LOGINVampire เจ้าเสน่ห์ : “ที่เธอพูดมาน่ะ ฉันต้องได้อยู่แล้ว แต่ที่ต้องการนะเป็น...” เขามันพวกมักมาก ถ้าได้คือต้องทั้งหมด แต่ถ้าไม่ได้...เขาก็จะกำจัดมิให้เหลือซาก! “อะไร” สุพรรณิการ์เอ่ยถามด้วยหัวใจสั่นๆ Lycan แสนเสน่หา : แน่ะ...ยายตุ้ยนุ้ยจอมตะกละกลบความเขินด้วยการทำหน้ากระฟัดกระเฟียดและประทุษร้ายเขาเสียนี่ อย่างนี้ต้องถูกลงโทษ! เจอโรมีสอดแขนรัดรอบเอวคอดกิ่วและพลิกกายกลับให้ร่างนุ่มนิ่มตกอยู่ใต้อาณัติ “ว้าย! ไม่เอานะเจโร ไม่เล่นอย่างนี้นะ” เจ้าสาว Vampire : “ให้หัวใจนำทาง รักจะพาเราผ่านเรื่องเลวร้ายทุกอย่างไปได้” พลังแห่งรักชนะทุกสิ่ง!
View Moreท่ามกลางแสงสีพร่างพราวและเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม เหล่าสาวงามหุ่นเอกซ์เซ็กซี่อวดสัดส่วนเรือนกายในเสื้อผ้าน้อยชิ้น โยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวนเหล่าภมรผู้มีอันจะกิน สอยกลับไปบำรุงบำเรอกามา แลกเปลี่ยนเงินทองและความสุขชั่วครั้งชั่วคราว!
แต่เพียงแค่หนุ่มหุ่นล่ำร่างบึกบึน ใบหน้าฉายแววเย็นชา เดินผ่านประตูเข้ามา ทุกสายตาก็โฟกัสไปที่เขาเป็นจุดเดียวกัน
เมื่อชายหนุ่มทรุดนั่งประจำที่...มุมซึ่งจัดไว้สำหรับแขกวีไอพี สาวน้อยพิมพ์มาดาพาร่างสูงด้วยสัดส่วนอกเอวอรชรอ้อนแอ้นรับกับขาเสลายาวเรียว ซึ่งเพิ่งได้รับอภิสิทธิ์ในการได้เข้ามายั่วยวนมอบความสุขให้หนุ่มคีธก็เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองในทันที
“พิมพ์นึกว่าคุณคีธจะไม่มาเสียแล้วซิคะ” เอื้อนเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงหวานระคนเซ็กซี่ บดเบียดร่างชื้นให้กลิ่นเหงื่อที่ผุดไหลตามร่องรูขุมขนแตะจมูกโด่งขึ้นสัน กระตุ้นความต้องการของคีธให้พุ่งโลดลิ่วสู่จุดหมายปลายทาง พาเธอกลับรังรักสุดแสนลับของเขา เพื่อจัดเสิร์ฟอาหารรสแซบ ตามข่าวที่ได้ยินมา
“เธออย่าคิดว่าตัวเองโชคดีนะพิมพ์ ที่ได้เข้าไปใกล้ชิดคุณคีธในอาทิตย์นี้น่ะ”
“ทำไมล่ะ”
พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนแบะหน้าหยามหยัน เพื่อนไม่จริงใจกลุ่มนี้พูดให้เธอใจเสียเพราะอิจฉาที่เธอโชคดีกันละซิ แต่ละคนใฝ่ฝันอยากเข้าใกล้คุณคีธจนเนื้อเต้นแล้ว แต่เสนอตัวไปกี่ครั้งๆ ก็ถูกปฏิเสธกลับมา“ถึงเขาจะหน้าตาหล่อเข้มราวเทพบุตรมาจุติ มาดหรือก็งามสง่าราวกับเจ้าชายจากต่างแดน แต่นิสัยนะซิ...”
ส่วนหนึ่งคือความอิจฉาที่เพื่อนสาวได้ไปบริการคีธจริง แต่อีกส่วนก็คือความตื่นกลัวและกังวลใจ กลัวพิมพ์มาดาจะเป็นเหมือนกับสาวคนอื่นๆ
“ไหน...อย่าเวิ่นเว้อ เล่ามาให้ละเอียดซิ คุณคีธเป็นอะไร”
“แกจำไม่ได้หรือไง สาวๆ ที่ไปอยู่กับคุณคีธหนึ่งอาทิตย์ กลับมาเป็นยังไงบ้าง...ถึงแม้มีเงินทองราวกับถูกเนรมิตมาให้ แต่ทุกคนจำใครไม่ได้เลย หน้าที่เคยสดใสก็ขาวซีดอย่างกับซากศพ หุ่นที่เคยอวบอั๋นก็เปลี่ยนไปเป็นผอมแห้งอย่างกับไม้เสียบผี”
คนพูดทำเสียงสั่นๆ เสียวแผ่นหลังขึ้นมาวูบหนึ่งคล้ายถูกจับจ้องจากสิ่งลี้ลับ“จริงด้วยยายพิมพ์ แกจำยายปาวรินทร์ได้ไหมล่ะ นั่นคนหนึ่งละ กลับมาเนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าขาดวิ่น เลือดไหลอาบ...อย่างกับถูกใครลากไปข่มขืนอย่างนั้นแหละ แล้วยังมีอาการหวาดผวา จนเขานึกกันว่าถูกของ รีบวิ่งหาหมอผีมาทำการรักษากันเสียให้วุ่นวายเลย”
“แหม...เรื่องแค่นี้เอง ยายนั่นอาจไปประสบอุบัติเหตุมาจนความจำหายไปก็ได้”
คนไม่เชื่อในอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เอ่ยอย่างไม่แยแส ไหล่กว้างเลิกขึ้นเล็กน้อย พลางแสยะยิ้มหยามหยันแต่ละคน...แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ขู่ให้เธอกลัวจนถอนตัวไม่เข้าหาคีธ เพื่อตัวเองจะได้เข้าสอดแทรกแทน นึกว่าเธอไม่รู้หรือไง
“พวกเธอกลัวว่าฉันคือคนที่ใช่...นางในฝันที่คุณคีธตามหา คนที่เปลี่ยนหนุ่มเย็นชาเป็นคนมีชีวิตจิตใจ ยิ้มแย้มและหัวเราะได้”
เอ่ยถึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาจากปากของหนึ่งในคนที่คอยดูแลอารักขาคีธ“เออ...ตามใจ แกไม่เชื่อพวกเราก็ตามใจ งั้นก่อนแกเข้าไปยั่วคุณคีธ ก็อย่าลืมเต้นให้เหงื่อไหลซกแล้วกัน”
“บ้าหรือเปล่า ไปหาผู้ชายต้องเลิศหรูดูดี ให้เขาประทับใจตั้งแต่แรกเจอไม่ใช่หรือไง”
“อ้าว...แกไปมุดหัวอยู่ในรูไหนฮึยายพิมพ์ ถึงไม่รู้ว่าคุณคีธนะเขาคลั่งกลิ่นเหงื่อ ไม่รู้หรือไงกลิ่นเหงื่อมันกระตุ้นความต้องการของผู้ชายให้จัดการแกเร็วๆ ขึ้น ได้ข่าวว่าคุณคีธของแกนะใหญ่และ...อึดเกินพิกัดด้วยนะโว้ย”
“บ้า! พวกแกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจะตายไป”
บิดกายไปมาด้วยความเขินอาย ใบหน้าร้อนผ่าวจรดลำคอ แต่ประกายในตากลับพร่างพราวระยับ“โอ๊ย! แกไม่ต้องมาทำตัวเป็นยายสาวน้อยไร้เดียงสาเลยยายพิมพ์ ถูกผู้ชายสอยมากินจิ้มจุ่มตั้งแต่ไม่แตกเนื้อสาว ดีนะที่ยังรักษาตัวเองไม่ให้ป่องได้...แต่ถ้าเกิดแกจำได้ อย่าลืมเล่าให้ฟังนะ คุณคีธจัดการแกท่าไหน ยังไง นานเท่าไหร่ ทั้งอาทิตย์จนเข่าอ่อนเดินไม่ได้อย่างที่พวกเราได้ยินข่าวมาหรือเปล่า”
“พวกแกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันไปเตรียมตัวอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ขัดนวดผิวให้เนียนนุ่มดีกว่า จะได้ถูกใจคุณคีธ จนตกลงปลงใจเลือกฉันไว้เป็นคู่ตลอดไป”
เอ่ยเสียงใสแจ๋ว รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ขณะลุกขึ้นยืนก็ยังมีเสียงหัวเราะกลั้วคอพิมพ์มาดาเดินเยื้องย่างราวกับนางพญาไปหยิบกระเป๋าสะพายมาคล้องไหล่ ก็เผอิญนึกขึ้นมาได้ รีบหันใบหน้าเปื้อนยิ้มไปมองเพื่อนสาวแต่ละนาง
“อย่าลืมอวยพรให้ฉันด้วยล่ะ ถ้าได้เป็นเมียคุณคีธจริงๆ ฉันจะพาพวกแกไปช็อปต่างประเทศ...พ็อกเกตมันนี่ไม่อั้นเลย”
“วันนี้คุณคีธหน้าตาเครียดจัง มีอะไรทำให้ไม่สบายใจหรือคะ” นิ้วยาวเรียวยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าคมรกครึ้มด้วยไรหนวดเขียวครึ้มยาวจากจอนหูฝั่งหนึ่งไปจรดอีกฝั่งและเหนือริมฝีปากสีแดงสด
“ไม่มีอะไร” เอ่ยปฏิเสธอย่างรู้ความต้องการของเหล่าแมลงเม่าที่โผบินเข้าหาแสงไฟดี แต่ในวันนี้เขาเหนื่อยหน่ายจนมองอะไรก็ทำให้เบื่อหน่ายไปเสียหมด
“พูดอย่างกับคนกำลังทุกข์หนัก มีอะไรบอกพิมพ์ได้นะคะ พิมพ์พร้อมช่วยคุณคีธทุกอย่าง” เอ่ยถามน้ำเสียงเซ็กซี่ ร่างอวบอัดด้วยโนมเนื้อนมไข่รับกับเอวเล็กคอดเอนกายอิงแขนกำยำ ช่วงขาเรียวยาวขาวนวลตวัดเล็กน้อยก็พาตัวเองขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง
มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อยอย่างหยามหยัน เขากับอีกสี่ที่ไม่รู้จะเรียกอะไร คนหรือหมาบ้าดี พวกชอบทำอะไรไม่เหมือนมนุษย์มนา เปิดคลับเรียกบริการราคะจากสาวงาม เพื่อควานหาหญิงสาวคู่ชีวิต
หญิงสาวผู้มีรักแท้ให้โดยไม่เกรงกลัวตัวตนอันน่าหวาดกลัว ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ปลดปล่อยเขาและ...คนและหมาบ้าให้เป็นอิสระจากสิ่งที่เป็นอยู่และดำเนินมายาวนาน แต่สิ่งที่ได้พบ...
สาวงามทุกคนมีตำหนิ ล้วนแล้วแต่กระหายอยากในเงินทองและเพลิงราคะที่โหมลุกไหม้ไม่รู้จักจบสิ้น ทุกคนจึงต้องได้รับการสนองตอบและสั่งสอน!
“ฉันไม่มีอารมณ์” ไม่แค่เหนื่อยแต่เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ทำให้ร่างกายซึ่งเคยแข็งแกร่งอ่อนเปลี้ยเพลียจนหมดแรง หรือวันที่เขาจำต้องละร่างกายนี้ไปเป็นดวงจิตลอยล่องไปอย่างไร้จุดหมายมาถึง!
ก็คงดี...เขาไม่อยากเหนื่อยกับการรอคอยและเฝ้าควานหาอย่างไร้จุดหมายอีกแล้ว
คีธยกมือขึ้นวางบนไหล่กว้างดันร่างเพรียวให้ถอยห่าง อีกสามวันพระจันทร์เต็มดวง...คืนอันเลวร้ายที่เขาและเพื่อนๆ ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดทางร่างกาย!
“ใครรังแกให้เจ็บช้ำน้ำใจบอกมาเลยนะเอมมี่ พวกเราทุกคนพร้อมกระทืบมันให้จมดิน” คีธที่ละจากชมบุหลันเดินมาสมทบเป็นคนสุดท้ายเอ่ยขึ้น“มีค่ะ...มากๆ ด้วย คนที่แกล้งขอให้เอมมี่ไปซื้อของกลางแดดร้อนๆ คนนั้นไง” เอมมิเลียฟ้องคนที่ทำให้เธอดีใจจนน้ำตาไหล“อย่างอนคุณดินเลยเอมมี่ เราทุกคนเพียงแค่อยากทำให้ประหลาดใจเท่านั้นเอง” โรมผู้เป็นพี่ใหญ่กว่าเอ่ยขึ้น พลางยกมือกดซับน้ำตาบนพวงแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน“นั่นสิ เราอยากมาดูว่าคุณดินเขาเลี้ยงดูเอมมี่ดีแค่ไหน รังแกให้เจ็บกายและเจ็บช้ำน้ำใจหรือเปล่า” ไลอ้อนรับคำก่อนยอมปล่อยถอยจากเอมมิเลียไปทรุดกายลงนั่งโอบกอดปาวรินทร์ซึ่งมองมาใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เชื่อเถอะเอมมี่ ทางนี้คุณคีธก็บ่นไม่เว้นแต่ละวัน” ชมบุหลันละจากการสนทนาถามไถ่ทุกข์สุขพี่สาวที่เคยร่วมอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันมาก่อนอย่างปาว รินทร์เอ่ยขึ้นบ้าง“บ่นว่าคิดถึงแต่ไม่เห็นมีใครโทรมาหาเอมมี่บ้างเลย” พ้อเสียงใสและส่งยิ้มให้กับอมรินทร์ที่เดินมายื่นนิ้วเกี่ยวก้อยพาเดินไปนั่งบนมุมหนึ่งของสวนดอกไม้บานสะพรั่งกายแกร่งทรุดลงก่อนและให้เธอนั่งบนตักกว้าง แขนหนึ่งโอบรัดรอบกายเพรียว อีกมือยกขึ้นมาทาบบนผิวหน้านวลนุ่ม มองเอ
“นอนไม่หลับเพราะไม่ได้กอดเอมมี่นะสิ” “ทีเมื่อก่อนตอนไม่เจอกันยังอยู่มาได้ ตอนนี้มาทำปากหวาน” ถึงเอ่ยอย่างนั้นเอมมิเลียก็ยินยอมให้อมรินทร์ช้อนกายเพรียวไปนอนบนเตียง สองแขนเรียวยาวยกขึ้นพาดบนบ่ากว้าง กลีบปากอิ่มนุ่มคลี่ยิ้มหวาน นัยน์ตากลมใสเปล่งประกายเชิญชวน“เอมมี่เป็นยาเสพติดที่ต้องเสพทุกคราวที่มีโอกาส”“ขอให้เป็นอย่างที่ปากพูดแล้วกัน ไม่งั้นคุณถูกทุกๆ คนกลับมารุมสกรัมแน่” นิ้วยาวยกขึ้นจับปลายจมูกขยับไปมาอย่างมันเขี้ยว เลยถูกอมรินทร์แก้คืนด้วยการทาบฝ่ามือลูบไล้ไปทั่วกายนุ่มนิ่มพร้อมปลดเปลื้องอาภรณ์คลุมร่างอรชรทิ้งไปและแนบจูบบนกลีบปากอิ่มนุ่มอย่างหนักหน่วงจนคนถูกจูบหายใจหายคอไม่ทัน“ผมน่ารักออก เพื่อนๆ และพี่ชายเอมมี่ไม่มีทางทำอะไรอย่างที่ว่าหรอก” อมรินทร์เอ่ยอย่างมั่นใจ ตวัดสายตาวามวาวเป็นประกายมองไล่ไปทั่วร่างนวลเนียนนุ่ม“อย่างนี้นะหรือน่ารัก เห็นมีแต่จะรังแกกันตลอดเลย” กลีบปากอิ่มนุ่มขบเม้มเข้าหากัน มือเล็กรีบขยุ้มผ้าปูเตียงดึงทึ้งด้วยความกระสันซ่านเสียวจากฤทธิ์ฝ่ามือเพชฌฆาตที่ปลุกปั่นเพลิงเสน่หาโถมเข้าใส่ราวกับเขาไม่เหน็ดเหนื่อยในการจะมอบสัมผัสปรารถนาเลยแม้แต่น้อย“เอมมี่อยากน่าร
หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกจากปอด นับตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น หนังตาอ่อนนุ่มหลุบลงด้วยความอึดอัดระคนปวดร้าวทรวงใน แม้เร่งรีบทำทุกอย่างและเดินทางไปช่วยทุกคนอย่างเร็วที่สุดแล้วแต่ก็ยังไม่ทันกาลอยู่ดี“ฉันขอโทษนะที่ช่วยน้องและแม่คุณไม่ได้” มือนุ่มนิ่มพลิกกลับและลูบไล้มือใหญ่อย่างอ่อนโยนปลอบประโลมหัวใจที่ปวดร้าวให้คลายลงด้วยความรักเต็มล้นอก“ไม่เป็นไรหรอก คงเป็นเวรเป็นกรรมของเอื้อมกับแม่” แม้บอกอย่างนั้นอมรินทร์ก็อดใจหายและปวดร้าวไม่ได้ เขาไปทันได้เห็นเอื้อมดาวถูกโทมัสซึ่งต่อสู้จนเหนื่อยล้าจับตัวเอาไว้“ยอมแพ้และปล่อยตัวเอื้อมดีกว่านะโทมัส เราทุกคนล้อมไว้แล้ว ยังไงนายก็หนีไม่รอดหรอก” หว่านล้อมพร้อมเหลียวมองไปยังคนอื่นๆ ที่มีอาการเหนื่อยหอบหลังจากจัดการเหล่าสมุนของโทมัสจนสิ้นลายไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อกรได้อีกแล้วและต่างก็ยืนคุมเชิงเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือเอื้อมดาวซึ่งอ่อนระโหยโรยแรงจนแม้กระทั่งจะเอ่ยปากพูดก็ไม่มีเสียงออกมาแล้ว“ข้าไม่เชื่อจะแพ้พวกเจ้า” โทมัสคำรามลั่น ตัวเขามีจุดเหมือนเอมมิเลียคือดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหาร แต่ต่างที่สามารถมีชีวิตอยู่กลางวันได้ด้วยอำนาจจากคัมภีร์เวทและตอนนี้เขาจำต้อ
“ข้าเอมมิเลีย โฮเดการ์ด ขอรับอมรินทร์ จิอาฟองโซติด้วยกายและใจ” พูดไม่ทันขาดคำดีกายก็รับเอาความอึดอัดคับแน่นสอดแทรกเข้ามาจนน้ำตาหยดไหล ปากอิ่มสั่นระริกพร้อมเสียงร้องผะแผ่วของความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วกายาราวกับถูกฉีกทึ้ง จนต้องรีบผงกศีรษะพร้อมแยกเขี้ยวแหลมคมและคำรามลั่นก่อนกดฝังลงบนลำคอแกร่งเจ็บจี๊ดมาพร้อมความรวดร้าวจากเพลิงไฟพิศวาสที่แล่นลิ่วไปทั่วกายา กายสาวคับแน่นและบีบกระชับจนอดเปล่งเสียงคำรามออกมาไม่ได้“อดทนอีกนิดนะเอมมี่” เอ่ยปลอบประโลมเอมมิเลีย มือหนาลูบไล้นวดเคล้นกายเพรียวบางจากบั้นท้ายงามงอน ไต่เรื่อยขึ้นไปกดคลึงพฤกษาสวาทเพื่อผ่อนคลายความปวดร้าวให้กับเอมมิเลียและหลอมรวมสองร่างให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ แต่กว่าภมรใหญ่จะชอนไชบุหงาแรกแย้มลึกล้ำก็ทำเอาเหงื่อกาฬไหลอาบกายสองแขนกลมกลึงโอบกระชับรอบกายแกร่ง “ฉันไม่เป็นไร” โต้กลับเสียงอู้อี้ด้วยหิวกระหายในเลือดรสหวานที่แตะปลายลิ้น จิกเล็บลากบนแผ่นหลังกว้างผ่อนคลายความเจ็บร้าวจากการขยับกายของอมรินทร์ยังทำให้เธอนั้นมีความเจ็บปวดเสียดแทรกมาพร้อมความกระสันรัญจวนใจ จนต้องอัดสูดลมหายใจเข้าปอดจนปทุมถันไหวกระเพื่อมเสียดสีกับอกกว้างกำยำเพ





