Chapter 3
ปัญหา
“ลมอะไรหอบ นายมาหาเราถึงที่บ้าน” นิรุตนักธุรกิจส่งออกอาหารแปรรูปทางทะเลส่งออก ทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ค่อยจะได้เจอกัน แต่วันนี้เขากลับมาหาเขาถึงที่บ้าน
“เราพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ เราจะเอาที่ดินมาจำนำนาย”
“ที่ดินที่นายหุ้นกับวิชัยใช่ไหม”
“นายรู้” ภาณุมองหน้าเพื่อนที่นั่งยิ้มให้เขาเหมือนรับรู้ปัญหาทุกอย่าง
“อืม รู้ รู้ก่อนนาย รู้มากกว่านาย” นิรุตกอดอกหลังพิงพนักเก้าอี้รับแขกอย่างสบายใจ
“หมายความว่าอย่างไรวะ เรางงไปไหม” ภาณุไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด เหมือนมีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกเกี่ยวกับวิชัย
“ภาณุนายมันไว้ใจคนง่ายเกินไป ที่ดินตรงนั้นเราเองก็อยากได้ เราตั้งใจจะซื้อ แต่วิชัยมันชวนนายมาหุ้นแล้วซื้อตัดหน้าเรา โดยที่มันติดต่อลูกค้าที่จะซื้อต่อไว้แล้ว ซึ่งมันขายได้ราคาตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเลย แต่มันหลอกนาย จะให้นายยอมขายคืนให้มันในราคาที่ขาดทุน แต่มันก็ผิดแผนเพราะนายไม่ยอมขาย”
“ไอ้วิชัย !! ไอ้เพื่อน เลว...!” ภาณุขบกรามแน่นด้วยความแค้น
“เราก็ลุ้นอยู่ ว่านายจะแก้ปัญหายังไง ขอบใจนะที่ยังคิดถึงเพื่อนคนนี้” นิรุตส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนที่กำลังโกรธ
“ภาณุแต่เราก็เป็นนักธุรกิจ เราคงไม่ยอมเสียเปรียบหรือช่วยนายฟรีๆ เรามีข้อเสนอ”
“ข้อเสนออะไร” ถึงแม้จะต้องการให้นิรุตช่วย แต่ภาณุก็ใช่จะพร้อมยอมทุกอย่าง เขสทำเสียงแข็งกลับ เพื่อให้คนที่กำลังได้เปรียบอย่ามั่นใจไป
“เราจะรับจำนำที่นายแบบไม่คิดดอกเบี้ย แต่นายต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายเรา”
“เพื่ออะไร นายต้องอะไร นายจะได้อะไรถ้าเรายอมทำตาม” ภาณุไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาจะได้อะไรจากการแต่งงานของลูกชาย สิ่งที่สมควรได้คือดอกเบี้ยมากกว่า
“ครอบครัวเราทำธุรกิจประสบความสำเร็จ เรามีเงิน แต่เราไม่ใช่ตระกูลเจ้าใหญ่นายโต นามสกุลดังเหมือนครอบครัวของนาย และสิ่งเหล่านี้เงินก็ซื้อไม่ได้ ”
“ก็แค่ต้องการเกี่ยวข้องเป็นดองกับครอบครัวเราเพราะนามสกุลเก่า เป็นเจ้าเป็นนายในบ้านเมืองนี้ มันสำคัญถึงขั้นที่ทั้งเราและนายต้องบังคับลูกๆให้มาอยู่ด้วยกันทั้งที่เขาไม่รักกัน นายคิดอะไร” ภาณุด้วยหัวอกของความเป็นพ่อ เขาไม่ต้องการดึงลูกสาวทั้งคู่เข้ามาเกี่ยวข้อง
“เราจะคิดอะไร แบบไหน มันก็เรื่องของเรา นายมีสิทธิ์ตัดสินใจ เมื่อไหร่ที่ลูกสาวนายมีหลานให้เรา เราจะยกหนี้ที่นายเอามาจำนำเรารับขวัญหลาน”
“นิรุต นายก็ไม่ต่างจากวิชัย เห็นเราแย่นายก็บีบเรา” ภาณุกำมือแน่น ภายในใจมันร้อนรุ่มไปหมด
“แต่เราไม่เคยโกงใคร เรายื่นขอเสนอตรงไปตรงมา กลับไปตัดสินใจ เราต้องการดองกับสายเลือดของตระกูลดัง ส่วนลูกของเรา เราสั่งคำไหนคำนั้น”
ตลอดทางกลับบ้าน ภาณุรู้สึกเกลียดตัวเอง ที่เป็นสามี เป็นพ่อที่แย่ เขาน่าฟังคำทัดทานของเพ็ญแข ไม่น่าโลภอยากได้กำไรจากการขายที่ ทั้งที่กำไรจากเต็นท์รถ ก็ทำให้ครอบครัวเขาพออยู่พอกินได้สบาย ถ้าเขาหาเงินมาหมุนไม่ได้ ครอบครัวเขาต้องเดือดร้อน กิจการต้องปิด พนักงานทุกคนต่างก็มีครอบครัว น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลายครั้งที่เขาอยากจะขับรถพุ่งลงข้างทางให้ตายๆไป แต่หน้าของเมียกับลูกสาวทั้งสอง ทำให้เขาต้องสู้ต่อ
เมื่อถึงบ้านภาณุพยายามทำทุกอย่างให้ปกติ แต่เพ็ญแขเป็นภรรยาเขามาเกือบยี่สิบปี ทำไมจะสังเกตไม่ได้ ว่าสามีสุดที่รัก กำลังมีเรื่องไม่สบายใจ
“คุณคะ เรายังรักกันอยู่ใช่ไหม” เพ็ญแขเอ่ยขึ้นหลังจากสามีทำท่าจะล้มตัวลงนอน
“ทำไมคุณถามผมแบบนี้” ภาณุมองภรรยาด้วยความแปลกใจ
“ถ้าคุณยังรักฉัน คุณมีเรื่องอะไร ทำไมคุณไม่เล่าให้ฉันฟัง การที่คุณเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว มันไม่ทำให้ปัญหาดีขึ้น คุณกลัวจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ แต่คุณรู้ไหม ที่คุณกำลังทุกข์แบบนี้ ฉันกับลูกไม่มีความสุขเลยเพราะทุกคนเป็นห่วงคุณ”
สองมือเล็กโอบกอดสามี ใบหน้าที่เริ่มมีรอยหย่นตามกาลเวลาแต่ยังคงรักษาความสวยไว้ได้เป็นอย่างดีซบลงบนไหล่ของสามีผู้เป็นที่รัก
“ผมทำทุกอย่างที่เราสร้างมันขึ้นมาพังหมดเลย ผมมันโลภ ผมมันโง่” สองมือหนายกขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้
“สิ่งที่คุณสร้างและมันจะไม่มีวันพังเลย คือความรักของครอบครัวเราค่ะ” เพ็ญแขโอบศีรษะชายผู้กำลังอ่อนแอลงมซบบนอกที่อบอุ่นของเธอ
“มันเกิดอะไรขึ้นคะ เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน คุณยังฉัน มีลูกๆ มีคนที่รักคุณ ”
ภาณุเล่าเรื่องราวตั้งแต่วิชัยหักหลังเขา จนถึงที่เขาไปขอความช่วยเหลือนิรุต และข้อเสนอที่นิรุตให้เขากลับมาคิดว่าตกลงหรือไม่
“คุณเห็นไหมเพ็ญแข พี่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน พี่จะไม่ยอมบังคับให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายที่ลูกไม่ได้รัก มันเหมือนให้ลูกไปตกนรกทั้งชีวิตเลย พี่จะไม่ยอมทำผิดซ้ำสอง ”
เพ็ญแขเข้าใจความรู้สึกของสามีเป็นอย่างดี เพราะเธอรู้ว่าภาณุรักลูกสาวทั้งสองมากแค่ไหน ขนาดพิมพกานต์ไม่ใช่ลูกที่เป็นสายเลือด เวลาเธอไม่สบายไม่มีคืนไหนเลยที่ภาณุจะไม่นั่งเฝ้าลูก ด้วยความดีที่เขามี เธอกับลูกจะไม่ยอมให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาคนเดียวแน่ๆ
“ทุกอย่างมีทางออกค่ะ”
“คุณหมายความว่าอะไร” ภาณุมองหน้าภรรยาอย่างสงสัย
“ฉันจะลองคุยเรื่องนี้กับลูกตรงๆ เขาอยากได้คนที่เป็นสายเลือดคุณ ฉันจะลองคุยกับรดา ถ้าลูกไม่เต็มใจก็ยังเหลือพิมพ์ เพราะนอกจากครอบครัวเราก็ไม่มีใครรู้ว่าพิมพ์ไม่ใช่ลูกของคุณ”
“คุณจะบังคับลูกไม่ได้นะ พี่ไม่ยอม” ภาณุขึงขัง
“ฉันบอกหรือยังคะว่าจะบังคับ ฉันจะถามลูกและให้พวกเขาตัดสินใจกันเอง ถ้าลูกๆไม่ยอม เราก็จะยอมขายที่ดินในราคาที่ขาดทุน แต่เราจะไม่ขายให้วิชัยและพวกพ้องมันค่ะ เราจะเริ่มต้นกันใหม่ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ คนที่ลำบากกว่าเรามีอีกมาก ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออก คุณนอนเถอะนะคะ เหนื่อยเครียดมาทั้งวันแล้ว”
Chapter 39จบบริบูรณ์แม่เล็กหวังว่าหลานชายของเขาจะรู้ว่า ควรทำอย่างไร เพราะตัวแม่เล็กเองก็ไม่รู้ใจได้ ว่าอาการที่ว่านน้ำกำลังเป็น มันเกิดจากความรักหรือความเห็นแก่ตัวที่รู้สึกเป็นเจ้าของ คืนนี้เป็นคืนที่เหงาและสับสนไปหมด ว่านน้ำพยายามถามตัวเอง ว่าเขาเป็นอะไร ทำไมเขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่ได้ ถ้าต้องไม่มีพิมพกานต์ น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลอย่างไม่อายใคร พรุ่งนี้เขาจะไปตามเธอกลับมาให้ได้ ว่านน้ำตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ก๊อกๆ “ว่านคะ วรินทร์เป็นห่วงคุณ เปิดประตูให้รินทร์เข้าไปนะคะ” หญิงสาวผู้ผ่านโลกมาอย่างมากมาย เธอรู้ว่าเวลานี้ คนรักเก่าของเธอกำลังเหงา เป็นโอกาสทีดี ที่เธอจะพยายามเอาหัวใจของเขากลับมาให้ได้ “รินทร์คุณกลับห้องไปเถอะ ผมมีเมียแล้ว ไว้มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน เวลานี้คงไม่เหมาะ” “แต่รินทร์...” “พรุ่งนี้เช้าผมจะให้คนเรือไปส่งคุณที่ฝั่ง แต่ถ้าคุณไม่กลับ ผมก็จะเป็นคนไปอยู่ที่อื่นเอง” คำพูดที่เด็ดขาดไร้เยื่อใย ทำให้วรินทร์ต้องยอมถอยกลับ เพราะรู้ว่าดึงดันต่อไปก็เสียเวลาเปล่า เธอคงต้องกลับไปหา เป้าหมายอื่นแทน พิ
Chapter 38เมื่อไม่มีเธอ...ถึงรู้ว่ารักหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ ว่านน้ำก็ผละตัวออกจากคนรักเก่า เพราะวันนี้ทั้งวัน เขาอยู่กับวรินทร์จนหมดวัน ป่านนรี้ภรรยาของเขาคงงอนนอนหน้าบึ้งอยู่แน่ๆ “พิมพ์คุณเป็นอะไร” เมื่อว่านน้ำเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ได้ยินเสียงภรรยาของเขากำลังอ้วกอยู่ในห้องน้ำ เขาจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง “พิมพ์เป็นอะไร ทำไมไม่บอกพี่ว่าไม่สบาย” ชายหนุ่มตะคอกเสียงใส่ภรรยาที่นั่งพิงโถส้วมอยู่ พิมพกานต์ไม่ตอบ แต่หันมามองสามีของเธอด้วยสายตา ที่เกรี้ยวกราด หมดคำพูดที่จะตอบ เขาช่างไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าวันนี้เขาทำตัวเหมือนคนไม่มีเมีย “พิมพ์ จะมองพี่แบบนี้ไม่ได้นะ พิมพ์มีอะไรก็ต้องบอกพี่” คนตัวใหญ่ยังคงไม่รู้ตัว “คำก็บอกพี่ สองคำก็บอกพี่ แล้ววันนี้ไปอยู่ไหนเสียล่ะทั้งวัน จะประกาศอยู่แล้วว่าผัวหาย” พิมพกานต์ลุกล้างหน้าล้างปากแล้วกลับมานอนหลับตาบนที่นอน ไม่พูดอะไรอีกเลย คืนนี้เป็นคืนที่สอง ที่สองสามีภรรยาต่างนอนหันหลังให้กัน ตั้งแต่วรินทร์มาที่เกาะ พิมพกานต์รู้สึกชีวิตของเธอไม่มีความสุขเอาเสี
Chapter 37หึง“พิมพ์ พิมพ์ พี่กับรินทร์แค่นั่งคุยกันเฉยๆ ไม่มีอะไรจริงๆ” ชายหนุ่มพยายามตะโกนอธิบาย แต่พิมพกานต์ปิดประตูดังปั้ง ก่อนเดินออกจากห้อนนอนไป “รินทร์ต้องขอโทษด้วยนะคะ สงสัยภรรยาคุณจะเข้าใจผิดและคงกำลังหึงคุณจนทำกิริยาไม่น่ารักเลย” หญิงสาวออดอ้อน “ไม่ใช่ความผิดของรินทร์หรอก และพิมพ์เขาก็ไม่ได้หึงผม เขาคงแค่ดมดห ที่เจอเราในนี้ คุณลงไปรอผมที่ครัว เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จจะลงไปกินข้าวด้วย” วรินทร์เดินออกมาจากห้องนอนของคนรักเก่า ด้วยสีหน้าอย่างผู้ชนะ ผู้หญิงที่เธอคิดว่าเป็นคู่แข่งกับเธอ ช่างไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่เธอคิดตอนแรกเลย ถ้าลองมีใครมายุ่งกับสามีของเธอแบบนี้ เธอคงตบสั่งสอนไปสักฉาดสองฉาด แต่นี่อะไรทำได้แต่ปิดประตูใส่ ช่างเด็กน้อยเหลือเกิน วรินทร์คิดในใจ พิมพกานต์เดินมาที่โกดังเก็บของ โดยมีไข่มุกวิ่งตามมาทีหลัง เพราะได้รับคำสั่งจากมารดา ว่าให้คอยดูแลนายหญิง และไข่มุดเองก็ชอบที่จะต้องทำหน้าที่นี้ด้วย “ไข่มุกตื่นแต่ช้าเลย จะไปไหนเหรอ” พิมพกานต์ทักทายเพื่อนตัวน้อยของเธอ “ก็มาหานายหญิงนั่นแหละ แม่บอกให้ดูแลนายหญ
Chapter 36หวั่นไหว“เรื่องอาหาร หิวเมื่อไหร่ก็หากินในครัวเอา ที่นี่ต่างคนค่างกินเหมือนเมื่อครั้งที่หนูเคยมานั่นแหละ”“วรินทร์ทราบค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนเถอะ แม่เล็กก็เหนื่อยสอนบัญชีนายหญิงมาทั้งวัน อีกหน่อยเธอก็ต้องเป็นเจ้าของเกาะนี้ โชคดีจังที่หลานชายแม่เล็กเลือกเมียทั้งเก่งและน่ารัก”ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ตัวบ้าน แม่เล็กก็ไม่วายทิ้งระเบิดก้อนโตไว้ในใจ ของหญิงสาวผู้ที่ตั้งใจจะมาทวงคนรักคืนวรินทร์เธอหอบความเจ็บช้ำและอายมาที่นี่ เพื่อมาทวงคนรักของเธอคืน หลังจากที่เธอเป็นคนยินยอมให้ว่านน้ำแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่เขาขอเอแต่งงาน เพราะเธอคิดว่า ชายหนุ่มลูกเศรษฐีที่เธอแอบคบอยู่ สามารถให้ความสุข เงินทองและหน้าตาทางสังคมได้มากกว่าคนรักอย่างว่านน้ำ ที่อาจจะเหลือแค่ตัวถ้าไม่ทำตามที่บิดาต้องการแต่สิ่งที่เธอคิดมันผิดไปไหมด หลังจากที่ลูกชายเศรษฐีเชยชมเธอ จนหายอยาก เขาก็ค่อยถอยห่างจากเธอไปเรื่อยๆ ครอบครัวของเขาไม่ยอมรับเธอเป็นสะใภ้ ด้วยฐานะหน้าตาในสังคมที่ต่างกันมาวรินทร์เธอเป็นแค่เพียงลูกสาวของชาวบ้านทั่วไป ฐานะปานกลาง แต่ด้วยความขยันทะเยอทะยานของเธอ เธอจึงสอบได้เรียนต่อในมหาวิท
Chapter 35การมาของถ่านไฟเก่า“คุณโส นายหัว นายหญิง กลับมาแล้ว ” เสียงชาวบ้านที่กำลังทำงานกันอยู่ที่ท่าเรือตะโกนบอกกัน หลายคนก็กำลังรอฟังข่าวญาติของตัวเอง ที่บาดเจ็บจากการปะทะกันบนเกาะ “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง คนเจ็บทุกคนปลอดภัย อีกสัปดาห์เราจะไปรับทุกคนกลับบ้าน แต่ตอนนี้ยังต้องให้นอนดูอาการไปก่อน เพราะกลับมาที่เกาะถาเกิดติดเชื้อขึ้นมาจะลำบาก” ป้าโสแจ้งข่าวกับทุกคน “ไข่มุกของฝากจ้า และนี่ของพ่อกับของแม่ ไข่มุกเอาไปให้พ่อกับแม่เร็ว” นอกจากจะซื้อของเล่นให้กับไข่มุกแล้ว นายหญิงยังซื้อเสื้อผ้าและของใช้มาฝากยี่หวาและสามี เด็กๆทุกคนในเกาะ ก็ได้เครื่องเขียนน่ารักกันถ้วนหน้า “สงสัยนายหัวที่นี่จะตกกระป๋อง ใครๆก็พากันรักนายหยิงกันหมด อีกหน่อยป้าโสกับแม่เล็กก็คงจะยิ่งรักนายหญิงมากกว่าหลานคนนี้แน่ๆ” ว่านน้ำกอดอกทำท่าน้อยใจ “อุ๊ยคนแก่ขี้งอน” ไข่มุกตะโกนล้อเลียนนายหัวอย่างไร้เดียงสา จนยี่หวาต้องดุให้สาวน้อยเลิกล้อเจ้านาย มาถึงเกาะยังไม่ทันเท่าไหร่ ท้องฟ้าก็มืดครึ้มอีกแล้ว ชาวบ้านแยกย้ายกันกลับไปดูแลบ้าน ป้าโสเองก็เพลียเต็มที่อยากจะกลับบ้านไปพัก
Chapter 34มรสุมจากไปท้องฟ้าสดใส“เดี๋ยวพรุ่งนี้ พี่พาไปฝั่ง เราไปเดินเที่ยว หาซื้อของ ไปเยี่ยมคนเจ็บ และนอนบนฝั่งกันสักคืน” ว่านน้ำอยากพิมพกานต์ไปเปลี่ยนบรรยากาศจะได้ลืมเรื่องร้ายเมื่อคืน “ซื้อของเล่นมาฝากไข่มุกด้วยนะ” เด็กน้อยข้างทวงของรางวัลที่นายหญิงเคยสัญญา “ได้เลยจ้า เดี๋ยวซื้อสมุด ดินสอ รักๆ มาฝากด้วย” นายหญิงส่งนิ้วก้อยเกี่ยวแทนคำสัญญา ยิ่งชายหนุ่มเห็นพิมพกานต์กับไข่มุก เขายิ่งยากมีลูกไวๆ แต่เรื่องแบบนี้คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่เขาก็ตั้งใจ ว่าจะพยายามทุกคืน ตัวเขาเองก็ยังอยุน้อย พิมพกานต์เองก็แค่เกือบยี่สิบ ร่างกายยังหนุ่มยังสาว ไม่นานเขาต้องสมหวังแน่ๆ “เมื่อไหร่จะหายเมาเรือก็ไม่รู้” หญิงสาวบ่นตัวเอง เมื่อเธอกินยาเพื่อให้หลับจนเรือมาถึงฝั่ง “เมาแล้วไม่มีทางเลิกเมาแน่ๆ” ว่านน้ำยิ้มให้คนหน้ามุ่ยเพราะอยากจะอ้วก ทั้งสองคนมาถึงฝั่งช่วงสายของวัน พิมพกานต์มีข้าวของที่อยากซื้อมากมาย เพราะเธอตั้งใจกลับไปคราวนี้ เธอจะไปเป็นครูสอนหนังสือให้กับเด็กบนเกาะ เธอจึงให้ว่านน้ำพาไปที่ร้านหนังสือเป็นที่แรก