Share

writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!
writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!
Author: แมวน้อยหมวกเขียว

ตอนที่ 1 นักเขียนนิยาย

last update Last Updated: 2024-11-10 07:54:42

ตอนที่ 1

นักเขียนนิยาย

ปลายนิ้วเรียวของฉันกดลงบนแป้นพิมพ์โปร่งใสที่ลอยอยู่บนอากาศอย่างรวดเร็วและไม่มีหยุดชะงัก แต่สายตาของฉันไม่ได้มองไปยังตัวอักษรที่พิมพ์ลงไปเลยแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะว่าสายตาของฉันมองตรงไปยังภาพตรงหน้าเพียงอย่างเดียว นั่นก็เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดฉากสำคัญตรงหน้าและก็เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดการบันทึกเรื่องราวที่เห็นฉันจึงขยับนิ้วพิมพ์บรรยายอย่างรวดเร็ว

แวมไพร์สาวฝังเขี้ยวลงไปบนคอของเหยื่อและดูดเลือดแสนอร่อยเข้าปากอย่างเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสเลือดอันแสนหวานของชายหนุ่ม และชายหนุ่มผู้ถูกกัดก็ครางออกมาอย่างพอใจ ความสุขที่โดนกัดทำให้เขาล่องลอยไปสู่โลกอื่น?

ต่อด้วย...

ทั้งสองพาร่างของกันและกันไปต่อที่เตียงโดยที่ไม่ยอมผละออกจากกันแม้แต่เสี้ยววินาที เสื้อผ้าของทั้งสองถูกกระชากออกโดยฝีมือของฝ่ายตรงข้าม ไม่นานพวกเขาก็ไม่มีเสื้อผ้าหลงเหลืออยู่บนร่างกาย แวมไพร์สาวคลอเคลียริมฝีปากไปทั่วแผงอกอันแข็งแกร่งของชายหนุ่มก่อนที่จะกัดไหล่ของชายหนุ่มอย่างรักใคร่(?) คู่รักที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดและความดิบเถื่อนเช่นนี้มันช่างเร้าใจนัก มือของชายหนุ่มลูบไล้ไปทั่วร่างหญิงสาวและไปหยุดที่....

ผลัวะ!!

ยังไม่ทันได้บันทึกฉากพิเศษหัวของฉันถูกตบคว่ำด้วยฝีมือของใครบางคน ฉากที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มของปีศาจสองตนหายวับไปทันที แป้นพิมพ์ที่ใช้พิมพ์เมื่อครู่ก็จางหายไปเช่นกัน

“นิรา! ฉันเรียกเธอตั้งนานทำไมไม่ตอบสักที!” แพรว เพื่อนสาวของฉันตะโกนใส่หูของฉันอย่างโมโห ฉันกะพริบตาปริบๆ และมองสถานที่ปัจจุบันของตัวเอง ฉันยังนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านของตัวเอง

“โทษที” ฉันหันไปขอโทษแพรวเบาๆ เมื่อรวบรวมสติได้

ฉันมีชื่อว่านิรา นามปากกาจากการเขียนนิยายก็คือ เลล่า ฉากที่ฉันเห็นและบรรยายไปเมื่อกี้ไม่ใช่อะไร มันก็คือการมองข้ามโลกของฉัน พลังนี้เรียกว่า God eyes หรือจะเรียกว่า ดวงตาพระเจ้า ก็ได้ ซึ่งการใช้มันก็เหมือนกับการถอดจิตไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอื่น

ฉันได้รับพลังนี้มาจากคนที่เรียกว่าตัวเองคือ พระเจ้า จากทางจดหมายที่ส่งผ่านมาทางเมล์ คนที่เรียกว่าตัวเองคือ พระเจ้า บอกกับฉันว่าฉันเป็นอีกหนึ่งคนที่จะสามารถช่วยโลกได้โดยให้คำอธิบายว่าในตอนนี้โลกมากมายต่างหมดพลังและกำลังแตกสลาย การที่จะช่วยให้โลกเหล่านั้นอยู่ต่อไปได้ก็คือ บุคคลจากโลกอื่นจะต้องรับรู้การมีอยู่ของคนจากอีกโลก ความรู้สึกของคนจากอีกโลกที่มีต่อคนจากอีกโลกจะทำให้โลกที่กำลังล่มสลายได้รับพลัง

ซึ่งวิธีที่จะทำให้คนจากต่างโลกจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของอีกโลกได้ก็คือการอ่าน

ข้อสรุปจึงออกมาว่า นักเขียนสามารถช่วยได้ ซึ่งนักเขียนผู้ถูกเลือกก็จะต้องใช้พลังดวงตาพระเจ้าที่ได้รับมองข้างไปยังอีกโลก จากนั้นก็เลือกก็ได้มาและเอาเรื่องราวชีวิตของคนคนนั้นมาเขียนเป็นนิยายลงเว็บ Go - D เพื่อให้ผู้คนจากต่างโลกได้อ่าน

นักอ่านที่มีความรู้สึกร่วมกับนิยายเหล่านั้นก็จะสามารถสัมผัสได้ว่าตัวละครในหนังสือเหล่านั้นมีตัวตนอยู่จริง สิ่งพวกนั้นจะช่วยเป็นพลังให้กับโลกที่พวกเขารู้จักในนามของนิยายเรื่องหนึ่ง 

ส่วนเว็บ Go - D เป็นเว็บอ่านนิยายที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาอ่านและลงนิยายของตัวเองฟรี ก่อนที่ฉันจะได้รับดวงตาพระเจ้ามาฉันก็เขียนนิยายของตัวเองและนำไปลงในเว็บ Go - D แห่งนี้จนกระทั่งมีสำนักพิมพ์หันมาสนใจ นิยายบางเรื่องของฉันจึงได้กลายเป็นเล่มไปแล้ว นับตั้งแต่นั้นมาฉันก็ตัดสินใจที่จะทำอาชีพเป็นนักเขียนนิยายหลังจากเรียนจบมหาลัย

ฉันเขียนนิยายมากมายตามอารมณ์จนกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในหมู่คนอ่านนิยายแฟนตาซี จนกระทั่งเมื่อหนึ่งเดือนก่อนที่เพิ่งฉันได้รับพลังมา ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะได้รับความสนใจจากพระเจ้าจนได้พลังดวงตาพระเจ้ามาพร้อมกับระบบ Writer 

อย่างที่บอกไปดวงตาพระเจ้าทำให้ฉันรู้ว่าโลกในมิติอื่นมีอยู่จริงและมันมีโลกที่ฉันไม่รู้จักมากกว่าจำนวนดวงดาวบนฟ้าซะอีก มันมีทั้งโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยปีศาจและเวทมนต์และโลกอนาคตที่การเดินทางระหว่างดวงดาวเป็นเรื่องปกติ

ในตอนแรกฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างกับพลังนี้จึงลองผิดลองถูกไป นั่นทำให้ฉันได้รู้ว่าระหว่างที่ฉันมองข้ามมิติไปยังอีกโลก เวลาของโลกที่ฉันอาศัยอยู่และโลกเหล่านั้นมันต่างกัน หนึ่งวันของอีกโลกจะเท่ากับห้านาทีของโลกที่ฉันอาศัยอยู่ และด้วยระบบ Writer ที่ได้มาพร้อมกับดวงตาพระเจ้าฉันสามารถทำได้หลายอย่าง เช่นเรียกแป้นพิมพ์และหน้าจอข้อมูลออกมาจากกลางอากาศได้ตลอดเวลา อย่างที่ฉันทำตอนแรก ดูสิ่งที่เกิดขึ้นและพิมพ์บรรยายเป็นตัวอักษรไปด้วย

ที่จริงมันสามารถกดบันทึกวิดีโอได้ด้วยแต่ฉันไม่ทำเพราะอยากเห็นฉากเหล่านั้นด้วยตาของตัวเอง พอได้บรรยายในระหว่างที่ดูด้วยตาตัวเองมันได้อารมณ์ดีกว่าตั้งเยอะ

ที่ผ่านมาฉันทดลองเขียนตอนสั้นมาหลายเรื่องจึงรู้ว่าเมื่อยอดวิวเพิ่มขึ้นหนึ่งฉันจะได้เหรียญเงิน 100 เหรียญ หากมีหนึ่งความคิดเห็นฉันก็จะได้เหรียญทอง 100 เหรียญ มันจะปรากฏขึ้นมาในแอปพลิเคชัน Writer shop ที่อยู่ในระบบ Writer อีกที ฉันสามารถนำเหรียญไปแลกเงินจริงได้ด้วย ซึ่งเหรียญทอง 1 เหรียญแลกเป็นเงินบาทได้ตั้ง 1000 บาท! แถมยังสามารถใช้เหรียญซื้อสินค้าต่างๆ ใน Writer shop ได้อีกด้วย

ไม่ออกจากบ้านมันแล้วโว้ย! นั่งปั่นนิยายทั้งวันดีกว่า!

แม้บางครั้งฉันจะคิดว่าการทำแบบนี้มันใช่การเขียนนิยายแน่เหรอ? ทั้งที่นิยายควรมาจากจินตนาการของผู้เขียนที่สามารถเขียนเล่าออกมาเป็นเรื่องราว สิ่งที่ฉันทำก็เหมือนการบันทึกชีวิตของคนอื่นเพียงเท่านั้น แต่ฉันก็ได้เลิกคิดเรื่องนี้ไปเพราะสิ่งที่ฉันทำมันช่วยโลกที่น่าสนใจเหล่านั้นให้คงอยู่ต่อไปได้ 

ฉันสนุกกับการมองไปยังต่างโลกและมีความสุขกับเงินมากมายที่ได้มา และที่สำคัญ ฉันสนุกที่คนอื่น ๆ ได้อ่านเรื่องราวของคนที่ฉันเลือกบันทึกเป็นตัวอักษรให้พวกเขาได้อ่าน

“ยัยนิราตกลงเธอฟังฉันรึเปล่า!?” แพรวเริ่มโมโหหนักกว่าเดิมเมื่อฉันเผลอเหม่อลอยไป แหม เผลอเล่าซะยาวเลย

“ฟังสิ ฟัง....ว่าแต่ เธอพูดว่าอะไรนะ?” และฉันก็ถูกตบหัวไปอีกทีหนึ่ง แพรวเริ่มบ่นเมื่อเห็นฉันอยู่แต่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน ด้วยเหตุนี้เองบทสรุปจึงออกมาว่าฉันต้องออกจากบ้าน

เพียงไม่นานแพรวก็ลากฉันเข้าไปในห้างที่แสนจะเย็นฉ่ำจนหนาว เราเดินเข้าไปในร้านอาหารเป็นอย่างแรกเพราะตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยงแล้วฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย

“กินเยอะๆ ช่วงนี้เธออยู่แต่ในบ้านได้ทานอาหารครบเวลาบ้างไหมก็ไม่รู้” แพรวบ่นออกมาอีกแล้ว แต่ฉันดูออกว่าเธอเป็นห่วงฉันมาก ฉันยิ้มให้แล้วเริ่มยัดข้าวเข้าปาก แต่ขณะที่เคี้ยวข้าวอยู่นั่นฉันก็หันไปเห็นคู่รักที่นั่งโต๊ะข้างหน้า

นี่เป็นการมาออกเดตครั้งแรกของพวกเขา หญิงสาวสั่งอาหารอย่างเงอะงะขณะที่สายตามองเมนูอาหารสลับกับใบหน้าชายหนุ่ม ชายหนุ่มที่รู้ตัวว่าถูกแอบมองจึงเงยหน้ามองหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม เขาขยับยิ้มขำเบาๆ กับความน่าเอ็นดูของเธอ เห็นแล้วมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่เท้าคางแล้วจ้องมองหญิงสาวตอบ ฝ่ายหญิงเขินอายกว่าเดิม

ว้าว! คู่รักที่น่าอิจฉา คู่นั้นก็ด้วย เห็นแล้วอดบรรยายไม่ได้เลยแฮะ คิดแล้วอยากกลับไปเขียนนิยายจริงๆ

“ตั้งใจกินหน่อย เหม่ออะไรอีก เพราะไม่ได้กินข้าวตามเวลาสินะสติสตังถึงหายไปหมดแบบนี้” แพรวเอ่ยเตือนฉันอีกครั้ง ฉันจึงรีบกินแล้วควักโทรศัพท์ออกมา ฉันกดอัพเดตนิยายที่ได้เขียนไปก่อนหน้านี้ก่อนที่จะถูกแพรวลากออกจากบ้าน มันเป็นเรื่องสั้นเกี่ยวกับความรักของแวมไพร์สาวตนหนึ่ง แม้มันจะถูกตัดฉากกลางคันตอนที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแต่ก็พอถูไถไปได้ อีกอย่างยังไงฉันก็ไม่คิดจะเขียนเรื่องติดเรทอยู่แล้วเพราะทุกครั้งที่เห็นเรื่องติดเรทฉันจะจดจ่ออยู่กันมันจนลืมเขียนบทบรรยายออกมา..

เมื่ออัพเดตลงไปแล้วฉันก็รอความคิดเห็นของนักอ่านอย่างใจจดใจจ่อ!

“ยัยนิรา! ดาราเกาหลียืนอยู่นั้น!”

“หือ!? ไหน?” ฉันเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ฉันก็ไม่เห็นอย่างที่หวังเลย ฉันจึงรู้ว่าโดนหลอกซะแล้ว “เล่นอะไรเนี่ย” ฉันหันไปทำหน้าบูดใส่เพื่อนสาว

“ก็เธอเอาแต่ก้มหน้ามองมือถือนี่หว่า คนหล่อระดับดาราเดินผ่านเธอก็คงไม่มีวันรู้ตัวหรอก” แพรวส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ เธอเริ่มเหมือนแม่ของฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เดินผ่านไปสิยังไงผู้ชายต่างโลกก็หล่อกว่า” พึมพำเบาๆ

“อะไรนะ?”

“ไม่มีอะไร” ฉันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วก้มอ่านความคิดเห็นที่เด้งขึ้นมาเรื่อย ๆ

“ไปดูหนังกันต่อไหม” แพรวเสนอ

“ไปสิ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักขณะไล่อ่านความคิดเห็นของนักอ่านต่อ

จิ้งจกแดง: มันได้อารมณ์ยิ่งนัก แต่ถ้ายาวกว่านี้จะดีกว่านะคุณเลล่า

ดอกบัวแดง: ใช่ ช่วงนี้คุณแต่งเรื่องสั้นเยอะเกินไปแล้ว

แพนด้าแดง: กลับมาแต่งนิยายเรื่องยาวเถอะคุณเลล่า พวกเรารออยู่!

ไก่แดง: เราโหยหาเรื่องยาวของคุณแล้ว!

และอีกหลายความคิดเห็นที่ขอให้ฉันกลับไปเขียนนิยายเรื่องยาวอีกครั้ง พวกเขาส่งเสียงเชียร์กันเต็มที่จนมันส่งมาถึงฉัน ฉันอยากเขียนนิยายเรื่องยาวตอนนี้! ไม่รอช้าฉันรีบวิ่งกลับบ้าน

“เดี๋ยว! เธอจะไปไหนน่ะนิรา!” แพรวเรียกไว้แทบไม่ทัน

“ไม่ดูหนังแล้ว ฉันต้องกลับบ้านด่วน!” ฉันรีบวิ่งกลับบ้านทันทีไม่สนเสียงเรียกของแพรวที่ร้องตามมา

“เธอรีบเรียนจบมหาลัยเพื่อมาเป็นนีทเหรอยะ!!”

ไม่มีอะไรมาหยุดจิตวิญญาณนักเขียนของฉันได้ ในขณะที่ฉันกำลังกระตือรือร้นฉันต้องรีบเคลื่อนไหวก่อนที่จะหมดไฟ ฉันกลับถึงบ้านในเวลาที่รวดเร็วกว่าตอนออกจากบ้าน จากนั้นฉันก็ตรงไปนอนบนเตียง ฉันคิดว่าจะไปส่องอีกโลกหนึ่งสักเดือนหนึ่งหรือสองชั่วโมงในโลกนี้ ฉันเป็นพวกนั่งเกินชั่วโมงไม่ได้เพราะมันจะปวดเมื่อยร่างกายมาก ฉันจึงต้องนอนนี่ล่ะ

เมื่อจัดท่าเรียบร้อยฉันก็หลับตาลง ไม่ใช่ความมืดที่ฉันเจอแต่เป็นท้องฟ้าที่สดใส ตอนนี้ฉันอยู่ในร่างจิตที่คล้ายกับร่างวิญญาณ ข้อดีของร่างนี้คือจะไม่มีใครสามารถมองเห็นฉันได้และร่างกายก็นี้เบามากและสามารถทะลุได้ทุกสิ่งอีกด้วย และร่างจิตของฉันก็มีรูปลักษณ์เหมือนฉันทุกอย่าง ทั้งความสูง 160 เซนติเมตร เส้นผมสีดำยาวและดวงตาสีน้ำตาลอ่อน

แต่ชุดที่ฉันสวมมันไม่เหมือนชุดที่ฉันสวมในโลกของตัวเอง มันเป็นชุดกระโปรงยาวสีดำและรองเท้าส้นสูงสวยงามที่ฉันไม่ค่อยใส่ในโลกของตัวเองเพราะกลัวสะดุดล้มกลางสาธารณะ และที่ฉันชอบที่สุดก็คือต่างหูกระดิ่งแก้วคู่นี้! ซื้อมาจาก Writer Shop เลยนะเนี่ย 

พวกมันจะส่งเสียงไพเราะทุกครั้งที่ฉันขยับ พวกมันโดดเด่นมากเพราะเป็นกระดิ่งแก้วที่ส่องประกายสีขาวอ่อนๆ ถึงมันดูจะเป็นขั้วตรงกันข้ามกับชุดที่ฉันใส่ก็เถอะ แต่มันก็เข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด!

เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องของตัวเองจะดีกว่า ฉันล่องลอยเข้าไปในต่างโลกทันที โลกที่ฉันเลือกไปก็คือโลกปีศาจ ฉันเข้ามาที่นี่บ่อยเพราะที่นี่มีปีศาจที่เหมาะจะเป็นตัวละครเอกอยู่เยอะ โดยเฉพาะแวมไพร์ ฉันชอบเผ่านี้ที่สุด

ฉันไปหาปีศาจที่น่าจะมาเป็นตัวเอกในเรื่องยาวนี้

แต่ฉันก็ไม่พบปีศาจที่มีเรื่องราวแปลกใหม่เลยเพราะฉันเข้ามาเขียนบ่อย ๆ หากเขียนออกไปในพล็อตเดิม ๆ มันก็จะมีแต่บรรยากาศเดิม ๆ ไม่น่าสนใจ และหากฝืนเขียนออกไปมันก็เป็นเพียงเรื่องราวชีวิตประจำวันแทนที่จะเป็นเรื่องราวชีวิตที่น่าตื่นเต้น ฉันจึงแวะไปหาปีศาจที่ฉันเคยจับเอามาเขียนเป็นตัวเอกนิยายเรื่องสั้น ซาตานหัวแดง มังกรหัวเขียว พวกนี้หล่อไม่พอนิสัยยังเป็นพระเอกของนักอ่านหญิงหลายๆ คน

พวกเขาดังมากในเรื่องสั้น

ติ่ง!

ในขณะที่ฉันกำลังมองหาตัวละครที่น่าสนใจอยู่นั้นเสียงเตือนข้อความก็ดังเข้ามาผ่านระบบส่งข้อความของ Writer ฉันโบกมือกลางอากาศ หน้าจอโปร่งใสก็ฉายขึ้นมา มันเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่คล้ายกับของอนาคตในหนังมาก ๆ เลยล่ะ ฉันกดเข้าไปในข้อความที่ส่งมาและกวาดสายตาอ่านอย่างแปลกใจ

[ข้าเห็นว่าเจ้าหาตัวเอกเรื่องใหม่ข้าแนะนำให้เจ้าไปโลก MP จาก พระเจ้า]

ข้อความสั้นๆ ที่แนะนำมาทำให้ฉันสนใจ พระเจ้าถึงกับแนะนำมาเองอย่างนี้ไม่ไปได้ยังไง ฉันไปตามพิกัดของโลก MP ที่พระเจ้าส่งมา ภาพรอบตัวของฉันค่อยๆ หายไปและปรากฏภาพใหม่ขึ้นมาแทน จากอาคารยุโรปในยุคกลางได้เปลี่ยนเป็นตึกกระจกสูงแทน มันเหมือนตึกในยุคของฉันมาก

ฉันสงสัยว่ามันเป็นโลกที่น่าสนใจตรงไหน แต่ยังไม่ทันได้ทักท้วงฉันก็เห็นคนลอยผ่านหน้าไป ตามด้วยรถตำรวจลอยได้...

“จอมโจรหน้ากาก เราเตือนแกว่าอย่ามาป้วนเปี้ยนที่เมืองมิลเลอร์ของเราอีก!"”เสียงตะโกนดังผ่านลำโพงของรถตำรวจ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แน่จริงก็จับฉันให้ได้สิ!” จอมโจรที่ว่าหัวเราะเยาะและรีบกระโดดหนีอย่างว่องไว ฉันมองตามไปอย่างสนใจ

“จอมโจรหน้ากากอีกแล้วเหรอ?”

“ฉันว่าจอมโจรเคไอดีเท่กว่าตั้งเยอะ พลังจิตของเขามีหลากหลายจนฉันไม่รู้เลยว่าอันไหนคือพลังของเขา”

ฉันได้ยินคนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่ากันอย่างนั้น ดูเหมือนว่าโลกนี้จะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ฉันคิดแวบแรก มันเป็นโลกสมัยใหม่ที่มีวิทยาการล้ำสมัยและทุกคนก็ใช้พลังจิตกันจนเป็นเรื่องปกติ จากที่ฉันได้สำรวจ ดูเหมือนว่ากฎเกณฑ์ในโลกนี้จะไม่มีผลสำหรับผู้ใช้พลังเท่าไหร่ อาชญากรค่อนข้างเกลื่อนโลก

นี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ เหตุผลที่ฉันไปโลกปีศาจบ่อย ๆ ก็เพราะกฎเกณฑ์การใช้ชีวิตไม่ค่อยมีมาก มันอิสระมาก

โลกนี้เป็นโลกที่เหมือนจะมีวิทยาการที่ดีกว่าโลกของฉันบวกกับเรื่องการใช้พลังจิตด้วยแล้วมันทำให้โลกนี้น่าสนใจ

ฉันตื่นเต้น น่าสนุกจริงๆ! ฉันทนแทบไม่ไหวที่จะเขียนเรื่องราวของใครสักคนให้กลายเป็นนิยายด้วยการบรรยายของฉันแล้ว! 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   ตอนพิเศษ พี่น้อง

    ตอนพิเศษ พี่น้องชื่อของเขาคือโอนิกซ์ อายุเจ็ดขวบแล้ว เขามีน้องสาวชื่อเอย์ลิน เขาและน้องสาวมีความทรงจำของชาติเดิมอยู่ครบไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะคุณพ่อของเขา คีอาร์...คือตัวปัญหาระดับจักรวาล แม้แต่การจะมีลูกยังสร้างปัญหาโดยการดึงวิญญาณจากโลกอื่นให้มาเกิดเป็นลูกตัวเองอีกแม่ของเขาชื่อว่าเลล่า เป็นนักเขียน ได้ยินว่าแบบนั้น เป็นนักเขียนที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จักมาเลยแต่วันนี้โอนิกซ์ไม่ได้จะมาเล่าเรื่องของพ่อแม่ เขาจะเล่าช่วงเวลาที่เขาได้ดูแลน้องสาวของเขา!โอนิกซ์ได้รับหน้าที่ดูแลน้องสาววัยสองขวบเพราะพ่อแม่ของพวกเขาติดงาน โอนิกซ์ได้ใช้เวลาสอนน้องสาวให้เดิน พูดและเข้าใจภาษาของคนที่นี่ มันจะดีกว่าหากเข้าใจที่คนอื่นพูดโดยไม่ต้องใช้เวทเข้าใจภาษาโอนิกซ์สามารถทำให้เอย์ลินเรียนรู้ภาษาได้อย่างรวดเร็วเพราะเขาและเอย์ลินมาจากโลกเดียวกันในชาติก่อนจึงพูดภาษาเดียวกัน โอนิกซ์ไม่ค่อยสนใจนักว่าน้องสาวของเขาจะเป็นใครในชีวิตก่อน เขามีความสุขกับครอบครัวในตอนนี้ เขาดีใจที่มีน้องสาวน่ารัก"เอย์ลิน เรียกพี่ชายหน่อยสิ เธอไม่เคยเรียกพี่ชายเลยนะ พี่ชายโอนิกซ์น่ะ" โอนิกซ์พยายามยิ้มสว

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   บทพิเศษ

    บทพิเศษ[ดูแลคนท้อง]คนท้องต้องถูกดูแลอย่างดี โอนิกซ์ได้รับคำสอนจากท่านพ่อของเขามาอย่างนั้นเพราะงั้นเขาจึงระวังตัวเต็มที่เพื่อปกป้องท่านแม่ของเขาด้วยเหตุนี้เองไม่ว่าเลล่าจะไปไหนหรือทำอะไรทุกคนก็ต้องเห็นโอนิกซ์เกาะติดแม่ของเขาไม่ห่าง หากไม่มีโอนิกซ์ก็จะมีคีอาร์มาแทน สองพ่อลูกร่วมมือกันทำงานตามติดเลล่าอย่างเป็นระบบระเบียบกันเลยทีเดียว“นี่...ก็รู้อยู่หรอกนะว่าเป็นห่วง แต่ถ้าจะตามทุกฝีก้าวแบบนี้มันอึดอัดนะ! จะให้ฉันรำคาญจนล้มป่วยรึไง!”เนื่องจากคนท้องมักจะมีอารมณ์แปรปรวนอยู่แล้ว บ่อยครั้งจึงจะได้เห็นเลล่าตะโกนไล่สองพ่อลูกให้ออกห่างๆ บ้างตามติดมากไปมันก็น่ารำคาญนะ!“ขอโทษ...ผมแค่อยากอยู่กับเลย์ตลอดเวลา” คีอาร์ทำหน้าเศร้า“ผมแค่ดีใจที่จะมีน้องแล้วเอง...” โอนิกซ์เอ่ยเสียงเหงาหงอย เลล่าปิดปากเงียบไม่พูดกับพวกเขาแต่สุดท้ายเลล่าก็ต้องใจอ่อนเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนกับลูกหมาถูกทิ้งของพวกเขา แค่คนเดียวก็พออดทนได้อยู่หรอก แต่สองพ่อลูกนั่นทำพร้อมกันเลยนี่นา หัวใจของเลล่าทำงานหนักจริงๆ ...“ก็แค่อย่ามากไปเท่านั้น และอย่าทำท่าทางระวังตัวตลอดเวลาด้วย อารมณ์มันเหมือนอยู่ในสนามรบตลอดเวลา คนท้องจะเครี

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   ตอนที่ 72 มีความสุขจริงๆ!

    ตอนที่ 72มีความสุขจริงๆ!ฉันประคองร่างของเรมไว้ในอ้อมแขน แม้ฉันจะรู้จักกับเรมแค่วันเดียวแต่ก็รู้สึกเสียใจที่เธอต้องตายเพราะปกป้องฉัน ฉันกอดร่างของเธอไว้ด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดและรู้สึกโกรธตัวเองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กที่ใสซื่อคนหนึ่งต้องตายในตอนนั้นเองคีอาร์ก็สามารถทำให้ลูกแก้วเข้าไปในวิญญาณของเอมิลี่ได้สำเร็จ เอมิลี่แสดงท่าทีทรมานออกมาเมื่อลูกแก้วเข้าไปในร่าง ฉันรู้สึกได้ว่าแรงกดดันจากของพลังของเธอลดลงอย่างรวดเร็ว“ไม่นะ พลังของฉันเกิดอะไรขึ้น!” เอมิลี่กรีดร้องอย่างไม่พอใจเมื่อพลังของเธอหายไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปสักพักลูกแก้วนั้นก็ออกมาจากร่างของเอมิลี่และบินตรงกลับมาหาฉัน ฉันรับลูกแก้วไว้ขณะเดียวกันก็ให้เรมนอนอย่างสงบบนพื้น“ขอบคุณที่ช่วยเหลือเด็กน้อย” ฉันเอ่ยเสียงเบา ขณะผละออกจากเรมและเดินไปหาเอมิลี่“ลูกแก้วนั่น! เอาคืนมาให้ฉัน!” เอมิลี่รู้ว่าพลังตัวเองหายไปไหน เธอจึงพุ่งเข้ามาหาฉันเพื่อแย่งลูกแก้วไป ฉันจึงเก็บมันเข้าไปในช่องเก็บของเพื่อไม่ให้มันถูกแย่งไปเอมิลี่แสดงสีหน้าโกรธจัดออกมาและเหมือนจะเข้ามาทำร้ายฉัน คีอาร์จึงใช้พลังตรึงร่างที่เป็นวิญญาณของเอมิลี่ไว้และดึงเธอใ

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   ตอนที่ 71 ต่อสู้จนโลกถล่ม

    ตอนที่ 71ต่อสู้จนโลกถล่มความวุ่นวายและความวินาศสันตะโรเข้าปกคลุมฐานทัพลี้ภัยแห่งหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้นไม่ได้เกิดมาจากซอมบี้ซึ่งเป็นศัตรูของมนุษยชาติแต่อย่างใด แต่เกิดมาจากมนุษย์ที่เป็นมากกว่ามนุษย์สองคนต่อสู้กันต่างหากเอมิลี่อดีตนักเขียนผู้มีดวงตาพระเจ้า เนื่องจากเธอกลืนกินคนที่พลังเหมือนกันเธอจึงมีพลังมหาศาลและมากพอที่จะทำให้โลกเกิดความวุ่นวายได้ เธอถือว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับเหล่านักเขียนผู้มีดวงตาพระเจ้าทุกคนเลยล่ะส่วนอีกคนก็คือ คีอาร์ มนุษย์ผู้มีพลังจิตจากโลก MP เขามีความทะเยอทะยานในการสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ นั่นทำให้เขากลายเป็นตัวปัญหาระดับจักรวาลเนื่องจากพลังที่แหกกฎจักรวาลที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองเมื่อทั้งสองสู้กันมันคงไม่ใช่การต่อสู้เล็กน้อยตูม!เสียงระเบิดดังขึ้นมาตามด้วยตึกที่พังละลายลงมาเป็นแถบ เอมิลี่เดินออกจากซากตึกที่ถล่มลงมาและควบคุมซากตึกรอบบริเวณให้ลอยขึ้นและพุ่งเข้าไปโจมตีคีอาร์ที่ลอยอยู่เหนือพื้น เมื่อพลังดวงตาพระเจ้ารวมกันเธอก็เริ่มที่จะทำอะไรได้หลายอย่างคล้ายกับพลังแห่งการควบคุมสรรพสิ่งของพระเจ้า ยิ่งเธอกลืนกินมากเท่าไหร่พลังก็จะยิ่งแข็งแกร่

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   ตอนที่ 70 เจอกันแล้ว

    ตอนที่ 70เจอกันแล้วการที่ได้ตื่นขึ้นมาในที่แปลกตาทำเอาฉันนั่งมึนไปพักใหญ่ ฉันจำได้ว่าก่อนที่จะนอนหลับไปตัวเองได้นอนอยู่ข้างๆ คีอาร์นะ แต่ไหงพอตื่นขึ้นมาอีกทีฉันถึงได้มาอยู่กลางดงพืชมีชีวิตไปได้ล่ะ? รอบข้างของฉันมีแต่พวกพืชมีชีวิตเคลื่อนไหวได้เต็มไปหมด ดูเหมือนฉันจะถูกลักพาตัวโดยพืชมีชีวิตพวกนี้นะว่าแต่พวกมันพาฉันมาทำไม? พวกมันไม่ได้เอาฉันไปย่อยกิน แต่นำฉันมาปล่อยไว้กลางดงพวกมันโดยไม่ทำอะไรเลยแต่อย่างไรก็ตามฉันควรออกจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะเปลี่ยนใจมากินฉัน พลังน้ำแข็งของฉันได้แช่แข็งพวกมันในชั่วพริบตา ฉันจึงวิ่งออกจากดงของพวกพืชมีชีวิตได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหลังจากที่ฉันออกมาได้พวกมันก็พังน้ำแข็งออกมาได้พอดี อาจจะเพราะพวกมันมีน้ำกรดเคลือบตัวอยู่จึงละลายน้ำแข็งของฉันได้อย่างง่ายดายพวกมันดูอันตรายกว่าที่คิด และมันจะยิ่งอันตรายหากพวกมันจับฉันได้ ฉันหนีออกจากที่นั่นไปไกลเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่คาดเลยว่าระหว่างที่หนีออกจากดงพืชมีชีวิตพวกนั้นฉันจะไปจ๊ะเอ๋กับคนกลุ่มหนึ่ง“อย่าขยับ! ถ้าเธอขยับพวกเราจะยิง!” หนึ่งในสี่คนในกลุ่มนั้นตะโกนและเล็งปืนมาทางฉันฉันยกมือขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อถูกจ่อปืนใส่

  • writer's world ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริงในต่างโลก!   ตอนที่ 69 หาย

    ตอนที่ 69หายในที่สุดพวกฉันก็มาถึงเมือง B แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าเมืองแห่งนี้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ที่นี่เต็มไปด้วยซอมบี้ไม่มีมนุษย์เหลืออยู่เลย ฉันอดไม่ได้ที่จะนำลูกแก้วที่ออสตินให้มาออกมาเพื่อตรวจดู ลูกแก้วนี้จะมีปฏิกิริยาเมื่อมันสัมผัสได้ถึงพลังดวงตาพระเจ้าที่มีพลังมากกว่าดวงตาพระเจ้าปกติทั่วไป ถึงมันจะไม่เคยส่งสัญญาณแปลกๆ แต่ฉันก็คิดว่าเรื่องพวกนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับผู้แทรกแซงจากโลกอื่นแต่ลูกแก้วไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยฉันสงสัยว่ามันใช้ได้จริงๆ งั้นเหรอ? หรือเพราะอยู่ห่างไกลเกินไปจึงสัมผัสมันถึงตัวตนของเอมิลี่ไม่ได้...ว่าแต่ไกลแค่ไหนกัน คงไม่ใช่ว่าคนละซีกโลกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะไปยังไง โลกนี้ยิ่งไม่ปกติอยู่ด้วย ไม่มีเครื่องบินให้โดยสารในโลกที่เป็นแบบนี้แน่“เอายังไงต่อดี? กลับเมือง A หรือจะไปต่อ?” โคนี่หันมาถามความเห็นทุกคน ในโลกที่ถูกทอดทิ้งนี้ทุกคนดูไม่มีเป้าหมายนอกจากการเอาชีวิตรอด พวกเขาจะไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบสถานที่ปลอดภัยที่แท้จริง“นี่ รู้กันรึเปล่าว่าซอมบี้พวกนี้เกิดมาจากอะไร?” ฉันตั้งคำถามขึ้นมา โคนี่และเจมส์ชะงัก เอลล่าหันมามองหน้าฉันประมาณว่าทำไมถึงถามขึ้นมา“เอ่อ.

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status