กรงรักในมือซาตาน
ตอนที่ 16
(ไม่ไว้ใจ)
"อัมกาส" น้ำเสียงเข้มเอ่ยเรียกคนสนิทที่นั่งร่วมรถ เพื่อไปยังโรงพยาบาลเฝ้าไข้ฟาติน
"ครับ" อัมกาสตอบรับเสียงเรียบ
"เราพลาดกับเมย่าเมื่อคืน เราอยากให้นายจับตาดูเธอดี ๆ แล้วก็ให้คนติดตามดูแลเธอทุกฝีก้าว ให้มาดีนะห์ดูแลเธอก็ได้"
อานัสออกคำสั่งฝากฝัง เมื่อสมองยั้งคิดสั่งการ จริตหญิงที่เขาสัมผัสได้ในตัวเธอ แม้จะเชยชมอยู่บ่อยครั้งก็ไม่คิดไว้วางใจ
"ครับ...กระผมจะจัดการตามที่ท่านสั่ง"
อัมกาสตอบรับคำสั่งทันที แล้วจัดการต่อสายไปยังคฤหาสน์ถ่ายทอดคำสั่งตามที่นายเหนือหัวต้องการ
...คนตัวสูงที่ใจจดจ่อรออีกคนให้ฟื้นคืนสติ สายตาจ้องมองใบหน้าที่ซีดเซียว นอนหลับตานิ่ง เขาค่อย ๆ นั่งลงข้างเตียง จับมือข้างที่ไร้พันธนาการจากเครื่องมือแพทย์ไว้ในอุ้งมือใหญ่อย่างแผ่วเบา เพราะกลัวเธอนั้นจะกระทบกระเทือนบาดเจ็บ
"เมื่อไหร่จะฟื้น"
เสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ย สายตาจ้องมองใบหน้าหญิงสาวด้วยแววตาที่สั่นไหว
"ลืมตาตื่นมาคุยกับฉันสักนิด แค่มองหน้ากันก็ยังดี"
อานัสยังคงพร่ำต่อ จับมือหญิงสาวแนบชิดแก้มสากที่ทีไรหนวดเขียวครึ้ม
...คนที่นอนป่วยไร้สติครองตน ทำเพียงนิ่งเฉยไม่ไหวติงใด ๆ เครื่องมือช่วยหายใจส่งสัญญาณปกติ บ่งบอกว่าเธอนั้นยังมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้
"อยากให้เธอฟื้นขึ้นมา แม้จะด่าทอกันก็จะไม่ว่า ขอแค่นี้เถอะนะฟาติน"
อานัสที่เศร้าสร้อยยิ่งได้มองหน้าของเธอก็ยิ่งเสียใจ การกระทำมากมายที่ทำลงไปไม่ได้คิดจะปลิดชีวิตเธอแม้แต่น้อย ก้นบึ้งของหัวใจมันฝังรากลึกว่าเป็นเธอ แต่เพียงเพราะเหตุการณ์ในอดีตที่ทำลายหัวใจสั่งการให้ซาตานในตัวเขาผุดขึ้นมา จนกลายมาเป็นทำร้ายเธอจนเจียนตาย เหยียบย่ำหัวใจของเธอแทบแหลกสลาย ทำลายศักดิ์ศรีที่เธอมีจนย่อยยับ
"ไม่คิดจะทำร้ายเธอให้บาดเจ็บถึงเพียงนี้" อานัสยังคงจับมือเรียวแนบชิดแก้มสาก พูดพร่ำออกมาอย่างคนเสียใจและเศร้าหมอง นั่งหลับตาพริ้มถูไถแก้มกับมือเรียวที่ไม่ไหวติงใด ๆ ปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบแก้ม น้ำตาที่ทั้งชีวิตไม่คิดจะรินไหลให้หญิงใดนอกจากพี่สาวและแม่บังเกิดเกล้าเท่านั้น
"ขะ ขอ ทะ โทษ" เสียงพูดแผ่วเบาปานสายลมเอื้อนเอ่ยในลำคอ บางเบาจนแทบไม่ได้ยิน น้ำตาที่รินไหลหยดกระทบกับมือเรียวด้วยความไม่ตั้งใจ เมื่อเขาไม่ไหวแล้วที่จะรอ เขาแนบชิดมือเรียวนั้นอยู่นานไม่ปล่อยมือเรียวนั้นออกห่างจากกาย
...ความรู้สึกบางอย่างสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่แผ่วเบา แม้จะเพียงเสี้ยววินาทีแต่ก็ทำให้เขารู้สึกได้จนต้องลืมตาจ้องมองสังเกต ชายร่างสูงเบิกตากว้างเพ่งพิศจ้องมองตามร่างกายเล็กบอบบางที่นอนนิ่งบนเตียง ปรายสายตาไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ยังไม่คิดปล่อยมือเธอให้ห่างตัว
สายตาคมดุเล็งเห็นมือของเธอที่ถูกเขาจับกุม นิ้วมือที่มีปฏิกิริยาขยับเล็กน้อย มันกระตุกเบา ๆ อยู่บนฝ่ามือของเขา สิ่งที่เห็นทำให้คนเศร้ามีความหวัง จนเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"อัมกาส!! อัมกาส!!" เสียงเรียกตะเบ็งขานดังลั่นอย่างเผลอลืมตัว เรียกคนสนิทด้วยความดีใจ
"ครับท่าน" อัมกาสที่ได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นนาย เขารีบเปิดประตูเข้ามาด้วยความร้อนรน
"ฟาตินขยับนิ้ว อัมกาสตามหมอที" อานัสพูดออกมาด้วยอาการลนลาน ปากขยับพูดกับคนสนิทแต่มือก็ยังไม่ปล่อยมือฟาตินไปไหน เขายังคงจับมั่นไม่ห่างกายด้วยความดีใจว่าเธอนั้นกำลังจะลืมตาตื่นแล้วพูดคุยกับเขา
"ครับ..." อัมกาสรีบตอบรับ วิ่งออกจากห้องไปตามคำสั่งการด้วยความรีบร้อน
คนที่อยู่ในห้องพักฟื้นจับมั่นมือหญิงสาวแนบอก เผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขาเฝ้ารอเธอมานานหลายวันร่วมสัปดาห์ จบจนเวลานี้ที่เริ่มมีความหวังเมื่อร่างกายของเธอนั้นขยับไหวติงให้ใจชื้นขึ้นมาแม้ดวงตาจะยังไม่ลืมมองก็ตามที แค่นี้ก็ทำให้หัวใจของซาตานร้ายอย่างเขาพองโตขึ้นมาได้
กาลเวลาผ่านพ้นไป ความรักมั่นไม่เคยเสื่อมคลาย บัดนี้รานีแห่ง เชคฮ อานัส ตั้งครรภ์บุตรชายที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เพียงแค่รอให้กำเนิดทายาท มันทำให้คนที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงถึงกับศิโรราบ"เป็นอย่างไรบ้าง" ถามไถ่ภริยาที่มีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก ทั้งที่ท้องแก่เจียนใกล้คลอด อาเจียนจนใบหน้าเหลืองซีด เชคฮ อานัส ค่อย ๆ ประคองภริยาให้เอนหลังพิงกับหัวเตียง จับยาหอมจ่อจมูกให้นางได้สูดดม"เหนื่อยค่ะ" จากน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนึกสงสารคนรักเป็นอย่างมาก หากเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นแทนเสียเอง"ลูกคนนี้คงจะดื้อรั้นน่าดู ขนาดอยู่ในท้องยังทำแม่หอบเหนื่อยขนาดนี้""เหมือนท่านไงคะ" ฟาตินนางแย้งทันที แม้จะมีสีหน้าอ่อนแรง ทว่าปากของนางนั้นยังสามารถตอบโต้ได้อย่างลืมเหนื่อย"โธ่ ฟาตินที่รักตอนนี้ผัวน่ารักแล้วนะ" กลายเป็นคนขี้อ้อนเอาดื้อ ๆ ตั้งแต่รู้ว่ากำลังจะมีทายาท ราชกิจที่เคยจัดการ ก็รีบสะสางเพื่อมาคอยดูแลรานีอันเป็นที่รัก"น่ารักอะไรกัน ก่อนหน้านี้ท่านยังชวน เชคฮ บราฮิม ไปฮาเร็มแบบนี้น่ารักตรงไหนคะ นึกแล้วโมโห!" ฟาตินที่จำไม่ลืม เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง นึกแล้วก็อยากจะทึ้งหัวสวามีให้ผมหลุด ทั้งที่นางตั้งครร
พิเศษ : รักที่สุดแม้ความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศก็ไม่สามารถยับยั้งไฟสวาทของคนทั้งสองได้ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามเนื้อผิวหน้าและผิวกายของคนทั้งสอง เมื่อความเร่าร้อนของรสสวาทนั้นมีมากล้นเกินบรรยาย ความโหยหายิ่งสร้างแรงกระสันให้แก่พวกเขา เธอพร้อมรองรับทุกแรงขับเคลื่อนตามที่เขานั้นปรารถนาตับ ตับ ตับ เอวหนาสวนเด้งกระแทกเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ความเร็วและถี่ในการควบเอวยิ่งทำให้ร่างกายของหญิงสาวนั้นแทบแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และทุกครั้งที่เขาถาโถมเอวสอบยิ่งทำให้ความกระสันในกายนั้นแทบมอดไหม้เป็นจุนดุจไฟเผา“อี๊ อึก อร๊าย”"เสียวที่สุด...อ่า...แม่งแตกเร็วจังวะ""ไม่ไหวแล้ว อะ ๆ...จะแตก"อ่า / ซี๊ด และแล้วทุกอย่างก็จบลง บทรักที่ร้อนแรงของคนทั้งสองความรู้สึกอุ่นวาบในช่องท้อง เมื่อชายหนุ่มนั้นปลดปล่อยตัวตนพร้อมกับบรรดาน้ำรักที่พุ่งฉีดอัดในมดลูกของเธอเต็ม ๆ“แฮ่ก ๆ ๆ”แรงหายใจหอบเหนื่อยของหญิงสาวที่นอนราบนิ่ง ดวงตาสวยจ้องมองชายหนุ่มด้วยรัก การสัมผัสที่ลึกซึ้งของคนทั้งสองยิ่งก่อความรักให้ทวีเพิ่มพูนกว่าเดิม“ฟาตินจ๋า”“อะไรคะ”เขาที่จ้องมองหน้าเธอที่อิดโรย เอ่ยเสียงหวานขึ้น พร้อมกับสายตาที่เดาได้ไม่ยาก
พิเศษ : รักไปแล้ว "ท่านอานัส!! อย่ามาแสร้งนะคะ มาอธิบายเดี๋ยวนี้เลย!""โอ๊ะ ๆ ๆ เจ็บ ๆ นี่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายผัวเลยเหรอ....กล้าเกินไปแล้วที่รัก"เธอทุบตีลงอกของเขาเร็วถี่อย่างเจ็บใจ พูดพร่ำออกไปอย่างเหลืออด พร้อมกับม่านน้ำตาที่เอ่อคลอ และเริ่มรินไหลเป็นสายไม่หยุดหย่อนเขาไม่ต้องพูดมาก เธอก็พอจะเดาเรื่องราวออกแล้วว่ามันคืออะไร แค่อยากจะฟังมันให้ชัดเจนก็เท่านั้น ว่าสิ่งที่เธอคิดมันคือความจริงที่เขาเสแสร้งแกล้งเธอ"ท่านมันคนเจ้าเล่ห์ คนหลอกลวง มาเล่นกับความรู้สึกกันแบบนี้ได้ยังไง ทำไมถึงได้ใจร้ายไม่จบไม่สิ้น อึก อึก ทำไมใจร้ายแบบนี้ ฮือ~~~รู้ไหมว่าเป็นห่วงแค่ไหน เจ็บหัวใจจะตายอยู่แล้วรู้บ้างไหม ฮึก อึก ฮือ~~"เธอยังคงทุบตีเขาเรื่อยไป พูดพร่ำพรรณนาทั้งน้ำตา จนเขาต้องรีบกอดเธอไว้แน่นอย่างห้ามปราม ไม่อย่างนั้นเธอคงทุบเขาไม่หยุด"รักเราไหม""ไม่รักจะมาทนดูแล มาอยู่แบบนี้ทำไม...ท่านมันใจร้าย คนผีทะเล ฮือ~~ไม่ต้องมากอด! ปล่อยฟาตินเดี๋ยวนี้! ปล่อยเลย!"เธอพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา แต่ว่ายิ่งดิ้นเท่าไหร่เขานั้นกลับยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม"จะปล่อยเมียตัวเองไปได้ยังไงกันล่ะ กว่าจะม
พิเศษ : ไม่เคยลืม“เมื่อไหร่จะจำฟาตินได้นะ รอนานแล้วนะคะรู้ไหม?”เธอพูดพร่ำพร้อมกับถูไถแก้มกับมือของเขา จ้องมองใบหน้าคมคายภายใต้แสงจันทร์ ที่สาดส่องเข้ามาในห้องสายตาของเธอไม่ละห่างจากใบหน้าของเขา ยามหลับใหลที่เขาดูไม่มีพิษภัย เธอจ้องมองอยู่นานนับชั่วโมงก่อนจะฟุบหน้าลงกับเตียงข้างเขา และเผลอหลับไปทั้งที่ยังกุมมือเขาไม่ห่างกายอาการหนักตรงแขน ทำให้คนที่นอนหลับ ที่กำลังพยายามพลิกตัวตะแคงหนีฝัน เริ่มรู้สึกตัวตื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าสวย ที่นอนทับมือเขาไว้ จ้องมองด้วยความพยายามว่าเธอนั้นใช่คนที่รักจริงหรือเปล่าและนี่ก็ผ่านมาแล้วหลายเดือน และเริ่มมีภาพใบหน้าของเธอผู้นี้อยู่ในฝันแทบทุกคืน แม้กระทั่งคืนนี้ก็เช่นกัน นับชั่วโมงที่เขามองเธออยู่แบบนั้น และแล้วภาพเธอก็ลอยเข้ามาให้ห้วงความทรงจำ รอยยิ้มและการกระทำไม่นานเริ่มผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ภาพเดิม ๆ วนเวียนซ้ำ ๆ จนเขานั้นเริ่มมั่นใจแล้วว่าต้องใช่เธอแน่นอน“ฟาติน”เขาเอ่ยเรียกชื่อของเธอแผ่วเบา รอยยิ้มของเขาเฉิดฉายบนใบหน้า มือหนาอีกข้างที่ว่างเว้น ลูบหัวของเธอเบา ๆ ความรู้สึกเก่า ๆ เริ่มคืบคลานเข้ามา“คิดถึงจัง”เขาพลิกตัวตะแคงมาทางเธอ นอ
พิเศษ : น่าเบื่อ“ลืมฟาตินจริง ๆ ใช่ไหม?”“นายหญิงคะ?”“ซาดียะห์ออกไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว”“แต่ว่า....”“ขอร้อง”เมื่อต่อความกันไม่จบสิ้น คำพูดที่เป็นการอ้อนวอน แม้ซาดียะห์จะห่วงใย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก จำต้องเดินจากมาด้วยความห่วงใย ปล่อยให้ผู้เป็นนายได้อยู่ลำพัง ตามที่เธอนั้นต้องการ“อึก ฮึก”เมื่อรู้ว่าหญิงรับใช้ได้ออกจากห้องไป ฟาตินก็เริ่มปล่อยธารน้ำตาให้รินไหล มองไปยังคนตัวโตที่ตอนนี้เดินห่างออกไป เขาคงกำลังจะกลับเข้ามาในตัวบ้าน เพราะดวงตะวันนั้นลับขอบฟ้าไปเสียแล้วทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เขาไม่มีทีท่าจะจดจำเธอได้สักนิด จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนสามเดือนแล้ว เธอต้องคอยเข้าหาเขาด้วยความเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจ ยิ่งตอนเขาขับไล่ผลักไสปฏิเสธ ยิ่งบีบหัวใจเธอไม่น้อย แต่เธอก็พยายามเข้าใจว่าเขานั้นยังไม่หายดี หวังว่าต้องมีสักวัน เขาจะต้องจดจำเธอได้เป็นแน่การดูแลที่เหมือนเดิม จนเขานั้นคงชังขี้หน้าเธอเข้าไส้ แต่จะทำอย่างไรได้ เธอต้องอาศัยความหน้าทน เพื่อนปรนนิบัติใกล้ชิดเขา เพื่อเฝ้ารอวันหนึ่งวันใด เขาจะต้องจดจำเธอได้แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเธอนั้นความทรงจำ แต่เธอจะทำให้เขามีเธอในห้วงความคิดเสียใ
พิเศษ : ลืมสองเท้าก้าวเดินออกจากห้องไป มุ่งตรงสู่ห้องส่วนตัวที่ถูกเตรียมไว้ให้ ซึ่งมีเครื่องใช้และเสื้อผ้าเพียบพร้อม เธอจัดการชำระร่างกายตามสมควร ใช้เวลาไม่นานมากก็เดินกลับหาคนป่วยดังเดิม“นายหญิงคะ นายหญิง”ขณะเดินท้าวไปตามทางเดิน เพื่อไปยังห้องของคนป่วย ระหว่างก็เห็นหญิงรับใช้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา“มีอะไรเหรอซาดียะห์”“นายท่านค่ะ นายท่าน”“ท่านอานัสเป็นอะไร”“นายหญิงรีบไปดูด้วยตาตัวเองเถอะค่ะ”สีหน้าที่เห็นและการบอกเล่าที่ยังจับใจความไม่ได้ ทำให้ฟาตินนั้นเริ่มใจไม่ดี เธอย้อนถามด้วยความพะวงใจ กลัวว่าคนที่นอนป่วยจะอาการทรุด แม้จะบอกว่าเขาเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม“ท่านอานัส”เมื่อเปิดประตูเข้ามา สิ่งที่เห็นทำให้เธอนั้นขอบตาร้อนผ่าว เขาที่เคยนอนหลับตานิ่ง ตอนนี้ไหวติงกะพริบตาแล้วมองมาที่เธอ“ซาดียะห์ บอกอัมกาสด้วยนะว่าท่านอานัสฟื้นแล้ว และให้ตามหมอมาดูอาการด่วนเลย”“ค่ะนายหญิง”ฟาตินออกคำสั่งด้วยความดีใจ เธอรีบปรี่เข้าไปหา แล้วยืนเคียงข้างกายเขา พร้อมกับหยาดน้ำตาแห่งความดีใจ ที่รินไหลอาบสองข้างแก้มเนียนใส“เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”เธอเอ่ยถามเขาด้วยความดีใจ สายตากวาดมองตามร่างกา