บนโต๊ะอาหารมื้อเย็น มะลินั่งก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารของตัวเองไปเงียบๆไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของผู้มีพระคุณอีกเลยนับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่มื้อนี้เธอไม่อยากจะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยสักนิด แต่ก็ไม่กล้าเสียมารยาททำแบบนั้นได้
“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้ว น่านมาหาแม่หน่อยนะ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
น่านฟ้ากับลินดาชะงักช้อนที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากในทันที เธอรู้ได้เลยว่าสิ่งที่แม่ของเขาต้องการที่จะพูดคุยด้วยไม่มีทางเป็นเรื่องอื่นไปได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เด็กสาวนั่นคาบข่าวไปฟ้องที่การแสดงความรักของเธอและหมอหนุ่มทำให้เด็กนั่นเจ็บตัว
“เรื่องอะไรครับแม่ คุยตรงนี้เลยก็ได้ครับ”
เพราะรู้อยู่แล้วว่าแม่จะคุยเรื่องอะไร จึงอยากให้คุยให้จบๆ เสียตรงนี้ เพราะอย่างไรเดี๋ยวก็ต้องเล่าให้น้องชายฝาแฝดฟัง หรือแม่ก็ต้องเล่าให้พ่อฟังอยู่ดี มันเสียเวลา สู้รู้พร้อมๆ กันไปเลยทีเดียวเสียจะดีกว่า
“แม่ไม่พอใจนะ ที่น่านทำอะไรไม่รู้จักโต ไม่ยับยั้งชั่งใจจนทำให้น้องเจ็บตัว ลูกควรจะระมัดระวังตัวมากกว่านี้ มะลิหรือแม้แต่เผือกเองยังเด็กอยู่มาก แม่ว่ามันไม่เหมาะ”
ที่จริงเรื่องนี้ ยัยเด็กเผือกสมชื่อนั่นวิ่งแจ้นไปฟ้องเหนือเมฆกับพ่อของเขาตั้งแต่ที่ก้าวเท้าเหยียบย่างเข้าบ้านมาแล้ว แต่ที่แปลกใจนิดหน่อยตรงที่คุณนายณิชา ปกติเป็นคนตามใจลูกและไม่เคยก้าวก่ายเรื่องอะไรในชีวิตลูกเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้กลับกล้าที่จะตำหนิลูกชายสุดที่รัก เพียงเพราะทำให้หลานสาวนอกไส้มีรอยแผลเท่าแมวข่วน
“ผมขอโทษครับแม่ ผมผิดเอง ไม่ทันระวังตัว ไม่คิดว่ามะลิจะตกใจขนาดนั้น”
“น้องยังเด็ก ต่อไปลูกทำอะไรก็ต้องคิดและระวังให้มากหน่อย”
“ครับแม่ ฉันขอโทษอีกทีนะ มะลิ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ หนะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”
“แหม ถ้าไม่ได้เป็นอะไรเหมือนที่พูด ก็ไม่เห็นต้องเอาเรื่องไร้สาระมาฟ้องคุณป้าเลยนะจ๊ะมะลิ น่านก็ขอโทษไปตั้งหลายครั้งแล้ว หรือว่าไม่พอใจอะไรฉันหรือเปล่า เธอถึงต้องเอาเรื่องนี้ไปฟ้องผู้ใหญ่”
“มะลิไม่ได้เอาเรื่องมาฟ้องผู้ใหญ่หรอก ยัยเผือกนู่นที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณมะลิของเค้า วิ่งโร่ฟ้องหมดบ้านแล้ว”
เหนือเมฆแก้ไขความเข้าใจผิดให้กับลินดาได้รู้ความจริง เท่าที่คบกันมานาน ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าลินดาไม่ชอบมะลิ ต่อไปหากน่านฟ้าต้องแต่งงานกับลินดาสุดสวาทขาดใจของมันขึ้นมาจริงๆ ก็กลัวว่ามะลิจะอยู่ร่วมบ้านด้วยความยากลำบากเลยไม่อาจอยู่เฉยให้เกิดความเข้าใจผิดจนบานปลายได้
ลินดากัดกรามกรอด รู้สึกหมั่นไส้นังเด็กหน้าหวานนี่จริงๆ ที่มีแต่คนให้ท้ายไม่เว้นแม้แต่เหนือเมฆที่เคยดีกับเธอ
“อ๋อ หรอจ๊ะ เห็นทำทีตกอกตกใจเกินเบอร์ไปหน่อย นึกว่าจงใจเอาเรื่องมาฟ้องผู้ใหญ่เสียอีก”
น่านฟ้าเลิกคิ้วแล้วเหลือบสายตามามองสาวสวยข้างกาย คบกันมาเป็นสิบปี ลินดาที่น่ารัก ใจเย็นและใจดี ทำไมวันนี้ดูแปลกไปราวกับคนที่เขาไม่เคยรู้จัก
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็เข้าใจกันแล้วนะ พ่อเห็นด้วยกับแม่นะน่าน ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรเสียหาย แต่เราควรให้เกียรติผู้หญิง และระมัดระวังให้มาก นี่สองคนก็คบหากันมาหลายปี ถึงแม้จะอยู่ในฐานะเพื่อนแต่ทุกคนรอบข้างก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร กลับมาเมืองไทยรอบนี้ ลินพร้อมที่จะแต่งงานหรือยังล่ะ ลุงจะได้รีบจัดการให้”
“พี่ปราณต์ ลูกเรายังเพิ่งจะ 31 ณิชายังไม่พร้อมให้ลูกแต่งงานค่ะ”
ทุกคนในห้องอาหารต่างอึ้งไปตามๆ กัน คุณนายณิชาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำท่าทีรังเกียจผู้หญิงคนไหนของลูกชาย แถมยังเคยร่ำๆ ออกบ่อยครั้งว่าอยากให้ลูกทั้งสองหยุดเจ้าชู้เรี่ยราดโดยการคบใครจริงจังและแต่งงาน แต่มาวันนี้กลับออกตัวแรงจนทุกคนตกใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วกันณิชา”
หมอหนุ่มกำช้อนแน่น รู้สึกกดดันที่แม่แสดงท่าทีอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ คราวนี้ต่อให้ลินดาจะกลับมาเพื่อทำตามสัญญาและเขาพร้อมที่จะเป็นเจ้าบ่าวขนาดไหน ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะตัดสินใจเซย์เยส
“ที่จริงที่ลินกลับมาครั้งนี้ก็เพื่อมาจัดการเอกสารแล้วก็ลาทุกคนค่ะ”
“ลา หมายความว่าไงลิน”
“คือลินต้องไปช่วยพ่อบริหารกิจการที่นั่น มีแค่ลินเท่านั้นที่พ่อวางใจ ลินเลยจะไปอยู่ที่นั่นถาวรเลยค่ะ คงไม่ได้กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว”
หมอหนุ่มหันขวับมองใบหน้าสวยที่เขาหลงใหล ดวงตาคมกริบมีแววตัดพ้อ ในที่สุด เธอก็ผิดสัญญา เธอไม่เลือกเขาตั้งแต่วันแรกยังไง วันนี้ก็ยังคงเป็นเขา ที่ถูกเธอมองข้ามอยู่แบบนั้น
“เห้ยลิน แบบนี้ไอ้น่านไม่รอเก้อหรอ”
เหนือเมฆโพล่งออกมาทันควัน อดที่จะเป็นห่วงความรู้สึกของพี่ชายฝาแฝดไม่ได้
“ลินไม่อยากเห็นแก่ตัวบอกให้น่านรอ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับมาไหม ทางที่เราจะอยู่ด้วยกันได้คือน่านต้องไปอยู่กับลินที่นั่น ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้”
“ไม่เป็นไรลิน ไปทำในสิ่งที่ควรทำเถอะ ยังไงเราสองคนก็ไม่เคยมีสถานะอะไรที่มากกว่านี้อยู่แล้ว ผมโอเค”
ลินดากำช้อนแน่น อะไรทำให้เพื่อนรักที่หลงใหลเธอจนถึงขั้นยอมโง่ให้เธอจูงจมูกมานับสิบปี ตอบปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใยอย่างนี้ เขาควรขอร้องอ้อนวอนเธอไม่ให้ไปสิ หรือไม่ก็เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าแววตารักใคร่ที่เขาใช้มองเธอมาตลอด 10 ปี มันคือเรื่องจริง
ตั้งแต่ที่อยู่ร่วมบ้านกับเขามาเกือบปี ทำให้มะลิได้รู้ตื้นลึกหนาบางและเรื่องลับๆ ของเขาจากการพูดคุยบนโต๊ะอาหารบ้างเพียงเล็กน้อย แต่ที่ได้รู้ลึกและละเอียดทุกซอกทุกมุมก็จากเผือก สาวใช้วัยใสที่อายุเท่าเธอเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารในตอนนี้ทำเอามะลิอยากจะแทรกตัวหนีหายไปเสีย ไม่อยากนั่งทนสูดอากาศที่มีแต่ม่านหมอกนี่ลงปอดเลย เธอเหลือบตามองผู้มีพระคุณด้วยความเป็นห่วง สิ่งที่ผู้หญิงใจร้ายคนนี้พูดออกมา มันคงกรีดแทงหัวใจของเขาจนเหวอะหวะไม่มีชิ้นดี
“อืมมม น่าน พอก่อนค่ะ”
“คุณตัดสินใจตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่คิดจะบอกผมบ้าง มาบอกเอาวันที่จะไปเนี่ยนะหรือ ลิน คุณใจร้ายจัง”
หมอหนุ่มกระแทกกระทั้นร่องรักของเพื่อนรักด้วยอารมณ์น้อยใจผสมกรุ่นโกรธ มือใหญ่บีบขยำไปทั่วกายงามจนมีร่องรอยนิ้วมือแดงเถือกเต็มไปหมด
“อื้ออ เจ็บ น่าน อื้มมม”
ความเสียดเสียวที่เกิดขึ้นทำให้หมอหนุ่มกระชากร่างงามให้ลุกตามขึ้นมา แล้วดันร่างบอบบางให้หันหน้าแนบชิดติดกระจกระเบียงที่แม้จะปิดม่านไว้ แต่ก็เห็นเป็นเงาหญิงชายยืนซ้อนหลังกระแทกกระทั้นกันอย่างรุนแรงอยู่ดี
“อ่าห์”
น่านฟ้าปลดปล่อยน้ำรักจนเต็มปลอกป้องกัน ไม่สนใจสาวสวยตรงหน้าแม้แต่น้อยว่าจะเดินทางมาถึงจุดไหนแล้ว เขากระชากเธอกลับมาที่เตียงอีกครั้งแล้วสวมปลอกป้องกันชิ้นใหม่ ก่อนจะกดแทรกตัวตนแข็งเกร็งเข้าสู่ร่องรักที่เริ่มบวมแดงอย่างแรงจนสุดโคนทันที
“อ่าห์ ลิน”
“น่าน ลินรู้ว่าคุณโกรธ แต่ฟังลินหน่อย ลินก็ไม่มีทางเลือก พ่อต้องการลิน พ่อเหลือแค่ลินแล้ว”
“เห้อ”
เขาถอดถอนตัวตนออกมาแล้วทิ้งกายลงนอนเคียงข้างเธอ ดึงปลอกป้องกันที่ยังไม่ได้ใช้งานทิ้งลงที่พื้น แล้วยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากอย่างคนคิดไม่ตก
นานเกินไป เขารอแค่เธอคนเดียวมานานเกินไป และครั้งนี้ เขาจะไม่รอเธอ ไม่ยอมให้เธอมามีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของเขาอีกแล้ว
“ลินไม่ได้อยากไป ลินเองก็อยากอยู่กับคุณ แต่ลินไม่กล้าขอให้คุณไปอยู่กับลิน หรือแม้แต่ขอให้คุณรอลินอีก ถ้าคุณอยากมีใครถึงขั้นรักและแต่งงานด้วย ลินจะไม่โกรธคุณเลยเพราะลินผิดสัญญากับคุณก่อน”
“หึ มันคงไม่ง่ายแบบนั้นหรอกลิน ผมยังไม่เคยแม้แต่จะชอบใครเลยสักคน จะมีคนที่รักและผูกพันถึงขั้นแต่งงานได้ยังไง”
“งั้นถ้าลินกลับมา..”
“อย่าให้ความหวังผมอีก เพราะผมจะไม่มีทางเก็บหัวใจไว้รอคุณ”
“น่าน..”
“คุณจะกลับไปเมื่อไหร่”
“อีกสองวันค่ะ”
“ผมคงไม่ได้ไปส่ง เพราะมีเคสผ่าตัดทั้งวัน”
ที่จริงวันนั้นเขาว่างทั้งวันต่างหาก แต่ตัดสินใจที่จะจบทุกอย่างลงแค่คืนนี้จะดีกว่า ไม่ต้องมีอะไรให้อาลัยอาวรณ์กันอีกต่อไป ซึ่งก็ไม่แน่ใจเลยว่าผู้หญิงที่อยู่ในหัวใจมาเป็นสิบปี จะออกไปจากหัวใจดวงนี้ได้ง่ายดายขนาดนั้นหรือเปล่า
“ค่ะ ลินเข้าใจ แล้วลินจะติดต่อมาหาคุณนะคะน่าน”
ทั้งๆ ที่ไม่อยากแม้แต่จะได้ยินเสียงของเธออีกต่อไปแล้ว แต่การเป็นเพื่อนกันมายาวนาน มันก็คงเป็นอะไรที่ตัดกันไม่ขาดได้ง่ายๆ และถ้าหากเขาทำแบบนั้น มันก็คงไม่มีสปิริตเกินไป จึงยินยอมที่จะให้เธอได้ติดต่อมาหา ในฐานะ เพื่อนที่เป็นแค่เพื่อนจริงๆ ดูสักครั้ง
“ครับ ยังไงคุณก็ยังเป็นเพื่อนของผมกับไอ้เหนืออยู่ดี”
ภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏเป็นเงามืด ขยับโยกกันอยู่ที่ประตูระเบียงห้องของผู้มีพระคุณทำเอามะลิที่ออกมานั่งเล่นรับลมคิดอะไรเพลินๆ อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงจนแทบช็อกอีกครั้ง เธออยากหนีไปจากตรงนี้แต่ดันก้าวขาไม่ออก ต้องนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิมจนหนุ่มสาวคู่นั้นแยกออกจากกัน
“ฮือ มันวันซวยอะไรของแกวะมะลิ หมอหื่น”
เธอค้อนลมค้อนฟ้า ยกมือกดหัวใจดวงน้อยให้เต้นเบาลงจนเข้าสู่จังหวะปกติ ก่อนจะรีบหนีกลับเข้าห้องไปในทันทีที่ตั้งสติได้เพราะกลัวว่าผู้มีพระคุณสุดหื่นของเธอจะออกมาแสดงหนังสดให้เธอได้เห็นอีกครั้ง
น่านฟ้า : “มะลิคบกับใครเป็นแฟนหรอครับ ทั้งผม ทั้งกวิน มีใครได้เป็นแฟนของมะลิ ถึงบอกว่ามะลิคบซ้อนได้”นักข่าวที่อยู่ข้างมะลิแต่แรกพยักหน้าเห็นด้วย เพราะตลอดเวลาที่กวินแสดงออกว่าจีบมะลิ เขาก็บอกเสมอว่ามะลิให้โอกาส และมะลิเองก็ยังมีโอกาสพิจารณาผู้ชายคนอื่นด้วยนักข่าว : “แปลว่า คุณหมอรู้มาตลอดว่ากวินจีบมะลิ และกวินก็รู้มาตลอดว่าคุณหมอก็ชอบมะลิ งั้นหรอคะ”น่านฟ้า : “ครับ ผมรู้มาตลอด และผมก็แน่ใจว่ากวินก็รู้ เราแข่งขันกัน ใครสามารถทำให้มะลิรู้สึกรักได้ ก็เป็นฝ่ายได้เป็นตัวจริงของมะลิ แค่นั้นเอง และกวินเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดีครับ”นักข่าว : “คุณหมอคิดว่าอะไรทำให้คุณหมอชนะใจมะลิคะ”น่านฟ้า : “ไม่รู้สิครับ มะลิเองก็ไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายแบบไหน แต่ผมเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ผมดูแลมะลิ เข้มงวดเรื่องเรียน เรื่องการวางตัว การเข้าสังคม รวมไปถึงการสังสรรค์ตามประสาวัยรุ่น ถึงผมจะเคยมีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงมามาก แต่พอผมแน่ใจว่าผมชอบมะลิ ผมก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก อีกอย่างอาจเป็นเพราะอายุผมห่างจากเธอมากก็ได้ เลยให้ความรู้สึกอบอุ่นมั้งครับ”นักข่าว : “น่ารักจังเลยค่ะ แต่ขออนุญาตถามแท
“พี่กับลิน ไม่ได้มีอะไรกันแบบที่มะลิเข้าใจ วันนั้นพี่เป็นไข้ ตื่นสาย ยุเข้ามาปลุกที่ห้องนอน เอายาเอาข้าวมาป้อนให้พี่นอนพัก พี่บอกให้ยุโทรตามมะลิให้มาหาพี่ที แล้วพี่ก็หลับไป พี่ตื่นมาอีกทีจะค่ำแล้ว คนที่นอนกอดพี่อยู่ไม่ใช่มะลิ แต่เป็นลิน พี่ตกใจมาก คิดว่าถ้ามะลิมาหาพี่ต้องเจอลินแน่ๆ พี่เลยรีบกลับบ้าน แต่กลับไปถึง มะลิหนีพี่ไปแล้ว พี่ช็อกเพราะไข้ก็ยังไม่ลด หลับไปอีกคืนนึง ตื่นมาถึงหาย พี่เรียกกวินมาหา ถามจากเพื่อนๆ ทุกคนไม่มีใครรู้ว่ามะลิไปไหน ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นมะลิถึงหนีพี่ไป แต่ลินยืนยันว่าไม่รูว่ามะลิเข้ามาหาหรือเปล่า เพราะลินเองก็หลับ”“หนูเข้าไปค่ะ เข้าไปเจอคุณลินด้วย เธอบอกว่าพี่ตั้งใจเรียกหนูมาเจอภาพนี้ เพราะไม่กล้าจะบอกให้หนูออกไปจากชีวิต เธอบอกว่าพี่เลือกเธอและกำลังจะแต่งงานกัน ขอให้หนูไปให้พ้นจากชีวิตพี่ หนูเลยไป”“หนูไป ทั้งๆ ที่หนูรู้ตัวว่าท้องลูกของพี่อยู่งั้นหรอ”“พี่น่าน รู้ได้ไงคะ”คนตัวบางร้องออกมาด้วยความตกใจ เรื่องนี้เธอไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้ เพราะตรวจเจอเช้าวันนั้น ก็มีเรื่องให้หอบผ้าหอบผ่อนหนีในเช้าวันนั้นเลย“เผือกเจอที่ตรวจท้องตกอยู่ใต้เตียงหนู”คนตัวบางก
“คุณพูดอะไรกับมะลิ”ดวงตาวาววับแดงก่ำเอาเรื่อง ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันอีกต่อไป“ทำไมคะ คุณแคร์เด็กนั่นขนาดนี้เลยหรอน่าน”“ผมบอกคุณไปกี่ครั้งแล้ว ว่าผมรักมะลิ เรื่องของเรามันจบแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอีก”“แต่ลินไม่ยอมไง”“ไม่ยอมแล้วคุณจะทำอะไรได้ คนอย่างคุณมันหมดศักดิ์ศรีจนถึงขั้นต้องสร้างเรื่องโกหกแบบนี้เลยหรอ น่าสมเพชว่ะลิน”“ลินทำได้ทุกอย่าง ที่จะให้น่านกลับมาเป็นของลินอีกครั้ง เด็กนั่นมันหนีไปแล้ว คุณจะไปอาลัยอาวรณ์มันอีกทำไม คุณเคยรักลินมาก ทำไมจะกลับมารักอีกไม่ได้”“ฟังนะ ต่อให้มะลิหนีผมไปจนผมตามหาไม่เจอ ตลอดชีวิตนี้ผมก็ไม่คิดจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก กลับไปซะ แล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะคราวต่อไป ผมคงไม่พูดจากับคุณดีๆ แบบนี้แล้ว และคุณจะได้เห็น ว่าคนอย่างผม มันทำอะไรคุณได้บ้าง”“น่าน”เด็กเผือกวิ่งตึงตังเข้ามาในห้องรับแขก มือหนึ่งถือไม้กวาด อีกมือหนึ่งกำแท่งสีขาวแน่นๆ หอบหายใจกระชั้น แต่ก็ละล่ำละลักพูดเรื่องสำคัญออกมาจนได้“คุณหมอคะ หนู หนูเจออันนี้ ตกอยู่ใต้เตียงคุณมะลิค่ะ”หมอหนุ่มรับแท่งสีขาวนั้นมาดูทันที แค่เพียงเห็นแวบแรก ก็รู้ได้ท
น่านฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบเพราะพิษไข้ในเวลาบ่ายคล้อย หลายวันที่ผ่านมาเขาหักโหมทำงานจนแทบไม่ได้พักผ่อน แถมยังอยู่กับเชื้อโรคทุกวัน ร่างกายที่อ่อนแอทำให้เขาเป็นไข้จนได้สำนึกสุดท้ายที่เขาจำได้คือสั่งให้ยุวดีโทรตามมะลิให้มาหา ถ้าอย่างนั้น น้ำหนักของร่างกายที่นอนกอดก่ายซุกซบอกแกร่งของเขา คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสุดยอดดวงใจของเขาเท่านั้นแม้จะยังมึนงงเพราะพิษไข้ แต่คนตัวโตกลับอิ่มเอมในหัวใจ เขากดจูบหน้าผากโหนกนูนอย่างแสนรัก แม้จะอดแปลกใจไม่ได้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัวของเธอเปลี่ยนไป“อืมม หนูมานานแล้วหรอครับ”คนที่เพิ่งตื่น เงยหน้ามองเขาทันทีที่เขาทักทายเธอเป็นคนอื่น คนที่ยังไม่ทันหายป่วยตกใจจนขยับตัวหนีอัตโนมัติ ความรีบลุกขึ้นมานั่งทำให้เขาเวียนหัวจนต้องกุมขมับและนั่งพิงหัวเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงร่างกายที่เย็นวาบหลังจากผ้าห่มผืนหนาตกลงไปที่เอว ทำให้เขาได้สติ ยกผ้าห่มขึ้นสำรวจร่างกายก็พบว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว“เกิดอะไรขึ้น ทำไมผมอยู่ในสภาพนี้”“ลินมาหาคุณ เห็นว่าคุณป่วยเลยเช็ดตัวและอยู่ดูแลคุณค่ะ”“มะลิล่ะ มะลิไปไหน”“ไม่รู้สิคะ ตั้งแต่ลินมาก็ไม่เห็นใคร
ยุวดี เลขาสาวสวยของหมอหนุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาล หอบหิ้วแฟ้มเอกสารเข้ามาวางในห้องทำงาน ก่อนจะช่วยแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดจัดข้าวของในห้องของเจ้านายหนุ่มให้เป็นระเบียบเรียบร้อย“คุณยุ คุณหมอยังไม่ตื่นเลยค่ะ ขนาดป้าดูดฝุ่นเสียงดังขนาดนี้ ป้าว่าแปลกๆ นะคะ”“อ้าว คุณหมอยังอยู่ในห้องหรอคะ ยุคิดว่าท่านไปตรวจคนไข้แล้วซะอีก”ยุวดียืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของเจ้านายหนุ่มแล้วเปิดเข้าไป เป็นอย่างที่ป้าแม่บ้านบอกจริงๆ สายป่านนี้แล้วแต่เจ้านายของเธอยังนอนนิ่งๆ ผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก เลยตรงดิ่งเข้าไปยกมือขึ้นมาอังหน้าผากแล้วก็ต้องหดมือกลับอย่างรวดเร็ว“อุ๊ย ตัวร้อนจี๋เลย คุณหมอคะ คุณหมอ ผอ. รู้สึกตัวไหมคะ”ยุวดีตกใจ ละล่ำละลักเรียกเขาแบบที่เคยเรียกทุกอย่าง ก่อนจะเขย่าตัวเพื่อปลุกให้คนป่วยรู้สึกตัว“อืม ยุ”“ค่ะ ยุเอง คุณหมอป่วยค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย ให้ยุตามหมอมาดูอาการไหมคะ”“ไม่ต้อง ขอยาแก้ไข้ให้ผม แล้วโทรเรียกมะลิให้ผมที”ยุวดีเบิกตาโตด้วยความแปลกใจ เป็นไข้ทำไมไม่ให้ตามหมอ ทั้งๆ ที่เดินกันวุ่นอยู่เต็มโรงพยาบาล แต่กลับให้โทรตามน้องสาวนอกไส้ที่ครอบครัวของเขารับมาอุปการะเสี
“งั้นหนูนอนพักเถอะนะ เดี๋ยวพี่ต้องดูเคสต่อ จะเข้าไปประชุมกับอาจารย์หมอด้วย ช่วงนี้พี่คงไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลย หนูมานอนกับพี่ที่นี่ไหม”“ไม่ได้หรอกค่ะ ช่วงนี้หนูไม่ได้ไปกองถ่าย ถ้าหายไปทั้งคืน คุณป้าสงสัยแน่ๆ แล้วคุณป้าก็มีโปรแกรมให้หนูพาไปหลายที่เลย ไม่รู้จะว่างไปหาพี่ได้หรือเปล่า”“อืม ไม่เป็นไรครับ ไปทำหน้าที่ลูกสะใภ้ที่ดีก่อนนะ พี่ทนคิดถึงหนูได้ งานพี่ก็หนัก คงไม่ค่อยได้พักเท่าไหร่ ถ้าหนูมาพี่ก็คงอดใจไม่ไหว สงสัยจะไม่มีแรงจับมีดผ่าตัด”“บ้า พี่น่าน ลูกสะใภ้อะไรกันคะ”“อ้าว หนูเป็นเมียพี่ไม่ใช่หรอครับ”“ก็แค่ทางพฤตินัย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกัน”“พี่ว่ามีคนรู้นะ”“ใครคะ ก็ไอ้เหนือกับไอ้พีทไง”“พี่สองคนเขารู้ได้ไงคะ พี่บอกหรอ”“กับไอ้เหนือ พี่ไม่ต้องบอกหรอก มันรู้เอง มันเห็นพี่แอบย่องเข้าบ้านหนู ส่วนไอ้พีท พี่ปรับทุกข์กับมันน่ะ เมียเด็กของพี่ไม่รัก”“หนูอยากจะตีพี่จริงๆ เลย เห็นไหม บอกแล้วว่าจะต้องมีคนเห็น บอกว่าไม่ต้องมาทุกวันก็ไม่ยอม หื่นจนได้เรื่อง ดีที่พี่เหนือเป็นคนเห็น ถ้าเป็นคนอื่นหนูซวยแน่ๆ แบบนี้หนูไม่กล้ามองหน้าพี่เหนือแล้ว”“ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกัน ไม่เห็นต้องอายเลย