เสียงร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดของใครคนหนึ่งดังมาจากบันไดหนีไฟของตึกเรียน ทำให้ณิชานักศึกษาสาวปีสี่หยุดชะงักก่อนยืนฟังครู่หนึ่งเพื่อความแน่ใจว่าตนเองไม่ได้หูฝาด
“อื้อ…เจ็บเหลือเกิน ใครก็ได้ช่วยด้วย”
ประโยคดังกล่าวกระทบเข้าโสตประสาทของเธอ ณิชาไม่รอช้าใช้มือเรียวทั้งสองข้างผลักประตูเข้าข้างในก่อนเบิกตาโพล่ง เมื่อเห็นร่างเพรียวของเพื่อนจ้องเขม็งบางอย่างตรงชานพักบันไดด้วยสายตาเคียดแค้นปนเกลียดชัง
“สมายล์” เสียงหวานเอ่ยเรียกพร้อมไปหยุดข้างเพื่อน แล้วหันมองข้างล่างตรงชานพักบันได ซึ่งใครคนหนึ่งนอนกุมท้องอย่างทรมาน
“คริสตัล”
“แกยังไม่กลับอีกเหรอ” สมายล์มองบุคคลมาใหม่อย่างคาดไม่ถึงในเวลาห้าโมงเย็นเช่นนี้ณิชายังอยู่มหาวิทยาลัย
“เกิดอะไรขึ้นสมายล์ ทำไมคริสตัลถึงได้ไปนอนตรงนั้น” เธอปรายตามองคนเจ็บสลับมองเพื่อนข้างกาย
“ไม่ใช่เรื่องของแก กลับไปซะณิ”
“แกทำอะไรสมายล์” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้นอย่างฉงน เธอหันมองคริสตัลอีกครั้งก่อนเห็นเลือดสีแดงสดไหลตามหว่างขา จึงไม่รอช้าจะวิ่งไปช่วยแต่สมายล์คว้าข้อมือเธอไว้
“แกจะทำอะไรณิ”
“ช่วยคริสตัลไง แกไม่เห็นเหรอว่าคริสตัลมีเลือดไหลตามขา” เธอบอกอย่างกระวนกระวาย
“แกอย่าช่วยมัน ถ้าเห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนกัน”
“แกบ้าเหรอ!!” ตะคอกถามเสียงดังลั่น
“เออ ฉันบ้ามาก” ตอบพลางหัวเราะราวกับคนเสียสติ
“ปล่อยนะสมายล์” พยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของเพื่อน แต่อีกฝ่ายแรงเยอะกว่า หนำซ้ำยิ่งจับข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม
เพียะ!
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นฟาดใบหน้าขาวเนียนของสมายล์ จนอีกคนชะงักและปล่อยข้อมือของณิชาเป็นอิสระ
“ฉันขอโทษที่ทำแบบนี้แต่ฉันทนเห็นแกทำผิดไม่ได้” เธอไม่รู้ว่าระหว่างสมายล์และคริสตัลเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่ไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนโดยเจตนา
“มันแย่งคนรักของฉันจนท้อง แกยังจะช่วยมันอีกเหรอ” สมายล์ตะโกนบอกณิชาขณะเพื่อนวิ่งลงบันไดไปช่วยคริสตัล
“คนรักแกคือใคร ไต้ฝุ่นเหรอ” เท้าเล็กหยุดชะงักพลางเอี้ยวคอถามเชิงสงสัย
“ฮือ ๆ ใช่”
“เอาไว้ค่อยคุยนะสมายล์ ฉันต้องช่วยคริสตัลก่อน” จบคำพูด ณิชาวิ่งไปหาคนเจ็บทันที โดยไม่สนใจว่าเพื่อนจะโกรธเคืองมากแค่ไหนกับการกระทำของตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือคริสตัล
“ฉันอุตส่าห์บอกเหตุผลแกไปแล้ว แต่แกยังจะช่วยมันอีกเหรอ งั้นหลังจากนี้ระหว่างเราจบกันแค่นี้เถอะ” สมายล์หมุนตัวเดินออกจากห้องทันที
“เดี๋ยวสิสมายล์” เสียงหวานเอ่ยรั้งเพื่อน ครั้นจะวิ่งตามก็ไม่ได้เนื่องจากกำลังประคองคริสตัลไว้ในอ้อมแขน
“โอ๊ย…เจ็บเหลือเกิน”
“ลุกขึ้นไหวไหม” ณิชาหันกลับมาสนใจคนเจ็บอีกครั้ง
“อื้อ” คริสตัลพยักหน้ารับพร้อมพยุงกายลุกขึ้นซึ่งณิชาคอยช่วย
จากนั้นคนทั้งสองย่างเท้าออกจากบันไดหนีไฟเพื่อไปยังลานจอดรถ โชคดีเวลาเย็นอย่างนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ไม่ต้องกลัวใครจะเห็น
“คริส” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นเบื้องหน้า ทำให้ณิชาและเจ้าของชื่อเงยหน้ามองพร้อมกัน
“เกิดอะไรขึ้นกับคริส” โบนัสเพื่อนสนิทของคริสตัลมองเพื่อนสลับมองณิชาอย่างสงสัย ก่อนสะดุดกับเลือดสีแดงเปรอะเปื้อนขาเรียวของคริสตัล เธอรีบเข้าประคองเพื่อนพร้อมผลักณิชาออกห่าง
“แกทำอะไรคริส”
“อย่าเพิ่งพูดมากได้ไหม รีบพาคริสตัลขึ้นรถก่อนเถอะ”
“ถ้าคริสเป็นอะไรขึ้นมา ฉันเอาแกตายแน่”
“อื้อ เจ็บ” คริสตัลแทรกบทสนทนาของณิชากับโบนัส ขืนยังปล่อยให้คนทั้งสองโต้เถียงคงไม่จบไม่สิ้น
“งั้นรีบขึ้นรถเถอะ” ณิชาช่วยพยุงคริสตัลอีกครั้งก่อนพาไปนั่งในรถคันหรู
“หมดหน้าที่แกแล้วก็เชิญไปสิ” โบนัสพูดขึ้นหลังจากพาเพื่อนนั่งเรียบร้อย จากนั้นเดินไปฝั่งคนขับและออกรถทันใด ซึ่งทิ้งณิชาไว้ตรงนั้น
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เสียงหวานบ่นพึมพำ เธอนึกบางอย่างขึ้นได้จึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋าผ้าเพื่อติดต่อหาสมายล์ แต่ไม่ว่าจะโทรหากี่สายดันไม่มีคนรับ
“ทำไมถึงไม่รับสายนะ” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันขณะจ้องเบอร์ของสมายล์ เธอรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“ทำไมรู้สึกหวิว ๆ ในใจชอบกลอย่างนี้” มือเล็กเอื้อมขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายด้วยความรู้สึกประหลาด
ณ สนามบินแห่งหนึ่ง
ร่างสูงใหญ่ของเจย์เดน หนุ่มลูกครึ่งไทย – อิตาลี วัยสามสิบสามปีเดินฉับ ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะต้องการถึงที่หมายเร็ว ๆ เนื่องจากทันทีที่เครื่องบินลงจอด เขาได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้านมาว่าน้องสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวอยู่โรงพยาบาล
“รถมายังไททัน” มาเฟียหนุ่มหันไปถามลูกน้องคนสนิทข้างหลังอย่างร้อนใจ
“มาถึงแล้วครับ จอดรออยู่ตรงประตูทางออก” ไททันผายมือเชิญเจ้านายหนุ่มไปยังรถตู้
การเดินทางจากสนามบินสู่โรงพยาบาลใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เจย์เดนและลูกน้องก็มาถึง
“คริส” เสียงทุ้มเรียกน้องสาวพร้อมผลักประตูเข้าไปในห้องพักฟื้น และพบว่าคริสตัลกำลังร้องไห้สะอื้นอย่างปวดใจ
ทันทีที่เผยให้เห็นร่างของพี่ชาย คริสตัลรีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว แล้วฝืนส่งยิ้มแก่เจย์เดนทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่เจย์มาได้ไงคะ” เธอทำหน้างุนงง ปกติพี่ชายอาศัยอยู่อิตาลีจะกลับมาเยี่ยมเธอที่ไทยนาน ๆ ครั้ง แต่หนนี้ดันมาโดยไม่บอกกล่าวสักคำทำเอาตกใจไม่น้อย แถมมาตรงกับตอนเกิดเรื่องพอดี
“น้องเจ็บตรงไหนไหม” เจย์เดนเดินไปหยุดข้างเตียงของน้องสาว โบนัสที่นั่งอยู่รีบลุกขึ้นถอยห่างให้สองพี่น้องพูดคุยตามสะดวก
“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ลูกของน้อง…” เธอพูดเสียงสั่น ก้มหน้ามองดูหน้าท้องแบนราบ ไม่วายยกมือลูบแผ่วเบาด้วยความเสียใจที่เพิ่งสูญเสียลูกน้อยในครรภ์
“น้องท้อง” ชายหนุ่มทำหน้าตะลึง “ใครคือพ่อเด็ก พี่จะเอาเลือดออกจากกระบาลมัน”
“พี่เจย์อย่าทำอะไรเขานะคะ น้องรักเขา” มือเรียวคว้าท่อนแขนกำยำของพี่ชายซึ่งตั้งท่าจะหมุนตัวออกจากห้อง
ถ้อยคำของน้องสาวทำให้เขาต้องระงับอารมณ์เดือดพล่าน พ่นลมหายใจเฮือกหนึ่งก่อนเอ่ยถามอย่างใจเย็น
“เกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนั้นอยู่ไหน”
“ไต้ฝุ่นอยู่ต่างจังหวัดค่ะ”
“แล้วมันไม่คิดจะมาหาน้องเลยเหรอ” ถามอย่างหัวเสีย
“น้องยังไม่ได้บอกเขา น้องกลัวเขาจะเสียใจเรื่องลูก” เธอกับไต้ฝุ่นรักกันและตั้งใจจะแต่งงานหลังเรียนจบ แต่คาดไม่ถึงจะเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมีสภาพเป็นแบบนี้”
“ฮึก ฮือ ๆ” คริสตัลก้มหน้า แล้วปล่อยโฮออกมาเพราะเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นยังคงวนเวียนในหัวทำเอาหวาดกลัวเหลือเกิน เธอทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกครั้งนี้
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ” เจย์เดนคว้าร่างน้องสาวมากอด มือใหญ่ลูบไล้ศีรษะคริสตัลกับแผ่นหลังเล็กอย่างปลอบประโลม
นัยน์ตาคมกริบสะดุดเข้ากับโบนัสที่นั่งมุมหนึ่งของห้อง ชายหนุ่มมองหญิงสาวเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
เมื่อคริสตัลไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ให้เขารับรู้ ฉะนั้นเขาจะเค้นความจริงจากปากเพื่อนสนิทของน้องสาวแทน
“ฮือ ๆ พี่เจย์”
“นอนพักเถอะ” เจย์เดนประคองน้องสาวให้นอนลง จากนั้นคว้าผ้าห่มคลุมเรือนร่างคริสตัล
“พี่เจย์อยู่กับน้องนะคะ” เธอมองพี่ชายอย่างออดอ้อน
“ครับ” พยักหน้ารับพลางส่งยิ้มหวานอ่อนโยนแก่คนบนเตียง
หลังจากคริสตัลหลับ เจย์เดนเรียกโบนัสออกไปคุยนอกห้องซึ่งไม่ลืมให้ไททันเฝ้าคนบนเตียง
“มีอะไรจะคุยกับโบนัสคะ” เหลือบมองคนตรงหน้าพลางแอบชื่นชมความหล่อเหลาของเขาในใจ
“เธอรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
“รู้ค่ะ เอ่อ แต่คริสไม่ให้โบนัสพูด”
“เล่ามาเถอะ ฉันสัญญาจะไม่บอกคริสว่าเธอเป็นคนพูด”
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะพี่เจย์ คริสถูกผู้หญิงที่ชื่อณิชาผลักตกบันไดจนแท้งลูก ณิชาเกลียดคริสมากและอยากทำให้คริสตายพร้อมกับเด็กในท้อง”
โบนัสเล่าความเท็จให้คนตรงหน้าฟัง แม้ความจริงคริสตัลจะเล่าให้เธอฟังแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เธอเกลียดณิชาหวังใช้โอกาสนี้กำจัดอีกคน
“ณิชาเหรอ”
“ใช่ค่ะ ณิชาชอบไต้ฝุ่น พอไต้ฝุ่นไม่เล่นด้วยก็หวังทำลายชีวิตคริส”
“กล้าดียังไงมาแตะต้องคริส” เขาพึมพำพลางขบกรามแกร่ง
“นี่คะ รูปของผู้หญิงคนนั้น” โบนัสยื่นภาพถ่ายในโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มดู เจย์เดนจ้องคนในภาพด้วยสายตาเคียดแค้นแทบอยากจะฉีกร่างคนในภาพเป็นชิ้น ๆ
“ส่งรูปนี้ให้ฉันด้วย” เขาคืนโทรศัพท์แก่โบนัส
“ค่ะ”
“ขอบใจมากสำหรับวันนี้ งั้นกลับไปพักเถอะฉันเฝ้าคริสเอง” สิ้นคำพูด มาเฟียหนุ่มหมุนตัวเดินเข้าข้างใน
“ช่วยไม่ได้นะนังณิ แกอยากมาเป็นคู่แข่งของฉันทำไม” โบนัสพูดขึ้นด้วยความสะใจหลังกดส่งรูปภาพณิชาให้เจย์เดน
เธอเกลียดณิชามากนั่นเพราะความอิจฉา เนื่องจากณิชามีฐานะยากจนเหมือนกับเธอ แต่อีกคนกลับได้ดีกว่าในหลายด้าน ทั้งเรื่องการเรียน หน้าตาสะสวยโดดเด่น รวมถึงเรื่องที่ณิชาได้รับความช่วยเหลือจากคริสตัล
เธอกลัวคริสตัลจะใจดีกับณิชามาก จนละเลยตัวเองและอาจพลาดบ่อเงินบ่อทองไป หลายครั้งมักจะพูดจาใส่ร้ายณิชาให้คริสตัลฟังเป็นประจำ
ปลายลิ้นร้อนอุ่นตวัดเลียบนยอดถันสีหวาน ซึ่งกำลังท้าทายให้มาเฟียหนุ่มตักตวงตามความปรารถนา ก่อนฝ่ามือใหญ่อีกข้างจะยกขึ้นมาบีบขยำดอกบัวตูมอย่างหลงใหล“อื้อ อ๊า พี่เจย์คะ ทำไมดูดแรงแบบนี้คะ” เธอทั้งเสียวและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน“แล้วไม่ชอบเหรอ” ผงกหัวมองใบหน้าหวานและถามขึ้นขณะยอดถันคาปากหยัก“อื้อ ชอบมากเลยค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ สติเริ่มเลือนรางทุกทีการสัมผัสของมาเฟียหนุ่ม ส่งผลให้ณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ยอมให้เขาแตะต้องได้เต็มที่เจย์เดนพรมจูบทั่วเรือนร่างงดงาม ไม่วายประทับตราสีแดงกุหลาบตามจุดต่าง ๆ เธอในช่วงตั้งครรภ์รูปร่างอวบอั๋นมาก ไม่ว่าจะจับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงได้ยังไง“อื้อ อ๊า ทำไมตัวเมียหอมแบบนี้”“อื้อ พี่เจย์”กายสาวดิ้นพล่านไปมาเมื่ออีกคนเริ่มแยกขาเรียวออกจากกันกว้างและนำปลายลิ้นสากตวัดเลียปุ่มกระสัน“อื้อ อ๊า ตรงนั้น สะ เสียวเหลือเกิน” ณิชาร้องครางไม่เป็นภาษา มือเรียวสอดเข้าไปในเส้นผมนุ่มของคนตัวโตพร้อมกับขยุ้มเบา ๆ เพื่อระบายความเสียวซ่าน“หวานเหลือเกิน เมียจ๋า”ไม่ว่าจะชิมตรงไหนก็หวานบาดลิ้นไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาคลั่งไคล้ใน
ณิชากลับไปหาเจย์เดนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้เคลียร์ใจกับสมายล์เรียบร้อย ทำเอาคนตัวโตกำลังจ้องมองหญิงสาวเกิดความรู้สึกประหลาดใจ“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงจ้องณิแบบนั้น”“พี่แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ณิหายไปเมื่อกี้”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”“น่าสงสัย” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันพลางสังเกตปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่เจย์ขี้สงสัยไปได้” คริสตัลแทรกขึ้น ก่อนหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับณิชาราวกับอยากแกล้งมาเฟียหนุ่ม“ไม่ได้พาณิไปหาไอ้หนุ่มที่ไหนใช่ไหม” คนขี้หวงบอกอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่รู้สิคะ” ยักไหล่ใส่พี่ชายอย่างไม่แยแส“คริส พี่ไม่ตลกนะเล่นแบบนี้”“ดุอะไรน้องล่ะ โน้นไปถามณิสิ” คริสตัลบุ้ยปากไปยังณิชาซึ่งเดินไปหาคาลอสกับคลอเดียตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว“ไม่กล้าไปถามณิละสิ” คริสตัลบ่นพึมพำ เธอรู้หรอกพี่ชายไม่กล้าดุหรือตำหนิณิชาเพราะกลัวโดนงอน อีกคนจึงมาเค้นถามจากเธออย่างนี้“บ่นอะไร”“เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูง“พี่เจย์คะ เดินทางกลับอิตาลีอย่างปลอดภัยนะคะ ถ้าน้องว่างจะไปเยี่ยม”“อืม ดูแลตัวเองด้วยนะยัยตัวแสบ” ฝ่ามือหนาลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู แม้ว่าคริสตัลจะแต่งงานและมีลูกแล้ว แต่ยังคง
หลังจากทั้งสี่คนปรับความเข้าใจกัน คาลอสและคลอเดียก็ออกไปเล่นข้างนอกกับไททัน ส่วนณิชาถูกเจย์เดนรั้งไว้บนตักแกร่งพร้อมกอดแน่น“พี่เจย์ ปล่อยณิได้แล้วนะคะ”“อื้อ ไม่เอา ขออยู่แบบนี้หน่อย” เจย์เดนซบหน้าลงบนทรวงอกอวบอั๋นอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อย “กลับไปทำงานได้แล้ว” เธอไม่ค่อยจะชินเลยกับเขาในโหมดนี้ เมื่อก่อนชอบทำหน้าดุและอารมณ์เสียใส่เธอเป็นประจำ“ทำไมชอบไล่พี่จังเลยครับ” ช้อนตามองคนตัวเล็ก“ถามจริงเถอะ ผู้ชายใจร้ายคนนั้นที่ชอบทำตัวเย็นชาใส่ณิหายไปไหนแล้ว”“อย่าพูดถึงมันเลย ไอ้คนนิสัยไม่ดีแบบนั้น รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มเอามือเล็กขึ้นมาจูบพร้อมชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเย้ายวน“คนบ้า” หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย สายตาของเขาจ้องมองปานจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว จนใบหน้าหวานร้อนผ่าว“คืนนี้มานอนห้องพี่นะครับ”“ไม่เอาค่ะ” ขืนไปนอนด้วยมีหวังไม่รอดแน่“ทำไมล่ะครับ ไม่สงสารพี่หรือไง” กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนเพื่อขอให้หญิงสาวทำตามความปรารถนาของตัวเอง“พี่เจย์อย่ามาใช้หน้าตาหลอกล่อณิแบบนี้นะคะ” ยิ่งรู้อยู่ว่าเธอพ่ายแพ้ให้กับใบหน้าหล่อ ๆ ของเขา“พี่รักณิน
“ณิชา…พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น พี่ไม่ได้จะดูถูกณิเลยนะครับ พี่แค่ไม่อยากให้ณิพาลูกไปไหน” เงยหน้ามองแม่ของลูกทั้งน้ำตา เขาไม่อยากพบเจอการจากลาเหมือนในอดีต แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว“เป็นอะไรของคุณ” เป็นครั้งแรกเห็นน้ำตาของคนตัวโต “ร้องไห้ทำไมคะ” นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มอีกคนอย่างอ่อนโยน แต่เจย์เดนไม่หยุดร้องยังคงปล่อยน้ำตาไหลราวกับทำนบแตก“ถ้าครั้งนี้ทิ้งพี่ไปอีก พี่คงได้ตายแน่ ๆ”“เป็นอะไรของคุณ” คำพูดกับท่าทางของมาเฟียทำเอางุนงงไปหมด จู่ ๆ ทำไมถึงร้องไห้สวนทางกับตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ใจเธออ่อนยวบ“ฮึก ฮือ ๆ พี่รักณินะครับ รักมากเหลือเกิน”“คุณเจย์” คำสารภาพรักของเจย์เดน ณิชาถึงกับชาวาบจนคิดว่าตัวเองหูแว่วหรือฝันไป“พี่รักณินะ รักมานานแล้ว ขอโทษเมื่อก่อนทำร้ายณิสารพัดโดยที่ไม่ฟังคำพูดณิสักครั้ง พี่มันแย่เอง” เจย์เดนพูดตัดพ้อมากมาย“หยุดร้องไห้ก่อนเถอะ คุณเจย์” ยิ่งช่วยซับน้ำตาให้เขามากเท่าไร อีกคนยิ่งปล่อยโฮมากเท่านั้น จนเธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน“ขอร้องนะคนดี อย่าทิ้งพี่ไปเลย” หยาดน้ำตาพรั่งพรูเปื้อนใบหน้าหล่อคมต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีท่าทีจะหยุดง่าย ๆ“ใจเย็น
สายลมยามเย็นพัดพลิ้วกระทบผิวกายคนตัวเล็กซึ่งนั่งปูเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนเด็ก ๆ วิ่งเล่นบริเวณนั้นโดยป้าแม่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหลังจากรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม พักหลังมานี้หญิงสาวค่อนข้างเหม่อบ่อยเป็นพิเศษ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากคิดไม่ตกเรื่องเด็กในท้อง กลัวว่าหากคลอดออกมาแล้วจะลำบากกว่าเดิม ลำพังเลี้ยงดูคาลอสกับคลอเดียแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงกระนั้นไม่คิดจะเอาเด็กออกเด็ดขาดหรือบอกเจย์เดนให้รับรู้เช่นกันในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ ฉะนั้นไม่อยากเอาลูกมาเป็นข้อผูกมัดระหว่างกัน อีกอย่างไม่คิดยกลูกให้เขาเช่นกัน เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องพ่อแต่งงานใหม่แล้วโดนแม่เลี้ยงรังแก ซึ่งไม่ปรารถนาให้ลูกพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดียวกับเธอ ไม่ต่างจากฝันร้าย“กลุ้มใจจังเพราะท้องหรือเปล่านะถึงคิดมากแบบนี้” ใบหน้าหวานเหลือบมองวิวข้างหน้า เป็นแม่น้ำที่มีผู้คนปั่นเรือเป็ดอย่างเพลิดเพลิน“หม่ามี้ครับ” คาลอสตะโกนเรียกผู้เป็นแม่พลางวิ่งมาหาณิชาก่อนนั่งลงด้านข้าง“เล่นจนเหนื่อยแล้วเหรอ” ว่าแล้วชำเลืองมองคลอเดียกำลังวิ่งเล่นอย่างไม่รู้จักเหนื่อย จากนั้นส่งยิ้มหวานให้กับลูกชายตัวน้อย“ไม่สนุกเลยค
อากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงกำลังทำงาน ส่งผลให้ณิชานอนหดตัวด้วยความหนาวสะท้านทั่วทั้งกาย แขนบอบบางวาดวงพื้นที่ว่างข้างกายก่อนพบความว่างเปล่า“หายไปไหน” เบิกตาขึ้นเชื่องช้าและกลอกตามองหาทั่วห้องหลังจากจบศึกรักเมื่อคืนเธอจำได้แค่ว่าตอนอยู่ในห้องน้ำ เธอกับเขากำลังแช่น้ำสมุนไพรในอ่าง จากนั้นภาพตัดไปเลยและตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันใหม่“คาลอส คลอเดีย” ณิชาเพิ่งนึกขึ้นได้ทิ้งลูกไว้ในห้องนอนอีกห้องตามลำพังจึงเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนก้มหน้าสำรวจตัวเองอยู่ในสภาพชุดนอนซึ่งไม่ต้องบอกพอเดาออกใครเป็นคนสวมใส่ให้“ห๊ะ!! สิบโมงแล้วเหรอ” ดวงตากลมโตปะทะกับนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นกระโดดลงจากเตียงด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ ทันทีที่เท้าเล็กแตะพื้น ร่างเล็กทรุดกองกับพื้นด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบทั่วสรรพางค์กาย“อึก เจ็บจัง” แขนเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้อง ถึงกระนั้นเธอไม่ได้นั่งอ้อยอิ่ง พยายามแบกร่างกายปวดระบมออกไปข้างนอก“หม่ามี้” ทันทีณิชาปรากฏเด็ก ๆ ทั้งสองคนวิ่งมาโอบกอดขาผู้เป็นแม่อย่างดีใจ“หม่ามี้ขอโทษนะคะ คาลอสกับคลอเดียหิวแย่เลย” หญิงสาวนั่งย่อง ๆ อยู่ระดับเดียวกับลูกทั้งสองและลูบหัวเด็กน้