคุณถูกทุกๆ คนกลับมารุมสกรัมแน่” นิ้วยาวยกขึ้นจับปลายจมูกขยับไปมาอย่างมันเขี้ยว เลยถูกอมรินทร์แก้คืนด้วยการทาบฝ่ามือลูบไล้ไปทั่วกายนุ่มนิ่มพร้อมปลดเปลื้องอาภรณ์คลุมร่างอรชรทิ้งไปและแนบจูบบนกลีบปากอิ่มนุ่มอย่างหนักหน่วงจนคนถูกจูบหายใจหายคอไม่ทัน“ผมน่ารักออก เพื่อนๆ และพี่ชายเอมมี่ไม่มีทางทำอะไรอย่างที่ว่าหรอก” อมรินทร์เอ่ยอย่างมั่นใจ ตวัดสายตาวามวาวเป็นประกายมองไล่ไปทั่วร่างนวลเนียนนุ่ม“อย่างนี้นะหรือน่ารัก เห็นมีแต่จะรังแกกันตลอดเลย” กลีบปากอิ่มนุ่มขบเม้มเข้าหากัน มือเล็กรีบขยุ้มผ้าปูเตียงดึงทึ้งด้วยความกระสันซ่านเสียวจากฤทธิ์ฝ่ามือเพชฌฆาตที่ปลุกปั่นเพลิงเสน่หาโถมเข้าใส่ราวกับเขาไม่เหน็ดเหนื่อยในการจะมอบสัมผัสปรารถนาเลยแม้แต่น้อย“เอมมี่อยากน่าร
หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกจากปอด นับตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น หนังตาอ่อนนุ่มหลุบลงด้วยความอึดอัดระคนปวดร้าวทรวงใน แม้เร่งรีบทำทุกอย่างและเดินทางไปช่วยทุกคนอย่างเร็วที่สุดแล้วแต่ก็ยังไม่ทันกาลอยู่ดี“ฉันขอโทษนะที่ช่วยน้องและแม่คุณไม่ได้” มือนุ่มนิ่มพลิกกลับและลูบไล้มือใหญ่อย่างอ่อนโยนปลอบประโลมหัวใจที่ปวดร้าวให้คลายลงด้วยความรักเต็มล้นอก“ไม่เป็นไรหรอก คงเป็นเวรเป็นกรรมของเอื้อมกับแม่” แม้บอกอย่างนั้นอมรินทร์ก็อดใจหายและปวดร้าวไม่ได้ เขาไปทันได้เห็นเอื้อมดาวถูกโทมัสซึ่งต่อสู้จนเหนื่อยล้าจับตัวเอาไว้“ยอมแพ้และปล่อยตัวเอื้อมดีกว่านะโทมัส เราทุกคนล้อมไว้แล้ว ยังไงนายก็หนีไม่รอดหรอก” หว่านล้อมพร้อมเหลียวมองไปยังคนอื่นๆ ที่มีอาการเหนื่อยหอบหลังจากจัดการเหล่าสมุนของโทมัสจนสิ้นลายไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อกรได้อีกแล้วและต่างก็ยืนคุมเชิงเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือเอื้อมดาวซึ่งอ่อนระโหยโรยแรงจนแม้กระทั่งจะเอ่ยปากพูดก็ไม่มีเสียงออกมาแล้ว“ข้าไม่เชื่อจะแพ้พวกเจ้า” โทมัสคำรามลั่น ตัวเขามีจุดเหมือนเอมมิเลียคือดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหาร แต่ต่างที่สามารถมีชีวิตอยู่กลางวันได้ด้วยอำนาจจากคัมภีร์เวทและตอนนี้เขาจำต้อ
“ข้าเอมมิเลีย โฮเดการ์ด ขอรับอมรินทร์ จิอาฟองโซติด้วยกายและใจ” พูดไม่ทันขาดคำดีกายก็รับเอาความอึดอัดคับแน่นสอดแทรกเข้ามาจนน้ำตาหยดไหล ปากอิ่มสั่นระริกพร้อมเสียงร้องผะแผ่วของความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วกายาราวกับถูกฉีกทึ้ง จนต้องรีบผงกศีรษะพร้อมแยกเขี้ยวแหลมคมและคำรามลั่นก่อนกดฝังลงบนลำคอแกร่งเจ็บจี๊ดมาพร้อมความรวดร้าวจากเพลิงไฟพิศวาสที่แล่นลิ่วไปทั่วกายา กายสาวคับแน่นและบีบกระชับจนอดเปล่งเสียงคำรามออกมาไม่ได้“อดทนอีกนิดนะเอมมี่” เอ่ยปลอบประโลมเอมมิเลีย มือหนาลูบไล้นวดเคล้นกายเพรียวบางจากบั้นท้ายงามงอน ไต่เรื่อยขึ้นไปกดคลึงพฤกษาสวาทเพื่อผ่อนคลายความปวดร้าวให้กับเอมมิเลียและหลอมรวมสองร่างให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ แต่กว่าภมรใหญ่จะชอนไชบุหงาแรกแย้มลึกล้ำก็ทำเอาเหงื่อกาฬไหลอาบกายสองแขนกลมกลึงโอบกระชับรอบกายแกร่ง “ฉันไม่เป็นไร” โต้กลับเสียงอู้อี้ด้วยหิวกระหายในเลือดรสหวานที่แตะปลายลิ้น จิกเล็บลากบนแผ่นหลังกว้างผ่อนคลายความเจ็บร้าวจากการขยับกายของอมรินทร์ยังทำให้เธอนั้นมีความเจ็บปวดเสียดแทรกมาพร้อมความกระสันรัญจวนใจ จนต้องอัดสูดลมหายใจเข้าปอดจนปทุมถันไหวกระเพื่อมเสียดสีกับอกกว้างกำยำเพ
“อืม...” เอมมิเลียร้องครางเสียงหวานเมื่อถูกจูบเป็นพายุบุแคม เหมือนอมรินทร์ปลุกเร้าเลือดที่แข็งตัวให้ไหลเวียนทั่วร่างดึงเอาวิญญาณที่หายไปกลับคืนมา ก่อกองไฟกึ่งกลางกายสาวให้สะบัดส่ายไหวด้วยปั่นป่วนจนทนอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ มือเล็กเคลื่อนไหวไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ด้วยความสยิวซ่านจากฝ่ามือหนาที่นวดคลึงบัวตูมอวบอัด ขณะเขานั้นเคลื่อนปากอุ่นทาบทับไปบนผิวเนื้อนวลนุ่มหอม คลอเคลียขบกัดซอกคอขาวนวลเอมมิเลียหายใจติดขัด ยามฝ่ามือหนานวดเฟ้นทรวงอกกลมกลึงอย่างหนักหน่วง ขณะปากอุ่นเคลื่อนลงไปหา สองบัวตูมไหวระริก ขนตามเรือนกายลุกขึ้นทีละน้อยจนตั้งชันพอๆ กับปลายยอดทับทิมที่แข็งตัวตั้งชันยั่วยุให้อมรินทร์เร่งรีบจรดปากลงไปหาและทาบทับอย่างรวดเร็วด้วยอดใจไม่ไหวฟันขาวสะอาดขบกัดสลับใช้ปลายลิ้นลากไล้เวียนวนบนปลายจะงอยถันอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล พร้อมส่งอีกมือบีบเคล้นจากฐานอวบอิ่มหนักเบาสลับกันถึงปลายยอดบัวชูช่อนูนเด่นปลุกเร้าอารมณ์จนเอมมิเลียเริ่มร้องครางครวญหาบางสิ่งบางอย่าง สองเท้าบอบบางถูไถพลางสะบัดกายส่ายไปมาเป็นระวิงจากเพลิงไฟร้อนที่ลามเลียทั่วร่างจากอารมณ์ซึ่งปะทุเหมือนลาวาใต้พื้นดินเมื่อเพลิงเ
ปากบอกไม่ว่าเธอเลือกตัดสินใจอย่างไรทุกคนก็รับได้ทั้งนั้น แต่เอมมิเลียก็รู้ดีทุกคนรอวันได้เดินคลอเคลียกับคนรักท่ามกลางแสงแดดด้วยรอยยิ้มและความสุข! ซึ่งถ้าหากเธอเลือก...ไม่! ก็จะกลายเป็นเธอนั้นเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงใจคนที่เอ่ยว่าเป็นเพื่อนเป็นครอบครัวแค่มองตาอมรินทร์ก็รู้แล้วเอมมิเลียคิดอะไร “ต้องเป็นที่สูงและมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงหรือเปล่า” เอ่ยถามขณะสถานที่หนึ่งแวบเข้ามาในสมอง“คิดว่าไม่” เพราะครั้งก่อนก็เป็น...หุบเหวมีบริเวณลานกว้างด้านบนเปิดโล่งให้เห็นดวงจันทร์ คราวนี้ก็คงไม่แตกต่างกัน “ที่ยังไงก็ได้แต่ต้องเห็นจันทร์เต็มดวง”โรมบอกกล่าวขณะรับมือกับไอ้พวกที่ไม่กลัวตาย จนเขาอยากรู้นักโทมัสเลี้ยงด้วยอะไรถึงได้จงรักภักดีขนาดยอมตายถวายหัวแบบนี้หรือจะถูกเวทมนตร์ก็ไม่รู้ได้“ฝากแม่กับน้องผมด้วย” อมรินทร์เอ่ยขึ้นโดยไม่เจาะจง ก่อนดันตัวน้องสาวที่ยังไม่ละลดความพยายามจัดการกับเอมมิเลียและหันไปแย่งอาวุธจากมารดา แต่ถูกขัดขวางจากโทมัสจนเกือบเพลี่ยงพล้ำ ดีว่าโรมมาช่วยได้ทันท่วงทีและยังแย่งเอากริชมาส่งให้เขาโดยที่ผู้เป็นมารดายังพยายามแย่งเอาคืนไป“ฝากเอมมี่ด้วย ถ้าหากคุณทำร้ายเธอแม้เพียงนิดเดียว ผม







