“เข้าไป” เจย์เดนเปิดประตูห้องหนึ่งพร้อมสั่งคนตัวเล็กข้างกายเข้าไปข้างใน
“ไม่เอา” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา เธอกลัวความมืดจึงไม่กล้าเข้าไปตามลำพัง
“นี่คือบทลงโทษของเธอ เข้าไปซะ!!”
“ไม่เอา ขอร้องอย่าทำแบบนี้”
“เธอไม่มีสิทธิ์ขัดขืน” เขาผลักร่างเล็กไปด้านในก่อนล็อกประตูโดยไม่สนใจเสียงร้องของณิชา แล้วเดินออกห่างจากบริเวณนั้น
ปัง! มือเล็กทุบประตูถี่รัวพลางส่งเสียงเรียกคนข้างนอก ทว่าไม่มีใครสนใจเลย กระทั่งเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจนหยุดลง
“ฮึก ฮือ ๆ ณิกลัวเหลือเกิน” หญิงสาวนั่งชันเข่าและปล่อยน้ำตาปลอบประโลมจิตใจในยามนี้
ภาพความทรงจำในอดีตพรั่งพรูเข้ามาในหัวราวกับหนังม้วนหนึ่ง แม้อยากสลัดทิ้งก็ทำไม่ได้เพราะสถานการณ์ในตอนนี้บีบบังคับทำให้นึกถึง
ย้อนหลังไปเมื่อสิบสามปีก่อน
ในคืนที่ฝนตกหนักภายในบ้านขนาดปานกลาง เด็กหญิงวัยสิบขวบกำลังถูกแม่เลี้ยงฉุดกระชากและลากพาไปยังที่หนึ่ง
“น้าจะพาณิไปไหน” ณิชาในวัยสิบขวบถามด้วยเสียงสะอื้น
“พาแกไปขังไง ดื้อนักใช่ไหม”
“ณิไม่ได้ดื้อนะคะ” เด็กหญิงพยายามอธิบายให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงฟัง
“มันโกหกแม่ นังณิมันตีหนูด้วย” เด็กหญิงอีกคนรุ่นราวคราวเดียวกับณิชาแทรกขึ้น
“แกตีลูกฉันด้วยเหรอนังณิ” จ้อมเขม็งเด็กหญิงก่อนฟาดหัวไหล่เล็กสองสามที
“ฮือ ๆ ณิไม่ได้ทำโบนัส” ใบหน้าเปื้อนน้ำตามองแม่เลี้ยงอย่างอ้อนวอน
“ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดอีกเหรอ นังณิ” ว่าแล้วก็ทุบตีณิชาอีกสอบสามครั้ง “รีบลุกขึ้นและตามมา” ตะคอกใส่เด็กน้อยวัยสิบขวบ จากนั้นกระชากณิชาไปยังที่หมาย
เมื่อมาถึงห้องเก็บของที่มืดสนิท ณิชาก็ถูกเหวี่ยงเข้าไปข้างใน เธอพยายามทุบประตูเพื่อขอร้องคนข้างนอก
“น้าเปิดประตูให้ณินะคะ ณิกลัว”
“อยู่ในแหละต่อให้แกร้องแหกปากเสียงดัง พ่อแกก็ไม่ได้ยินหรอกเพราะคืนนี้พ่อแกไม่กลับ”
“ณิไม่อยากอยู่ในนี้”
คราวนี้ไม่มีเสียงตอบกลับของคนข้างนอก ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าแม่เลี้ยงและลูกติดแม่เลี้ยงจากไปแล้ว โดยไม่มีใครแยแสเธอสักนิด
“ฮือ ๆ แม่จ๋า…ณิกลัวเหลือเกิน” ณิชาร้องไห้ตัวสั่นสะท้านราวกับลูกนกน้อยน่าสงสาร
เธอสูญเสียมารดาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ หลังจากนั้นต้องไปอยู่กับพ่อซึ่งแต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงที่มีลูกติดอย่างโบนัส ทว่าพ่อไม่เคยรักเธอเลย ที่รับมาเลี้ยงเพราะความจำใจล้วน ๆ เธอจึงถูกสองแม่ลูกกลั่นแกล้งตลอด โดยผู้เป็นพ่อรับรู้แต่ไม่เคยช่วยเหลือ แต่ครั้งนี้หนักกว่าครั้งไหน
“เสียงอะไร หนูเหรอ” เสียงร้องของสัตว์ในห้องเก็บของ ทำให้เด็กหญิงตกใจมาก พยายามถอยหลังชิดผนังห้องแต่ไม่วายโดนหนูกัดอยู่ดี
หลังจากคืนนั้นเป็นต้นมา ณิชาล้มป่วยไปหลายวันจนเกือบปางตายและกลายเป็นปมในใจ เมื่อไรที่ต้องอยู่ในห้องมืดสนิทจะเกิดอาการหวาดกลัวและตัวสั่น บางครั้งถึงขั้นหายใจติดขัด
กลับมายังปัจจุบัน
ณิชาล้มตัวลงนอนบนพื้นห้องเย็นเฉียบ น้ำตายังคงพรั่งพรูต่อเนื่องไม่ขาดสาย
“ณิทำอะไรผิดนักหนาเหรอ ทำไมทุกคนถึงลงโทษณิแบบนี้” พูดด้วยเสียงสะอื้น ความเหนื่อยส่งผลให้คนตัวเล็กผล็อยหลับ
ณิชาถูกขังในห้องใต้ดินตลอดทั้งคืนจวบจนถึงเช้า ช่วงเวลาแปดโมงเช้าประตูห้องถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเจย์เดน ชายหนุ่มสอดสายตามองหาคนตัวเล็กก่อนเห็นนอนคาพื้น
“นี่เธอ” เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ จากนั้นพยายามจะปลุกณิชา เมื่อไม่มีการตอบสนอง จึงย่อตัวลงและเอื้อมมือแตะร่างเล็กก่อนชักกลับอย่างไว
“ร้อนชะมัด ไม่สบายเหรอ” ช้อนตามองหญิงสาว เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนอุ้มเธอเข้าสู่วงแขน แล้วพาออกจากห้องใต้ดิน
“บอสครับ คุณณิชาเป็นอะไรเหรอ” ไททันบังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี
“รีบตามลีออนให้หน่อย ผู้หญิงคนนี้ตัวร้อนมาก”
“ครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำสั่งเสร็จ เขาจัดการต่อสายหาแพทย์หนุ่มอย่างรีบร้อน
มาเฟียหนุ่มพาคนป่วยในอ้อมแขนไปห้องนอนรับรองแขกห้องเดิมที่เธอเคยพัก เจย์เดนวางเธอลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ แล้วยืนเท้าสะเอวจ้องณิชา
“บอสครับ ผมตามคุณลีออนแล้ว” ไททันเดินพรวดเข้ามาในห้องพร้อมรายงานเจ้านายหนุ่ม
“อืม”
เจย์เดนกับไททันรอคอยไม่นานนายแพทย์ก็ปรากฏ โดยแมรี่เป็นคนนำทางลีออนมายังห้องนอน
“พี่ นี่มันอะไรอีกแล้ว”
“อย่าเพิ่งพูดมากลีออน ตรวจผู้หญิงคนนั้นก่อน” เจย์เดนตัดบท ลีออนเลยทำอะไรไม่ได้จำเป็นต้องตรวจร่างกายของณิชาตามคำสั่ง แพทย์หนุ่มใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย แล้วแจ้งอาการแก่เจย์เดน
“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ ให้เธอพักผ่อนอีกสองสามวันและกินยาที่ผมจัดให้ อีกไม่นานก็หาย”
“อืม ขอบใจมาก”
“จะบอกได้ยังว่ามันเรื่องอะไร เธอคนนั้นเป็นใคร” ลีออนเปิดประเด็นในเรื่องที่สงสัยทันที
“ออกไปก่อน” หันไปกล่าวกับลูกน้องคนสนิท
“ครับ”
พ้นร่างของลูกน้องคนสนิท เจย์เดนหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงข้างคนตัวเล็ก ชายหนุ่มแหงนหน้ามองน้องชายบุญธรรมราวกับต้องการให้ลีออนถามใหม่อีกรอบ
“ผมอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร”
“เธอเป็นเชลยของฉัน”
“เชลยอะไรของพี่ เธอคนนี้ทำอะไรผิดถึงได้เป็นเชลยของพี่”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง”
“พี่” ลีออนมองพี่ชายบุญธรรมด้วยสายตาผิดหวัง
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นลีออน ถึงฉันจะเอ็นดูนายไม่ต่างจากคริส แต่ถ้าทำให้ฉันโกรธก็ไม่เว้นเหมือนกัน”
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนละกัน” แพทย์หนุ่มถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ขืนยังพยายามเค้นคำตอบจากปากเจย์เดนมีหวังโดนโกรธ ดังนั้นจึงยอมถอยไปก่อน
“ฉันไม่ไปส่ง”
“ครับ” แพทย์หนุ่มเหลือบมองณิชาครู่หนึ่งก่อนจากไปอย่างไม่มีทางเลือก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำเธอคือใครแต่รู้สึกสงสารจับใจ
เจย์เดนยังคงนั่งนิ่งในห้อง ประสานมือหนาเข้าหากันพร้อมก้มหน้ามองพื้น
“เฮ้อ…ทำไมเหนื่อยแบบนี้วะ” จู่ ๆ รู้สึกไร้เรี่ยวแรง
“ฮึก ฮือ ๆ ณิกลัวแล้วอย่าทำณิอีกเลย” คนป่วยร้องละเมอ
“นี่เธอ” เจย์เดนกระโดดขึ้นเตียง เมื่อเห็นณิชาพยายามจะทำร้ายตัวเองด้วยการทึ้งผมและทุบตีตัวเอง
“ตั้งสติดิวะ” คนตัวเล็กยังคงไม่หยุดทำร้ายตัวเอง เจย์เดนไม่มีทางเลือกเลยล้มตัวลงนอนข้างเธอและดึงร่างเล็กมากอดแน่น
“ฮึก ฮือ ๆ กลัวแล้ว” คนละเมอพูดด้วยโทนสีเจ็บปวด คนได้ยินอย่างเจย์เดนแอบปวดหนึบ เขาเองก็ไม่เข้าใจทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัว” มาเฟียหนุ่มพูดปลอบคนตัวเล็กในอ้อมกอด ยกมือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังเล็กด้วยความอ่อนโยน จนเธอเริ่มสงบลงและหลับในที่สุด
ดวงตาคมกริบจ้องมองคนป่วยดั่งต้องมนต์สะกด เขาโน้มหน้าจุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเกลาราวกับมีแรงดึงดูดเรียกร้องให้เขาสัมผัส
“บ้าเฮ้ย! ทำอะไรลงไปวะ” เจย์เดนเด้งตัวลุกขึ้นทันใด เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันทำไมถึงเผลอจุมพิตณิชา
“อย่าคิดว่าฉันจะหลงกลผู้หญิงอย่างเธอ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหัวเสีย จากนั้นรีบออกจากห้องเร็ว ๆ ทิ้งณิชาอยู่คนเดียว
หนึ่งวันต่อมา
อาการป่วยของณิชาเริ่มทุเลาลง หญิงสาวป่วยไปหนึ่งวันเต็ม วันนี้เธอดีขึ้นมากและเริ่มมีสติ เปลือกตาบางขยับขึ้นเชื่องช้าแล้วพบกับสาวใช้คนหนึ่งกำลังวุ่นวายทำอะไรสักอย่าง
“เธอ” เสียงหวานเอ่ยขึ้น
“ตื่นได้สักที” สาวใช้คนนั้นบอกอย่างไม่พอใจ
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เพราะความทรงจำครั้งสุดท้ายคือห้องใต้ดิน
“ไม่รู้ นอนป่วยเป็นภาระคนอื่นอยู่นั่นแหละ”
“เธอเป็นคนดูแลฉันเหรอ”
“ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใคร เธอนอนป่วยตั้งหนึ่งวัน”
“ขอบคุณนะ” เผยยิ้มอ่อนแก่สาวใช้
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ฉันทำตามคำสั่งบอส”
“หมดหน้าที่แล้วก็ออกไป” เสียงทุ้มแทรกขึ้น
“ค่ะบอส” ทำความเคารพเสร็จก็จากไป
ณิชาเหลือบมองเจ้าของคฤหาสน์แวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาดุดัน อีกทั้งเธอไม่อยากมีปัญหากับอีกคนกลัวโดนจับขังไว้ในห้องนั้น
ปลายลิ้นร้อนอุ่นตวัดเลียบนยอดถันสีหวาน ซึ่งกำลังท้าทายให้มาเฟียหนุ่มตักตวงตามความปรารถนา ก่อนฝ่ามือใหญ่อีกข้างจะยกขึ้นมาบีบขยำดอกบัวตูมอย่างหลงใหล“อื้อ อ๊า พี่เจย์คะ ทำไมดูดแรงแบบนี้คะ” เธอทั้งเสียวและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน“แล้วไม่ชอบเหรอ” ผงกหัวมองใบหน้าหวานและถามขึ้นขณะยอดถันคาปากหยัก“อื้อ ชอบมากเลยค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ สติเริ่มเลือนรางทุกทีการสัมผัสของมาเฟียหนุ่ม ส่งผลให้ณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ยอมให้เขาแตะต้องได้เต็มที่เจย์เดนพรมจูบทั่วเรือนร่างงดงาม ไม่วายประทับตราสีแดงกุหลาบตามจุดต่าง ๆ เธอในช่วงตั้งครรภ์รูปร่างอวบอั๋นมาก ไม่ว่าจะจับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงได้ยังไง“อื้อ อ๊า ทำไมตัวเมียหอมแบบนี้”“อื้อ พี่เจย์”กายสาวดิ้นพล่านไปมาเมื่ออีกคนเริ่มแยกขาเรียวออกจากกันกว้างและนำปลายลิ้นสากตวัดเลียปุ่มกระสัน“อื้อ อ๊า ตรงนั้น สะ เสียวเหลือเกิน” ณิชาร้องครางไม่เป็นภาษา มือเรียวสอดเข้าไปในเส้นผมนุ่มของคนตัวโตพร้อมกับขยุ้มเบา ๆ เพื่อระบายความเสียวซ่าน“หวานเหลือเกิน เมียจ๋า”ไม่ว่าจะชิมตรงไหนก็หวานบาดลิ้นไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาคลั่งไคล้ใน
ณิชากลับไปหาเจย์เดนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้เคลียร์ใจกับสมายล์เรียบร้อย ทำเอาคนตัวโตกำลังจ้องมองหญิงสาวเกิดความรู้สึกประหลาดใจ“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงจ้องณิแบบนั้น”“พี่แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ณิหายไปเมื่อกี้”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”“น่าสงสัย” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันพลางสังเกตปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่เจย์ขี้สงสัยไปได้” คริสตัลแทรกขึ้น ก่อนหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับณิชาราวกับอยากแกล้งมาเฟียหนุ่ม“ไม่ได้พาณิไปหาไอ้หนุ่มที่ไหนใช่ไหม” คนขี้หวงบอกอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่รู้สิคะ” ยักไหล่ใส่พี่ชายอย่างไม่แยแส“คริส พี่ไม่ตลกนะเล่นแบบนี้”“ดุอะไรน้องล่ะ โน้นไปถามณิสิ” คริสตัลบุ้ยปากไปยังณิชาซึ่งเดินไปหาคาลอสกับคลอเดียตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว“ไม่กล้าไปถามณิละสิ” คริสตัลบ่นพึมพำ เธอรู้หรอกพี่ชายไม่กล้าดุหรือตำหนิณิชาเพราะกลัวโดนงอน อีกคนจึงมาเค้นถามจากเธออย่างนี้“บ่นอะไร”“เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูง“พี่เจย์คะ เดินทางกลับอิตาลีอย่างปลอดภัยนะคะ ถ้าน้องว่างจะไปเยี่ยม”“อืม ดูแลตัวเองด้วยนะยัยตัวแสบ” ฝ่ามือหนาลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู แม้ว่าคริสตัลจะแต่งงานและมีลูกแล้ว แต่ยังคง
หลังจากทั้งสี่คนปรับความเข้าใจกัน คาลอสและคลอเดียก็ออกไปเล่นข้างนอกกับไททัน ส่วนณิชาถูกเจย์เดนรั้งไว้บนตักแกร่งพร้อมกอดแน่น“พี่เจย์ ปล่อยณิได้แล้วนะคะ”“อื้อ ไม่เอา ขออยู่แบบนี้หน่อย” เจย์เดนซบหน้าลงบนทรวงอกอวบอั๋นอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อย “กลับไปทำงานได้แล้ว” เธอไม่ค่อยจะชินเลยกับเขาในโหมดนี้ เมื่อก่อนชอบทำหน้าดุและอารมณ์เสียใส่เธอเป็นประจำ“ทำไมชอบไล่พี่จังเลยครับ” ช้อนตามองคนตัวเล็ก“ถามจริงเถอะ ผู้ชายใจร้ายคนนั้นที่ชอบทำตัวเย็นชาใส่ณิหายไปไหนแล้ว”“อย่าพูดถึงมันเลย ไอ้คนนิสัยไม่ดีแบบนั้น รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มเอามือเล็กขึ้นมาจูบพร้อมชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเย้ายวน“คนบ้า” หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย สายตาของเขาจ้องมองปานจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว จนใบหน้าหวานร้อนผ่าว“คืนนี้มานอนห้องพี่นะครับ”“ไม่เอาค่ะ” ขืนไปนอนด้วยมีหวังไม่รอดแน่“ทำไมล่ะครับ ไม่สงสารพี่หรือไง” กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนเพื่อขอให้หญิงสาวทำตามความปรารถนาของตัวเอง“พี่เจย์อย่ามาใช้หน้าตาหลอกล่อณิแบบนี้นะคะ” ยิ่งรู้อยู่ว่าเธอพ่ายแพ้ให้กับใบหน้าหล่อ ๆ ของเขา“พี่รักณิน
“ณิชา…พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น พี่ไม่ได้จะดูถูกณิเลยนะครับ พี่แค่ไม่อยากให้ณิพาลูกไปไหน” เงยหน้ามองแม่ของลูกทั้งน้ำตา เขาไม่อยากพบเจอการจากลาเหมือนในอดีต แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว“เป็นอะไรของคุณ” เป็นครั้งแรกเห็นน้ำตาของคนตัวโต “ร้องไห้ทำไมคะ” นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มอีกคนอย่างอ่อนโยน แต่เจย์เดนไม่หยุดร้องยังคงปล่อยน้ำตาไหลราวกับทำนบแตก“ถ้าครั้งนี้ทิ้งพี่ไปอีก พี่คงได้ตายแน่ ๆ”“เป็นอะไรของคุณ” คำพูดกับท่าทางของมาเฟียทำเอางุนงงไปหมด จู่ ๆ ทำไมถึงร้องไห้สวนทางกับตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ใจเธออ่อนยวบ“ฮึก ฮือ ๆ พี่รักณินะครับ รักมากเหลือเกิน”“คุณเจย์” คำสารภาพรักของเจย์เดน ณิชาถึงกับชาวาบจนคิดว่าตัวเองหูแว่วหรือฝันไป“พี่รักณินะ รักมานานแล้ว ขอโทษเมื่อก่อนทำร้ายณิสารพัดโดยที่ไม่ฟังคำพูดณิสักครั้ง พี่มันแย่เอง” เจย์เดนพูดตัดพ้อมากมาย“หยุดร้องไห้ก่อนเถอะ คุณเจย์” ยิ่งช่วยซับน้ำตาให้เขามากเท่าไร อีกคนยิ่งปล่อยโฮมากเท่านั้น จนเธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน“ขอร้องนะคนดี อย่าทิ้งพี่ไปเลย” หยาดน้ำตาพรั่งพรูเปื้อนใบหน้าหล่อคมต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีท่าทีจะหยุดง่าย ๆ“ใจเย็น
สายลมยามเย็นพัดพลิ้วกระทบผิวกายคนตัวเล็กซึ่งนั่งปูเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนเด็ก ๆ วิ่งเล่นบริเวณนั้นโดยป้าแม่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหลังจากรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม พักหลังมานี้หญิงสาวค่อนข้างเหม่อบ่อยเป็นพิเศษ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากคิดไม่ตกเรื่องเด็กในท้อง กลัวว่าหากคลอดออกมาแล้วจะลำบากกว่าเดิม ลำพังเลี้ยงดูคาลอสกับคลอเดียแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงกระนั้นไม่คิดจะเอาเด็กออกเด็ดขาดหรือบอกเจย์เดนให้รับรู้เช่นกันในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ ฉะนั้นไม่อยากเอาลูกมาเป็นข้อผูกมัดระหว่างกัน อีกอย่างไม่คิดยกลูกให้เขาเช่นกัน เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องพ่อแต่งงานใหม่แล้วโดนแม่เลี้ยงรังแก ซึ่งไม่ปรารถนาให้ลูกพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดียวกับเธอ ไม่ต่างจากฝันร้าย“กลุ้มใจจังเพราะท้องหรือเปล่านะถึงคิดมากแบบนี้” ใบหน้าหวานเหลือบมองวิวข้างหน้า เป็นแม่น้ำที่มีผู้คนปั่นเรือเป็ดอย่างเพลิดเพลิน“หม่ามี้ครับ” คาลอสตะโกนเรียกผู้เป็นแม่พลางวิ่งมาหาณิชาก่อนนั่งลงด้านข้าง“เล่นจนเหนื่อยแล้วเหรอ” ว่าแล้วชำเลืองมองคลอเดียกำลังวิ่งเล่นอย่างไม่รู้จักเหนื่อย จากนั้นส่งยิ้มหวานให้กับลูกชายตัวน้อย“ไม่สนุกเลยค
อากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงกำลังทำงาน ส่งผลให้ณิชานอนหดตัวด้วยความหนาวสะท้านทั่วทั้งกาย แขนบอบบางวาดวงพื้นที่ว่างข้างกายก่อนพบความว่างเปล่า“หายไปไหน” เบิกตาขึ้นเชื่องช้าและกลอกตามองหาทั่วห้องหลังจากจบศึกรักเมื่อคืนเธอจำได้แค่ว่าตอนอยู่ในห้องน้ำ เธอกับเขากำลังแช่น้ำสมุนไพรในอ่าง จากนั้นภาพตัดไปเลยและตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันใหม่“คาลอส คลอเดีย” ณิชาเพิ่งนึกขึ้นได้ทิ้งลูกไว้ในห้องนอนอีกห้องตามลำพังจึงเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนก้มหน้าสำรวจตัวเองอยู่ในสภาพชุดนอนซึ่งไม่ต้องบอกพอเดาออกใครเป็นคนสวมใส่ให้“ห๊ะ!! สิบโมงแล้วเหรอ” ดวงตากลมโตปะทะกับนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นกระโดดลงจากเตียงด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ ทันทีที่เท้าเล็กแตะพื้น ร่างเล็กทรุดกองกับพื้นด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบทั่วสรรพางค์กาย“อึก เจ็บจัง” แขนเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้อง ถึงกระนั้นเธอไม่ได้นั่งอ้อยอิ่ง พยายามแบกร่างกายปวดระบมออกไปข้างนอก“หม่ามี้” ทันทีณิชาปรากฏเด็ก ๆ ทั้งสองคนวิ่งมาโอบกอดขาผู้เป็นแม่อย่างดีใจ“หม่ามี้ขอโทษนะคะ คาลอสกับคลอเดียหิวแย่เลย” หญิงสาวนั่งย่อง ๆ อยู่ระดับเดียวกับลูกทั้งสองและลูบหัวเด็กน้