เพราะความดื้อรั้นที่มีจนมากล้นของเธอ ผู้เป็นพ่อจึงต้องหาคนที่เหนือกว่ามากำราบเธอ
View Moreบรืนน! บรืนน!
เสียงรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งมีหงส์ฟ้าหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานเป็นคนขับเคลื่อนตัวมาจอดลงยังคฤหาสน์หลังใหญ่โตโออาของหวงเฟยหงมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งเมืองฮ่องกง ก่อนร่างอรชรในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืดสวมทับด้วยเจ็กเก็ตยีนส์รวบผมสูงดูทะมัดทะแมงจะก้าวลงจากรถ "หวังว่าป๊ากับม๊าจะไม่อยู่นะ" เธอพึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมถอดถุงมือออกพาดหัวรถตามด้วยหมวกกันน็อคเป็นปราการถัดมา จากนั้นก็วางหมวกกันน็อคใบโตลงบนเบาะรถยกมือขึ้นลูบผมที่ยุ่งเหยิงจากการสวมหมวกให้เข้าทรงก่อนส่าวเท้าเดินย่อง ๆ เข้าไปในบ้านพลางกวาดสายตามองรอบ ๆ อย่างระแวดระวังหากมีพ่อกับแม่อยู่เธอจะได้หลบเลี่ยงทันเพราะท่านทั้งสองต้องบ่นยืดยาวไม่รู้จบแน่หากรู้ว่าเธอไปแข่งรถมา "ทางสะดวก" ใบหน้าสวยหวานกระอิ่มยิ้มได้ใจเมื่อไร้เงาของพ่อกับแม่อยู่ภายในคฤหาสน์ เท้าเล็กรีบสับขาเดินกึ่งวิ่งไปยังบันไดอย่างไม่รอช้าหมายจะวิ่งขึ้นห้องตัวเอง แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักเท้าที่กำลังย่างขึ้นบันไดอัตโนมัติเมื่อเสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อดังขึ้นจากด้านหลัง "ไปไหนมาหงส์ฟ้า" หวงเฟยหงยืนกอดอกมองบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนด้วยแววตาดุดันโดยมีพีชผู้เป็นภรรยายืนมองอยู่ข้าง ๆ "ซวยแล้วยัยหงส์" คนถูกถามพึมพำในลำคอยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ยืนทำใจนานนับนาทีก่อนหันกลับไปส่งยิ้มแหย่ ๆ ให้พ่อกับแม่ "นะ..." "ลูกไปแข่งรถมาอีกแล้วใช่ไหม" ไม่ทันที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะได้อ้าปากตอบพีชผู้เป็นแม่ก็พูดแทรกขึ้นอย่างรู้ทันดูจากการแต่งตัวก็รู้แล้วว่าบุตรสาวไปแข่งรถมาแน่ ๆ "ม๊าห้ามไม่ฟังเลยใช่ไหมหงส์ฟ้ามันอันตรายจะแข่งทำไม ลูกเป็นผู้หญิงนะหัดทำตัวให้เป็นกุลสตรีบ้างไม่ใช่แข่งรถ ยิงปืน เล่นฟันดาบเหมือนผู้ชาย" เธอเอ็ดบุตรสาวยกใหญ่เพราะเป็นห่วงกลัวบุตรสาวจะเกิดอุบัติเหตุจากการแข่งรถ ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกกับความหัวรั้นของบุตรสาวทั้งที่เธอกับผู้เป็นสามีห้ามปรามไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่บุตรสาวก็ไม่ฟังดื้อดึงไปจนได้หรือไม่ก็แอบไปตลอดไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงเหมือนกัน "ผู้หญิงกับผู้ชายก็เหมือนกันแหละม๊าาา ทำไมต้องแบ่งเพศด้วยจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักได้ไม่ต่างกันอย่าเอาเพศมาจำกัดขีดความสามารถของผู้หญิงสิคะ" หงส์ฟ้าหาได้ฟังคำพูดของผู้เป็นแม่ไม่กลับทำเป็นหูทวนลมยกเหตุผลมาคุยหวังให้ท่านเข้าใจ "ป๊าเห็นด้วยกับม๊าลูกเป็นผู้หญิงนะจะทำตัวเหมือนผู้ชายไม่ได้" ประมุขของบ้านแย้งขึ้นทันทีเมื่อบุตรสาวเอ่ยจบเขาเองก็เป็นห่วงบุตรสาวไม่แพ้กัน แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุใช้ไม้แข็งก็แล้วไม้อ่อนก็แล้วบุตรสาวก็ยังเอาแต่ใจดื้อดึงจนเขาก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้บุตรสาวมีความเป็นกุลสตรีทำอะไรเหมือนผู้หญิงคนอื่นบ้าง "ก็ป๊าสอนหนูเองนิคะว่าให้เข้มแข้งอย่าอ่อนแอ" สิ้นเสียงประมุขของบ้านหงส์ฟ้าก็พูดขึ้นทันทีตั้งแต่จำความได้ผู้เป็นพ่อก็พูดกรอกหูทุกวันว่าเป็นลูกมาเฟียต้องเข้มแข้งอย่าปล่อยให้ใครมารังแกได้ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็วิ่งเล่นแต่กับพี่ชายและพวกบอดี้การ์ดมาตลอดเพิ่งมีเพื่อนผู้หญิงก็ตอนเรียนมัธยมปลายแล้วไม่แปลกที่ทำให้เธอชอบทำอะไรเหมือนผู้ชาย "ใช่ป๊าสอนไม่ให้ลูกอ่อนแอ แต่ไม่ได้สอนให้ลูกทำตัวเหมือนผู้ชายลูกอย่าตีความหมายผิดสิ" ประมุขของบ้านถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หันมองหน้าภรรยาด้วยความหนักใจเมื่อได้ฟังข้ออ้างของบุตรสาว "หนูเหนื่อยขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะคะ" หงส์ฟ้าใช้โอกาสที่พ่อกับแม่มองหน้ากันขอปลีกตัวแล้วรีบวิ่งขึ้นบันใดไปด้วยความเร็วไม่รอให้ท่านทั้งสองพูดอะไรต่อ คนเป็นพ่อแม่ถึงกับถอนหายใจหนัก ๆ ออกมามองตามหลังบุตรสาวด้วยแววตาอ่อน ก่อนประมุขของบ้านจะพูดขึ้น "ผมคงต้องจัดการกับลูกขั้นเด็ดขาดแล้วละ" "เฮียจะจัดการยังไงคะ" พีชขมวดคิ้วถามผู้เป็นสามีด้วยความสงสัยเธอมองไม่เห็นเลยว่าจะมีวิธีไหนกำราบคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจอย่างบุตรสาวได้ขนาดเธอกับเขาเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ยังเอาไม่อยู่ "ในเมื่อเรากำราบไม่ได้ก็ส่งให้คนที่เหนือกว่าลูกเรากำราบแทนสิ" ประมุขของบ้านยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยเขาคิดวิธีนี้มาสักพักใหญ่แล้ว แต่อยากพูดคุยกับบุตรสาวก่อนเผื่อเธอจะยอมทำตามบ้างแต่ดูท่าคงจะเปล่าประโยชน์เขาคงต้องหยิบวิธีนี้มาใช้กับบุตรสาวจริง ๆหลายวันต่อมา.. "หงส์จะไปไหนอีกลูก" ร่างอรชรที่กำลังจะเดินผ่านห้องโถงไปหยุดชะงักเมื่อเสียงของมารดาดังขึ้น ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปหาท่าน "หนูนัดกับเพื่อนไว้ค่ะม๊า" "นั่งคุยกับม๊าก่อนสิ" พีชเอื้อมไปจับมือบุตรสาวแล้วดึงให้นั่งลงข้าง ๆ หงส์ฟ้ายอมนั่งลงอย่างว่าง่ายก่อนเปล่งเสียงถามด้วยความสงสัย "ม๊ามีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ" "ลูกเลิกทำอะไรที่มันเสี่ยง ๆ เป็นอันตรายกับตัวเองได้ไหม...ม๊าขอร้อง" พีชกอบกุมมือบุตรสาวไว้แน่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนเธออยากคุยกับบุตรสาวดูก่อนเผื่อบุตรสาวยอมทำตามจะได้ไม่ต้องส่งไปดัดนิสัยไกลถึงอิตาลี "หากหนูเป็นผู้ชายม๊ากับป๊าก็คงไม่ห้ามให้หนูทำอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ เมื่อไรม๊ากับป๊าจะเลิกคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะทำกิจกรรมเหมือนผู้ชายไม่ได้สักที" หงส์ฟ้ากึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อผู้เป็นแม่พูดจบ พ่อกับแม่พูดเรื่องนี้จนเธอจำได้ขึ้นใจแล้วบางครั้งก็อยากให้ทั้งสองเข้าใจบ้างไม่ใช่เอาแต่ห้ามเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง "ที่ม๊ากับป๊าคอยห้ามคอยบ่นก็เพราะเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะเกิดอันตรายนะ" "หนูรู้ค่ะว่าป๊ากับม๊าเป็นห่วงแต่เห็นไหมคะถึงหนูจะทำอะไรเสี่ยง ๆ หนูก็ยังไม่เป็นอะไรเลย จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เกิดอันตรายได้เหมือนกันค่ะถ้าใช้ชีวิตประมาท" "แต่ลูกเป็นผู้หญิงนะหัดทำอะไรเหมือนผู้หญิงบ้างต่อไปถ้ามีครอบครัวขึ้นมาจะทำยังไง" "มันคนละเรื่องกันนะคะม๊า อีกอย่างหนูคงไม่คิดมีครอบครัวเร็ว ๆ นี้แน่" "คำพูดของม๊าไม่มีความหมายเลยใช่ไหมลูกถึงไม่ฟัง" "ไม่ใช่ว่าหนูไม่ฟังนะคะแต่ม๊าก็ต้องเข้าใจหนูด้วยม๊าอย่าตัดสินทุกอย่างเพียงเพราะหนูเป็นผู้หญิงสิคะ" "แต่..." "ไม่ต้องพูดให้เสียเวลาหรอกคุณ" ระหว่างที่ทั้งสองแม่ลูกกำลังนั่งถกเถียงกันอยู่เสียงประมุขของบ้านก็ดังแทรกขึ้นก่อนที่พีชจะได้พูดอะไรต่อ พีชกับหงส์ฟ้าเงียบปากลงหันมองเจ้าของเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน "หากลูกมีความสามารถ เก่งเท่าเทียมผู้ชายจริงก็พิสูจน์ให้ป๊าเห็นสิ" ประมุขของบ้านเดินมานั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามภรรยากับบุตรสาวแล้วพูดขึ้นพร้อมปรายตามองหน้าภรรยาอย่างมีเลศนัย "ได้ค่ะป๊าบอกมาเลยจะให้หนูพิสูจน์ยังไง และถ้าหนูทำสำเร็จป๊ากับม๊าต้องเลิกห้ามทุกอย่างที่หนูจะทำตกลงไหมคะ" หงส์ฟ้ารีบตกปากรับคำอย่างขมักเขม้นไม่คิดเอะใจสักนิดว่าทำไมจู่ ๆ ผู้เป็นพ่อถึงยื่นข้อเสนอให้แบบนี้ "ได้สิ" ประมุขของบ้านยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนนั่งนิ่งเงียบนานนับนาทีทำเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง "ป๊าจะส่งลูกไปช่วยดูแลธุรกิจของป๊ากับเพื่อนที่ทำร่วมกันที่อิตาลี" หงส์ฟ้าขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเริ่มสงสัยขึ้นมาทันทีเมื่อจู่ ๆ ผู้เป็นพ่อก็จะส่งเธอให้ไปอยู่ไกลทั้งที่ก่อนหน้านี้กว่าเธอจะไปไหนไกล ๆ ได้สักทีต้องอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก "ทำไมจู่ ๆ ป๊าถึงให้หงส์ไปละคะทำไมไม่ให้เฮียมังกรไป" "เมียเฮียเขาใกล้คลอดแล้วให้เฮียอยู่ดูแลลูกเมียเถอะ ไหนบอกอย่าอยากพิสูจน์ตัวเองไงแค่นี้ก็เริ่มมีปัญหาแล้วเหรอ" "ไม่มีปัญหาค่ะหนูแค่แปลกใจ" "ไม่มีปัญหาก็ดี หากลูกสามารถดูแลบริหารงานภายในบริษัทให้เจริญรุ่งเรืองได้ป๊าจะถือว่าลูกทำสำเร็จ" "ป๊าคอยดูก็แล้วกัน" หงส์ฟ้ายกยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจหารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นแค่ข้ออ้างให้เธอยอมไปอิตาลีอย่างว่าง่ายเพราะมีคนที่จะกำราบเธอรออยู่ที่นั้นแล้ว คำตอบของบุตรสาวทำให้ประมุขของบ้านพึงพอใจเป็นอย่างมากเขายกยิ้มกับภรรยานิดหนึ่งแล้วพูดกับบุตรสาวต่อ "งั้นก็เตรียมตัวได้แล้วพรุ่งนี้ป๊าจะบินไปส่งด้วยตัวเอง" "ห๊ะ!" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความตกใจเมื่อสิ้นเสียงผู้เป็นพ่อไม่คิดว่าทุกอย่างจะกะทันหันแบบนี้ ดวงตากลมโตจับจ้องหน้าผู้เป็นพ่อด้วยความสงสัย "ทำไมมันกะทันหันแบบนี้คะป๊า" "ที่บริษัทต้องมีคนคอยดูแลจะชักช้าไม่ได้" "อ๋อ" ใบหน้าหวานพยักรับหงิก ๆ ถึงแม้แอบสงสัยอยู่บ้างเพราะเท่าที่รู้มาบริษัทก็มีบุตรชายของเพื่อนพ่อบริหารอยู่แล้วเธอเคยพบหน้าคราตาเขาอยู่ 2-3 ครั้งเมื่อตอนที่ผู้เป็นพ่อพาไปร่วมงานวันเกิดของพ่อเขา แต่เพื่ออิสระของตัวเองแลกกับที่พ่อแม่จะเลิกตีกรอบการใช้ชีวิตเธอจึงมองข้ามเรื่องที่่สงสัยไป "งั้นหนูขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคะ" เธอสลัดความสงสัยออกจากสมองบอกกล่าวกับพ่อแม่แล้วลุกเดินออกไปขึ้นรถบิ๊กไบค์คู่ใจขับออกจากคฤหาสน์ด้วยความเร็ววันเวลาหมุนเวียนดำเนินมาจนถึงวันที่มาเฟียหนุ่มกับหงส์ฟ้าแต่งงานกัน ตอนเช้าเป็นพิธีหมั้น พิธีแต่งงานแบบจีน และจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสตอนเย็นที่โรงแรมงานเลี้ยงเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตที่โรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองฮ่องกงสมกับฐานะของสองตระกูลมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ภายในงานถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยฝีมือของออแกไนซ์เซอร์และเวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังระดับประเทศซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจนงานเลี้ยงฉลองเสร็จสิ้นลง"อ่อยย!..เมื่อยขาจัง" หงส์ฟ้าในชุดแต่งงานสีขาวแบรนด์ดังสั่งตัดเย็บพิเศษราคาครึ่งล้านล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงร้องโอดครวญออกมาเบา ๆ หลังจากพ่อแม่ออกไปแล้วในห้องเหลือแค่เธอกับสามีป้ายแดง"หึ" มาเฟียหนุ่มที่กำลังถอดเสื้อสูทออกหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู ก่อนฟาดสูทไว้บนพนักเก้าอี้แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงยกขาเรียวขึ้นมาวางบนตักถลกกระโปรงชุดแต่งงานขึ้นไปกองบนขาอ่อนใช้มือบีบนวดไปตามเรียวขาสวยเบา ๆ เพื่อให้เมียสาวรู้สึกดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าหวานผงกขึ้นขอบคุณผู้เป็นสามีด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนวางศีรษะราบกับเตียงเหมือนเดิมแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ฝีมือนวดของสามีเธอ
หลายวันต่อมา.."สวัสดีครับป๊าม๊า" มาเฟียหนุ่มกล่าวทักทายว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างนบน้อมพร้อมหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามทั้งสอง สรรพนามที่เขาเรียกพ่อแม่ของหญิงสาวเปลี่ยนไปเพราะทั้งสองสั่งให้เขาเรียกเหมือนบุตรสาวโดยให้เหตุผลว่าอีกไม่นานเขาก็จะเข้ามาเป็นลูกเขยของตระกูลหวงเฟยหงแล้ว"จ้ะ" พีชยิ้มรับ ส่วนหวงเฟยหงเพียงพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ม๊าไปดูฤกษ์แต่งงานกับซินแสมาแล้วนะเร็วสุดคือเดือนหน้า""โอเคครับผมจะได้โทรบอกป๊ากับม๊า" มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุขวันที่เขารอคอยใกล้จะเป็นจริงแล้ว"แล้ววันนี้จะมารับน้องไปไหนล่ะ" หวงเฟยหงพยักหน้ารับพร้อมถามต่อ"ปะ..""ไปช้อบปิ้งค่ะ" ไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะได้ตอบอะไรเสียงของหงส์ฟ้าที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองก็ดังแทรกขึ้น มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมหันไปมองทางต้นเสียงด้วยแววตาตำหนิเพราะแฟนสาวพูดโกหกพ่อแม่ความจริงวันนี้เธอชวนเขาไปดูการแข่งรถต่างหาก"ผมกับน้องจะไปดูการแข่งรถครับ" เขาละสายตาจากแฟนสาวหันกลับมาบอกพ่อแม่ของเธอตามความจริงเพราะไม่อยากร่วมโกหกหากผู้ใหญ่ทั้งสองรู้ความจริงภายหลังคงไม่ไว้วางใจเขาแน่เผล
2 วันต่อมา..หงส์ฟ้านั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องด้วยแววตาเศร้า หลังจากกลับมาจากอิตาลีผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมให้เธอออกพ้นบริเวณคฤหาสน์เลยเพราะกลัวว่าเธอจะบินกลับอิตาลี แถมยังยึดโทรศัพท์ไปอีกเพื่อไม่ให้เธอติดต่อกับมาเฟียหนุ่มเวลาผ่านไปแค่สองวันแต่มันช่างแสนยาวนานสำหรับเธอ เธอรู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงมาเฟียหนุ่มมากไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง หรือถอดใจยอมแพ้เสียแล้วนี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วแต่ยังไม่เห็นเขาโผล่มาสักที"เฮ้อ" เธอถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก แล้วลุกเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างเพื่อหาอะไรกินเพราะรู้สึกหิว"กล้ามากนะที่มาเหยียบถึงที่นี่" ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงดุดันของผู้เป็นพ่อดังแว่วมาจากด้านนอก หันไปถามแม่บ้านที่กำลังเดินผ่านไปด้วยความสงสัย "ข้างนอกมีเรื่องอะไรกันเหรอคะ""ไม่รู้ใครมาค่ะเป็นผู้ชายชื่อริว ๆ อะไรนี่แหละค่ะกำลังทะเลาะกับคุณหวงเฟยหงอยู่น.." ไม่ทันที่แม่บ้านจะได้พูดจบหงส์ฟ้าก็รีบวิ่งออกไปทันทีพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนที่มาก็คงเป็นมาเฟียหนุ่มนั่นเองดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเดินออกมาเห็นภาพตรงหน้าที่ผู้เป็นพ่อยื
@คฤหาสน์คาร์เตอร์"พี่จะคุยเรื่องของเรากับป๊าจริงเหรอคะ หงส์ว่าอย่าเพิ่งเลย" หงส์ฟ้าหันไปเอ่ยกับมาเฟียหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลังจากรถจอดลงหน้าคฤหาสน์คาร์เตอร์เพราะเขาบอกว่าเมื่อกลับมาจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขาให้ผู้เป็นพ่อรับรู้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็พร้อมน้อมรับ เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะผิดหวังในตัวเธอและขัดขว้างไม่ให้แต่งงานกับมาเฟียหนุ่ม"ไม่ต้องกังวล..ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงฉันก็จะยอมรับและเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างให้ได้" มาเฟียหนุ่มยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวแล้วบีบเบา ๆ เชิงปลอบประโลมพร้อมกับโน้มหน้ากดจูบหนัก ๆ บนหน้าผากมนด้วยความรักใคร่ "ค่ะ" หงส์ฟ้าระบายยิ้มอ่อน ๆ มองสบตาหนุ่มคนรักด้วยแววตาลึกซึ้งแม้ในใจจะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในตัวคนรักว่าเขาจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดีทั้งสองมองสบตากันอย่างลึกซึ้งเนินนานหลายนาที ก่อนมาเฟียหนุ่มจะละสายตาออกเปิดประตูลงจากโดยมีหงส์ลงตามไปติด ๆ จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในคฤหาสน์หงส์ฟ้าลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ใจเต้นระรัวราวกับกล้องชุดเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ในห้องโถงกับพ่อของมาเฟียหนุ่มด้วย
วันต่อมา..แสงแดดยามแปดโมงเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบร่างเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวที่นอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ปลุกให้ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"อื้อ" หงส์ฟ้าส่งเสียงครวญครางในลำคอเบา ๆ เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกระบมกลางกายสาวเป็นอย่างมากเพราะหลังจากปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วคนเจ้าเล่ห์ก็รังแกเธอทั้งคืนไม่ยอมหยุดไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันทำเอาน้องสาวของเธอบวมช้ำไปหมด"อ๊ะ!" ร่างอรชรสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างสูงที่นอนซ้อนหลังเลื่อนมือที่พาดบนเอวคอดขึ้นมาบีบเคล้นเต้าอวบของเธออย่างแรง"หงส์เจ็บนะ" ใบหน้าหวานเอียวไปต่อว่าคนด้านหลังที่นอนอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีด้วยแววตาดุพลางแกะมือหนาออกจากเต้าอวบ ทว่าคนหน้ามึนหาได้สนใจเสียงดุไม่กลับฝังจมูกลงบนซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายหอม ๆ พร้อมบดเบียดความเป็นชายที่แข็งขืนกับบั้นท้ายกลมกลึงมือก็บีบเคล้นเต้าอวบไปด้วย"พี่เซริวหยุดนะ..เมื่อคืนพี่ก็รังแกหงส์จนไม่ได้นอนยังไม่พออีกเหรอ" เสียงหวานร้องท้วงด้วยความไม่พอใจเลื่อนมือลงไปดันสะโพกหนาที่กำลังบดเบียดก้นให้ออกห่าง"ก็เมียน่ากิน..กินยังไงก็ไม่อิ่มครับ" แรงเพียงน้อยไม่ได้
วันต่อมา.."เรือใครกัน" หงส์ฟ้าที่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าบนชิงช้าใต้ต้นไม้ริมชายหาดพึมพำอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเรือสปีดโบ๊ทแล่นตรงมายังชายหาดซึ่งไม่ใช่เรือของเพื่อนสาวที่เพิ่งออกไปเมื่อชั่วโมงก่อนแน่นอนเพราะเรือคนละสีกันดวงตาคมจับจ้องเรือที่ค่อย ๆ แล่นเข้ามาจอดริมชายหาดไม่วางตา ก่อนเธอจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนในเรือที่กำลังลุกขึ้นยืนใจดวงน้อยพานกระหน่ำเต้นไม่เป็นจังหวะ "พี่เซริว"เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นเดินกึ่งวิ่งไปที่บ้านด้วยความเร็วไม่อยากเห็นหน้ามาเฟียหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคือง ๆ เขาอยู่ที่รวมหัวกับผู้เป็นพ่อโกหกเธอแม้จะไม่ได้รู้สึกโกรธมากเหมือนวันแรกแล้วก็ตามหมับ! ทว่าเธอก้าวเท้าเดินได้สามสี่ก้าวเท่านั้นก็ถูกมาเฟียหนุ่มพุ่งมากอดจากด้านหลังไม่รู้ว่าเขามาถึงตัวเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน"จะหนีไปไหนอีก" มาเฟียหนุ่มกอดรัดร่างอรชรไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป ขณะที่คนถูกกอดพยายามออกแรงดีดดิ้นให้หลุดจากวงแขนแกร่งสุดแรงปากก็ร้องบอกด้วยความไม่พอใจ "ไม่ได้หนีแต่ไม่อยากเห็นหน้า""เกลียด" เธอเน้นคำว่าเกลียดเสียงดังลั่นยังคงออกแรงขัดขืนร่างสูงไม่เลิก "ปล่อยนะอย่ามายุ่งกับหง
Comments