@หนึ่งเดือนถัดมา
"พี่แน่ใจแล้วนะ ว่าจะกลับไปทำแล้วจริงๆ"
"แน่ใจสิ พี่หายดีแล้วนะ"
"ไม่เจ็บตรงไหนแล้วแน่นะ?"
"พี่โตแล้วนะชา แค่นี้พี่ไม่เป็นอะไรหรอก"
"....." โตแล้วก็จริง แต่ฉันก็อดห่วงไม่ได้เลย เพราะทันทีที่หายดีเขาก็กลับไปทำงานต่อเลย ใช้ชีวิตแบบปกติของเขาที่ทั้งทำงานและเรียนไปพร้อมกัน
"พี่ไปแล้วนะ"
"พี่เต้..."
"อย่างอแงสิ เราเองก็โตแล้วนะ ไหนเราตกลงกันแล้วไง ว่าถ้าพี่หายดีทำงานได้ เราจะไม่ห้ามพี่"
"ก็ใช่ แต่พี่ทั้ง..."
"ไปทำงานก่อนนะเด็กดื้อ พี่จะสายแล้ว"
พี่เต้เอามือลูบหัวของฉันก่อนจะหันหลังเดินออกไปอย่างเร่งรีบ โดยที่ฉันยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ
"อะไรของเขาเนี่ย"
"ไอ้เต้ออกไปทำงานต่อแล้วหรอ?"
"ค่ะพี่คลินต์"
"พี่เองก็จะออกไปเหมือนกันนะ กลับค่ำๆ ไม่ก็ดึกๆ ล็อคประตูด้วยล่ะ"
"ค่ะ"
พอพี่คลินต์ออกไปก็เหลือแค่ฉันเพียงคนเดียว เลิกเรียนกลับมาทั้งสองคนนั้นก็รีบออกไปทำงานกันต่อ โดยเฉพาะพี่ชายของฉันเอง ส่วนพี่คลินต์ก็ออกไปบ้างไม่ออกไปบ้าง
ทั้งที่ตัวเองก็มีงานให้ทำ แต่กลับรู้สึกว่าฉันเป็นน้องสาวที่ไม่ได้ช่วยพี่ชายทำงานหรือแบ่งเบาภาระอะไรเลย ต่อให้พี่เต้จะไม่เคยพูดก็เถอะ
#เวลาต่อมา
ภายในค่ำคืนอันเงียบสงบ ใบชากำลังเอนกายนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา เธอเผลอหลับไป โดยที่ทีวียังไม่ทันได้ปิดเลยด้วยซ้ำ หน้าจอยังคงฉายการ์ตูนเรื่องโปรดของเธออยู่ ร่างบางนอนนิ่งริมฝีปากนุ่มแนบสนิทเข้าหากัน ลมหายใจที่พ่นเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ ตลอดเดือนที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อยสำหรับเธอมากจริงๆ
ติ๊ด ~
คลินต์แตะคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเดินเข้ามาอย่างใจเย็น แต่พอเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นตรงที่มีทีวี เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างของน้องสาวของเพื่อนสนิทนอนหลับพริ้มอยู่ตรงนั้น ร่างสูงใหญ่หยุดเดิน ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงฝีเท้าเบาๆ ของเขาดูดังกว่าเดิม เขานั่งลงข้างๆ อย่างช้าๆ กลัวว่าโซฟาจะยวบลงจนรบกวนการนอนหลับของเธอ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ตรงนี้นานนัก แค่หวังดีจะช่วยเธอปิดทีวีเสียงจะได้ไม่รบกวนการนอน แต่ไม่รู้ทำไม เขากลับนั่งลงข้างเธออย่างเงียบๆ มองหน้าเธอที่กำลังหลับ ฝ่ามือของเธอกำหมอนแน่นเหมือนกำลังฝันถึงอะไรสักอย่าง
เธอฝันร้ายอยู่งั้นเหรอ?
แต่แล้ว...
"อื้อ..." เสียงครางเบาๆ หลุดออกจากลำคอของใบชา ก่อนที่มือเรียวเล็กจะเอื้อมออกมาช้าๆ แล้วคว้าบางอย่างที่อยู่ใกล้มือที่สุด ซึ่งก็คือ...เป้ากางเกงของเขา
คลินต์ชะงักราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปชั่วขณะ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนที่ใบหน้าจะเห่อร้อนในเสี้ยววินาที
"เดี๋ยวๆ บะ ใบชา..." เขากระซิบเบาๆ พยายามจะจับข้อมือของเธอออกอย่างใจเย็นมากที่สุด แต่ไม่ทัน...
มือเล็กๆ นั้นกำเข้าแน่น ก่อนจะขยำเต็มแรงราวกับของในมือคือของเล่นบีบคลายเครียด เหมือนพวกสกุชชี่ สไลม์ หรืออะไรบางอย่างที่เป็นของเด็กเล่น นี่มันจะเป็นก้อนกลมๆ และนิ่มมากๆ
"นุ่มจัง.." เสียงละเมอของใบชาดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มละมุนบนใบหน้า
"อยากได้จัง อือ..."
คลินต์ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืน หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบทะลุออกมานอกอก เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ มือหนึ่งของเธอก็ยังจับแน่นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ส่วนมือเขาที่ควรจะปลดออกกลับแข็งค้างอยู่กลางอากาศ
"บะ ใบชา...ปล่อยก่อนครับ" เสียงของเขายังคงนุ่มนวล ทั้งที่ภายในแทบจะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงดัง กลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมาแล้วต้องตกใจ ที่มือของเธอนั้นกำลังบีบขยำเล่นอยู่กับอะไร
แต่ทว่าในห้วงฝันของเธอกลับไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย ใบหน้าหวานยังคงยิ้มละเมอ มือก็ยังจับแน่นไม่ยอมปล่อย ทั้งบีบทั้งขยำเบาๆ จนเขาต้องสูดลมหายใจลึก ห้ามตัวเองไม่ให้สะดุ้งไปกับสัมผัสนั้น
มันอาจจะแข็งขึ้นมาได้!
เขาไม่ใช่คนที่ไวต่อความรู้สึกขนาดนั้น การมีเซ็กซ์สำหรับเขา ไม่ใช่แค่ว่าแก้ผ้าหรือแค่ถูกสัมผัสมันก็แข็งขึ้นมาแล้ว
"อ่าส์ซี๊ดด อยะ อย่าบี้หัว" คลินต์ครางเสียงกดต่ำ ในหัวสมองมันเริ่มที่จะขาวโพลน ไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้วในตอนนี้
"อันนี้ของฉันนะ ห้ามแย่ง..." เธอพึมพำอีกครั้ง คราวนี้เสียงเบาจนเกือบเป็นเสียงลมหายใจ คลินต์เอนตัวไปพิงพนักพิงโซฟา ยกมือขึ้นกุมหน้าผากของตัวเอง รู้สึกเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายที่สุดที่เขาไม่สามารถจะลุกหนีได้
หรือบางทีนี่อาจจะเป็นฝันดีก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าเขาจะต้องกลายเป็นคนผิดในสายตาเธอ ถ้าเธอตื่นขึ้นมาในตอนนี้
ถ้าใบชาตื่นขึ้นมาแล้วเห็นตัวเองอยู่ในสภาพนี้ คงตกใจมาก และไม่วายโทษที่เขามานั่งอยู่ตรงนี้เอง
"บะ ใบชา พี่ขอร้องเถอะครับ เอามือออกเถอะ" เขากระซิบเบาๆ เหมือนจะอ้อนวอน ก่อนที่จะค่อยๆ แกะมือเธอออกทีละนิ้วอย่างใจเย็นที่สุด
ทุกวินาทีคือความทรมาน ทั้งร่างและใจ
แต่ที่ทรมานกว่าคือความจริงที่ว่า เขากลับไม่อยากให้มือเล็กนั่นปล่อยออกไปเลย
นี่เขาไม่ได้โรคจิตใช่ไหม
มือนุ่มๆ นั่นถึงจะไม่ได้ตั้งใจสัมผัส แต่เขาก็รู้สึกแปลก ไม่ได้มีอารมณ์ แต่มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกกับความไร้เดียงสาของเธอ
ทันทีที่หลุดออกมาจากตรงนั้นได้ คลินต์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ก่อนจะยืนมองดูหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิทอยู่ จากนั้นก็หยิบรีโมททีวีขึ้นมาและปิดหน้าจอ เธอเองก็ยังไม่ตื่น ดูแล้วเป็นคนหลับลึกใช่ย่อยเลยเหมือนกัน
ไม่นานนัก...
แกร๊ก ~
"อ้าวไอ้คลินต์ เพิ่งกลับมาเหมือนกันหรอวะ" เตชินทร์เอ่ยทักทายเพื่อนสนิท ที่ยืนอยู่ตรงห้องโถง เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วคงเพิ่งมาถึงเหมือนกัน
"เออ กลับมาเจอสภาพนี้น่ะ" คลินต์บอกเพื่อนสนิทให้ดูน้องสาวของตัวเอง
"ใบชา"
"หลับคาทีวีเลย ยังเปิดการ์ตูนไว้อยู่เลย สงสัยคงเหนื่อยมากแหละ"
"อือ เดี๋ยวกูปลุกเอง"
"ไม่ต้องหรอก ปลุกมาเดี๋ยวก็นอนไม่หลับอีก ให้น้องมึงนอนไปเหอะ โซฟาตรงนี้ก็นอนสบาย"
"อืม..."
"งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัว"
"เออๆ"
สองเพื่อนสนิทแยกย้ายกันไปเข้าห้องนอนของตัวเอง โดยที่ใบชายังคงนอนอยู่ที่เดิมเพราะไม่มีใครกล้าปลุก ส่วนคลินต์รู้ดีว่าไม่ควรปลุกเธอในเวลากลางดึกเลย ไม่อย่างนั้นเธอคงนอนไม่หลับอีก
#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค
#เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่คลินต์ และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไป อยู่ในครอบครัวที่เล็กๆ แต่มีความสุขและอบอุ่นมาก ส่วนบ้านหลังนั้นพี่เต้ก็อยู่คนเดียวโดยปริยาย แต่ฉันก็แอบคิดนะว่ารายนั้นก็น่าจะหาแฟนสักคนจะได้มาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังครองโสดอยู่จนปัจจุบันนี้ฉันเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับคำว่าครอบครัว แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทนึง มะโซวก็เข้าโรงเรียนอนุบาล พี่คลินต์ก็ทำงานเป็นผู้ดูแลไร่นี้ และก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองบ้าง เราต่างก็มีหน้าที่ของกันและกันพี่คลินต์อยากให้ฉันลาออกจากงานแล้วคอยดูแลบ้าน แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านคอยทำอะไรหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ฉันอยากทำงานอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองโดยที่เงินนั้นไม่ได้มาจากการที่พี่คลินต์เป็นคนให้ อยากทำงานเก็บเงินเอาไว้ในส่วนของตัวเองครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งก็เก็บเอาไว้ให้มะโซวเป็นค่าเล่าเรียนของเขา ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ต้องลำบากแล้วก็เถอะ เพราะมีพี่คลินต์จัดการทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังอยากทำสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้ให้มันสำเร็จตอนนี้เรามีลูกและมะโซวก็เหมือนเชือกสานร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจอดรถรอใบชาเลิกงานอยู่ที่หน้าบริษัทพนักงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพากันทยอยออกมาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่นานนักใบชาเดินออกมา"พ่อครับ แม่มาแล้วอยู่นั่น" มะโซวลูกชายตัวน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ออกไปยังเบื้องหน้า ตรงกลุ่มพนักงานที่กำลังพากันเดินออกมามีผู้เป็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกมาอยู่ด้วย"ไปรับแม่กันป่ะ""ครับ"คลินต์กับลูกชายพากันจูงมือเดินตรงไปหาใบชาที่กำลังเดินออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงตัวของใบชา ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงเข้ามาสะกิดเธอจากด้านหลังและคุยด้วยต่อหน้าต่อตาเลยนะนั่น!ไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันแต่เห็นแค่นี้ก็หงุดหงิดจนลมออกหูแล้ว"ใบชาครับ""???""ถ้าผมจะขอไลน์ จะว่าอะไรไหมครับ เผื่อเอาไว้คุยกัน""ว่าครับ ขอไม่ได้" คลินต์พูดแทรกเข้าไป เพราะรีบเดินเข้าไปจนได้ยินการสนทนาพอดี"แล้วคุณเป็นใครครับ มาเกี่ยวอะไรด้วย""เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นสามี""ส่วนมะก็เป็นลูกครับ คนนี้แม่ของมะเอง คุณลุงห้ามยุ่งนะครับ" มะโซวพูดขึ้นอย่างเด็กรู้ทัน ก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบแม่ของตนเอง"เอ่อ จริงเหรอครับใบชา?""ค่ะ นี่ลูกฉันเอง"เธอยอมร
ณ บ้านไร่องุ่น หลังจากกลับมาที่บ้านไร่ใบชาก็ได้ใบตอบรับจากบริษัทที่ไปสมัครงานทิ้งไว้ให้เข้าทำงานพอดี ส่วนเจ้าลูกชายก็เข้าเรียนตามปกติเหมือนเดิม โดยที่มีคลินต์คอยไปส่งเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเตชินทร์ที่เคยรับหน้าที่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยคลินต์ทำหน้าที่แทนหมดแล้วไม่สิ ไม่ใช่การทำแทน แต่มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำอยู่แล้ว หน้าที่สามีและหน้าที่พ่อ"แต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอ?" คลินต์เอ่ยถามใบชา พร้อมกับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดที่เธอใส่แม้มันจะไม่โป๊ แต่ในสายตาของเขามันก็ดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิเสื้อเชิ้ตกระโปรงทรงเอรัดรูป ก็ปกติของพนักงานออฟฟิศนั่นแหละ แต่ดูมันรัดรูปมากไปหน่อย"อื้อ ทำไมอ่ะ?" ใบชาถามกลับพร้อมกับมองตามที่คลินต์มองเธอ มันแปลกยังไง หรือมันไม่ดียังไงล่ะ"พี่ว่ามันรัดไป""ยังไง บ้าเหรอ กระโปรงทรงเอนะพี่คลินต์ เอาจริงดิ?""ใช่ เอาจริง เปลี่ยนเถอะ"ใบชามองหน้าคลินต์แบบเหนื่อยหน่าย นี่วันแรกของการไปทำงานของเธอนะ จะเจออุปสรรคตั้งแต่ก้าวออกบ้านเลยเหรอแขนเรียวยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่คิ้วจะขมวดย่นเข้าหากันเหมือนกำลังคิดหนัก"สายแล้ว เปลี่ยนตอนนี้ไม่ทันหรอก ฉันต้องไปรายงานต