Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-04-28 20:00:15

"ทำไมพวกนายไม่คบกันซะที?"

คำถามของเพื่อนสาวมีพลังอานุภาพทำลายล้างรุนแรงยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ ที่ยิงเข้ากลางเบ้าหน้าสองหนุ่มที่เป็นประเด็น

น้ำมนต์รู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งจากปลายเท้าขึ้นมาบนศีรษะ ผิวกายของเขากลายเป็นสีแดงไม่ต่างจากคนไข้ขึ้นสูง ใจหนึ่งเขาอยากจะปฏิเสธสิ่งที่หลินซีเอ่ยถาม แต่ลึกๆ ในใจ เขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าคุณใสจะตอบคำถามนี้อย่างไร

ครั้งนี้น้ำมนต์จึงเลือกที่จะอยู่เงียบๆ รอให้คุณใสเป็นคนตอบคำถาม

คุณใสเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดไม่ปฏิเสธคำถามนั้นถึงกับไปไม่ถูก เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของเพื่อนทุกคนที่จับจ้องสร้างแรงกดดันมหาศาล

อ้อมกอดของคุณใสคายออก น้ำมนต์ชะงัก ในความเป็นจริงร่างเล็กควรจะดีใจ ที่ในที่สุดคุณใสก็ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ แต่การปล่อยมือในครั้งนี้ มันกลับทำให้น้ำมนต์รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกทอดทิ้งเสียมากกว่า

"เธอนี่พูดมากจริง อยู่เงียบๆ ไม่เป็นหรือไง?" คุณใสทำเป็นเปลี่ยนเรื่องและหันไปแว้งกัดหลินซีแทน

คุณใสไม่ทันได้สังเกตเลยว่าการกระทำของตนทำให้น้ำมนต์รู้สึกแย่

คนตัวเล็กส่ายหน้า พยายามไม่คิดมาก

พวกเราเป็นเพื่อนกัน แล้วฉันมีสิทธิ์อะไรไปโกรธกับเรื่องนั้นกันล่ะ

เมื่อคิดได้ น้ำมนต์ก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง ร่างเล็กโผไปดึงแขนคุณใสเอาไว้ก่อนที่คนตัวโตจะมีปากเสียงกับเพื่อนสาว

"หลินซีก็พูดเล่นเหมือนทุกที อย่าโกรธเธอเลยนะ"

แววตาของคุณใสที่มองน้ำมนต์แลดูสั่นไหว น้ำมนต์รู้สึกได้ถึงความประหม่า ซึ่งไม่คิดว่าจะได้พบจากคนอย่างคุณใส

เพียงแค่ครู่เดียวสีหน้านั้นก็แปรเปลี่ยน คุณใสกลับมาทำหน้าก่อกวนอีกครั้ง ราวกับต้องการซ่อนความหวั่นไหวก่อนหน้านี้เอาไว้

"ฉันไม่ได้โกรธ" คุณใสหยิกแก้มนุ่มนิ่มของน้ำมนต์อย่างมันเขี้ยว "ฉันแค่ไม่ชอบให้ยัยนั่นมายุ่งเรื่องของเรา"

หลินซีที่ถูกกล่าวหาได้แต่ส่ายหน้า เธอรู้ได้ทันทีว่าหากไม่มีต้นหนเรือนำทางอย่างเธอ เพื่อนทั้งสองคนนี้คงไม่พูดความรู้สึกจริงๆ ของตนออกมาเป็นแน่

บทสนทนาของพวกเขาถูกหยุดด้วยการมาถึงของอาจารย์หนุ่ม ชายร่างท้วมเดินอาดๆ เข้ามา เมื่อเห็นนักศึกษาสี่คนนั่งหัวโด่อยู่แถวหน้าของห้องจึงก้มลงมองนาฬิกา ก่อนจะพยักหน้า

"มาเร็วดีนี่"

แม้ตอนนี้จะเลยมากว่ายี่สิบนาทีแล้วก็ตาม

คาบเรียนเริ่มต้นขึ้นหลังจากเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ เริ่มทยอยเดินเข้าห้องเรียน

ระหว่างที่อาจารย์เริ่มบรรยาย คุณใสจะชอบเอาปากกามาจิ้มหลังมือของน้ำมนต์เป็นพักๆ ราวกับต้องการให้คนตัวเล็กสนใจการมีอยู่ของตน

น้ำมนต์พยายามตั้งสมาธิจดตามที่อาจารย์สอน แม้จะถูกก่อกวนตลอดทั้งชั่วโมงก็ตาม

ทันทีที่คาบเรียนจบลง ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายกลับบ้าน

"ฉันจะยกของไปคืนอาจารย์ พวกนายกลับไปก่อนเลยก็ได้นะ" หลินซีกล่าวขณะช่วยเก็บอุปกรณ์การสอนของอาจารย์

"เดี๋ยวฉันรอ" น้ำมนต์เอ่ย

เขารู้สึกไม่ดีที่จะทิ้งให้เพื่อนทำงานที่ถูกอาจารย์เรียกใช้อยู่คนเดียว หลายต่อหลายครั้งที่เขาพยายามเสนอตัวช่วยเหลือ แต่หลินซีก็จะมีเหตุผลมาอ้างเพื่อไม่ให้น้ำมนต์ต้องมาลำบากเพื่อเธออยู่เสมอ

"ทำไมต้องรอด้วยเล่า!" คุณใสงอแง "พวกนายไม่ได้กลับบ้านทางเดียวกันซะหน่อย"

"งั้นนายกลับไปก่อนก็ได้" น้ำมนต์ยังคงยืนยันคำเดิม

"นั่นยิ่งแล้วใหญ่ บ้านของเราอยู่ติดกัน นายก็ต้องกลับบ้านกับฉันสิ!...จะกลับคนเดียวได้ยังไง!"

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ กลับบ้านเองได้"

"แต่ฉันเป็นเด็ก กลับเองไม่ได้!" คุณใสพูดอย่างหน้าไม่อาย

เด็กอะไรตัวโตขนาดนี้

หลินซีรู้ดีว่าสองคนนี้ดื้อขนาดไหน แม้เธอจะหาทางบ่ายเบี่ยงไม่ให้เพื่อนต้องมารับภาระ แต่เธอก็คงปฏิเสธได้ไม่ตลอด

"งั้นฉันจะรีบกลับมาแล้วกัน" หลินซีด่วนสรุปและรีบวิ่งตามหลังอาจารย์ไปติดๆ

"นอกใจอีกแล้ว!" คุณใสตัดพ้อ

แม้ปากจะบ่น แต่คุณใสก็ยังคงยืนรอเป็นเพื่อนน้ำมนต์ คุณใสเป็นเช่นนั้นเสมอมา ชอบทำเป็นบ่นอิดออด และหาเรื่องเพื่อนสาวอยู่เสมอ ถึงกระนั้น น้ำมนต์รู้ดีว่าลึกๆ แล้วคุณใสเองก็เป็นห่วงหลินซีเช่นกัน เรียกได้ว่าการเถียงกันของสองคนนี้ช่วยสร้างสีสันให้กลุ่มของพวกเขาก็ว่าได้

"ขอบคุณที่รอนะ" น้ำมนต์เอ่ย

รอยยิ้มของคนตัวเล็กมีดาเมจรุนแรงยิ่งกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินซีเสียอีก คุณใสพยายามมองไปทางอื่น ทว่าก็ยังคงถูกนัยน์ตาเป็นประกายคู่นั้นดึงดูดให้หันกลับไปมอง ราวกับต้องมนต์สะกด

เพราะกลัวว่าจะควบคุมความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่คุณใสจึงต้องหาวิธีทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป

คุณใสใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มนุ่มนิ่มของน้ำมนต์

"อย่ายิ้มน่าเกลียดได้มั้ย"

น้ำมนต์ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อคุณใสปล่อยมือ คนตัวเล็กจับแก้มตัวเองราวกับจะทบทวนว่าตนน่าเกลียดจริงๆ หรือ

ภาพนั้นยิ่งทำให้คุณใสแทบจะเป็นบ้า

เขาอยากจะวิ่งไปที่น้ำพุหน้ามหาวิทยาลัย พร้อมตะโกนว่า น่ารักโว้ยยยย!ดังๆ

"พวกนายสองคนอยู่บ้านติดกันงั้นเหรอ?"

คำถามของยูเรทำให้น้ำมนต์ได้สติ

"อื้ม เพราะงั้นก็เลย..."

"โธ่ น่าเสียดายแฮะ" ยูเรพูดแทรกขณะที่น้ำมนต์พยายามจะอธิบาย "แบบนี้คุณใสคงแวะไปส่งฉันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วสิ"

"ไปส่งเหรอ?" น้ำมนต์หันมองคุณใส

"อ้อใช่ เมื่อก่อนตอนไปเยี่ยมบ้านฝั่งนั้น ฉันเป็นคนไปรับหมอนี้ตอนเรียนพิเศษน่ะสิ" คุณใสเขกหัวยูเรไปทีหนึ่ง "นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ใช่กลับเองไม่ได้"

"เฮอะ! เมื่อครู่ใครกันบอกว่าตัวเองเป็นเด็ก" ยูเรยอกย้อนทำเอาคุณใสเถียงไม่ออก "คอนโดฉันอยู่ตรงข้ามทางออกมหาลัยนี่เอง...เดินไปส่งหน่อยไม่ได้หรือไง?"

น้ำมนต์สัมผัสได้ถึงความกดดันจากคำพูดนั้น เขาไม่รู้จักยูเรดีพอที่จะตัดสินนิสัยของเพื่อนใหม่คนนี้ ทว่าหลายครั้งที่น้ำมนต์รู้สึกเหมือนยูเรพยายามแสดงให้น้ำมนต์เห็นว่าตนเองก็รู้จักคุณใสดีมากไม่แพ้กัน

คุณใสทำหน้าเจื่อน ลำบากใจที่จะปฏิเสธ นั่นทำให้น้ำมนต์เผลอดึงแขนคุณใสเอาไว้โดยไม่รู้ตัว

"อะไรเหรอ?" คุณใสหันมาถาม

"เอ่อคือ เอ่อ..." น้ำมนต์คิดหาข้อแก้ตัวไม่ทัน ได้แต่ส่งเสียงเงอะงะเพราะกำลังสติแตก

"ฉันกับพี่อยู่คอนโดนั้นเหมือนกัน เดี๋ยวฉันไปกับนายเอง"

เสียงสวรรค์ของหลินซีช่วยทำให้บรรยากาศตึงเครียดกระจายหายไป แม่หญิงแห่งกลุ่มชายฉกรรจ์กลับมาแล้ว!!

"โอ้! บังเอิญจัง เอาแบบนั้นก็ได้" ยูเรเอ่ยและเดินตามหลินซีไป

น้ำมนต์ยังคงจับแขนเสื้อของคุณใสเอาไว้แน่น

"มีอะไรอยากพูดกับฉันใช่หรือเปล่า?" คุณใสกระซิบ

หากเป็นเวลาปกติน้ำมนต์คงทำเฉไฉไม่ตอบคำถามของคุณใส ทว่าในครั้งนี้เขารู้สึกว่าหากไม่พูดให้ชัดเจน จะต้องมานั่งเสียใจทีหลังอย่างแน่นอน

น้ำมนต์เงยหน้าขึ้นและกระซิบตอบคุณใส

"กลับบ้านด้วยกันเถอะนะ"

เสียงกระซิบสั่นเครือของคนตรงหน้าทำเอาหน้าอกของคุณใสหนักอึ้ง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่บ่อยที่คนตัวเล็กจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อน นั่นยิ่งทำให้ความคิดแผลงๆ ของคุณใสทำงาน

"นี่เป็นคำขอร้องเหรอ?" คุณใสแกล้งเอียงคอถาม "นายรู้ใช่ไหมว่าถ้านายจะขอร้องฉันต้องทำยังไง"

คุณใสแตะปลายนิ้วชี้ที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายเพื่อเตือนถึงผลตอบแทนที่เขาควรได้รับ

แก้มของน้ำมนต์แดงเรื่อ ถึงกระนั้นก็ยังคงพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น

"เข้าใจแล้ว ไว้กลับบ้านแล้วค่อย...ค่อย..." น้ำมนต์อายเกินกว่าจะพูดมันออกมา

ภูเขาไฟแห่งตัณหาในสมองของคุณใสระเบิดบึ้ม เขาคว้ามือน้ำมนต์และรีบบึ่งเดินนำหน้าเพื่อนสองคนไปอย่างไว

"รีบไปไหนเนี่ย" หลินซีบ่นอุบอิบเมื่อโดนแซง

"กลับบ้านสิ!"

คุณใสตะโกนตอบ สับขาเดินเร็วกว่าเดิม แผนที่ทางกลับบ้านที่เร็วที่สุดปรากฏในหัว เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาอยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 48

    หลังจากวันนั้น ชายไร้หน้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ใจจริงน้ำมนต์อยากเอ่ยขอบคุณสักครั้ง ที่ผ่านมาเขาเข้าใจวิญญาณตนนั้นผิดมาตลอด แม้เมื่อก่อนจะหวาดกลัวและอยากให้ชายคนนั้นหายไป มาบัดนี้ พอเขาหายไปจริงๆ น้ำมนต์กลับรู้สึกโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าสูญเสียคนในครอบครัวไปอย่างไรอย่างนั้น“ทำอะไรอยู่ลูกชายแม

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 47

    “หลิน! ฟังก่อนได้ไหม เพราะเธอเอาแต่ปฏิเสธฉันแบบนี้ไงฉันถึงได้ไปมีคนอื่น”คำพูดของคนหน้าด้านหน้าทนทำให้หลินซีเดือดปุดๆทีแรกก็ว่าจะรวมพลังไปหาถึงที่ ใครจะคิดว่าแค่ส่งข้อความพร้อมคลิปหลักฐานไป หมอนี่ก็โผล่มาทันที แล้วยังเอาแต่พ่นคำแก้ตัวปัญญาอ่อนนี่ต่อหน้าเธอไม่หยุด“ได้ งั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ก็จบกัน แ

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 46

    “คิดว่าผู้หญิงคนนั้น จะยังอยากมองหน้าพวกนายต่องั้นเหรอ หลังจากที่โดนคนประเภทนั้นแย่งคนรักไป”“แน่นอน” คุณใสพูดอย่างมั่นใจ “ถึงยัยนั่นจะน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่แยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ถ้านายคิดว่าตัวเองยั่วยุให้ยัยนั่นแตกคอกับพวกเราได้สำเร็จแล้วละก็...หึ นายคิดผิดถนัด”นิ้วมือแล

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 45

    “เธอคือแม่ของนาย...ใช่หรือเปล่า?” คุณใสชูภาพให้ยูเรเห็นชัดๆ “ผู้หญิงคนนั้นที่น้ำมนต์เห็น คือแม่ของนายใช่มั้ย?”“นี่นายสงสัยฉันงั้นเหรอ เอาจริงดิคุณใส”“ฉันไม่ได้สงสัย แต่มั่นใจว่าเป็นนายเลยต่างหาก”น้ำเสียงดุดันของร่างสูงทำให้ยูเรเริ่มเผยพิรุธ“นายเชื่อเรื่องโกหกของหมอนั่นจริงๆ งั้นเหรอ นายเคยเห็นผู

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 44

    คลิปวิดีโอของชายหนุ่มสองคนที่กำลังกอดจูบลูบคลำกันใต้แสงไฟสลัวในสถานเริงรมย์ ทำเอาใบหน้าของหญิงสาวที่ปกติแทบไม่แสดงอารมณ์ บัดนี้กลับบิดเบี้ยวเพราะความเศร้าโศกเสียใจเหตุเพราะยูเรเลือกที่จะเปิดคลิปที่เขาบังเอิญเจอธีร์กำลังมีสัมพันธ์กับชายอื่น ซึ่งเป็นการนอกใจ และนอกกายอย่างไม่น่าให้อภัย“ขอโทษนะหลิน ไ

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 43

    “ขอโทษที่ทำให้บรรยากาศเสียนะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” น้ำมนต์บอกลาเพื่อนทั้งสอง แล้วฉวยเอาใบสั่งอาหารตรงไปยังจุดชำระเงินพร้อมกับคุณใสยูเรพ่นลมหายใจแรงอย่างหัวเสีย ก่อนหันไปหาเพื่อนสาว“เธอเชื่อที่เขาพูดเหรอ เรื่องไร้สาระแบบนั้น...”“มันก็ไม่มีเหตุผลให้ไม่เชื่อนี่” หลินซีกล่าวเสียงเรียบ “ฉันเคารพค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status