LOGINลองตายดูสิ...เผื่อฉันจะปล่อยเธอไป -TOXIC RELATIONSHIP- “เมื่อมีคนทรยศ...ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ” “คุณมันคนสารเลว”
View Moreลองตายดูสิ...เผื่อฉันจะปล่อยเธอไป
สัมผัสรักมาเฟียร้าย
[วาดิม x มีก้า]
-TOXIC RELATIONSHIP-
“เมื่อมีคนทรยศ...ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ”
“คุณมันคนสารเลว”
วาดิม โจว หรือ คุณโจว
นักธุรกิจหนุ่มทายาทเจ้าของท่าเรือขนส่งในฮ่องกง อายุ 32 ปี
เบื้องหน้าเขาคือนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในเงินทองและอำนาจ
เบื้องหลังเขาคือมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล
มีอดีต เกลียดการหักหลัง และชอบเอาคืน
ธรรมมิกา อาชาไชย หรือ มีก้า
ลูกสาวสุดรัก วัฒนา อาชาไชย ผู้ดูแลสัมปทานธุรกิจท่าเรือขนส่งในไทยภายใต้ตระกูลโจว
หญิงสาววัยแรกแย้มผู้ที่ถูกเลี้ยงมาดั่งนกน้อยในกรงทอง อายุ 27 ปี
ดื้อเงียบ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ
⛔️ห้ามคัดลอกดัดแปลงนิยาย โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง⛔️
พบเจอ คูณ 10 ของรายได้ทุกแอปพลิเคชันที่ลงนิยายเรื่องนี้ไว้
หนังสือเล่มนี้คุ้มครองตามความแห่ง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 27,69
ห้ามทำซ้ำหรือดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชน
หรือให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
ก่อนได้รับอนุญาตต่อเจ้าของผลงานเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น
#คำเตือน เนื้อหานิยายมีคำหยาบคาย เพศ และการใช้ภาษา เยาวชนควรใช้วิจารณญาณ
______________________________
ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวร่างเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมอย่างดี ตรงโต๊ะด้านหน้ามีทั้งอาหารและเครื่องดื่มตั้งเรียงรายไว้หลายอย่าง ราวกับว่ากำลังอยู่ในงานเลี้ยงก็ไม่ปาน
ทว่าในความเป็นจริงนั้นร่างกายของเธอกลับถูกพันธนาการด้วยเชือกป่านสีขุ่นร้อยรัดมัดไว้กับเก้าอี้ บริเวณดวงตาถูกผ้าดิบสีเข้มผูกปิดไม่ให้มองเห็นสิ่งอื่นใด ปลายเท้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน
“ผมคิดว่าคุณจะมีแต่ลูกบุญธรรมชายนั่นเสียอีก…”
คำพูดของวาดิม โจวทำให้หัวใจของชายวัยใกล้ฝั่งสั่นสะท้าน ดวงตาหม่นแสงจับจ้องไปยังเบื้องหน้า หัวใจคล้ายกับขาดออกไปไกล ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวจับจิตใจ
“คุณพ่อคะ นั่นคุณพ่อไหมคะ” เสียงแหบแห้งของหญิงสาวที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้เปล่งออกมาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เธอจำได้ว่านั่นคือเสียงบิดาผู้ให้กำเนิด
“ผะ ผมขอเวลาคุณโจว ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองสภาพเจ้าพ่อใหญ่อย่างวัฒนา อาชาไชย มุมปากหยักของมาเฟียหนุ่มหยักยิ้ม ดวงตาคมเข้มตวัดกวาดไปมองทั่วทั้งบริเวณ
คนของอาชาไชยนอนเกลื่อนกลาดทั้งยังมีลมหายใจและไร้ลมหายใจ หากไม่เห็นแก่ไมตรีที่มีกันมาเนิ่นนาน สักคนเขาก็ไม่คิดจะเก็บไว้!
ผ้าดิบที่ถูกปิดดวงตาของหญิงสาวร่างอ้อนแอ้นอรชรถูกดึงออก ความรุนแรงของเนื้อผ้าบาดเข้าไปที่โหนกแก้มข้างซ้ายของเธอจนเลือดซิบ
“เมื่อมีคนทรยศก็ต้องมีคนรับผิดชอบ”
“คุณมันคนสารเลว”
เพียะ! สิ้นคำพูดที่หลุดออกมาจากปากบาง ใบหน้าสวยหวานสะบัดไปตามแรงตบ
ธรรมิกา อาชาไชย เงยหน้าขึ้นจ้องมองคนที่ตบหน้าเธอด้วยดวงตาวาวโรจน์ ก่อนจะถ่มน้ำลายผสมเลือดสีข้นใส่คนตรงหน้าตอกย้ำว่าเธอไม่ได้เกรงกลัวเขา
***************
นิยายเรื่องนี้ถ่อยค่ะ มีถ้อยคำหยาบคาย แต่ไม่ใช่หยาบโล้นยังคงตามไลน์เขียนของนามปากกาแสงเทียน
พระเอกโหดร้าย รุนแรง ป่าเถื่อน เลวแบบอิหยังวะ TOXIC สุด ๆ หัวจะปวดตลอดเวลา
ใครไม่ชอบกดผ่านเลยนะคะ เทียนมีเขียนนิยายรักหลายเรื่องค่ะ ใครชอบแบบไหนอ่านแบบนั้น
ไม่ต้องมาหาเหตุผลหรือความสมดุลของโลกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ อ่านเอาสนุก ซ้อมปากซ้อมคอ เทียนเขียนเพื่อนักอ่านที่คิดถึงงานดราม่าของแสงเทียนจริง ๆ ค่ะ
ฝากคุณโจว นามสกุลโบ้ด้วยนะคะ หอนไม่เลิกราาาาา หอนจนเจ็บคอ
ไม่ต้องหาอาหารหมาโยนให้นะคะ เพราะพี่โจวเขารวยค่ะ ผลิตเองได้ ทำเองกินเองนักเลงพอ 5555555
บทที่ 5 ไม่ใช่อย่างที่คิดวาดิม โจว เป็นทายาทตระกูลมาเฟียใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล ชื่อเสียงของเขาเป็นที่ต้องการรู้จักในช่วงสองปีให้หลังมานี้ หลังจากที่มาเฟียใหญ่อย่าง หลาง โจว ล้มป่วยลง ลูกชายเพียงคนเดียวอย่างวาดิมก็ขึ้นนั่งตำแหน่งตระกูลโจวมีบุญคุณล้นเหลือกับตระกูลอาชาไชยมาหลายชั่วอายุคน และไว้ใจอาชาไชยประหนึ่งคนร่วมสายเลือด ถึงได้กล้าให้ดูแลกิจการสัมปทานท่าเรือขนส่งในประเทศไทยโดยไม่เคยส่งใครมาตรวจสอบจนเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นในโลกออนไลน์ประเทศไทย มีการกล่าวหาว่าอาชาไชยทำเรื่องผิดกฎหมายและที่ทำได้ไม่มีใครกล้าแตะต้องเพราะมีนายทุนใหญ่หนุนหลังนั่นก็คือตระกูลโจว ตระกูลผู้มีอิทธิพลในฮ่องกงข่าวเดี๋ยวนี้มันดังข้ามประเทศอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักตระกูลโจวโดนตรวจสอบ แม้จะบอกว่าเป็นการตรวจเยี่ยมประจำปีของทางภาครัฐ แต่ไม่ว่าจะคลังสินค้า เรือทุกลำที่ผ่าน หรือแม้แต่กระทั่งบริษัทเองก็โดนภาครัฐเข้าเยี่ยมทั้งหมดที่ผ่านมาตระกูลโจวไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ ข่าวเรื่องนี้จึงส่งผลต่อธุรกิจและความน่าเชื่อถือของตระกูลโดยตรง ทำให้หัวหลักอย่างวาดิมที่เพิ่งขึ้นนั่งตำแหน่งได้ไม่นานรู้สึกโกรธจนอยากจะแล่เนื้อเถือหนังอาชาไชยเป็นช
บทที่ 4 สมบัติส่วนตัว“มีก้าพ่ออยากให้ลูกคิดให้ดีอีกครั้ง มันยังมีวิธีและพ่อจะไปคุณกับคุณหลางเอง”วัฒนาเจออดีตมาเฟียใหญ่ทุกปีอยู่แล้ว เพราะในหนึ่งปีจะมีงานแซยิดที่เขาจะต้องไปร่วมงาน และทุกคนภายใต้ตระกูลโจวต้องไปร่วมงาน เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ที่เจ้าพ่อใหญ่เชื่อว่าตัวเองยังคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะค้ำประกันชีวิตลูกสาวไว้ได้“มีก้าคิดดีแล้วค่ะ ทางเดียวที่จะหยุดความโกรธแค้นของเขาได้ คือลูกต้องไปอยู่ที่นั่น”ไปอยู่รับกรรมที่พี่ชายบุญธรรมเป็นคนก่อ คงไม่มีใครเข้าใจว่าธรรมิกาจะไปทำไม แต่เพราะเธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาชาไชยก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ และเธอเองยินยอมที่จะเป็นแบกรับทุกความโกรธแค้นของวาดิมไว้เอง มันดีกว่าที่บิดาของเธอต้องมารับเรื่องนี้เอาไว้ธรรมิกาได้โอกาสจากวาดิม ตามข้อตกลงคือเธอจะไปทำงานกับเขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าตัวประกัน ทางอาชาไชยต้องพาตัวเมสันกลับมาให้วาดิมเพื่อแลกกับชีวิตทายาทเพียงหนึ่งเดียววัฒนากุมมือลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำตาของความพ่ายแพ้ให้ไหลริน ลูกสาวของเขาต้องไปเป็นตัวประกันจนกว่าจะหาเมสันเจอ และเมื่อนั้นวาดิมจะปล่อยธรรมิกากลับคืนสู่อ
บทที่ 3 ต่อรองธรรมิกาไม่เถียงว่าเมสันใช้นามสกุลอาชาไชยเช่นเดียวกันกับเธอ ความห่างเหินของสองพี่น้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ได้ แต่มารู้ตัวอีกทีเราก็พูดคุยกันน้อยมากแต่พี่ชายบุญธรรมของเธอก็ไม่ได้แย่กับเธอนัก เพียงแต่เขาไม่ได้สนิทสนมกับเธอเหมือนแต่ก่อน และธรรมิกาก็รู้ว่านิสัยของเมสันจะดีแต่กับบิดาของเธอ ส่วนกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนที่ต่ำกว่าเขา เมสันจะกดหัวรวมไปถึงเฉยชาไม่ว่ากับใครก็ตาม แม้กระทั่งบางครั้งเมสันก็เฉยชากับเธอราวกับคนที่ไม่ใช่พี่น้องกันธรรมิกาไม่คิดจะถือสาเพราะเข้าใจเมสันดีว่าการเติบโตมาท่ามกลางการที่ต้องพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลามันลำบากและทุกข์ใจแค่ไหน เมสันต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อยและอาจจะมากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ ต่างกันกับเธอที่ไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรเลย เพราะสายเลือดของเธอคืออาชาไชยที่แท้จริงคนเราแววตามันบอกทุกอย่างและด้วยความอยากรู้อยากเห็น ธรรมิกาอยากจะลองวิชาที่ร่ำเรียนมาสักหน่อย หญิงสาวจึงเอาเอกสารบัญชีงบการเงินของบริษัทมาคำนวณสักหนึ่งชุด และก็นั่นแหละเธอพบความแปลกประหลาดของงบการเงินที่มันไม่สมดุลนั่นก็หมายความว่ามีคนโกง และโกงเป็นขบวนการธรรมิการู้ว่ามี
บทที่ 2 สองตระกูล“คุณโจวฆ่าผมเถอะ ผมขอแค่คุณรับปาก…ปล่อยลูกสาวผมไป มีก้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย”“ถ้าคุณพ่อตาย! มีก้าก็จะตายไปกับคุณพ่อ!”ทั้งที่ปืนจอหน้าผากคนเป็นพ่อ ส่วนลูกโดนบีบคอจนเกือบตาย แต่พ่อลูกก็มีความทะนงตนในตัวเองวัฒนายังไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ลูกชายมันทำ คนของอาชาไชยคนอื่นมีส่วนรู้เห็นด้วย คิดว่าตายคนเดียวแล้วเรื่องมันจะจบง่ายหรือไง!“อะ ไอ้ อึกกก สะ สารเลว อือออ” ธรรมิกาไม่ได้ด่าคนที่กำลังบีบคอเธออยู่ แต่หญิงสาวด่าวาดิมต่างหากดวงตากลมโตที่แสนจะดื้อรั้นและอวดดียังคงมองเขาไม่ละสายตา ส่วนปากเธอก็ทำงานอย่างหนักมุมปากของวาดิมยกสูงขึ้น เขามองลูกน้องตัวเองที่กำลังบีบลำคอลูกสาวสุดที่รักของวัฒนามาเฟียหนุ่มนึกสนุกจึงยกมือขึ้นคล้ายจะห้าม ลูกน้องเขาก็คลายแรงบีบที่ลำคอเธอ ก่อนที่วาดิมจะกระดิกนิ้วอีกครั้ง และครั้งนี้ธรรมิกาดวงตาเหลือกลาน จนเมื่อเธอจะขาดใจเขาจึงสั่งให้พอวัฒนาก้มลงไปขอร้องเอาศีรษะกระแทกรองเท้าวาดิม มาเฟียหนุ่มจ้องมองคนรุ่นพ่อที่กำลังยุ่มย่ามกับรองเท้าของเขาอย่างไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่ได้ยกปลายเท้าหนีแต่อย่างใด“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ฮึกกก คุณโจว ผม…”วัฒนายอมสละได้ทุกอ