“ในเมื่อหนีไม่ได้ เราก็ควรจะกินเยอะ ๆ จะได้มีแรง”
ใจเอยใจที่เริ่มจะทำสัญญาสงบศึกกับมันได้แล้ว กลับมีเรื่องอุตริพุ่งเข้ามาอีกจนได้ ถ้าหากเธอมีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ละ กลิ่นที่ชวนเบือนหน้าหนี อาหารที่เธอไม่เคยคิดถึง
“สะตอ ปลาร้า ทุเรียน อะไรก็ได้ ขอให้มีสักอย่างนึง” เธอค้นทุกซอกทุกมุมในห้องครัว แล้วก็ต้องผิดหวัง “…ให้ตายเหอะ ไม่มีอะไรสักอย่างเลย ทำไมนะอรดี ทำไมเธอถึงได้กระแดะมีแต่อาหารฝรั่งกับผลไม้เพื่อสุขภาพชุมนุมกันอยู่เต็มตู้เย็นแบบนี้ ฉันเกลียดเธอ ฉันเกลียดเธอจริงๆเลย”
นางเอกสาวเจ้าน้ำตาถึงกับน้ำตาไหลพรากโดยไม่ต้องบีบเค้นเหมือนตอนเล่นละคร เพราะคราวนี้มันเค้นมาจากความรู้สึกจริง ปากสีชมพูงับขนมปังทาแยมส้ม เคี้ยวคำโตจนดันกระพุ้งแก้มป่อง บ่น…บ่นจนสองหูของตัวเองเริ่มจะรำคาญ ก่อนกลืนมันไปพร้อมกับก้อนสะอื้น แล้วเอื้อมมือไปดึงกระดาษชำระมาเช็ดปากอย่างโศกาอาดูร
“ริมฝีปากอิ่มได้รูปของฉัน มันควรเป็นของเจ้าบ่าวของฉัน จะต้องมาก้มหน้ารับกรรมที่ผีพนันในร่างพ่อได้ก่อเอาไว้ มันไปสนุกร่วมกับพ่อด้วยตอนไหน”
เธอขยำกระดาษชำระเป็นก้อนกลมแล้วก็ขว้างทิ้งลงถังขยะมุมครัว เชิดหน้าคอตั้ง แล้วเดินตรงไปยังประตูบานใหญ่
“นี่คงเป็นเช้าที่ฝันร้ายที่สุดในชีวิต”
จมูกรั้นยอดแดงระเรื่อสูดลมหายใจก่อนจะผลักประตูห้อง…อีกไม่กี่เก้าเดิน เธอก็จะถึงแดนประหารแล้ว เพิ่งเข้าใจนักโทษประหารก็เดี๋ยวนี้เอง ตายก็อยาก หนีก็อยาก หายใจติดขัด กระอักกระอวลจนอยากจะอาเจียนอวัยวะในช่องท้องออกมาเสียทั้งหมด ขนมปังสองแผ่นที่เพิ่งยัดผ่านคอหอยไปยังไม่ทันจะลงไปถึงกระเพาะ พาลจะพรวดทะลุปากออกมาแล้ว
อรดีเดินก้มหน้าพาความหดหู่สิ้นหวังไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องเจ้าหนี้ กำแพงที่แบ่งกั้นระหว่างโลกมนุษย์กับนรกเอาไว้ เธอจะทำยังไงดี วินาทีนี้ ทำได้แค่ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ ช่วยลูกช้างด้วย ๆ เธอจะโชคดีเหมือนนางเอกในละครไหม ที่อยู่ๆก็เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือมีเทพบุตรขี่ม้าขาวมาช่วยได้ทันเวลา
“คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ พระท่านย่อมคุ้มครอง”
มือสั่นเทาที่ง้างขึ้นจะเคาะประตู ลอยอยู่กลางอากาศเป็นนาน ขณะตัดใจเหวี่ยง พลันประตูก็ถูกเปิดออก ลมวูบใหญ่ตีหน้าเธอจนจังงัง ชายหนุ่มหลบมือกลมที่ขว้างตัวไปข้างหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจนั้นพัลวัน
“คิดจะทำร้ายกันเหรอ” คนผมยุ่งเป็นกระเซิงทำท่าผยองยโส ถลึงตาดุร้ายเข้าใส่เธอทันที ทำราวกับรู้ว่าเธอคิดจะฆ่าอยู่ทุกลมหายใจ “ดีนะที่ผมฉลาดมาก รู้เท่าทันความคิดของคน ไม่อย่างนั้นเป็นได้มีเรื่องกับผู้หญิงตั้งแต่เช้าแน่ ร้ายกาจจริงๆเลยแม่นางเอก”
เขาเพิ่งตื่นแน่นอน ใส่แต่กางเกงขายาวตัวเดียว ตามเนื้อตัวยังแต้มรอยต่าง ๆ เป็นปื้นแดง ๆ กลิ่นหอมอ่อนจางโชยมาเข้าจมูก เธอรับรสนั้นได้ทันที กลิ่นหอมเหมือนสบู่เด็ก ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะมีเด็กอยู่ในห้องนี้
“เฒ่าทารก” เธอแสร้งพูดกับตัวเอง เจ้าพ่อภาคินทำหน้าเกินจะทนเพราะอย่างไรเสียก็อับอายนิดๆ
“คุณมีสิทธิ์มาวิจารณ์ผมตั้งแต่เมื่อไหร่” นิ้วชี้ของเขาวางนิ่งอยู่กลางหน้าผากมน ก่อนสะกิดเบา ๆ “หัดเจียมเนื้อเจียมตัวซะบ้างนะว่าอยู่ในฐานะอะไร รู้จักคำว่าเกรงใจไหม”
ลูกหนี้สาวทำหน้าเหมือนกำลังเหม็นสาบอะไรสักอย่าง
“เป็นแค่เจ้าหนี้ ไม่ได้เป็นพ่อฉันซะหน่อย ทำไมฉันจะต้องเกรงใจด้วย”
“ปากเธอนี่มัน” เธอเผยอปากทำโย้เย้ไม่เกรงกลัว จนเขาหรี่มองตาเชื่อมถึงได้หุบ กลับมาเก็บริมฝีปากเม้มแน่น ใจเธอเต้นใหญ่ เมื่อพบว่าแววตาของเจ้าหนุ่มตัวร้ายไม่ธรรมดา แก้มของเธอแดงแจ๋จนเหมือนลูกตำลึงสุก เธอถอยหลังหนึ่งเก้าเพื่อกันตัวออกห่าง เขาส่งเสียงประหลาดในคอ แล้วก็ทำหน้าหยัน ๆ
“จะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ปากคุณไม่ได้น่าจูบอะไรเลย ให้ตายเหอะ คุณอย่าคิดว่าผมยอมให้จ่ายดอกเบี้ยแบบนี้เพราะผมคลั่งไคล้ริมฝีปากดารานะ ผมก็แค่อยากจะทำให้ปากของคุณมันรู้จักโทษของการพูดจาไม่เข้าหูคนบ้างก็เท่านั้นเอง…เชิญ” เขาดันประตูออกกว้าง แล้วผายมือเชิญผู้หญิงหน้าซีด
“ทำไมฉันจะต้องเข้าไปในห้องของปิศาจด้วย” ใช่..มันไม่ใช่เรื่อง…ที่ลูกแมวตัวน้อยจะต้องเข้าไปในถ้ำเสือ เขาถอนหายใจดังพรึด
“หรือเราจะยืนจูบกันดูดดื่มที่หน้าห้องดี…ก็ได้นะ…ผมน่ะไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียงเหมือนอย่างใครเขาหรอก จะทำอะไรประเจิดประเจ้อมันก็ไม่เห็นจะต้องไปแคร์ใครเลยสักนิด”
ถูก ที่เขาพูดมันถูกทุกอย่าง อรดีแทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความรู้สึกสุดกลั้น มันไม่เหมือนความรู้สึกแบบที่เด็กวัยรุ่นคลั่งไคล้นักร้องดารา แต่เป็นความรู้สึกเคียดแค้นชิงชังน้ำหน้าไอ้หนุ่มจนอยากจะฆ่าให้ตายกับมือตัวเอง เธอจำใจและจำเป็นต้องมุดตัวผ่านเข้าไปในดินแดนอสูร เสียงหัวเราะเล็กๆแหลมๆอย่างที่เธอเคยได้ยินมาหลายครั้ง กรีดบาดหูเธอจนเลือดไหลซิก ๆ
ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั
“ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน
“ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ
“แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด
“รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว