บทที่ 67
“ให้ตาย...ไม่สบายจนได้สิ” ลูคัสบ่นกับตัวเอง ก่อนจะรั้งผ้าห่มนวมขึ้นห่มให้หญิงสาว ชายหนุ่มเดินมาที่ประตู ลากโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่นาตาเซียเอามากั้นเขาเป็นแน่กลับไปวางที่เดิม เปิดประตูแล้วก้าวลงไปชั้นล่างก็เห็นน้ำอ้อยยืนมองอยู่
“พยาบาลของป้าไม่สบาย” “ตายจริง คงติดหวัดจากป้าแน่ๆ เดี๋ยวป้าขอขึ้นไปดูนาตาเซียหน่อย” คนฟังยกมือทาบอก “ผมดูแลเอง ป้าช่วยหายากับทำข้าวต้มแล้วยกขึ้นไปให้ผมด้วยแล้วกัน” พูดจบลูคัสก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำแข็งในช่องฟรีซใส่ลงถ้วยแก้วใบใหญ่ จากนั้นก็เทน้ำเปล่าลงไปอีกครั้ง ท่าทางรีบร้อนแต่ก็คล่องแคล่ว “รีบหน่อยนะป้า” ก่อนจะกลับขึ้นไปชั้นบน ลูคัสยังหันมาย้ำกับน้ำอ้อยอีกครั้ง แล้วเดินกลับขึ้นไป“ค่ะ” น้ำอ้อยเอ่ยรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วปลีกตัวไปทำตามที่ลูคัสบอก สงสัยคราวนี้จะได้รู้ใจตัวเองเป็นแน่ว่าคิดยังไงกับนาตาเซีย หวังเหลือเกินว่าคนทั้งคู่จะเกิดมาเพื่อกันและกันเมื่อเข้ามาในห้องนอนของนาตาเซีย ลูคัสก็เดินเข้าไปใ
บทที่ 69ขณะที่นาตาเซียกำลังป่วย อดีตนายทหารของบรูไน คนที่แมทธิวจ้างวานให้ตามหาที่อยู่ของลูกสาวก็กำลังได้ข้อมูลสำคัญ แต่กว่าจะได้มันมาก็ต้องใช้ความพยายามและเสียเงินไปมากอยู่ เพราะเป็นข้อมูลของทางสนามบินเลยก็ว่าได้ แต่ถือว่านี่คืองานที่ได้ข่าวค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่อาชญากรร้ายแรงอย่างที่เคยสืบๆ มา ที่แต่ละข่าวกว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็นแต่อดีตนายทหารคนนี้ยังไม่โทรกลับไปบอกคนว่าจ้างจนกว่าจะได้เห็นนาตาเซียกับตาตัวเองเสียก่อน เพราะแค่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา ยังต้องสืบต่ออีกมากว่าบ้านของชายหนุ่มที่ชื่อ ลูคัส นิรัตน์ศยางค์กูล บาร์ตัน ที่เมืองดัมมัม ประเทศซาอุดีอาระเบียตั้งอยู่ที่ไหน เฝ้าภาวนาให้หาไม่ยาก เพราะงานนี้จะได้จบด้วยดี คิดได้แบบนั้น อดีตนายทหารจึงเดินทางจากเมืองไทยไปยังเป้าหมายทันทีช่างแตกต่างกับภีรดล ที่ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวของนาตาเซียแม้แต่น้อย เพราะนักสืบที่บอกว่าฝีมือตนดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำงานไม่ได้เรื่อง คงดีแต่พูดไปวันๆ“อะไรของพวงมึง ป่านนี้ยังหาตัวนาตาเซียไม่พบอีก” ชายหนุ่มที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะถูกรุมซ้อมตว
บทที่ 68ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้อง คว้าผ้าห่มของตัวเองขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนนาตาเซียแล้วห่มผ้าห่มนวมให้เธออีกชั้น จากนั้นก็ไปนั่งข้างๆ เธอ หยิบยาอีกชุดที่น้ำอ้อยจัดมาให้ส่งเข้าปากตามด้วยน้ำ เพราะเขาไม่อยากติดหวัดจากยายจอมดื้อเหมือนกันลูคัสคอยหมั่นเปลี่ยนผ้าที่หน้าผากให้พร้อมทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัวจุดที่พอจะเช็ดได้ ไม่ละลาบละล้วงเข้าไปจุดใต้เสื้อผ้าแต่อย่างใด แม้ภายในห้องจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อไหลเต็มตัว แต่ชายหนุ่มก็ไม่บ่นสักคำ เพราะไม่อยากเปิดแอร์ให้ตัวเองสบายแต่นาตาเซียแย่ ทั้งที่จะกลับไปห้องแล้วให้น้ำอ้อยมาดูแลต่อก็ได้ แต่ลูคัสกลับไม่ทำแบบนั้น“ผมคิดยังไงกับน้องสาวคุณกันแน่” ขณะมองหน้านาตาเซีย ลูคัสก็เอ่ยกับตัวเองก่อนจะนึกถึงนาเดียร์ พี่สาวของนาตาเซีย คนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะช่วยชีวิตผู้ชายอย่างเขา ครั้งแรกที่ได้พบนาตาเซีย เขาปรี่เข้าไปกอดและจูบเธอ เพราะคิดว่าคือนาเดียร์ แต่พอได้รู้จักตัวตนทั้งคู่แทบไม่เหมือนกันด้วยซ้ำ คนพี่นั้นห้าว แต่ภายในที่เขาสัมผัสกลับอ่อนหวานเรียบร้อย ส่วนคนน้อง ภายนอกดูเรียบร
บทที่ 67“ให้ตาย...ไม่สบายจนได้สิ” ลูคัสบ่นกับตัวเอง ก่อนจะรั้งผ้าห่มนวมขึ้นห่มให้หญิงสาว ชายหนุ่มเดินมาที่ประตู ลากโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่นาตาเซียเอามากั้นเขาเป็นแน่กลับไปวางที่เดิม เปิดประตูแล้วก้าวลงไปชั้นล่างก็เห็นน้ำอ้อยยืนมองอยู่“พยาบาลของป้าไม่สบาย”“ตายจริง คงติดหวัดจากป้าแน่ๆ เดี๋ยวป้าขอขึ้นไปดูนาตาเซียหน่อย” คนฟังยกมือทาบอก“ผมดูแลเอง ป้าช่วยหายากับทำข้าวต้มแล้วยกขึ้นไปให้ผมด้วยแล้วกัน” พูดจบลูคัสก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำแข็งในช่องฟรีซใส่ลงถ้วยแก้วใบใหญ่ จากนั้นก็เทน้ำเปล่าลงไปอีกครั้ง ท่าทางรีบร้อนแต่ก็คล่องแคล่ว“รีบหน่อยนะป้า” ก่อนจะกลับขึ้นไปชั้นบน ลูคัสยังหันมาย้ำกับน้ำอ้อยอีกครั้ง แล้วเดินกลับขึ้นไป“ค่ะ” น้ำอ้อยเอ่ยรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วปลีกตัวไปทำตามที่ลูคัสบอก สงสัยคราวนี้จะได้รู้ใจตัวเองเป็นแน่ว่าคิดยังไงกับนาตาเซีย หวังเหลือเกินว่าคนทั้งคู่จะเกิดมาเพื่อกันและกันเมื่อเข้ามาในห้องนอนของนาตาเซีย ลูคัสก็เดินเข้าไปใ
บทที่ 66หลังจากเคลียร์งานที่ต่างเมืองเสร็จเรียบร้อย ลูคัสก็เลือกกลับเข้าบ้านก่อนในตอนเช้าตรู่ คิดว่าเที่ยงๆ ค่อยออกไปที่บริษัท เมื่อชายหนุ่มมาถึงบ้านก็เจอกับน้ำอ้อย อาการไม่สบายคงทุเลาลงมามากแล้วจึงออกมาเดินเหินได้แบบนี้ แต่ยังไงเขาก็อยากให้แม่บ้านพักผ่อนอีกหน่อย“ตื่นมาทำอะไรแต่เช้า”“ทำกับข้าวค่ะ” คนเป็นแม่บ้านหันมาตอบ ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าลูคัสจะกลับมาเช้ามืดแบบนี้“แล้วนี่หายหรือยัง ฝืนไปเดี๋ยวก็ทรุดลงไปอีก”“ป้านอนมาตั้งสองสามวันแล้วนะคะ เบื่อจะแย่” น้ำอ้อยยิ้มให้ลูคัส เพราะอยู่ๆ เธอก็ไม่สบายซะได้ เรื่องการเจ็บป่วยนี่เดาไม่ถูกเลยจริงๆ“ผู้ช่วยล่ะ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง?” ลูคัสมองเข้าไปในบ้าน เลยขึ้นไปข้างบนเพื่อหานาตาเซีย“ให้พักสักวัน อยู่ดูแลป้าแทบไม่ได้ขยับไปไหน”“ดีขนาดนั้นเชียว ผมนึกว่าจะอู้” ชายหนุ่มปรามาส แต่ก็รู้ว่านาตาเซียทำอะไรบ้าง เพราะเขาโทรศัพท์กลับมาที่บ้านออกจะบ่อย“น่ารักดี ที
บทที่ 65อาการของน้ำอ้อยดีขึ้นตามลำดับหลังจากนอนซมมาสองสามวัน เพราะได้พยาบาลพิเศษอย่างนาตาเซียคอยดูแลไม่ห่าง ไข้เริ่มลดจนตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้แล้ว แต่นาตาเซียยังไม่ยอมให้ออกไปนั่งตากลมนอกห้องเพราะกลัวไข้กลับมาอีก ใบหน้าที่ซีดเซียวของน้ำอ้อยก็ดูมีเลือดไหลเวียนมากขึ้น ลูคัสเองก็โทรมาถามอาการน้ำอ้อยวันละสามสี่ครั้ง แต่แฝงกับการได้รู้ข่าวของนาตาเซียด้วยว่าเธอยังอยู่ที่บ้านเขา ไม่ได้หนีหายไปไหน “ขอบใจที่ดูแล” น้ำเสียงแหบๆ ของคนป่วยเอ่ยบอกนาตาเซีย ที่กำลังเป่าข้าวต้มในถ้วยเพื่อไล่ความร้อนให้เธอจนแก้มป่อง “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าหายดีแบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย” นาตาเซียหันมายิ้มตอบ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเป่าข้าวต้มให้หายร้อนอีกหน่อย จากนั้นก็ใช้ช้อนตักป้อนให้น้ำอ้อย“ป้ากินเองได้” “ให้นาตาเซียป้อนน่ะดีแล้ว นะจ๊ะป้า” คำแทนตัวเองของนาตาเซียดูเปลี่ยนไป น้ำอ้อยพยักหน้าให้กับคำพูดนี้ ก่อนจะอ้าปากรับข้าวต้มกุ้งเข้าไปในปาก “ฝีมือทำกับข้าวอร่อยขึ้นมากแล้วนี่” แม้จะมีกลิ่นคาวกุ้งนิดหน่อยในข้าวต้มถ้วยนี้ แต่น้ำอ้อยก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะนาตาเซียทำกับข้าวได้ดี ดีมากกว่าเมื่อสองสามวันก่อนด้วยซ้ำ เด็กสาว
บทที่ 64 “ผมไม่ได้มามือเปล่า ตอนนี้สามารถเลี้ยงดูละออได้เป็นอย่างดี ถ้าผมพูดไม่จริงให้เอาชีวิตผมไปได้เลย”“คุณอดัม” ละออมองหน้าอดัม ทำไมต้องเอาชีวิตมาพูดเล่นแบบนี้ด้วย “ผมเชื่อว่าคนอย่างคุณจะดูแลละออได้” แมทธิวพยักหน้าให้ แค่เห็นแววตาของอดัมที่มองละออก็แทบไม่ต้องพูดอะไรแล้ว“ครับ...จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะพาละออไปหาลูกชายของเราสองคน”“ลูกชาย” ดารียะห์งงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้“เรามีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ตอนนี้อายุย่างเข้ายี่สิบเก้าปีแล้ว” อดัมเอ่ยบอกสองคนตรงหน้าให้รับรู้ เพราะเขาไม่ได้จะปิดบังอยู่แล้ว “แต่ฉันยังมีห่วงอยู่ที่นี่” ละออค้าน แม้จะอยากไปหาลูคัส แต่ห่วงของเธอก็คือนาตาเซีย “อะไร...ผมพอจะช่วยได้หรือเปล่า?” แขกของบ้านเอ่ยอาสา “เรื่องนาตาเซียไม่ต้องเป็นห่วงไปละออ ไม่นานเราก็จะได้ข่าวดี...เชื่อสิ” แมทธิวเอ่ยให้ละออคลายกังวลเรื่องนี้ เพราะรู้ว่าละออนั้นรักนาตาเซียไม่แพ้พ่อและแม่แท้ๆ อย่างพวกเขา “เกิดอะไรขึ้นครับ พอจะบอกผมได้ไหม เผื่อจะช่วยเหลือได้” คำพูดของอดัม ทำให้ดารียะห์ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกขอบคุณที่คนเพิ่งจะรู้จักกัน แสดงออกถึงความห่วงใยต่อลูกสาวเธอมากมายขนาดนี้ “ลู