ท่ามกลางความเงียบสงัดมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงาน นับจากสาวใช้ออกจากห้องราว ๆ เกือบห้านาที ณิชาและเจย์เดนต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปล่งวาจาใดออกมาสักคำ กระทั่งหญิงสาวทนไม่ไหวเพราะอึดอัดมากเหลือเกินจึงพูดขึ้นทำลายความเงียบ
“คุณคะ”
“อะไร” หันขวับมองคนตัวเล็ก อยากจะรู้เหลือเกินจะมาไม้ไหน ผู้หญิงอย่างเธอร้ายลึกยิ่งนักซึ่งเขาจะไม่มีวันหลงกลเด็ดขาด
“ณิยอมคุณทุกอย่างแล้ว ขอร้องอย่าทำแบบนั้นกับณิอีกเลย” ณิชาหมายถึงการขังเธอไว้ในห้องใต้ดิน
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ปรายตามองคนตัวเล็ก
“ณิยอมทุกอย่างไม่ว่าคุณจะทำอะไรกับณิ แต่อย่าขังณิไว้ที่ห้องนั้นอีกเลย ณิกลัว” เสียงหวานเริ่มสั่นเครือ
“เฮอะ! มุกตื้น ๆ คิดว่าฉันดูไม่ออกเหรอ จะหลอกให้ฉันตายใจใช่ไหม หลังจากนั้นก็จะหนี”
“ณิพูดจริง ๆ นะคะ ณิยอมทำทุกอย่างตามคำสั่งของคุณ” เธอเหนื่อยเกินกว่าจะโต้แย้ง
“พูดจริงเหรอ ที่บอกว่าจะยอมทุกอย่าง” ถามอย่างมีเลศนัย สายตาคมกริบคอยจ้องคนตัวเล็กราวกับจับผิด
“ค่ะ”
“ถ้าเธอไม่ได้โกหก ฉันจะลองเชื่อดูสักครั้ง แต่ถ้าเธอกล้าหลอกฉันรู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด”
“ณิไม่กล้าหลอกคุณหรอกค่ะ” หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อย จนคนโดนมองใจอ่อนยวบอย่างไม่รู้ตัว
“งั้นก็พักผ่อน ถ้าฉันเรียกเมื่อไรเธอต้องมา”
“หมายความว่าไงคะ” คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อย่างน่าประหลาด
“ไหนว่ายอมทุกอย่างไง” ถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“ค่ะ ณิยอมทุกอย่างแต่คุณพูดเหมือนจะให้ณิ เอ่อ…” ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มร้อนผ่าวเมื่อเผลอนึกถึงค่ำคืนเร่าร้อนในคืนนั้น
“พูดเหมือนไม่รู้ฉันกำลังหมายถึงอะไร” ไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ หงุดหงิดขึ้นมาดื้อ ๆ
เจย์เดนหย่อนตัวนั่งลงข้างกายคนป่วย มือหนาจับปลายคางมน สบตาคู่งามดั่งต้องมนต์สะกด ดวงตาของเธอมองกี่ครั้งทำเขาหลงใหลเสมอ ถึงกระนั้นไม่คิดจะบอกให้เธอล่วงรู้
“นานแค่ไหนคะ” สุดท้ายเธอไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้ จึงถามออกไป เพราะอย่างไรตอนนี้เธอไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว หากนี่จะเป็นหนทางเดียวจะหลุดพ้นก็ยอม
“จนกว่าฉันจะเบื่อ”
“แล้วคุณจะปล่อยณิไปใช่ไหมคะ”
“ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเธอ”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ตอบเสียงแผ่ว
“พักผ่อนซะ ฉันต้องไปแล้ว” ว่าแล้วเตรียมเด้งตัวลุกขึ้น
“อย่าเพิ่งไป” มือเล็กคว้าท่อนแขนกำยำ
“มีอะไร” ปรายตามองมือเรียวอย่างถือวิสาสะที่กล้ามาแตะต้องตัวเขา
“ขอโทษค่ะ” รีบชักมือกลับอย่างไว เธอกลัวโดนตำหนิ จากสายตาคมบ่งบอกถึงความไม่พอใจกับพฤติกรรมของตนเอง
“มีอะไรรีบพูดมา”
“ทำไมคุณถึงคิดว่าณิทำร้ายคริสตัลคะ”
“แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะเชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือเธอ” สวนกลับทันใดทำเอาณิชาจุกอกจนพูดไม่ออก เธอไม่มีหลักฐานอะไรเลย พอจะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
“อย่าถามอะไรที่มันไร้สาระอีก” จบประโยค มาเฟียหนุ่มเดินจากไปทันที
“มันจะไม่มีทางอื่นเลยเหรอ” ทอดสายตามองประตูเพิ่งพ้นกายแกร่ง เธอไม่รู้ต้องทำยังไงดี มืดแปดด้านไปหมด แถมสมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกเลย
“ฮึก ฮือ ๆ” เวลานี้ทำได้แค่ร้องไห้ ใครไม่ใช่เธอไม่มีวันเข้าใจเด็ดขาดถึงความรู้สึกนี้
“อดทนนะณิ” หลังมือเรียวปาดน้ำตาลวก ๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอจะพยายามอดทนให้ถึงที่สุดเชื่อว่าสักวันต้องผ่านไปด้วยดี
หลังจากวันนั้นอาการป่วยของณิชาดีขึ้นมาก หญิงสาวกลับมาทำงานแม่บ้านตามเดิม และทุกคืนเจย์เดนมักจะเรียกหาเธอก่อนจะมอบบทรักสุดสยิวจนเกือบรุ่งสางแทบทุกวัน
ก๊อก! คืนนี้เป็นอีกคืนที่เธอต้องมาหาเขา หลังเคาะประตูเสร็จก็ยืนคอยเจ้าของห้องอย่างสงบเสงี่ยม
“เข้ามา”
เสียงทุ้มตอบกลับ ณิชาไม่รอช้าจับลูกบิดและเปิดเข้าข้างในห้อง เท้าเล็กก้าวไปหยุดกลางห้องพร้อมก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาคม
“ทำไมคืนนี้มาช้า” เจย์เดนเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวเล็ก แล้วเชยคางกลมกลึงขึ้นมาสบตากัน ก่อนเหลือบมองริมฝีปากอวบอิ่มแสนเย้ายวน
ชายหนุ่มไม่รอคำตอบจากเธอ เขารั้งท้ายทอยเล็กพร้อมทาบริมฝีปากหยักบนกลีบปากอมชมพู ดูดดื่มและเม้มทั้งปากบนและล่างอย่างคลั่งไคล้ ตักตวงความหวานราวกับคนอดอยากมานาน
“อื้อ” แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอแกร่งเพื่อรั้งร่างไม่ให้ล้มลงคาพื้น ขณะนี้เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงยิ่งนัก ขาแข้งอ่อนระทวยไปหมด ก่อนจะรู้สึกถึงแขนกำยำโอบเอวคอดกิ่ว
ทั้งคู่แลกจูบกันนัวเนีย แม้ณิชาจะเงอะงะบ้างแต่ไม่ได้ทำให้เจย์เดนหงุดหงิดสักเท่าไร มาเฟียหนุ่มกลับชอบด้วยซ้ำเพราะแปลกใหม่
ทุกคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมาก่อน ค่อนข้างเจนจัดและชำนาญการในเรื่องอย่างว่า แรก ๆ รู้สึกชอบเพราะเร่าร้อนดี ทว่าพอนานไปกลับรู้สึกเบื่อ
พอมาเจอณิชากลับทำให้รู้สึกแปลกใหม่ เธอไร้เดียงสาจนเขาอยากสอนให้เก่งด้วยฝีมือตัวเอง
“ไปอาบน้ำเถอะ” เจย์เดนถอดจูบก่อนจับเธออุ้มแตง
“ณิอาบมาแล้วค่ะ” เธอตอบเขาขณะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง สายตาอีกคนจ้องมองแตกต่างจากเดิมทำเอาร้อนรุ่มทั่วเรือนร่าง
“แต่ฉันยังไม่อาบ” คนเอาแต่ใจไม่ยอมละความพยายาม ไม่ว่าอย่างไรต้องอาบน้ำกับเธอให้ได้ เพราะอยากลองทำอะไรแปลกใหม่ ปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนแต่กับเธอแตกต่างออกไป
“แต่ณิอาบมาแล้วนะคะ”
“ฉันรู้แต่ฉันไม่สน อะไรที่ฉันต้องการเธอไม่มีสิทธิ์แย้ง”
เจย์เดนพาคนตัวเล็กตรงไปห้องน้ำสุดหรูหรา ตกแต่งด้วยโทนสีดำเงาและทองคำเปลว
ชายหนุ่มวางเธอลงกลางห้อง ทั้งคู่ยืนประชันหน้ากัน ซึ่งความสูงของเธอและเขาช่างแตกต่างกันมาก เธอสูงเพียงแค่หัวไหล่ของเขาเท่านั้น หากเทียบกับบรรดาผู้หญิงของเขา เธอค่อนข้างตัวเล็กมาก
“เอ่อ คุณคะ…” คนตัวเล็กรู้สึกประหม่ามาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกเข้ามาอยู่ในห้องน้ำของเขาและรายล้อมด้วยกระจกซึ่งกำลังสะท้อนภาพเธอและเขา ทำเอารู้สึกกระดากก่อนก้มหน้ามองพื้น
“มองมาที่ฉัน ณิชา” ไม่พูดเปล่า คนตัวโตเชยคางมนขึ้นมาสบตากัน จากนั้นประทับจูบปากนุ่มอีกครั้ง
ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ทั่วเรือนร่างงดงาม แล้วสอดเข้าไปในเสื้อก่อนปลดตะขอบราเซียร์ เขาคุกเข่าตรงหน้าเธอและถกเสื้อขึ้นไปกองบนเนินอก จนเผยให้เห็นยอดปทุมตั้งตระหง่านเด่นยั่วยวนสายตาคมกำลังเรียกร้องให้เชยชิม
ชายหนุ่มช้อนตามองเธอครู่หนึ่ง แล้วโน้มหน้าคลอเคลียทรวงอกอวบอั๋น ปลายลิ้นร้อนอุ่นลากไล้ตามยอดถันสีหวานก่อนงับหนึ่งที
“อื้อ คุณ…” เธอนำมือเล็กขึ้นมาปิดปากนุ่มเพื่อข่มเสียงร้องอันน่ารังเกียจ
“เสียวเหรอ” เขาถามอย่างอารมณ์ดี สีหน้าและท่าทางของคนตัวเล็กทำให้เขาชอบใจมาก
“อืม” พยักหน้าหงึก ๆ เจย์เดนจัดการกับสองเต้าสวยต่อ ทว่าไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาล้วงฝ่ามือหยาบกร้านข้างหนึ่งเข้าในกางเกงของเธอ ณิชาแยกขาเรียวออกจากกันกว้าง ๆ เพื่อให้เขาเข้ามาทักทายร่องรักตามสะดวก
นิ้วแกร่งบี้ขยี้ปุ่มกระสันเล่นอย่างหยอกล้อพลางสังเกตสีหน้าของเธอ
“อื้อ อ๊ะ คุณคะ…” เสียงหวานร้องแทบไม่เป็นภาษา มือเล็กยกขึ้นปิดปากส่วนมืออีกข้างก็ยึดบ่ากว้างไว้
เจย์เดนผละออกจากดอกบัวตูมแต่ไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาปลดกางเกงออกจากร่างอรชร ก่อนจ้องร่องสวาทเบื้องหน้าทำเอาลมหายใจติดขัดทีเดียว
“สวยชะมัด” เสียงทุ้มพึมพำแต่ดังพอให้อีกคนได้ยิน ด้วยความเขินอายณิชารีบปิดทันที
“เอามือออกไปณิชา อย่าทำให้ฉันโมโห”
“ณิอาย”
“จะอายอะไรของเธอ เอากันมากี่ครั้งแล้ว” พูดจบ แกะมือบางไปพ้น หน้าหล่อเหลาซุกไซ้กลีบกุหลาบอย่างรวดเร็ว
“อึก” คนตัวโตเผลอกระทำรุนแรง ส่งผลให้ณิชาสะดุ้งเฮือก
หลังจากเจย์เดนอิ่มหนำจึงอุ้มคนตัวเล็กไปวางบนเคาน์เตอร์ที่มีกระจกสะท้อนภาพคนทั้งสองณิชาเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เมื่อชายหนุ่มถอดอาภรณ์ออกจนหมดสิ้น เผยให้เห็นกายแกร่งแสนสมบูรณ์ อกล่ำสันและกล้ามเนื้อแขนเป็นมัด ๆ โดยเฉพาะส่วนนั้นของเขาชี้ผงาดพร้อมกระแทกกายแกร่งขยับตัวเข้าใกล้หญิงสาว ฝ่ามือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกัน ไม่รอช้าสอดแทรกความเป็นชายเข้าในตัวเธอจนสุดลำ“อื้อ” ณิชาโอบกอดคนตัวโตแน่น เธอรู้สึกจุกเมื่ออีกคนเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว“เจ็บเหรอ” ถามเสียงโทนต่ำ“ค่ะ”“ถ้าเจ็บก็กอดฉันแน่น ๆ ฉันจะเริ่มขยับแล้ว”“อื้อ” ดวงตากลมโตหลับพริ้ม จังหวะการกระแทกของเขานุ่มนวลจนเธอรู้สึกผ่อนคลาย“ไม่ต้องกลั้น ปล่อยออกมาเลย ฉันอยากได้ยินเสียงหวานของเธอ” มาเฟียหนุ่มพูดพร้อมถอดเสื้อผ้าให้คนตัวเล็ก จนตอนนี้เธอและเขาอยู่ในสภาพเปลือยทั้งคู่กายคนทั้งสองแนบชิดกันราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราด ลมหายใจเริ่มถี่รัวมากขึ้น“อ๊ะ อ๊า” สุดท้ายณิชาไม่สามารถกลั้นเสียงร้องได้อีกต่อไป เธอเปล่งเสียงดังลั่นห้องน้ำ ซึ่งเขารู้สึกพึงพอใจมากก่อนกดจูบแก้มนุ่มหนัก ๆ ไม่วายงับหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยวเจย์เดนใส่เข้าในตัวอีกคนแบบไม่ยั้งให้สาสม
แสงตะวันในยามเช้าสาดกระทบมายังปลายเตียง หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจัดการกิจวัตรประจำวันจนเสร็จเรียบร้อย แล้วแบกร่างไร้เรี่ยวแรงไปทำงานดั่งทุกวัน แม้เมื่อคืนเพิ่งผ่านศึกรักหนักหน่วงมากแค่ไหน พอเช้าต้องไปทำหน้าที่แม่บ้างซึ่งห้ามปริปากบ่นสักคำในเมื่ออยู่ในฐานะเชลยไม่มีสิทธิ์พูดหรือแสดงท่าทีใด ๆ ทั้งสิ้นให้เจ้าของคฤหาสน์เห็น ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แม้กระทั่งการโต้เถียงหรือทะเลาะกับแม่บ้านคนอื่น ๆ ยังทำไม่ได้“เฮ้อ อยากกลับบ้านจัง” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกมากมาย ไม่รู้ว่าต้องอยู่ในฐานะเชลยอีกนานแค่ไหน จนกว่าเขาจะยอมปล่อยเป็นอิสระหญิงสาวมองทางเบื้องหน้าพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด จากนั้นรีบมุ่งหน้าไปยังที่หมายหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เธอไม่รอช้าไปยังห้องนอนของเจย์เดนตามคำสั่งที่ได้รับเมื่อคืน คือการทำความสะอาด ขณะกำลังปัดฝุ่นตามซอกเตียง ทันใดนั้นสายตาดันปะทะเข้ากับรูปภาพใบหนึ่ง เมื่อหยิบขึ้นดูพบว่าเป็นภาพของสาวสวยคนหนึ่ง ผมลอนสีบลอนด์ ดวงตาสีครามราวกับน้ำทะเล ช่างเป็นผู้หญิงสวยมาก ใครที่ได้เห็นต้องหลงใหลตามกัน ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังรู้สึกชอบเลย“ใครเหรอ สวยจ
จากเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางวัน เจย์เดนเอาแต่นั่งดื่มเหล้าตั้งแต่เย็นจรดค่ำอย่างหงุดหงิดที่ห้องทำงานของบาร์“โธ่เว้ย!! หมดแล้วเหรอวะ” กระแทกขวดเหล้าลงบนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยเบื้องหน้าความรู้สึกตอนนี้พลุ่งพล่านยิ่งนัก หากใครเข้ามารบกวนเวลานี้คงโดนไม่ใช่น้อย สาเหตุนั่นมาจากณิชา เพราะโมโหที่เธอสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น แต่พอได้เห็นแววตาเศร้าของคนตัวเล็กก็ทำเอาปวดหนึบ จนเขาเองไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่สุดท้ายมานั่งดื่มเหล้าระบายความเครียด จากเดิมตั้งใจจะทำงานแต่จิตใจว้าวุ่นเหลือเกิน จนไม่อาจทำอะไรทั้งนั้น“ไททัน เอาเหล้ามาหน่อย” ตะโกนบอกคนนอกห้อง สักพักไททันเปิดประตูเข้ามาพร้อมขวดเหล้า“ได้แล้วครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มวางขวดเหล้าตรงหน้าเจย์เดน แล้วจากไปทันใดเนื่องจากอารมณ์ของเจ้านายไม่คงที่ เขากลัวโดนลูกหลงแอ๊ด! พ้นร่างไททันไม่กี่นาทีประตูห้องเปิดอีกครั้ง ชายหนุ่มเตรียมจะอ้าปากด่าเพราะคิดว่าเป็นลูกน้องคนสนิท แต่หยุดชะงักเมื่อเห็นหน้าบุคคลมาใหม่“มาทำไม” เอ่ยถามเสียงเรียบ แล้วหันมาสนใจดื่มเหล้าต่อ ก่อนอีกคนจะเดินไปนั่งตรงโซฟาข้างกายเขา“นี่เป็นคำพูดแรกของคนที่ไม่ได้เจอตลอดหนึ่งสัปดาห์เหรอ เย็นช
“คุณณิชาครับ”“คะ” คนตัวเล็กกำลังจะกลับห้องเป็นอันต้องหยุดชะงักก่อนหันหลังไปมองคนที่เรียกตัวเอง “มีธุระอะไรกับณิหรือเปล่าคะ”“คุณณิชาจะไปไหนเหรอครับ”“เรียกณิเฉย ๆ เถอะค่ะ”“ครับ”“แล้วมีธุระอะไรกับณิเหรอคะ” เป็นไปไม่ได้คนอย่างไททันจะเรียกเธอเฉย ๆ หากไม่มีเรื่องสำคัญ“เย็นนี้คุณต้องไปงานเลี้ยงกับบอส”“หมายถึงณิต้องไปงานเลี้ยงกับเจ้านายของคุณเหรอคะ” ถามกลับอีกครั้ง เผื่อเข้าใจผิด“ครับ”“ทำไมต้องเป็นณิด้วยคะ” เมื่อเช้ายังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วตอนนี้เกิดอะไรถึงอยากให้ไปงานเลี้ยงด้วย เธอเดาอารมณ์เจย์เดนไม่ได้เลย “เอ่อ ผมก็ไม่ทราบครับ” เขามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น จึงไม่สามารถล่วงรู้ถึงความคิดของเจย์เดน“ณิต้องทำยังไงบ้าง” แม้อยากปฏิเสธมากแค่ไหน ย่อมทราบดีคงทำไม่ได้ จำเป็นต้องยอมรับโดยปริยาย“สักพักจะมีคนจากห้องเสื้อมาช่วยแต่งตัวให้คุณณินะครับ”“ค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากคุยรายละเอียดเพิ่มกับไททันเสร็จเรียบร้อย จึงไปรอคนจากห้องเสื้อยังห้องนอนรับรองแขกที่เคยพักครั้งก่อนณิชานั่งรออย่างใจเย็นพร้อมกับครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งผ่านไปสักพักคนจากห้องเสื้อปรากฏ จากน
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินทันที ซึ่งเจย์เดนนั่งคอยหน้าห้องอย่างกระวนกระวายใจกอปรกับเป็นห่วงคนตัวเล็ก“บ้าเฮ้ย!! ทำไมเธอต้องโดนยิงด้วยวะ” มือหนาประสานเข้าหากันพลางปรายตามองพื้น วินาทีนี้รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นระรัวแทบทะลุออกนอกอก ทั้งร้อนรุ่มไปหมด“พี่ เกิดอะไรขึ้น” แพทย์หนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตาเดินมาหยุดตรงหน้าเจย์เดน“ลีออนช่วยณิชาด้วย” เด้งตัวลุกไปประชันหน้าลีออน“หมายถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ”“อืม ช่วยหน่อย”“ครับ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่”“ฝากด้วยนะลีออน” ทั้งที่ทราบดีน่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ใจหนึ่งอดเป็นห่วงไม่ได้“ครับ” แพทย์หนุ่มเหลือบมองห้องฉุกเฉินครู่หนึ่ง ไม่รอช้าย่างกรายเข้าข้างในเพื่อปฏิบัติหน้าที่“เฮ้อ” หย่อนก้นนั่งลงพร้อมถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอก ตอนนี้เธอถึงมือแพทย์คงไม่น่าจะเป็นอะไรมาก“เธอห้ามเป็นอะไรนะณิชา ฉันต้องเอาคืนเธอให้มากกว่านี้”เวลาล่วงเลยผ่านไป การช่วยเหลือณิชาผ่านพ้นไปด้วยดี โชคดีไม่โดนจุดสำคัญ เธอจึงรอดพ้นมาอย่างปลอดภัย ก่อนจะโดนย้ายไปห้องพักฟื้น“บอสครับ” ประตูห้องถูกเปิดพรวดพร้อมกับเสียงเรียกของลูกน้องคนสนิท“เป็นไงบ้างได้เ
ณิชารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนกว่าจะหายเป็นปกติ นับจากวันนั้นที่มีปากเสียงกับเจย์เดน เขาไม่มาเยี่ยมเธออีกเลย ระหว่างรักษาตัวก็ยังมีลีออนแวะเวียนมาคุยเล่นบ้าง พอทำให้คลายเหงาแต่ลึก ๆ ในใจมักจะมองหาคนใจร้ายเสมอ“พรุ่งนี้กลับบ้านได้แล้วนะครับ”“ค่ะ” ส่งยิ้มอ่อนแก่แพทย์หนุ่ม ท่าทางของเธอไม่ได้บ่งบอกถึงอาการดีใจสักนิด กลับกันฉายถึงความกังวลมากกว่า“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถามพลางหรี่ดวงตามองใบหน้าสวย“เปล่าค่ะ”“ถ้ามีอะไรบอกผมได้นะครับ”“ขอบคุณนะคะ” สำหรับณิชาถึงลีออนจะใจดีกว่าเจย์เดนหลายเท่า แต่ไม่สนิทใจมากพอจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เสมอ”“ค่ะ” ปรายตามองตามหลังชายหนุ่มจนลับหาย แล้วหันหน้ามองวิวข้างนอกอย่างครุ่นคิด หลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงนี้ ทำให้เธอได้รับรู้อะไรมากมาย“คุณณิครับ”“คะ” หญิงสาวหันหน้ามองบุคคลมาใหม่และรีบเช็ดน้ำตาอย่างเร็วซึ่งไม่รู้ไหลตอนไหน “คุณณิร้องไห้ทำไมเหรอครับ”“คุณไททัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” รีบเปลี่ยนประเด็นทันใดถึงแม้เจย์เดนจะไม่มาเยี่ยมณิชา แต่มาเฟียหนุ่มสั่งให้ไททันคอยดูแลหญิงสาวอย่างใกล้ชิด ไม่ให้คลาดสายตาเ
ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นปลุกณิชาตื่นจากภวังค์ ซึ่งกำลังนั่งชันเข่าบนเตียงขนาดกะทัดรัด หญิงสาวผงกศีรษะมองอย่างสงสัย ก่อนหย่อนเท้าลงแตะพื้นแล้วเดินไปเปิดประตูให้แก่คนข้างนอก“คุณเจย์” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง คิดไม่ถึงจะเป็นเขา“เข้าไปข้างใน” ไม่พูดเปล่า เจย์เดนดันคนตัวเล็กเข้าข้างในและรีบล็อกห้องทันใดด้วยความกลัวจะมีใครผ่านมาเห็น“คุณมาทำไมคะ” ค่อย ๆ ถอยหลังหนีคนตัวโต“ทำไมฉันจะมาไม่ได้” แขนกำยำโอบเอวคอดกิ่วพร้อมผลักคนตัวเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดลงบนที่นอน ส่วนเขาก็คร่อมร่างเธอ“คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไล่ณิ” หญิงสาวเบือนหน้าหนีพร้อมเอามือเรียวยันอกกว้างเพื่อเว้นระยะห่าง“โกรธเหรอ” ชายหนุ่มจับหน้าหวานให้หันมาสบตากัน“เปล่าค่ะ” ณิชาพยายามเบนสายตาไปด้านอื่น จนคนตัวโตรู้สึกหงุดหงิดเธอทำราวกับไม่อยากเห็นหน้ากันชายหนุ่มแนบริมฝีปากหยักบนกลีบปากอวบอิ่ม คราแรกณิชาขัดขืนไม่ยอมทำตามความปรารถนาของคนเหนือร่าง สุดท้ายต้องพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนของเขาจูบแสนหวานละมุนลิ้นไม่ได้สัมผัสมานานทำณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย เผลอส่งเสียงร้องครางต่ำในลำคอ ก่อนสอดแขนเรียวคล้องคอแกร่ง จากนั้นปลดปล่อยเรือนร่างให้เขาสัมผัสเต
“ไททัน” เจย์เดนตะโกนเรียกลูกน้องคนสนิท บอดี้การ์ดหนุ่มได้ยินเสียงของเจย์เดนเรียกรีบวิ่งมาทันใด“ครับ” ถามพลางหอบหายใจ เพราะวิ่งขึ้นบันไดมา“ฉันอยากได้กล่องยา”“บอสเป็นอะไรหรือเปล่า” ปรายตามองเจ้านายด้วยความเป็นห่วง“ฉันไม่ได้เป็นอะไร แต่ณิชาเป็น”“ผมจะรีบไปเอามาให้เดี๋ยวนี้” ไททันหายไปจากบริเวณนั้นไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล แล้วยื่นให้แก่เจ้านายหนุ่ม“ไปสืบมาระหว่างที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นกับณิชา”“ครับ”เจย์เดนหมุนตัวเข้าไปหาณิชาในห้องนอน ดวงตาคมช้อนมองคนตัวเล็กบนเตียงซึ่งหลับไปแล้ว เขานั่งลงข้างเธอก่อนถอดเสื้อและละเลงยาลงบนผิวกายเนียนนุ่มที่มีรอยช้ำอย่างเบามือ “มีอะไรทำไมถึงไม่พูดวะ” เขารู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากที่เห็นร่างกายคนตัวเล็กมีรอยช้ำ หนำซ้ำเธอยังปิดปากเงียบไม่ยอมบอกสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น จนเขาต้องให้ไททันตามสืบเองชายหนุ่มก้มหน้าหล่อจูบหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างนุ่มนวล ก่อนปัดเส้นผมปรกหน้าไปด้านข้าง และใส่เสื้อผ้าให้เธอดั้งเดิมเจย์เดนยังคงมองคนหลับปุ๋ยอย่างน่าเอ็นดูหลายนาที ไม่มีท่าทีจะขยับตัวไปไหน อัตราการเต้นหัวใจเริ่มผิดจังหวะยิ่งระรัวมากขึ้น จนเขาต้องเอามือมาบีบหน้
หลังจบศึกรักณิชานอนหันหลังให้เจย์เดน หญิงสาวอยากจะกลับห้องเหมือนทุกครั้งแต่เขาไม่อนุญาต จึงทำได้แค่พลิกตัวไปอีกด้านและปล่อยน้ำตาให้ไหลเปียกหมอน“เสียใจขนาดนั้นเลยเหรอ ที่ฉันพูดแบบนั้น” เจย์เดนขยับกายเข้าใกล้ณิชาพร้อมยกแขนกำยำโอบเอวคอดกิ่ว ซุกหน้าคมคายกับคอระหงด้วยความหลงใหลในกลิ่นกายสาวความจริงเขาไม่มีเจตนาจะพูดเช่นนั้น แค่อยากปล่อยน้ำรักใส่ในตัวเธอเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำทำไมถึงอยากทำแบบนั้น ทั้งที่กับคนอื่นไม่เคยทำเลยแต่กับเธอช่างแตกต่างออกไป“คุณจะทำร้ายณิยังไงก็ได้ แต่อย่าเอาลูกมาเป็นเครื่องมือ” ใบหน้าหวานเปื้อนคราบน้ำตาหันมองเจย์เดน สายตาของเธอบ่งบอกถึงความเสียใจเป็นอย่างมาก“แล้วทีเธอทำกับคริสล่ะ รู้ไหมว่าคริสเสียใจมากแค่ไหน”“ณิไม่ได้ทำร้ายคริสตัล เมื่อไรคุณถึงจะเชื่อกันบ้าง” เอ่ยบอกด้วยเสียงสะอื้น เธอเหนื่อยเหลือเกินจนบางครั้งก็อยากหายไปเลย“ทำไมฉันต้องเชื่อผู้หญิงอย่างเธอ”“สักวันคุณจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับณิ” หญิงสาวผลักคนตัวโตออกห่างและเตรียมจะลุกขึ้นจากเตียงให้เร็วที่สุด เจย์เดนไวกว่าคนตัวเล็กจึงกระชากท่อนแขนเรียวจนเธอล้มเซอยู่บนตัวเขา มาเฟียหนุ่มใช้สองแขนแกร่งรัดร่างเล็กเพื่
หลายอย่างที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ช่วงนี้ทำเอาณิชางุนงงไม่น้อย ทุกคนเป็นมิตรกว่าเมื่อก่อน แต่ยังไม่มีใครเข้ามาคุยกับเธออยู่ดียังคงหลีกเลี่ยงเหมือนเดิม สำหรับเธอแค่นี้ดีมากแล้วเพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร หนำซ้ำเหล่าสาวใช้ที่เคยรังแกก็ไม่เห็นหน้าอีกเลย ไม่รู้หายไปไหน“ทำไมตื่นเต้นอย่างนี้นะไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย” มือเรียวยกขึ้นทาบหน้าอกด้วยอาการใจเต้นระรัว ขณะนั่งอยู่ปลายเตียงรอเจย์เดนอาบน้ำหลังจากคืนนั้นที่เขาปล่อยเธอไป ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์นี่เป็นครั้งแรกเขาเรียกหาอีกหนทำเอาเธอประหม่าไม่น้อยแอ๊ด! เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมเสียงฝีเท้าใหญ่กำลังก้าวเดินมาหาก่อนหยุดตรงหน้าณิชา“หวังว่าคืนนี้จะไม่มีอะไรผิดพลาดอีกนะ” เจย์เดนเชยปลายคางเล็กขึ้นมาสบตา“ไม่ค่ะ” เอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา ใจสาวเต้นถี่รัวแทบทะลุออกนอกอก กายสาวสะท้านอย่างตื่นเต้น นานมากแล้วระหว่างเธอและเขาไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าก็นับตั้งแต่เธอเข้าโรงพยาบาลความปรารถนาที่เจย์เดนมีต่อณิชาพลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น เขาไม่รีรอจะประกบปากหยักลงบนปากนุ่ม ดูดด่ำความหวานอย่างคนหิวกระหายขณะเดียวกันล้วงเข้าในเสื้อของณิชา ไต่เต้ามายังทรวงอกอวบอั๋นห่อหุ้มด้วยบรา
“ไททัน” เจย์เดนตะโกนเรียกลูกน้องคนสนิท บอดี้การ์ดหนุ่มได้ยินเสียงของเจย์เดนเรียกรีบวิ่งมาทันใด“ครับ” ถามพลางหอบหายใจ เพราะวิ่งขึ้นบันไดมา“ฉันอยากได้กล่องยา”“บอสเป็นอะไรหรือเปล่า” ปรายตามองเจ้านายด้วยความเป็นห่วง“ฉันไม่ได้เป็นอะไร แต่ณิชาเป็น”“ผมจะรีบไปเอามาให้เดี๋ยวนี้” ไททันหายไปจากบริเวณนั้นไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล แล้วยื่นให้แก่เจ้านายหนุ่ม“ไปสืบมาระหว่างที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นกับณิชา”“ครับ”เจย์เดนหมุนตัวเข้าไปหาณิชาในห้องนอน ดวงตาคมช้อนมองคนตัวเล็กบนเตียงซึ่งหลับไปแล้ว เขานั่งลงข้างเธอก่อนถอดเสื้อและละเลงยาลงบนผิวกายเนียนนุ่มที่มีรอยช้ำอย่างเบามือ “มีอะไรทำไมถึงไม่พูดวะ” เขารู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากที่เห็นร่างกายคนตัวเล็กมีรอยช้ำ หนำซ้ำเธอยังปิดปากเงียบไม่ยอมบอกสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น จนเขาต้องให้ไททันตามสืบเองชายหนุ่มก้มหน้าหล่อจูบหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างนุ่มนวล ก่อนปัดเส้นผมปรกหน้าไปด้านข้าง และใส่เสื้อผ้าให้เธอดั้งเดิมเจย์เดนยังคงมองคนหลับปุ๋ยอย่างน่าเอ็นดูหลายนาที ไม่มีท่าทีจะขยับตัวไปไหน อัตราการเต้นหัวใจเริ่มผิดจังหวะยิ่งระรัวมากขึ้น จนเขาต้องเอามือมาบีบหน้
ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นปลุกณิชาตื่นจากภวังค์ ซึ่งกำลังนั่งชันเข่าบนเตียงขนาดกะทัดรัด หญิงสาวผงกศีรษะมองอย่างสงสัย ก่อนหย่อนเท้าลงแตะพื้นแล้วเดินไปเปิดประตูให้แก่คนข้างนอก“คุณเจย์” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง คิดไม่ถึงจะเป็นเขา“เข้าไปข้างใน” ไม่พูดเปล่า เจย์เดนดันคนตัวเล็กเข้าข้างในและรีบล็อกห้องทันใดด้วยความกลัวจะมีใครผ่านมาเห็น“คุณมาทำไมคะ” ค่อย ๆ ถอยหลังหนีคนตัวโต“ทำไมฉันจะมาไม่ได้” แขนกำยำโอบเอวคอดกิ่วพร้อมผลักคนตัวเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดลงบนที่นอน ส่วนเขาก็คร่อมร่างเธอ“คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไล่ณิ” หญิงสาวเบือนหน้าหนีพร้อมเอามือเรียวยันอกกว้างเพื่อเว้นระยะห่าง“โกรธเหรอ” ชายหนุ่มจับหน้าหวานให้หันมาสบตากัน“เปล่าค่ะ” ณิชาพยายามเบนสายตาไปด้านอื่น จนคนตัวโตรู้สึกหงุดหงิดเธอทำราวกับไม่อยากเห็นหน้ากันชายหนุ่มแนบริมฝีปากหยักบนกลีบปากอวบอิ่ม คราแรกณิชาขัดขืนไม่ยอมทำตามความปรารถนาของคนเหนือร่าง สุดท้ายต้องพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนของเขาจูบแสนหวานละมุนลิ้นไม่ได้สัมผัสมานานทำณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย เผลอส่งเสียงร้องครางต่ำในลำคอ ก่อนสอดแขนเรียวคล้องคอแกร่ง จากนั้นปลดปล่อยเรือนร่างให้เขาสัมผัสเต
ณิชารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนกว่าจะหายเป็นปกติ นับจากวันนั้นที่มีปากเสียงกับเจย์เดน เขาไม่มาเยี่ยมเธออีกเลย ระหว่างรักษาตัวก็ยังมีลีออนแวะเวียนมาคุยเล่นบ้าง พอทำให้คลายเหงาแต่ลึก ๆ ในใจมักจะมองหาคนใจร้ายเสมอ“พรุ่งนี้กลับบ้านได้แล้วนะครับ”“ค่ะ” ส่งยิ้มอ่อนแก่แพทย์หนุ่ม ท่าทางของเธอไม่ได้บ่งบอกถึงอาการดีใจสักนิด กลับกันฉายถึงความกังวลมากกว่า“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถามพลางหรี่ดวงตามองใบหน้าสวย“เปล่าค่ะ”“ถ้ามีอะไรบอกผมได้นะครับ”“ขอบคุณนะคะ” สำหรับณิชาถึงลีออนจะใจดีกว่าเจย์เดนหลายเท่า แต่ไม่สนิทใจมากพอจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เสมอ”“ค่ะ” ปรายตามองตามหลังชายหนุ่มจนลับหาย แล้วหันหน้ามองวิวข้างนอกอย่างครุ่นคิด หลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงนี้ ทำให้เธอได้รับรู้อะไรมากมาย“คุณณิครับ”“คะ” หญิงสาวหันหน้ามองบุคคลมาใหม่และรีบเช็ดน้ำตาอย่างเร็วซึ่งไม่รู้ไหลตอนไหน “คุณณิร้องไห้ทำไมเหรอครับ”“คุณไททัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” รีบเปลี่ยนประเด็นทันใดถึงแม้เจย์เดนจะไม่มาเยี่ยมณิชา แต่มาเฟียหนุ่มสั่งให้ไททันคอยดูแลหญิงสาวอย่างใกล้ชิด ไม่ให้คลาดสายตาเ
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินทันที ซึ่งเจย์เดนนั่งคอยหน้าห้องอย่างกระวนกระวายใจกอปรกับเป็นห่วงคนตัวเล็ก“บ้าเฮ้ย!! ทำไมเธอต้องโดนยิงด้วยวะ” มือหนาประสานเข้าหากันพลางปรายตามองพื้น วินาทีนี้รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นระรัวแทบทะลุออกนอกอก ทั้งร้อนรุ่มไปหมด“พี่ เกิดอะไรขึ้น” แพทย์หนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตาเดินมาหยุดตรงหน้าเจย์เดน“ลีออนช่วยณิชาด้วย” เด้งตัวลุกไปประชันหน้าลีออน“หมายถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ”“อืม ช่วยหน่อย”“ครับ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่”“ฝากด้วยนะลีออน” ทั้งที่ทราบดีน่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ใจหนึ่งอดเป็นห่วงไม่ได้“ครับ” แพทย์หนุ่มเหลือบมองห้องฉุกเฉินครู่หนึ่ง ไม่รอช้าย่างกรายเข้าข้างในเพื่อปฏิบัติหน้าที่“เฮ้อ” หย่อนก้นนั่งลงพร้อมถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอก ตอนนี้เธอถึงมือแพทย์คงไม่น่าจะเป็นอะไรมาก“เธอห้ามเป็นอะไรนะณิชา ฉันต้องเอาคืนเธอให้มากกว่านี้”เวลาล่วงเลยผ่านไป การช่วยเหลือณิชาผ่านพ้นไปด้วยดี โชคดีไม่โดนจุดสำคัญ เธอจึงรอดพ้นมาอย่างปลอดภัย ก่อนจะโดนย้ายไปห้องพักฟื้น“บอสครับ” ประตูห้องถูกเปิดพรวดพร้อมกับเสียงเรียกของลูกน้องคนสนิท“เป็นไงบ้างได้เ
“คุณณิชาครับ”“คะ” คนตัวเล็กกำลังจะกลับห้องเป็นอันต้องหยุดชะงักก่อนหันหลังไปมองคนที่เรียกตัวเอง “มีธุระอะไรกับณิหรือเปล่าคะ”“คุณณิชาจะไปไหนเหรอครับ”“เรียกณิเฉย ๆ เถอะค่ะ”“ครับ”“แล้วมีธุระอะไรกับณิเหรอคะ” เป็นไปไม่ได้คนอย่างไททันจะเรียกเธอเฉย ๆ หากไม่มีเรื่องสำคัญ“เย็นนี้คุณต้องไปงานเลี้ยงกับบอส”“หมายถึงณิต้องไปงานเลี้ยงกับเจ้านายของคุณเหรอคะ” ถามกลับอีกครั้ง เผื่อเข้าใจผิด“ครับ”“ทำไมต้องเป็นณิด้วยคะ” เมื่อเช้ายังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วตอนนี้เกิดอะไรถึงอยากให้ไปงานเลี้ยงด้วย เธอเดาอารมณ์เจย์เดนไม่ได้เลย “เอ่อ ผมก็ไม่ทราบครับ” เขามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น จึงไม่สามารถล่วงรู้ถึงความคิดของเจย์เดน“ณิต้องทำยังไงบ้าง” แม้อยากปฏิเสธมากแค่ไหน ย่อมทราบดีคงทำไม่ได้ จำเป็นต้องยอมรับโดยปริยาย“สักพักจะมีคนจากห้องเสื้อมาช่วยแต่งตัวให้คุณณินะครับ”“ค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากคุยรายละเอียดเพิ่มกับไททันเสร็จเรียบร้อย จึงไปรอคนจากห้องเสื้อยังห้องนอนรับรองแขกที่เคยพักครั้งก่อนณิชานั่งรออย่างใจเย็นพร้อมกับครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งผ่านไปสักพักคนจากห้องเสื้อปรากฏ จากน
จากเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางวัน เจย์เดนเอาแต่นั่งดื่มเหล้าตั้งแต่เย็นจรดค่ำอย่างหงุดหงิดที่ห้องทำงานของบาร์“โธ่เว้ย!! หมดแล้วเหรอวะ” กระแทกขวดเหล้าลงบนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยเบื้องหน้าความรู้สึกตอนนี้พลุ่งพล่านยิ่งนัก หากใครเข้ามารบกวนเวลานี้คงโดนไม่ใช่น้อย สาเหตุนั่นมาจากณิชา เพราะโมโหที่เธอสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น แต่พอได้เห็นแววตาเศร้าของคนตัวเล็กก็ทำเอาปวดหนึบ จนเขาเองไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่สุดท้ายมานั่งดื่มเหล้าระบายความเครียด จากเดิมตั้งใจจะทำงานแต่จิตใจว้าวุ่นเหลือเกิน จนไม่อาจทำอะไรทั้งนั้น“ไททัน เอาเหล้ามาหน่อย” ตะโกนบอกคนนอกห้อง สักพักไททันเปิดประตูเข้ามาพร้อมขวดเหล้า“ได้แล้วครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มวางขวดเหล้าตรงหน้าเจย์เดน แล้วจากไปทันใดเนื่องจากอารมณ์ของเจ้านายไม่คงที่ เขากลัวโดนลูกหลงแอ๊ด! พ้นร่างไททันไม่กี่นาทีประตูห้องเปิดอีกครั้ง ชายหนุ่มเตรียมจะอ้าปากด่าเพราะคิดว่าเป็นลูกน้องคนสนิท แต่หยุดชะงักเมื่อเห็นหน้าบุคคลมาใหม่“มาทำไม” เอ่ยถามเสียงเรียบ แล้วหันมาสนใจดื่มเหล้าต่อ ก่อนอีกคนจะเดินไปนั่งตรงโซฟาข้างกายเขา“นี่เป็นคำพูดแรกของคนที่ไม่ได้เจอตลอดหนึ่งสัปดาห์เหรอ เย็นช
แสงตะวันในยามเช้าสาดกระทบมายังปลายเตียง หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจัดการกิจวัตรประจำวันจนเสร็จเรียบร้อย แล้วแบกร่างไร้เรี่ยวแรงไปทำงานดั่งทุกวัน แม้เมื่อคืนเพิ่งผ่านศึกรักหนักหน่วงมากแค่ไหน พอเช้าต้องไปทำหน้าที่แม่บ้างซึ่งห้ามปริปากบ่นสักคำในเมื่ออยู่ในฐานะเชลยไม่มีสิทธิ์พูดหรือแสดงท่าทีใด ๆ ทั้งสิ้นให้เจ้าของคฤหาสน์เห็น ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แม้กระทั่งการโต้เถียงหรือทะเลาะกับแม่บ้านคนอื่น ๆ ยังทำไม่ได้“เฮ้อ อยากกลับบ้านจัง” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกมากมาย ไม่รู้ว่าต้องอยู่ในฐานะเชลยอีกนานแค่ไหน จนกว่าเขาจะยอมปล่อยเป็นอิสระหญิงสาวมองทางเบื้องหน้าพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด จากนั้นรีบมุ่งหน้าไปยังที่หมายหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เธอไม่รอช้าไปยังห้องนอนของเจย์เดนตามคำสั่งที่ได้รับเมื่อคืน คือการทำความสะอาด ขณะกำลังปัดฝุ่นตามซอกเตียง ทันใดนั้นสายตาดันปะทะเข้ากับรูปภาพใบหนึ่ง เมื่อหยิบขึ้นดูพบว่าเป็นภาพของสาวสวยคนหนึ่ง ผมลอนสีบลอนด์ ดวงตาสีครามราวกับน้ำทะเล ช่างเป็นผู้หญิงสวยมาก ใครที่ได้เห็นต้องหลงใหลตามกัน ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังรู้สึกชอบเลย“ใครเหรอ สวยจ